วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

เต้าเจี้ยว

อวิชชา จะเป็นสายหรือไม่เป็นสาย แต่ว่า มันมีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์ไหม ?

แล้ว ถ้า อวิชชา ดับไปแล้วตามกระบวนการที่เต้าเจี้ยวว่า ขันธ์ 5 หายไป
เลยไหม หรือ มีอยู่ไม่ได้หายไปไหน ?

 

ตรงประโยคนี้ของเต้าเจี้ยว ทำให้เข้าใจว่า ต้องมีการดับอวิชชาหลายครั้ง

การที่มีหลายครั้ง ก็แปลว่ามีจำนวน แล้วในแต่ละครั้ง ก็เหมือนเป็นกลุ่มก้อน
ของอะไรสักอย่างหนึ่ง

ทีนี้ ในปจิฏสมุปบาท ที่พระท่านอธิบาย ท่านเปรียบกับสายโซ่ สายโซ่
ที่มีหลายอัน เรียกว่ามีหลายสาย หรือ หลายๆกลุ่ม หรือ หลายๆ.....คือ เต้าเจี้ยว
จะใช้ลักษณะนามอะไรแทนสิ่งที่เต้าเจี้ยวคิดว่าจะเรียกแทนอวิชชา ตามที่เต้าเจี้ยว
แย้งว่าไม่ใช่สาย แล้วจะให้อะไรดี เพราะพระท่านเทียบกับโซ่ที่ร้อยเป็นห่วง

 

จาก #927 และ 926

1.ถ้า นายขันธ์ของเต้าเจี้ยวกล่าวเรื่องอวิชชา เพื่อยกขึ้นแย้งเรื่องขนาดอวิชชาเท่าเมล็ดโพธิ
อันนี้คือ นายขันธ์ทำผิด ก็แปลว่า เต้าเจี้ยวต้องการยืนยันว่า อวิชชา มีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเปรียบเทียบเรื่องสายโซ่

2. แม้จะเปรียบเทียบเรื่องสายโซ่ ก็ไม่ควรกำหนดลักษณะนามลงไปให้กับอวิชชาเป็นคำว่า
สาย แล้วจะให้ลักษณะนามอะไรมาแทน ในเมื่อความนิยมนั้น เทียบอวิชชาเป็นกับสายโซ่อยู่
นี่ก็แปลว่า ถึงแม้จะอุปมาอุปไมย ก็ไม่ควรเรียกลักษณะนามในสิ่งที่เปรียบเทียบ คือ อย่า
ใช้ภาษาไทยไปในแบบภาษาไทย เพราะอวิชชา ไม่อาจเทียบได้กับสายโซ่

เต้าเจี้ยวต้องการเสนออะไรมาแทนถึงจะดี ?

 

คนอย่างเต้าเจี้ยวก็เหมือนกับ ขจรศักดิ์ ผมมีแต่เห็น ความถดถอยลงไปของบุคคล สองคนนี้ ก็ไม่มีอะไรจะแ้ก้ต่าง เพราะว่า ทุกคนเขาก็เห็นพฤติกรรม ของทั้งคู่แล้ว

ถ้ามีประเด็นธรรมกายเอา คำสอนที่บิดเบือนมาอีก ผมก็จะออกมาพูด

ส่วนนัยยะ ของสิ่งที่ผมพูด ขอให้ผู้อ่านตรองให้ดี เพราะจะเห็นปัจจุบันธรรม ที่เกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างแท้จริง

 

ลองอ่านให้ครบนะ กรุณาอ่านให้ดี
ที่คุณเขียนน่ะ ดูจะเป็นความเข้าใจของอาจารย์คุณมากกว่า

ส่วนของดิฉันก็ตามเดิมล่ะนะ


อ้างอิงคุณขันธ์...
ถ้าเช่นนั้นแล้ว อวิชชา ดับไปแล้ว เราก็บรรลุธรรมนะสิ
ตอบว่า อวิชชา มีหลายสาย แล้วแต่ว่าเรากำลังหลงและเกิดทุกข์ในเรื่องใด นั้นแหละ สายอวิชชาของสายนั้นเกิดขึ้น
ไม่ได้หมายความว่า ดับเส้นหนึ่งแล้วจะดับไปทั้งหมด


อ้างอิงเต้าเจี้ยว..
อวิชชา ก็คืออวิชชา ไม่ใช่ความไม่รู้ แต่เป็นการรู้ที่ไม่ถูก พร้อมจะเกิดทันทีที่คิดว่ารู้ในสิ่งที่ไม่รู้ เมื่อคิดไม่ถูกการปรุงแต่งย่อมสร้างกระบวนของปฏิจจฯ ปฏิจจฯ นี่ หากดับ(ประหาร)อวิชชา ได้เพียงครั้งก็ข้ามโคตรปุถุชน เข้าสู่อริยบุคคล

