ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

วันนี้ผมไม่ได้ส่งของนะครับ ที่โอนไว้จะส่งให้วันจันทร์นะ

 

จะฝากคำถามหรือปรึกษาอะไรก็ PM ไว้นะครับ วันนี้ผมติดธุระเกี่ยวกับงานศพจะทยอยๆตอบ

 

ตอบpm. ครบนะครับ เดี๋ยวมาติดตามเรื่องพูดคุยกันต่อ

 

มีประสบการณ์กับพยนต์เทพหนุมานเข้ามาก็ค้างไว้สองเรื่องเลย ติดตามกันนะครับ เรื่องเก่ายังไม่ได้เล่า เรื่องใหม่มาแล้ว55+ แรงสมกับคำว่าพยนต์เทพนะ

 

พูดคุยยามเช้า​

อรุณสวัสดิ์นะครับ วันนี้ก็จะมาคุยกันเรื่องพี่ลิงหรือหนุมานเทพพยนต์ ตรงนี้ก็เป็นประสบการณ์ที่มีคนนำมาเล่าให้ฟัง

สมัยนี้คอนโดก็นับว่าเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่ง ซื้อมาเก็งราคา ได้กำไรก็ขายไป ประสบการณ์ของพี่หนุมานเทพพยนต์ที่เกิดขึ้นกับพี่ท่านนี้ ก็เกี่ยวกับเรื่องของการขายคอนโดนี่แหละ

พี่เค้าเล่าว่าเค้าซื้อคอนโดนี้มาตอนราคาหนึ่งล้านบาท เก็บมาหลายปีจนได้กำไรเกือบสิบเท่า พอมีกำไรก็อยากจะขาย ซึ่งห้องอื่นๆที่ประกาศขายในคอนโดเดียวกันก็ขายออกไปนานแล้ว แต่ของพี่เค้าก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงขายไม่ออกซักที

คอนโดนี้พี่เค้าว่ามันแปลก มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้นหลายครั้ง เพราะเค้าประกาศขายไม่ใช่จะไม่มีคนสนใจ แต่กลับมีคนมานัดดูให้ความสนใจอยู่บ่อยๆ บางคนดูเค้าตื่นเต้นให้ความสนใจมากให้ความรู้สึกว่าเอาแน่ๆซื้อแน่นอน บางคนดูรูปก็ชอบจนพี่เค้าว่าเค้ามั่นใจมากว่าขายได้ ถึงขนาดเก็บข้าวเก็บของรอเค้ามาดูจะได้ย้ายออก เรียกว่าทุกครั้งที่จะมีคนมาดู เปอร์เซ็นต์ที่จะขายได้มีสูงมาก

แต่ทุกครั้งพอดูเสร็จก็จะเงียบหายไป ถ้าเป็นแค่ครั้งสองครั้งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่นี่เป็นนับสิบครั้ง จนคอนโดชั้นเดียวกันบางห้องที่ประกาศขาย ขายออกไปเกือบหมดแล้ว พี่เค้าว่าแบบนี้มันไม่ปกตินะแต่ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรไม่รู้จะทำไงเหมือนกันเพราะห้องผมก็ปกติเหมือนชาวบ้านเค้าแต่ทำไมคนไม่เอา ขนาดตอนรีบจะใช้เงินคิดว่าได้แน่ๆกลายเป็นว่าเลิกหวังหาเงินทางอื่นดีกว่า

จนมาได้เทพพยนต์หรือพี่ลิงไป พี่เค้าก็นำไปลองหลายๆเรื่องโดยเฉพาะเรื่องขายคอนโดนี่แหละ เค้าว่าพอได้ไปแล้วคิดจะให้พี่ลิงช่วยเรื่องขายคอนโด ก็นำพี่ลิงที่เลี่ยมกันน้ำไว้แล้วมานั่งกำอธิษฐานบอกกล่าว ไม่มีธูปรึอะไรจะจุด ใช้กำเอาดื้อๆเลยนั่งคุยกับเค้าหรือที่เราเรียกว่าบอกกล่าวก็ได้ เสร็จแล้วก็เอาแช่น้ำไว้ในแก้วน้ำ ขอพี่ลิงว่าจะเอาน้ำในแก้วพรมให้ทั่วห้องของเค้าในคอนโด หากมีอาถรรพ์มีเสนียดก็ขอให้หายไป ขอให้ขายได้ซักที

