ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จร่างพระธรรมพระเจ้าซ้อนเงา(ภาคหล่อเลี้ยงพ่อจักรพรรดิเงา) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เดี๋ยวมาพูดคุยเรื่องท่านสุทัตตะคหบดีต่อนะครับ;)
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พระภูมิเทวดากับสุทัตตคหบดี(อนาถบิณฑิกเศรษฐี)

    จากเรื่องที่ท่านสุทัตตะหรือที่เราจะชินหูในชื่อของอนาถบิณฑิกเศรษฐี ได้ใช้อำนาจแห่งคำพิพากษาขับไล่ภูมิเทวดาออกไปให้พ้นบ้านนั้น จะเป็นอย่างไรก็มาติดตามกันนะครับ....


    เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระภูมิเทวดาผู้เป็นอารักษ์สถิตย์ที่ซุ้มประตูบ้านของท่านเศรษฐี ด้วยว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิ เห็นท่านเศรษฐียากจนลงเพราะทำบุญเกินกำลังทรัพย์ กอปรกับไม่เลื่อมใสพุทธศาสนา เบื่อระอาที่พระภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูเข้าออกทุกวัน เพราะในขณะที่ภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูนั้นตนไม่สามารถจะอยู่บนซุ้มประตูได้

    เมื่อเห็นเศรษฐีกลับกลายมีฐานะยากจนลงเพราะทำบุญแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงปรากฎ
    กายต่อหน้าท่านเศรษฐีกล่าวห้ามปราม เตือนสติ ให้เศรษฐีเลิกทำบุญเสียเถิด แล้วทรัพย์สินเงินทองก็จะเพิ่มพูนขึ้นเหมือนเดิม

    ท่านเศรษฐีจึงถามว่า
    “ท่านเป็นใคร ?”
    “ข้าพเจ้าเป็นเทวดาผู้สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของท่าน”
    เมื่อทราบเช่นนั้น ท่านเศรษฐีก็ไม่พอใจในคำเตือนที่เห็นแก่ตัวของภูมิเทวดายิ่งนัก จึงเอ่ยปากว่า “ดูก่อนเทวดาอันธพาล เราไม่ต้องการเห็น ไม่ต้องการฟังคำพูดของท่าน ขอท่านจงออกไปจากซุ้มประตูเรือนของเรา อย่ามาให้ข้าพเจ้าเห็นอีกเป็นอันขาด”

    เพียงคำพูดเท่านี้ของเศรษฐี เทวดาตกใจ เทวดาถึงกับไม่สามารถอยู่เป็นทวารบาลได้อีก ไม่เฉพาะกับตัวเองแม้กับภริยาหรือลูกน้อยก็ตาม จำต้องเนรเทศตัวเองออกไปทันที ไม่สามารถจะอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของเศรษฐีได้อีกต่อไป

    เมื่อพระภูมิกลายเป็นเทวดาไร้ที่สิงสถิต ซ้ำยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จำต้องบากหน้าเข้าไปหาเทวดาผู้มีศักดิ์สูงกว่าตนให้ช่วยเหลือ ไล่ไปตั้งแต่ภูมิเทวดา จนไปถึงเทพยดาอันรักษาพระนครสาวัตถี ท้าวปรเมศวรผู้ดูแลภูมิเทวดา จนถึงท้าวจตุมหาโลกบาลทั้งสี่และทวยเทพทั้งหลายในจตุมหาราชิกา ไล่ไปทั่วจนเลยไปถึงดาวดึงส์สวรรค์ เทพทั้งหลายทุกองค์ล้วนไม่มีใครช่วยเหลือภูมิเทวดาผู้นี้ได้ทั้งสิ้น

    ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ก็ด้วยเพราะอำนาจของสุทัตตคหบดีหรือที่รู้จักในนามของอนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้น ทำใหเรื่องที่ดูเล็กน้อย เหมือนเป็นคำพูดเล็กๆกลับกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สะเทือนฟ้าดินได้ พระภูมิที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ยังต้องคำพิพากษาของเศรษฐีที่เป็นมนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงจะเป็นมนุษย์ก็เป็นเลิศในหมู่มนุษย์ทั้งปวง เป็นทายกใหญ่ เป็นผู้เลิศในการถวายทาน และที่สำคัญที่ท่านยิ่งใหญ่มากก็เพราะท่านเป็นพระโสดาบันอริยบุคคลผู้มีพัฒนาการชีวิตอันไม่มีวันตกต่ำลงอีกนั่นเอง

    เมื่อไม่มีเทวดาองค์ใดจะสามารถช่วยได้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างก็ไม่เกินความสามารถของพระอินทร์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่นี่คือปัญหาเล็กๆของภูมิเทวดา แต่กลับไปเดือดร้อนไล่ขึ้นไปเรื่อยๆถึงพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้วยความเป็นอริยบุคคลยิ่งใหญ่เสมอกันของพระอินทร์ ท่านจึงใช้ปัญญาหาทางออกให้พระภูมิได้

    โดยให้ไปทำงานไถ่บาป ติดตามหนี้ที่สูญหายกล่าวคือทรัพย์เก่าของเศรษฐีจำนวน ๘๐ โกฏิ ซึ่งใส่ภาชนะฝังไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำถูกน้ำเซาะตลิ่งพังจมหายไปในสายน้ำ ท่านจงไปนำทรัพย์เหล่านั้นกลับคืนมามอบให้ท่านเศรษฐี เท่านั้นยังไม่พอยังให้ไปแสวงหาสมบัติที่จมอยู่ในท้องทะเล ทุกสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ(ก็ของที่จมอยู่ในทะเลจะหาเจ้าของที่ไหนได้) นั่นแหละคือคำแนะนำของพระอินทร์ ให้ภูมิเทวดาเอาทรัพย์ทั้งหมดในท้องทะเลที่ไม่มีเจ้าของนั้น นำมาสมทบใส่เข้าคลังของเศรษฐีให้เต็ม พระภูมิเทวดาเมื่อได้ยินเช่นนั้นท่านก็ไปขวนขวายกระทำชนิดที่ว่าต่อให้เศรษฐีใช้ทรัพย์อีกเท่าไหร่ก็ไม่มีวันพร่องลงเลย ด้วยทรัพย์ที่ถมมหาสมุทรทั้งสี่ทวีปนั้นมิใช่ของที่ใครจะสามารถคาดเดาถึงปริมาณได้

    เมื่อภูมิเทวดาทำงานที่พระอินทร์แนะนำเสร็จแล้ว ก็ปรากฏกายออกมาขอขมาต่อเศรษฐี(เทวดาขอขมามนุษย์) ถึงเศรษฐีจะให้อภัยแต่ท่านเศรษฐีก็พาภูมิเทวดานั้นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งแสดงโทษของภูมิเทวดาต่อหน้าพระบรมศาสดาด้วย การกระทำเช่นนี้ของท่านเศรษฐีก็ด้วยหวังจะให้พระพุทธองค์โปรดภูมิเทวดานั้นให้คลายจากมิจฉาทิฏฐิ ซึ่งพระภูมิก็ได้รับฟังธรรมกถาจากพระบรมศาสดาสมควรแก่บุญและวาสนาของตน ส่งผลให้ภูมิเทวดานั้นเข้าถึงความเป็นพระอริยบุคคลนั่นคือบรรลุโสดาปัตติผลเช่นกัน เมื่อกาลทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ก็กลับคืนไปเป็นพระภูมิที่ซุ้มประตูให้เศรษฐี

    พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะการณ์อันบังเกิดนั้น ทำให้พระภูมินี้นอกจากจะเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันแล้ว ยังมีอาญาสิทธิ์ที่ได้จากพระอินทร์นั่นคือสามารถรวบรวมทรัพย์ในมหาสมุทรทั้งสี่ทวีปได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครหรือเทวดาที่ไหนจะทำก็ได้ นี่จึงเป็นเหตุและที่มาของวิชาที่ท่านลงไว้ในเหรียญหล่อสุทัตตคหบดี(อนาถบิณฑิกเศรษฐี)ซึ่งท่านแกะพิมพ์ให้นั่งอยู่ในซุ้มประตู พร้อมกับมีภูมิเทวดาและครอบครัวนั้นคอยหาทรัพย์สมบัติมอบให้แก่เศรษฐี ด้วยเหรียญหล่อนี้ก็เป็นของสำคัญที่ฝังในพระพุทธพักตร์นั่นเอง เหรียญนี้จะดีและสำคัญอย่างไรก็ต้องติดตามกันดีๆ วันนี้เพียงแต่เกริ่นและพูดคร่าวๆให้ฟังถึงที่มาที่ไป


    619172-img-1339390725-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กรกฎาคม 2017
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ใครจะฝากถามอะไรก็ PM ไว้นะ หรือทักมาในไลน์ก็ได้
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ตอบ PM ครบนะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พรุ่งนี้มาติดตามรายละเอียดและสาระกันต่อนะครับห้ามพลาด
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จะส่งของรายการที่ค้างอยู่ให้ แล้วมาติดตามกันต่อวันนี้ กับตะกรุดที่พ่ออาจารย์ท่านฝังในพระพุทธพักตร์ บอกได้คำเดียวว่าสุดยอดมาก เพราะนั่นคือตะกรุดดับล้างสุครีพหักฉัตร เนื้อตะกั่วขอมโบราณ ติดตามกันดีๆนะ
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    เห็นพระพุทธพักตร์แล้ว นับว่าพิเศษจริงๆ ติดตามกันนะครับ ไม่ใช่แค่เหรียญหล่อเศรษฐีที่พ่ออาจารย์กล่าวรับรองตั้งแต่พิธีกรรมการหล่อหลอม การปลุกเสก ตลอดจนนิมิตที่เกิดขึ้นและประสบการณ์โดยตรงของท่านก่อนที่จะนำมาฝัง แต่ตัวของพระพุทธพักตร์นั้นก็ไม่ได้ธรรมดาซ้ำพิมพ์ทรงยังเป็นเอกลักษณ์ของท่านเรียกว่าไม่เคยมีคนสร้างพระพุทธรูปที่มีพระพักตร์เช่นนี้เลย ที่สำคัญเป็นพระพุทธพักตร์ของสมเด็จองค์ปฐมด้วย ต้องติดตามๆ...;)
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ชัยวัฒน์ ET 2874 5293 4 TH

    พี่กฤตยชญ์ ET 2874 5294 8 TH

    พี่ภิญโญ ET 2874 5295 1 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พรุ่งนี้มาติดตามกันนะครับ สำหรับท่านที่รออยู่ สาระจะมาเต็ม ;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ยามเช้านะครับ

    ติดตามกันให้ดีๆ เช้านี้ทักทายกันด้วยพระพุทธพักตร์(เร่งรวย ลืมจน) ที่สุดแห่งพระพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ เอาภาพด้านหน้ามาให้ชมกันก่อน นอกจากสัญลักษณ์อุณาโลมที่เป็นเลขหนึ่งขึ้นยอดยันต์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความเป็นที่หนึ่ง เป็นปฐมพระพุทธเจ้าแล้ว พระพุทธพักตร์ของพ่ออาจารย์ท่านยังแย้มพระโอษฐ์ได้สวยงามอีกด้วย ที่สำคัญเลยคือพ่ออาจารย์ท่านเองก็ไม่ตั้งใจทำเหมือนกัน แต่พอกดพิมพ์พระออกมาแล้ว ปรากฏชัดเจนว่าองค์พระทุกองค์นั้นอ้าปากเหมือนกันหมด หลังจากท่านตรวจสอบแล้ว ....จะสำคัญอย่างไร ทำไมครูเบื้องบนและเสด็จพระใหญ่ถึงตั้งใจให้เป็นไปในรูปลักษณะเช่นนี้ ก็ต้องติดตามกันนะครับ รับรองว่าสำคัญและไม่ธรรมดาแน่นอน(ถ่ายรูปไม่ค่อยขึ้น แต่องค์พระจริงๆดูอิ่มมาก อุดมสมบูรณ์และสวยงามลงตัวที่สุด)

    นมัสการเสด็จพระใหญ่องค์ปฐมยามเช้า ..ปฐมพุทธัง สรณัง คัจฉามิ นะมามิหัง


    SAM_5358.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    ตะกรุดดับล้างพญาสุครีพหักฉัตร(ตะกั่วขอมโบราณ)
    เป็นตะกรุดวิชาเอกที่พ่ออาจารย์ฝังไว้ในพระพุทธพักตร์องค์ปฐม ซึ่งวิชานี้จะสำคัญอย่างไรก็มาติดตามกันนะครับ

    พ่ออาจารย์ท่านว่ามีหลายที่ที่ทำวิชานี้เหมือนกัน แต่บางครั้งแม้แต่หัวใจหรือตัวคาถาต่างๆจริงๆเขายังไม่รู้เลย ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาเฉพาะทางที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าถึงจะเห็นเป็นตะกรุดแต่ก็ต้องเสกจนมีตัวมีตนดุจพญาลิงลูกพระอาทิตย์เช่นนั้น โดยท่านได้ลงหัวใจพญาสุครีพลูกพระอาทิตย์ลงไป ก่อนจะลงจารกำกับด้วยวิชาสุครีพหักฉัตรเต็มสูตร ท่านว่าที่ท่านเจาะจงใช้สุครีพเพราะนอกจากจะเป็นลูกพระอาทิตย์แล้วยังมีกายสีแดงอีกด้วย ซึ่งสีแดงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ โชคดีและมีความสุข ท่านว่าใครที่เค้ามีพญาสุครีพอยู่กับตัวนั้นชีวิตเค้าจะได้รุ่งโรจน์ซ้ำยังดึงดูดโชคดีและนำความสุขมาให้

    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดดอกน้อยนี้โดยปกตินั้นใช้ได้ทุกอย่างตามแต่จิตเราจะต้องการ พญาสุครีพนี้เก่งมาก ขอได้ทุกอย่างจริงๆ แต่วิชาสุครีพหักฉัตรนั้นก็เป็นวิชาเฉพาะทางมีอานุภาพต่างๆนานัปการ ท่านว่าสำคัญที่สุดเลยนั่นคือการดับล้างให้หมดไป และใช้ถอดถอนอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย แก้การถูกครอบงำต่างๆและยังรวมไปถึงการป้องกันไม่ให้ชีวิตถูกอาถรรพ์หรือการครอบงำจากไสยเวทย์ทั้งหลายด้วย

