ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดีลงถมตะกั่วกรุศรีสวัสดิ์(เทวะเสนา)
    จากเทพเจ้าในอุดมคติ..ที่เหล่านางฟ้าปรารถนาอยากจะได้ครองคู่มากที่สุด

    ด้วยต่อไปนั้นบ้านเมืองจะวุ่นวาย ชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ทั้งหลายจะลำบากยากแค้น คนที่รวยและได้ดีก็จะดีขึ้นและดีไปเลย คนที่ยังจนก็จะก้มหน้ารับเศษกรรมต่อไป พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นวิกฤติที่จะพึงเกิด พึงมี ต่อไปในเบื้องหน้า จึงได้ปรารถนาที่จะนำศาสตร์และสรรพวิทยาสร้างเครื่องมงคลขึ้นมา จนความปรารถนานั้น เข้าไปในข่ายพระกรุณาญาณแห่งพระศดาศิวะเทพ ท่านจึงมีโองการให้ทำพระรูปของสกันทะบุตร โดยว่าจะเป็นผู้ปราบยุคเข็ญและปลดเปลื้องสิ่งเลวร้ายอย่างแท้จริง เมื่อได้รับโองการแล้วท่านจึงทำโดยมีความตั้งใจอย่างมาก ที่จะเชิญพระองค์ท่านให้ไปอยู่กับผู้มีความศรัทธา ตั้งใจเพื่อให้เขาเหล่านั้นได้ดี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่า ความจริงแล้วองค์พระขันทกุมารนั้น ไม่ใช่กุมารกุมารีที่ไหน ต้องทำความเข้าใจหน่อย อย่าไปหลู่เกียรติของพระองค์ท่านว่าเป็นเด็ก ที่เรียกท่านว่ากุมารนั้นเพราะดวงพระพักตร์มีลักษณะแข็งกร้าว เฉียบคมหมดจด แต่ก็อ่อนเยาว์ประดุจผู้มีอายุน้อย ที่จริงพระองค์คือเทพเจ้าที่มีฐานะสูงในระดับพระเป็นเจ้าพระองค์หนึ่งของมหาจักรวาล โปรดการเสด็จไปทั่วทั้งพื้นพิภพ(ดุจโพธิสัตว์ท่านทำงานไปทั่วเช่นนี้)เพื่อช่วยเหลือผู้มีจิตศรัทธาที่ตกยากต่างจากเทพองค์อื่นๆ คนไทยเราก็รู้จักพระองค์กันมานานแล้ว แต่ก็เข้าไม่ถึงและทำไม่ถูกจึงมีอันป่นปี้ย่อยยับไป ด้วยองค์พระสกันทะเทวะนี้ แม้คนต่างชาติต่างศาสนาก็ยังนับถือท่าน คนจีนก็ยังไปยกเป็นสกันทะโพธิสัตว์อันมีบารมีสูงส่งเพราะท่านค้ำคูณใครนั้นย่อมสูงส่งขึ้นทุกคน ไม่เพียงเเต่ในอินเดียแม้บรรพบุรุษไทยก็เคารพท่านมานานยิ่งนักหรือจะประเทศต่างๆก็มีตำนานของพระองค์ท่านในรูปแบบที่แตกต่างกันไป พ่ออาจารย์กล่าวว่า รู้จักจตุคามมั๊ย คนไทยพยายามจะสื่อ หาความหมายอ้างกันมั่วไปหมดว่าเป็นองค์นั้นองค์นี้ ว่าเป็นเทวราชโพธิสัตว์บ้าง ว่าเป็นอวโลกิเตศวร ว่าเป็นอะไรมากมายไปหมด แต่ความจริงในส่วนของท้าวจตุคามก็คือองค์พระขันทกุมารนี่แหละ เมื่อสร้างและทำผิดไป ย้ำคิดย้ำทำเชิญผิดสร้างผิดก็ย่อมวิบัติไปตามกฏแห่งโลก พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าขนาดทำผิดยังมีปาฏิหาริย์มากมาย ศาสตร์แห่งพระองค์นี่ถ้าทำถูกไม่ต้องรอที่จะคิดเลย

    พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าพระองค์คือองค์กำลังของมหาจักรวาลเป็นกำลังขององค์พระศิวะเจ้า(ครูพระสยม)กับองค์ปารวตี(แม่ย่าใหญ่) จะกล่าวว่าพระรูปขององค์พระขันทกุมารคือการรวมของพลังอำนาจสูงสุดของจักรวาลทั้งในฝ่ายเทวะและมหาศักติก็ได้ นี่คือข้อเท็จจริง ก็ไม่แปลกใจเลยว่าอย่างไรทำไมถึงมีคนเคารพองค์พระขันทกุมารเป็นเอกเทศน์กันมากมายพอๆกับองค์พระศิวะเจ้า แม้เรื่องใดที่เหล่าเทพเจ้ายังถึงทางตัน หาทางออกไม่ได้ เมื่อถึงมือองค์เทวะเสนาแล้ว ย่อมคลี่คลายทุกสิ่ง องค์พระขันทกุมารนี่พ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าแต่เดิมคนเราเชื่อว่ามีถึง 6 พระพักตร์ 12 พระกร แต่งกายงดงามเหมือนกับองค์พระนารายณ์ แต่พระวรกายหมดจดกว่า เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะสร้างนั้น ท่านได้ขอพระเมตตาจากองค์พระขันทกุมาร ซึ่งท่านได้โปรดให้พ่ออาจารย์ท่านลบผงมุรุกานทวะขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ให้ผสมสร้างจะวิเศษนัก พ้นพลังอำนาจในฝ่ายของเทวะขึ้นไปอีกเพราะรวมอำนาจของฝ่ายมหาศักติไว้ด้วย ซึ่งท่านก็ได้ทำตาม โดยลบผงตามสูตรนี้ครั้งละ 12 รอบ เมื่อทำเสร็จจึงจะถือว่าทำได้คาบหนึ่ง ต้องทำให้ได้ถึง 6 คาบ จึงจะสมบูรณ์ หลังจากนั้นท่านนำมาประสระมหาโลหิต จนทองฟ้ามืดครึ้ม มีลมมหาวาตะพัดโกลาหล บรรยากาศหวาดผวาสั่นไหวเกิดรัศมีเป็นแสงสีขาวอมทองออกมาจากผงนี้จึงสำเร็จ เมื่อสำเร็จแล้ว ท่านให้พ่ออาจารย์ทำถึง 3 ครั้ง ต้องทำไว้ในปริมาณมาก เพราะว่าประสงค์จะให้ใช้ผงอันเป็นสายวิชาของพระองค์ท่านล้วนๆไม่เอาสิ่งอื่นมาเจือปนนอกจากว่านยาบางจำพวก ประกอบเป็นมวลสารขึ้นมา

    ผู้บูชาพระขันทกุมารทุกคนจึงได้รับความคุ้มครองจากพระองค์ พระองค์จะประทานความกล้าหาญชาญชัย ความเป็นผู้นำผู้อื่น ความมีศักดิ์ศรีในสังคม นอกจากพระขันทกุมารจะประทานความคุ้มครองแล้ว ยังประทานกำลังกาย กำลังใจในการกระทำการต่างๆให้ลุล่วง พระองค์ไม่โปรดความอ่อนแอ ขี้ขลาด ลังเลใจ รวมถึงความอิจฉาริษยา ท่านเป็นตัวแทนแห่งความองอาจ คล่องแคล่วว่องไว ความยุติธรรมและการเรียกร้องความถูกต้อง(ดังนั้นชีวิตใครที่โดนให้ร้ายหรือปัจจุบันอยู่บนหนทางที่ยังไม่ใช่ไม่สำเร็จ ยังเดินผิดทางอยู่ควรรีบอาราธนา) ด้วยองค์พระขันทกุมารนั้นมีกำลังมากดั่งเอากำลังของพระศิวะและพระแม่ทุรคามารวมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์สกันทะท่านจะช่วยจัดการปัญหาต่างๆในชีวิตเรารวมถึงเรื่องที่เราไม่ได้รับความยุติธรรม ให้เราพ้นจากการถูกเอาเปรียบกลั่นแกล้ง ด้วยพระองค์ยึดมั่นในเกียรติยศศักดิ์ศรียิ่งกว่าสิ่งใดทำให้กษัตริย์ทั้งหลายนิยมบูชาพระขันทกุมารเช่นนั้น เมื่อพระองค์เป็นเทพผู้อภิบาลดาวนพเคราะห์คือดาวอังคารด้วยแล้ว บางคนก็จะเรียกท่านว่าพระอังคารบ้าง แต่ในหมู่กษัตริย์โบราณทั้งหลายจะรู้กันดีว่าพระองค์คือดาวกษัตริย์สงคราม เป็นเทพที่เหล่ากษัตริย์เกรงกลัวมากที่สุด

    และก็มีข้อแม้สำคัญอีกประการหนึ่ง นั่นคือ ตะกรุดรุ่นนี้ เมื่อผู้ใดได้รับไปพระองค์จะไปช่วยเหลือคุ้มครอง จะทำการณ์กิจใดก็จะมีแต่ชัยชนะแพ้คนอื่นไม่เป็น เป็นเจ้าเหนือเขาเป็นผู้นำเขาทั้งหมด ขจัดความโลเล มีแต่คนรัก คนที่อิจฉาริษยาจะหมดไป ซึ่งพ่ออาจารย์บอกว่านอกจากจุดนี้ สกันทะเทพท่านยังบอกด้วยว่าท่านจะช่วยให้มีจิตใจฮึกเหิม มีกำลังกายและกำลังใจที่เพียบพร้อมไม่อ่อนแรงลง ทุกคำขอ กิจการงานต่างๆต้องสำเร็จลุล่วงอย่างว่องไว จะต้องปรากฏเกียรติยศสูงสุดในกิจที่กระทำอยู่ ซึ่งพระองค์ท่านนั้นโปรดความยุติธรรม ไม่ชอบการคดโกง ใครที่โดนรังแก โดนคนเอาเปรียบโดนใครโกง แบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่มีเสียหรอกเมื่ออยู่ในความคุ้มครองของพระองค์ท่าน ซึ่งองค์พระขันทกุมารนี้มีแต่ผู้ต้องการเป็นใหญ่ ประสบความสำเร็จในระดับมหาราชาหรือเจ้าผู้ปกครองแคว้นต่างๆมักจะนิยมบูชากัน ท่านก็เลยอยากให้ทุกคนได้ดีและผ่านพ้นเคราะห์ภัยโดยไว จึงขอบารมีพระขันทกุมารมาสงเคราะห์ทำเครื่องมงคล ท่านว่าองค์พระขันทกุมารนี่ใช้ได้ทุกอย่างจะขอพรอะไรก็ย่อมได้สุดแต่ใจ จะเล่นทางเสนห์ก็สุดๆ เพราะว่าพระองค์ท่านมีพระชายาถึง 2 องค์ ซ้ำยังเป็นที่ปรารถนาของเหล่านางฟ้านางสวรรค์มากมายด้วยว่าพระรูปของพระองค์นั้นวิจิตรละลานตายิ่งนัก เมื่อบูชาไว้กับตัวย่อมดึงเอาพระบารมีมาเสริมสิริให้ผู้ที่มีบารมีขององค์พระขันทกุมารแฝงอยู่ดูดีในสายตาผู้อื่นขึ้นทันที
    ตะกรุดนี้ท่านว่าพกไว้เถิด แค่พกหน้าจะผ่องใส ความรู้สึกที่หมองมัวหรือมืดทมึนดั่งมีอะไรมากดทับเราอยู่จะคลายตัวให้เราสดชื่น ทั้งยังแสดงพลังแห่งความเยาว์วัยมีกำลังบริบูรณ์ไม่ได้ชราตามอายุ จะทำให้เรากล้าไม่หวาดหวั่นกับสิ่งใด ทั้งกำลังของตะกรุดหรือองค์พระขันทกุมารนั้นยังปกป้องเราจากการรังควานของเหล่าภูติผีปีศาจทั้งหลายหรือสิ่งที่เบียดเบียนเราทั้งปวงด้วย ท่านจะให้พรเราหกประการสม่ำเสมอตลอดเวลาที่เราอาราธนาตะกรุดนี้อยู่ในคอ ได้แก่

    - ความฉลาด
    - พละกำลัง
    - ความร่ำรวย
    - ชื่อเสียง
    - ความเที่ยงธรรม
    - พลังแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์


    ตะกรุดรุ่นนี้ใครที่ชอบตะกรุดลงถมแผ่นหนาๆรับรองได้เลยว่าสะใจแน่นอน เพราะชุดนี้ท่านสร้างด้วยตะกั่วน้ำนมกรุศรีสวัสดิ์ เนื้อเดียวพุทธคุณแบบเดียวกับพระท่ากระดานเลย ท่านว่าใช้แทนกันได้ ท่านเอาตะกั่วสำคัญนี้มารีดทำการลงถมสร้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้ตะกั่วที่สร้างพระท่านกระดานเท่านั้นเพราะอิทธิคุณเป็นไปในทางเดียวกันเหมาะกับการทำตะกรุดเทพสงครามอย่างแท้จริง ท่านนำมาลงอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งท่านเน้นย้ำว่าห้อยตะกรุดนี้ไม่ต่างจากห้อยองค์พระขันทกุมารเลย ต่างกันแค่ท่านอยู่ในรูปตะกรุดซึ่งทำยากกว่าเท่านั้น ซึ่งเมื่อลงตะกรุดนั้นองค์สกันทะเทพได้บอกกับพ่ออาจารย์ว่าให้ใส่กำลังโสฬสลงไปในองค์พระด้วย กำลังตัวอื่นๆนั้นท่านไม่เอา พ่ออาจารย์บอกว่านี่สำคัญมากนะเป็นมหากรุณาโดยแท้ทีเดียว เพราะกำลังอื่นๆแม้แต่กำลังจักรพรรดิกำลังมหาจักรพรรดิก็ดี คนที่ได้ไปจะยิ่งใหญ่มั่งมีเพียงไหน แต่มันก็ต้องสร้างด้วยตัวเองขึ้นมาสร้างจากความลำบาก คนเราเนี่ยชอบคิดเพ้อเจ้อไปเอง พอได้ยินอะไรว่าจักรพรรดิ์หรือมหาจักรพรรดิ์จะรีบขวนขวายมาบูชา เพราะคิดว่าดีที่สุดและยิ่งใหญ่สุดๆแล้ว มันไม่ใช่นะบางครั้งลำบากยากแค้นไปทั้งชีวิตเลย คือว่าเหนื่อย ต้องเหนื่อยก่อนถึงจะสำเร็จ สำเร็จเรื่องหนึ่งก็ต้องเหนื่อยต่อ นี่มันไม่จบ ท่านจึงว่าท่านไม่เอา ท่านให้ใส่กำลังโสฬสเอาไว้โดยประทาน 16 มหาอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนพลังจักรวาลทั้งในฝ่ายเทวะและมหาศักติให้ ท่านว่ากำลังโสฬสนี่สบาย จะได้ทรัพย์สินหรือทำสิ่งใดก็ได้ ก็สำเร็จ มาแบบฟลุคๆง่ายๆ โชคลาภเข้ามาไม่ขาด หนุนด้วยมหาอักขระ 16 อักษรนี้ จะเปิดบารมีเก่าดึงมาไว้ใช้กับตัว เทวดาทั้ง 16 ห้องสวรรค์ชั้นฟ้าเกื้อหนุน ชะตาชีวิตจะไม่อับจน นี่ถ้าพระองค์ท่านไม่บอกเราก็นึกไม่ออกเหมือนกัน ท่านว่าต่อให้ลงกำลังใดๆซัก 108 ก็สู้กำลังโสฬสนี่ไม่ได้ ถ้าไม่มีตัวนี้ลำบากกันทั้งชีวิตเลย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ลง 16 อักขระศักดิ์สิทธิ์เท่ากำลังโสฬสลงในตะกรุดลงถมเพื่อเป็นสื่อชักนำกำลังของเทพเจ้ามาสู่ตัวมนุษย์ให้แรงขึ้นและไวขึ้น ซ้ำยังได้ลงตะกรุดตะกั่วด้วยวิชาเฉพาะซึ่งองค์พระขันธกุมารท่านให้ใส่ไว้เสริมลงไปอีก

