ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จสิทธิพระที่นั่งมหาบัลลังก์(ปรารถนาเป็นหนึ่งกุณฑธานเถระ) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีคนเล่าประสบการณ์ของพ่อฟ้าฟื้นเข้ามา เดี๋ยวตอนเย็นจะยกมาพูดคุยกันเป็นกรณีตัวอย่างนะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    พูดคุย
    ก็มาพูดคุยกันช่วงเย็นนะครับ

    วันนี้ก็จะมาพูดกันถึงเรื่องประสบการณ์ของพ่อฟ้าฟื้น(สามอาถรรพ์มหาพรหมเจ็ดภาค) ที่พี่คนหนึ่งได้เล่าให้ฟัง แต่ผมจะยกเคสนี้ไว้เป็นเคสตัวอย่างให้พิจารณากัน ว่าเออนะ เรื่องบางเรื่องใจมันก็ต้องเด็ดขาดจริงๆเพราะเป็นเรื่องไม่ควรยุ่งควรทำอย่างยิ่ง

    พี่ท่านนี้ได้มาปรึกษาปัญหาหลังจากที่บูชาพ่อฟ้าฟื้นไป ว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเขาจะบาปมั๊ย อันนี้ก็จะพูดว่าเป็นเคสตัวอย่างให้พิจารณากันเอาเองว่าถ้าเป็นเราเป็นท่านจะข่มใจหรือทำเช่นไร

    สำหรับพี่คนนี้เขาเล่าว่าเขารู้จักผู้หญิงมาคนนึงนี่แหละ แต่ผู้หญิงค่อนข้างวางตัวพูดง่ายๆคือจีบกันอยู่ แต่ยากไปหมด ทั้งเจอกันยาก พัฒนาความสัมพันธ์ยากสารพัดมีแต่เรื่องยากๆ พี่คนนี้เขาเล่าว่าเชื่อมั๊ย ขนาดนัดกันดิบดี กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง มีแต่ต้องไปรอและเธอก็ไม่มาตามนัดทุกครั้ง มีเหตุผลข้ออ้างเยอะมาก พูดตรงๆเหมือนไม่ได้รับการสนใจจากฝ่ายหญิงเลยจนพี่เค้าว่าผมถอดใจแล้ว ท้อมากๆ

    แต่อยู่ดีๆหลังที่ที่บูชาพ่อฟ้าฟื้นไป ก็ยังพูดคุยปกติ ตัวพี่เค้าว่าส่วนตัวยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงอะไรที่บูชามาวันแรก ทีนี้พี่เค้าก็นัดกับผู้หญิงคนนี้อีก ซึ่งจากที่โดนมาพี่เค้าว่าผมทำใจไว้แล้วว่าเธอไม่มาแน่นอน ดังนั้นตัวเองก็เลยไม่ได้เตรียมตัวไปตามนัดเหมือนทุกครั้ง

    ปรากฏว่าวันนั้นผู้หญิงก็ไม่มาจริงๆเหมือนที่พี่เค้าคิดไว้อีก แต่พอวันต่อมาพี่เค้าเล่าว่าผู้หญิงคนนี้โทรมาหาเขาเองและเป็นฝ่ายนัดเขาเองในวันรุ่งขึ้น ซึ่งตัวผู้หญิงนั้นอยู่ดีๆก็ลงทุนเดินทางมาจากต่างจังหวัดเพื่อเจอพี่เค้าเลย พี่เค้าว่านั่งรถตู้มาหาจากสุพรรณทีเดียว

    พี่เค้าว่าแปลก มันแปลกจริงๆเพราะตัวผู้หญิงที่ไปเจอวันนั้นเค้าพูดขึ้นมาว่าตัวเค้าฝันและอยู่ดีๆก็ใจเสียรู้สึกไม่ดี ยังไงพูดกันแล้วก็ต้องรักษาสัญญาจึงยอมมาเจอ ซึ่งตอนนั้นพี่เค้าว่าเค้าสังเกตุจากแววตาสีหน้าของผู้หญิงที่พูดสั้นๆแค่นั้น แต่เค้ารู้ว่าต้องมีอะไรแน่ๆเพราะสีหน้าแววตามันไม่ปกติ แล้ว
    หลังจากนั้นก็มีเรื่องการสานความสัมพันธ์ที่เกินเลยกันเกิดขึ้น

    แล้วต่อมาพี่เค้าบอกว่าเค้ามารู้ทีหลังว่าผู้หญิงคนนี้มีสามีอยู่แล้ว ที่มาหาเค้าก้คือแอบหลบสามีออกมาด้วย ซึ่งจริงๆแล้วพี่เค้าว่ามันเป็นลางสังหรณ์ของผู้ชาย ตัวเค้าคิดตั้งแต่แรกแล้วว่าคนๆนี้หน้าตาแบบนี้ไม่น่าโสด ยังไงก็ต้องมี แต่พอได้เจอกันเเล้วกิเลสตัณหามันพาไป เลยคิดเข้าข้างตัวเองว่าเค้าคงโสดจริงแหละ เอาตรงๆคือตอนนั้นอดกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ได้

    เค้าว่าเค้าเชื่อเรื่องเสน่ห์ดลจิตดลใจของพ่อฟ้าฟื้นนะ เนื่องจากตอนที่คุยกันเค้าสังเกตุได้ว่าตัวผู้หญิงต้องฝันอะไรเป็นเหตุให้ต้องมาหาเค้าแน่นอนเพราะว่าดูแววตาเค้าเหมือนจะเกรงๆตัวเราพี่เค้าว่าแบบนั้น ไม่อย่างนั้นเป็นปีนัดไว้ทำไมยังไม่คิดจะมาเจอหน้ากันเลย แต่สุดท้ายพี่เค้าว่าก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้และมาถามเราว่าแบบนี้จะเป็นบาปเป็นกรรมมั๊ย เพราะตอนนี้เรื่องมันชัดแล้วว่าผู้หญิงอยู่กับสามี ตัวเค้าก็เลิกติดต่อพูดคุยกับผู้หญิงคนนี้แล้ว