    นอกจากนี้ท่านยังว่าใช้ได้ทุกทางใช่แต่เพียงการล้างอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเหมือนเมื่อครั้งสุครีพหักฉัตรทศกัณฐ์ฉันใดก็ฉันนั้น ฉัตรนี้เป็นการทำอาถรรพ์เพื่อทำลายกองทัพพระราม เมื่อสุครีพหักฉัตรนั้นได้ทำลายอาถรรพ์ของฉัตรไปด้วย ซ้ำมหาสมบัติทั้งหลายที่พญายักษ์นำไปใส่ไว้ในฉัตรแก้วก็ร่วงหล่นลงมา วิชาสุครีพหักฉัตรนี้ก็เช่นกันเป็นการหักดิบทำลายล้างอาถรรพ์ทั้งหลายที่สะกดข่มชีวิต ท่านว่าชีวิตคนที่นำไปบูชานั้นก็ดุจเดียวกันเมื่อทำลายเสร็จแล้ว ยังต้องโชคดีในทันทีด้วย ดุจดังฉัตรแก้วอันเป็นที่เก็บสมบัติของพญายักษ์ เมื่อหักฉัตรจึงพบสมบัติมากมายนั่นเอง

    ใช่แต่เพียงใช้หักทำลายอาถรรพ์ร้าย นอกจากนี้ยังใช้ได้ในทุกทางทั้งสารพัดกัน ขับเสนียด เป็นมหาปราบ มหาอำนาจน่าหวั่นเกรง อุ้มดวงแก้ชง สะกดข่มภูติผีวิญญาณ ตัดอุปสรรค ชนะมาร ประสบชัยชนะ นิราศทุกข์ภัยให้พบซึ่งความสุขสวัสดี

    * ท่านว่าชีวิตใครที่มัวแต่แก้ รู้ว่าชีวิตไม่ดีติดอาถรรพ์สารพัด ก็แสวงหาแนวทางแก้กันไป พอแก้ไปก็ได้ดีแค่เสมอตัว สุดท้ายก็เจอเรื่องซวยให้มานั่งแก้ใหม่ แก้ไขซ้ำซากเป็นวงจรชีวิตไม่จบสิ้นซักที ต้องมานั่งกลุ้มนั่งแก้บ่อยๆเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดแค่เสมอตัว ไม่ใช่แก้แล้วหักจบประสบโชคพบเจอชัยชนะและความสำเร็จเลยแบบชีวิตคนอื่นเขา ท่านว่าตรงนี้สำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่เจออาถรรพ์ตรงนี้ต้องแก้ด้วยสุครีพหักฉัตรนี่เป็นคุณเฉพาะทางของวิชาสุครีพหักฉัตรที่จะแก้ไขได้ (ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจลงวิชาสุครีพหักฉัตรซึ่งเป็นวิชาช่วยคนเฉพาะทาง เพื่อฝังไว้ในพระพุทธพักตร์องค์ปฐมนั่นเอง
    )

    999.jpg
    45994ba19.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    พรุ่งนี้ติดตามกันนะครับ ห้ามพลาด
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์ครับ เช้านี้ติดตามกันดีๆนะ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533

    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สมเด็จพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (เนื้อยาแก้กรรมเร่งรวยลืมจน)

    การสร้างพุทธพักตร์สมเด็จองค์ปฐมนั้น นับว่าเป็นงานยากที่สุดในชีวิตของพ่ออาจารย์ท่านก็ไม่ผิด ซึ่งท่านได้เมตตาบอกกล่าวว่า ท่านยังจำสาเหตุที่จะสร้างได้เป็นอย่างดี โดยแรกเริ่มนั้นท่านมีนิมิตถึงหลวงพ่อปานได้พาท่านไปหาเสด็จพระใหญ่ แต่อยู่ดีๆตอนนั้นท่านก็ได้จ้องไปที่พระพุทธพักตร์แล้วมีความรู้สึกว่า หากได้ทำพระพุทธพักตร์ของเสด็จท่านให้ผู้ศรัทธานำไปบูชาแล้ว คงจะเป็นสิริมงคลสูงสุดในชีวิตของทุกคนไม่น้อย ท่านว่าเราเพียงระลึกอยู่เท่านี้ แต่เสด็จพระใหญ่กลับเปล่งวาจาว่าสาธุๆออกมาถึงสามครั้งสามหน

    พ่ออาจารย์ท่านหลังจากได้รับพุทธนิมิตแล้วก็ตั้งใจว่าจะทำและจะทำให้อย่างดีที่สุด ท่านว่าท่านไม่เคยทำอะไรที่ยากถึงเพียงนี้เลย เพราะเสด็จพระใหญ่กำหนดให้มาแต่เดิม เมื่อจะสร้างปฐมพุทธพักตร์นั้นพ่ออาจารย์จำต้องลบถมผงวิเศษถึง 227 ชนิด เท่ากับศีลพระ ทั้งอักขระยันต์จากคัมภีร์ปถมังต่างๆ ตำราพระพิชัยสงครามแต่ละสูตร รวมไปถึงวิชาและอักขระยันต์ต่างๆที่พ่ออาจารย์ท่านได้รับการขัดเกลาและสั่งสอนโดยตรงจากเสด็จพระใหญ่ท่าน ท่านได้ทำการลบถมจนทะลุกระดานชนวนในเวลาหลายปีกว่าจะได้ครบ 227 ชนิด ซึ่งท่านบอกว่านี่ไม่ต้องพูดอะไรกันแล้ว เอาเป็นว่าถ้าไม่ได้ใช้อย่าเพิ่งตายก็แล้วกัน ซึ่งไม่ใช่แต่เพียงเท่านั้นพ่ออาจารย์ท่านเมื่อจะผสมผงสร้างพระท่านยังได้นำผงรัตนมาลาที่ท่านเรียกสูตรลบทีละตัวทีละพระคาถาอีก 108 พระคาถา มาใส่ผสมลงไปด้วย ท่านว่าเฉพาะผงที่ใช่ทำพระนี่ก็นับว่าเป็นที่สุดของวิชาอันจะเกิดจะมีขึ้นได้ในโลกนี้แล้ว


    ท่านได้เมตตานำผงลบถม 227 ชนิดมาผสมกับผงรัตนมาลาทั้ง 108 ท่านว่าหากจะทำอิทธิวัตถุให้มีฤทธิ์อำนาจสูงสุดนั้น ตัววัสดุมวลสารที่นำมาใช้จะต้องผสมกลมกลืนกันทั้งพุทธและไสย นี่จึงเป็นครั้งแรกที่พ่ออาจารย์ท่านได้นำผงวิเศษอีกชนิดหนึ่งมาใช้ผสมนั่นก็คือผงโฮมัมหรือฮวานัมที่ได้จากกองกูณฑ์อัคคีในการบูชาไฟด้วยอาถรรพ์เวทย์ต่อองค์พระสยมภูวญาณของท่านผสมลงไปด้วย ท่านว่าผงนี้ดี ใช้ทางกันตัวได้ทุกสิ่งพกอยู่ที่ไหนยิ่งกว่ากำแพงแก้วเจ็ดชั้นหรือว่าตาข่ายเพชรเสียอีก เป็นสุดยอดของกันตัวแล้วพ่ออาจารย์ท่านว่าต่อให้ผงวิชาเกราะเพชรหรือวิชาต่างๆก็เทียบกับผงตัวนี้ไม่ได้ ชีวิตใครที่มักมีสิ่งไม่พึงใจ ไม่พึงประสงค์มารบกวน ทั้งที่ตัวเองก็หาทางแก้แล้ว ไปรับยันต์เกราะเพชรมาก็แล้วหรือพกวัตถุเกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรก็แล้ว ยังแก้ไม่หาย ท่านว่าผงนี้เอาอยู่ ทุกสิ่งที่ไม่พึงประสงค์นั้นไม่ว่าจะเกิดแต่กรรมลิขิตหรือเป็นไปตามวัฏจักรก็ตาม หากเป็นอัปมงคลแล้วไซร้ย่อมถูกแผดเผาไปให้เป็นจุณมหาวิจุณในพริบตา


