ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ที่จริงจะรอแจกของตอนครบรอบวันเกิดท่าน แต่เห็นว่าจะนานไป เลยขอของอย่างอื่นมาแจกก่อน น่าจะแจกให้เล่นเกมส์ตอนต้นเดือนที่จะถึงนี้ ติดตามกันนะครับจำนวนจำกัด:cool:
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ขอดูยอดไล๊ค์นะครับ ถ้ามีไล๊ค์เยอะสัญญา ต้นเดือนหน้าเจอกัน ไม่งั้นรอยาวเลยหลายเดือน
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เดี๋ยวขอเล่าอะไรหน่อยนะ
    แจ้งเพื่อทราบนะครับ


    ที่ผ่านมาผมปล่อยไปตลอดเลย คือมีคนฟ้องเข้ามาบ่อย และเริ่มเยอะขึ้นๆ ว่ามีอยู่คนสองคน ที่เที่ยวส่งข้อความถามคนอื่นเรื่องประสบการณ์ของเครื่องมงคลไปทั่ว ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าใคร คือคนที่เค้าเก็บมาเล่าให้เราฟังเค้าก็บอกแหละว่าใครยูสเซอร์อะไร มันก็ดูเหมือนคนกันเองทั้งนั้น

    แต่ทีนี้พอพี่ถามไปบ่อยเข้ามากเข้า คนเค้ารำคาญ เค้าไม่ด่าพี่ตรงๆเค้าตอบอ้อมๆไม่อยากจะตอบ เค้าก็มาลงกับผม ว่านี่กระทู้ทำบุญอย่างไร ทำไมเข้ามาทำบุญแล้วถึงมีคนส่งคำถามมาก่อกวนตลอด เราปล่อยให้กระทู้มีคนแบบนี้อยู่ได้ยังไง แล้วบางคนท่านก็แรงบอกว่าเรื่องส่วนตัวนะมันไม่จำเป็นต้องเอาไปบอกใครรึเปล่า ถ้าเค้าไปนอนกับใครที่ไหนมาบ้างจำเป็นต้องอธิบายมั๊ยเค้าก็พยายามไม่เล่าอยู่ของเค้าเงียบๆ ทำไมกระทู้เราถึงปล่อยปละละเลยให้มีคนทำตัวเกรียนแบบนี้

    ซึ่งหลายๆคนเมื่อก่อนจะคุ้นจะชินว่าผมเด็ดขาด ถ้าทำอะไรเสียเราด่าประจานกันเลย แต่คือเราให้เกียรตินะ เพราะหลังๆเราก็สงบอารมณ์ก็เย็นลงเยอะ แต่ถ้ายังมีคนร้องเรียนมาบ่อยๆก็เป็นคนเดิมยูสเซอร์เดิมๆที่เที่ยวระรานถามไปทั่วผมก็อาจจะต้องแจ้งให้ทุกท่านทราบแบบเป็นทางการว่าใครก่อกวน ซึ่งที่ผ่านมาถามอะไรเรามาก็ตอบตลอด คือไม่อยากให้มีบรรยากาศที่ขุ่นมัวแบบนี้ ฟ้องกันไปฟ้องกันมาจากคนเพียงคนสองคน ฟ้องผมมาทุกวันซ้ำๆซากๆเดิมๆ ปรับปรุงพฤติกรรมตัวเองนะครับ เพราะสมาชิกบางคนเค้าไม่เล่นด้วย แล้วเค้ามองว่าคุณไปล่วงเกินจาบจ้วงเรื่องส่วนตัวเขาอยู่ (ซึ่งบางคนเค้าไม่ต้องการให้คอบครัวรู้ว่าเล่นก็มี ว่าเช่าพระก็มี บางคนฐานะทางสังคมสูงการงานสูงมองเรื่องที่คุณถามมารยาททรามไปเลยก็มี)ผมก็ไม่รู้จะบากหน้าไปขอโทษแทนคุณยังไงบ่อยๆเวลาเค้าฟ้องเค้ามาด่าคุณให้ผมฟัง อย่าทำให้คนเกลียดมันไม่ดีกับตัว อยู่กันด้วยความรักเถอะ ถ้าอยู่ไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้ามากระทู้นี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2015
  4. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    ด้วยศรัทธาและความเชื่อมั่น...นี่คือสุดยอดพลังยิ่งใหญ่แห่งองค์มหาเทพ...โอม โอม โอม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    กำลังจะพูดถึงเรื่องพระตรีเนตรอยู่พอดี 555+ เห็นรุปแล้วเลี่ยมสวยดีดูเข้มขลังครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    นั่งมองพระที่เตรียมจัดส่งไว้โอนมาแล้วแต่ยังไม่แจ้งรับของพี่ท่านหนึ่งยิ่งดูก็ยิ่งสวย บางครั้งมองเครื่องรางเครื่องมงคลต่างๆก็ทำให้ใจสงบ รู้สึกสบายตาเหมือนกันนะ

    เอาล่ะมาเล่าเรื่องที่ค้างไว้

    ก็มีพี่ท่านหนึ่งเช่าพระตรีเนตรไป น่าจะจัดส่งให้ไปเป็นเดือนแล้วมั๊ง คือแต่แรกๆที่จองมาเลย ทีนี้ได้ไปอาทิตย์แรก พี่เค้าก็โทรมาหาเราว่ารู้สึกนะ ว่ามีพลัง รู้สึกเหมือนมีคนคอยมองเขาอยู่ตลอด เหมือนกำลังตกอยู่ในสายตาของสิ่งที่มองไม่เห็น แต่ทางกายภาพที่เป็นมรรคเป็นผลนั้นเรื่องที่อธิษฐานไว้ยังไม่เห็นผลเลย

    เราก็สอบถามรายละเอียดว่าใช้อย่างไร พี่เค้าว่าก็ท่องคาถาก่อนขอแบบปกติ เราเลยอธิบายเค้าว่าคาถาน่ะ จริงๆแล้วไม่จำเป็นเลยนะ แค่ท่านให้ลงเพราะกันคนที่ใจไม่นิ่งจิตส่งไม่ถึงมากกว่าจะได้มีคำยึดไว้ภาวนาให้นิ่งก่อนขออะไร ขึ้นชื่อว่าท่านเสกเป็นเครื่องมงคลแล้วดีแน่นอน คาถาไม่ต้อง วันหลังใช้ใจนะ

    พูดแล้วก็เลยต้องอธิบายเขาว่าพระตรีเนตรนี่ท่านเป็นเทพฮินดู ก็เหมือนเรา เราคงไม่พอใจนักถ้าใครมาอ้อนวอนเราด้วยภาษาต่างชาติ พี่เค้าก้แย้งว่างั้นผมก็พูดภาษาแขกไม่เป็น เราเลยว่าเราไม่ได้ให้พูดภาษาแขก เทวดา พระเจ้า ไม่ว่าจะศาสนาไหน มันมีภาษากลางที่สื่อกันได้และให้การยอมรับกันอยู่ นั่นก็คือภาษาใจ ทำกำลังใจให้สูง ให้จิตสว่างสดใส ขอกับท่านพูดกับท่านด้วยใจด้วยความรู้สึกและจิตวิญญาณของเรา ลองเอาไปทำดูสิ กับเครื่องมงคลที่เป็นเทพฮินดูของพ่ออาจารย์ โดยเฉพาะองค์พระศิวะผมย้ำประจำว่าเครื่องเซ่นไม่ต้อง คาถาไม่ต้อง ใจล้วนๆ ก็บอกเค้าไปแบบนี้

