ร่วมทำบุญบูชา มงคลสหัสธาตุรังสรรค์กรรมสิทธิ์หมื่นเขตแดนประทานพร(หมื่นฟ้ารวมหนึ่ง) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    เดี๋ยวจะแจ้งเรื่องระเบียบการของกระทู้ใหม่ เนื่องจากมีเหตุคนสองคนเป็นเคทตัวอย่าง
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    พระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิ์สิทธิลาภราชาโชค เดี๋ยวจะมาพูดคุยเกี่ยวกับพระองค์นี้กันรอบเย็น กะซิบไว้สำหรับคนที่รอพระเจ้าเงินตราว่าองค์นี้แรงกว่าเยอะ ที่สำคัญคือท่านลงวิชาเสด็จพระใหญ่ไว้ช่วยเรื่องกรรมหนักได้ดีมาก
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่กฤตยชญ์ ET 0633 7161 2 TH

    พี่ประเสริฐ ET 0633 7162 6 TH

    พี่กษิดิ์เดช ET 0633 7163 0 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ET 0633 7164 3 TH

    พี่ปกรณ์เกียรติ ET 0633 7165 7 TH

    พี่รังสรรค์ ET 0633 7166 5 TH

    พี่ศิระ ET 0633 7167 4 TH

    * สำหรับที่แจ้งโอนพร้อมเครื่องมงคลอื่นๆ เดี๋ยวจัดส่งให้รอบพรุ่งนี้นะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    วันนี้มีไข้ขออนุญาติพักผ่อนก่อนนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้จะมาลงสาระและพูดคุยชดเชยให้อีกที
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    เคล็ดทอดกฐิน (เงินคล่องมือ)

    ใครอยากมีวาสนาดี เงินทองคล่องมือ ไม่มีวันตกต่ำ แค่รู้เคล็ดในการร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินผ้าป่าให้เป็น เท่านั้น


    การทอดกฐินนั้นถือว่าเป็นการสร้างบุญใหญ่ที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่งหากเกิดเป็นคนในชาตินี้ ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเมตตาบอกเคล็ดไว้ว่า หากอยากให้มีวาสนาดี เงินทองคล่องมือ ไม่มีวันตกต่ำขอให้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการทอดกฐิน ผ้าป่าติดต่อกันอย่างน้อย 3 ปีติดกัน

    การร่วมเป็นเจ้าภาพนั้น ไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นถึงประธานหรือกรรมการที่สมัยนี้มีการกำหนดกันว่าต้องบริจาคเงินเท่านั้น เท่านี้ แต่การร่วมเป็นเจ้าภาพนั้นหมายถึง เป็นกฐินสามัคคีที่ทุกคนร่วมเป็นเจ้าภาพได้ จะร่วมเป็นเจ้าภาพใส่ซองหนึ่งบาทหรือพันบาท ก็ถือว่าร่วมเป็นเจ้าภาพได้บุญทั้งสิ้น แต่ใครจะได้บุญมากหรือน้อยต้องดูที่ปัจจัยหลายอย่างในเรื่องของเงินบริสุทธิ์ เจตนาและความพยายาม ซึ่งก็แล้วแต่บุญและกรรมของคนที่ทำ ในพุทธกาลมีตัวอย่างมากมายหลายเรื่องที่คนทำบุญด้วยเงินน้อยแต่ได้ผลบุญที่ออกดอกออกผลมหาศาล

    พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่าคนที่ทอดกฐินด้วยใจบริสุทธิ์ หรือว่าร่วมในการทอดกฐินครั้งหนึ่งก็ดี จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นพระอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นพระอรหันต์ก็ได้ เมื่อบุญน้อยลงมาจะเป็น พระมหากษัตริย์ 500 ชาติ เป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติ เป็นอนุเศรษฐีอีก 500 ชาติ เป็นคหบดีอีก 500 ชาติ ตามลำดับ อานิสงส์ของการร่วมทำบุญทอดกฐินยังมีอีกมากมาย ได้แก่

    1. ทำให้เป็นผู้มั่งคั่งมีทรัพย์สินมาก และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานได้โดยง่าย