    พ่ออาจารย์ท่านว่าสังคมสมัยนี้อันตรายและน่ากลัว อยู่กันยาก สิ่งนี้ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเพราะเสด็จพระใหญ่ท่านมีโองการหรือดลใจพ่ออาจารย์ท่านอย่างไร เมื่อจะกดพิมพ์ปฐมพุทธพักตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำเครื่องยาโบราณที่ท่านประกอบขึ้นเรียกว่ายาแก้กรรมผสมลงไปในเนื้อพระด้วย ซึ่งยานี้ท่านทำจากสมุนไพรและเครื่องยาโบราณล้วนๆนำมาประกอบกับชะมดเชียง ดีหมี เขี้ยวเสือ นอแรด เป็นต้น ซึ่งท่านว่าเป็นยาที่ทำยากมากสูตรเสด็จพระใหญ่ด้วยว่านยาทั้งหลายที่ท่านกำหนดให้ไปกู้มาประกอบยานั้นล้วนหายากทั้งสิ้น พ่ออาจารย์ท่านได้นำยาแก้กรรมนี้ผสมลงไปในเนื้อพระส่วนนึง ท่านว่ายานี้มีคุณตามชื่อเลย นั่นคือปฐมพุทธพักตร์นี้ใช้ผ่อนหนักเป็นเบาและชะลอกรรมเก่าได้ ขอให้เป็นคนดีหมั่นสร้างความดีอย่าปล่อยโอกาศให้หลุดมือท่านว่าเสด็จท่านจะช่วยเหลือเต็มที่ นอกจากนี้ยาแก้กรรมยังสามารถใช้แก้ได้สารพัด ที่เป็นเครื่องยาอันประกอบด้วยสิ่งอุบาทว์และอัปมงคลต่างๆ ไม่ว่าจะยามนต์ ยาคุณไสย ยาหลง ยารัก ยาแฝด ยาสั่ง ยาประสาท ยาชัง ยาหน่าย ยาตาย ยาพิษ ยาเสน่ห์ ยาต่างๆที่เกิดจากของฝ่ายต่ำและสิ่งอัปมงคลอันเกิดแต่การกระทำมาด้วยวิธีไสยศาสตร์ทั้งหลายนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำร้ายเราไม่ได้เลย ให้พกยาแก้กรรมนี้ไว้ถึงมีอยู่ในร่างกายถึงขั้นเข้าเลือดเนื้อไปแล้วสิ่งเหล่านี้ก็จะขับออกมาทั้งสิ้น


    เมื่อท่านได้ใช้ไม้ขนุนตายพรายมาลงอาถรรพ์สำคัญให้มีกินมีใช้ไม่รู้สิ้นซ้ำยังหนุนดวงเสริมส่งวาสนาคนใช้แล้ว ท่านก็นำไม้ขนุนตายพรายนั้นมาแกะแม่พิมพ์เป็นปฐมพุทธพักตร์ โดยเศษเนื้อไม้ที่เหลือจากการแกะแม่พิมพ์นั้นท่านก็ได้ผสมลงไปในเนื้อพระด้วย พร้อมกับใช้น้ำผุด คือน้ำทิพย์ที่ผุดขึ้นในเศียรพระเจ้า ในพระพุทธบาท และสถานที่อาถรรพ์สำคัญต่างๆมานวดเนื้อพระตอนท่านผสมสูตรเพื่อจะกดพิมพ์


    ซึ่งเมื่อท่านได้ทำการกดแม่พิมพ์ออกมาแล้วนั้นก็นับเป็นเรื่องอัศจรรย์อย่างยิ่งที่องค์พระนั้นแย้มพระโอษฐ์และอ้าปาก พ่ออาจารย์ท่านหัวเราะแล้วกล่าวว่าพระอ้าปากเช่นนี้ยังไม่เคยเห็นจะมีใครทำ ซึ่งเสด็จพระใหญ่นั้นได้นิมิตสื่อใจกับพ่ออาจารย์ท่านว่าองค์พระนี้ท่านตั้งใจให้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อใดที่พระศาสดาองค์ปฐมนั้นเผยพระโอษฐ์ตรัสพุทธดำรัส เมื่อนั้นพระสัทธรรมเทศนาก็จะออกมาจากพระโอษฐ์นั้น พระสัทธรรมนี้เป็นแสงสว่างที่ใช้ทำลายความมืดได้ทุกสิ่ง เป็นไปเพื่อความหลุดพ้น เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพาน พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เปิดพระโอษฐ์นี้ก็ด้วยเหตุผลสองนัยสำคัญ ประการแรกดั่งที่ได้กล่าวมาแล้ว ชีวิตคนใช้จะเหมือนมีพลังอำนาจแห่งสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ที่ไหลออกมาจากพระโอษฐ์นั้นตลอดเวลาเพื่อค้ำจุนเกื้อหนุนชีวิต เป็นแสงสว่างที่ทำลายความมืดและขจัดอุปสรรคเป็นพลังงานที่จะไหลบ่าออกมาอาบสรรพางค์กายของตนตลอดเวลาไม่รู้เหือดรู้แห้ง กับอีกนัยหนึ่งนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่า ยังดีทางลาภผลไม่รู้สิ้นด้วย คนใช้จะมีลาภเข้ามาตลอดมิขาดมิพร่องเลย ดุจเสด็จท่านนั้นเปิดปากเพื่อโปรดสัตว์กระทำภัตกิจเสวยพระกระยาหาร เมื่อเปิดแล้วต้องอิ่ม ต้องบริบูรณ์ สมบูรณ์ ทุกสิ่งที่เป็นไปเพื่อการดำรงค์ชีพ หน้าที่และภารกิจทั้งหลาย ย่อมเสร็จลงอย่างง่ายดาย ท่านว่าจะพูดกันตามตรงแล้วพระเจ้าเผยพระโอษฐ์นี้ยิ่งกว่าเคล็ดพระเจ้าเปิดบาตรมากนักเป็นมหาลาภใหญ่ถึงที่สุดไม่มีสิ่งใดจะเปรียบจะวัดได้ ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จึงมีแต่ผู้คู่ควรกันและเสด็จพระใหญ่ท่านดลใจไว้แล้วจึงจะเห็นถึงความสำคัญตรงนี้


