ร่วมส่งเสริมกรรมฐานโบราณ ( วิหารทาน )

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย glassbuddha2009, 4 กันยายน 2013.

  1. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]

    [​IMG]




    *กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ สืบต้นสายมาจากพระราหุลเถระเจ้าซึ่งเรียนมาจากพระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกผู้ชำนาญทางกรรมฐานแบบต่างๆ แลท่านได้รวมเป็นการศึกษาแบบกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ

    *สมเด็จพระสังราช สุก ไก่เถื่อน (สมเด็จพระญาณสังวรมหาเถรเจ้า) องค์บรมครูวิปัสสนาจารย์ เป็นผู้สืบทอดสายวิชชาประจำกรุงรัตนโกสินทร์

    *พระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ฝ่ายเถรวาท ถือคติตามพระธรรมวืนัย และพระธรรมปฏิบัติ พระอรหันตสาวก

    *แนวการปฏิบัติสายวิชชาพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แบบแผนเดิม มีขั้นตอนลำดับหมวดหมู่จากสมถะ (หยาบ) ไปสู่ขั้นวิปัสสนา (ละเอียด)

    * องค์คุณของการนอบน้อม เริ่มจากพระศรีรัตนตรัยสูงสุด (พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา) และคูณครูบาอาจารยืสืบ ๆต่อ ๆ กันมา

    * วิถีการบอกกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แบบดั้งเดิม จะต้องได้รับการดูแลตรวจสอบสภาวะจิต โดยครูบาอาจารย์ผู้รู้ ที่สุดแห่งสายวิชชา คือ อัปปมัญญาเมตตาเจโตวิมุตติ หรือเรียก การออกบัวบาน(สายวิชชาพระกรรมฐานมิชฌิมา แบบลำดับ - แท้- จะไม่ได้มีการมุ่งเน้นญาณอภิญญาใดใด)

    *จริยประเพณี ไม่ว่าจะมีสาขาแตกสายไปที่ใดใด ครูบาอาจารย์โบราณ จะให้ความเคารพความสำคัญที่สุดแห่งศูนย์กลางพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ (วัดพลับ - ราชสิทธาราม)

    *ณ ศูนย์กลางพระกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ วัดพลับ อยู่ระหว่างการฟื้นฟู จัดเป็นตำหนักพิพิธภัณฑ์พระกรรมฐาน เก็บรักษาสิ่งของสำคัญ เช่น ไม้เท้าพระราหุลเถระเจ้า เครื่องอัฐบริขารครูบาอาจารย์ ฯลฯ ซึ่งเดิมเคยเป็นที่ประทับทรงธรรมในล้นเกล้าพระเจ้าอยู่หัวฯ อาทิ ร.๑ ร.๒ และ ร.๓ ปัจจุบัน

    *ปัจจุบันมีพระครูสิทธิสังวร (วีระ ฐานวีโร) เป็นผู้สืบทอดสายวิชชาพระกรรมฐาน องค์ปัจจุบัน
     
  2. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]



    เผยแพร่เป็นวิทยาทานครับสมเด็จอรหัง.
     
  3. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )


    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    กรรมฐานหลวงปู่สุกไก่เถื่อนแบบลำดับ Somdechsuk.org | เวทาสากุ )
     
  4. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]



    เผยแพร่เป็นวิทยาทานครับสมเด็จอรหัง.
     
  5. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    เชิญสมทบทุนซ่อมหลังคาอาคารกรรมฐานบริจาคได้โดยโอนเข้าบัญชี

    ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
    บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่ 067-2-83847-9
    ในนาม "พระวีระ สุขมีทรัพย์"

    กรณีโอนผ่านบัญชีขอให้ ลงท้ายด้วยเศษ 99 สตางค์ทุกครั้ง เพื่อที่จะให้พระ อ. วีระทราบวัตถุประสงค์ว่าเป็นการซ่อมหลังคา ครับ

    หรือบริจาคด้วยตนเองที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯโทร. 084-651-7023

    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )
     
  6. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )


    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    กรรมฐานหลวงปู่สุกไก่เถื่อนแบบลำดับ Somdechsuk.org | เวทาสากุ )
     