เสร็จแล้วพี่แกว่าผมแช่ไว้คืนนึง แล้วก็เอามาพรมๆ ทีนี้ต้องบอกเลยว่าคอนโดของพี่คนนี้น่าจะมีคนมาดูบ่อยๆเห็นบอกนับสิบครั้งแล้ว หลังจากวันที่เอาน้ำพรมทั่วห้อง พี่เค้าว่าเจ็ดวันไม่ขาดไม่เกิน ก็มีคนมาติดต่อขอดูคอนโดอีก

แต่ตอนนี้พี่เค้าว่าผมไม่ดีใจนะเพราะกลัวมันจะเหลวเหมือนหลายๆครั้งที่ผ่านมา ก็เลยเอาพี่ลิงมาอธิษฐานว่าเดี๋ยวจะมีคนมาดู พูดเล่นๆไปว่าครั้งนี้ถ้ามันขายได้จริงๆ ผมจะถวายกล้วยเครือใหญ่ๆซักเจ็ดเครือ แกว่านับเอาวันตอนบนนานเจ็ดวันก็เลยถวายเจ็ดเครือ

...ตัดจบเลยคือได้ถวายกล้วยเจ็ดเครือใหญ่จริงๆ พี่เค้าบอกว่าผมดีใจมาก ก็ไม่รู้อะไรทำไมเราขายไม่ออก แต่ตอตนนี้ผมขายออกแล้วแถมลูกค้าเป็นชาวต่างชาติด้วย จ่ายเงินโอนกันทำอะไรไวมาก ง่ายแบบไม่น่าเชื่อ ผิดจากเดิมตอนที่มาดูๆแล้วเงียบหายเข้ากลีบเมฆไปหมดพวกนั้นเลย

พี่เค้าว่าผมมีทุนอีกก้อนหนึ่งเพราะพี่ลิงช่วยผมคราวนี้ เทียบกับกล้วยเจ็ดเครือนับว่าคุ้มจริงๆ แต่สังเกตุจากกล้วยที่ถวาย พี่เค้าว่ามันแปลกๆนะ กล้วยเจ็ดเครือนี้สุกยากมาก สุกยากผิดปกติ คงเพราะพี่ลิงเค้ากินไม่ทันหรืออาจเก็บไว้กินนานๆก็เป็นไปได้

อันนี้ก็ยินดีด้วย คอนโดก็เป็นทรัพย์สินที่น่าลงทุนอย่างหนึ่ง แต่พี่ลิงหรือหนุมานเทพพยนต์นี้ถ้าจะบนหรือขออะไรเขา ก็อย่าลืมกล้วยก็แล้วกัน หรือไหว้กล้วยบ่อยๆก็เชื่อได้เลยว่าแรงและซน ดุ..ขลัง ครบเครื่องเพราะหนุมาน คือพลังที่ยิ่งใหญ่ของมวลมนุษย์นั่นเอง

 

ใครจะฝากคำถามอะไรก็ pm. ไว้นะครับเดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันต่อ

 

ตอบ PM ครบนะครับ เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันต่อ พอดีมีคำถามน่าสนใจเข้ามาซึ่งตอบเองไม่ได้ เดี๋ยวต้องรอก่อน แต่น่าสนใจมากเป็นความรู้ดี

 

พรุ่งนี้ติดตามสาระความรู้กันนะครับ

 

พูดคุยยามเช้า​

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้ก็จะมาพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องคำถามที่ฝากไว้ ถือว่าน่าสนใจดีเพราะเป็นคำถามของพี่ท่านนึงเกี่ยวกับงานพุทธาภิเษก พี่เค้าถามว่าเวลาจัดพิธีพุทธาภิเษกนั้นปกติคนจัดใช้เกณฑ์ไหนเลือกพระเกจิซึ่งเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษก ทำไมพิธีพุทธาสมัยก่อนกับสมัยนี้บรรยากาศมันแตกต่างกันเยอะ