    ปฐมพุทธพักตร์นี้ พ่ออาจารย์ท่านได้ทำการสร้างตะกรุดสำคัญห้าชนิดที่เป็นดุจแหล่งพลังงานสำคัญทั้งห้าของปฐมพุทธพักตร์ฝังเอาไว้ แยกพิธีเสกออกเป็นทั้งหมดห้าวาระด้วยกัน ก่อนนำมาฝังไว้ด้านบนพระเศียร ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดทั้งห้านี้ เป็นของประเสริฐ เป็นที่พึ่ง ที่ระลึกถึง อันจะเป็นปัจจัยให้ก่อเกิดพลังงานและสิริมงคลมากมายแก่ผู้บูชา ซึ่งทุกสิ่งนั้นล้วนเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ ซึ่งตะกรุดทั้งห้านั้นประกอบไปด้วย
    1. หัวใจพุทธะ ท่านลงนะหัวใจพระพุทธเจ้าไว้ พร้อมทั้งประกอบพิธีเสกกำกับด้วยการเชิญเสด็จพระใหญ่และพระพุทธเจ้าทั้งปวงอันได้เคยอุบัติตรัสรู้มาแต่กาลก่อนในอนันต์จักรวาลนี้ มาทำการประสิทธิ์แฝงพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณ พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นตะกรุดดอกเล็กๆที่ทำยากมากเพราะตะกรุดนี้เสมือนสิ่งที่ได้รวมกำลังของสมเด็จพระสัพพัญญูเจ้าทุกพระองค์ไว้แล้ว ท่านว่าเสกยากจริงๆเพราะตัวเราเองเสกไม่ได้ ไม่มีสิทธิ์ไปเสกต้องให้พระเบื้องบนท่านทำให้ ทุกสิ่งเป็นไปด้วยพระพุทธานุภาพ
    2. หัวใจธรรมเวทย์ ท่านลงหัวใจสัทธรรมอันยิ่งใหญ่ไว้ภายใน พร้อมกับขอความเมตตาเสด็จพระใหญ่ให้ชุมนุมพระเวทย์และพระธรรมทั้งหลาย ประจุพลังงานใส่เข้าไปในตะกรุดนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพระสัทธรรมนั้นเป็นพลังงานบริสุทธิ์ กำเนิดมาก่อนตั้งฟ้าตั้งดิน เป็นพลังงานอันยิ่งใหญ่ที่ให้กำเนิดสรรพสิ่งต่างๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าปฐมพุทธพักตร์นี้จะได้มีแก่นของพลังงานที่ไม่เหือดแห้ง พร้อมทั้งจะได้ให้กำเนิดสิ่งดีๆแก่ผู้บูชา
    3. หัวใจอรหันต์ ท่านลงหัวใจอรหันต์สาวก อันเป็นหนึ่งในรัตนะที่ยิ่งใหญ่ทั้งสาม พ่ออาจารย์ท่านว่าดอกนี้เป็นสิ่งแทนบูรพาจารย์ผู้อรหันต์ทั้งหลาย ทั้งภิกษุและภิกษุณีทั้งหลาย เป็นกำลังของพระอรหันต์ขีณาสพทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญนักเสมอด้วยครูบาอาจารย์ หากมีจิตน้อมระลึกถึงครูพระอรหันต์องค์ใดแล้วย่อมไปถึงกันทั้งหมด
    4. หัวใจพรหมโลก ท่านลงหัวใจท้าวมหาพรหมไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาพรหมในปัญจสุทธาวาสมาเสกและลงอาถรรพ์กำกับอีกคำรบหนึ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นที่สุดของวิชาพรหมเพราะสามารถใช้เชื่อมต่อพลังงานและสื่อสารกับองค์มหาพรหมทั้งหลายสุดที่ใจเราจะปรารถนาได้ ซ้ำผู้บูชายังจะได้รัศมีพรหมอาบกาย เป็นสิริมงคลให้ถึงซึ่งความเจริญและสำเร็จในกิจทุกประการ
    5. หัวใจโพธิสัตว์ ท่านลงหัวใจสมเด็จพระศรีอาริย์เมตไตรย์เอาไว้ พร้อมกับชุมนุมมหาโพธิสัตว์ทั้งหมดในพิภพดุสิต และตามภพภูมิต่างๆให้ประจุพลังงานและเชื่อมต่อถึงกันทั้งสิ้นโดยยกเอาสมเด็จพระศรีอาริย์เป็นประธาน ท่านว่ากำลังของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายนั้นเป้นกำลังที่ดีที่สุดที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่กทุกข์ได้ยกออกจากกองทุกข์ทั้งหลาย ท่านว่าตะกรุดดอกนี้สำคัญนัก มีอะไรเกิดกับตัวเรา เราอธิษฐานอะไร พระโพธิสัตว์องค์ไหนอยู่ใกล้องค์นั้นต้องมาช่วยเราก่อนทันที