    2.ทำให้เป็นผู้มีจิตใจแช่มชื่น บริสุทธิ์และผ่องใสอยู่เสมอ

    3.ทำให้เป็นผู้มีจิตใจตั้งมั่น เป็นสมาธิและเข้าถึงธรรมได้โดยง่าย

    4.ได้ชื่อว่าเป็นผู้สามารถใช้ทรัพย์สมบัติให้เกิดเป็นบุญกุศลติดตัวไปในภพเบื้องหน้าได้อย่างเต็มที่

    5.ทำให้เป็นคนรูปงาม ผิวพรรณงาม เป็นที่รักของคนทั่วไป

    6.ทำให้เป็นผู้มีชื่อเสียง เกียรติคุณ น่ายกย่องสรรเสริญ เป็นที่ตั้งแห่งศรัทธาน่าเคารพนับถือ

    ลองคิดดูเอาเองแล้วกันว่า ถ้าร่วมทอดกฐิน 3 ปีติดต่อกันนั้น บุญนั้นจะมากเท่าใด ครูบาอาจารย์ท่านถึงได้เน้นในเรื่องนี้มากและมีตัวอย่างที่พิสูจน์มาแล้วมากมาย

    คนที่อยากมีโชคลาภแบบลาภลอย ขอให้หมั่นทำทานให้มาก โดยเฉพาะทานแบบเฉพาะหน้า ไม่รู้ตัวใครมาขอก็ให้เขาไป ใครมาชวนทำบุญก็ทำทันที และหมั่นใส่บาตรทุกวัน ให้สวดพระคาถาคาถาเรียกทรัพย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หรือพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือพระคาถาเงินล้านของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ ทุกวันในตอนเช้าและก่อนนอน และข้อห้ามสำคัญที่ห้ามขาดเลยคือห้ามเล่นการพนัน ห้ามกินเหล้าเมาสุราเป็นอันขาดถ้าอยากจะรวย


    ใครที่ขัดสนเรื่องเงินทอง มีแต่ปัญหาเรื่องเงิน บอกได้คำเดียวว่าต้องทำไม่ใช่แค่ควรทำเท่านั้น ลองดู


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่สรวุฒิ ET 0633 8009 2 TH

    พี่สายเมธี ET 0633 8010 1 TH

    พี่ชัยวัฒน์ ET 0633 8011 5 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ติดตามกันนะครับ

    สำหรับพระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิ์สิทธิลาภราชาโชค เอาข้างหลังมาให้ดูกันเล็กน้อย บอกได้แค่ว่าสำเร็จด้วยธาตุและผงตลอดจนมวลสารล้วนแต่สิ่งอันเป็นมหามงคลทั้งสิ้น แม้แต่ตะกรุดที่ฝังในองค์พระยังเป็นชุดตะกั่วขอมโบราณพันปี อย่าพลาด


    SAM_5310.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    พรุ่งนี้เช้าห้ามพลาดกันนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ติดตามร่วมบุญกันนะครับห้ามพลาดเลย;)
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    ร่วมทำบุญบูชา พระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชค
    พ่ออาจารย์ท่านได้นิมิตจากเสด็จพระใหญ่ ให้สร้างพระสำคัญไว้ ด้วยหวังอานิสงค์เฉพาะทางเพื่อสงเคราะห์สัตว์ที่เดือดร้อน ประสบทุกข์เข็ญ อดอยาก มีความเป็นอยู่ที่ยากแค้นผิดจากครรลองที่ควรจะเป็นแม้กุศลกรรมที่ได้กระทำไว้ก็หามีอำนาจที่จะหยุดรั้งบาปกรรมที่ตามติดได้ ด้วยว่าพระพุทธานุภาพแห่งพระผงโคตรเจ้าสัวนี้จะยังให้สัตว์ทั้งหลาย ที่มีความทุกข์ร้อนอันเกิดขึ้นแล้วในประการต่างๆได้บรรเทาลงและสงบระงับไปในที่สุด