  7. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    วิชาระวังจิต ระวังกาย


    วิชาดูแลจิต ดูแลกาย ให้ทำจิตเป็นสมาธิ ถึงองค์ฌานก็ได้ แล้วปล่อยจิตออกไป กำหนดจิตไปที่หทัย ให้หายใจเบาๆ ให้ดูนิมิต เป็นวงกลมสีขาว จะสว่างขึ้น สว่างขึ้น ที่หทัย แล้วค่อยๆเลื่อนวงกลมสีขาว ที่หทัย ลงมาที่สะดือ เป็นจุดที่สอง ให้ค่อยๆเคลื่อน วงกลมสีขาวที่หทัย มาช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน ให้มีสติรู้ได้ทั้งนิมิตดวงกลมสีขาว และลมหายใจ เมื่อนิมิตวงกลมสีขาวนั้น มาถึงที่สะดือแล้ว ให้ตั้งสมาธิอยู่ที่นาภี(สะดือ) ประมาณคำหมากหนึ่ง(สอง-สามนาที) พอจิตสงบนิ่ง เข้าที่ดีแล้ว ก็ให้ตั้งสัจจะอธิฐานในใจว่า…….
    ข้าพเจ้า ขอเรียนพระกัมมัฏฐาน วิชาดูแลจิต ดูแลกาย ขอพระยามารทั้งหลาย อย่าได้มารบกวน ข้าพเจ้า ในตอนนี้เลย



    อธิฐานเสร็จ แล้วให้ปล่อยจิตให้ว่าง ทำใจให้สบาย ให้โปร่ง ให้โล่ง หายใจเข้า-ออก ลึกๆช้าๆ วิชานี้มีจิตเป็นใหญ่ มีจิตเป็นหัวหน้า มีจิตเป็นผู้นำ


    เมื่อจิตสงบแล้ว สติจะตามรู้ได้เท่าทันอารมณ์ วิชาจะอยู่ได้ เฉพาะผู้ที่ปรารถนาที่จะเรียนเท่านั้น หากผู้ไม่ปรารถนาจะเรียน วิชาก็จะไม่อยู่ด้วย วิชานี้ต้องมีจิต ตั้งมั่น แน่วแน่ตัวรู้ ตัวรับรู้ ต้องรู้ให้จริง ไม่มีอุปาทาน ดูแลลมหายใจ ว่าเย็น หรือร้อน ลมหายใจถี่ หรือห่าง เบา หรือแรง จิตต้องรู้ได้ละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง


    การดูลมหายใจ เข้า-ออกนี้มีพระสาวก ของพระพุทธเจ้า เป็นจำนวนมาก ที่เรียนวิชาดูลมหายใจของตัวเอง รู้กิเลส รู้ธรรม และบรรลุธรรม ไปมากมายแล้ว
    ดูจิต แบ่งออกเป็นสองฝ่าย จิตฝ่ายดี จิตฝ่ายชั่ว กรรมฝ่ายดำส่งผล จิตก็ตกอยู่ในอำนาจกรรมนั้น กรรมฝ่ายขาวส่งผล จิตก็ตกอยู่ในอำนาจกรรมนั้น ถ้าจิตฝ่ายชั่วเริ่มมีอำนาจ เกิดขึ้นทีละดวง ทีละดวง จิตก็จะบังคับให้กายลุกขึ้นทำความชั่วต่างๆ จิตจะบังคับให้กายแข็งกระด้าง วจีแข็งกระด้างขณะนั้นอาสวะทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ รุมอยู่ในตัวและจิตทั้งสิ้น กรรมฝ่ายชั่วเกิดขึ้นแล้วก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน เขาจะค่อยดับไปทีละดวง ทีละดวง


    กรรมฝ่ายดีก็จะค่อยเกิดขึ้น ทีละดวง ทีละดวง ก็จะรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว เขาจะตั้งอยู่ แล้วจะค่อยเปลี่ยนแปลงไป เขาเป็นอย่างนี้เป็นธรรมดา ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตดี กายก็จะดีด้วย ลมหายใจก็จะเย็น สม่ำเสมอ จิตก็จะว่างจากอาสวะกิเลสมารบกวน จิตฝ่ายดี คิดทำดี ทำบุญทำทาน