    องค์พระขันทกุมารนั้นปรากฏพระรูปของท่านและย้ำกับพ่ออาจารย์ว่าท่านถือหอกด้วย ท่านว่าสำคัญนัก "กายนี้คือกายของพ่อเรา หอกนี้คืออำนาจแม่ของเรา จะขาดกันไม่ได้" เพราะหอกคืออำนาจทั้งหมดของฝ่ายมหาศักติ แม่เราแบ่งรูปกายออกมาเพื่อเป็นยอดศาสตราวุธให้กับเรา เช่นนั้นเมื่อลงตะกรุดท่านจะลงครบตามวิชาที่องค์พระขันทกุมารนิมิตบอกท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชาเทพนิมิตนี้ทำยากเราต้องเชิญท่านมาจับมือเขียนนั่นและถึงทำได้มีกำลังบริบูรณ์ดุจองค์ท่านทำเอง สื่อถึงท่านเองทุกอย่าง ตะกรุดทุกดอกอุดด้วยผงมุรุกานเทวะ ในส่วนของตัวประสานนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ผสมน้ำผึ้งป่าเดือน 5 เข้าไป แต่พิเศษเหนือสิ่งใดเพราะเป็นรังผึ้งที่สร้างอยู่ใต้ดินผิดธรรมชาติ เรียกว่าน้ำผึ้งดำซึ่งมีสีดำสนิท เป็นของหายากมาก ด้วยชาวป่าชาวเขาตั้งใจหามาถวายให้ท่านกิน แต่ท่านเอามาเทเป็นตัวผสานให้หมดเลย ท่านว่าชันโรงใต้ดินดีอย่างไร น้ำผึ้งใต้พระแม่ธรณีนี้หากนำมาเป็นตัวประสานก็ดีดุจเดียวกัน ทั้งกันฟ้า กันภัย กันเคราะห์ กันกระทำย่ำยี แต่เเรงกว่านั้นร้อยเท่า ท่านเก็บไว้เพื่อสร้างเครื่องรางในสายองค์พระขันทกุมารโดยเฉพาะ

    ตะกรุดนี้พ่ออาจารย์ท่านทำไว้ตั้งแต่เมื่อแรกสร้างพระมุรุกันไตรโลกาธิบดี ท่านทำไว้เพียง 16 ดอกเท่านั้นบังเอิญจบที่กำลังโสฬสพอดีท่านจึงเอาแค่นั้น และเมื่อแรกสร้างนั้นพ่ออาจารย์ท่านเชิญองค์พระขันทกุมารมาประจุญาณ ท่านสวดเสกตะกรุดชุดนี้ไม่ต่ำกว่าสามเดือนจึงเสกเสร็จไม่นับรวมที่อธิษฐานจิตเฉพาะมายาวนานปีนี่อีกจึงเชื่อได้ว่าตะกรุดชุดนี้มีกำลังกล้าแข็งมาก ท่านว่าเหมาะแก่คนที่มีกรรมหนัก ต้องการความสำเร็จมาก ชีวิตไม่อยากแสวงหาเพื่อทำอะไรที่ต้องลงแรงให้เหนื่อยอีกแล้วหรือต้องการเครื่องมงคลที่เป็นศูนย์รวมของพลังในมหาจักรวาลทั้งฝ่ายเทวะและมหาศักติครบถ้วน

    คาถาบูชา
    โอม ตัตตะปุรุสายะวิทัมเห มหาเสนายะธีมะหิ ตันโนสะกันทะปะโจทะยาต โอม สะกันทายะ นะมัส


    * ข้อควรกระทำ
    พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ถือเคล็ดถวายนมโคสดประจำ ถวายเสร็จก็ลามาดื่มกิน เพราะองค์มุรุกันนั้นท่านโปรดน้ำนมโคเป็นที่สุด ควรจะหาแก้วเล็กๆซักใบตั้งไว้ถวายนมให้ท่านบอกกล่าวท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งทำทุกวันยิ่งดี หรือจะเอาตะกรุดนี้ตั้งไว้ในชามใหม่ที่สะอาดแล้วนำนมโคสดมาราดสังเวยตะกรุด พ่ออาจารย์ท่านว่าได้กุศลดุจเอาน้ำนมนั้นราดบูชาองค์พระสกันทะเทพทีเดียว น้ำนมนั้นเมื่อราดแล้วก็ยังนำมาดื่มกินต่อได้ ทำแบบนี้ท่านว่ารับรองว่าสนิทและเข้าถึงกันได้ไวมาก ขออะไรก็ไวด้วย

    ### ตะกรุดครูนี้ท่านสร้างไว้น้อยมาก ท่านว่าของที่เกี่ยวข้องกับองค์พระขันทกุมารนั้นมีคู่มีเจ้าของโดยกำหนดจากพระองค์ท่านทุกดอกทุกคน รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการเจิมเปิดจิตเบิกเนตรองค์พระขันทกุมารให้เพื่อให้เชื่อมต่อและเข้าถึงเราได้โดยสะดวก รายได้ร่วมสมทบทุนโครงการอาหารกลางวันของนักเรียนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษาต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดดอกครูเทพสงครามพระมุรุกันไตรโลกาธิบดีลงถมตะกั่วกรุศรีสวัสดิ์(เทวะเสนา) บูชา 2,500 บาท

    72139132-2502140463206742-8392722286611791872-n.jpg
    70621378-468030317123386-6616623704782667776-n.jpg
    71170916-738136509992470-6549258585853919232-n.jpg
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ตำนานผ้ายันต์

    ความเชื่อในสิ่งเร้นลับที่หาคำตอบไม่ได้ ความศรัทธาที่อยู่เหนือธรรมชาติ อยู่คู่กับคนไทยมาช้านานตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายคนหาสิ่งของศักดิ์สิทธิ์ที่เชื่อว่ามีพลังคุ้มครองให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากภยันตราย รวมถึงให้โชคลาภต่างๆ มาพกติดตัว ผ้ายันต์ ถือว่าเป็นของขลังชนิดหนึ่งที่ผู้คนนิยมพกไว้ติดตัว

    ผ้ายันต์ เป็นผืนผ้าที่จารึก คาถา อักขระโบราณ และภาพสัญลักษณ์ต่างๆ ที่เกิดจากความเชื่อทางไสยศาสตร์ของผู้คนแห่งอาณาจักรสุวรรณภูมิ ที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษนานนับพันปี ผ้ายันต์จึงถือเป็นสิ่งที่เคารพบูชา และเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนที่มีความเชื่อและความศรัทธาในผืนผ้ายันต์

    คำว่า “ยันต์” มาจากภาษาบาลี แปลว่า สิ่งที่มนุษย์พึง เซ่น สรวงบูชา เพื่อให้บังเกิดความสุขความเจริญ จะพบได้บนแผ่นกระดาษ แผ่นเงิน แผ่นทอง รวมทั้งบนผืนผ้าและบนผิวหนังของมนุษย์ที่ศรัทธา ส่วนสัญลักษณ์คล้ายยันต์นั้นปรากฏเป็นตัวเลขในดินแดน อาหรับ และยุโรป และยังปรากฏเป็นตัวอักษรในดินแดนจีน พม่า ธิเบต ลาว กัมพูชา และไทย

    แหล่งที่มาของผ้ายันต์ แรกเริ่มเดิมทีคนเรานั้นยังไม่มีศาสนา จะนับถือพวกผีสาง เทวดา และปรากฏการณ์ธรรมชาติต่างๆ เช่น ฝนตก ฟ้าร้อง จึงนำเอาตัวเลขของวัน เดือน ปี ที่เกิดปรากฏการณ์ต่างๆ มาผูกกัน จนกลายเป็นวิชาที่ว่าด้วยอักขระ และตัวเลข ซึ่งนำมาเรียบเรียงกันแล้วจึงทำให้เกิดพลังขึ้นมา

    ความหมายของผ้ายันต์ เมื่อทำการถอดคาถา และอักขระออกมาจะแปลว่า เป็นคำสั่งสอนให้คนประพฤติตนเป็นคนดี ประพฤติชอบอยู่ในศีลธรรม และยังเป็นคำอวยพรให้มีความสุขความเจริญ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าแทบทั้งสิ้น

    สัญลักษณ์ที่ปรากฏอยู่บนผ้ายันต์ต่าง ๆ นั้น แบ่งความหมายได้เป็น 2 ลักษณะ คือ
    1. ลักษณะลายเรขาคณิต จะมีสัญลักษณ์เป็นรูปร่างต่างๆ เช่น รูปวงกลม หมายถึง ดวงอาทิตย์ เป็นสิ่งที่ทรงพลังสูงสุดของธรรมชาติ รูปสามเหลี่ยม หมายถึง เทพทั้ง 3 ตามลัทธิฮินดู ได้แก่ พระพรหม พระนารายณ์ และพระอิศวร และรูปสี่เหลี่ยม หมายถึง ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
    2. ลักษณะลายรูปภาพ จะมีลักษณะหลากหลายรูปแบบ เช่น รูปบุคคล จะเป็นภาพบุคคลที่นับถือ มีอำนาจและพลังตามความเชื่อ อาทิ นางกวัก พระ เทพ และเทวดา ส่วนรูปสัตว์ เป็นภาพสัตว์ในความเชื่อ อาทิ เสือ วัว และจิ้งจก และรูปต้นไม้-ดอกไม้ อาทิ ดอกบัว ต้นโพธิ์ เป็นต้น

    นอกจากนี้ ประเภทของผ้ายันต์ได้มีการแบ่งออกเป็น 9 ประเภท คือ
    1. ยันต์เมตตามหานิยม มีไว้ให้คนรักใคร่ เมตตา หายโกรธเคือง หากพกติดตัวเวลาไป พูดคุยติดต่อกับใคร จะทำให้ราบรื่นประสบความสำเร็จ
    2. ยันต์มหาอำนาจ มีไว้แล้วจะทำให้คนเคารพเกรงขามมีบารมี หากพกติดตัวเข้าป่าจะสามารถป้องกันสัตว์ร้าย หากออกสู้รบจะมีชัยชนะ
    3. ยันต์ค้าขาย เชื่อว่ามีแล้วจะทำให้ค้าขายได้กำไรร่ำรวย เงินทองไม่ขาดมือพอกพูนขึ้นเรื่อยๆ
    4. ยันต์มหาเสน่ห์ หรือ ยันต์เรียกผัว มีไว้ครอบครองจะทำให้คนหลงรักหลงเสน่ห์ ซึ่งมักทำเป็นรูปหญิงสาวมีความสัมพันธ์กับสัตว์ เช่น ช้าง ม้า วัว
    5. ยันต์โชคชะตา เป็นยันต์ที่ทำนายโชคชะตาไว้ดูฤกษ์ยามมงคลต่างๆ คล้ายปฏิทินดูดวง โดยมากจะมีดวงชะตาของเจ้าของผ้ายันต์อยู่ด้วย
    6. ยันต์อยู่ยงคงกะพัน เป็นยันต์ที่มีไว้เพื่อป้องกันอันตรายจากอาวุธต่างๆ ศัตรูยิงแทงฟันไม่เข้า ในอดีตเชื่อกันว่าหากปฏิบัติตามคาถาอย่างเคร่งครัดจะ ทำให้ทำให้หายตัวได้
    7. ยันต์ป้องกันภัย ใช้ป้องกันภูตผีปีศาจ วิญญาณ ภัยธรรมชาติ และคุณไสยต่างๆ
    8. ยันต์สารพัดนึก หรือ ยันต์พันช่อง มีความเชื่อว่า จะทำให้แคล้วคลาดจากอันตรายทุกชนิด จากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ และสิ่งชั่วร้ายทั้งปวง อยากจะได้อะไรก็ได้ตามที่ต้องการ
    9. ยันต์ฝ่าต๊ะ หรือยันต์ประทับรอยมือ รอยเท้า ถือเป็นยันต์ชนิดพิเศษที่พบยาก เมื่อนำติดตัว หรือบูชาคนที่มีบารมี และเป็นที่เคารพรัก เสมือนเป็นสิ่งมงคลป้องกันภัย และนำโชคมาแก่เจ้าของ มักพบเป็นรอยฝ่าเท้าและฝ่ามือของบิดา มารดา และพระสงฆ์ผู้มีชื่อเสียง เช่น ผ้ายันต์ฝ่าต๊ะของครูบาศรีวิชัย

    [​IMG]
    ในสมัยก่อน ผ้ายันต์เป็นของขลังที่นักรบมีไว้ติดตัวกันในการออกรบ เพื่อไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้รู้สึกปลอดภัยจากภัยและอันตรายรอบตัว ทั้งจากศัตรูและภูตผีปีศาจ โดยส่วนมากผ้ายันต์จะได้รับการปลุกเสกจากพระที่เลื่อมใสศรัทธากันในจังหวัดของตน

    คุณสมบัติของผู้ลงยันต์ ต้องเป็นบุคคลพิเศษที่ได้รับการถ่ายทอดในวิชานี้ทั้ง การเขียน และการท่องคาถาประกอบตามอานุภาพของยันต์นั้นๆ อีกทั้งยันต์จะมีอำนาจได้ก็ต่อเมื่อผู้ทำจะต้องตั้งจิตและสมาธิในการทำ ส่วนผู้รับต้องน้อมรับด้วยความเคารพ ศรัทธา และนับถือ มีการบูชาและจัดเก็บไว้ในที่เหมาะสม รวมถึงต้องท่องคาถาประกอบยันต์นั้นๆ อย่างเคร่งครัด และปฏิบัติตนตามกฎที่กำหนดไว้ เช่น ห้ามผิดศีล 5 ห้ามลอดใต้ถุนบ้าน ราวตากผ้า และห้ามบริโภคเนื้อสัตว์ เป็นต้น

    มีความเชื่อกันมาว่าผู้ใดที่ได้ครองครองของขลัง แล้วปฏิบัติตนตามกฎไม่ได้ จะกลายเป็นโทษต่อตนเอง คนโบราณถือว่าผ้ายันต์เป็นของที่มีค่า ไม่ค่อยจะขายผ้ายันต์ให้ใครง่ายๆ จึงเป็นเรื่องที่ยากในการจะไปซื้อหาเก็บไว้ ต้องรอให้ยันต์ตกเป็นมรดกถึงรุ่นลูกรุ่นหลานเสียก่อน ถึงจะนำมาขาย ซึ่งในปัจจุบันผู้ที่มีความเชื่อและศรัทธาในผ้ายันต์ น้อยลงกว่าเมื่อก่อน

    ด้วยเหตุหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการได้รับอิทธิพลและค่านิยมฝั่งตะวันตก ผู้คนอยู่ในศีลธรรมน้อยลงกว่าเดิมจึงทำให้ยากต่อการปฏิบัติตนตามกฎที่กำหนดไว้ ทำให้คุณประโยชน์ของยันต์ลดน้อยลงไป แต่ผ้ายันต์ก็คงยังสะท้อนให้เห็นประวัติศาสตร์ ความเชื่อ ความศรัทธาของบรรพบุรุษ ที่อยากให้ช่วยกันอนุรักษ์ ไว้ ให้คนรุ่นหลังได้ค้นคว้า ศึกษา และชื่นชมในภูมิปัญญาของไทย…

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2019
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ศิระ EI 2170 8491 5 TH

    พี่ณธพรหม EI 2170 8492 9 TH

    พี่พรเทพ EI 2170 8493 2 TH

    พี่อัครพงศ์ EI 2170 8494 6 TH
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ที่โอนไว้ส่งให้พรุ่งนี้นะครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะพูดคุยเรื่องเครื่งรางที่ถือได้ว่า ถ้าตั้งใจทำจริงๆจัดเป็นอะไรที่สร้างได้ยากสุดๆเลย ในขณะเดียวกันอีกกรณีหนึ่งถ้าทำขอไปทีก็ทำได้ง่ายมีพุทธคุณเหมือนกัน...*** แต่ทั้งสองอย่างนี้มีขั้นความต่างกันอย่างยิ่ง เอาไว้ติดตามพูดคุยกันนะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ลูกอม