    จากการณ์นั้น พ่ออาจารย์ท่านจึงได้พิจารณาเพื่อขอนิมิตจากครูบาอาจารย์เป็นคำรบที่สอง ด้วยว่าจะกระทำรูปพระเครื่องเป็นพิมพ์พระพุทธปฏิมาเช่นใด จึงจะมีอำนาจสงเคราะห์ช่วยเหลือสัตว์ให้เหมาะสมแก่กาลและยุคสมัย ซึ่งท่านก็ได้รับมติจากครูบาอาจารย์โดยทำเครื่องมงคลเป็นรูปสมเด็จพระอนันต์มุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่ในพิมพ์ซุ้มกระจังซึ่งคนในยุคปัจจุบันเรียกว่าพระพิมพ์เจ้าสัว แต่เป็นการนั่งประทับในปางมารวิชัย พร้อมด้วยพระมหาสาวกองค์สำคัญอีก 5 รูปด้วยกัน ประกอบด้วย
    - พระมหากัสสปะเถระ
    - พระอนุรุทธะ
    - พระมหากัจจายน์
    - พระสีวลี
    - พระอุปคุต


    เมื่อได้รูปนิมิตเช่นนั้นแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่ารูปเคารพนี้แค่คิดถึงก็รู้แล้วว่าจะเป็นสิ่งสักการะมหามงคลอันมีคุณานุคุณเฉพาะทางที่จะใช้รับมือกับทุกข์โศกเคราะห์ภัยได้ทุกรูปแบบ เช่นนี้ท่านจึงได้บอกกล่าวกับเสด็จพระใหญ่หรือพระสัพพัญญูองค์ปฐมอีกคำรบหนึ่งถึงรูปแบบองค์พระที่ท่านจะสร้างพร้อมกับได้รับคำแนะนำถึงเคล็ดลับต่างๆที่สมควรกระทำให้เหมาะกับเครื่องมงคลชุดนี้ด้วย


    พ่ออาจารย์ท่านได้นำไม้ขนุนที่ยืนต้นตายเองมาแกะเป็นแม่พิมพ์องค์พระ ท่านว่าพระนี้มีรายละเอียดเยอะ และท่านทำแบบโบราณจะให้สวยให้งามนักคงจะเป็นไปไม่ได้แต่ถ้าจะให้ขลังหวังพึ่งพิงได้อันนี้ท่านว่าแน่นอนเชื่อขนมกินได้ล้านเปอร์เซ็นต์ ท่านได้ใช้เวลานานนับเดือนในการแกะแม่พิมพ์ ลงอาถรรพ์ลงวิชาปลุกเสกแม่พิมพ์และทำการชุบด้วยน้ำพระมนต์พุทธาภิเษก เทวาภิเษกและมุรธาภิเษก


    เมื่อท่านสร้างแม่พิมพ์ขึ้นมาแล้ว ท่านก็ได้นำผงคตวิเศษต่างๆทุกชนิดที่ท่านมี โดยท่านเลือกเฉพาะที่มีอานุภาพชุ่มเย็น ไม่เอาที่ร้อนที่เป็นมหาอุตม์หยุดปืนเพราะมันจะขัดแย้งกันในตัวเองเอาเฉพาะทางเรียกโชคลาภ ดีทางเจริญรุ่งเรื่อง เป็นเศรษฐีมหาศาลมาเป็นมวลสารผสมด้วยผงวิเศษต่างๆของบูรพาจารย์ที่ท่านเคยรวบรวมไว้ และที่สำคัญที่สุดแตกต่างกับเครื่องมงคลทุกรุ่นเลยนั่นก็คือผงวิเศษอันท่านใช้เป็นมวลสารหลัก พ่ออาจารย์ท่านว่าจะทำพระที่มีอานุภาพเฉพาะทางเพื่อใช้ต้านเคราะห์กรรม บรรเทาทุกข์เวทนา ชำระและชะลอกฏแห่งกรรม วิชาธรรมดาย่อมไม่สามารถทำได้เพราะมันเหนือมันพ้นความสามารถของมนุษย์แม้จะเป็นบูรพาจารย์ในอดีตก็ตาม จำจะต้องใช้วิชาของพระอริยะเจ้าตลอดจนของเทพยดาเบื้องบน ถึงแม้จะมีบางวิชาที่สำเร็จด้วยอานุภาพเฉพาะทางของเสด็จพระใหญ่ก็ตาม แต่นั่นก็ยังไม่ให้ผลเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็นเพราะเป็นเพียงเศษเสี้ยวของการทำวิชาไม่ใช่ทำแบบเต็มรูป ท่านจึงได้ใช้ความวิริยะอุตสาหะอย่างยิ่งยวดเพื่อลบถมผงอาถรรพ์สำคัญขึ้นมา นั่นคือผงวิชาต้องห้ามที่สำเร็จด้วยวิชาในส่วนของเวทย์สวรรค์อันทำได้ยากทั้งหมดนั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านใช้วิชาเวทย์สวรรค์นี้มาลบผงในภาคส่วนของอาถรรพ์วิชามหาลาภ ผลักดัน เกื้อหนุน เปลี่ยนชีวิตคนใช้ดุจตาเห็น อันเป็นวิชาเฉพาะทางเท่านั้นเพื่อหวังประโยชน์ใหญ่ให้สัตว์เคลื่อนเลื่อนหนีออกจากทุกข์ ถึงซึ่งสุขสมควรแต่อัตภาพที่ควรจะเป็นพร้อมทั้งเจริญรุ่งเรืองไม่หยุดยิ่งๆขึ้นไป