    ดูลมหายใจ เมื่อมีอารมณ์ภายนอกมากระทบ ก็จะเฉยๆไม่รู้สึกอะไร รู้สึกแปลกใจต่างหาก ลมหายใจเย็นสงบ จิตก็สงบด้วย จิตก็จะไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ใดๆ ดูอะไร รู้เห็นอะไร จิตก็จะรู้จักรูปนาม เกิด-ดับ นั้นได้ จะไม่รู้สึกผูกพันเลย ไม่รู้สึกคล้อยตามด้วย


    ถ้าจะเรียนวิชานี้ ต้องเอาจริง เอาจังกับจิต ต้องรู้ทันอารมณ์ กาย เวทนา จิต ธรรม วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา กิเลสตัวใดมาก็รู้ ทุกสิ่ง ทุกอย่างในโลกล้วนไม่แน่นอน อย่าไปติดอะไรแม้แต่ความสุข ทุกอย่างป็นสิ่งสมมุติขึ้นมา อย่าทำไปตามอารมณ์ ถ้าทำตามอารมณ์ จะโดนหลอกลวง ถ้ารู้ทัน รู้ความจริงแล้ว จะไม่สะเทือน
    การระวังจิต ระวังกาย กายเป็นบ่าว ให้ระวังจิต จิตดีอย่างเดียว จิตสบายอย่างเดียว กายก็ดี กายก็สบาย



    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc
     
  8. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    เชิญสมทบทุนซ่อมหลังคาอาคารกรรมฐานบริจาคได้โดยโอนเข้าบัญชี

    ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
    บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่ 067-2-83847-9
    ในนาม "พระวีระ สุขมีทรัพย์"

    กรณีโอนผ่านบัญชีขอให้ ลงท้ายด้วยเศษ 99 สตางค์ทุกครั้ง เพื่อที่จะให้พระ อ. วีระทราบวัตถุประสงค์ว่าเป็นการซ่อมหลังคา ครับ

    หรือบริจาคด้วยตนเองที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯโทร. 084-651-7023

    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )
     
  9. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
  10. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    กรรมฐานหลวงปู่สุกไก่เถื่อนแบบลำดับ Somdechsuk.org | เวทาสากุ )
     
  11. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    วิชาระวังจิต ระวังกาย


    วิชาดูแลจิต ดูแลก ร าย ให้ทำจิตเป็นสมาธิ ถึงองค์ฌานก็ได้ แล้วปล่อยจิตออกไป กำหนดจิตไปที่หทัย ให้หายใจเบาๆ ให้ดูนิมิต เป็นวงกลมสีขาว จะสว่างขึ้น สว่างขึ้น ที่หทัย แล้วค่อยๆเลื่อนวงกลมสีขาว ที่หทัย ลงมาที่สะดือ เป็นจุดที่สอง ให้ค่อยๆเคลื่อน วงกลมสีขาวที่หทัย มาช้าๆ ไม่ต้องรีบร้อน ให้มีสติรู้ได้ทั้งนิมิตดวงกลมสีขาว และลมหายใจ เมื่อนิมิตวงกลมสีขาวนั้น มาถึงที่สะดือแล้ว ให้ตั้งสมาธิอยู่ที่นาภี(สะดือ) ประมาณคำหมากหนึ่ง(สอง-สามนาที) พอจิตสงบนิ่ง เข้าที่ดีแล้ว ก็ให้ตั้งสัจจะอธิฐานในใจว่า…….
    ข้าพเจ้า ขอเรียนพระกัมมัฏฐาน วิชาดูแลจิต ดูแลกาย ขอพระยามารทั้งหลาย อย่าได้มารบกวน ข้าพเจ้า ในตอนนี้เลย



    อธิฐานเสร็จ แล้วให้ปล่อยจิตให้ว่าง ทำใจให้สบาย ให้โปร่ง ให้โล่ง หายใจเข้า-ออก ลึกๆช้าๆ วิชานี้มีจิตเป็นใหญ่ มีจิตเป็นหัวหน้า มีจิตเป็นผู้นำ


