วิชชา ธรรมกาย ไม่ได้มาจาก วัดพระธรรมกาย

ผมบอกว่าคนตอบมันแถ
ก็คุณ upanya เค้าว่าไม่อาจเข้าใจได้ด้วยเหตุผล
คิดว่าเค้าจะตอบ 3 คำถามนั้นอีกหรือ

 

อะไรที่เป็นธรรม ก็ยกสิ่งนั้นมา อย่ามายกเรื่องที่ไปคิดแทนคนอื่น

 

ครับท่าน...

 

นี่ ความคิดไปไกลเกินสติ ด้วยกรรม ด้วยวิบาก ด้วยความพลั้งเผลอ และจริตเดิม
มันบังคับให้ ทำอะไรไปตามนิสัย สันดานเดิม โดยไม่ได้ทบทวน ถึงผลร้ายผลดี
นี่แหละ จำเอาไว้ นี่แค่เรื่องเล็กนะ

 

มันไม่ต่างกับ ขจร ที่พูดจาเรื่อยเปื่อยหรอก มันเหมือนกันไม่มีผิด
คือ นึกขึ้นแล้วพูด แล้วลองพิจารณาดูว่า ถ้าคนเรานึกได้แต่เรื่องไม่ดี นึกได้แต่สิ่งที่เคยทำ แต่สิ่งนั้นไม่ดี มันก็นึกได้แต่เรื่องนั้น ทำไปแต่เรื่องเคยๆ

แล้วมันจะไปใช้ปัญญาอะไรได้

 

คุณไร้กรรม คุณจะเข้ามาหาพวกทำไม ในเมื่ออย่างไรเสีย ผมก็ไม่ได้ชมว่าคุณดี
คุณเอาไปทบทวน ดีกว่า อย่ามาเป็น บ่างช่างยุ ข้าสองเจ้าบ่าวสองนาย เหยียบเรือสองแคมแถวนี้

 

แต่ก็ดีขึ้นเยอะนะ สำหรับ คุณ ขจร แต่ช่วยเตือนผมด้วยว่า ผมจะไม่ใช้วาจาหยาบคายกับ ขจร เพราะลั่นวาจาไปแล้ว

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>วิมุตติ, ไร้กรรม, ขันธ์</TD></TR></TBODY></TABLE>เรื่องนี้ผมยอมรับ
การเล่นกระทู้ เน้นเอาสนุกเกินไปหน่อย
ขาดความรอบคอบในการพิจารณาถึงผลกระทบ
แต่ถ้าจริงจังทุกย่างก้าว มันจะดูเครียดๆ เกร็งๆ ไปหน่อยหรือเปล่าครับ
ถ้าอย่างนั้น เวลาเข้ากระทู้ ก็ต้องเน้นศึกษาธรรมและให้ธรรมอย่างตั้งใจ
ก็คงชิวๆ ไม่ได้อีกต่อไป ใช่หรือไม่ครับท่านขันธ์

 

แสดงว่า คุณเล่น แล้ว ไม่ได้ดูว่ามันกระทบ ความไหลของธรรม
คุณไปเล่น ตรงที่ควรเล่นสิ หรือ ว่าเล่นแล้วมันไม่ไปกระทบ การแสดงธรรม การถกธรรม

 

ที่ผม pm กับคุณ มันเกี่ยวอะไรกับพระนารายณ์หรือ
ผมกล่าวถึงแต่ สติปัฏฐาน นะครับ
ที่สำคัญ แนวทางเราต่างกัน เรียกได้ว่า คนละทางกันเลย
ผมพอจะเป็นกัลยาณมิตรได้
แต่เป็นพวกไม่ได้ ขึ้นอยู่กับธรรมว่าเห็นตรงกันไหม...