    หายไปเลย โผล่มาโทรหาผมอีกที บอกว่าวิธีนี้ดีมากไม่ต้องท่องคาถานั่งท่องจำอะไรเลย ที่สำคัญคือได้ผลมาก ขออะไรก็ถึง ทีแรกว่าเงียบๆนึกว่าใช้ไม่ขึ้น ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าสื่อสารไปไม่ถึงท่าน เพราะได้ลองวิธีใหม่นี้เหมือนขอกับแก้วสารพัดนึกเลย พอลองทำใจให้สงบสว่าง ทำจิตให้มีกำลัง ใช้ความรู้สึกพูดกับท่านบอกท่าน เหมือนมีแรงกดดันมาเป็นลูกๆที่มือของเราตอดกลับมาหนักแน่นมากๆ เค้าเล่าว่ามั่นใจมากว่าท่านรับรู้ ท่านให้พรพี่เขาแน่ๆเพราะว่าชาที่หัวเหมือนมีคลื่นอะไรแทรกเข้ามาซ่าอยู่ในหัวตรงกลางกระหม่อมอธิบายไม่ถูก ขอพรเสร็จบินไปงานที่ยุโรปเลย ไม่ได้เอาองค์ท่านติดไปด้วยเอาไว้ในพานที่บ้าน ใช้ระลึกถึงเอา ทีแรกนึกว่าจะชวดเพราะเป็นคนละฟ้าคนละท้องถิ่นคนละเทพเจ้ากัน แต่ผิดคาดเจรจาและเซ็นสัญญาผ่านไปอย่างง่ายดายและไวมาก ชอบคำนึงเราจำติดหูเลย พี่เค้าว่า พี่เชื่อว่าคำว่าพระผู้เป็นเจ้านี่ไม่ได้เกินจริงเลย มหากรุณาจะอยู่ที่ไหนส่วนใดของโลกพระเป็นเจ้าก็คือพระเป็นเจ้า กลับมาพี่เค้าว่าต้องรีบแก้บนเลย

    ถามว่าบนอะไรหรอ ทำไมต้องแก้ด้วย พี่เค้าว่างานที่บินไปคราวนี้มูลค่าสูง ได้แล้วเลยต้องรีบแก้ เลยถามว่าบนอะไร พี่เค้าบอกว่าบนพวงมาลัยร้อยพวง ตามที่เคยอ่านเจอในกระทู้ผม ว่าเวลาจะบนอะไรให้บนง่ายๆ พอหาได้ทำได้ไม่ลำบากตัวเอง

    เลยบอกเค้าว่าทีหลังอย่าบนนะ บนเป็นนิสัยมันไม่ดี ขอเอาดีกว่า พระตรีเนตรหรือองค์พระศิวะนี่ท่านเป็นเทพที่มักจะอวยชัยให้พรผู้ศรัทธาได้ง่ายสุดๆอยู่แล้วอย่าไปบน ใช้ความรู้สึกรักและเทิดทูนกับท่าน ท่านจะสนองกลับด้วยพรและสิ่งที่เราปรารถนาเอง

    ก็เอามาเล่าให้ฟัง สำคัญนะพลังใจความรู้สึกของเรา จะขออะไรท่าน ส่งไปให้ถึง ลองดู ถ้าใช้คาถาแล้วเงียบ อธิษฐานด้วยภาษาปากเราแล้วเงียบ ลองใช้ภาษาใจ ใช้ความรู้สึกสัมผัสท่านดู แต่อย่าลืมนะ ถ้าจะบนอะไรเทพเจ้าทั้งหลาย เอาของง่ายๆอย่าไปเว่อร์ อย่าให้เป็นภาระตัวเอง บนของยากจนทำไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2015
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์

    ไว้มีอะไรมาเล่าต่อ เมื่อคืนมีพี่ท่านหนึ่งโทรหา ตอนแรกก็คุยเรื่องประสบการณ์นี่แหละ คุยไปคุยมาเราสนุกปากคุยกับเค้าไปสองชั่วโมง ลืมเวลาหลับเลย ได้ความรู้เยอะมาก หาอ่านตามหนังสือไม่ได้จริงๆ ดีที่เราซักและเขาบอกเขาแนะนำเราตรงๆ พอเลยเถิดไปถามการงานเค้า ถามความสำเร็จเค้า ซักจนเค้าจารนัยออกมาหมด จากคนธรรมดารายได้โคตรธรรมดา เริ่มกิจการขั้นต้น อาศัยมีพ่อแม่ที่ดี ให้กำลังใจลูก สู้ต่อใหญ่ขึ้นๆจนมีทุนจดทะเบียนในระดับพันล้านบาท อายุยังไม่ถึง 30 เลย ได้ข้อคิดดีๆมากจริงๆ ดีกว่านั้นที่เราไม่รู้เรื่องถามเค้าแล้วเค้าไม่หวงเค้าอธิบายเดี๋ยวจะเอามาเล่าให้ฟัง
     
  8. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    ต้องนำมาขยาย(ในส่วนที่พอเปิดได้)เพื่อทราบแนวทางและสร้างแรงบันดาลใจครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ค้างกันไว้ตั้งแต่เมื่อวาน

    ผมจะเริ่มเล่าตั้งแต่แรกแล้วกัน คุณพี่ท่านนี้ก็คือคนที่อ่านในกระทู้พลังจิต เราไม่ได้มีความรู้จักอะไรเป็นพิเศษหรอก แต่เขาโทรมา ถามถึงเครื่องมงคลชิ้นหนึ่ง ซึ่งแปลกอยู่ พี่เค้าว่าอยากได้เป็นไม้ช่อฟ้าแกะในตอนนั้นอยากให้ท่านทำเป็นตาที่สามตั้งขึ้นทรงพุ่มข้าวบิณ เป็นตาขององค์พ่อศิวะให้ โทรมาตื้อเราบ่อยมาก เราก็สงสัยจะเอาไปทำไม ดวงตานี่วัดนั้นวัดนี้ก็สร้างกันเยอะให้เขาไปหาเอาที่ขายๆถูกๆด้วย พี่เขาบอกว่าเขาไม่เอาจะเอาของท่าน เพราะคนที่จะสร้างของเกี่ยวกับพระศิวะได้ ต้องมีของเก่าต้องเรียนมา เค้าอยากได้ตาของพระศิวะจริงๆไม่ใช่ตาอะไรก็ได้ เฉพาะเจาะจงเลยพี่เขาว่าเขาฝัน แล้วในฝันคนทำลักษณะก็เหมือนกับท่านด้วย อีกอย่างที่มองๆดูแล้วในสายพระศิวะก็ไม่มีใครเลยจนมาเจอท่าน

    ก็ตกลงเสนอเรื่องไปตอนนั้นยังไม่มีมงคลประจำกายออกเป็นทางการ ท่านก็แกะให้ทำให้มองแล้วสวยงามดี จัดส่งไป จบ หายไปยาวเลย จนท่านโทรมานี่แหละ ได้พูดกับเราว่าเขาไม่ค่อยได้เข้ามาอ่าน พอมาเปิดอีกทีเห็นมีเหรียญพระสยม เหรียญหล่อพระศิวะ พระตรีเนตรต่างๆก็อยากมีไว้ครอบครองเลยโทรมาหาเราอีกที ซึ่งก็หมดเกลี้ยงไปแล้วจ้า