    เมื่อจิตสงบแล้ว สติจะตามรู้ได้เท่าทันอารมณ์ วิชาจะอยู่ได้ เฉพาะผู้ที่ปรารถนาที่จะเรียนเท่านั้น หากผู้ไม่ปรารถนาจะเรียน วิชาก็จะไม่อยู่ด้วย วิชานี้ต้องมีจิต ตั้งมั่น แน่วแน่ตัวรู้ ตัวรับรู้ ต้องรู้ให้จริง ไม่มีอุปาทาน ดูแลลมหายใจ ว่าเย็น หรือร้อน ลมหายใจถี่ หรือห่าง เบา หรือแรง จิตต้องรู้ได้ละเอียด ประณีต ลึกซึ้ง


    การดูลมหายใจ เข้า-ออกนี้มีพระสาวก ของพระพุทธเจ้า เป็นจำนวนมาก ที่เรียนวิชาดูลมหายใจของตัวเอง รู้กิเลส รู้ธรรม และบรรลุธรรม ไปมากมายแล้ว
    ดูจิต แบ่งออกเป็นสองฝ่าย จิตฝ่ายดี จิตฝ่ายชั่ว กรรมฝ่ายดำส่งผล จิตก็ตกอยู่ในอำนาจกรรมนั้น กรรมฝ่ายขาวส่งผล จิตก็ตกอยู่ในอำนาจกรรมนั้น ถ้าจิตฝ่ายชั่วเริ่มมีอำนาจ เกิดขึ้นทีละดวง ทีละดวง จิตก็จะบังคับให้กายลุกขึ้นทำความชั่วต่างๆ จิตจะบังคับให้กายแข็งกระด้าง วจีแข็งกระด้างขณะนั้นอาสวะทั้งหมดไม่ว่าจะเป็น โลภะ โทสะ โมหะ มานะ ทิฏฐิ รุมอยู่ในตัวและจิตทั้งสิ้น กรรมฝ่ายชั่วเกิดขึ้นแล้วก็ไม่เที่ยงเหมือนกัน เขาจะค่อยดับไปทีละดวง ทีละดวง


    กรรมฝ่ายดีก็จะค่อยเกิดขึ้น ทีละดวง ทีละดวง ก็จะรู้สึกตัวว่าทำอะไรลงไป ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้ว เขาจะตั้งอยู่ แล้วจะค่อยเปลี่ยนแปลงไป เขาเป็นอย่างนี้เป็นธรรมดา ต้องมีสติอยู่ตลอดเวลา ถ้าจิตดี กายก็จะดีด้วย ลมหายใจก็จะเย็น สม่ำเสมอ จิตก็จะว่างจากอาสวะกิเลสมารบกวน จิตฝ่ายดี คิดทำดี ทำบุญทำทาน


    ดูลมหายใจ เมื่อมีอารมณ์ภายนอกมากระทบ ก็จะเฉยๆไม่รู้สึกอะไร รู้สึกแปลกใจต่างหาก ลมหายใจเย็นสงบ จิตก็สงบด้วย จิตก็จะไม่หวั่นไหวไปตามอารมณ์ใดๆ ดูอะไร รู้เห็นอะไร จิตก็จะรู้จักรูปนาม เกิด-ดับ นั้นได้ จะไม่รู้สึกผูกพันเลย ไม่รู้สึกคล้อยตามด้วย


    ถ้าจะเรียนวิชานี้ ต้องเอาจริง เอาจังกับจิต ต้องรู้ทันอารมณ์ กาย เวทนา จิต ธรรม วิตก วิจาร ปีติ สุข เอกัคคตา กิเลสตัวใดมาก็รู้ ทุกสิ่ง ทุกอย่างในโลกล้วนไม่แน่นอน อย่าไปติดอะไรแม้แต่ความสุข ทุกอย่างป็นสิ่งสมมุติขึ้นมา อย่าทำไปตามอารมณ์ ถ้าทำตามอารมณ์ จะโดนหลอกลวง ถ้ารู้ทัน รู้ความจริงแล้ว จะไม่สะเทือน
    กะวังจิต ระวังกาย กายเป็นบ่าว ให้ระวังจิต จิตดีอย่างเดียว จิตสบายอย่างเดียว กายก็ดี กายก็สบาย



    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc
     
  12. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]


    เผยแพร่เป็นวิทยาทานครับสมเด็จอรหัง.
     