    ### ก็จะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเครื่องรางที่สร้างได้ยากอย่างยิ่ง(ยากจริงๆ) หากแต่ไม่ค่อยมีคนสนใจกัน ยิ่งพอพูดถึงลูกอมแล้วความสนใจเมื่อเอาไปเทียบกับพระจะลดลงไปเลย ซึ่งในความเป็นจริงต้องบอกว่าลูกอมนั้นเป็นเครื่องรางที่มีคุณค่าหนักไปทางการใช้งานมากกว่าสิ่งใดๆด้วยซ้ำ เพราะคับขันยังนำเข้าปากอมได้ แล้ววิชาการทำลูกอมที่เป็นลูกอมโดยเฉพาะจริงๆนั้นก็ทำได้ยากยิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าลูกอมสมัยนี้อย่างดีก็เอาเนื้อพระเหลือๆเวลากดไว้มาปั้นไม่ได้สร้างตามตำรับการทำลูกอมโดยเฉพาะอย่างแท้จริง เช่นนี้เองที่ท่านเรียกว่าเห็นเป็นลูกอมแต่ก็ไม่ใช่ลูกอม(ถึงจะมีพุทธคุณก็ยังไม่ใช่) ซ้ำวิชาลูกอมที่เอาเข้าปากอมได้จริงๆนั้นนับวันยิ่งหายากเต็มที หาได้ยากยิ่งกว่าการสร้างพระไม่รู้กี่เท่า วันนี้จึงจะเอาบทความเรื่องราวเกี่ยวกับลูกอมมายกไว้ให้อ่านอีกครั้ง

    ลูกอมเป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งที่อาจารย์ผู้ชำนาญทางด้านวิทยาคมนิยมสร้างกัน บางครั้งอาจจะมองว่าลูกอมนั้นสร้างได้ง่ายไม่ยุ่งยากอะไรไม่ต้องมีการแกะแม่พิมพ์หรือว่าจ้างโรงงานทำเหมือนสร้างพระเครื่องอีกทั้งวัสดุในการสร้างลูกอมก็สามารถหาได้ง่ายอาจารย์ผู้สร้างเพียงท่านเดียวก็สามารถสร้างลูกอมได้โดยไม่ต้องให้ใครไปช่วย แต่จริงๆแล้วลูกอมก็เป็นเครื่องรางที่สร้างได้ยากเช่นเดียวกับวัตถุมงคลอื่นๆ

    ลูกอมส่วนมากที่เราพบเห็นกันจะสร้างด้วยเนื้อ “ผงวิเศษ” ซึ่งผงวิเศษที่จะนำมาสร้างลูกอม มีอยู่ 5 ชนิดด้วยกันเรียกว่า ผงวิเศษห้าประการ ซึ่งประกอบด้วย ผงปถมัง,ผงอิทธิเจ,ผงตรีนิสิงเห,ผงมหาราช,ผงพุทธคุณ

    ขั้นตอนของการสร้างลูกอม จะต้องสร้างผงวิเศษ5ประการนี้ขึ้นมาก่อนโดยผู้สร้างจะทำการสร้างผงวิเศษแต่ละชนิดด้วยการเอา “ดินสอผงวิเศษ”มาเขียนอักขระตามสูตรของการสร้างผงแต่ละชนิดบน “กระดานชนวน” ขณะที่เขียนจะต้องประกอบไปด้วยมือเขียน ตาจ้อง จิตเพ่ง ปากภาวนาไปพร้อมๆกันเมื่อเขียนอักขระเสร็จแล้วก็จะปลุกเสกอักขระนั้นก่อนจากนั้นจึงเอามือลบอักขระเป็นผงเก็บรวบรวมเอาไว้ซึ่งขณะที่ลบผงบนกระดานชนวนนั้นก็จะบริกรรมคาถากำกับเอาไว้ด้วย

    อาจารย์บางท่านเมื่อเขียนผงและปลุกเสกแล้วขณะที่กำลังลบผงอยู่นั้นผงจะร่วงทะลุกระดานชนวนลงสู่ภาชนะที่รองรับอยู่ข้างล่างได้เองอาจารย์ท่านใดที่สามารถลบผงจนผงทะลุกระดานชนวนลงสู่ภาชนะรองรับข้างล่างได้เองนี้เชื่อกันว่าอาจารย์ท่านนั้นสำเร็จวิชา “นะปัดตลอด”

    ในการเขียนและลบผงวิเศษแต่ละครั้งนี้ จะได้ผงอย่างมากก็แค่ครึ่งช้อนกาแฟเท่านั้น ผู้สร้างจะต้องเขียนและลบผงครั้งแล้วครั้งเล่าเป็นร้อยๆครั้งจึงจะได้ผงเท่ากับจำนวนที่ต้องการในแต่ละอย่างแล้วต้องลบและทำผงให้ได้ผงวิเศษทั้ง5ประการนี้จนครบถ้วนตามตำราซึ่งการที่จะทำผงวิเศษให้ได้ครบทั้ง5อย่างนี้อาจต้องใช้ระยะเวลาเป็นปีๆจึงต้องใช้ความอุตสาหะเป็นอย่างมาก

    แต่อาจารย์บางท่านอาจจะชำนาญหรือเก่งในการทำผงได้เพียงบางอย่างไม่ครบทั้ง5อย่างแต่ถ้าทำผงถูกต้องตามขั้นตอนของตำราในการทำผงวิเศษแต่ละชนิดแล้วผงวิเศษแต่ละชนิดนั้นก็ย่อมมีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ในตัวเองซึ่งผงวิเศษแต่ละชนิดจะมีคุณวิเศษไม่เหมือนกันหากทำผงวิเศษได้ครบทั้ง5ชนิดแล้วนำเอามารวมกันย่อมที่จะทำให้ผงวิเศษนั้นมีคุณวิเศษในทุกๆด้านแบบครอบจักรวาล

    นอกจากผงวิเศษแล้วอาจารย์บางท่านยังได้นำเอาพวกวัสดุอาถรรพณ์บางอย่างผสมกับผงวิเศษในการสร้างลูกอมด้วย ซึ่งก็ได้แก่ ตะไคร่ ใบเสมา ตะไคร่พระเจดีย์ ดินโป่ง ดินท่า ดินป่าช้า ดินอุดรูปู ดินเมืองร้าง ดินเหนียวกลางใจท้องนา ว่าน ผงธูป ฯลฯเพื่อเป็นการเพิ่มคุณวิเศษให้กับลูกอมยิ่งขึ้นไปอีก

    เมื่อได้ผงวิเศษตามตำราครบรวมกับวัสดุอาถรรพณ์บางชนิดแล้วต่อไปก็จะนำเอามวลสารเหล่านั้นมาคลุกเคล้าให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกันจากนั้นก็ผสมกับตัวประสานเนื้อหามวลสารที่เป็นของเหลวเช่น “น้ำมันตังอิ๊ว”เพื่อให้เนื้อหามวลสารเกาะยึดตัวแน่นสมัยก่อนอาจารย์บางท่านที่หาน้ำมันตังอิ๊วไม่ได้ก็จะใช้ “น้ำอ้อย”เป็นตัวประสานซึ่งก็มีคุณสมบัติช่วยให้เนื้อหามวลสารเกาะยึดตัวกันแน่นเหมือนกันสมัยก่อนการสร้างพระเนื้อผงเขาก็นิยมใช้น้ำอ้อยเป็นตัวประสานเนื้อ

    เมื่อเอาตัวประสานเนื้อซึ่งเป็นของเหลวผสมกับมวลสารขณะที่เนื้อหามวลสารยังหมาดๆอยู่ก็จะเริ่มทำการปั้นเนื้อหามวลสารนั้นเป็นลูกกลมๆหรือลูกอมนั้นก็จะต้องมีการบริกรรมคาถาปลุกเสกไปตลอดเวลาด้วยเช่นกัน

    เมื่อปั้นเป็นลูกอมเสร็จได้จำนวนตามที่ต้องการแล้วก็จะเอาลูกอมนั้นไปผึ่งลมให้แห้งแล้วเก็บรวมเอาไว้เพื่อรอฤกษ์ในการปลุกเสกต่อไป สำหรับขั้นตอนของการปลุกเสกลูกอมนั้นนิยมปลุกเสกในช่วงเข้าพรรษา คือต้องปลุกเสกให้ครบไตรมาสหรือ3เดือนจะขาดวันใดหนึ่งแม้แต่พียงวันเดียวไม่ได้แม้จะป่วยอย่างไรก็ต้องพยายามฝืนปลุกเสกให้ครบทุกวันในพรรษานั้นแล้วการปลุกเสกแต่ละคืนก็ต้องปลุกเสกให้ครบจากกรรมวิธีการสร้างและการปลุกเสกที่เคร่งครัดหลายขั้นตอนนี้จึงทำให้ลูกอมเป็นเครื่องรางที่มีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่นิยมกันมากไม่แพ้วัตถุมงคลชนิดอื่นๆ

    ในส่วนของวิธีใช้สำหรับลูกอมนั้นจริงๆแล้วเมื่อมีชื่อเรียกกันว่า “ลูกอม” ลูกอมจึงมีวิธีการใช้โดยการอมไว้ใต้ลิ้นในปากเมื่อเวลาพูดจาก็จะเป็นที่ไพเราะน่าฟังและรักใคร่แก่ผู้ที่ได้ยินหรืออมไว้ใต้ลิ้นตลอดเวลาก็จะเป็นที่รักที่เมตตาแก่ผู้ที่ได้พบเห็นทั่วไปอีกทั้งยังป้องกันอันตรายต่างๆได้ดีอีกด้วย แต่มาระยะหลังๆนิยมเอาลูกอมไปถักเชือกคาดสะเอวหรือห้อยคอปัจจุบันก็นิยมเอาลูกอมไปเลี่ยมพลาสติกหรือทำตลับพกบูชาติดตัวไม่ค่อยนิยมอมไว้ใต้ลิ้นในปากเหมือนเมื่อก่อนนอกจากลูกอมที่สร้างด้วยเนื้อผงวิเศษแล้วเรายังพบลูกอมที่ทำด้วยวัสดุอย่างอื่นที่แตกต่างออกไปอีกเช่น

    ลูกอมชานหมาก ซึ่งลูกอมชนิดนี้จะนำเอาชานหมากของพระสงฆ์ที่มีวัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใสหรือแก่กล้าทางวิทยาคมมาสร้างเนื่องจากพระสงฆ์ที่เคร่งครัดในวัตรปฏิบัติหรือแก่กล้าวิทยาคมนั้นขณะที่ท่านฉันหมากก็จะอยู่ในอารมณ์ภาวนาอยู่ตลอดเวลา หมากที่ท่านกำลังฉันก็เหมือนกับได้รับการปลุกเสกตลอดไปด้วยเมื่อท่านคายออกมาก็ถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์สามารถนำไปใช้ได้เลยเพราะท่านได้ปลุกเสกไว้แล้ว แต่ส่วนมากเมื่อได้ชานหมากแล้วก็นิยมให้ท่านปลุกเสกอีกครั้งหนึ่งเพื่อเพิ่มความมั่นใจขึ้นไปอีก

    นอกจากลูกอมชานหมากแล้วก็ยังมีลูกอมอีกชนิดหนึ่งที่นิยมสร้างกันแพร่หลายคือ

    ลูกอมเทียน เป็นลูกอมที่ทำมาจากน้ำตาเทียนไขแต่ไม่ใช่น้ำตาเทียนไขที่จุดเพื่อให้แสงสว่างธรรมดาๆเป็นน้ำตาเทียนไขที่ได้มาจากเทียนชัยในพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลเทียนวิปัสสนาเทียนทำน้ำมนต์ฯลฯซึ่งน้ำตาเทียนเหล่านี้ถือว่าได้รับการปลุกเสกแล้วพระเกจิอาจารย์บางท่านเมื่อหยดน้ำตาเทียนใส่ขันหรือบาตรที่บรรจุน้ำเพื่อทำน้ำมนต์เมื่อเสร็จพิธีแล้วชาวบ้านก็จะเอาน้ำตาเทียนในขันหรือบาตรมาปั้นเป็นก้อนกลมๆทำเป็นลูกอมกันลูกอมเทียนของพระเกจิอาจารย์บางท่านอาจจะมีผงวิเศษหรือเส้นเกศาของท่านบรรจุเอาไว้ด้วย

    ลูกอมลบถม เป็นลูกอมที่คณาจารย์นิยมสร้างกันมากซึ่งส่วนมากนิยมลง(อักขระเลขยันต์)ถมในแผ่นตะกั่วซึ่งสะดวกสบายกว่าวัสดุชนิดอื่นวิธีลบถมก็คือหล่อตะกั่วให้ละลายแล้วเทในถาดขนมปาดหน้าให้เรียบแล้วจึงนำมาจารลงอักขระเลขยันต์ตามถนัดหรือตามพระยันต์ที่ได้เล่าเรียนมาลงไปภาวนาไปจนเต็มเนื้อที่แล้วก็ใช้ลูกสะบ้าขัดทับลงไปให้เรียบแล้วจึงลงใหม่กระทำอยู่เช่นนี้อาจจะเป็นร้อยเที่ยวพันเที่ยวหรือหมื่นแสนเที่ยวก็ตามทีเห็นว่าลงจงดีแล้วให้ลองเอาใส่กระทะหลอมไฟดูปกติธรรมดาตะกั่วจะละลายหลอมเหลวได้ง่ายแต่ถ้ากระทำได้ที่อิทธิฤทธิ์จะค่อยๆดื้อไฟผลสุดท้ายถ้าดีถึงเกณฑ์สุดจะหลอมไม่ละลายนั่นแหละท่านอาจารย์จะนำเอามากล่อมเป็นลูกกลมๆมีน้ำหนักประมาณ1บาทเรียกว่าลูกอมลบถมแจกบรรดาลูกศิษย์ลูกหาและเพื่อสะดวกในการร้อยเชือกห้อยแขวนคอหรือคาดเอวท่านจะเจาะรูตรงกลางมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าลูกสะกด ลูกสะกดเนื้อตะกั่วลบถมของเก่าเคยมีผู้ขุดพบตามกรุหรือเจดีย์เก่าๆสมัยอยุธยามีคราบขุมสนิมจับแดงไปหมดแสดงว่าท่านโบราณาจารย์สมัยโบราณนิยมสร้างกันมาก

    ตะกรุดลูกอมม้วน เป็นก้อนกลมๆมีความกว้างขนาดเท่าใบมะขามยาวประมาณ7นิ้วลงในแผ่นทอง นาค เงิน ตะกั่ว ทองแดง อลูมิเนียมก็เคยพบเมื่อลงแล้วม้วนเข้าเป็นตะกรุดจึงมีลักษณะกลมป้อมร้อยด้วยไหมเจ็ดสีเรียกว่าตะกรุดลูกอม เรื่องตะกรุดลูกอมนี้เล่นหายากเหมือนกันเพราะอักขระเลขยันต์ท่านเขียนอยู่ภายในดูก็ไม่เห็นแต่ก็มีจุดที่พอจะพิจารณา ได้อยู่2ประเด็นด้วยกันคือถ้าเป็นตะกรุดของเก่าของแท้ส่วนมากจะม้วนอยู่หลายชั้นดูถี่ยิบทีเดียวเพราะความยาวของตะกรุดอยู่ประมาณ7-8นิ้วพิจารณาดูที่ร้อยเชือกถ้าเป็นของเก่าผ่านการใช้มาแล้วตรงรูจะสึกเป็นแอ่งลึกลงไปหรือไม่ก็ชั้นของตระกรุดลบเลือนเกือบจะเป็นเนื้อเดียวกันอย่างงั้นละก้อเล่นหาได้สนิทใจตะกรุดลูกอมของแท้(ของเก่า)มีอุปเท่ห์อยู่มากมายใช้ได้รอบตัวเข้าที่อับจนท่านให้กลืนตะกรุดลงไปเลยก็จะเอาตัวรอดได้เมื่อกลืนตะกรุดลูกอมลงไปในคอแล้วตะกรุดจะไม่ถ่ายออกทางทวารหนักแต่จะออกมาทางปากในเวลานอนหลับ