เรียกว่าเห็นนามดับ


ถ้าจะเอาสายอวิชชาอย่างอาจารย์คุณก็ไปคุยกันเอง

เพราะสายอวิชชาที่คุณกับอาจารย์คุณคิดว่าต้องดับแต่ละสายลงนั้น คุณจะให้มันมีกี่หลายสายล่ะ มันเคยจบลงหรือ หรือยังกลับมาได้ตลอดเวลา แค่สงบไป หรือขาดไป หรือกลับมาปรุงแต่งได้ตลอด คุณตามดับอวิชชากี่สายฤา ดับจริงฤา หรือกิเลสเดิมๆ นั่นเองที่เกิดขึ้นมาอีก

อวิชชาดับไม่ได้ ห่วงโซ่ปฏิจจฯ หรือสายปฏิจจฯ หรือวงจรแห่งภพชาตินั่นแหละจะไม่สามารถจบได้เลย
ความรู้จริงเกิดเมื่อไหร่ การปรุงแต่งในทางอวิชชาก็ลดลงตามสังโยชน์นั่นแล




;k07

 

<TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD align=left width="92%">ขอเชิญสาธุชนร่วมบุญวันอาสาฬหบูชา ๑๗ กรกฎาคม กำหนดการ <TABLE><COLGROUP><COL width=80><COL width=321><TBODY><TR vAlign=top><TD>๙.๓๐ น.</TD><TD>สาธุชนพร้อมกัน ณ ศาลาสมเด็จพระพุฒาจารย์</TD></TR><TR vAlign=top><TD>๑๐.๐๐ น.</TD><TD>พิธีแจกทุนการศึกษา</TD></TR><TR vAlign=top><TD>๑๐.๓๐ น. </TD><TD>พิธีทอดผ้าป่า และถวายภาพเขียน รูปเหมือนเจ้าประคุณ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โดย คณะของ รศ.จุฑารัตน์ วิทยา</TD></TR><TR vAlign=top><TD>๑๑.๐๐ น. </TD><TD>ภัตตาหารเพล</TD></TR><TR vAlign=top><TD>๑๓.๐๙ น.</TD><TD>พิธีเททองหล่อรูปเหมือนหลวงปู่สด ๒ องค์</TD></TR><TR vAlign=top><TD>๑๔.๐๐ น.</TD><TD>เวียนเทียนเนื่องในวันอาสาฬหบูชา</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="1%" background=images/br.gif></TD></TR><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" background=images/bbottom.gif></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3 height=5></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- block -->
<!-- block entry--><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" bgColor=#f7f7f7></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="1%" background=images/bl.gif></TD><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="8%"></TD><TD align=left width="92%">ประกาศ วัดหลวงพ่อสดฯ ไม่มีนโยบายในการส่งข้อความ SMS เพื่อชักชวนให้ทำบุญใดๆ
อ่านประกาศ
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="1%" background=images/br.gif></TD></TR><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" background=images/bbottom.gif></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3 height=5></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- block -->
<!-- block entry--><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" bgColor=#f7f7f7></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="1%" background=images/bl.gif></TD><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="8%"></TD><TD align=left width="92%">ขอเชิญรับฟังการถ่ายทอดสด เสียงกิจกรรมบุญ ทุกวันอาทิตย์์ ผ่านทางสถานีธรรมะออนไลน์ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม

• รายการ Dhamma Talk
  วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ ๑ เวลา ๘.๐๐ น.
• รายการ ธรรมะบรรยายและธรรมะปฏิบัติ
  วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ ๒ เวลา ๙.๐๐ น.
• รายการ ปาฐกถาธรรม
  วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ ๓ (เดือนเว้นเดือน)
• รายการ ธรรมะบรรยายและธรรมะปฏิบัติ
  วันอาทิตย์ สัปดาห์ที่ ๔ เวลา ๙.๐๐ น.