    อันนี้ก็ต้องให้พิจารณากันเอง บอกได้แค่ว่าเรื่องบางเรื่องตัวเราเองต้องใช้จิตใจคุมร่างกายให้ได้ อย่าให้ความอยากความปรารถนามาครอบงำเรา เพราะมันจะเป็นการก่อบาปก่อเวรโดยไม่รู้ตัว สำหรับคนที่เล่นทางสายเสน่ห์ เวลาจีบเวลาคุยกับใครก็อยากให้มองกันดีๆว่าเป็นคนไม่มีเจ้าของจริงๆตรงนี้มันไม่ใช่มองกันชั่วครั้งชั่วคราวแล้วจะคิดเข้าข้างตัวเองไปได้ มันต้องใช้ระยะเวลาในการเรียนรู้ทำความรู้จักกันจริงๆ และทำอย่างไรจะไม่ผิดศีลเป็นบาปกรรม นั่นก็คือความรับผิดชอบ ความตั้งใจจริงถ้าเราจีบเราได้เพราะความรักแล้วเราเลี้ยงดูเค้าเป็นคู่ครองที่ถูกต้องเช่นนี้ก็ไม่ผิด
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตอบ PM ครบนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เดี๋ยววันนี้ส่งของให้แล้วมาติดตามกันดีๆนะ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ถามกันมาว่า พระปิดตาเนื้องผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) วันนี้จะออกให้จองได้มั๊ย เอาจริงๆวันนี้ผมยุ่งๆเลยจะเปิดให้จองกันพรุ่งนี้ครับ ส่วนรอบเย็นๆผมจะส่งของให้เพราะตอนนี้ติดฝน
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ ET 0634 2182 1 TH

    พี่วิศณุกร ET 0634 2183 5 TH

    พี่กฤตเมธ ET 0634 2184 9 TH

    * วันนี้จัดส่งบางส่วนนะครับ บางส่วนยังอยู่ร้านเลี่ยม
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้เหนื่อยสุดๆ พรุ่งนี้มาติดตามกันนะครับ ขอกะซิบว่ามีไม่มาก;)
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะลงรายการให้นะ ติดตามๆ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)

    นับแต่โบราณกาลสืบมานั้นหากปรารถนาจะสร้างเครื่องมงคลที่มีอิทธิคุณหนักไปทางชุ่มเย็น เห็นผลทาง เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาดแล้ว ก็มักนิยมทำเป็นรูปพระภควัมปติหรือพระปิดตากันมาก โดยเฉพาะเจาะจงให้ใช้เนื้อผงมวลสารวิเศษต่างๆเป็นหลักมากกว่าจะใช้โลหะธาตุอื่นๆ กอปรกับความนิยมของพระเครื่องพระปิดตาเนื้อผงของหลวงปู่โต๊ะมีสูงมาก และมีหลายๆคนมักจะถามว่าพ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระปิดตาจัมโบ้แบบของหลวงปู่โต๊ะไว้บ้างหรือไม่ ซึ่งท่านก็รับแต่เพียงว่า เราทำไว้ แต่ยังไม่ได้เวลา


    จำเนียรกาลผ่านไป อาหารการกินชีวิตความเป็นอยู่และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเบื้องหน้านั้น ท่านเห็นว่าคนจะอยู่ได้ยากหากปราศจากวาสนาและลากสักการะนานาทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำรินำพระปิดตาที่ท่านได้บรรจงสร้างสรรค์ไว้ดีแล้วออกมาให้ร่วมทำบุญกัน


    พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น อุบัติขึ้นจากความตั้งใจของครูบาอาจารย์ โดยครูสมเด็จท่านได้นิมิตสอนพ่ออาจารย์ถึงการทำผงวิเศษที่เรียกว่าผงเปิดวาสนามหาอุดม ซึ่งเป็นผงเปิดวาสนาบารมีเฉพาะทาง โดยพ่ออาจารย์นั้นท่านได้พูดถึงตัวผงเปิดวาสนามหาอุดมว่า คนเรานั้นเมื่อพูดถึงคำว่าวาสนาแล้วเราจะนึกไปถึงคนที่เขาโชคดี มีโชคอยู่เรื่อยๆไม่รู้หยุดรู้หมด คิดว่าคนเช่นนี้คือคนวาสนาดี ซึ่งแท้จริงแล้วเจ้าตัววาสนานี้มันเกิดจากผลแห่งบารมีที่ตนได้กระทำไว้เป็นเหตุให้เกิดขึ้น มิใช่อยู่ดีๆมันจะเกิดขึ้นได้เอง หากแต่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการสร้างบารมี เป็นคนมีบารมีมากก็พลอยให้มีวาสนาดีไปด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่ามีแต่ตัวเราเองเท่านั้น ที่จะรู้ว่าตัวเองมีบารมีอยู่หรือไม่ แล้วชีวิตทุกวันนี้ในเมื่อมีบารมีอยู่ทำไมกลับไร้วาสนา ทั้งๆที่ทำบุญให้ทานปฏิบัติภาวนามิได้ขาด แต่ทำไมกลับผีซ้ำด้ามพลอยเจอแต่เรื่องแย่ๆไม่เว้นวัน


    ท่านว่าการทำผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ ก็คือผงเปิดโลก ผงที่ใช้เปิดบารมีช่วยให้คนมีวาสนาหลีกเร้นเคราะห์ภัยที่จะเกิดไม่ให้เข้าถึงตัวนั่นเอง ผงเปิดวาสนามหาอุดมนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไมต้องมหาอุดม เพราะโบราณจารย์และครูสมเด็จท่านสอนว่ามหาอุดมนั้นก็คือที่สุด สูงสุด เป็นความบริบูรณ์พูลพร้อมในทุกสรรพสิ่งอย่างเลอเลิศ อย่างสูงสุดสมบูรณ์ไม่มีประมาณ ดังนั้นผงเปิดวาสนามหาอุดมนี้ก็คือที่สุดของผงที่ใช้เปิดบารมีให้คนเต็มคน ให้คนกลายเป็นคนที่บริบูรณ์ถึงพร้อมด้วยวาสนาและความโชคดีนานัปการ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ครูท่านเมตตาสงเคราะห์เพื่อให้ใช้ให้ปรากฏเฉพาะกาล ในเฉพาะยุคสมัยเท่านั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่กระทำได้ยากเพราะสุดท้ายก็ต้องให้เหล่าองค์พระอรหันต์ช่วยกันอธิษฐานบารมีอันเป็นบารมีเฉพาะทางเพื่อให้ผงนี้มีกฤติยาคมสูงสุดแตกต่างจากมงคลสักการะทั่วไป