    ลูกอมชนิดทำด้วยใบลาน ใบตาลมีลักษณะกลมป้อมคล้ายตะกรุดลูกอมเหมือนกันท่านคณาจารย์ผู้ชาญฉลาดท่านได้เอาใบลานหรือใบตาลมาลงหัวใจพุทธมนต์ต่างๆลงไปแล้วม้วนเป็นรูปกลมๆตรงกลางมีรูส่วนมากจะถักด้วยเชือกแล้วลงรักปิดทองเป็นเครื่องรางของขลังอีกชนิดหนึ่งที่เคยเห็นและนิยมเล่นหาอยู่มากเหมือนกันลูกอมใบลานนี้บางท่านเรียก “ลูกกลอน”ของเก่ามีสร้างหลายอาจารย์ด้วยกัน

    b475bf7c9427a179e31fda933bba992b.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่คณพศ EI 2170 8921 0 TH

    พี่ทวีพงษ์ EI 2170 8922 3 TH

    พี่พิสุทธิ์ EI 2170 8923 7 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ใครที่เคยพลาดปฐมพุทธพักตร์ไป พรุ่งนี้จะลงชุดมหาอุบาสิกาแม่ย่าใหญ่ ชุดนี้ย้ำไว้ก่อนว่าไม่ใช่องค์ลองพิมพ์นะครับ และเนื้อหามวลสารก็ค่อนข้างจะพิเศษมากๆโดยเฉพาะแม่ย่าใหญ่.. และรายการนี้ก็บูชาไม่แรงมาก ใครไม่ทันหรือรอและถามหาปฐมพุทธพักตร์อยากได้เผื่อครอบครัวหนนี้อย่าช้านะครับ บอกได้เลยว่ามีไม่มากพอเปิดแล้วเดี๋ยวจะหมดเร็วอีก
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สลับ กลับ คลาดเนื้อยาแก้กรรมปัดอุบาทว์(ชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่)

    นับแต่โบราณนั้น...ใบหน้าถือเป็นศรี (ราศี) ที่สำคัญของร่างกาย ชาวไทยเราจึงเชื่อกันว่าการล้างหน้าเป็นการชำระล้างร่างกายส่วนที่สำคัญที่สุด ดังนั้นจึงมีการสวดอาราธนาพระคาถาเวลานำน้ำมาล้างทำความสะอาดใบหน้าและร่างกายเวลาเช้าเพื่อให้ราศีสถิตย์อยู่บนใบหน้า...การสร้างพุทธพักตร์สมเด็จองค์ปฐมนั้น นับว่าเป็นงานยากที่สุดในชีวิตของพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ผิดซึ่งท่านได้เมตตาบอกกล่าวว่า ท่านยังจำสาเหตุที่จะสร้างได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มนั้นท่านมีนิมิตถึงหลวงพ่อปานได้พาท่านไปหาเสด็จพระใหญ่ แต่อยู่ดีๆตอนนั้นท่านก็ได้จ้องไปที่พระพุทธพักตร์แล้วมีความรู้สึกว่า หากได้ทำพระพุทธพักตร์ของเสด็จท่านให้ผู้ศรัทธานำไปบูชาแล้ว คงจะเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิตของทุกคนไม่น้อย ท่านว่าเราเพียงระลึกอยู่เท่านี้ แต่เสด็จพระใหญ่กลับเปล่งวาจาว่าสาธุๆออกมาถึงสามครั้งสามหน

    พ่ออาจารย์ท่านหลังจากได้รับพุทธนิมิตแล้วก็ตั้งใจว่าจะทำและจะทำให้อย่างดีที่สุด ท่านว่าท่านไม่เคยทำอะไรที่ยากถึงเพียงนี้เลย เพราะเสด็จพระใหญ่กำหนดให้มาแต่เดิม เมื่อจะสร้างปฐมพุทธพักตร์นั้นพ่ออาจารย์จำต้องลบถมผงวิเศษถึง 227 ชนิด เท่ากับศีลพระ ทั้งอักขระยันต์จากคัมภีร์ปถมังต่างๆ ตำราพระพิชัยสงครามแต่ละสูตร รวมไปถึงวิชาและอักขระยันต์ต่างๆที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับการขัดเกลาและสั่งสอนโดยตรงจากเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านได้ทำการลบถมจนทะลุกระดานชนวนในเวลาหลายปีกว่าจะได้ครบ 227 ชนิด ซึ่งท่านบอกว่านี่ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งตายก็แล้วกัน ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านเมื่อจะผสมผงสร้างพระท่านยังได้นำผงรัตนมาลาที่ท่านเรียกสูตรลบทีละตัวทีละพระคาถาอีก 108 พระคาถา มาใส่ผสมลงไปด้วย ท่านว่าเฉพาะผงที่ใช่ทำพระนี่ก็นับว่าเป็นที่สุดของวิชาอันจะเกิดจะมีขึ้นได้ในโลกนี้แล้ว ท่านได้เมตตานำผงลบถม 227 ชนิดมาผสมกับผงรัตนมาลาทั้ง 108 ท่านว่าหากจะทำอิทธิวัตถุให้มีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนั้น ตัววัสดุมวลสารที่นำมาใช้จะต้องผสมกลมกลืนกันทั้งพุทธและไสย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษอีกชนิดหนึ่งมาใช้ผสมนั่นก็คือผงโฮมัมหรือฮวานัมที่ได้จากกองกูณฑ์อัคคีในการบูชาไฟด้วยอาถรรพ์เวทย์ต่อองค์พระสยมภูวญาณของท่านผสมลงไปด้วย ท่านว่าผงนี้ดี ใช้ทางกันตัวได้ทุกสิ่งพกอยู่ที่ไหนยิ่งกว่ากำแพงแก้วเจ็ดชั้นหรือว่าตาข่ายเพชรเสียอีก เป็นสุดยอดของกันตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ผงวิชาเกราะเพชรหรือวิชาต่างๆก็เทียบกับผงตัวนี้ไม่ได้ ชีวิตใครที่มักมีสิ่งไม่พึงใจ ไม่พึงประสงค์มารบกวน ทั้งที่ตัวเองก็หาทางแก้แล้ว ไปรับยันต์เกราะเพชรมาก็แล้วหรือพกวัตถุเกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรก็แล้ว ยังแก้ไม่หาย ท่านว่าผงนี้เอาอยู่ ทุกสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นไม่ว่าจะเกิดแต่กรรมลิขิตหรือเป็นไปตามวัฏจักรก็ตาม หากเป็นอัปมงคลแล้วไซร้ย่อมถูกแผดเผาไปให้เป็นจุณมหาวิจุณในพริบตา

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมสมัยนี้อันตรายและน่ากลัว อยู่กันยาก สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านมีโองการหรือดลใจพ่ออาจารย์ท่านอย่างไร เมื่อจะกดพิมพ์ปฐมพุทธพักตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำเครื่องยาโบราณที่ท่านประกอบขึ้นเรียกว่ายาแก้กรรมผสมลงไปในเนื้อพระด้วย ซึ่งยานี้ท่านทำจากสมุนไพรและเครื่องยาโบราณล้วนๆนำมาประกอบกับชะมดเชียง ดีหมี เขี้ยวเสือ นอแรด เป็นต้น ซึ่งท่านว่าเป็นยาที่ทำยากมากสูตรเสด็จพระใหญ่ด้วยว่านยาทั้งหลายที่ท่านกำหนดให้ไปกู้มาประกอบยานั้นล้วนหายากทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำยาแก้กรรมนี้ผสมลงไปในเนื้อพระส่วนนึง ท่านว่ายานี้มีคุณตามชื่อเลย นั่นคือปฐมพุทธพักตร์นี้ใช้ผ่อนหนักเป็นเบาและชะลอกรรมเก่าได้ ขอให้เป็นคนดีหมั่นสร้างความดีอย่าปล่อยโอกาศให้หลุดมือท่านว่าเสด็จท่านจะช่วยเหลือเต็มที่ นอกจากนี้ยาแก้กรรมยังสามารถใช้แก้ได้สารพัด ที่เป็นเครื่องยาอันประกอบด้วยสิ่งอุบาทว์และอัปมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะยามนต์ ยาคุณไสย ยาหลง ยารัก ยาแฝด ยาสั่ง ยาประสาท ยาชัง ยาหน่าย ยาตาย ยาพิษ ยาเสน่ห์ ยาต่างๆที่เกิดจากของฝ่ายต่ำและสิ่งอัปมงคลอันเกิดแต่การกระทำมาด้วยวิธีไสยศาสตร์ทั้งหลายนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำร้ายเราไม่ได้เลย ให้พกยาแก้กรรมนี้ไว้ถึงมีอยู่ในร่างกายถึงขั้นเข้าเลือดเนื้อไปแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะขับออกมาทั้งสิ้น นอกจากนั้นปฐมพุทธพักตร์นี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้ทำผงสำคัญห้าอีกชนิดที่เป็นดุจแหล่งพลังงานสำคัญทั้งห้าของปฐมพุทธพักตร์ลบถมโดยเฉพาะผสมลงในเนื้อพิเศษเอาไว้ ผงเหล่านี้ต้องแยกพิธีเสกออกเป็นทั้งหมดห้าวาระด้วยกัน(ท่านทำพร้อมกับตอนทำตะกรุดฝังชุดแรก) ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าผงทั้งห้านี้เป็นของประเสริฐ เป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง อันจะเป็นปัจจัยให้ก่อเกิดพลังงานและสิริมงคลมากมายแก่ผู้บูชา ซึ่งทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ ซึ่งผงทั้งห้านั้นประกอบไปด้วย
    1. ผงหัวใจพุทธะ ท่านลงนะหัวใจพระพุทธเจ้าไว้ พร้อมทั้งประกอบพิธีเสกกำกับด้วยการเชิญเสด็จพระใหญ่และพระพุทธเจ้าทั้งปวงอันได้เคยอุบัติตรัสรู้มาแต่กาลก่อนในอนันต์จักรวาลนี้ มาทำการประสิทธิ์แฝงพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นผงที่ทำยากมากเพราะผงนี้เสมือนสิ่งที่ได้รวมกำลังของสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าทุกพระองค์ไว้แล้ว ท่านว่าเสกยากจริงๆเพราะตัวเราเองเสกไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ไปเสกต้องให้พระเบื้องบนท่านทำให้ ทุกสิ่งเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ
    2. หัวใจธรรมเวทย์ ท่านลงหัวใจสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ไว้เพื่อลบถมเอาผง พร้อมกับขอความเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ชุมนุมพระเวทย์และพระธรรมทั้งหลาย ประจุพลังงานใส่เข้าไปในผงนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพระสัทธรรมนั้นเป็นพลังงานบริสุทธิ์ กำเนิดมาก่อนตั้งฟ้าตั้งดิน เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่ให้กำเนิดสรรพสิ่งต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จะได้มีแก่นของพลังงานที่ไม่เหือดแห้ง พร้อมทั้งจะได้ให้กำเนิดสิ่งดีๆแก่ผู้บูชา
    3. หัวใจอรหันต์ ท่านลงหัวใจอรหันต์สาวกอันเป็นหนึ่งในรัตนะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เป็นสิ่งแทนบูรพาจารย์ผู้อรหันต์ทั้งหลาย ทั้งภิกษุและภิกษุณีทั้งหลาย เป็นกำลังของพระอรหันต์ขีณาสพทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักเสมอด้วยครูบาอาจารย์ หากมีจิตน้อมระลึกถึงครูพระอรหันต์องค์ใดแล้วย่อมไปถึงกันทั้งหมด
    4. หัวใจพรหมโลก ท่านลงหัวใจท้าวมหาพรหมไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาพรหมในปัญจสุทธาวาสมาเสกและลงอาถรรพ์กำกับอีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่สุดของวิชาพรหมเพราะสามารถใช้เชื่อมต่อพลังงานและสื่อสารกับองค์มหาพรหมทั้งหลายสุดที่ใจเราจะปรารถนาได้ ซ้ำผู้บูชายังจะได้รัศมีพรหมอาบกาย เป็นสิริมงคลให้ถึงซึ่งความเจริญและสำเร็จในกิจทุกประการ
    5. หัวใจโพธิสัตว์ ท่านลงหัวใจสมเด็จพระศรีอาริย์เมตไตรย์เอาไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาโพธิสัตว์ทั้งหมดในพิภพดุสิต และตามภพภูมิต่างๆให้ประจุพลังงานและเชื่อมต่อถึงกันทั้งสิ้นโดยยกเอาสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นประธาน ท่านว่ากำลังของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั้นเป็นกำลังที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยกออกจากกองทุกข์ทั้งหลาย ท่านว่าผงนี้สำคัญนัก มีอะไรเกิดกับตัวเรา เราอธิษฐานอะไร พระโพธิสัตว์องค์ไหนอยู่ใกล้องค์นั้นต้องมาช่วยเราก่อนทันที