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="1%" background=images/br.gif></TD></TR><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" background=images/bbottom.gif></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3 height=5></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- block -->
<!-- block entry--><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" bgColor=#f7f7f7></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="1%" background=images/bl.gif></TD><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="8%"></TD><TD align=left width="92%">นิมนต์พระภิกษุ-สามเณร
เข้าร่วมการอบรมพระวิปัสสนาจารย์
ระหว่างวันที่ ๑ - ๑๔ กรกฎาคม ประจำปี ๒๕๕๑
วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เล็งเห็นความสำคัญของวิปัสสนาธุระ จึงได้ร่วมกันจัดโครงการอบรมหลักสูตรพระวิปัสสนาจารย์ เพื่อสนับสนุนและส่งเสริมให้ภิกษุบริษัท ได้ศึกษาปฏิบัติธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เป็นประโยชน์ทางการปฏิบัติส่วนตัว และเป็นที่ศรัทธานำพาพุทธบริษัทประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง [โครงการ]
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width="1%" background=images/br.gif></TD></TR><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" background=images/bbottom.gif></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="100%" colSpan=3 height=5></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- block -->
<!-- block entry--><TABLE style="BORDER-COLLAPSE: collapse" cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD width="1%"></TD><TD width="96%" bgColor=#f7f7f7></TD><TD width="1%"></TD></TR><TR><TD width="1%" background=images/bl.gif></TD><TD vAlign=top width="96%" bgColor=#f7f7f7><TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD width="8%"></TD><TD align=left width="92%">เว็บบอร์ด วัดหลวงพ่อสดฯ เปิดให้บริการแล้ว
ขอเชิญทุกท่านร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในชุมชนออนไลน์วัดหลวงพ่อสดฯ สามารถสมัคร-ลงทะเบียนได้ โดยเลือก เว็บบอร์ด เพื่อเข้าใช้
หรือคลิกที่นี่ www.dhammakaya.org/forum/
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อ้างอิง บุคคลทั่วไป สาม

0- เต้าเจี้ยว
อวิชชา จะเป็นสายหรือไม่เป็นสาย แต่ว่า มันมีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์ไหม ?
แล้ว ถ้า อวิชชา ดับไปแล้วตามกระบวนการที่เต้าเจี้ยวว่า ขันธ์ 5 หายไป
เลยไหม หรือ มีอยู่ไม่ได้หายไปไหน ?

1.ถ้า นายขันธ์ของเต้าเจี้ยวกล่าวเรื่องอวิชชา เพื่อยกขึ้นแย้งเรื่องขนาดอวิชชาเท่าเมล็ดโพธิอันนี้คือ นายขันธ์ทำผิด ก็แปลว่า เต้าเจี้ยวต้องการยืนยันว่า อวิชชา มีขนาดเท่าเมล็ดโพธิไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเปรียบเทียบเรื่องสายโซ่

2. แม้จะเปรียบเทียบเรื่องสายโซ่ ก็ไม่ควรกำหนดลักษณะนามลงไปให้กับอวิชชาเป็นคำว่า
สาย แล้วจะให้ลักษณะนามอะไรมาแทน ในเมื่อความนิยมนั้น เทียบอวิชชาเป็นกับสายโซ่อยู่นี่ก็แปลว่า ถึงแม้จะอุปมาอุปไมย ก็ไม่ควรเรียกลักษณะนามในสิ่งที่เปรียบเทียบ คือ อย่าใช้ภาษาไทยไปในแบบภาษาไทย เพราะอวิชชา ไม่อาจเทียบได้กับสายโซ่

เต้าเจี้ยวต้องการเสนออะไรมาแทนถึงจะดี ?

....

ตอบ

0 - ข้าพเจ้าย่อมไม่แย้งกับพระอริยะผู้ทรงอภิญญาในตอนนี้ และก็คงขอพิสูจน์ต่อก่อนจะสาดโคลนใคร ส่วนอวิชชาดับไปตามกำลัง (สังโยชน์ 10 ) ขนาดพระอรหันต์ ขันธ์ห้าย่อมขาดเหตุปัจจัยจะมีอีก

1 - ข้าพเจ้าไม่ได้แย้งเรื่องอวิชชามีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์กับคุณขันธ์ คุณมีทักษะในการอ่านดีพอไหม คุณเอกวีร์

2 - คุณอยากจะบอกสายหรือบอกอะไรก็ดี แต่เป็นสายของปฏิจจฯ ที่เกิดขึ้นอย่างไม่รู้จบเป็นเหตุมาจากอวิชชา และไม่ใช่อวิชชาเกิดขึ้นแล้วดับไปอย่างนั้น ตราบที่ทำให้วิชชาเกิดขึ้นไม่ได้ ย่อมเป็นเหตุให้วงจรปฏิจจฯ เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน ..



แล้วทำไมคุณไปคิดว่าอวิชชาเป็นสาย
อย่างไร ลองอธิบายมา.. เพื่อความเข้าใจจะได้ตรงกัน


.