จากคำถามนี้ก็ต้องตอบแบบแยกให้เห็นกันชัดๆตรงๆเลยนะครับ จะได้เข้าใจกันว่าทำไมวัตถุมงคลที่ได้จากพิธีพุทธาภิเษกสมัยก่อน กับสมัยนี้ความขลังถึงต่างกัน

เอาปัจจุบันที่เราเห็นๆกันง่ายๆก่อน พระเกจิซึ่งเป็นประธานสมัยนี้ก็จะเอาง่ายเข้าว่า นั่นคือสมณศักดิ์ ก็สมณศักดิ์ที่พระเขาซื้อขายตำแหน่งกันหลักล้านหลักสิบล้านใครจะเป็นฐานาของใครที่เราไม่รู้กันนั่นแหละ งานไหนมีสมเด็จ มีเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ ก็เลือกมาเอาเจ้าคุณทั้งหลาย สมณศักดิ์สูงๆมาจุดเทียนชัยดับเทียนชัย เป็นประธานพิธีพุทธาภิเษก ไม่เช่นนั้นก็อาราธนาพระเกจิที่พรรษาสูงสุดเช่นนั้น

พ่ออาจารย์ท่านว่าเกจิสมัยโบราณเขาไม่ทำกันแบบนี้ ยังไม่ต้องพูดถึงว่าเอาอะไรไปเสกแล้วเสกเข้าหรือไม่หรือไม่ได้เสกเลย เนื่องจากบรรยากาศงานพุทธาภิเษกสมัยนี้ไม่ได้มีปัจจัยเอื้อต่อการให้พระเกจินั้นๆเข้าสมาธิเลย ตรงไหนมุมไหนรูไหนก็มีแต่คน มีแต่ตากล้อง ช่างภาพ ยังไม่ทันเริ่มหรือเริ่มงานแล้วตากล้องก็เดินถ่ายเก็บภาพกันไปทั่วไหนจะกล้องของบรรดาไทยมุงและไหนจะเสียงต่างๆที่เกิดขึ้นอีก บางรูปไปท่านก็บอกตรงๆว่าแค่ไปนั่งหลับตาพอเป็นพิธี

จากคำถามที่ถามมาพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตัวพระเกจิที่เป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกนั้นเป็นบุคคลสำคัญอย่างมาก ไม่ได้วัดไม่ได้มองจากสมณศักดิ์ชั้นยศ เพราะต้องคุมพิธีทั้งหมดนอกจากมีบารมีมากยังต้องมีพลังจิตแก่กล้าที่สุดด้วย

การจะนั่งเป็นประธานคุมพิธีพุทธาภิเษกทั้งหมด พ่ออาจารย์ท่านว่าเริ่มแรกเลยก่อนจัดพิธีนั้น ผู้จัดจะต้องหาพระเกจิและต้องให้มาลองกันให้เห็นต่อหน้าเลย ยุคจาดจงคงอี๋ก็เช่นนี้ เอากบไสไม้มาวางไว้ด้านหน้าเลย รูปไหนรูปนั้นรูปละตัว อาราธนาพระเกจิพระคุณเจ้าทุกรูปแสดงให้ดู ใช้พลังจิตเพ่งกบไสไม้ให้ขยับ แค่นั้นยังไม่พอ ตัวไหนของใครไปไกลที่สุด ก็ท่านนั้นแหละมีพลังจิตแก่กล้าที่สุดและจะได้รับอาราธนาขึ้นมานั่งเป็นประธานคุมพิธีพุทธาภิเษกและจุดเทียนชัยต่างๆ