    ปฐมพุทธพักตร์ชุดนี้พิเศษอย่างไร
    นอกจากมวลสารสำคัญที่ได้ใส่ไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังเพิ่มมวลสารและเคล็ดลับวิชาอื่นๆเอาไว้ด้วย ได้แก่
    - ยาปัดอุบาทว์ ยานี้ท่านว่าทำยากเพราะนอกจากว่านยาที่จะกู้มาแล้วต้องนำมาลงอักขระตามสูตรเสกว่านยาแล้วจึงบดเป็นผงนำมาเข้ากับผงวิเศษต่างๆที่มีฤทธิ์รุนแรงและเป็นความลับอีกห้าชนิดจึงจะสำเร็จ ยานี้ใช้ปัดได้ทั้งเหตุที่เกิดขึ้นอย่างผิดปกติวิสัยหรือผิดธรรมชาติ ทั้งอัปมงคลเป็นลางไม่ดี ทั้งอาเพศ อุบาทว์ เหตุร้ายที่จะเกิดแบบปัจจุบันทันด่วน รวมไปถึงภัยอันตราย ความทุกข์ร้อนที่จะเป็นต้นตอลุกลามมอดไหม้ต่อไปทั้งกับตนเองและวงศ์ตระกูล พ่ออาจารย์ท่านว่าสรุปสั้นๆคือใช้ล้างอาถรรพ์ร้ายทั้งหลายทั้งปวงอันจะปรากฏมีขึ้นในโลกในชีวิตตนได้ดียิ่งนัก
    - ผงงอกเงยเศรษฐีจับช้าง ผงวิเศษนี้เป็นผงตระกูลเศรษฐีที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมเอง โดยเมื่อจะทำต้องใช้ชิ้นส่วนสำคัญของครูช้างครูปะกำนำมาประกอบพิธี ทั้งหนังช้าง งาช้าง งวงช้าง หูช้าง... หางช้าง โดยแต่ละส่วนนั้นล้วนมีคุณอยู่ในตัวของมันเอง ท่านนำมาทำวิชาก่อนที่จะเผาตำเอาผงลงวิชาเศรษฐีจับช้าง ท่านว่าวิชานี้ดีอย่างไรทำไมถึงชื่อแปลกๆ ผงวิชาเศรษฐีจับช้างนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ มากกำลัง มากบารมี ผงเศรษฐีจับช้างนี้ก็อาศัยกำลังของช้างสำคัญให้เป็นเศรษฐีแบบไม่นึกฝัน ท่านว่าคนที่ถูกเมินเฉย ชีวิตจับแต่งานเล็ก คิดการณ์ใหญ่ ทำสิ่งที่ต้องเติบโตและพัฒนาขึ้นไม่เคยประสบความสำเร็จ ตัวนี้ต้องใช้ผงนี้แก้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเคยทำให้พวกทำธุรกิจลองใช้กันหลายคน ที่บอกว่ามีแต่งานเล็กๆโครงการที่ไม่ค่อยจะได้กำไรกัน รายไหนรายนั้นกลายเป็นได้จับงานใหญ่โตทั้งสิ้น ท่านว่าผงนี้เหมาะสำหรับคนอยากมีพัฒนาการ ต้องการความสำคัญ อยากรับผิดชอบงานใหญ่จะได้รวยและมั่งมีแบบใหญ่โต ซ้ำวิชาเศรษฐีจับช้างนี้ยังสยบการแข่งขัน ปราบปรามคู่แข่ง กำราบปัจจามิตรคิดร้ายให้มีอันเป็นไปได้อีกด้วย
    - ผงสุริยะมณฑลทรงรถ ผงสำคัญนี้ท่านพบในถ้ำที่พม่าเป็นผงสำคัญคู่กับผงจันทร์ทรงกลด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ทำไว้โดยฤาษียุคโบราณ เราสอบถามดูได้ความว่าเป็นองค์เดียวกันกับที่คิดประดิษฐ์ยันต์สุริยประภา จันทรประภาให้ใช้กันสืบมานั่นทีเดียว อันผงสุริยะมณฑลทรงรถนั้นท่านว่าเป็นของประเสริฐเลิศเสียกว่าทรัพย์สินจินดามณีใดๆในโลก หาค่ามิได้ หาสิ่งใดเทียบเทียมได้ยาก ถึงขนาดว่าแม้แก้วมณีโชติ สมบัติบรมจักรพรรดิ หรือสมบัติพระอินทร์สิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่อาจเสมอเหมือนได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะดีด้านหนุนดวง ซ้ำยังทำให้บุคคลทั่วไปผ่อนคลายอารมณ์ไม่มักโกรธถือโทษเรา ทั้งคนเคารพยำเกรง มีอายุยืนโสตสัมผัสแจ่มใสมิหลงลืมเลือน ทั้งระงับโรคาอาการเจ็บไข้โทษภัยร้ายแรงทุกประการ แม้นได้พบอาราธนากล่าวสืบมาว่าย่อมไม่รู้จักที่จะตกทุกข์ได้ยากนั่นทีเดียว มีค่าดุจได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้กระทำสักการะให้ดี
    - ผงจันทร์ทรงกลด เป็นผงสำคัญคู่กับสุริยะมณฑล แต่ผงนี้จะเน้นหนักทางโชคลาภถึงขนาดที่ว่าแม้ไม่มีจะกินเทวดายังเอาอาหารมาให้ และผิว่าถิ่นที่อาศัยของเรารอบบริเวณมีสินทรัพย์สมบัติใดย่อมได้ตกเป็นกรรมสิทธิแก่เราทั้งสิ้น หรือแม้นจะปรารถนาแก้วแหวนเงินทองหรือวัตถุอะไรก็ตาม ให้จัดเครื่องบูชาแก่ผงนี้ดุจบูชาพระสัมมาสมพุทธเจ้า ท่านว่าบำเพ็ญไปเถิดปรารถนาอันใดต้องได้ดั่งใจทุกประการท่านว่าผงนี้สำคัญมากแม้นคนหนียังได้กลับคืน คนรักเอาใจออกห่างยังกลับมาสนใจ เป็นเสน่ห์เมตตาติดกันไม่แยกจาก ดั่งชะตาเปิดรับวาสนาดุจน้ำขึ้นทรัพย์เต็มท้องน้ำ ให้รีบตักรีบโกย ท่านว่าอุปมาไว้แก่ผู้ที่ได้ผงนี้ไปบูชาดุจชีวิตน้ำขึ้นอยู่เช่นนี้เรื่อยไปไม่ลดลงเสื่อมถอยเลย ท่านว่าผงทั้งสองนี้เป็นผงสำเร็จของฤาษีแต่โบราณ หากจะทำพระให้แรงและมีฤทธิ์เสมอหรือเกินกว่านั้นสิ่งอื่นย่อมมิอาจแทนกันได้ ผงนี้จึงเหมาะแก่การสร้างพระพุทธพักตร์ที่สุด พ่ออาจารย์ท่านได้ใช้ผงสองชนิดนี้เป็นปัจจัยหลักในการสร้างพระผสมมวลสารนั่นเอง
    - ผงฤาษีสัมฤทธิ์ ผงนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลวงพ่อฤาษีท่านยื่นใส่มือมาให้ บอกแค่ว่าชื่อผงฤาษีสัมฤทธิ์ ให้เก็บไว้รอคนมีบุญเอาไปใช้ ท่านว่าท่านไม่ได้ถามอะไรมากเพราะถือคำพระอริยะเจ้านั้นเป็นวาจาศักดิ์สิทธิ์ ที่ว่าสัมฤทธิ์แปลว่ามันดีไปหมด เกิดผลทุกอย่าง สัมฤทธิ์ผลไปหมดทุกอย่าง และผงนี้เป็นผงแต่โบราณที่สร้างโดยฤาษีเช่นกันท่านจึงเรียกว่าฤาษีสัมฤทธิ์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเก็บมานานจนทำพระพุทธพักตร์นี้ ก็เพื่อจะให้คนมีบุญแต่กรรมบังทั้งหลายได้เอาไปอาราธนาใช้ดู ให้ชีวิตเขาสัมฤทธิ์ เป็นประสิทธิ์เกิดมรรคเกิดผลตามแนวทางของอาชีพและวิถีชีวิตที่คาดหวัง ท่านจึงนำมาผสมพร้อมผงทั้งหลาย


    ทำไมจึงเรียกว่าชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่
    ด้วยเมื่อเริ่มสร้างปฐมพุทธพักตร์นั้นท่านย่าสุชาดามเหสีแห่งองค์อินทร์ท่านอยากให้พ่ออาจารย์ทำเผื่อไว้อีกชุดหนึ่งเพื่อเก็บไว้ให้ลูกหลานในสายของท่าน โดยชุดนี้จะเรียกว่าชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่เพราะจะได้ทำรูปท่านฝังเอาไว้ด้วย
    ซึ่งท่านย่าสุชาดานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานเอาใช้ได้ล้านเรื่อง เมื่อจะทำเป็นเครื่องมงคลก็ได้ชื่อว่าของศักดิ์สิทธิ์ครูบาอาจารย์แต่โบราณท่านสรรเสริญนักแต่ก็สร้างให้สำเร็จได้ยากด้วยว่าต้องตามหาไม้สักศักดิ์สิทธิ์ที่ชื่อพ้องตรงกับชื่อสวามีของท่านคือพระอินทร์หรือท้าวสักกะที่มีลักษณะตรงตามตำรา อันอุบัติขึ้นในเขตแดนของผู้มีชาติตระกูลสูง และทุกอย่างต้องทำให้สำเร็จภายในวันเดียว ......จำเนียรกาลผ่านไปพ่ออาจารย์ท่านก็ได้พบต้นสักนี้ซึ่งมีลักษณะยืนต้นตายพราย สัณฐานภายในนั้นกลวงโล่งโปร่งตลอดอันเป็นลักษณะของไม้โปร่งฟ้า แลต้องอสนีบาตซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนยอดไหม้แต่ก็หาได้ทำอันตรายอันใดให้เกิดกับไม้นี้ได้เลย.....รวมไปถึงพรรณคุณต่างๆต้องกับตำรา พ่ออาจารย์ท่านพิจารณาตามตำราทั้งบริเวณที่ขึ้น ตลอดจนต้นไม้โดยรอบที่ฟ้าผ่าไฟไหม้ราบไปหมด จึงได้ทราบจากเจ้าของที่ดินว่าคนที่มาตัดล้วนแต่มีอันเป็นไปทั้งสิ้น ท่านจึงพลีกรรมบวงสรวงบูชาเทพารักษ์ ทั้งยังบอกกล่าวปู่พระอินทร์ เพื่อขอไม้สำคัญนี้มาสร้างมงคลวัตถุ….โดยพ่ออาจารย์ท่านเน้นสร้างให้ตรงตามตำราทุกอย่าง ท่านว่าถือเอาฤกษ์ปีใหม่ไทยซึ่งเป็นพิธีเถลิงศกใหม่ของคนไทย จะได้เป็นเคล็ดเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ จัดพิธีพลีกรรม ตัดไม้ รวมถึงแกะสลัก ทุกอย่างต้องทำให้เสร็จภายในวันเดียวเฉพาะเวลาพระอาทิตย์ตรงหัว อยู่ในจุดสูงที่สุด รุ่งเรืองและร้อนแรงที่สุด พ้นไปจากนั้นถือว่าใช้ไม่ได้ ดังนั้นองค์พระจึงแกะได้อย่างศิลป์ทั่วไป ขาดความสวยงามและประณีตอยู่บ้างตามกำหนดเวลาที่มีเพียงเล็กน้อยเพราะถือเคล็ดพระเจ้าทันใจ ทำอะไรใช้อะไรจะได้สำเร็จทันใจไม่ทันข้ามวัน
    มหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่คือองค์แม่ย่าสุชาดา ท่านรับว่าใครที่ได้ไปบูชาอาราธนา ให้หมั่นสวดคาถาที่ท่านประทานให้ไว้อาราธนากำกับองค์พระนั้น ให้สวดอยู่เนืองๆ มีอะไรให้บอกกล่าวแก่แม่ย่าใหญ่โดยตรงท่านจะรับเป็นธุระ จะช่วยเหลือบุคคลทั้งหลายนั้นให้เป็นลำดับแรกแม้ผู้ใช้มีศรัทธาอาราธนาเดือดร้อนเมื่อใด หรือจะประสงค์อยากบอกกล่าวขอความช่วยเหลือแม่ย่าผู้เป็นใหญ่เหนือเทพธิดาทั้งหลายในสวรรค์แม้ใครเดือดร้อนไม่ต้องรอบุญทำกรรมแต่ง แม่ย่าใหญ่ท่านรู้ท่านต้องรีบช่วยก่อนเพื่อคลายความร้อนให้กับลูกหลานเช่นนั้น
    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าอันรูปแม่ย่าใหญ่นั้นสำคัญนักเพราะท่านโองการให้สร้างไว้เพื่อลูกหลายในสายแม่ย่าสุชาดาจะได้มีของในสายบารมีท่านไว้ใช้โดยเฉพาะ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ใช้ได้ล้านเรื่อง เรื่องสารพัดบรรดามีทั้งหลายนับล้าน ล้าน ถ้วนทุกประการทั้งแสนจิตล้านใจบนบอกขอพรได้ไร้ข้อห้าม มีมนต์ปลุกเป็นการทำวิชาเช่นของเฉพาะกาลภายในท่านเป่าอักขระมนต์คาถานับหมื่นแสน เชิญพระเวทย์และพระธรรมตลอดจนเชิญแม่ย่าให้นำสมบัติสวรรค์มาเป็นหลักชัยแก่ผู้บูชา ท่านว่าแม่ย่าได้ปกาศิตบอกไว้ชัดแจ้งเพราะเสกคราวเดียวกับพญาอินทร์ล้านช่องท่านจึงได้ดึงเอาคุณแห่งปาริชาตสวรรค์มาเป้นกำลังในองค์แม่ย่าใหญ่ด้วย ท่านว่าคุณแห่งปาริชาตสวรรค์ปรากฏขึ้นแล้วแก่ตาโลก ผู้ใดได้ไว้ เสมือนมีบุญพบต้นปาริชาตนั้นทีเดียว บอกได้เท่านี้ ก็แม้แต่เทวดาผู้มีเดชอันใหญ่ มีกำลังมาก สามารถเนรมิตสิ่งต่างๆบรรดามีได้ดังใจนึกยังต้องการปาริชาตสวรรค์ นั่นก็เพราะเทวดานั้นจะเนรมิตสิ่งใดก็ได้เพียงตามกำลังบุญวาสนาของตนนั้น หาได้เสมอด้วยปาริชาตสวรรค์ที่มีกำลังมากเกินบุญของเทพยุดาถ้วนทุกตัวตน....


    ชุดมหาอุบาสิกานั้นพ่ออาจารย์ท่านลงตะกรุดสลับ กลับ คลาด ฝังเอาไว้
    ตะกรุดสลับ กลับ คลาด มหาพิบัติฟ้าชำระจิตวิญญาณดอกนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะใช้ให้ตัวเราคลาดแคล้วกับเคราะห์กรรมหลักและเศษกรรมแล้ว ยังต่อต้านอกุศลกรรมในตัวเองอีกด้วย โดยปกติของคนที่อาราธนานั้น ท่านว่าเขาจะรู้สึกได้ด้วยตัวเองว่าเรื่องเคราะห์หามยามซวยทั้งหลายที่มาเกิดกับตัวเขานั้น จะถูกสลับสับเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพราะมันจะหนีจะย้ายจากตัวเขาไปลงอยู่กับเหล่าคนที่มีกรรมอกุศลร่วมกันแทน เรียกกลายๆว่าให้เขาเป็นตัวตายตัวแทน รับเคราะห์แทนเราก็ได้ เช่นนั้นจึงเรียกได้ว่าสลับ กลับ คลาดทั้งหมด
    - สลับ คือสับเปลี่ยนตัวตน
    - กลับ คือย้อนเจตนาและการกระทำกลับไปให้ผู้ทำ
    - คลาด คือคลาดแคล้วเนื้อตัว ไม่ได้กล้ำกรายให้ต้องทุกข์ โทษ ภัย

    นอกจากจะเปลี่ยนชีวิตให้กลับตาลปัตรแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงนี้ต้องทำความเข้าใจไว้ ว่ามันกลับเฉพาะอกุศลกรรมและเคราะห์ภัยรวมไปถึงเศษกรรม หากแต่กุศลกรรมก็ยังเสวยกันไปได้อย่างปกติมิใช่บางเรื่องดีอยู่แล้วจะกลับไปเลวลง ด้วยคนใช้ตะกรุดนี้ถูกลิขิตไว้แล้วให้ต้องพุ่งขึ้น สูงขึ้น ไม่ตกต่ำลงเท่านั้น นอกจากสลับ กลับ คลาดตัวบุคคลแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่ายังย้อนกลับทุกความคิดปองร้ายและการกระทำด้วยคุณไสย อวิชชา เจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ให้กลับคืนเข้าหายังผู้กระทำด้วย
    แม้ใครจะเล่นงานเราก็เข้าผิดที่ผิดทาง ทำอะไรเราก็ทำผิดตัวผิดตนวนอยู่แบบนั้น มันจะเป็นเช่นนั้นอยู่ร่ำไป วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ไปหยุดยั้งกรรมไม่ให้เกิด แต่มันกลับสับเปลี่ยนให้ตกกับคนที่มีกรรมร่วมกัน ให้ทุกอย่างดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็นแทนนั่นเอง ท่านจึงอุปมาคุณวิเศษของตะกรุดนี้เสมอดุจว่าเสมือนหาตัวตายตัวแทนทีเป็นเจ้ากรรมนายเวรของเรามารองรับเคราะห์กรรมเรา ย้อนสนองคืนการกระทำให้เขาไปตามเจตนาและชะตาฟ้าที่ควรจะเป็นเช่นนั้น