  13. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    เชิญสมทบทุนซ่อมหลังคาอาคารกรรมฐานบริจาคได้โดยโอนเข้าบัญชี

    ธ.กสิกรไทย สาขาโพธิ์สามต้น
    บัญชีออมทรัพย์
    เลขที่ 067-2-83847-9
    ในนาม "พระวีระ สุขมีทรัพย์"

    กรณีโอนผ่านบัญชีขอให้ ลงท้ายด้วยเศษ 99 สตางค์ทุกครั้ง เพื่อที่จะให้พระ อ. วีระทราบวัตถุประสงค์ว่าเป็นการซ่อมหลังคา ครับ

    หรือบริจาคด้วยตนเองที่ คณะ ๕ วัดราชสิทธาราม ซ.อิสรภาพ ๒๓ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯโทร. 084-651-7023

    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )
     
  14. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    ร่วมบุญซ่อมแซมหลังคาอาคารกรรมฐานคณะ5;วัดพลับเป็นวิหารทานกันภัยให้ตนเอง )


    (link ข้อมูลและภาพที่เกี่ยวข้องเพื่อสะดวกในการส่งข้อมูลต่อๆกันไปครับ
    กรรมฐานหลวงปู่สุกไก่เถื่อนแบบลำดับ Somdechsuk.org | เวทาสากุ )
     
  15. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    สลายอายตนะหก

    ตา ธาตุน้ำ เห็นรูปดีก็ดี เห็นรูปทรามก็ตาม ให้ทำจิตเหมือนสายน้ำไหล
    หู ธาตุลม ฟังเสียงที่ดีก็ตาม เสียงที่ชั่วก็ตาม ให้ทำจิตเหมือนลม พัดผ่านไป
    จมูก ธาตุดิน ได้กลิ่น หอมก็ตาม ได้กลิ่นเหม็นก็ตาม ให้ทำจิตเหมือนดินสลายไป
    ลิ้น ธาตุน้ำ ได้ลิ้มรสดีก็ตาม ได้ลิ้มรสไม่ดีก็ตาม ให้ทำจิตเหมือนสายน้ำไหลไป
    กาย ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ สัมผัสดีก็ตาม สัมผัสชั่วก็ตาม ให้ทำจิตสลายธาตุทั้ง ๔
    มโน(ใจ) อากาศธาตุ รู้ธรรมดีก็ดี ธรรมชั่วก็ตาม ให้ทำจิตเหมือนอากาศสลายหายไป
    ใช้น้ำสิโณทก

    ให้เอาขันน้ำ ตั้งตรงหน้า เอานวหอระคุณ คือ อิติปิโสฯลฯ ภควาติ ตั้งที่ ๙ (ปลายจมูก)ก่อน แล้วมาที่ ๑(สะดือ) มาที่ ๒ (เหนือสะดือ) มาที่ ๓ (หทัย) แล้วไปที่ ๕ (ท้ายทอย) มาที่ ๖ (กลางกระหม่อม) แล้วมาที่ ๗ (ระหว่างคิ้ว) ถึงที่ ๘ (ระหว่างตา) เอาตรงนั้น แล้วเพ่งลงที่น้ำสิโณทก ให้ทำ ๒-๓ ที่
    ถ้าจะใช้ สิ่งใดก็ได้ทุกอัน ตามแต่อธิฐาน ใช้ทางเมตตามหานิยม ใช้ปัดรังควาน
    วิชาดูแลจิต ดูแลกาย




    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc


     
  16. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    [​IMG]




    เผยแพร่เป็นวิทยาทานครับสมเด็จอรหัง.
     
  17. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    องค์ธรรมจุด นวหอรคุณ ๙ จุด