    คุยรอบนี้ก็ถามถึงเรื่องตาว่าเอาไปทำอะไร ท่านว่าเอาไว้ทำลายคู่แข่ง ไม่ได้ทำลายอะไรจริงจังแค่ถือเป็นเคล็ดให้เขาแพ้ทางเราเพราะเราข่มเขาไว้ดวงตาขององค์พระศิวะที่มีอานุภาพมากกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าใดๆ และถือว่าตานี้คือการเบิกพระเนตร เบิกแล้ว เปิดแล้ว ไม่ปิดลง ที่จริงตานี่เป็นของดีมากนะเพราะพ่ออาจารย์ท่านเองก็ยังหล่อไว้ให้คนทีต้องการมีชีวิตใหญ่โตใช้ ก็ขอข้ามไปก่อน

    ถามเค้าว่าอืม แล้วเป็นยังไง พี่เค้าว่าได้ผลดีเกินคาด เรียกว่าดวงตาอาถรรพ์เลยก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่ได้มาก็อยู่ในช่วงที่จะนำเสนองานออกตลาดโลก โฟกัสกลุ่มเป้าหมายไปที่ต่างชาติแล้ว ซึ่งตรงนี้มันเป็นอะไรที่ยากมาก

    เราก็ถามพี่เค้าทำงานอะไร พี่เค้าบอกว่าทำธุรกิจ ผมจะเรียบเรียงเป็นลำดับให้อ่านง่ายๆแล้วกัน เพราะถ้าเอาที่คุยกันจริงๆมันจะออกแนวถามกลับไปกลับมา นึกเรื่องไหนออกก็ถาม ไม่ต่อกันติดเท่าไหร่

    พี่เค้าบอกเราว่าคนเราทุกคนนี่มีความรู้ ที่เรียกว่าสิ่งที่เรารู้จริงอยู่ติดตัว ไอ้ความรู้ตรงนี้พี่เค้าบอกว่าก็ความรู้ที่เรียนในมหาลัยไง เรียนมาตั้ง 4 ปี รู้ลึกรู้จริงเลย รู้แค่นั้นก็เหลือกินแล้ว พอมีความรู้แล้วเราก็ต้องเอามาต่อยอดหากิน ทีนี้ก็ต้องมองต่อว่าไอ้ความรู้นี่พอมาเป็นงานปุ้ป มันเป็นงานที่เราชอบรึเปล่า เราสนุกกับงานรึเปล่า ถ้าลองแล้วไม่ใช่ต้องกล้าที่จะหยุด และมองในสิ่งที่ตัวเราเองชอบ

    หลังจากนั้นก็ต้องเข้าสังคม ใช้สังคมให้เป็นประโยชน์ คนที่มีความรู้ที่อยู่จุดสูงกว่าเรา คำพูด มันสมองวิธีคิดเค้ามันเป็นครูของเราได้ ผมก็เลยถามว่า เอาตรงๆเลยก็คือหาเพื่อนนั่นแหละ แล้วเพื่อนแบบนั้นเราจะไปหาจากไหน พี่เค้าเล่าว่าหลังจากเรียนจบ สิ่งแรกที่พี่เลือกจะเรียนศึกษาจากหนังสือด้วยตัวเองก่อนก็คือจิตวิทยา ตรงนี้สำคััญนะ เพราะมันจะทำให้เราดูคนเป็น คุยกับใครคนไหนแล้วเรารู้เลย มันหลอกกูรึเปล่า คนๆนี้คุยต่อได้มั๊ย อาการพฤติการณ์แบบนี้เค้าเต็มใจคุยกับเรามั๊ย น้ำเสียงคนแบบนี้มันมีโอกาสประสบความสำเร็จมั๊ย มีความมุ่งมั่นมั๊ย ซึ่งพี่แกพูดมาเยอะมากแต่อยู่กรอบที่เราเข้าใจว่าเรียนไว้เพื่อดูคน

    ต่อจากนั้น ก็ไปหาเพื่อน ไม่ใช่นั่งโง่ทำตัวนิ่งให้ผ่านไปวันๆ ต้องออกไปเจอกับโลกกับสังคมธุรกิจ เพื่อจะได้มีเพื่อน เอาความคิดของเค้ามาเป็นครูเรา ใช้ฐานะเพื่อนสอบถามพูดคุยกับเค้า พี่เค้าบอกเราว่าสำคัญนะเพื่อนเหล่านี้ที่หามา เวลาเราคิดอะไรไม่ออกสมองตันไปเลย คุยกับคนเหล่านี้ เค้าจะมาต่อยอดจุดประกายความคิดใหม่ๆเราได้เสมอๆ จะหาจากไหน พี่เค้าว่าเอาวิธีเค้าเลยนะ ไปร้านหนังสือ ไปบ่อยๆ เลือกมุมหนังสือตลาดหุ้น การลงทุน ธุรกิจ การประสบความสำเร็จของนักธุรกิจต่างๆ ไปหยิบมาอ่านเพิ่มวิสัยทัศน์ให้ตัวเอง จากนั้นก็มองคนที่เค้าเข้ามาหยิบหนังสือธุรกิจ ตลาดหุ้นหรืออะไรก็ดีเกี่ยวกับธุรกิจมาอ่าน มองหน้าเขาแล้วใช้จิตวิทยาที่เราเรียนมาตัดสินว่าควรเข้าไปพูดคุยมั๊ย ทักเค้าไปเลยอ้าวพี่ก็อ่านเล่มนี้เหมือนกันหรอ หาเรื่องคุยๆ ต้องกล้า ต้องหน้าด้าน เพราะมิตรสหายที่ดีในจุดนี้เส้นทางนี้มันสำคัญ ถ้าไม่กล้าทักคนแปลกหน้า งานที่คุณจะทำไปลงทุนไปเสนอคนแปลกหน้าทั้งนั้นมันยิ่งไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ พี่เค้าบอกผมว่าต้องคุยขยันหาเพื่อนด้วย เพื่อนที่คุยแล้วเป็นประโยชน์ก็คบก็คุยจริงจัง ถ้าอ่อนความรู้ประสบการณ์ไม่ถึงก็เลิกคุยกับเค้าไป แล้วก็ใช่สื่อออนไลน์ใช้กรุ้ปต่างๆให้เป็นประโยชน์ขยันหา หาทั้งวันหาทุกวันเดี๋ยวก็เจอก็มีเพิ่มเรื่อยๆเอง

    พี่เค้าบอกผมว่า อย่างแรกถ้าคิดจะทำงานนี้ คือ
    - เราต้องหาสิ่งที่เราชอบ และมันไปได้ ถ้าเกี่ยวกับปัจจัย 4 ยิ่งดีเพราะกลุ่มลูกค้ามันกว้าง ทดลองทำให้ชำนาญเอาว่างานต้องมีคุณภาพสูงไม่ต้องไปโฟกัสเรื่องเม็ดเงิน พี่เค้าว่าไม่สนใจเลยเรื่องเงิน ก้าวแรกคือมีกิจการเป็นของตัวเอง
    - พอมาก้าวที่สอง สำคัญ ฐานความคิด ฐานลูกค้าสังคมที่เราสร้างไว้ ตัวนี้มันส่งเราไปให้ขยายตลาดให้กว้างขึ้น เรียกว่าเปลี่ยนจากกิจการเล็กๆขยายออกไปเป็นธุรกิจ มีลูกจ้างมีอะไรอีกมากมาย
    - ขั้นต่อมา ก็คือนำงานของตัวเองออกไปสู่ตลาดโลกให้ได้ จะไปทางไหน ช่องทางอย่างไร ประสบการณ์และพันธมิตรที่ดีเค้าจะคอยสอนคอยเตือนเรา