    เมื่อท่านได้ใช้ไม้ขนุนตายพรายมาลงอาถรรพ์สำคัญให้มีกินมีใช้ไม่รู้สิ้นซ้ำยังหนุนดวงเสริมส่งวาสนาคนใช้แล้ว ท่านก็นำไม้ขนุนตายพรายนั้นมาแกะแม่พิมพ์เป็นปฐมพุทธพักตร์ โดยเศษเนื้อไม้ที่เหลือจากการแกะแม่พิมพ์นั้นท่านก็ได้ผสมลงไปในเนื้อพระด้วย พร้อมกับใช้น้ำผุด คือน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในเศียรพระเจ้า ในพระพุทธบาท และสถานที่อาถรรพ์สำคัญต่างๆมานวดเนื้อพระตอนท่านผสมสูตรเพื่อจะกดพิมพ์ซึ่งเมื่อท่านได้ทำการกดแม่พิมพ์ออกมาแล้วนั้นก็นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งที่องค์พระนั้นแย้มพระโอษฐ์และอ้าปาก พ่ออาจารย์ท่านหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระอ้าปากเช่นนี้ยังไม่เคยเห็นจะมีใครทำ ซึ่งเสด็จพระใหญ่นั้นได้นิมิตสื่อใจกับพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้ท่านตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อใดที่พระศาสดาองค์ปฐมนั้นเผยพระโอษฐ์ตรัสพุทธดำรัส เมื่อนั้นพระสัทธรรมเทศนาก็จะออกมาจากพระโอษฐ์นั้น พระสัทธรรมนี้เป็นแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืดได้ทุกสิ่ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เปิดพระโอษฐ์นี้ก็ด้วยเหตุผลสองนัยสำคัญ ประการแรกดั่งที่ได้กล่าวมาแล้ว ชีวิตคนใช้จะเหมือนมีพลังอำนาจแห่งสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ไหลออกมาจากพระโอษฐ์นั้นตลอดเวลาเพื่อค้ำจุนเกื้อหนุนชีวิต เป็นแสงสว่างที่ทำลายความมืดและขจัดอุปสรรคเป็นพลังงานที่จะไหลบ่าออกมาอาบสรรพางค์กายของตนตลอดเวลาไม่รู้เหือดรู้แห้ง กับอีกนัยหนึ่งนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่า ยังดีทางลาภผลไม่รู้สิ้นด้วย คนใช้จะมีลาภเข้ามาตลอดมิขาดมิพร่องเลย ดุจเสด็จท่านนั้นเปิดปากเพื่อโปรดสัตว์กระทำภัตกิจเสวยพระกระยาหาร เมื่อเปิดแล้วต้องอิ่ม ต้องบริบูรณ์ สมบูรณ์ ทุกสิ่งที่เป็นไปเพื่อการดำรงค์ชีพ หน้าที่และภารกิจทั้งหลาย ย่อมเสร็จลงอย่างง่ายดาย ท่านว่าจะพูดกันตามตรงแล้วพระเจ้าเผยพระโอษฐ์นี้ยิ่งกว่าเคล็ดพระเจ้าเปิดบาตรมากนักเป็นมหาลาภใหญ่ถึงที่สุดไม่มีสิ่งใดจะเปรียบจะวัดได้ ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จึงมีแต่ผู้คู่ควรกันและเสด็จพระใหญ่ท่านดลใจไว้แล้วจึงจะเห็นถึงความสำคัญตรงนี้

    คาถาบูชา ตั้ง(นะโม 3 จบ)
    พุทธปฐมัง โลกะวินา ระนาระมัททาติหาระภัง อิติวิทธิ พุทธะนิมิตตัง ทิสวาทิตัง มาเวโส เอติหาเร นะโมพุทธายะ พุทธะปฐมัง กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา ทุกขังอนิจจัง ทุกขังอรหังสุคโต ภควาติ อิติภควาพุทโธโลเก


    ### ปฐมพุทธพักตร์ชุดมหาอุบาสิกานั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของเฉพาะกาล เฉพาะลูกหลานที่มีบุญบารมีร่วมกันในสายแม่ย่าสุชาดาซึ่งท่านว่าลูกหลานชุดนี้จะเป็นคนที่ท่านเคยอุปถัมภ์มาหลายภพหลายชาติและจะยังอุปถัมภ์กันต่อไป เมื่อเขาได้พบกับชุดแม่ย่าใหญ่นี้ก็เสมือนกับแม่ได้เจอหน้าลูกเมื่อได้พบกันแล้วเรื่องเดือดร้อนทุกข์ใจ กรรมตัดรอนต่างๆย่อมคลี่คลายด้วยท่านจะกำกับรักษาเราเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าแม่ย่านี้ท่านเมตตาหนักมากซ้ำยังมีบริวารและทรัพย์สมบัติมากตามวิสัยสตรี เวลาท่านอุปถัมภ์อุ้มชูผู้ใดท่านว่าวิสัยเทพสตรีนี้จะต่างกับเทวดามาก ลองเอาไปอาราธนาดูเถอะบอกได้แค่ว่าท่านทรงฤทธิ์และก็ใจถึงหนักมากพอๆกับฤทธิ์ของท่านทีเดียว เพราะท่านให้ไม่นับดุจแม่ให้ลูกจริงๆ

    *** ปฐมพุทธพักตร์ชุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอยากให้ได้ใช้กันในครอบครัวและอยากให้คนที่มีปัญหาเดือดร้อนและมีบุญสัมพันธ์กับแม่ย่าได้พึ่งบารมีท่าน เช่นนั้นท่านจึงนำออกให้บูชาด้วยปัจจัยว่าถึงเวลาแล้วองค์แม่ย่าท่านบอกมาแบบนั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลและความประสงค์ที่ปรารถนาบอกกล่าวกับแม่ย่าใหญ่เอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการอธิษฐานจิตให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สลับ กลับ คลาดเนื้อยาแก้กรรมปัดอุบาทว์(ชุดมหาอุบาสิกาท่านย่าใหญ่) บูชา 2,500 บาท

    71186260-1001135943561891-5632268220455976960-n.jpg 71827250-2493464880877101-6633495474487689216-n.jpg
    71499100-1155213864679600-7778893587961348096-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ดูจากยอดจองแล้วบางท่านสอบถามมาถึงสิบองค์ ของไม่มีนะครับ ชุดนี้ผมขอจำกัดให้ได้มากที่สุดเต็มที่เลยคนนึงไม่เกินสององค์ แบ่งๆกันไปใช้นะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่แมน EI 3031 0202 4 TH

    พี่พรหมพล EI 3031 0203 8 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามพูดคุยเรื่องสำคัญกันนะครับ
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เรื่องของเทพ
    เดี๋ยววันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องของเทพอาถรรพ์... ซึ่งเทพองค์นี้พ่ออาจารย์ท่านหวงแหนเอาไว้เรียกว่าอย่าว่าแต่เอาออกมาให้คนบูชาเลยแค่ได้เห็นยังยากสุดๆ ด้วยเป็นเครื่องมงคลที่ทำไว้สำหรับคนเดือดร้อนดวงตกชะตาขาดถึงขั้นวิกฤติหาที่พึ่งไม่ได้(แบบเทพไม่กล้าช่วยสิ่งศักดิ์สิทธิ์หมดปัญญา)โดยเฉพาะ ซ้ำเทพฮินดูองค์นี้เมื่อได้รับไปแล้วยังไม่ต้องการการบูชาใดๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าห้อยก็ไม่ต้องห้อยคอทำเป็นเครื่องรางเอาไว้ก็พอ ยิ่งพกไว้ต่ำก็ยิ่งดีกับตัวเอง(ไม่ใช่งั่งนะครับ) ด้วยหลายๆอย่างค่อนข้างจะแหวกกฏที่เราๆเคยบูชาองค์เทพกันมา แต่พอรู้ว่าเป็นใครท่านอธิบายมาก็จะเห็นภาพและทราบทันทีว่าพกแบบนี้ได้แถมไม่ต้องบูชาสังเวยใดๆนี่ก็สะดวกสุด
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ทักถามกันมาหลายคน. ....อดใจรอกันนะครับสำหรับเทพองค์นี้ที่พ่ออาจารย์ท่านออกปากเรียกว่า "พ่อใหญ่"
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันนะ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ก็มีคำถามเข้ามาหลายคนหลายๆครั้งเกี่ยวกับเรื่องเครื่องมงคล ว่าไปเช่าต่อเขามาจะประสิทธิ์ใหม่ได้มั๊ย บางอย่างมันทำไม่ได้จริงๆครับ(อันนี้พูดถึงที่มีการประสิทธิแบบเจาะจงคนเจาะจงเรื่องหนักๆเลย) ส่วนใหญ่เครื่องมงคลจะใช้กันได้ในครอบครัวในหมู่ญาติมิตรเพื่อนฝูงหรือคนที่เราให้เขาหยิบยืม แม้ตกไปกับญาติ ลูกหลาน ผู้สืบสายโลหิตเช่นนี้ก็ถือว่าใช้ได้อันนี้ขอย้ำหนักๆว่าให้ดูกันให้ดีๆเพราะเครื่องมงคลบางอย่างก่อนออกจากมือท่านไปท่านต้องบอกกล่าวทั้งชื่อนามสกุลอันนี้ไม่เท่าไหร่ยังพอเปลี่ยนมือกันได้ แต่บางอย่างต้องประสิทธิ์ใช้ทั้งชื่อสกุลวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟาก ดังนั้นเครื่องมงคลบางอย่างบางประเภทนั้นคือเจ้าของเขาใช้ได้อยู่ผู้เดียว ทำเพื่อเป็นของๆเค้าเราไปเอามาก็ยังเป็นของเค้าอยู่ ถ้าจะบูชากันต่อก็ขอให้เลือกเป็นชนิดที่ไม่ได้ทำการประสิทธิ์ลึกไปถึงวันเดือนปีเกิดเวลาตกฟาก หรือชนิดที่ผูกคำขอพันธะคำสัญญาคำอธิษฐานฝากเอาไว้ตั้งแต่ทำการประสิทธิ์นะครับ ให้เลือกชนิดที่ไม่ได้ประสิทธิ์แบบเฉพาะคนเฉพาะเรื่องอันนี้ยังพอบอกกล่าวเปลี่ยนมือกันได้เรียกว่าไม่มีกรรมร่วมกัน ***ที่พูดข้างต้นนี้คือเครื่องมงคลเฉพาะอย่างที่บอกกล่าวไว้ แต่ถ้าไม่ได้บอกกล่าวประสิทธิลึกๆอันนี้เปลี่ยนมือได้สบายใจ

    ติดตามกันนะครับ พรุ่งนี้จะลงพ่อใหญ่ หรือที่พ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าครูใหญ่ด้านการไถ่ถอนบาปฝ่ายเทพของท่านซึ่งหนนี้ท่านทำเป็นเครื่องรางพกลงเอวได้ รายการนี้กะซิบว่าเฉพาะแค่ของที่ฝังด้านหลังก็เกินคุ้มแล้ว เอากันแค่ข้างหลังอย่างเดียวก็ทำยากมากใช้เวลาเป็นปีๆทีเดียว ซ้ำรายการนี้ยังมีอะไรมากกว่าการไถ่ถอนบาปด้วย ท่านว่าจริงๆแล้วคติพุทธเรานั้นทำเรื่องพวกนี้ไม่ได้ แต่คนบางคนกรรมนั้นตามไม่ปล่อยจริงๆท่านจึงใช้คติพราหมณ์และโองการแห่งองค์เทพตลอดจนแรงครูใหญ่ฝ่ายนี้โดยเฉพาะมาช่วย รายการนี้ถือเป็นของพิเศษจริงๆเพราะปกติย้ำไว้เลยว่าองค์หนึ่งๆท่านจะไม่ได้เอาออกมาให้ใครบูชาเลย แต่สมัยก่อนท่านจะมอบให้เฉพาะกับคนที่ทำบุญกับโครงการที่ท่านดูแลอยู่ตกแสนบาทโดยที่ไม่ขอรับอะไร นั่นแหละท่านจึงจะมอบพ่อใหญ่เป็นน้ำใจให้เขาไปองค์หนึ่ง ซึ่งคนประเภทนี้ก็มีไม่มาก และท่านก็ไม่ได้แจกพร่ำเพรื่อจะมีบางแบบบางคนได้บางคนก็ไม่ได้ ถ้าไม่ได้ตรวจดวงเห็นว่าในอนาคตเขาจะร้ายมากกว่าดีจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องถึงมือพ่อใหญ่เลยท่านถือคติแบบนี้ ดังนั้นจะเห็นได้ว่าท่านมั่นใจพ่อใหญ่ของท่านว่ามีค่าพอจะตอบแทนน้ำใจคนได้มากขนาดไหน เช่นนั้นเมื่อท่านยอมนำออกให้บูชาในแบบที่เราพอจับต้องกันได้ก็รับกันไว้เถอะครับ รายการนี้เห็นแล้วถ้ามองตาเปล่าผมถือว่ามันดูขลังดูมีเสน่ห์ของเครื่องรางสมบูรณ์จริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2019
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลรับโอกาสไถ่ถอนบาปเปลี่ยนผ่านกาลเวลาพระทักษะประชาบดี(ฝังยอดขุนทรัพย์เสด็จกลับ)

    " จากอหังการกลายเป็นความเสียสละตน ...คุรุผู้เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่งการสำนึกบาป "

    ใครๆก็กลัวพระทักษะแต่อยากได้พรจากพระทักษะ(แม้แต่เทพเจ้า) เพราะพระทักษะนั้นปากท่านศักดิ์สิทธิ์เกินใครด้วยมีตบะมาก ท่านสาปแม้กระทั่งพระนารทพรหมฤาษีให้เร่ร่อนอยู่ไม่เป็นที่ไม่เป็นทางพระนารทก็ต้องเร่ร่อนไปตลอดกัปกัลป์เช่นนั้น แม้ท่านให้ความช่วยเหลือใครท่านก็ทำอย่างไม่ไว้หน้าผู้ใดทั้งสิ้นเช่นเหตุการณ์ของพระจันทร์ที่ท่านยื่นมือเข้าช่วยลูกสาว โดยสาปพระจันทร์ที่ลำเอียงรักลูกของท่านไม่เท่ากันให้มีอาการเจ็บป่วยรุนแรงจนเกิดเว้าแหว่งซึ่งแต่เดิมจันทร์นั้นเต็มดวงตลอด...ดังที่ยกตัวอย่างจะเห็นว่าเหตุการณ์ทุกเหตุหากพระทักษะได้สาปใครแล้วแม้แต่ตรีเทพก็แก้ไขไม่ได้ ในขณะเดียวกันหากท่านให้พรหรือช่วยเหลือผู้ใดคำพรนั้นก็จะยิ่งมีกำลังมากและท่านจะช่วยอย่างไม่เกรงฟ้าเกรงดิน

    องค์พระทักษะนั้นท่านเป็น "มนัสบุตรแห่งพรหมมา" กล่าวได้ว่าท่านเป็นผู้ที่เป็นทิพย์อยู่ตลอดเวลามีอำนาจทิพย์สภาวะสูงสุดตั้งแต่เกิด เพราะท่านเกิดจากใจพระพรหมเกิดจากความต้องการที่จะให้ท่านทำหน้าที่พิเศษในโครงข่ายการสร้างจักรวาลหาได้เกิดจากครรภ์ของสตรีดังปุถุชนทั่วไปไม่ เมื่อบังเกิดขึ้นมาเบื้องต้นแล้วองค์ทักษะได้ทำหน้าที่ในการสร้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทวยเทพ อสูร นาค ครุฑ ปิศาจ ทั้งหลายให้บังเกิดมีเต็มพื้นที่แห่งจักรวาล โดยการมอบลูกสาวให้เป็นชายาเทพเจ้าทั้งหลายซึ่งลูกๆของท่านนั่นเองที่เป็นต้นกำเนิดทุกเผ่าพันธ์ ในบรรดาพระฤาษีที่นับเป็นพระประชาบดีซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาผู้ยิ่งใหญนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเห็นจะมีเพียงแค่สองท่านที่ปรากฏเกียรติอย่างชัดแจ้งนั่นคือ พระกัศยปเทพบิดรและพระทักษะเท่านั้น ด้วยพระทักษะได้ชื่อว่าเป็นพ่อตาของเทพเจ้าที่เทพทั้งหลายเกรงใจและเกรงกลัวกันหนักหนา ซ้ำยังมีเกียรติเป็นพ่อตาของพระกัศยปเทพบิดรอีกด้วย องค์ทักษะนั้นท่านเป็นประชาบดีคือผู้เป็นใหญ่ในหมู่ชน,ผู้เป็นใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์ทั้งหมด ซึ่งนามประชาบดีนี้จะจัดไว้ใช้เฉพาะอย่างจำกัดเอาไว้เรียกเทพที่มีเกียรติยิ่งใหญ่เป็นต้นตอของเผ่าพันธ์ทั้งหลายจริงๆอย่างพระพรหมเช่นนี้ก็เป็นประชาบดี โดยหน้าที่ของพระประชาบดีก็คือการให้กำเนิดเหล่ามนุษย์และเทวดาตลอดจนกลไกมหาจักรวาล ด้วยพระทักษะนั้นท่านเกิดขึ้นมาจากบาทของพระพรหม และถือว่าท่านเป็นบิดาของเทพฝ่ายสตรีทั้งหมด ทั้งยังเป็นพ่อตาของเทพเจ้าหลักๆทั้งสวรรค์รวมไปถึงพระกัศยปเทพบิดร อาจจะบอกได้ว่าท่านเป็นเทพองค์แรกที่สร้างระบบกลไกการให้กำเนิดมนุษย์โดยมีบุตรสตรีให้สมรสกับเทพต่างๆตามโองการบรมบิดาพรหมเทพที่ให้ท่านทำหน้าที่สำคัญนี้ ดุจว่าท่านเป็นรากเหง้าของเผ่าพันธุ์ทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าจุดสำคัญที่คนไม่ค่อยรู้คือพระทักษะเป็นบิดาของกลุ่มดาวนักษัตทั้งหลายที่มีผลต่อชะตามนุษย์โดยตรงซึ่งเป็นชายาของพระจันทร์ ดังนั้นท่านจึงมีอำนาจเหนือวิถีดวงดาวและเหนือชะตากรรมเป็นดาวข่มของคนที่เวรกรรมตามเล่นงานได้เป็นอย่างดี ซ้ำบุตรเขยทั้งหมดไม่ว่าจะเทวะองค์ใดของพระทักษะประชาบดีหากสุ่มชื่อขึ้นมาก็ล้วนแต่เป็นเทวราชทั้งสิ้นซ้ำยังมีอิทธิฤทธิ์และอำนาจบารมีสูงกันทั้งนั้น และยังได้ชื่อว่าเขยทุกคนนั้นเกรงกลัวพ่อตากันอย่างถึงที่สุดชนิดกลัวจับขั้วหัวใจ พ่ออาจารย์ท่านถึงกับออกปากว่าหากมีรูปพระทักษะอยู่เหล่าเทพเจ้านี่เขาเกรงใจเราแทบจะเหมาสวรรค์เลยนะ เช่นนั้นท่านจึงเรียกองค์ทักษะว่า"พ่อใหญ่"