    ๑. สะดือ องค์ธรรมคือ พระนาคี
    ๒.เหนือสะดือ องค์ธรรมคือ ธาตุดิน
    ๓.หทัย องค์ธรรมคือ พระพุทโธ
    ๔.สุดคอกลวง องค์ธรรมคือ พระธรรมมา
    ๕.โคตรภูท้ายทอย องค์ธรรมคือ ธาตุลม
    ๖.กลางกระหม่อม องค์ธรรมคือ พระพุทธเจ้า ครูบาอาจารย์
    ๗.ระหว่างคิ้ว องค์ธรรมคือ สงฆ์ผู้เป็นใหญ่
    ๘.ระหว่างตา องค์ธรรมคือ ธาตุไฟ
    ๙.ปลายจมูก องค์ธรรม ธาตุน้ำ
    สัมปยุตธาตุ ๑.สะดือ ๒.เหนือสะดือ ๓.หทัย ๔. อุนาโลม
    สัมปยุตปฤกษ์ กลางหทัย เลื่อนมากลางอก
    คว่ำจักร แผ่บารมีธรรมจักรลงล่าง จุดอุณาโลม จุคไหล่ขวา จุคไหล่ซ้าย จุดเหนือสะดือ ทำสมาธิดู สี่ทิศ ลงล่างแผ่บารมี สู่นรกภูมิ
    หงายจักร แผ่บารมีธรรมจักร ขึ้นเบื้องบน จุดสะดือ จุดเหนือสะดือ จุดหทัย จุดอุณาโลม สงเคราะห์ผู้อื่น แผ่ให้ผู้มีคุณ ครูบาอาจารย์ พบพระพุทธเจ้า พบสหายธรรม แผ่เมตตา
    จันทกลา ลมซ้าย ยับยั้งมาร เวลาลมซ้ายออก สุริยกลา แผ่บารมีให้มาร ปราบมาร
    ชักคลองจักษุ ไม้หวั่นไหว ในกิเลสภายนอกที่มายั่ว ตามีธาตุน้ำมาก ตาเห็นรูปที่สวย รูปที่ชอบใจ ทำให้ระงับเหมือนสายน้ำไหลไป ตาเห็นรูปที่ชั่ว รูปที่ไม่ชอบใจ ทำให้ระงับเหมือนสายน้ำไหลไป




    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  18. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    วิชาหนีมนต์

    ให้ฝึกให้เห็นอักขระสามตัว ภาวนาว่า นะเยปะรัง ยุตเต ให้เห็นอักขระ อัง(ขอม) อยู่ระหว่างคิ้ว อักขระ อิง อยู่กลางกระหม่อม อักขระ อิ อยู่ท้ายทอย
    เอา อัง มาติดกับ อิง อยู่หน่อยหนึ่ง จึงนำอักขระสองตัว(อัง อิง) ไปสู่ อิ แล้วจึงยกแต่ สูญเปล่า(สมาธิเปล่า ไม่เอาอักขระมา) คือสมาธิมาตั้งที่ ๗ (ระหว่างคิ้ว) อย่าเอาอักขระสามตัวมาเลย ถ้าสัตรูอยู่หน้าไว้หน้า ถ้าอยู่หลังเอาไว้หลัง อยู่ขวาไว้ขวา อยู่ซ้ายไว้ซ้าย
    ประโยชน์ กันปีศาจ กันคุณไสย กันมารเข้าสิง
    อุเบกขา