พ่ออาจารย์ท่านกล่าวถึงพระเกจิที่นั่งเป็นประธานคุมพิธีนั้น ถ้าได้รับการเลือกสรรค์ที่วัดกันจากระดับพลังจิตเช่นนี้ เมื่อพระเกจิที่เป็นประธานท่านเมตตา่อธิษฐานจิตปรกปลุกเสกตามวิธีการของท่านเหล่านั้น บางทีพิธีนั้นพระรูปอื่นๆที่นั่งปรกด้วยกันก็ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะเสกให้ตายก็เสกไม่เข้า จะเข้าได้อย่างไรในเมื่อของมันเต็มหมดแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้ความต่างที่ไม่เหมือนกันของสมัยก่อนกับสมัยนี้ ก็คือตัวบทพุทธาภิเษก ที่พระพิธีธรรมซึ่งเจ้าภาพอาราธนามาสวดทั้งสี่รูป ปริเฉทที่1 ปริเฉทที่2 ปริเฉทที่3 ปริเฉทที่4 ตัวพระเกจิซึ่งเมตตานั่งเป็นประธานคุมพิธีพุทธาภิเษกนั้นต้องแม่นยำบทพระคาถาพุทธาภิเษกทั้งสี่ปริเฉทนั้นด้วย

ไม่ใช่นั่งเฉยๆจุดเทียนหลับตาหมดหน้าที่ เวลาพระพิธีธรรมทั้งสี่สวดกัน ถ้าท่องผิดต้องแย้งได้ จะให้อักขระวิบัติหรือพิธีล่มไม่ได้ ดังนั้นตัวพระคาถาพุทธาภิเษกจึงสำคัญอย่างมาก

พ่ออาจารย์ท่านสรุปว่าพระเกจิที่จะขึ้นมานั่งเป็นประธานคุมพิธีพุทธาภิเษกนั้น สรุปแล้ว ต้องมีพลังจิตแก่กล้าไวที่สุดและเป็นเลิศในการแสดงฤทธิ์ที่สุด เพราะว่าสมัยก่อนงานพุทธาภิเษกบางงานก็เหมือนลานประลองยุทธ์ พระเกจิหลายๆรูปที่นั่งปรกพอรู้ว่าประธานคุมพิธีเอาอยู่ก็จะเริ่มประลองฤทธิ์กันเองเป็นการทักทาย ตัวประธานต้องเอาอยู่ คุมอยู่ และนอกจากนั้นยังต้องแม่นอักขระคัมภีร์ตัวบทพระคาถาพุทธาภิเษกด้วย จะให้สวดผิดปล่อยเลยตามเลยให้อักขระวิบัติหรือพิธีล่มไม่ได้

ดังนั้นก็สรุปชัดเจน ว่าจะไม่ให้บรรยากาศแตกต่างกันได้อย่างไร ไม่ต้องไปมองถึงวัตถุมงคลเลย เอาแค่พิธีก็ระดับต่างกันมากแล้ว สมัยก่อนกับสมัยนี้มีอะไรเหมือนกันบ้าง งานพุทธาหลายๆงานก็เหมือนงานเดินสายโชว์ตัวของพระเกจิอาจารย์เพื่อให้คนรู้จัก ให้คนตาม เพื่อชื่อเสียงและลาภสักการะที่จะตามมา พ่ออาจารย์ท่านพูดในมุมๆหนึ่งว่า โลกนั้นย่อมหมุนไปรอบตัวมันเองไม่มีวันหยุด สรรพสิ่งที่ตั้งอยู่ก็ไม่คงที่ เปลี่ยนแปลง กลับตาลปัตรและเสื่อมถอยในท้ายที่สุด

* ใครจะฝากคำถามอะไร ก็ PM กันไว้นะครับ ถ้าเป็นสาระความรู้เดี๋ยวจะเอามาตอบและพูดคุยกันต่อหน้ากระทู้

 

วันนี้ไปทำบุญอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลให้สมเด็จพระปิยมหาราชกันนะครับ

 

พรุ่งนี้จัดส่งของนะครับ และที่สำคัญมาติดตามกันนะห้ามพลาด

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

วันนี้เดี๋ยวก็มาติดตามกันนะครับ ห้ามพลาด รอผมส่งของเสร็จก่อนแล้วจะมาพูดคุยกันต่อ

 