    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระผงรุ่นนี้นั้นเป็นพระสำคัญมาก ข้างบนเขาไม่ให้เราบอกเลยว่าใช้ผงอะไรใช้ยางไม้อะไรเป็นตัวผสานมีอาถรรพ์ขั้นตอนวิธีการอย่างไร ท่านว่าบอกหรือพูดได้เพียงคร่าวๆเท่านั้น แต่ท่านบอกเพียงว่าเป็นจักรพรรดิของพระผงทั้งมวล รู้ไว้เท่านี้ก็แล้วกัน โดยท่านนำผงวิเศษทั้งหลายมาประกอบผสมด้วยขั้นตอนการะทำพระผงวิชาอาถรรพ์ก่อนจะกดแม่พิมพ์เป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าอันพระผงโคตรเจ้าสัวนั้น ในองค์พระจะมีพระอยู่ 6 องค์ ซึ่งแต่ละองค์ก็มีอานุภาพต่างๆกันดังนี้
    - องค์สมเด็จพระสัพพัญญูตถาคตเจ้า พ่ออาจารย์ท่านว่าแกะให้นั่งอยู่ในปางมารวิชัย คือมีชัยชนะเหนือทุกสิ่ง เมื่อกดพิมพ์ท่านว่านี่สำคัญมาก ต้องเชิญพระเจ้าแสนโกฏิโดยขอบารมีเฉพาะทางขององค์สมเด็จพระพุทธทีปังกร กับประกัสสปะสัมมาสัมพุทธเจ้าอาราธนาพุทธบารมีของทั้งสองพระองค์นี้ขึ้นมานำหน้าหนุนนำด้วยพุทธบารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เป็นการเฉพาะ ท่านว่าเพราะพุทธบารมีของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งสองพระองค์นี้เป็นพุทธบารมีเฉพาะทางเป็นคุณวิเศษนอกเหนือจากบริบทที่จะปรากฏมีในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ ดีเด่นทางด้านมหาลาภอย่างยิ่งยวดด้วยว่าทั้งสองพระองค์สั่งสมบารมีมาแตกต่างกันไป
    - พระมหากัสสปะเถระ พ่ออาจารย์ท่านวา ครูพระมหากัสสปะนี้สำคัญนักมีบารมียิ่งใหญ่ ทำให้คนรวยก็ได้ เปลี่ยนชีวิตคนก็ได้ทันตาเห็น แต่คนหมางเมินเพราะไม่รู้จักคุณท่านกันเสียมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าดูอย่างพระอินทร์นั่นเป็นไรหมดอายุ ไม่มีบารมีรุ่งเรืองเป็นเหตุให้ถอยลดต่ำศักดิ์ไปด้วยว่าเมื่อครานั้นยังไม่ได้บรรลุเป็นพระอริยบุคคล ท่านต้องไปถามถึงวิธีที่จะช่วยให้ท่านมีบารมีรุ่งเรืองดำรงค์ฐานะประธานเทวสภาและเป็นเจ้าแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ต่อไปไม่ถูกเทพที่มีบารมียิ่งใหญ่ขึ้นมาดำรงค์ตำแหน่งแทน ตอนนั้นท่านไปถามพระมหาโมคคัลลานะก็ไม่ได้คำตอบ จนถึงต้องไปบีบนวดถวายพระมหากัจจายนะเถระเจ้า พระมหาเถระจึงได้เมตตาด้วยเห็นความอ่อนน้อมขององค์อินทร์ แนะนำให้ท่านไปใส่บาตรพระมหากัสสปะหลังออกจากนิโรธสมาบัติเท่านั้นถึงจะช่วยต่อวาสนาได้ ทำให้ท่านมีอายุ มีบารมีแก่กล้าขึ้นมาทันตาเห็นสามารถดำรงค์อยู่ในดาวดึงส์ได้ต่อไป พ่ออาจารย์ท่านว่าครูพระมหากัสสปะนี้มีบารมีใหญ่มาก แม้ใครตกทุกข์ได้ยากแสนสาหัสหาทางออกไม่ได้ เนื่องจากบุญหมดถึงคราวเจอเคราะห์กรรมเหมือนองค์อินทร์นั่นทีเดียว ก็ยังรอดพ้นกลับมารุ่งเรืองได้ดุจเดียวกัน ท่านว่าคนส่วนใหญ่ก็เหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะบุญหมดหรือเคราะห์กรรมมีอำนาจแรงกว่ากุศลกรรม ทำให้ชีวิตตกต่ำไม่เจริญ ก็ต้องอาราธนาบารมีครูพระมหากัสสปะนี้ถึงจะล่วงทุกข์ได้