 

ท่านขันธ์ไม่มองบางล่ะว่า ผมต้องการกระตุ้นท่าน upanya ให้ตอบคำถาม
ไม่ใช่ไปเลี่ยงแบบนั้น เพราะพุทธศาสนาเราสามารถอธิบายได้ในระดับเหตุผล
และเนื้อหาที่กล่าวถึงนั้น ก็สามารถโต้เถียงกันได้ด้วยภาษา
ไม่ใช่ พอตอบไม่ได้ ก็อ้างว่า ต้องรู้ได้เฉพาะตัว ไม่สามารถอธิบายได้ เพราะคนปัญญาไม่ถึง
แบบนี้มันเลี่ยงการตอบเห็นๆ
ผมก็รออยู่เหมือนกันว่า 3 คำถามนั้น จะมีผู้ทรงภูมิสายธรรมกายท่านใดจะช่วยไขความกระจ่างได้บ้าง

 

หรือ บังเิิอิญว่า คำพูดของคุณวิมุตติ คือ คำพูดที่ คุณวิมุตติเคยค้านผมไว้นะสิว่า

คนทั่วไป ไม่อาจจะเข้าใจธรรมของผมได้และ ไม่มีใครสามารถรู้ธรรมได้เช่นผม

คำค้านนั้น มาวันนี้ มันปรากฎขึ้นอีก แล้วจะหมายถึงอะไร

จะให้ผมตีความว่า คุณกระตุ้นให้อีกฝ่ายนั้นตอบคำถามหรือ มีข้อความไหน ที่มันชวนให้อยากตอบบ้าง

คุณวิมุตติ

 

แล้วท่านจรจะเลือก พรหม หรือ พาน ดีครับ
ลองปรึกษาอาจารย์ขันธ์ของพวกเราดูสิครับ...

 

ด้วยความซื่อสัตย์
ข้อความนั้นไม่ได้กระตุ้นให้ตอบอย่างชัดเจน
แต่ใจผมตอนที่พิมพ์ ต้องการบอกว่า ที่ตอบไปนั้น มันเป็นการเลี่ยงที่จะไม่ตอบตรงๆ แล้วอ้างว่า ไม่อาจอธิบายได้
หวังเล็กๆว่า ท่าน upanya จะเข้ามาตอบใหม่ เพื่อให้การถกธรรมเกิดขึ้น จะได้ชัดเจนกันไป ว่าธรรมกายนี้สอนอย่างไร ละกิเลสได้อย่างไร จริงหรือไม่
ไม่ได้มีเจตนาต้องการขัดขวางอะไรเลย
หากท่านเห็นว่า ไม่สมควร ผมต้องขออภัยด้วยครับ...

 

อย่าคิดอย่างนั้น
ผู้มีธรรม มีหรือจะเลิกเมตตา ถ้าพอจะเห็นแววว่าพอเป็นไปได้
หากเลิกเมตตาจริง มันจะไม่กลายเป็นพยาบาทหรอกหรือ

 

ทำได้หรือ
แล้วการชี้แนะให้คนอื่นเป็นพรหม ท่านว่า ถูกต้องไหม
หากต้องชี้แนะให้คนอื่นไปติดในภพนั้น แล้วไม่ได้พบนิพพาน อีกนานแสนนาน
นี่เท่ากับ ชี้ทางโง่นะครับ
และการจะเลือกเดินทางนิพพาน ต้องเริ่มตั้งแต่ตอนที่มีชีวิต
ถ้าไม่หมั่นฝึกฝนเข้าไว้
เวลาจะตาย มันจะทำได้อย่างไร
เราต้องเตรียมพร้อมไว้ก่อน แต่เนินๆ เมื่อยังมีโอกาสอยู่ ท่านจรว่าจริงไหม

ปล. ลากลับก่อนนะครับ ไว้ต่อคราวหน้า...

 

ผมทราบอยู่แล้วว่า ยังมีอุเบกขา คือ ไม่สนใจมัน
แต่ตรงนี้ ผมจึงเพิ่มประโยคที่ว่า "ถ้าพอจะเห็นแววว่าพอจะเป็นไปได้"
ถ้าท่านมีแวว ผมว่า ผู้รู้ยอมต้องแนะนำในสิ่งที่ถูกต้อง
นอกเสียจากว่า จะหมดหวัง หรือ สอนไม่ได้
ตรงนี้จึงต้องวาง อุเบกขา ครับ...

 

ท่านวิมุตติ อาจต้องไปฝึก ปฏิจจฯ ให้คนมารู้ใจจ๊ะ..

 

อนุโมทนาสาธุกับทุกสัมมาปัญญาบุญกุศลบารมีครับ

ผมชอบท่อนนี้ด้วยครับ ขออนุญาตสาธุด้วยครับ

 

[MUSIC]http://www.dhammakaya.org/[/MUSIC]



เวปวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม http://www.dhammakaya.org/