    นอกจากนี้ปฐมพุทธพักตร์พ่ออาจารย์ท่านยังได้ฝังของสำคัญอีกสองสิ่งเอาไว้ นั่นคือเหรียญหล่อเศรษฐี กับตะกรุดดับล้างพญาสุครีพหักฉัตร ซึ่งของวิเศษทั้งสองชนิดนั้นก็มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
    1. เหรียญพระภูมิค้นทรัพย์(อนาถบิณฑิกเศรษฐี) เรื่องนี้เป็นเรื่องของพระภูมิเทวดาผู้เป็นอารักษ์สถิตย์ที่ซุ้มประตูบ้านของท่านเศรษฐี ด้วยว่าเป็นมิจฉาทิฎฐิ เห็นท่านเศรษฐียากจนลงเพราะทำบุญเกินกำลังทรัพย์ กอปรกับไม่เลื่อมใสพุทธศาสนา เบื่อระอาที่พระภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูเข้าออกทุกวัน เพราะในขณะที่ภิกษุสงฆ์เดินรอดซุ้มประตูนั้นตนไม่สามารถจะอยู่บนซุ้มประตูได้
    เมื่อเห็นเศรษฐีกลับกลายมีฐานะยากจนลงเพราะทำบุญแก่พระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา จึงปรากฎ
    กายต่อหน้าท่านเศรษฐีกล่าวห้ามปราม เตือนสติ ให้เศรษฐีเลิกทำบุญเสียเถิด แล้วทรัพย์สินเงินทองก็จะเพิ่มพูนขึ้นเหมือนเดิม
    ท่านเศรษฐีจึงถามว่า
    “ท่านเป็นใคร ?”
    “ข้าพเจ้าเป็นเทวดาผู้สิงสถิตอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของท่าน”
    เมื่อทราบเช่นนั้น ท่านเศรษฐีก็ไม่พอใจในคำเตือนที่เห็นแก่ตัวของภูมิเทวดายิ่งนัก จึงเอ่ยปากว่า “ดูก่อนเทวดาอันธพาล เราไม่ต้องการเห็น ไม่ต้องการฟังคำพูดของท่าน ขอท่านจงออกไปจากซุ้มประตูเรือนของเรา อย่ามาให้ข้าพเจ้าเห็นอีกเป็นอันขาด”
    เพียงคำพูดเท่านี้ของเศรษฐี เทวดาตกใจ เทวดาถึงกับไม่สามารถอยู่เป็นทวารบาลได้อีก ไม่เฉพาะกับตัวเองแม้กับภริยาหรือลูกน้อยก็ตาม จำต้องเนรเทศตัวเองออกไปทันที ไม่สามารถจะอยู่ที่ซุ้มประตูเรือนของเศรษฐีได้อีกต่อไป
    เมื่อพระภูมิกลายเป็นเทวดาไร้ที่สิงสถิต ซ้ำยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จำต้องบากหน้าเข้าไปหาเทวดาผู้มีศักดิ์สูงกว่าตนให้ช่วยเหลือ ไล่ไปตั้งแต่ภูมิเทวดา จนไปถึงเทพยดาอันรักษาพระนครสาวัตถี ท้าวปรเมศวรผู้ดูแลภูมิเทวดา จนถึงท้าวจตุมหาโลกบาลทั้งสี่และทวยเทพทั้งหลายในจตุมหาราชิกา ไล่ไปทั่วจนเลยไปถึงดาวดึงส์สวรรค์ เทพทั้งหลายทุกองค์ล้วนไม่มีใครช่วยเหลือภูมิเทวดาผู้นี้ได้ทั้งสิ้น
    ทั้งนี้พ่ออาจารย์ท่านว่า ก็ด้วยเพราะอำนาจของสุทัตตคหบดีหรือที่รู้จักในนามของอนาถบิณฑิกเศรษฐีนั้น ทำใหเรื่องที่ดูเล็กน้อย เหมือนเป็นคำพูดเล็กๆกลับกลายเป็นเรื่องยิ่งใหญ่สะเทือนฟ้าดินได้ พระภูมิที่มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ยังต้องคำพิพากษาของเศรษฐีที่เป็นมนุษย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าถึงจะเป็นมนุษย์ก็เป็นเลิศในหมู่มนุษย์ทั้งปวง เป็นทายกใหญ่ เป็นผู้เลิศในการถวายทาน และที่สำคัญที่ท่านยิ่งใหญ่มากก็เพราะท่านเป็นพระโสดาบันอริยบุคคลผู้มีพัฒนาการชีวิตอันไม่มีวันตกต่ำลงอีกนั่นเอง
    เมื่อไม่มีเทวดาองค์ใดจะสามารถช่วยได้ แต่ทั้งนี้ทุกอย่างก็ไม่เกินความสามารถของพระอินทร์เช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นหรือไม่นี่คือปัญหาเล็กๆของภูมิเทวดา แต่กลับไปเดือดร้อนไล่ขึ้นไปเรื่อยๆถึงพระอินทร์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ด้วยความเป็นอริยบุคคลยิ่งใหญ่เสมอกันของพระอินทร์ ท่านจึงใช้ปัญญาหาทางออกให้พระภูมิได้
    โดยให้ไปทำงานไถ่บาป ติดตามหนี้ที่สูญหายกล่าวคือทรัพย์เก่าของเศรษฐีจำนวน ๘๐ โกฏิ ซึ่งใส่ภาชนะฝังไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำถูกน้ำเซาะตลิ่งพังจมหายไปในสายน้ำ ท่านจงไปนำทรัพย์เหล่านั้นกลับคืนมามอบให้ท่านเศรษฐี เท่านั้นยังไม่พอยังให้ไปแสวงหาสมบัติที่จมอยู่ในท้องทะเล ทุกสิ่งที่ไม่มีเจ้าของ(ก็ของที่จมอยู่ในทะเลจะหาเจ้าของที่ไหนได้) นั่นแหละคือคำแนะนำของพระอินทร์ ให้ภูมิเทวดาเอาทรัพย์ทั้งหมดในท้องทะเลที่ไม่มีเจ้าของนั้น นำมาสมทบใส่เข้าคลังของเศรษฐีให้เต็ม พระภูมิเทวดาเมื่อได้ยินเช่นนั้นท่านก็ไปขวนขวายกระทำชนิดที่ว่าต่อให้เศรษฐีใช้ทรัพย์อีกเท่าไหร่ก็ไม่มีวันพร่องลงเลย ด้วยทรัพย์ที่ถมมหาสมุทรทั้งสี่ทวีปนั้นมิใช่ของที่ใครจะสามารถคาดเดาถึงปริมาณได้
    เมื่อภูมิเทวดาทำงานที่พระอินทร์แนะนำเสร็จแล้ว ก็ปรากฏกายออกมาขอขมาต่อเศรษฐี(เทวดาขอขมามนุษย์) ถึงเศรษฐีจะให้อภัยแต่ท่านเศรษฐีก็พาภูมิเทวดานั้นเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งแสดงโทษของภูมิเทวดาต่อหน้าพระบรมศาสดาด้วย การกระทำเช่นนี้ของท่านเศรษฐีก็ด้วยหวังจะให้พระพุทธองค์โปรดภูมิเทวดานั้นให้คลายจากมิจฉาทิฏฐิ ซึ่งพระภูมิก็ได้รับฟังธรรมกถาจากพระบรมศาสดาสมควรแก่บุญและวาสนาของตน ส่งผลให้ภูมิเทวดานั้นเข้าถึงความเป็นพระอริยบุคคลนั่นคือบรรลุโสดาปัตติผลเช่นกัน เมื่อกาลทุกอย่างคลี่คลายแล้ว ก็กลับคืนไปเป็นพระภูมิที่ซุ้มประตูให้เศรษฐี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเพราะการณ์อันบังเกิดนั้น ทำให้พระภูมินี้นอกจากจะเป็นพระอริยบุคคลชั้นโสดาบันแล้ว ยังมีอาญาสิทธิ์ที่ได้จากพระอินทร์นั่นคือสามารถรวบรวมทรัพย์ในมหาสมุทรทั้งสี่ทวีปได้ ซึ่งเป็นความสามารถที่ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับใครหรือเทวดาที่ไหนจะทำก็ได้ นี่จึงเป็นเหตุและที่มาของวิชาที่ท่านลงไว้ในเหรียญหล่อสุทัตตคหบดี(อนาถบิณฑิกเศรษฐี)ซึ่งท่านแกะพิมพ์ให้นั่งอยู่ในซุ้มประตู พร้อมกับมีภูมิเทวดาและครอบครัวนั้นคอยหาทรัพย์สมบัติมอบให้แก่เศรษฐี
    * พ่ออาจารย์ท่านได้นำธาตุกายสิทธิ์สำคัญมาผสมกับแผ่นตะกั่วลงอักขระเลขยันต์ต่างๆด้วยวิชามหาเศรฐฐีทั้งเก้า มนต์จินดามณี สมบัติจักรพรรดิ์ แก้วมณีโชติ และวิชาตำรับเศรษฐีต่างๆเน้นทางได้ทรัพย์ไว หาทรัพย์คล่อง เจริญรุ่งเรือง ก่อนจะนำมาเทหล่อและนำมาธิษฐานจิตปลุกเสกเชิญท่านสุทัตตคหบดีและภูมิเทวดานั้นให้มาแฝงญาณลงในเหรียญสำคัญนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเหรียญนี้พิเศษจริงๆเพราะนิมิตที่ได้หลังจากการเสกเหรียญนี้เหมือนท่านสุทัตตคหบดีจะให้สัญญาณไว้ว่าคนที่ได้ไปนั้นชีวิตเค้าจะสบาย ทำอะไรก็ราบรื่น สำเร็จโดยเร็วฉับพลันทันที ท่านว่าสบายชนิดนั่งกินนอนกินมีสมบัติมากดุจพระเจ้าจักรพรรดิเลย เหรียญนี้ต่อไปจะได้สืบลูกสืบหลานดำรงค์วงศ์ตระกูลท่านว่าต้องรวย ต้องสำเร็จไปถึงเจ็ดชั่วโคตร ท่านว่าพูดได้เพียงเท่านี้ บางอย่างก็เป้นลิขิตฟ้าให้รู้เฉพาะตัว เปิดเผยไปก็ไม่ควร