    ด้วยอหังการต่อพระศิวะที่ทำให้ถูกตัดเศียรและนำหัวแพะที่ใช้บูชายัญมาต่อแทน พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือการรับกรรมและการให้ชีวิตเกิดขึ้นใหม่ภายในพิธีบูชายัญ ท่านว่ากรณีของพระทักษะนี้น่าสนใจจริงๆเพราะเทพองค์อื่นก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัยพระคเณศมีแต่องค์พระศิวะเท่านั้นที่จะคืนชีวิตให้และก็หาหัวช้างมาต่อแทน แต่ในกรณีพระทักษะนั้นท่านใช้หัวแพะที่นำมาบูชายัญ เช่นนั้นหลังจากเกิดใหม่แล้วพระทักษะจึงนอบน้อมแต่องค์พระศิวะและกลายเป็นตัวแทนของการไถ่บาปและให้โอกาสจากพระเป็นเจ้า แต่เดิมท่านเป็นมหาราชของภพภูมิที่ได้ชื่อว่าเจริญและยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลเป็นพระประชาบดีที่มีอำนาจควบคุมและสั่งการเหล่าเทพเจ้าทั้งหลายได้ดั่งใจต้องการ เมื่อเกิดใหม่นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าบทบาทของพระทักษะที่ได้รับหลังจากการชุบชีวิตจากครูพระสยมนั้น ท่านตั้งใจจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่อการไถ่บาปและให้กำเนิดชีวิตที่ดีงามทั้งปวง ท่านเป็นดั่งตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านจากช่วงเวลาระหว่างความทุกข์กลายเป็นความสุข จากความตายกลายเป็นการให้ชีวิตใหม่...เป็นการเริ่มต้นบทบาทหน้าที่ตลอดจนโอกาสและพฤติกรรมใหม่

    ที่ผ่านมามีแต่คนถามหาของเพื่ออยากจะใช้ไถ่ถอนชะตากรรมเปลี่ยนบาปกรรมที่ตนได้เคยทำไว้ในอดีตชาติอันส่งผลต่อผลกรรมทุกวันนี้ ท่านว่าใครไม่เป็นเราไม่รู้หรอกว่ามันยากตั้งแต่คิดจะเริ่ม ไอ้ทำของจะไถ่ถอนบาปกรรมแบบนี้เริ่มมาก็ยากแล้ว ด้วยไม่ใช่อำนาจของมนุษย์จะแก้ไขได้นอกจากเทพเจ้าผู้มีหน้าที่ด้านนี้หรือองค์พระสยมองค์ปรพรหมเหล่านี้ เช่นนั้นองค์ปรพรหมท่านจึงแนะนำให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระทักษะขึ้นมาด้วยท่านเป็นครูของสายวิชาการไถ่บาป รูปของท่านนั้นมีอำนาจลี้ลับเฉพาะที่ส่งผลต่อการไถ่ถอนบาปกรรมทั้งปวงด้วยท่านเป็นทั้งมหาฤาษีและมหาประชาบดีที่มีพระเศียรเป็นแพะที่ใช้ในพิธีบูชายัญ ดังนั้นองค์พระทักษะจะให้ผลแห่งการไถ่บาปโดยตรง เรื่องไม่ดีหรือเศษกรรมทั้งหลายจะมาลงกับครูช่วยให้พ้นจากบาปที่ต้องชดใช้ในสิ่งที่เคยทำไม่ดีไว้(พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอะไรนี่พุ่งลงหัวแพะที่ใช้บูชายัญหมดเลยนะ แต่เราต้องรู้ด้วยว่าหัวแพะนี้ไม่ใช่แพะธรรมดาอีกต่อไปแต่เป็นแพะระดับมหาเทพอย่างพระทักษะประชาบดี) เมื่อทำรูปของพระทักษะนั้นผู้ใดได้รับอาราธนาไว้ ท่านจะเปลี่ยนจิตใจของคนจะส่งผลให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงทางดีงามไพบูลย์อย่างกระทันหัน เมื่อมนุษย์มีบาปกรรมพอกพูนสั่งสมเช่นนั้นบาปของมนุษย์ต้องถูกชำระให้บริสุทธิ์ก่อนสิ่งอื่นใดเพื่อจิตวิญาณของเขาจะได้สะอาดพอสมกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นได้ องค์ปรพรหมท่านว่าไฟแห่งยัญพิธีและเศียรแพะที่ใช้บูชายัญอันนำมาต่อให้พระทักษะนั้นจะคืนโอกาสและความบริสุทธิ์ทั้งช่วยชำระล้างความบาปในอดีตของมนุษย์ให้เริ่มต้นชีวิตที่ดีงามมีความสุขพรั่งพร้อมขึ้นมาใหม่ได้ ดั่งองค์พระทักษะที่เป็นครูเป็นตัวแทนของการไถ่บาปทั้งปวง

    องค์ปรพรหมท่านโองการให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างพระทักษะในปางบูชากองกูณฑ์อัคคีท่านว่าปางนี้จะยิ่งมีอำนาจกำลังตบะสูงส่งมากนักเป็นตบะของพระทักษะที่เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายหวั่นเกรงนั่นทีเดียว ในรูปนี้องค์พระทักษะจะได้รับเคราะห์ภัยและบาปอกุศลธรรมทั้งหลายแทนลูกๆที่บูชาไว้กับตัวเองพ่ออาจารย์ท่านว่ามีเท่าไหร่เผาลงไฟพิธีทั้งหมด คนใช้จะได้หนุนดวง พลิกดวง ต่อต้านวิบากกรรมได้ ทีนี้ขออะไรก็ง่ายก็สำเร็จ เพราะไม่ติดวิบากกรรม ท่านไถ่ถอนให้ทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่า ###องค์ปรพรหมท่านกำชับมาเองเลยว่าต้องทำแบบนี้ให้พระทักษะนั้นยื่นเครื่องสังเวยลงกองไฟ นั่นคือมีสิ่งที่ใช้สังเวยแทนตัวเราทดแทนและไถ่ถอนเราจากเคราะห์ภัยทั้งหลาย ให้กำลังครูกำลังตบะอันแกร่งกล้าของทักษะประชาบดีนั้นไถ่ถอนเราต่อหน้าไฟพิธีผ่านยัญกิจโดยองค์พระทักษะประชาบดีผู้เป็นครูของการไถ่ถอนบาปทั้งปวง

    เมื่อไถ่ถอนสิ่งที่ติดค้างเป็นดั่งเงาตามตัวของเราออกแล้ว ครูพระทักษะยังมีดีทุกๆด้านสารพัดจะใช้ ท่านว่าใครใช้ เคราะห์หดหาย เคราะห์จืด เคราะห์จาง เคราะห์หมด องค์ทักษะรับเคราะห์แทนเรากลืนกินเคราะห์กินสิ่งไม่ดีในธาตุบันธ์และวิญญาณของเรา ท่านจะแปลถ่ายออกมาไปในรูปของกระแสพลังงานทางเมตตามหาเสน่ห์มหานิยม ยิ่งอดีตเรามีบาปให้ชำระมากเท่าไหร่องค์พระทักษะยิ่งมีกำลังเข้มแข็งเท่านั้น สมกับการปรับเปลี่ยนสถานการณ์เพื่อจะได้เกิดใหม่มีชีวิตใหม่ที่ดำเนินไปอย่างสงบสุข ทั้งจะกลับร้ายกลายเป็นดี ล้างอาถรรพ์ มนต์ดำ ให้ชนะทุกปัญหาชนะทุกอุปสรรค เป็นเมตตาชนะใจคนทั้งหลาย ท่านว่าอย่าว่าแต่มนุษย์เลยแม้เทวดาก็พาให้เมตตารักใคร่เสน่หาเกื้อกูล ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านยังลงวิชาอาถรรพ์ด้วยหัวใจของครูแพะไว้ด้วยให้เป็นแพะเศรษฐีแพะตำรับเรียกเงิน,เรียกทอง,เรียกโชคลาภให้ทวีเข้ามามากขึ้น ใครมีครูพระทักษะนั้นบอกได้คำเดียวว่า“ ร่ำรวย” นอกจากไถ่ถอนบาปแล้วยังเสริมเรื่องวิชาแพะเอาไว้ครบถ้วน ด้วยจะเป็นตัวรับเคราะห์กรรมแทนเจ้าของ ครูท่านจะกินบาปเคราะห์เป็นอาหาร องค์พระทักษะนี้ท่านทำเพื่อให้คนใช้นำไปบูชาโดยหวังประโยชน์ใหญ่ให้คนใช้นิราศทุกข์พ้นทุกข์จริงๆ โดยท่านได้ใช้ความเพียรอุตสาหะหาฤกษ์ยามลงแผ่นจารวิชาล้างบาป,ไถ่ถอนกรรมเอาไว้ทีละแผ่นๆ เอาแต่เนื้อแผ่นชนวนที่เสกอย่างเข้มขลังเท่านั้นไม่ให้มีโลหะสิ่งใดเจือปนมาเทหล่อเป็นองค์พระทักษะประชาบดี พระผู้ปลดปล่อย ไถ่ถอนและรับบาปแทนลูกทั้งหลาย องค์พระทักษะรุ่นนี้สร้างยากมากพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องเสกเชิญครูเก็บไว้เพื่อที่จะใช้เมื่อถึงกาลถึงวาระจริงๆเท่านั้น เป็นของที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าความหมายมันก็ตรงตัว คือไถ่ถอนบาปกรรม ให้โอกาสเมื่อสำนึกผิดและนำลูกๆเปลี่ยนผ่านช่วงเวลาไปยืนอยู่ในจุดสูงสุดที่มีความสุขอย่างแท้จริงซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหน้าที่ของครูพระทักษะประชาบดี ท่านว่าองค์พระทักษะที่ว่าสร้างยากนั้นก็เพราะเป็นวิชาที่เกี่ยวกับกฏแห่งกรรม ท่านว่าไม่มีใครอยากจะทำให้กันหรอก ตอนปรพรหมท่านสั่งท่านก็กำชับมาท่านก็ย้ำหนักหนาว่าต้องเลือกคนให้ ไว้ทำยามบ้านเมืองคับขัน ประชาชนเดือดร้อนข้าวยากหมากแพงแบบนี้

    เรียกท่านสั้นๆว่า"พ่อใหญ่"ก็ได้
    ด้วยของที่ใช้ไถ่ถอนบาปกรรมเพื่อให้เราเริ่มต้นชีวิตใหม่และต้องเป็นชีวิตที่ดีขึ้นมากกว่าแต่เดิมนั้น เนื่องจากบางเรื่องพระหรือเครื่องมงคลทางพุทธศาสนาก็ยังข้องแวะติดอยู่ในกฏของกรรม จะทำอะไรเกินกรรมไม่ได้ แล้วทีนี้ไอ้ตัวเคราะห์มันก็หนัก วิบากปรรมก็มาเต็มๆ เรียกว่าเอาแค่ผ่อนลงเล็กน้อยก็รู้ว่าผ่อน แต่ก็ยังเรียกว่าหนักจนไม่อยากอยู่ในสภาพนี้อยู่ดี " ....แน่นอนว่าถ้าถึงขนาดนั้นเครื่องมงคลทางพุทธย่อมไม่มี แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าสายพระเวทย์ สายอาถรรพ์แรงครูนี่ก็อีกเรื่องหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านยกครูพระทักษะให้เป็นตัวแทนของการไถ่บาป ด้วยมหากรุณาที่พร้อมจะเสียสละตัวเองและรับความเจ็บปวดแทนสรรพชีวิตทั้งหลายด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ของพ่อซึ่งเป็นประชาบดี เพื่อให้ได้มาซึ่งสันติ ความสุข ความเจริญ ด้วยเหตุนี้ท่านจึงได้สร้างมงคลศักดิ์สิทธิ์เฉพาะกาลชนิดหนึ่งขึ้นมา ด้วยเหตุที่ว่าเพื่อเป็นตัวแทนครู เป็นการระลึกถึงครู ให้บูชาครู อย่าดูถูกครู นึกถึงครูแล้วจะได้ดี หมดหนี้สินเป็นเศรษฐีมหาศาล มีความสุขในห้วงชีวิต ด้วยว่าครูนั้นจะรับความเจ็บปวด ความทุกข์ โทษ เคราะห์ภัย อุบาทว์ พิฆนะจัญไร หายนะ ท่านจะกลืนกินอัปมงคลอวมงคลทั้งหลายไว้ด้วยความรักอันใหญ่หลวง เพื่อสิริ เพื่อมงคล เพื่อสันติ เพื่อความสุข เพื่อความเจริญ ที่จะพึงบังเกิดมีในชีวิตของลูกน้อยนั่นเอง
    เมื่อเกิดเป็นมนุษย์นั้นไม่ว่าจะต่างชาติต่างวรรณณะกันเพียงไหน เชื่อได้ว่าย่อมมีความทุกข์ทั้งสิ้น เพราะขึ้นชื่อว่ามนุษย์นั้น ย่อมมีความทุกข์เรื่องต่างๆทุกคน จะจนจะรวยเเค่ไหนก็หนีไอ้คำว่าความทุกข์นี้ไม่พ้นในอดีตจวบจนปัจจุบัน สิ่งมีชีวิตทั้งหลายก็อยู่ในห้วงทุกข์ทั้งสิ้น เพราะเสวยผลแห่งกรรมตามติดไปตามวาระตามระบบที่ตนเองเป็นคนก่อขึ้นมาเมื่อมีความทุกข์ก็ก้มหน้ารับทุกข์กันไป พ่ออาจารย์ท่านว่า
    องค์พระทักษะนี้จะสร้างเยอะก็ไม่ได้จะแจกให้บูชากันทั่วไปก็ไม่ได้ด้วยเป็นแรงครูที่มีอาถรรพ์เป็นวิชาที่ส่งผลยิ่งใหญ่ สามารถไถ่ถอนเคราะห์กรรมเปลื้องปลดทุกขเวทนาให้พ้นตัวคนใช้ได้ ผู้ใดมีความทุกข์ก็ล่วงทุกข์ได้ ซ้ำยังมีคุณวิเศษสุดเเต่จะคิดจะปรารถนาด้วยอำนาจตบะของทักษะประชาบดีที่เทพเจ้าทั้งหลายยังเกรงกลัวดังนั้นไม่ว่าจะความทุกข์อันเกิดจากบาปกรรมใดๆก็ล่วงผ่านไปได้ ซ้ำยังรักษาสิริสวัสดิ์ในกายตนเอง ปกป้องคุ้มครองให้เราอยู่ในช่วงเวลาที่มีความสุขมากที่สุด เเม้อยู่ในสถานที่ใดๆสิ่งมีชีวิตทั้งหลายทิพย์กายทั้งปวงย่อมให้ความรักความกรุณา ให้ตัวเราพร้อมกับภาวะเเห่งการสร้างสรรค์เพื่อให้กำเนิดความสุข เมื่อไถ่ถอนบาปแล้วมีชีวิตใหม่แล้วย่อมได้ชื่อว่าสิ้นทุกข์ไปแล้วชีวิตจะได้เกิดการเปลี่ยนเเปลงในทางที่ดีอย่างใหญ่หลวง เมื่อสิ้นทุกข์เเล้วจะได้พบกับความสุขเพราะอาศัยกฎธรรมชาติข้อนี้ที่นำสุขนำความสมบูรณ์มาเติมเต็มความทุกข์ที่ขาดหายไป เมื่อแรงครูไถ่ถอนเราออกจากบาปกรรมก็ถือว่าท่านพาเราออกจากสภาวะทุกข์ บุคคลผู้มีความทุกข์จะล่วงทุกข์ประการต่างๆ จะสาหัสเเค่ไหนเดือดร้อนเพียงใด เขาจะทิ้งความทุกข์ไว้แล้วเกิดเป็นคนใหม่ พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือไม่เหลือคราบคนเก่า จากคนประสบทุกข์กลายเป็นคนไร้ทุกข์ ได้ดีในสิ่งที่ตนปรารถนา ทั้งเสริมสมดุลย์ปรับธาตุพลังงานหยินยางให้อยู่ในสภาวะพอดีไม่มากเกินไปหรือน้อยเกินไป เพื่อให้สุขภาพร่างกายจะได้เเข็งเเรงไม่เจ็บป่วยง่าย ด้วยพ่อใหญ่นั้นเป็นรูปอาถรรพ์เป็นของสูงอย่ามองว่าต่ำไม่ใช่สิ่งล้อเล่น มีพ่อใหญ่อยู่ท่านว่าไม่ว่าจะแรงเทพแรงผีหรือแรงคุณไสยใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายเราได้พลังงานด้านลบต่างๆย่อมสูญสลายไป ซ้ำยังกันกระทำกันผู้มีวิชาอาคมคัดถอนอีกด้วย พ่ออาจารย์ท่านอธิบายสั้นๆเพียงเเค่นี้ท่านว่าองค์พระทักษะนี้เมื่อเผยเเพร่ออกไปแล้วก็เหมือนน้ำทิพย์ที่จะไปชุบชีวิต ไปต่อชีวิตเค้า ต่อไปจะเป็นครูหลักของเราหากพูดถึงการไถ่ถอนบาปและเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างสันติสุขใครๆก็ต้องนึกถึงพระทักษะประชาบดี ท่านว่าชนใดเมื่อถึงซึ่งความสุขมีทรัพย์สินบริบูรณ์ดีแล้วเขาจะได้ใช้ทรัพย์นั้นช่วยสงเคราะห์คนอีกมากเพื่อสร้างกุศลสืบต่อไป