    พ่ออาจารย์ท่านได้เมตตาเล่าถึงพระเครื่องของหลวงปู่โต๊ะไว้ว่า ในตอนนั้นหลวงปู่ท่านได้มวลสารผงพระเก่าของวัดระฆังและบางขุนพรหมไว้มาก ท่านจึงได้อาราธนาบารมีสมเด็จโต ใช้ผงเก่าที่ชำรุดแตกหักเหล่านั้นมาสร้างพระเครื่องของท่าน จนพระเครื่องของท่านกลายเป็นพระที่มีอภินิหาริย์มากดุจเดียวกัน ดังนั้นเมื่อพ่ออาจารย์ท่านมีดำริจะสร้างพระปิดตา ท่านว่าจำเป็นที่จะต้องใช้มวลสารเก่าของครูสมเด็จผสมด้วยผงวิเศษทั้งห้าประการเป็นผงตั้งต้น นอกจากนั้นแล้วเพื่อให้ได้อานุภาพสูงสุดตามแบบอย่างพระปิดตาที่ควรจะมีท่านจึงได้ลบถมผงวิเศษอีกสองชนิดเป็นการเฉพาะ ถึงอย่างละ 108 หน ประกอบด้วย
    - ผงยันต์มหาละลวยตัวเต็ม พ่ออาจารย์ว่าผงนี้เมื่อลบถมต่อเนื่องกันถึง 108 ครั้ง ซึ่งเป็นการลบผงที่กระทำได้ยาก ส่งผลให้ผงนี้มีอานุภาพมากเกินกว่าจะบรรยายได้ ท่านว่าพูดกันสามวันก็ไม่จบ โดยปกติแล้วผงนี้จะมีคุณมากท่านว่าแค่เศษผงหากได้พกพาอาราธนาแล้วจะช่วยยกสง่าราศีทำให้ผู้บูชาเป็นที่รักของคนทั้งหลายไม่ว่าจะชายหรือหญิง ใครไม่รู้จักก็อยากเข้ามาหาเข้ามาทำความรู้จักเรารักเราดุจพี่น้องร่วมสายโลหิต ซ้ำยังเป็นตบะเดชะดีนักช่วยให้คนเกรงใจเรามีอำนาจดังพระยาราชสีห์เวลาจะทำอะไรก็ไม่ขัดใจเป็นทั้งเมตตาและมหาอำนาจประสานกันอยู่ในที และยังกันกระทำกันภัยอันตรายด้วยประการทั้งปวง ท่านว่าอธิบายได้คร่าวๆเท่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้มีอานุภาพมากถึงกับกล่าวได้วาหากใครได้พบ นับว่าเป็นบุญวาสนาของบุคคลผู้นั้น แม้จะมีชีวิตอาภัพมาจากไหนก็ตาม นับจากนี้ไปจะไม่รู้จักคำว่าอาภัพเลย

    - ผงยันต์สุกิตติมา พ่ออาจารย์ท่านได้ทำการลบถมถึง 108 หนเช่นเดียวกัน ท่านว่าบางที่ก็เข้าใจผิดว่าเป็นยันต์มหาละลวย เนื่องจากมีคุณด้านมหาเสน่ห์อย่างโดดเด่นนี่เอง พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ดีนักไม่ดีจริงไม่ใช้สืบกันมาตั้งแต่พระสังฆราชแพแน่นอน ท่านว่ามีคุณทางเมตตาอย่างเอก ถึงกับปรารถนาให้สตรีใดมาหาเราเขาก็จะมาหาเราดังปรารถนา แม้มีปากเสียงทะเลาะเบาะแว้งครอบครัวไม่ลงรอยกันก็จะคืนดีกันโดยไวนี่คือเมตตาอย่างเอกถึงขนาดที่ว่าทะเลาะกันอยู่ก็เปิดปากด่ากันไม่ลง นอกจากนั้นแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ยังมีดีทางหนุนดวงชะตาด้วยพลิกดวงกลับจากร้ายให้กลายดีแบบเชื่อขนมกินได้ ซ้ำเมื่ออาราธนาติดตัวไว้ ด้วยอำนาจของคุณวิชาพ่ออาจารย์ว่าผงนี้ยังจะช่วยขับไล่ปัดเป่าเสนียดจัญไรออกไปพ้นจากร่างกาย พ้นจากชีวิตทีเดียว


    เมื่อท่านได้นำผงมวลสารทั้งหมดมาผสมกันแล้ว ท่านยังได้ผสมผงเกษรว่านและดอกไม้มงคล ตลอดจนผงคตวิเศษและน้ำมันจากบูรพาจารย์ต่างๆนวดหมักไว้กับเนื้อพระ ก่อนจะกดพิมพ์องค์พระขึ้นมา ซึ่งพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก)นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้พิถีพิถันในการเสกมาก เพราะเป็นพระที่ใช้เกี่ยวกับเรื่องเปิดบารมี ต้านทานผลกรรมและกฏแห่งกรรมทั้งหลาย ท่านว่าทุกขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจึงมีรายละเอียดมาก ทั้งต้องอาราธนาเสด็จพระใหญ่ และพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่มีประมาณในจักรวาลแสนโกฏิมาช่วยกันคุมพิธีไหนจะองค์อรหันต์และเทพพรหมมากมาย