    พี่เค้าบอกว่าเค้ารักพวกพริตตี้งานรถมอเตอร์โชว์ ธุรกิจตัวแรกของเขาจึงทำเกี่ยวกับงานในมอเตอร์โชว์ หลังจากนั้นก็เริ่มล้มลุกคลุกคลานมีคุณพ่อคุณแม่คอยปลอบคอยให้กำลังใจตลอด ระบบความคิดของตัวเองสำคัญมาก กำลังใจสำคัญมาก ถ้าเราหม่นๆท้อๆแล้วคนใกล้ตัวยังพูดแย่ๆพูดให้รู้สึกไม่ดีนี่พี่เค้าว่ามันไม่อยากคิดงานไม่อยากทำอะไรต่อเลย

    พี่เค้าทำตรงนี้อยู่ตัวคือทำจาก 0 จนมีทุนเข้าสู่หลักร้อยล้าน เริ่มมีลูกจ้างเยอะขึ้น ทีนี้พี่เค้าว่าเค้ารู้ตัวว่างานจุดนี้เค้าไปต่อได้ไม่มากกว่านี้แล้ว ก็คือต้องรับงานเรื่อยๆ เป็นบางคนอาจจะถือว่าพอแค่นี้เราก็ประสบความสำเร็จแล้ว แต่พี่เค้าคือไม่จบไง เค้าว่าไฟในตัวเขามันยังไม่ดับ ทีนี้เพื่อนก็แนะนำเกี่ยวกับสุขภาพการออกกำลังกายให้ นี่จุดนี้เพื่อนที่ดีมาแล้ว เค้าก็มองว่า เออยุคนี้คนชอบออกกำลังกันนะ คนรักสุขภาพกลัวโรคมากขึ้นทุกวัน เค้าจึงคิดกิจการเกี่ยวกับการออกกำลังขึ้นมา แล้วก็ไปจดทะเบียนสิทธิบัตรอะไรซักอย่าง ไม่ได้ถามลงลึก น่าจะเป็นลิขสิทธิ์นี่แหละ หลังจากนั้นไม่ต้องพูดถึงกันแล้ว เรียกภาษาบ้านเราว่ารวยอู้ฟู่เลยในอายุน้อยๆเท่านี้ เห็นว่าแค่มีคนเอาสิทธิของเราไปใช้เราก็ได้ตังค์แล้ว แล้วก็ตีตลาดต่างชาติเอางานของเราออกไปแข่งในตลาดโลก เค้าว่ายากมาก ยากกว่าตลาดในประเทศเพราะการแข่งขันอะไรมันสูง

    ถึงตรงนี้ก็คือตอนที่เค้ามาขอเครื่องมงคลพระเนตรศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระศิวะจากพ่ออาจารย์นี่แหละ เมื่อได้ไปเค้าว่าช่องทางมันก็เปิดงานก็ไหลลื่นจากร้อยล้านมันก็เพิ่มขึ้นๆเป็นหลายพันล้าน พอตีตลาดต่างชาติได้ ค่าเงินเค้ามันมากกว่าเรา ทีนี้ยิ่งกลายเป็นเสือติดปีกเลย

    คือต้องกล่าวว่าเค้าย้ำกับผมนะ เค้าไม่เคยโฟกัสเม็ดเงิน มันมาเอง ทีนี้เค้าโฟกัสงาน พยายามคิด พยายามสร้างจุดขายที่เป็นเอกลักษณ์ของเรา อย่าไปซ้ำกับคนอื่น แล้วต้องสนุกด้วย เพราะถ้าทำแล้วไม่สนุก มันไปไม่ได้ ต้องมีสังคมเพื่อนที่เหมือนเป็นครูเรา มีสังคมที่ดี ต้องมีครอบครัวมีกำลังใจที่ดีไม่ซ้ำเติมเรา เพราะในถนนเราจะล้มลุกคลุกคลานบ่อยมากต้องเปื้อนดินเปื้อนโคลน ไม่มีใครสำเร็จโดยที่ไม่เหนื่อยเนื้อตัวสะอาด ล้มแล้วไปนั่งท้อนั่งร้องไห้ชีวิตมันก็บัดซบอยู่แค่นั้น ล้มปุ้ปให้ไปหากำลังใจ ล้มปุ้ปรีบลุกขึ้นต่อเลย ต้องทำงานแข่งกับเวลาทำเป็นสเต็ปๆไปอย่าคิดจะก้าวกระโดด ถ้าทำตามขั้นตอนเอาเข้าจริงๆมันก็ไม่่นานเลย

    ก็สรุปมาให้นะ เอาว่าคือไม่สามารถลงลึกได้ เอาให้เป็นแค่แนวทางอ่านกันเพราะมันเป็นเรื่องที่เราคุยกับเค้า ที่จริงมีอะไรดีๆอีกเยอะเลยที่ไม่สามารถเล่าได้ทั้งในส่วนของงานและการใช้ดวงเนตรของพี่เค้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2015
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ลงไว้เป็นแรงผลักดันนะครับ หาเพื่อนหาสังคม แล้วก็มีคนที่คอยสร้างกำลังใจให้เราในวันที่เราล้ม เยี่ยมเลย:cool:
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    สงสัยว่าวันนี้หวยจะออก ตื่นเช้ามาไลน์เด้งแต่เรื่องทำนายฝันให้หน่อยค่ะ ครับ เอิ่ม 555+ เล่นกันพอสนุกนะครับ อย่าเล่นกันมากคนเราถ้ามีโชค ซื้อตัวเดียวมันก็ถูก ไม่จำเป็นต้องเล่นยาวเป็นหางว่าว มีคนที่ผมรู้จักคนนึง ถูกหวยทุกงวด แต่เครียดจนชีวิตจะเป็นบ้า เพราะซื้องวดหนึ่งเป็นแสน ยาวเปื้อยเลย แต่ถูกจริงก็แค่คุ้มทุน และเกิน80เปอเซ็นต์มีแต่ขาดทุน อาศัยที่เล่นจนติดเป็นนิสัยต้องโกหกคู่ครองยืมเงินคนนั้นคนนี้มาโปะพอผ่านไปงวดๆ อย่าให้ถึงกับเป็นอย่างนี้กันนะครับ เล่นแค่พอลุ้นพอสนุกให้ใจมันชื้นก็พอ ถ้ามีโชคมันก็ถูก อย่าไปเอาสาระอะไรมากกับหวยเพราะถูก 30 ล้าน 60 ล้าน ตัวอย่างก็มีเยอะ ญาติเพียบเลย ถึงเวลาเงินหมดจนกว่าตอนยังไม่ถูกเสียอีก
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พอดีไม่ได้ขออนุญาติยังไม่ได้คุยหรือถามอะไร กดก้อปจากPM มาวาง ก็ขอให้เจอสิ่งดีๆมากขึ้นๆ เจอเรื่อยๆนะครับ