    - พระอนุรุทธะเถระ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่จริงแล้วองค์พระอนุรุทธะนั้นให้ผลทางด้านความสุข คือมีชีวิตสมบูรณ์พร้อม เต็มเปี่ยมไปด้วยสุขสมบัตินานัปการ นั่นเพราะท่านมีคุณสมบัติพิเศษสืบเนื่องสานต่อในภพชาติของท่าน ทำให้ท่านเป็นมหาบุรุษผู้ที่ไม่รู้จักคำว่าไม่ได้ ไม่มี พูดให้ถูกก็คือต้องการอะไรต้องมีทุกอย่าง ชีวิตนี้คำว่าไม่ได้คืออะไร คำว่าไม่มีคืออะไร ท่านไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าเจ้าคำว่าไม่ได้กับไม่มีนี้มีความหมายว่าอย่างไร เพราะท่านได้เสมอใจทุกสิ่งแม้สิ่งใดที่หาในมนุษย์โลกไม่ได้ เทวดาในกลุ่มนิมมานรดีก็ต้องตามเนรมิตถวายให้เสมอใจเสมอความต้องการของท่าน เมื่อท่านได้อุปสมบทแล้ว ท่านจึงกลายเป็นพระเถระที่แม้ในยุคหลังก็ยังเป็นที่นิยมบูชาในฐานะพระเถระผู้ไม่รู้จักคำว่าไม่มี พ่ออาจารย์ท่านว่าคนนั้นเมื่อยังมีความต้องการก็ย่อมต้องรู้สึกว่าสิ่งที่ปรารถนายังไม่ได้เสมอใจ ทำให้ตนนั้นไม่ได้ ไม่มีทั้งสิ้น ตรงนี้บารมีของพระอนุรุทธะท่านจะมาเสริมให้หนทางที่จับต้องไม่ได้นั้นเป็นจริงขึ้นมา แต่ว่าวันไหนหากเจาะจงอาราธนาบารมีของท่านเป็นการเฉพาะแล้วให้จำไว้ว่า วันนั้นอย่าพูดคำว่าไม่ได้กับคำว่าไม่มีออกจากปากเลย ท่านว่าให้ถือเคล็ดไว้เท่านี้ แล้วจะได้จะมีเสมอที่ใจต้องการ
    - พระมหากัจจายนะ พ่ออาจารย์ท่านว่าพระมหากัจจายนะนี้ก็เป็นครูใหญ่เช่นพระมหากัสสปะ เป็นผู้ที่มีปัญญามากสามารถพลิกแพลงสถานการณ์ต่างๆได้เป็นอย่างดี ซ้ำยังมีลาภสักการะสูงมากเสมอด้วยพระสีวลีเถระเจ้า องค์คุณแห่งพระมหากัจจายนะผู้เอื้ออารีย์ต่อสรรพชีวิตนั้นเป็นมหาคุณานุคุณอย่างแท้จริง ครูบาอาจารย์แต่โบราณเชื่อว่าแม้ได้บูชาแล้วจะมีอานุภาพทางเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างเอกอุ ซ้ำยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยโชคลาภโภคทรัพย์ต่างๆ ที่สำคัญทำให้สติปัญญาดี มีความคิดอ่านการตัดสินใจที่มั่นคงถูกต้อง ท่านว่าหากวันไหนปรารถนาจะอาราธนาบารมีพระคุณเจ้าท่านสงเคราะห์ชีวิตเราให้เหมาะแก่สถานการณ์แล้ว ให้ตั้งจิตอธิษฐานได้เลย แต่จำไว้ว่าจงใช้ความอ่อนน้อมถ่อมตนเป็นพิเศษ ทำด้วยความจริงใจ ใช้ความอ่อนโยนเข้าหาและขอความเมตตาท่านเพียงเท่านัั้น
    - พระสีวลี เอกองค์มหาลาภ ที่สุดของพระมหาสาวก พ่ออาจารย์ท่านว่าไม่ต้องพูดอะไรกันมากเอาว่าท่านขอเมตตาพระสีวลีไว้ ว่าให้ผู้บูชานั้นมีลาภลอย หมายถึงเจอเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง เจอโชคดี เจอโชคลาภแบบฟลุ้คๆตลอดในการดำรงค์ธาตุ์ขันธ์ใช้ชีวิตนี้ อย่าให้รู้จักคำว่ายากคำว่าลำบากได้เลย
    - พระอุปคุต พ่ออาจารย์ท่านว่าพระอุปคุตนั้นดีทางมหาปราบสยบมารและพลังอำนาจฝ่ายลบต่างๆในร่างกาย ซ้ำยังอำนวยลาภผลแก่ผู้สักการะอย่างมหาศาลเช่นพระสีวลีอีกด้วย ท่านว่าแต่ละคนนั้นล้วนมีเวรรกรรม มีเจ้ากรรมนายเวร การทำงานการที่จะเดินไปข้างหน้านั้นย่อมมีอุปสรรคดุจพระเจ้าผจญมารโดยแท้ ตรงนี้ด้วยบารมีของพระอุปคุตนั้นจะนำพาให้ชีวิตราบเรียบไปพบเจอกับปัญหาอุปสรรคร้ายแรงใดที่จะทำให้ชีวิตเราสะดุุดได้