    ซึ่งองค์พระปิดตานั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ฝังอิทธิมงคลศักดิ์สิทธิ์หลายชนิดลงไปด้วย ได้แก่
    - พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือ พ่ออาจารย์ท่านได้นำรังต่ออาถรรพ์ที่ท่านพลีมาตามวิธีการของท่าน มากดเป็นพยนต์ต่อหัวเสือ เพื่อที่จะฝังในพระปิดตาโดยเฉพาะ ท่านว่าคุณปกตินั้นต่อจะเปิดทางโชคลาภวาสนาบารมีให้กับผู้บูชาอยู่แล้ว ทั้งต่อเงินต่อทอง ต่อโชคลาภวาสนาบารมีต่างๆ แต่พญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าท่านใช้วิชาผูกหุ่นพยนต์เป็นกฤติยาคมแฝดด้วย ดังนั้นตัวต่อนี้ยังคอยปกป้องรักษาดูแลเจ้าของดุจทาสผู้ซื่อสัตย์ แม้ใครมารังแกหรือทำร้ายเราท่านว่าเค้าจะได้ผลกลับคืนสนองไปในสิ่งที่ตัวเองกระทำ พ่ออาจารย์ท่านว่าดูอย่างตะกรุดมหาสะท้อนนั่นเป็นไร เพียงแค่อาถรรพ์แห่งคุณวิชาก็ให้ผลปานนั้นแล้ว แต่นี่คือหุ่นพยนต์ที่มีชีวิตจิตใจ ท่านว่าก็คิดเอาเองแล้วกันว่าเค้าจะตอบสนองขนาดไหน ซ้ำยังช่วยเราได้หลายเรื่อง วันไหนติดขัดอะไร ให้ตั้งนึกถึงเจ้าตัวต่อนี้ให้ดี บอกเค้าไปว่าต่อโชคให้พ่อหรือแม่ทีสิ ต่อวาสนาให้พ่อหรือแม่ทีสิ คือจะทำอะไรที่คิดว่ามันหมดมันไปต่อไม่ได้แล้ว ให้อธิษฐานกับเค้า เดี๋ยวทางจะมา ไม่หยุดไม่หมดและจะได้ต่อออกไปเรื่อยๆ ถึงขนาดที่พ่ออาจารย์ท่านพูดติดปากเกี่ยวกับตัวต่อนี้ว่าได้แล้วได้อีกทีเดียว ท่านว่าคนเราส่วนใหญ่มีหลายประเภท มีทั้งที่ไม่เคยได้รับเลยก็มี หรือที่ได้แต่พอได้แล้วจะตันก็มี ดังนั้นท่านจึงผูกพญาพยนต์เพชรฆาตต่อหัวเสือขึ้นมาเป็นการเฉพาะท่านว่าสิ่งนี้ใช้แก้ทางกัน ซ้ำท่านได้อธิษฐานบอกกล่าวท้าวทั้งสี่ตลอดจนเทพยดาอันจำแลงเป็นตัวต่อนี้ให้คอยช่วยเหลือต่อวาสนา ต่อลาภผล ต่อสิ่งที่ดีทุกประการให้เหมาะสมตามลักษณะการใช้ชีวิตของแต่ละบุคคลออกไปไม่รู้หมด ท่านว่าสิ่งใดดีกับเขาก็ให้ต่อสิ่งนั้นออกไปเรื่อยๆเขาจะได้มีกำลังใจในการใช้ชีวิต ให้ชีวิตเขาได้แล้วได้อีกไม่รู้หมดรู้พอนั่นเอง
    - ลูกอมหัวใจแม่นางฟ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาลบผงมหาเมตตาขั้นสูงเป็นการทำลูกอมที่ให้ผลด้านเสน่ห์เมตตาอย่างเอก โดยท่านว่าจะเรียกลูกอมหัวใจแม่นางฟ้าหรือได้นางฟ้าก็ได้ ท่านว่าเรื่องนี้เราไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ แต่เอาเป็นว่าให้เข้าใจตรงกันคือ แม้ใครไร้คู่ก็จะได้คู่ครองที่ดี เอาว่าผลมันออกมาตามเจตนาพื้นฐานของจิตใจคนใช้ หากมีคู่อยู่แล้วก็จะช่วยให้ได้อยู่ในสังคมที่ดี ได้เจอคู่เจรจาหรือเพื่อนร่วมงานที่ดี ท่านว่ามันเป็นพลังอาถรรพ์แปลกๆที่จะทำให้เราเจอแต่คนดีๆทำให้ชีวิตเรา ทำให้เราเจริญขึ้น เป็นวิชาอาถรรพ์วิชาหนึ่ง ท่านว่าจะใช้ทางเสน่ห์ชู้สาวก็ได้ หรือจะใช้ทางเมตตาเขาหาคนเพื่อจะเจราจาก็ได้
    - ตะกรุดเปิดขุมทรัพย์ เป็นวิชาที่ท่านลงตะกรุดฝังไว้ด้านหลังองค์พระหนึ่งคู่ ท่านว่าวิชานี้ทำยากมากเพราะอักขระเลขยันต์นั้นล้วนมีความสัมพันธ์กับดวงดาว เป็นวิชาที่จะเปลี่ยนชีวิตเปลี่ยนวิถีดวงชะตาของคนอย่างแท้จริง ท่านว่ามันจะดึงจะดูดสิ่งดีๆให้เข้ามา ถ้าใครหวังจะเอาดีทางโชคลาภก็จะได้ตามนั้น บังเกิดโชคลาภอยู่เนืองๆมีความเจริญในลาภสักการะ ท่านว่าทำยากกว่าจะสำเร็จเพราะต้องเสกถึงยี่สิบเอ็ดศุกร์ หกอาทิตย์ สิบห้าจันทร์ แปดอังคาร สิบเจ็ดพุธ สิบเก้าพฤหัสทีเดียว
    - ตะกรุดแฝดหัวใจมหาเวสสันดร พ้ออาจารย์ท่านว่าพระเวสสันดรคือพระผู้มีแต่ให้ มีสมบัติจักรพรรดิ์ใครขออะไรเป็นยกให้เขาหมด ท่านว่าท่านลงเอาไว้ให้เป็นตะกรุดที่ฝังด้านหน้าองค์พระ เพื่อให้ผู้ขอได้รับในทุกสิ่งๆตามแต่ที่ขอที่ปรารถนากัน แม้ว่าจะขอทรัพย์ขอสิ่งใดๆก็ตามทีจากองค์พระก็ให้ได้รับสิ่งนั้นสมความปรารถนาตั้งมั่นดุจดังว่าเราได้ขอกับพระเวสสันดดรมหาโพธิสัตว์เมื่อปางก่อนนั้นทีเดียว ท่านว่าขอได้ทุกสิ่งแม้แต่ลูกในอกท่านก็ยังให้
    - ทับทิมเสกหลวงปู่ดู่ พ่ออาจารย์ท่านฝังไว้ตรงพุงพระภควัมปติ ท่านว่าเป็นเคล็ดให้คนที่ร่างกายหรือชีวิตนี้ยังไม่มีสมบัติหรือทรัพย์สินใดๆติดตัว หรือมีแล้วก็ยังไม่พอไม่เสมอใจไม่เท่าเทียมใครเขา ท่านว่าตอนฝังนี้ท่านสวดคาถาเรียกลาภยัดไปด้วย ถือเคล็ดที่ว่ามีเพชรเต็มพุง มีคลังสมบัติมหาศาลอยู่กับตัวอยู่ในร่างกายใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมดเพราะมันเป็นของติดตัวติดกายเราเช่นนี้แก้อาถรรพ์ชีวิตที่ยังไม่มีไม่ได้ของทุกคนอยู่ในตัวเองด้วยอำนาจบารมีของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด


    พ่ออาจารย์ท่านเสกพระปิดตามานานหลายปี ทั่งเชิญครูส่งครูและประกอบพิธีต่อชะตาสืบชะตาท่านว่าเสกจนมั่นใจว่าเต็มแล้วไม่มีที่ให้ลงอะไรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมาบูชา


    คาถาบูชา
    สุกิตติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปาคะโต ยัสสะสิมา วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต


    * พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) ไว้ทั้งหมด 9 องค์ จะเปิดรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ท่านใดที่จองให้แจ้งชื่อนามสกุลมาด้วย ท่านจะเจิมองค์พระด้วยพระคาถาพระปัจเจกโพธิเจ้าโปรดสัตว์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้สมทบทุนวิหารทานในวัดทุรกันดารต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) บูชา 2,500 บาท

    035.jpg 1377605394-4-o.jpg vessandorn.jpg SAM_5313.jpg SAM_5314.jpg image.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 พฤษภาคม 2017
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่สรวุฒิ ET 0634 2317 8 TH

    พี่กษิดิ์เดช ET 0634 2318 1 TH

    พี่ชไมพร ET 0634 2319 5 TH

    พี่กฤตเมธ ET 0634 2320 4 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ตอบ PM ครบนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ฝนตกให้ชุ่มเย็นกันแต่เช้า วันนี้วันสำคัญทางศาสนา วันพระใหญ่อย่าลืมไปทำบุญกันนะ ทำบุญตามกาลตามวาระ ทำจิตใจให้แจ่มใสมีอานิสงค์มาก;)
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    เมื่อคืนตอนยามล่วงเข้าสู่วันวิสาขบูชา พ่ออาจารย์ท่านได้นั่งเจิมและบอกกล่าวครูบาอาจารย์ทำการประสิทธิ์พระปิดตาเนื้อผงเปิดวาสนามหาอุดมตามรายชื่อเเละข้อมูลที่ผู้จองแจ้งกันไว้

    หนนี้พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า "พระปิดตารุ่นนี้ให้โชคลาภใหญ่มากเป็นมหาลาภ เป็นมหาลาภ" ท่านว่า "ครูมานิมิตให้เห็นใครขอเงินก็ได้เงิน ขอรถก็ได้รถ ดี ดี ครบทุกทางเอาไปอธิษฐานกันดีๆแล้วทำความดีอะไรก็จะดี"


    SAM_5313.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันวิสาขบูชา
    ความหมายของวันวิสาขบูชา

    คำว่า วิสาขบูชา ย่อมาจากคำว่า "วิสาขปุรณมีบูชา" แปลว่า "การบูชาในวันเพ็ญเดือนวิสาขะ" ดังนั้น วิสาขบูชา จึงหมายถึง การบูชาในวันเพ็ญเดือน 6

    การกำหนดวันวิสาขบูชา

    วันวิสาขบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ตามปฏิทินจันทรคติของไทย ซึ่งมักจะตรงกับเดือนพฤษภาคม หรือมิถุนายน แต่ถ้าปีใดมีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน ก็เลื่อนไปเป็นวันขึ้น 15 ค่ำ กลางเดือน 7 หรือราวเดือนมิถุนายน

    อย่างไรก็ตาม ในบางปีของบางประเทศอาจกำหนด วันวิสาขบูชา ไม่ตรงกับของไทย เนื่องด้วยประเทศเหล่านั้นอยู่ในตำแหน่งที่ต่างไปจากประเทศไทย ทำให้วันเวลาคลาดเคลื่อนไปตามเวลาของประเทศนั้น ๆ

    ประวัติวันวิสาขบูชาและความสำคัญของ วันวิสาขบูชา

    วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญยิ่งทางพระพุทธศาสนา เพราะเป็นวันที่เกิด 3 เหตุการณ์สำคัญที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวียนมาบรรจบกันในวันเพ็ญเดือน 6 แม้จะมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเป็นเวลาหลายสิบปี ซึ่งเหตุการณ์อัศจรรย์ 3 ประการ ได้แก่

    1. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าประสูติ

    เมื่อพระนางสิริมหามายา พระมเหสีของพระเจ้าสุทโธทนะ แห่งกรุงกบิลพัสดุ์ ทรงพระครรภ์แก่จวนจะประสูติ พระนางแปรพระราชฐานไปประทับ ณ กรุงเทวทหะ เพื่อประสูติในตระกูลของพระนางตามประเพณีนิยมในสมัยนั้น ขณะเสด็จแวะพักผ่อนพระอิริยาบถใต้ต้นสาละ ณ สวนลุมพินีวัน พระนางก็ได้ประสูติพระโอรส ณ ใต้ต้นสาละนั้น ซึ่งตรงกับวันเพ็ญเดือน 6 ก่อนพุทธศักราช 80 ปี ครั้นพระกุมารประสูติได้ 5 วัน ก็ได้รับการถวายพระนามว่า "สิทธัตถะ" แปลว่า "สมปรารถนา"

    เมื่อข่าวการประสูติแพร่ไปถึงอสิตดาบส 4 ผู้อาศัยอยู่ในอาศรมเชิงเขาหิมาลัย และมีความคุ้นเคยกับพระเจ้าสุทโธทนะ ดาบสจึงเดินทางไปเข้าเฝ้า และเมื่อเห็นพระราชกุมารก็ทำนายได้ทันทีว่า นี่คือผู้จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงกล่าวพยากรณ์ว่า "พระราชกุมารนี้จักบรรลุพระสัพพัญญุตญาณ เห็นแจ้งพระนิพพานอันบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ทรงหวังประโยชน์แก่ชนเป็นอันมาก จะประกาศธรรมจักรพรหมจรรย์ของพระกุมารนี้จักแพร่หลาย" แล้วกราบลงแทบพระบาทของพระกุมาร พระเจ้าสุทโธทนะทอดพระเนตรเห็นเหตุการณ์นั้นทรงรู้สึกอัศจรรย์และเปี่ยมล้นด้วยปีติ ถึงกับทรุดพระองค์ลงอภิวาทพระราชกุมารตามอย่างดาบส