    วันก่อนหวยออกผมฝันเห็นพ่ออาจารย์ด้วยครับ แต่ท่านหนุ่มๆอยู่ ท่านถามว่าทำงานที่ไหน ยังไง ก็ตอบท่านไป เห็นตะกรุดวางในพานข้างๆท่านหลายดอกเลย ตื่นเช้ามาซื้อหวยถูกซะด้วยครับ สาธุ...
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ขออภัยด้วยเมื่อสักครู่นั่งพิพ์อยู่จะเสร็จแล้วไฟดับเฉยเลย 555+ เดี๋ยวพิมพ์ให้ใหม่นะซักครู่ๆ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตะกรุดบ่วงตัณหา

    พอดีมีพี่ท่านนึงสั่งเข้ามา ท่านก็เลยเอาแผ่นที่จารเสกเตรียมไว้แล้วมาลงสีผึ้งม้วน เห็นแล้วอดถ่ายรูปไม่ได้ จารละเอียดยิบสวยงามมากเลย ดอกเดียวมีครบทุกอย่าง เป็นตะกรุดอีกชนิดหนึ่งที่มียอดจองเข้ามาเรื่อยๆ และแปลกมากๆคือมีแต่คนจองคนเดิมๆที่เคยบูชาไป บูชาแล้วสั่งเข้ามาอีก บางคนสองสามดอก บางคนสี่ห้าดอกก็เคยมี เริ่มจากให้ตัวเองจนเก็บไว้ให้ลูก ให้ลุงให้น้าที่ยังโสดตลอดจนเก็บไว้เพราะเกรงว่าวันหนึ่งตะกรุดตัวแรงๆแบบนี้จะไม่มีใครรมานั่งทำอีก สวยจริงๆครับดอกไม่ยาวมากแต่หนักและแน่นเลย ที่แน่นนี่คืออักขระและรูปพระยันต์ละเอียดยิบเลย มีครบทั้งอิ่นทั้งม้าเสพนาง เสน่ห์สวยล่างล้วนๆเสริมด้วยเพชรพญาธรตลอดจนสิงห์ หงษ์ทอง ช้าง เรียกว่าครอบจักรวาล บูชาลงเอวสถานเดียวเท่านั้น วันนี้มีโอกาสให้ดูว่าพระยันต์ข้างในเป็นอย่างไร พิถีพิถันละเอียดขนาดไหน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SAM_48631.jpg
      SAM_48631.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.7 MB
      เปิดดู:
      164
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2015
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623

    ตะกรุดตัวนี้จะมีให้บูชาเป็นพักๆต้องดูจังหวะดีๆว่ามีที่ท่านลงเก็บไว้มั๊ย ถ้าไม่มีก็แห้วยาว บางท่านรู้เพราะเคยโดนปฏิเสธไปตอนขอบูชาจึงรีบขวนขวายเสมอพอมีโอกาส อีกสิ่งดีๆที่แนะนำ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เออ เกือบลืม เฝ้ากันดีๆนะจ๊ะ พรุ่งนี้แจกของนะ ขัดตาทัพก่อนที่จะแจกวันเกิดอีกที วันเกิดเป็นพระหล่องวดนี้เป็นตะกรุด ติดตามดีๆอาจมีเกมส์ให้เล่น ผู้ที่มีสิทธิ์เล่นคือคนที่กดไล๊และอนุโมทนาที่ข้อความนี้เท่านั้น ติดตามๆ:cool:
     
  17. thumniramit

    thumniramit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2012
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +130
    จัดชุดบูชาเกี่ยวเนื่องจากองค์ท้าวมหาพรหมสนังกุมาร...พระสำเร็จดวงธรรมรัศมีพรหม+ตะกรุดผูกเงื่อนไขพันธะมหาสัญญา...มหาบารมีเลื่องลือขอรับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มาคุยกัน ตอบPMไปครบ เมื่อเช้าพิมพ์ไปทีหนึ่งแล้วไฟดับ ต้องมาพิมพ์ใหม่

    เรื่องที่พิมพ์ก็คือเรื่องตะกรุดดวง เป็นเรื่องที่นานๆจะพิมพ์ทีแล้วคนที่เข้ามาชั้นหลังก็ยังไม่ทราบไม่ได้อ่านกันก็มักจะถามกันมาตลอด

    ตะกรุดดวงของพ่ออาจารย์นี่มีอยู่หลายชนิด ทั้งชนิดที่ลงไว้บ้างแล้วหรือยังไม่ลงต้องพูดคุยกันส่วนตัวก็มี เป็นสิ่งแรกๆเลยที่คนรู้จักพ่ออาจารย์มักนิยมสั่งทำกัน แต่ว่า ขึ้นชื่อว่าตะกรุดดวง เป็นของที่ควรจะนำมาห้อยประจำตัว ดูที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด ไม่ควรถอดออกบ่อยๆ หรือนำไปวางไว้เฉยๆ ถ้าจะวางก็ควรวางในที่สูง แต่ก็ไม่มีผลอะไรเท่ากับอาราธนาไว้ติดตัว

    ตะกรุดดวงนี่พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเป็นสิ่งสำคัญ นั่นเพราะดวงเราอยู่ในนี้ เป็นตะกรุดที่มีพื้นฐานพลังงานการปลุกเสกเกี่ยวกับดาวนพเคราะห์ต่างๆทั้งศุภเคราะห์และบาปพระเคราะห์ อาศัยอำนาจตำแหน่งดวงดาวตลอดจนคาถาและพระเวทย์หนุนดันผลักส่งเจ้าชะตาขึ้นไปตามอำนาจอิทธิคุณด้านต่างๆแต่ได้มีการปรับฐานพื้นดวงด้วย

    ซึ่งที่ผ่านมาเห็นจะมีแค่ตัวหนุนดวงโคตรเศรษฐีมหาคฤหบดี ที่ต้องบอกว่ามาแรงแซงทางโค้งกว่าหนุนดวงทุกแบบ ด้วยว่าคนใช้ได้ลาภผลก็มักบอกต่อๆกัน โดยเฉพาะเจาะจงว่าจะต้องให้ท่านบีบอักขระจารลงในแผ่นทองแดงเท่านั้น เพราะหลายๆท่านที่เช่าไปคงทราบว่าต้องขึ้นคออยู่ตลอดเวลานั่นเอง

    ตะกรุดดวงทุกแบบของท่านสามารถใช้บทสวดบูชาบทกลางได้ นั่นคือ
    นะโม เม สัพพะเทวานัง สัพพะคะระหะ จะ เทวานัง สุริยัญจะปะมุญจะถะ สะสิ ภุมโม จะ เทวานัง วุโธ ลาภัง ภะวิสสะติ ชีโวสุกะโร จะ มะหาลาภัง โสโรราหูเกตุ จะ มะหาลาภัง สัพพะภะยัง วินาสสันติ สัพพะทุกขัง วินาสสันติสัพพะโรคัง วินาสสันติ ลักขะณา อะหัง วันทามิ สัพพะทา สัพพะเทวา มัง ปาละยันตุสัพพะทา เอเตนะ มังคะละเตเชนะสัพพะโสตถี ภะวันตุเมฯ