    2.ตะกรุดดับล้างพญาสุครีพหักฉัตร(ตะกั่วขอมโบราณ) พ่ออาจารย์ท่านว่ามีหลายที่ที่ทำวิชานี้เหมือนกัน แต่บางครั้งแม้แต่หัวใจหรือตัวคาถาต่างๆจริงๆเขายังไม่รู้เลย ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นวิชาเฉพาะทางที่มีอานุภาพมาก ท่านว่าถึงจะเห็นเป็นตะกรุดแต่ก็ต้องเสกจนมีตัวมีตนดุจพญาลิงลูกพระอาทิตย์เช่นนั้น โดยท่านได้ลงหัวใจพญาสุครีพลูกพระอาทิตย์ลงไป ก่อนจะลงจารกำกับด้วยวิชาสุครีพหักฉัตรเต็มสูตร ท่านว่าที่ท่านเจาะจงใช้สุครีพเพราะนอกจากจะเป็นลูกพระอาทิตย์แล้วยังมีกายสีแดงอีกด้วย ซึ่งสีแดงนั้นเป็นสัญลักษณ์ของความรุ่งโรจน์ โชคดีและมีความสุข ท่านว่าใครที่เค้ามีพญาสุครีพอยู่กับตัวนั้นชีวิตเค้าจะได้รุ่งโรจน์ซ้ำยังดึงดูดโชคดีและนำความสุขมาให้
    พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดดอกน้อยนี้โดยปกตินั้นใช้ได้ทุกอย่างตามแต่จิตเราจะต้องการ พญาสุครีพนี้เก่งมาก ขอได้ทุกอย่างจริงๆ แต่วิชาสุครีพหักฉัตรนั้นก็เป็นวิชาเฉพาะทางมีอานุภาพต่างๆนานัปการ ท่านว่าสำคัญที่สุดเลยนั่นคือการดับล้างให้หมดไป และใช้ถอดถอนอาถรรพ์ร้ายทั้งหลาย แก้การถูกครอบงำต่างๆและยังรวมไปถึงการป้องกันไม่ให้ชีวิตถูกอาถรรพ์หรือการครอบงำจากไสยเวทย์ทั้งหลายด้วย
    นอกจากนี้ท่านยังว่าใช้ได้ทุกทางใช่แต่เพียงการล้างอาถรรพ์ พ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเหมือนเมื่อครั้งสุครีพหักฉัตรทศกัณฐ์ฉันใดก็ฉันนั้น ฉัตรนี้เป็นการทำอาถรรพ์เพื่อทำลายกองทัพพระราม เมื่อสุครีพหักฉัตรนั้นได้ทำลายอาถรรพ์ของฉัตรไปด้วย ซ้ำมหาสมบัติทั้งหลายที่พญายักษ์นำไปใส่ไว้ในฉัตรแก้วก็ร่วงหล่นลงมา วิชาสุครีพหักฉัตรนี้ก็เช่นกันเป็นการหักดิบทำลายล้างอาถรรพ์ทั้งหลายที่สะกดข่มชีวิต ท่านว่าชีวิตคนที่นำไปบูชานั้นก็ดุจเดียวกันเมื่อทำลายเสร็จแล้ว ยังต้องโชคดีในทันทีด้วย ดุจดังฉัตรแก้วอันเป็นที่เก็บสมบัติของพญายักษ์ เมื่อหักฉัตรจึงพบสมบัติมากมายนั่นเอง
    ใช่แต่เพียงใช้หักทำลายอาถรรพ์ร้าย นอกจากนี้ยังใช้ได้ในทุกทางทั้งสารพัดกัน ขับเสนียด เป็นมหาปราบ มหาอำนาจน่าหวั่นเกรง อุ้มดวงแก้ชง สะกดข่มภูติผีวิญญาณ ตัดอุปสรรค ชนะมาร ประสบชัยชนะ นิราศทุกข์ภัยให้พบซึ่งความสุขสวัสดี
    * ท่านว่าชีวิตใครที่มัวแต่แก้ รู้ว่าชีวิตไม่ดีติดอาถรรพ์สารพัด ก็แสวงหาแนวทางแก้กันไป พอแก้ไปก็ได้ดีแค่เสมอตัว สุดท้ายก็เจอเรื่องซวยให้มานั่งแก้ใหม่ แก้ไขซ้ำซากเป็นวงจรชีวิตไม่จบสิ้นซักที ต้องมานั่งกลุ้มนั่งแก้บ่อยๆเพื่อให้ตัวเองอยู่รอดแค่เสมอตัว ไม่ใช่แก้แล้วหักจบประสบโชคพบเจอชัยชนะและความสำเร็จเลยแบบชีวิตคนอื่นเขา ท่านว่าตรงนี้สำคัญ พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่เจออาถรรพ์ตรงนี้ต้องแก้ด้วยสุครีพหักฉัตรนี่เป็นคุณเฉพาะทางของวิชาสุครีพหักฉัตรที่จะแก้ไขได้ (ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจลงวิชาสุครีพหักฉัตรซึ่งเป็นวิชาช่วยคนเฉพาะทาง เพื่อฝังไว้ในพระพุทธพักตร์องค์ปฐมนั่นเอง)


    * ปฐมพุทธพักตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านได้อัญเชิญเหล็กไหลสัณฐานเมล็ดพันธ์ผักกาดฝังไว้แทนดวงนัยย์เนตร พร้อมทั้งเชิญเสด็จพระใหญ่อธิษฐานจิตเบิกพระเนตรให้ทุกองค์


    คาถาบูชาตั้ง(นะโม 3 จบ)

    พุทธปฐมัง โลกะวินา ระนาระมัททาติหาระภัง อิติวิทธิ พุทธะนิมิตตัง ทิสวาทิตัง มาเวโส เอติหาเร นะโมพุทธายะ พุทธะปฐมัง กุศลาธัมมา อกุศลาธัมมา ทุกขังอนิจจัง ทุกขังอรหังสุคโต ภควาติ อิติภควาพุทโธโลเก

    * ปฐมพุทธพักตร์นี้ พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดเก้าองค์ ก็รับจองเฉพาะทาง Pm ท่านว่าผู้ที่จะบูชานั้น ท่านจะใช้ผงมหาราชเจิมองค์พระให้ โดยให้บุคคลนั้นแจ้งชื่อนามสกุลไว้ พร้อมกับบอกสิ่งที่ปรารถนาหรืออยากจะบอกกล่าวไว้ด้วย ท่านว่าขอให้เป็นเรื่องที่เป็นไปได้และไม่เกินวาระกรรม ไม่โลดโผนเกินไป ท่านจะทำการบอกกล่าวและประสิทธิ์ให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ท่านจะนำไปสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา ปฐมพุทธพักตร์สมเด็จพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (เนื้อยาแก้กรรมเร่งรวยลืมจน) บูชา 4,000 บาท


    newchin9.jpg image.png SAM_5358.jpg SAM_5359.jpg SAM_5361.jpg 619172-img-1339390725-1.jpg 999.jpg 45994ba19.jpg 1403875688.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 สิงหาคม 2017
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    วันนี้รอบสายๆเดี่ยวจัดส่งของให้นะ;)
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่อัครพงศ์ ET 2875 4093 4 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    แจ้งเรื่องการเลี่ยมพระ
    ก็แจ้งนะครับ หลายๆเหตุผล เนื่องจากช่างเลี่ยมเค้าพูดไม่ค่อยดีมาตลอดเพราะเค้าคิดราคาเดียวนั่นคือ 100 บาท พระบางองค์ก็ใหญ่เล็กคละกันไป เวลาองค์ใหญ่เค้าก็จะบ่นเยอะหน่อยว่าที่อื่นเค้าเลี่ยมองค์ละเท่านั้นเท่านี้