    2. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    หลังจากออกผนวชได้ 6 ปี จนเมื่อพระชนมายุ 35 พรรษา เจ้าชายสิทธัตถะก็ทรงตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ณ ใต้ร่มไม้ศรีมหาโพธิ์ ฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม ในตอนเช้ามืดของวันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ปัจจุบันสถานที่ตรัสรู้แห่งนี้เรียกว่า พุทธคยา เป็นตำบลหนึ่งของเมืองคยา แห่งรัฐพิหารของอินเดีย

    สิ่งที่ตรัสรู้ คือ อริยสัจสี่ เป็นความจริงอันประเสริฐ 4 ประการของพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จไปที่ต้นมหาโพธิ์ และทรงเจริญสมาธิภาวนาจนจิตเป็นสมาธิได้ฌานที่ 4 แล้วบำเพ็ญภาวนาต่อไปจนได้ฌาน 3 คือ

    - ยามต้น : ทรงบรรลุ "ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ" คือ ทรงระลึกชาติในอดีตทั้งของตนเองและผู้อื่นได้
    - ยามสอง : ทรงบรรลุ "จุตูปปาตญาณ" คือ การรู้แจ้งการเกิดและดับของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ด้วยการมีตาทิพย์สามารถเห็นการจุติและอุบัติของวิญญาณทั้งหลาย
    - ยามสาม หรือยามสุดท้าย : ทรงบรรลุ "อาสวักขยญาณ" คือ รู้วิธีกำจัดกิเลสด้วย อริยสัจ 4 (ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค) ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 ซึ่งขณะนั้นพระพุทธองค์มีพระชนมายุได้ 35 พรรษา

    3. วันวิสาขบูชา เป็นวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่ปรินิพพาน (ดับสังขารไม่กลับมาเกิดสร้างชาติ สร้างภพอีกต่อไป)

    เมื่อพระพุทธองค์ได้ตรัสรู้และแสดงธรรมเป็นเวลานานถึง 45 ปี จนมีพระชนมายุได้ 80 พรรษา ได้ประทับจำพรรษา ณ เวฬุคาม ใกล้เมืองเวสาลี แคว้นวัชชี ในระหว่างนั้นทรงประชวรอย่างหนัก ครั้นเมื่อถึงวันเพ็ญเดือน 6 พระพุทธองค์กับพระภิกษุสงฆ์ทั้งหลาย ก็ไปรับภัตตาหารบิณฑบาตที่บ้านนายจุนทะ ตามคำกราบทูลนิมนต์ พระองค์เสวยสูกรมัททวะที่นายจุนทะตั้งใจทำถวายก็เกิดอาพาธลง แต่ทรงอดกลั้นมุ่งเสด็จไปยังเมืองกุสินารา ประทับ ณ ป่าสาละ เพื่อเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน

    เมื่อถึงยามสุดท้ายของคืนนั้น พระพุทธองค์ก็ทรงประทานปัจฉิมโอวาทว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลายอันว่าสังขารทั้งหลายย่อมมีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังกิจทั้งปวงอันเป็นประโยชน์ของตนและประโยชน์ของผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด" หลังจากนั้นก็เสด็จเข้าดับขันธ์ปรินิพพาน ในราตรีเพ็ญเดือน 6 นั้น


    ประวัติความเป็นมาของวันวิสาขบูชาในประเทศไทย

    ปรากฏหลักฐานว่า วันวิสาขบูชา เริ่มต้นครั้งแรกในประเทศไทยตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี สันนิษฐานว่าได้รับแบบแผนมาจากลังกา นั่นคือ เมื่อประมาณ พ.ศ. 420 พระเจ้าภาติกุราช กษัตริย์แห่งกรุงลังกา ได้ประกอบพิธีวิสาขบูชาขึ้น เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จากนั้นกษัตริย์ลังกา พระองค์อื่น ๆ ก็ปฏิบัติประเพณีวิสาขบูชานี้สืบทอดต่อกันมา

    ส่วนการเผยแผ่เข้ามาในประเทศไทยนั้น น่าจะเป็นเพราะประเทศไทยในสมัยกรุงสุโขทัยมีความสัมพันธ์ด้านพระพุทธศาสนากับประเทศลังกาอย่างใกล้ชิด เห็นได้จากมีพระสงฆ์จากลังกาหลายรูปเดินทางเข้ามาเผยแพร่พระพุทธศาสนา และนำการประกอบพิธีวิสาขบูชาเข้ามาปฏิบัติในประเทศไทยด้วย

    สำหรับการปฏิบัติพิธีวิสาขบูชาในสมัยสุโขทัยนั้น ได้มีการบันทึกไว้ในหนังสือนางนพมาศ สรุปได้ว่า เมื่อถึงวันวิสาขบูชา พระเจ้าแผ่นดิน ข้าราชบริพาร ทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายใน ตลอดทั้งประชาชนชาวสุโขทัย จะช่วยกันประดับตกแต่งพระนคร ด้วยดอกไม้ พร้อมกับจุดประทีปโคมไฟให้ดูสว่างไสวไปทั่วพระนคร เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน เพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัย ขณะที่พระมหากษัตริย์ และบรมวงศานุวงศ์ ก็ทรงศีล และทรงบำเพ็ญพระราชกุศลต่าง ๆ ครั้นตกเวลาเย็นก็เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และนางสนองพระโอษฐ์ตลอดจนข้าราชการทั้งฝ่ายหน้า และฝ่ายในไปยังพระอารามหลวง เพื่อทรงเวียนเทียนรอบพระประธาน ส่วนชาวสุโขทัยจะรักษาศีล ฟังธรรม ถวายสลากภัต สังฆทาน อาหารบิณฑบาตแด่พระภิกษุสามเณร บริจาคทานแก่คนยากจน ทำบุญไถ่ชีวิตสัตว์ ฯลฯ