    เฉพาะสวดบทนี้ก็หนุนดวงตนเองอยู่แล้ว ยิ่งถ้ามีตะกรุดหนุนดวงทุกแบบของพ่ออาจารย์ท่านยิ่งดียิ่งขึ้นไปอีก สำหรับตะกรุดหนุนดวงนั้น นอกจากใส่ห้อยคอแล้วก็ควรสวดบูชาไปประจำด้วย พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าหากนำมาห้อยประจำกายและสวดคาถาบูชาประจำเทวดาที่รักษาตัวเรา รักษาดวงเราอยู่เค้าจะเข้าไปสถิตย์อยู่ในตะกรุดนี้ มีคุณมากเป็นเอนก สมัยก่อนเมื่อสมเด็จพระนเรศวรบรมบพิตรเป็นเจ้าท่านปรารถนาจะกู้บ้านกู้เมืองประกาศชัยชนะเหนือกรุงหงสาวดี สมเด็จพระพนรัตน์ท่านจึงผูกดวงพระองค์ทำยันต์ดวงพิชัยสงครามขึ้น รจนาพระคาถาดวงนี้ให้ฝ่าพระบาททรงเจริญเป็นประจำทุกค่ำเช้า ปรากฏผลกู้บ้านกู้เมืองได้สำเร็จ สืบแต่นั้นต่อมาคนทั้งหลายจึงนิยมสวดกัน ยันต์ดวงพิชัยสงครามนั้นก็ดีมักจะเป็นที่นิยมกันในหมู่ผู้รับราชการจะเลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง หรือจะไปรบทัพจับศึกเช่นนั้น

    เมื่อมาถึงพ่ออาจารย์พล ใครจะขอยันต์ดวงพิชัยสงครามท่านก็ไม่ขัด เพราะจะได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง เจริญในวาระราชการที่ตนเองปฏิบัติอยุู่ แต่ว่าท่านก็พิจารณาพระยันต์แล้ว แม้แต่ตัวท่านยังบอกเลยว่าไม่จำเป็น ยันต์นี้ไม่ได้เหมาะจะใช้ในยุคบ้านเมืองตอนนี้ ทั้งนี้ท่านยังได้ลองตรวจจับตะกรุดดวงสำนักดังๆหลายสำนักที่ทำการบรรจุดวงผู้บูชาเข้าไปในยันต์พิชัยสงคราม คนเหล่านั้นได้ส่งมาให้ท่านดูให้ ซึ่งท่านบอกกับเราว่า ร้อนจังเลย ที่จริงยันต์นี้ไม่ได้ร้อนขนาดนี้ ทำไมพลังจิตคนเสกถึงทำให้ร้อนไปเลย นี่ดวงเขานะ เสกแบบนี้ไม่ควรเลย ซึ่งท่านก็จะไม่ให้เราพูดเพราะมันจะดูไม่งามได้แต่บอกว่าดีๆมาตลอด อะไรเอามาก็ดี แต่ก็พิจารณากันเอง ท่านว่านอกจากพระยันต์แล้ว ฐานจิตการเดินพลังของผู้เสกเองก็เป็นสิ่งสำคัญ วิชาเกี่ยวกับตำรับพิชัยสงครามนี้ถ้าฐานจิตคนทำร้อน เป็นฐานกสิณไฟแล้วมันจะยิ่งทำให้ของร้อนขึ้นไปใหญ่

    คนที่อยากได้ตะกรุดหนุนดวง บางครั้งเค้าไม่ได้สนว่าเป็นยันต์อะไร เค้ารู้เค้าพูดกันสั้นๆว่ายันต์ เออจบ พูดว่าตะกรุดหนุนดวงก็คือหนุนดวงจบไม่ได้สนว่าทำอย่างไรยันต์อะไร หากแต่ว่าสมัยนี้นั้นคนที่มองหาตะกรุดดวงนี้ ไม่ได้จะนำไปกู้บ้านกู้เมืองที่ไหน แต่จะเอาไปหนุนดวงเรื่องปากท้องภาระหน้าที่ การงานของตัวเอง นี่คงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้มีแต่คนบูชาตะกรุดโคตรเศรษฐีกันมากจนตะกรุดตัวยันต์พิชัยสงครามนั้นตามไม่ทัน เอาเฉพาะท่านที่รู้จริง เรายังเคยแหย่ไปว่าทำไมไม่เอาตะกรุดหนุนดวงพระสุริยาทรงกลดตำรับพิชัยสงครามไปเลย ดอกใหญ่ดี เค้ายังบอกว่าไม่จำเป็นแก่ตัวเค้า

    ไหนๆก็พูดถึงตะกรุดหนุนดวงโคตรเศรษฐีแล้ว ต้องบอกคร่าวๆไว้เลยว่าวิชานี้แม้แต่หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ก็เคยใช้ แต่เป็นชื่ออื่นๆ และก็ไม่ทำให้ใครพร่ำเพรื่อด้วยถึงขนาดว่าไม่มีให้รู้จักให้เล่นหาเลยเพราะลงโคตรยาก ซึ่งพ่ออาจารย์เองท่านยังบอกเลยว่าลงยากมากเพราะการเดินพระยันต์นั้นไม่ใช่นั่งเขียนเอาๆ ต้องอาศัยฤกษ์และเดินผูกอักขระบริกรรมไปแบบค่ายกล มีความยุ่งยากซับซ้อนมาก ใครได้หนุนดวงตัวนี้ไว้ก็ดีใจได้เลย เพราะลงแบบค่ายกลถึงจะเล็กแต่ทำโคตรยาก

    วันนี้ก็เอาเรื่องตะกรุดหนุนดวงมาพูดคุยกัน เอาคาถาบูชาดวงนี่แหละไปสวด เห็นมีคนบูชาะกรุดโคตรเศรษฐีไปถูกหวยกันบ่อยมาก เอาไปสวดกันนะ ขอให้เจอเรื่องดีๆ ถ้าดีอยู่แล้วให้มันดีกว่าเดิมดียิ่งขึ้นไปอีก ขยันสวดด้วยแล้วกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 พฤศจิกายน 2015
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,097
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตะกรุดพลิกฟ้า ดวงโคตรเศรษฐีมหาคฤหบดี (เมตตาแสนล้าน)

    เห็นถามๆกันมาเพราะหาไม่ค่อยเจอ เลยเอาบทความเก่าที่เคยลงไว้เกี่ยวกับหนุนดวงโคตรเศรษฐีมาให้อ่านกัน

    ถ้าไม่ถึงกลียุค ไม่มีความจำเป็นอย่าได้สร้าง

    เป็นคำที่ครูบาอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชาให้ท่านได้สั่งไว้เป็นการเฉพาะ โดยวิชานี้ท่านให้ใช้ช่วยคนเมื่อถึงคราวเคราะห์เเละได้รับทุกข์ร้อนแสนสาหัสจริงๆ ซึ่ง วิชานี้มีดีอยู่สองด้านใหญ่ๆ ที่เห็นเด่นชัดที่สุด คือ
    1. โชคลาภโภคทรัพย์แบบบุญหล่นทับ ช่วยดึงดูสิ่งดีๆ เเละเร่งบุญเเละวาสนามาสู่ตัวของเรา
    2. เสน่ห์เมตตาควบคู่กับเงินทอง ตะกรุดนี้อย่าไปแช่น้ำให้ใครกิน ท่านว่า แค่พกไว้ก็เป็นเมตตาแล้ว ตราบใดที่โลกนี้ยังมีลมอยู่ มนุษย์ยังต้องหายใจกันอยู่ กระแสลมนั้นพัดไปในทิศใดเขาก็รักเราเมตตาเราในทิศนั้น