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อกดพิมพ์องค์พระแล้ว ที่ด้านหน้านั้น เสด็จพระใหญ่ได้สั่งให้นำบุษราคัมของหลวงปู่ดู่มาฝังไว้ด้วย ท่านจึงได้ฝังบุษราคัมเอาไว้ตรงกลางในจุดศูนย์กลางองค์พระ บุษราคัมที่ฝังชุดนี้เป็นของสำคัญมากเพราะท่านเคยนำไปให้หลวงปู่ดู่แห่งวัดสะแกอธิษฐานจิตให้ถึงไตรมาส และองค์หลวงปู่ดู่นี้ยังกล่าวถึงอานุภาพของบุษราคัมชุดนี้ว่า ทำให้ดีแล้ว เป็นสมบัติจักรพรรดิทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เปรียบกับดวงแก้วจักรพรรดิ์เป็นเครื่องมงคลสุดที่จะอธิษฐานตามความปรารถนาสารพัดนึกของผู้บูชา ซ้ำบุษราคุมยังเป็นตัวแทนของความรักความร่ำรวยอีกด้วย เหมือนเสด็จพระใหญ่ท่านต้องการจะสื่อว่าองค์พระนี้เป็นตัวแทนของความรักความห่วงใยดุจเดียวกันจึงได้เจาะจงให้ใช้บุษราคัมหลวงปู่ดู่ในกาลนี้ ซ้ำหลวงปู่ดู่เองก็เคยพูดไว้ว่าบุษราคัมชุดนี้มีอานุภาพเช่นสมบัติจักรพรรดิ์ พ่ออาจารย์ว่าก็ถือว่าฝังเอาเคล็ดไว้ต่อไปจะได้ชื่อว่ามีสมบัติจักรพรรดิติดตัวกัน ดึงดูดลาภสักการะบริวารน้อยใหญ่เข้ามาสู่ตนโดยง่าย ซ้ำอานุภาพของบุษราคัมที่หลวงปู่ดู่เสกนั้นย่อมมีมากกว่าบุษราคัมธรรมดาอย่างแท้จริง มีความเชื่อว่าบุษราคัมนั้นช่วยทางด้านกำลังใจและการตัดสินใจและช่วยให้มองโลกในแง่ดี เป็นสัญลักษณ์ของพระอาทิตย์ ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ช่วยในเรื่อง การไหลเวียนของโลหิตบรรเทาอาการอักเสบของโรคทางเดินปัสสาวะ ปอด หวัด ช่วยเสริมพลังความคิดสร้างสรรค์