    อหัง กัมมัสโก โหมิ เรามีกรรมเป็นของตน สุขก็เป็นของตัว ทุกข์ก็เป็นของตัว (เวทนา ทั้งหมด)ให้อยู่กลางๆเป็นอุเบกขา
    อหัง กัมทายาโท โหมิ เรามีกรรมเป็นมรดก มรกดกรรมคือ กรรมดี กรรมชั่ว ให้ทำจิตเป็นอุเบกขา
    อหัง กัมโยนิ โหมิ เรามีกรรมเป็นกำเนิด กรรมผูกมัดเรามาตั้งแต่ ปฏิสนธิ พร้อมเรา มีรูปสวยงาม จากกรรมดี รูปไม่สวย กรรมไม่ดี ให้ทำจิตเป็นอุเบกขา
    อหัง กัมพันธู โหมิ เรามีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ เผ่าพันธุ์ของกรรมคือ กิเลส กรรม วิปาก ให้ทำจิตอุเบกขา
    อหัง กัมปฏิสรโณ โหมิ เรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย กาย อาศัยจิต รูปอาศัย ธาตุ และจิตด้วย ทำอุเบกขา
    แก้ให้ขาดรสราคะ จะให้ขาดรส ราคะ ปฏิสนธิ อย่าให้กายชีวิตเนื่องกัน ยกชีวิตให้พ้นกาย คือยกจากที่ ๒ (สะดือ)ไปสู่ที่ ๓(หะทัย) ไม่ถึงที่ ๓ ก็ได้ พอพ้นที่ ๒
    เข้าธาตุทั้ง ๔ แก้สารพักโรคทั้งปวง ได้สิ้น โรคปุราณ ก็แก้ได้ แต่ช้าหน่อย ไม่ต้องภาวนา ให้อธิฐาน ให้แผ่ซ่าน เข้าไปทางสายเลือด ทุกอนุของกาย
    อาราธนาว่า ข้าขอเข้าธาตุทั้ง ๔ อินทรีย์ทั้ง ๕ โพชฌงค์ทั้ง ๗ ขอให้ระงับจิต ระงับกายให้สบาย ข้าจะขอเข้าเป็นนิคคหะที่ ๑ ข้าจะขอเข้าเป็นปัคคาหะที่ ๑
    อันนิคคหะ คือข่มลงไปในที่ ๑ (สะดือ) อันปักคาหะ คือ ยกจากที่ ๑(สะดือ) มาที่ ๒ (เหนือสะดือ) มาที่ ๓ (หทัย) ทำไปจนกว่าจะได้สุข
    แก้ปวดศรีษะ เส้นกำเริบ ธาตุวิปริต ให้ตั้งแต่ที่ ๙ (ปลายจมูก)มาที่ ๑ (สะดือ) แล้วอธิฐานว่า
    ข้าขอเข้าธาตุทั้ง ๔ อินทรีทั้ง ๕ โพชฌงค์ทั้ง ๗ อธิฐานแล้วจึงมาที่ ๒ (เหนือสะดือสองนิ้ว) จึงชุมนุม ธาตุทั้ง ๔ อินทรีทั้ง ๕ โพชฌงค์ทั้ง ๗ ในที่ ๒(เหนือสะดือ) นั้น แล้วแบ่งสมาธิออกตามฐานเท้าทั้งสองข้าง แล้วยกแต่ที่ ๒(เหนือสะดือ) ไปถึงที่ ๓ (หทัย) ถึงหทัยแล้ว ขอจะขอสัมปยุตธาตุทั้ง ๔ โพชฌงค์ทั้ง ๗ ในที่ ๓ นั้นเล่า แล้วจึงแบ่งสมาธิออกไปตามเท้าทั้งสองข้าง แล้วยกสมาธิไปสู่ที่ ๔(คอกลวง) ให้เป็นสุขหน่อยหนึ่งแล้วจึงยกไป ๙(ปลายจมูก) ๘ ระหว่างตา ๗ ระหว่างคิ้ว ๖ (กลางกระหม่อม) ๕ (ท้ายทอย) มาที่ ๔(คอกลวง) แบ่งสมาธิออกไปมือสองข้าง
    ถ้าโรคไม่หนัก อย่าเข้าธาตุ อย่าชุมนุมธาตุ อย่าแบ่งธาตุ





    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc<!-- google_ad_section_end -->
     
  19. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760
    วิชาดูแลจิต ดูแลกาย

    ให้ทำจิตให้ว่าง แล้ววางไว้ที่หทัย ดูที่หทัย แล้วเลื่อนลงมาที่ กลางสะดือ แล้วอธิฐานว่า ข้าพเจ้าจะขอเรียนพระกัมมัฏฐาน ดูแลจิต ดูแลกาย ขอมารทั้งหลาย อย่ามารบกวน ข้าพเจ้าในเวลานี้เลย แล้วนั่งดูความว่างที่สะดือเฉย ต่อมาให้พิจารณาธรรม แล้วประเทืองปัญญา
    วิชาระวัง จิตระวัง กาย กายเป็นบ่าว ของจิต ถ้าจิตใจสบาย กายก็สบาย จิตเป็นสุข กายก็เป็นสุข ไม่นอนกระสับกระส่าย
    เปรียบเทียบ





    ที่มา เว็บสมเด็จสุกฯ
    http://www.somdechsuk.org
    somdechsuk.com - เรื่องกรรมฐาน
    และ
    http://www.somdechsuk.com/download/k...akammathan.doc<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  20. mature_na

    mature_na เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    4,557
    ค่าพลัง:
    +6,760

แชร์หน้านี้

Loading...