    ด้านหลังท่านใช้ผงยาแดงมหากาฬที่ท่านเพียรทำโดยมีความนัยน์สำคัญซ่อนเร้นขึ้นมา ท่านว่าผงนี้ใช้รักษาตัวคนใช้และควบคุมดวงของโชคลาภความมั่งคั่งทั้งหลายให้มีเข้ามาเนืองๆ ทั้งยังได้ผสมเข้ากับผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ที่ว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมา เมื่อจะทำพระทักษะนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าอยากจะทำให้ดีที่สุดเพราะท่านตั้งใจฝังแต่ของดีๆเช่นนั้นผงจึงต้องดีด้วย ผงโสมเฝ้าทรัพย์นี้จะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลายชักนำวาสนาทรัพย์สินเงินทองให้ช่วยเขาหาทรัพย์สินมาเติมเต็มคลังสมบัติของแต่ละคนเช่นนี้ซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบ วัดกะบกขึ้นผึ้งท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกองค์ เขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆอธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มาก แต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้ จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน ด้านหลังท่านฝังสิ่งมงคลดังนี้
    - ขุนทรัพย์เสด็จกลับ เป็นอาถรรพ์ที่ว่าเมื่อเสียทรัพย์ไปเท่าไหร่ยิ่งได้ทรัพย์กลับคืนเข้ามามากมายทวียิ่งขึ้นเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าคนเราเกิดมานี่ก็ต้องเสียเงินแล้ว ในแต่ละวันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่ใช้เงิน ก็ในเมื่อต้องใช้เงินมีดวงให้เสียทรัพย์กันทุกคนอยู่แล้วก็เปลี่ยนข้อเสียตรงนี้มาส่งเสริมทำอาถรรพ์ให้กับชีวิตตนเองเสียดีกว่า เช่นนั้นท่านจึงสร้างขุนทรัพย์เสด็จกลับขึ้นมา ท่านว่าขุนทรัพนี้ทำยากด้วยผงวิชานั้นไม่เท่าไหร่แต่ทำเสร็จแล้วต้องเอาไปปล่อยในคลองน้ำไหลให้ท่านเสด็จไปแบบนั้นแล้วจึงสวดเรียกรอจนท่านจะเสด็จกลับมาในจุดเดิมจึงเอาพานรองรับไว้เช่นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจึงทำได้ไม่มาก ปล่อยไปร้อยว่ายวนกลับมาได้ไม่ถึงสิบ องค์ที่กลับมาได้ท่านจึงถือเป็นองค์หัวโจกและแก่กล้าอิทธิคุณแรงจริงเก่งจริงเช่นนั้น ขุนทรัพย์นี้ท่านว่าเขาหาทรัพย์เก่ง รู้ทางไปหมดเหนือกว่าการหาโภคทรัพย์ธรรมดา พ่ออาจารย์ท่านว่าเอามาฝังหลังองค์พระทักษะเช่นนี้ใครใช้นี้จนไม่ได้ จนไม่เป็นดุจครูปกาศิตเอาไว้เช่นนั้นเลย ที่ว่าจะจนลงด้วยทรัพย์สินจนด้วยปัญหาหนทางในการดำรงค์อยู่การดำเนินชีวิต ท่านว่านี่คือเกิดขึ้นไม่ได้เลยขุนทรัพย์ท่านนั่งรอเปิดทางทรัพย์เอาไว้ให้หมดแล้วทางจนไม่เปิดเข้าไปไม่ได้ เช่นนั้นก็เหลืออยู่ทางเดียวนั่นคือสุขสมบัติพิพัฒนมงคลทั้งหลาย ท่านว่าหุ่นขุนทรัพย์เสด็จกลับก็คือทรัพย์เต็มมือได้ทรัพย์กลับมานี่ก็ปิดประตูทุกข์ไปแล้วอย่างหนึ่ง ท่านว่าขุนทรัพย์นี้ท่านทำให้เป็นทั้งยิดัมทั้งธรรมบาลมีฤทธิ์มาก เป็นพยนต์เทพเจ้าปกครองดูแลสมบัติเบื้องล่างทั้งในโลกในบาดาลทั้งหมดมีพญานาคทั้งหลายเป็นบริวารเป็นพยนต์แห่งโชคลาภและความมั่งคั่ง
    - ตะกรุดมหาสะเดาะกันสารพัด ท่านว่าตะกรุดนี้สำคัญนะเพราะรวมวิชาหลายสูตรไว้ในส่วนของหัวใจคาถาสำคัญต่างๆ โดยพื้นฐานแล้วจะมีอำนาจแก้ไขโรคภัยไข้เจ็บ สารพัดโรคสารพัดความเจ็บป่วย กินพลังงานด้านลบดูดกลืนโรคภัยและย่อยสลายไปจากตัวเรา กันโรคร้ายๆโรคแปลกๆผิดธรรมชาติ โรคอันเกิดจากเคราะห์กรรมเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณทั้งหลาย ท่านว่าปกติวิชาต่างๆจะแก้โรคอันเกิดจากเจ้ากรรมนายเวรดลบันดาลให้เป็นไปตามเคราะห์กรรมไม่ได้ แต่แปลกที่วิชานี้แก้และกันได้ พ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือโดยพื้นฐานเพราะท่านยึดถือคำพระตถาคตเจ้าว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ นอกจากนี้ท่านยังลงวิชานะมหาสะเดาะกับมหากันเสริมลงไปอีกด้วย ท่านว่าจะได้สะเดาะเคราะห์บรรเทาทุกข์โศกและเคราะห์กรรมของคนใช้ เสริมอานุภาพให้พระทักษะโดยเฉพาะ จะได้กินพลังงานลบและเคราะห์กรรมได้มากขึ้นกว่าที่ควรจะเป็น ท่านว่าตะกรุดนี้ดีหลายด้านคือนอกจากกันโรคภัยไข้เจ็บแล้วยังใช้กันได้สารพัดสมกับชื่อมหากัน เวลาเรามีเรื่องจวนตัวไม่อยากให้เกิดกับตัวเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ระลึกถึงตะกรุดที่ฝังอยู่นี้ยกขึ้นจบหัวนึกถึงคุณองค์พระสยมผู้ตั้งฟ้าตั้งแผ่นดินเป็นที่สุด อธิษฐานบอกกล่าวว่า ด้วยอานุภาพแห่งมหากันนี้ขออย่าให้เรื่องนั้นๆเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเลย ให้นึกเอาดีๆว่าเป็นเรื่องอะไรด้วยวิชามหากันนี้เมื่อไม่ปรารถนาแล้วสิ่งเลวร้ายต่างๆย่อมไม่เกิดขึ้นเลย

    คาถาบูชา(ให้ตั้งใจระลึกถึงครูอย่างแน่วแน่)
    โอม ศานติ


    ด้วยองค์พระทักษะนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเชิญท่านมาหุ่นนี้จึงเปรียบเสมือนตัวแทนท่านเป็นนิรมาณกายของท่านที่เมื่อรูปนี้สูญสลายไปจากจักรวาลองค์นิรมาณกายก็จะไปรวมเข้ากับองค์ต้นของท่านเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าด้วยท่านเกิดจากบาทแห่งบรมพรหม ทั้งยังเคยทำความผิดไว้จนเป็นที่มาของหัวแพะอันใช้ต่อแทนนั้น ท่านจึงปรารถนาจะใช้กรรมด้วยการช่วยเหลือมนุษย์ โดยเมื่อจะบูชานั้น ท่านว่าไม่ต้องยกไว้ในที่สูง ให้ทำกับรูปท่านเหมือนเครื่องรางชิ้นหนึ่งพกไว้ในระดับเอวใส่ต่ำๆได้ ###(พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงเป็นกุศโลบายของท่านถึงจะเคยทำผิดแต่ครูพระสยมท่านก็ล้างบาปต่อชีวิตให้แล้ว ซ้ำยังเป็นมหาฤาษีเป็นทั้งหนึ่งในมหาเทพที่ได้รับเกียรติให้เป็นองค์ประชาบดีไหนเลยจะอยู่ต่ำได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าตรงๆเลยเพราะจุดที่ท่านจะแผ่พลังและชำระไถ่ถอนบาปกรรมได้มันไม่ได้อยู่บนคอของเรา ท่านจึงตั้งใจให้ทำกับรูปท่านเหมือนเครื่องรางเท่านั้นเพื่อประโยชน์ในการใช้งานอย่างสูงสุด) พ่ออาจารย์ท่านว่าพ่อใหญ่นั้นท่านก็เหมือนพ่อของเราคาถาไม่จำเป็นต้องท่องก็ได้ขอแค่ใจสื่อถึงใจจำชื่อท่านได้ออกชื่อท่านกำท่านไว้คุยกับท่านประหนึ่งบุตรธิดาคุยกับบิดา ขอความคุ้มครอง ขอทรัพย์ ขอในสิ่งที่ขาดที่อยากจะขอดุจบุตรร้องขอทรัพย์ขอความช่วยเหลือจากบิดาเช่นนั้น ทุกเรื่องท่านจะสนองให้ดุจบิดารักษาบุตรเช่นกัน

    *** องค์พระทักษะประชาบดีนั้นพ่ออาจารย์ท่านใช้เองด้วยองค์หนึ่งเพื่อให้ครูท่านรักษาธาตุขันธ์ จึงมีให้บูชาทั้งหมดสี่องค์ รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ***ผู้บูชาท่านว่าหากมีอะไรอยากฝากไว้ให้บอกกล่าวกับองค์พระทักษะเป็นพิเศษก็ให้บอกได้เลยโดยเฉพาะเรื่องร้อนเรื่องทุกข์ต่างๆ รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างห้องสุขาในวัดชนบทสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลรับโอกาสไถ่ถอนบาปเปลี่ยนผ่านกาลเวลาพระทักษะประชาบดี(ฝังยอดขุนทรัพย์เสด็จกลับ) บูชา 4,000 บาท

    72085469-2440286336248743-7565766079394349056-n.jpg 71172033-558462144924807-22879402454941696-n.jpg
    72289755-387280052196498-1180233893131845632-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เกี่ยวกับพระทักษะนั้นท่านว่ารูปนี้มีอาถรรพ์มาก พระทักษะทำพิธีบูชาไฟคราใดย่อมสั่นสะเทือนฟ้าดินอย่างถึงที่สุด เทพพรหมหมื่นจักรวาลล้วนต้องมาชุมนุมโดยพร้อมกันเพราะเกรงใจในพระทักษะประชาบดี รูปนี้อยู่ที่ไหนเทพพรหมก็ลงตรงนั้นอยู่กับใครก็ช่วยคนนั้นเพราะเขาเคารพในพ่อใหญ่นั่นเองนี่คืออาถรรพ์ของรูปนี้
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    ก็มีไลน์มาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับตะกรุดเวทย์สวรรค์โองการปฐมพรหม พี่เค้าเล่าว่าตั้งแต่ให้วันเดือนปีเกิดและฝากคำอธิษฐานไป ตอนนั้นช่วงอบรมพอดี พอกลับมาเดินผ่านร้านขายลอตเตอรี่ได้ยิน 59 เลยซื้อมาใบนึงถูกด้วยค่ะเมื่องวดที่ผ่านมา เลขท้ายสองตัว ปกติไม่ค่อยถูกเลยเฉียดตลอดเหมือนมีอะไรมาเปลี่ยนเลข แต่เมื่อสักต้นปีเคยฝันเห็นเจ้ากรรมนายเวรเรานั่งทับถุงเงินเราอยู่ คงเป็นสาเหตุทำให้ไม่มีโชคเลย แต่แปลกอยู่อย่างตั้งแต่ฝากวันเดือนปีเกิดไว้ปวดหลังมาก เหมือนเจ้ากรรมนายเวรเค้าโกรธประมาณว่าอุตส่าห์บังเรื่องโชคไว้ยังหาวิธีมาพลิกแพลงให้มีโชคได้อีก แต่วันนี้หลังเริ่มดีขึ้นแล้วได้พักหลังมากขึ้นเลยดี

    สำหรับท่านนี้ก็ขอให้โชคดีเรื่อยๆ ผมแนะนำให้เอายานวดหลังบ่อยๆ เจ้ากรรมนายเวรเค้าแกล้งเราไม่ได้อย่างนึงก็ไปลงกับอีกอย่างนึง นวดไปเรื่อยๆครับเดี๋ยวก็ดี
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่สุรวุฒิ EI 3031 0491 8 TH

    พี่ธเนศพล EI 3031 0492 1 TH

    พี่ณธพรหม EI 3031 0493 5 TH

    พี่พรเทพ EI 3031 0494 9 TH

    พี่กานต์ธิดา EI 3031 0495 2 TH

    พี่เมธาพันธ์ EI 3031 0496 6 TH
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,113
    ค่าพลัง:
    +16,533
    มีสอบถามว่าเมื่อไหร่จะลงชุดหลักร้อย รอกันอีกนิดนะครับหนนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...