แจ้งการส่ง Ems
​

พี่ชัยวัฒน์ ET 0390 6804 3 TH

พี่วันชัย ET 0390 6805 7 TH

พี่ thitiwat RR 2513 6178 5 TH

 

วันนี้ฝนตกหนักมาก เดี๋ยวขอเลื่อนเรื่องพูดคุยออกไปก่อนนะครับ ผมยังติดฝนอยู่เลยตกเป็นชั่วโมงแล้ว ไว้พรุ่งนี้มาติดตามกัน

 

อรุณสวัสดิ์ครับ

ช่วงนี้มีแต่คนถามหาสีผึ้งยุคเก่าที่หมดไปแล้วกันมามาก ก้ยังไม่ได้มีออกให้บูชานะ แต่จะมีแบบทาถู ทาถู ใช้ง่ายแบบลูกกลิ้งทีเดียว ไม่ใช่สีผึ้ง จะเป็นอะไรต้องติดตาม

 

น้ำมันพรายอะไรเอ่ยใช้ทาถูๆได้

ก็มีหลายคนถามหากันมามากเกี่ยวกับน้ำมันพรายว่าท่านทำมั๊ย ซึ่งก็ไม่มีให้บูชาเพราะท่านไม่ได้ทำของจำพวกนี้ ยิ่งบอกไม่มีก็ยิ่งต้องการนี่เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งหลายๆคนเป็นเหมือนกัน บอกว่าจะรอและถามกันมาเป็นพักๆ แต่น้ำมันพรายนี่ไม่มีแน่นอนจะมีอยู่ก็อีกสิ่งหนึ่งที่ท่านว่าใช้แทนกันได้ แรงเหมือนกันไม่แตกต่าง เป็นน้ำมันพรายที่ไม่มีส่วนผสมของพรายหรือแม้แต่ซากสัตว์และสิ่งมีชีวิตใดๆเลย

เอาไว้ทาไว้ถู จะดีดจะป้ายอะไรก็สุดแล้วแต่จะนำไปใช้ อันนี้มาติดตามพูดคุยกัน ท่านว่าถามหากันมาเยอะ ก็เลยจะแถมให้เอาไปใช้กัน ซึ่งก็คาดว่าน่าจะให้บูชาคู่กับตะกรุดที่จะเปิดจอง รายการนี้ผมชอบของแถมจริงๆ เพราะปกติน้ำมันพรายนี่จะใช้ถูใช้ทาใดๆไม่ได้มันจะเข้าตัว แต่นี่ไม่เหมือนกันใช้อิทธิคุณได้เต็มที่ ทั้งท่านบอกว่าไม่มีส่วนผสมของสิ่งมีชีวิตใดๆแน่นอนก็ยิ่งปลอดภัยเข้าไปใหญ่ ...ห้ามพลาด

 

ติดตามกันนะครับ ได้เลิกถามหาน้ำมันพรายกันจริงๆแน่รอบนี้

 

น้ำมันพรายนางจันทร์บังเงาบรรจุตะกรุดแฝดแสนชู้เข้าหา ที่จะเปิดให้บูชาแถมไปพร้อมกับตะกรุดมหาสิริชมพูนุชพระเพชรพญาธรหน้าทองก็ติดตามกันในวันพรุ่งนี้นะครับ วันนี้ของดการโพสต์ต่างๆเพื่อร่วมถวายความอาลัยกันนะครับ

 

น้อมถวายความอาลัยกันนะครับค่ำคืนนี้

 

วันนี้ก็จะให้ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดมหาสิริชมพูนุชพระเพชรพญาธรหน้าทอง(น้ำมันพรายนางจันทร์บังเงาบรรจุตะกรุดแฝดแสนชู้เข้าหา) กันนะครับ

* อันนี้ต้องติดตามหลายๆอย่างซึ่งเกินคำว่ารอคอยจริงๆ ถือเป็นครั้งแรกที่จะแจกน้ำมันให้บูชาไปพร้อมกัน เดี๋ยวรอบบ่ายๆยังไงก็ห้ามพลาดนะ