    ประกอบกับบางครั้งฝากเลี่ยมกันมาผมก็ลืมก็ต้องโอนค่าเลี่ยมคืนไป แต่อะไรก็ไม่ร้ายแรงเท่าบางทีน้ำเข้า บางครั้งเลี่ยมแล้วพระแตกก็มี หลายๆครั้งงานฝากเลี่ยมจะล่าช้า เพราะเราก็ไม่อยากให้เจ้าของพระไม่สบายใจก็จะขอพ่ออาจารย์ท่านเปลี่ยนองค์สมบูรณ์ให้ใหม่ในกรณีที่แตกทำให้ไปกระทบกับคนที่จองไว้ที่เค้าโอนช้าหรือโอนทีหลัง เราต้องไปบอกเค้าว่าไม่มีให้บูชาแล้วเค้าก็จะงงๆว่าจองทันทำไมไม่ได้

    เรามีความรู้สึกลึกๆบ่อยๆว่าหลายครั้งเค้าไม่ตั้งใจทำให้เราหรือทำส่งๆก็มี ยกเว้นแต่พระที่เค้าถูกใจประเภทขุนแผนหรือของเสน่ห์ก็จะยื้อไว้นานหน่อยวันสองวันเอาไว้อธิษฐานเรียกลูกค้าเข้าร้านเค้าก่อน

    ก็พิจารณาดีแล้วเรื่องฝากเลี่ยมนั้น ต่อไปนี้คงจะไม่มี ไม่รับฝากใครแล้วถ้าเราเอางานไปให้เค้าเค้าแสดงท่าทางไม่พอใจที่จะรับเราเองก็รู้สึกไม่ดีด้วยก็ไม่ต้องเอาแบบนี้ดีกว่า อันนี้ก็กราบขออภัยหลายๆท่านที่จะฝากเลี่ยมกันมาตลอดด้วยนะครับ ผมเชื่อว่าหากท่านไปเลี่ยมเอง ไปร้านอื่นถึงราคาแพงกว่านี้มันก็ไม่มากเท่าไหร่ แต่พระที่ได้ งานเลี่ยมที่ได้ ช่างเค้าจะตั้งใจและออกมาสวยงาม


    * ซึ่งนับแต่นี้จะไม่รับฝากเลี่ยมแล้ว ถือว่าตัดปัญหาตรงนี้ไป อันนี้ก็แจ้งให้ทราบถึงปัญหานะครับ
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    มีคำถามเข้ามาเกี่ยวกับภูติพราย เดี๋ยวจะยกมาสนทนาในวันพรุ่งนี้นะครับ ติดตามๆรับรองว่าได้ประโยชน์มาก
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    ก็มีคำถามมาบ่อยๆเกี่ยวกับเรื่องพราย เพราะหลายคนยังใช้ ยังคิดว่าใช้ได้ เราไม่เป็นอะไรหรอก ซึ่งผมก็ไม่เคยพิมพ์อะไรแบบลึกซึ้งมาก วันนี้ไหนๆถามมาแล้วก็จะนำมาพูดคุยอีกที

    ถ้าเอาตามคำพ่ออาจารย์ท่านเลยนะ พรายที่ส่งมาให้ดูส่วนใหญ่ท่านตรวจสอบให้แล้ว ท่านว่ามันไม่ใช่พราย แต่มันเป็นสัมภเวสีในส่วนมาก ท่านว่าของพวกนี้เขาช่วยตัวเองยังไม่ได้กันเลย จะมีปัญญาอะไรที่ไหนไปช่วยคนอื่น

    ท่านว่าพรายจริงๆอันนี้น่ะพอจะดีหน่อยแต่มันไม่มีหรอกเพราะส่วนใหญ่สัมภเวสีทั้งนั้นที่เราเห็น ท่านว่าบางทีคนเสกเค้าบอกว่าเป็นพรายบ้างเป็นพรายจิตเทพเป็นพรายที่ยกภพภูมิแล้ว แต่เราตรวจก็พบว่าเป็นเพียงสัมภเวสี ตรงนี้มันอันรายมากนะและที่สำคัญเลยคือเค้าไม่มีกำลังไปช่วยใครหรอก

    พ่ออาจารย์ท่านว่าศาสตร์ของพรายนั้น เหมาะกับคนชอบของแรงๆที่ให้ผลไวๆ เพราะคนเราชอบขอกันไปเรื่อย พอขอกับเทพไม่ได้ก็จะไปลงกับพราย เนื่องจากเทพนั้นท่านมีสุขคติเป็นที่ไป ชีวิตท่านสบายอยู่แล้ว ทีนี้พวกของล่อตาล่อใจสินบนต่างๆของมนุษย์ต่อให้สวยงามเช่นไรมันก็เน่าเหม็นไม่ใช่ของทิพย์อยู่ดีก็เลยใช้กับเทพไม่ได้ผล แต่ตรงกันข้ามพวกผีพวกพรายนี้เค้าอยู่ในทุกข์คติเวลาจะขออะไรพอมีของล่อมีเครื่องเซ่นเครื่องบนเค้าจะช่วยงานกันแบบไม่คิดชีวิตเลย

    ท่านว่ามันมีหลายกรณีที่ขึ้นชื่อว่าพราย มีทั้งพลีมาสะกดมา แต่ร้ายกว่านั้นคือเอามาแบบไม่ทำอะไรเลย พ่ออาจารย์ท่านจึงบอกเสมอว่าไม่ต้องเล่นอยู่ให้ไกลนั้นดีที่สุด ต่อให้จะทำมาดีอย่างไรสิ่งที่เหลืออยู่มันก็คืออาถรรพ์ภูติผี และศาสตร์แห่งพรายจริงๆนั้นสมัยนี้หาคนทำจริงแทบไม่มีส่วนใหญ่คนจะไปโดนหลอกให้เลี้ยงผีเลี้ยงสัมภเวสีทั้งนั้น

    ดั่งคำที่ว่าสวรรค์มีทางไม่ยอมไป แต่นรกไม่มีทางกลับดันทุรังจะบุกเบิก ท่านว่าเวลาพรายกินตัวมันไม่สนุกหรอกนะ ครึ่งผีครึ่งคนหรือจะเรียกว่าเลี้ยงผีในร่างคนก็ได้ ถ้าจะพึ่งผีพึ่งพรายท่านว่าให้พึ่งตัวเองยังดีเสียกว่า แต่ถ้าคิดจะพึ่งเทพพึ่งพระก็เอาเวลาไปทำทานถือศีล สร้างบารมีพร้อมกับการบูชาไปด้วย อย่ามายึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เมื่อเราอยู่ในศีลมีบารมีเช่นนี้เทพที่ไหนเขาก็เมตตา คุยกันง่าย พูดกันรู้เรื่อง


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,114
    ค่าพลัง:
    +16,533


    สำหรับปฐมพุทธพักตร์นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพุทธคุณหลายเรื่อง ห้อยไว้แล้วจะเห็นเองเป็นกระแสทางเมตตาที่เย็นอย่างถึงที่สุด สำหรับนักปฏิบัติท่านว่าจิตจะรวมและเป็นสมาธิมีพัฒนาการเร็ว นอกจากนี้สิ่งอื่นๆที่เหนือธรรมชาตินั้นท่านว่าให้เค้ารู้เฉพาะตัวเค้าเอง ....(แอบบอกได้เท่านี้)
    ;)
     

แชร์หน้านี้

Loading...