 

ขออภัย

ทดสอบ2

 

ขออภัย3

ทดสอบ3

 

ข้าพเจ้าเห็นแต่ตัวเองเข้าไปรู้อะไรมากขึ้นด้วยการเปิดใจกว้าง เพราะไม่เห็นว่าครูบาอาจารยฺแต่ละสายที่ผ่านการปฏิบัติจริง จะมากล่าวอะไรลอยๆ
ส่วนใครของจริงไม่จริงนั้น ข้าพเจ้าคิดว่าตัวเอง มีวิจารณญาณพอ


;20

 

เพราะว่ามีหนังสือหลายเล่ม แม้แต่พระไตรปิฏกเปรียบเทียบปจิฏสมุปบาทเป็นดัง
ส่ายโซ่ ดังนั้น ภาพที่ให้ได้คือ แต่ละองค์ประกอบจะเป็นข้อของโซ่ แต่เนื่องจาก
สิ่งเหล่านี้ไม่ได้อยู่อย่างเอกเทศน์เด็ดขาด มันย่อมเกิดพร้อมกัน ต่อกันเป็นสาย
ดังนั้น จึงเข้าใจสอดคล้องกับคำว่า เป็นสาย ( แล้วแต่เหตปัจจัย ) ถ้าเป็นของ
มหายายจะเป็นรูปผังทรงกลมแบ่งเป็นพายสลิก มีจักรวาลล้อมรอบอีกที และใน
แต่ละกรอบจะมีเหตุปัจจัยแสดงกำกับ

ที่เต้าเจี้ยวอธิบายก็เข้าใจ ว่ามันไม่ได้มีสภาพเป็นสาย แต่มันเหมือนครอบคลุม
เราอยู่ เมื่อแหวกออก หรือ ทำลาย หรือ ดับ ก็จะหลุดออกไปสู่อีกฝาก ก็สอด
คล้องกับคำว่า ข้าม - โคตร ( จริงสำนวนนี้ ผมกับนายขันธ์ของเต้าเจี้ยวก็ใช้
อธิบายบ่อยๆ และบ่อยกว่าคำว่า สาย , กล่าวขึ้นเพื่อให้ระลึกถึง ไม่ใช่เพื่อการ
แก้กันเอง และเพื่อบอกเต้าเจี้ยวว่า เราเข้าใจในสิ่งที่เธอพูด )

มันเป็นสองสำนวนที่มีปรากฏเสมอๆในหนังสือธรรมะบรรยายทั่วไป แต่ทว่าทั้งสอง
นั้นขัดแย้งหักล้างกันหรือเปล่า ก็เปล่า ไม่ได้กล่าวขึ้นเพื่อขัดแย้งอะไร เพราะเป็น
การอุปมาอุปไมยเท่านั้น ไม่ใช่ข้อเท็จจริง

แต่ทีนี้ นายขันธ์ของเต้าเจี้ยว ยกเรื่องนี้มาเพื่อ โต้แย้งเรื่องการมีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์

ซึ่งก็บอกตามตรงว่า ไม่เคยได้ยินในสำนวนทั่วไปมาก่อน แล้วก็ดูเหมือนเหมาะสมแล้ว
ที่จะยกสำนวนอื่นมาคู่ไว้ เพื่อแย้งเรื่องอวิชชามีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์ ก็เพื่อให้ได้มี
หลายๆ ทัศนะ

แต่เต้าเจี้ยวเข้ามาเพื่อแย้งสำนวนของนายขันธ์ ผมก็เลยสงสัยว่า แย้งเพราะต้องการแย้ง
สำนวนของนายขันธ์ หรือแย้งการกระทำของนายขันธ์ที่เจตนาแย้งเรื่องเมล็ดโพธิ์อยู่

เปรียบเหมือนคนๆหนึ่ง เพียงคนเดียวกำลังอุ้มถุงทรายที่หนักไปโยนอุดที่เขื่อนที่เขาเห็น
ว่ามันพร่อง แล้วเต้าเจี้ยวมาเห็นเข้า ก็เจตนาเข้าไปห้ามไม่ให้ทำอย่างนั้น ( เท่ากับสนับ
สนุนเรื่องอวิชชามีขนาดเท่าเมล็ดโพธิ์ )

หรือเพียงแต่ ยกอีกสำนวน หนึ่งเพื่อมาช่วยกันอุด

 

1 อ่านใหม่นะ ดิฉันพูดถึงสายอวิชชาของอาจารย์คุณน่ะ
อย่ากล่าวร้ายใคร ถ้าคุณคิดฟุ้งของคุณไปถึงไหน จากการเข้าใจไปเอง
ก็อย่ารีบ จงอ่านช้าๆ
หลายครั้งแล้วนะ ที่คุณป้ายอะไรใส่ใคร ด้วยความฟุ้งของตัวเอง

2 ก็ลองดูที่ BoLd เพื่อจะตอบไว้ซิ ปรุงสำเร็จเหรอ ..