    วิชานี้ต้นกำเนิด มติเเห่งครูบาอาจารย์ได้สร้างวิชาเพื่อสืบสานช่วยเหลือคน โดยใช้ความเป็นอริยบุคคลและบุญญาธิการอันหาผู้เสมอเหมือนมิได้ ของอัครมหาเศรษฐี 2 ท่าน แห่งพุทธกาล มาเกื้อหนุนดวงชะตาแบบเฉพาะเจาะจง ซึ่งก็คือ
    1. ท่านเมณฑกเศรษฐี
    2. ท่านโชติกะเศรษฐี

    ซึ่งท่านเมณฑกเศรษฐีนี้ มีบุญญาธิการมากขนาดมีขุมทรัพย์แพะทองคำไว้ในครอบครองนับสิบตัว แต่ละตัวหนักเท่าม้าเท่าโค ประสงค์สิ่งใดก็ใช้ไหมแก้วสารพัดนึก เพียงเเค่นึกก็ดึงออกมาจากปากแพะได้ จะเพชรนิลจินดา ข้าวของเงินทองเสื้อผ้าเเพรพรรณทุกอย่าง ดึงได้ตลอดชีวิตดึงได้ไม่จำกัด ทำให้ท่านร่ำรวยมากเป็นมหาเศรษฐีของพระราชา ใครอยากได้อะไรมาขอท่านก็ดึงออกมาให้ ถามว่า รวยเเค่ไหน ท่านว่า เจ้าสัวสมัยนี้ยังทำแบบท่านไม่ได้ เพราะทรัพย์ท่านใช้ได้ไม่มีวันหมดเเละไม่มีวันพร่องอันเกิดเเต่บุญญาธิการของท่านนั่นเอง

    อีกท่านหนึ่งคือโชติกะเศรษฐี ผู้มีบุญญาธิการมาก ได้ครอบครองสมบัติจักรพรรดิ์ ซ้ำยังใช้ชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์เฉกเช่นเทพเจ้า ด้วยของวิเศษคู่บุญบารมีแม้ แต่กษัตริย์อย่างพระเจ้าอชาติศัตรูก็ไม่สามารถจะเเย่งชิงทรัพย์สมบัติของท่านไปได้ ใช้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันพร่อง อาศัยอยู่ในปราสาทแก้วรัตนที่พระอินทร์ลงมาเนรมิตรถวาย มีคู่ครองเป็นนางแก้วในอุตรกุรุทวีป บุญญาธิการของท่านนั้นไม่สามารถไล่เรียงได้หมด

    ครูบาอาจารย์ แต่โบราณหวงเเหนวิชาเหล่านี้มาก เพราะว่า สามารถบันดาลให้ผู้ใช้สำเร็จได้ไว รวยได้ไวเเบบบุญหล่นทับ ท่านเกรงว่า คนใช้จะขาดสติควบคุมตนเองไม่ได้เเล้วจะลืมตัว

    พ่ออาจารย์พิจารณาเเล้วว่า เหมาะแก่การณ์แก่ยุคสมัยที่จะทำตะกรุดนี้ เพราะท่านอยากเห็นลูกหลานมั่นคงร่ำรวยกันถ้วนทุกคน

    การทำตะกรุดนี้ยุ่งยากในเรื่องของพระคาถาการเดินอักขระบังคับเเบบกลบท ลงมั่วไม่ได้ข้ามตอนไม่ได้ ก่อนหลังต่องแม่น คาถาต้องแม่น เเละที่ยากที่สุดคือการผูกดวงชะตาของผู้บูชาลงในตะกรุดเเล้วอธิษฐานจิตเสกให้ชีวิตเจริญขึ้น ได้ดีร่ำรวยเเบบเดียวกับเมณฑกเศรษฐีและโชติกะเศรษฐี

    วิชานี้เเต่เดิมท่านไม่ทำ เเละเวลาทำก็ต้องเลือกคนทำคนให้ ให้เค้าเอาไปใช้งานจริงๆ ให้เค้ามั่นใจจริงๆ ว่า ตนเองจะไม่หลงลืมตัวเมื่อได้ดี ให้เค้าเอาไปสร้างเนื้อสร้างตัวแบบนั้น

    ในการเสกต้องเชิญบารมีของพระสีวลีมหาเถระ ท่านเมณฑกเศรษฐีและท่านโชติกะเศรษฐีมาลงมาโปรดโดยเฉพาะ ให้ท่านทั้งสามสงเคราะห์ เอาบารมีท่านเป็นที่พึ่ง ดวงใครดวงมันให้ทั้งสามท่านทำให้เป็นคนๆ ถือเป็นตะกรุดที่ใช้ฝืนดวงตัดเคราะห์กรรมเก่าได้อย่างเเท้จริง

    ตะกรุดนี้เลือกผู้รับด้วย ผู้ประสงค์จะใช้ให้ส่งวันเดือนปีเกิดมาให้ท่านพิจารณา เมื่อท่านตอบรับเเล้วจึงจะลงดวงให้ ซึ่งยันต์และอักขระทุกสูตรทุกกลบทจะช่วยเสริมช่วยหนุนเราเป็นครั้งแรกที่ทำตะกรุดเรียกลาภเเบบเฉพาะเจาะจงดวงใครดวงมัน

    เป็นตะกรุดที่เน้นโชคลาภบุญพาวาสนาส่ง ให้ได้ดีลืมตาอ้าปากได้ เรื่องเสี่ยงโชคเรื่องลาภลอยเเบบฟลุ๊คๆ ก็ใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านสรุปให้ฟังว่า อะไรที่เกี่ยวกับชะตาวาสนาของเราใช้ได้ทั้งหมด ทำให้เราได้ดี ถ้าไม่มีคู่ครองก็ให้เจอนางแก้วเจอคู่ครองที่ดี ถ้าชีวิตยังไม่ดีก็ปรับแก้ให้ดีขึ้นไม่ต่ำลง

    ตะกรุดนีัคาถาไม่มี มี แต่วิธีใช้
    วิธีใช้นั้นท่านให้นำตะกรุดจบหัวระลึกถึงพระรัตนตรัยเป็นที่สุด มีพระสีวลี ท่านโชติกะเศรษฐี ท่านเมณฑกเศรษฐี ปรารถนาอะไรจะโชคลาภการงานหรือนางแก้วก็ให้สร้างมโนภาพตั้งความปรารถนาของเราเอาไว้ ขอเอาจากท่านโดยตรง อยากขออะไรขอได้ทุกอย่างอย่าให้ผิดศีลธรรมและเกินวาระกรรมของตนเอง ขอให้ท่านเมณฑกชักลากจากปากแพะทองคำออกมาให้ ขอให้ท่านโชติกะประทานขุมทรัพย์ที่ไม่มีวันพร่องของท่านมาให้เเก่เรา

    ข้อแม้ของผู้บูชาตะกรุดนี้ จะต้องเป็นคนทำบุญให้ทานเป็นนิจเฉกเช่นมหาเศรษฐีทั้งสองท่าน ห้ามมีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้นว่า ไม่สะดวก เพราะการทำทานนั้นแม้เราอยู่เพียงคนเดียวก็ทำได้ จะทำที่ไหนก็ทำได้

    ตะกรุดนี้ลงดวงของผู้บูชาอาศัยวิชาของมหาเศรษฐีในตำนานทั้งสองท่านที่ร่ำรวยมากให้ผลมากมาสงเคราะห์ดวงของเราโดยตรง แม้เเต่มหาราชายังอิจฉาปรารถนาจะครอบครองทรัพย์สมบัติของท่าน ร่ำรวยขนาดไหนก็คิดดูเอาเองเเล้วกัน