    หลังจากสมัยสุโขทัย ประเทศไทยได้รับอิทธิพลของศาสนาพราหมณ์มากขึ้น ทำให้ในช่วงสมัยกรุงศรีอยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้น ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการประกอบพิธีวิสาขบูชา จนกระทั่งมาถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2360) ทรงมีพระราชดำริที่จะให้ฟื้นฟูพิธีวิสาขบูชาขึ้นมาใหม่ โดยสมเด็จพระสังฆราช (มี) สำนักวัดราชบูรณะ ถวายพระพรให้ทรงทำขึ้นเป็นครั้งแรก ในวันขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ. 2360 และให้จัดทำตามแบบอย่างประเพณีเดิมทุกประการ เพื่อให้ประชาชนได้ทำบุญ ทำกุศล โดยทั่วหน้ากัน การรื้อฟื้นพิธีวิสาขบูชาขึ้นมาในครานี้ จึงถือเป็นแบบอย่างถือปฏิบัติในการประกอบพิธี วันวิสาขบูชา ต่อเนื่องมาจวบจนกระทั่งปัจจุบัน

    วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลของสหประชาชาติ

    วันวิสาขบูชา ถือเป็นวันสำคัญที่สุดทางพระพุทธศาสนา เนื่องจากล้วนมีเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการถือกำเนิดของพระพุทธศาสนา คือ เป็นวันที่พระศาสดา คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ดังนั้นพุทธศาสนิกชนทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับวันวิสาขบูชานี้

    และในวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2542 องค์การสหประชาชาติได้ยอมรับญัตติที่ประชุม กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลก โดยเรียกว่า Vesak Day ตามคำเรียกของชาวศรีลังกา ผู้ที่ยื่นเรื่องให้สหประชาชาติพิจารณา และได้กำหนดให้วันวิสาขบูชานี้ถือเป็นวันหยุดวันหนึ่งของสหประชาชาติอีกด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ชาวพุทธทั่วโลกได้มีโอกาสบำเพ็ญบุญเนื่องในวันประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพานของพระบรมศาสดา

    โดยการที่สหประชาชาติได้กำหนดให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญของโลกนั้น ได้ให้เหตุผลไว้ว่า องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเป็นมหาบุรุษผู้ให้ความเมตตาต่อหมู่มวลมนุษย์ เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาสามารถเข้ามาศึกษาพุทธศาสนา เพื่อพิสูจน์หาข้อเท็จจริงได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ และทรงสั่งสอนทุกคนโดยใช้ปัญญาธิคุณ โดยไม่คิดค่าตอบแทน

    การประกอบพิธีในวันวิสาขบูชา

    การประกอบพิธีใน วันวิสาขบูชา จะแบ่งออกเป็น 3 พิธี ได้แก่

    1. พิธีหลวง คือ พระราชพิธีสำหรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ ประกอบในวันวิสาขบูชา
    2. พิธีราษฎร์ คือ พิธีของประชาชนทั่วไป
    3. พิธีของพระสงฆ์ คือ พิธีที่พระสงฆ์ประกอบศาสนกิจ

    กิจกรรมในวันวิสาขบูชา

    กิจกรรมที่พุทธศาสนิกชนพึงปฏิบัติใน วันวิสาขบูชา ได้แก่

    1. ทำบุญใส่บาตร กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้ญาติที่ล่วงลับ และเจ้ากรรมนายเวร
    2. จัดสำรับคาวหวานไปทำบุญถวายภัตตาหารที่วัด และปฏิบัติธรรม ฟังพระธรรมเทศนา
    3. ปล่อยนกปล่อยปลา เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล
    4. ร่วมเวียนเทียนรอบอุโบสถที่วัดในตอนค่ำ เพื่อรำลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    5. ร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับวันสำคัญทางพุทธศาสนา
    6. จัดแสดงนิทรรศการ ประวัติ หรือเรื่องราวความเป็นมาเกี่ยวกับวันวิสาขบูชาตามโรงเรียน หรือสถานที่ราชการต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้ และเป็นการร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา
    7. ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน วัดและสถานที่ราชการ
    8. บำเพ็ญสาธารณประโยชน์

    หลักธรรมที่สำคัญในวันวิสาขบูชา ที่ควรนำมาปฏิบัติ


    ในวันวิสาขบูชา พุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรยึดมั่นในหลักธรรม ซึ่งหลักธรรมที่ควรนำมาปฏิบัติในวันวิสาขบูชา ได้แก่

    1. ความกตัญญู

    คือ การรู้คุณคน เป็นคุณธรรมที่คู่กับความกตเวที ซึ่งหมายถึงการตอบแทนคุณที่มีผู้ทำไว้ ความกตัญญูและความกตเวทีนี้ เป็นเครื่องหมายของคนดี ทำให้ครอบครัวและสังคมมีความสุข ซึ่งความกตัญญูกตเวทีนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทั้ง บิดามารดาและลูก ครูอาจารย์กับศิษย์ นายจ้างกับลูกจ้าง ฯลฯ

    ในพระพุทธศาสนา เปรียบพระพุทธเจ้าเสมือนกับบุพการี ผู้ชี้ให้เห็นทางหลุดพ้นแห่งความทุกข์ ดังนั้นพุทธศาสนิกชนจึงควรตอบแทนความกตัญญูกตเวทีด้วยการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และดำรงพระพุทธศาสนาให้อยู่สืบไป

    2. อริยสัจ 4

    คือ ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ใน วันวิสาขบูชา ได้แก่

    - ทุกข์ คือ ปัญหาของชีวิต สภาวะที่ทนได้ยาก ซึ่งทุกข์ขั้นพื้นฐาน คือ การเกิด การแก่ และการตาย ล้วนเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องเผชิญ ส่วนทุกข์จร คือ ทุกข์ที่เกิดขึ้นในการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น การพลัดพรากจากสิ่งที่เป็นที่รัก หรือความยากจน เป็นต้น

    - สมุทัย คือ ต้นเหตุของปัญหา หรือสาเหตุของการเกิดทุกข์ และสาเหตุส่วนใหญ่ของปัญหาเกิดจาก "ตัณหา" อันได้แก่ ความอยากได้ต่าง ๆ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    - นิโรธ คือ ความดับทุกข์ เป็นสภาพที่ความทุกข์หมดไป เพราะสามารถดับกิเลส ตัณหา อุปาทานออกไปได้

    - มรรค คือ หนทางที่นำไปสู่การดับทุกข์ เป็นการปฏิบัติเพื่อแก้ปัญหา มี 8 ประการ ได้แก่ ความเห็นชอบ ดำริชอบ วาจาชอบ กระทำชอบ เลี้ยงชีพชอบ พยายามชอบ ระลึกชอบ ตั้งจิตมั่นชอบ