;20

 

ดี แปล่าว่า มาแย้งธรรม เพื่อเสนอ สำนวนธรรมให้อ่านไว้อีกสำนวน

ก็เท่ากับมา เพิ่มสำนวน ให้ผู้อ่านได้มีโอกาสพิจารณาว่า

อวิชชา มีสัณฐาน มีรูป และมีขนาดวัดได้ เท่าเมล็ดโพธิ์

หรือ

อวิชชา เป็นเพียงส่วนในสายปจิฏสมุปบาท ซึ่งมีหลายสาย ตามเหตุปัจจัยที่มี
ตามอนุสัย สังโยชน์ กิเลส

หรือ

อวิชชา ไมได้เป็นสาย แต่เป็นเรื่องของคนที่มีจิตตกอยู่ในความหลง หรือในกิเลสสาม
( เป็นเรื่องของนาม ที่ไม่ใช่รูป จึงไม่มีขนาด ไม่มีสาย )

* * * * *

ดีครับ มาสามัคคีกัน ช่วยกันรักษาสำนวนธรรมไว้ ใครได้ยินมาอย่างไร
ก็แสดงไว้ เพื่อให้ผู้อ่านได้ไตร่ตรอง

 

:VO;17จายเยนเยน ^^ ไม่ได้เป็นอย่างที่คิดคะเน และภาพที่วาดไว้ในใจหรอก


เดี๋ยวว่างๆจากงานหนักหมอง ที่มันท่วมหัวตอนนี้ ได้คุยยาวหน่อยครับผม


<!-- / message --><!-- attachments -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>
</FIELDSET>

 

อ้างอิงบุคคล สาม

หรือ

อวิชชา เป็นเพียงส่วนในสายปจิฏสมุปบาท ซึ่งมีหลายสาย ตามเหตุปัจจัยที่มี
ตามอนุสัย สังโยชน์ กิเลส

..

ตามแก้ให้กันจนได้นะ เหอๆๆๆ


ก็ดี ดูไปคล้ายสรุปได้ดี นะ เหอๆๆ

.

 

ประเด็นคืออะไร ให้เต้าเจี้ยวยกมาอีกครั้ง แล้วผมจะพูดให้ฟัง

 

งั้นก็แปลว่า ผมเข้าใจผิด

คุณเต้าเจี้ยวไม่ได้มีประสงค์จะยกธรรมมาให้พิจารณาเปรียบเทียบ

ไม่ได้เสนอธรรมเพื่อแย้งเรื่อง อวิชชา มีขนาดเท่าเมล็ดโพธ์

แต่ยกธรรมมาเพื่อแย้งข้อธรรมที่นายขันธ์ของเต้าเจี้ยวเป็นผู้ยก

เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่เนื้อหาสาระธรรมเป็นหลัก

แต่อยู่ที่ตัวบุคคล

ยกธรรมขึ้นมาเพื่อประกอบกิจแย้งบุคคลเป็นรายคนเท่านั้น

ถ้าอะไรแบบนี้ ผมเข้าใจอยู่แล้ว

แหม ...ก็คิดว่าจะมาช่วยกันรักษาธรรม

 

ผมอ่านมายังไม่เข้าใจ เลยว่า เต้าเจี้ยวแย้งอะไร และที่ว่าตามแก้ ท่านเอกวีร์ตามแก้อะไร ผมก็เห็นว่า ท่านเอกวีร์ก็พูดตามธรรม

เต้าเจี้ยวสรุปมาเป็นข้อ ให้ชัดเลยว่า ที่เห็นขัดกับผมนั้นเห็นขัดอะไร

 

ปรุงสำเร็จไปหรือ หรือว่าคิดว่าคนอื่นคิดอย่างคุณ ?
ขยันป้ายสีดีนะ เจตนาใคร คนนั้นย่อมรู้ตัวดี

.

 

อ้าว ถ้างั้นผมก็เข้าใจผิดอีก คุณไม่ได้มาตามแย้งเป็นรายบุคคล

แต่มาเพื่อเสนอธรรมให้เปรียบเทียบ

เอายังไงแน่ละครับ