    การที่ใช้วิชาเเละเชิญมหาเศรษฐีทั้งสองท่านนี้มาช่วยด้วยกระเเสแห่งวิปัสสนาญาณและความเป็นอริยบุคคลของท่านทั้งสอง เมื่อท่านเหยียบดวงเราช่วยเหลือค้ำชูเรา จึงปิดตายหนทางตกต่ำ ทำการงานไม่ขึ้น ให้ผลิดอกออกผลงอกเงยเบบเจาะจงเรียงหัวเรียงตัว

    สำหรับตะกรุดดอกนี้ผู้ใดจะบูชาก็ PM มาคุยกันก่อน เป็นครั้งเเรกของตะกรุดด้านโชคลาภที่เป็นที่สุดที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างชนิดลงดวงไปเลยตามตำราให้ตรงและไว ซ้ำยังใช้นะปถมังต่างๆ ลงจนไม่มีที่ว่างช่วยเร่งให้ผลิดอกออกผลงอกเงยไวกว่าปกติ เป็นการเสริมอานุภาพของดวงเราของพระยันต์ที่สงเคราะห์ดวงเราให้ทวีสูงขึ้นไปอีก

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ได้ถักเชือก คลุกน้ำหมากของท่าน เเละนำมาคลุกผงวิชาปัจเจกพุทธเจ้า ผงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่มีชนวนผงของหลวงพ่อปานที่ท่านใช้สร้างพระสมเด็จองค์ปฐม เป็นการเร่งลาภสักการะเปิดโชคเปิดทุกทิศทางให้แก่ผู้บูชา ท่านว่า เป็นการสงเคราะห์แบบนอกใน ดีทั้งนอกและใน ลืมตาเห็นปิดตารู้

    ทำบุญได้บ่อยให้ทานได้ตามโอกาส ก็ค่อยส่งดวงมาให้ท่านพิจารณาทำตะกรุดเป็นรายบุคคล

    สืบเนื่องจากตะกรุดพลิกฟ้า ดวงโคตรเศรษฐีมหาคฤหบดี (เมตตาแสนล้าน) เป็นตะกรุดหนุนดวงเฉพาะคน ซึ่งพ่ออาจารย์มีเจตนาให้เอาไว้บูชากันจริงๆ โดยให้ห้อยคอได้ เเละก็มีเสียงเรียกร้องว่า ไม่ชอบตะกรุดดอกใหญ่ๆ อาราธนาติดตัวกันลำบาก

    พ่ออาจารย์ท่านจึงเมตตาทำตะกรุดนี้ลงแบบเต็มสูตรเท่าเดิมเเละมากกว่าเดิมด้วยการเสริมนะปถมังเพิ่มขึ้น เเต่ละตัวลงจารละเอียดเเบบจิ๋วๆ ลงในแผ่นทองแดงหน้าตัด 3 นิ้ว เมื่อม้วนส่วนหน้าตัดแล้วก็จะได้ตะกรุดขนาด 3 นิ้ว ไม่เกะกะเเละไม่หนักคอเนื่องจากเป็นแผ่นทองแดง

    การลงนั้นทวีความยากขึ้นไปอีก เพราะท่านต้องใช้สมาธิหนักเเละกระเเสจิตมากกว่าปกติเนื่องจากท่านบีบให้เล็กลงที่สุดเพื่อให้ศิษย์ได้บูชากันจริงๆ ท่านว่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำได้ยาก ท่านก็ทำให้เกิดขึ้นเเล้ว ต่อไปชีวิตคนที่เขาใช้ต่อให้เจอเรื่องยากก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆ ผ่านไปได้อย่างไม่ขุ่นข้องหมองใจ

    การลงนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ที่ท่านทำให้ เพราะจิตใจท่านอยู่บนพื้นฐานของความเมตตาเป็นเหตุ ตะกรุดนี้ตามรายละเอียดที่แจ้งนอกจากโชคลาภแล้วยังมีดีทางเสน่ห์เมตตาแบบสุดๆ ดังที่กล่าวว่า เสน่ห์เมตตาควบคู่กับเงินทอง ตะกรุดนี้อย่าไปแช่น้ำให้ใครกิน ท่านว่า แค่พกไว้ก็เป็นเมตตาแล้ว ตราบใดที่โลกนี้ยังมีลมอยู่ มนุษย์ยังต้องหายใจกันอยู่ กระแสลมนั้นพัดไปในทิศใดเขาก็รักเราเมตตาเราในทิศนั้น

    เพียงเฉพาะยันต์เเละวิชานั้นก็เป็นเสน่ห์เมตตาแก่ดวงเจ้าชะตาแล้ว ยังเพิ่มเจตนาและความตั้งใจขององค์ผู้สร้างลงไปอีกที่เวลาลง มีเจตนาลงด้วยพื้นฐานแห่งความเมตตาเเละความตั้งใจจริงที่จะทำของดีไว้ให้ได้ใช้กัน จึงถือว่า เป็นคติกลเเละอุปเท่ห์แห่งเมตตาแฝงไว้ในตะกรุดอีกชั้นเพื่อเสริมและรองรับกระเเสจิตเเละความปรารถนาดีจากองค์ผู้สร้าง

    กล้ากล่าวได้เลยว่ายุคสมัยนี้จะหาครูบาอาจารย์มานั่งลงตะกรุดดอกเล็กๆ จิ๋วๆ เองกับมือให้เต็มสูตรเท่ากับดอก 7-8 นิ้วนั้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ปราณและพลังใจความตั้งใจมากกว่าปกติ แทบจะไม่ต้องหากันเเล้ว

    รูปที่ให้ดูเป็นรูปเเผ่นทองแดงหน้าตัด 3 นิ้ว ที่พ่ออาจารย์ลงเสร็จ เห็นเเล้วเรายังตกใจกับความตั้งใจของท่านที่อยากจะให้ผู้บูชาทุกคนได้รับสิ่งดีๆ ที่มาจากความปรารถนาดีของท่านจริงๆ

    ตะกรุดนี้ท่านที่จะบูชาแจ้งมาด้วย ว่าจะเอาแบบตะกั่วดอกยาว หรือทองแดงดอกจิ๋ว ซึ่งมีข้อแม้อยู่เพียงอย่างเดียวว่า หากปรารถนาตะกรุดทองแดงดอกจิ๋วไว้ห้อยคอแล้วท่านต้องหาแผ่นทองแดงส่งมาให้พ่ออาจารย์เอง ขนาดหน้าตัด5*5 นิ้วนั่นเเหละแผ่นนึงไม่เกิน 20 บาท ขาดเกินท่านตัดทิ้งเองเมื่อลงเสร็จ ท่านว่า เป็นอุปเท่ห์ที่เวลาลงให้มีเหลือมีเกินเหมาะกับทำของด้านโชคลาภโดยแท้
     
  20. อสูรฟ้า

    อสูรฟ้า Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2013
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +87
    สั่งทำตลับพุกไว้ อลังการ ใหญ่ม้ากกก เกิอบ 700 บาทแน่ะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • mypic001.jpg
      mypic001.jpg
      ขนาดไฟล์:
      629.6 KB
      เปิดดู:
      96

แชร์หน้านี้

Loading...