    3. ความไม่ประมาท

    คือการมีสติตลอดเวลา ไม่ว่าจะทำอะไร พูดอะไร คิดอะไร ล้วนต้องใช้สติ เพราะสติคือการระลึกได้ การระลึกได้อยู่เสมอจะทำให้เราใช้ชีวิตอย่างไม่ประมาท ซึ่งความประมาทนั้นจะทำให้เกิดปัญหายุ่งยากตามมา ดังนั้นในวันนี้พุทธศาสนิกชนจะพากันน้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ด้วยความมีสติ

    วันวิสาขบูชา นับว่าเป็นวันที่มีความสำคัญสำหรับพุทธศาสนิกชนทุกคน เป็นวันที่มีการทำพิธีพุทธบูชา เพื่อเป็นการน้อมรำลึกถึงพระวิสุทธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่มีต่อมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ อีกทั้งเพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์อันน่าอัศจรรย์ทั้ง 3 ประการ ที่มาบังเกิดในวันเดียวกัน และนำหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์มาเป็นแนวทางในการประพฤติปฏิบัติในการดำรงชีวิต


    1370797656-1-o.jpg
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ใครมีคำถามอะไรจะฝากก็ PM กันเข้ามานะครับ เดี๋ยวสายๆจะมาพูดคุยกัน
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันหยุด


    วันนี้คิดว่าจะส่งของให้ถ้ารายการที่ฝากเลี่ยมเสร็จทัน แต่ก็ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ไปรษณีย์หยุดมั๊ย เพราะบางเวปก็ว่า วันศุกร์ 12 พฤษภาคม : วันพืชมงคล (วันหยุดไปรษณีย์ไทย หยุดราชการ ไม่หยุดธนาคาร) บางเวปก็ว่ารอแจ้ง ดังนั้นถ้าไม่ได้ส่งวันนี้ก็จะส่งให้วันมะรืนเลยนะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    วันนี้ส่งของไม่ทันนะครับ เพราะเพิ่งจะได้รับที่ฝากเลี่ยมกันมา เลยรวบยอดเอาไว้ส่งวันมะรืนแทนนะ แจ้งให้ทราบ;)
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    มีแจ้งประสบการณ์เข้ามาว่าโดนฟ้าผ่าแต่ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้มาเล่าให้ฟัง;)
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ฟ้าผ่า
    อรุณสวัสดิ์ครับ ก็นำมาพูดคุยแชร์กัน เพราะประสบการณ์แนวนี้มีให้เห็นไม่บ่อย และเชื่อว่าถ้าเลือกได้หลายคนคงไม่อยากเจอ ไม่อยากมีประสบการณ์แบบนี้แน่

    ก็มีประสบการณ์แจ้งเข้ามา จากพี่ที่คาดตะกรุดมหาศาสตร์โยนีคลั่งรัก(ฟ้าสั่งรวย)ตั้งแต่เมื่อวาน พี่เค้าว่าแปลก เค้าคิดว่าตะกรุดนี้จะเด่นเฉพาะทางมหาเสน่ห์ แต่ไม่รู้ว่าจะกันฟ้าลงได้ด้วย เค้าโทรมาดีใจเพราะเค้าเล่าว่าถ้าไม่ได้ตะกรุดดอกนี้พี่คงตายไปแล้วจริงๆ

    พี่เค้าเล่าว่าเค้าไปช่วยเอาปุ๋ยเข้านากับเพื่อนบ้าน เพราะทำงานจึงไม่ได้ใส่พระทั้งตัวคาดแต่ตะกรุดไปดอกเดียว แล้วก็เกิดเหตุการณ์ฟ้าผ่าขึ้นมา เค้าว่าเคยแต่ได้ยินไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเอง พี่เค้าว่ามันเหมือนเรื่องไกลตัวนะไม่โดนกับตัวไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกผมหรอกว่ามันอัศจรรย์ใจแค่ไหน

    พี่เค้าว่าเพื่อนบ้านและหลายๆคนพูดเหมือนกันหมดว่าฟ้าผ่าใส่เค้าแน่นอน แม้แต่ตัวเค้าเองก็ยังรู้สึกแต่กลับปรากฏว่าไม่เป็นอะไร ที่แปลกประหลาดกว่านั้นคือ ควายในนาตายแทน พี่เค้าว่ามันเกินความน่าอัศจรรย์ไปเพราะควายกับผมยืนอยู่คนละจุด มันแปลกมั๊ยล่ะฟ้าลงผมแต่ควายตายแทน เค้าจึงเชื่อมั่นศรัทธาในแรงครูทิพย์ครูเทพอย่างมาก เค้าว่าเครื่องมงคลของท่านเวลาคับขันใช้ได้รอบด้านจริงๆ

    พี่เค้าว่าเค้าไปโรงพญาบาลนอนเช็คร่างกายอยู่ โดยรวมไม่มีอะไรแค่รู้สึกแน่นๆหน้าอกเฉยๆ ก็ได้แต่ดีใจด้วยที่รอดชีวิต เพราะเคยเห็นข่าวคนโดนฟ้าผ่าตายเหมือนกัน คิดได้แต่ควายตัวนั้นคงรับเคราะห์แทนหรือถึงฆาต หรืออาจจะมีเหตุผลอะไรบางอย่าง ก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว เป็นเรื่องของสิ่งที่มองไม่เห็น ดังนั้นก็ได้แต่บอกพี่เค้าว่าให้ปล่อยเลยไปเลยไม่ต้องเก็บมาคิด เพราะบางเรื่องมันก็ยากเกินที่จะทำความเข้าใจ

    ก็นำมาเล่าให้ฟังกัน เพราะช่วงนี้ฝนฟ้าแปรปรวน อากาศบางวันก็น่ากลัวจริงๆ หากใครมีเครื่องรางเครื่องคาดเหล่านี้ของพ่ออาจารย์ท่าน ถ้าวันไหนไม่สะดวกใส่พระก็อย่าลืมคาดเอาไว้ มันอุ่นใจดี แต่คงกันไข้กันหวัดไม่ได้เพราะผมก็เป็นอยู่นะ
    :D

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2017
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,096
    ค่าพลัง:
    +16,623
    ใครมีคำถามหรือมีเรื่องอะไรจะเล่าก็ PM มาคุยกันนะครับ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...