    ด้านหลังองค์พระนั้นพ่ออาจารย์ท่านได้ฝังสิ่งสำคัญต่างๆไว้ดังนี้
    - แม่นางกวัก หญิงสาวผู้ได้รับพรจากพระสีวลีจนกลายเป็นตำนานที่บูรพาจารย์สร้างรูปนางเอาไว้สักการะสืบมา ด้วยหวังในทุกสิ่งที่ปรารถนาและอธิษฐาน นางจะกวักจะเรียกให้ได้สมใจปรารถนา พ่ออาจารย์ท่านสร้างแม่นางกวักนี้โดยได้บอกกล่าวปู่เจ้าเขาเขียวขออนุญาติสร้างลูกสาวของท่าน และยังปลุกเสกจนเกิดรูปนามให้มีชีวิตอย่างแท้จริง ท่านว่าเวลาเราขอเราอธิษฐานอะไรกับแม่นางกวัก ให้ท่านรู้และต้องสนองตอบเราได้ จะหวังสิ่งใดปรารถนาสารพัดในปฐพีนี้ ทั้งลาภผล เงินทอง โภคทรัพย์ คู่ครอง โอกาสของชีวิตให้อธิษฐานขอความเมตตากับท่านเลย ให้กวักเงินกวักทอง กวักโชคลาภ กิจการงาน กวักเอามาแต่สิ่งที่ดี กวักคู่แท้ให้เข้ามาในชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าอธิษฐานได้ทุกเรื่อง ซ้ำท่านยังอัญเชิญบารมีพระสีวลีลงมาครอบคลุมอีกคำรบหนึ่ง ให้นางกวักนี้มีฤทธานุภาพครอบคลุมทุกด้านตามที่เราจะร้องขอ
    - แร่เจ้าน้ำเงิน ราชาแห่งเงิน เจ้าแห่งโชคลาภวาสนา ที่ว่ากันว่าหาพบเจอได้ยากและจำเป็นต้องมีเวลาหล่อพระกริ่งนั่นเอง ซึ่งสมัยนี้พระกริ่งนั้นไม่มีเจ้าน้ำเงินไปเสียแล้ว พ่ออาจารย์ว่ามันมีอานุภาพมากและก็ดีโดยชื่อของมันเอง ตัวแร่เจ้าน้ำเงินนี้มีอานุภาพสูงท่านว่าเอาว่าใครได้ครอบครองไม่เห็นจะจนลงซักที ใครจะทำอะไรกลั่นแกล้งอย่างไรก็ไม่เป็นผล คนที่ถือครองเจ้าน้ำเงินนี้มีแต่โชคลาภวาสนา สมกับคำว่าเจ้าน้ำเงิน เป็นนายของเงิน เป็นเจ้าแห่งโชคลาภอย่างแท้จริง แร่เจ้าน้ำเงินนี้จะอยู่กับผู้ที่มีบารมีช่วยผลักดันหนุนนำชีวิตเขาขึ้นสู่จุดสูงสุดด้วยอาถรรพ์ธาตุกายสิทธิ์ พ่ออาจารย์จึงได้เมตตานำมาฝังไว้ในพระโคตรเจ้าสัวนี้
    - น้ำมันปลิงดูดทรัพย์ ท่านว่าเป็นวิชาการสร้างน้ำมันวิชาอาถรรพ์ที่ต้องประกอบด้วยว่านยาและยันต์ครบถ้วน อันน้ำมันปลิงดูดทรัพย์นี้ท่านว่าทุกคนรู้อยู่ว่าปลิงมันชอบดูด เรียกว่าไม่ใช่ดูดธรรมดาแต่เป็นสูบเลือดสูบเนื้อเลยดีกว่า อันน้ำมันปลิงดูดทรัพย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีอานุภาพมากทางดูดลาภสักการะนานา สิ่งต่างๆเฉพาะแต่ที่ดีๆเข้ามาหาตัวเราอันนี้คือแม้พกไว้ปกติก็มีพลังงานดึงดูดมหาศาลอยู่แล้ว แม้ว่าจะอยู่ไกลแค่ไหนก็ต้องเข้ามาอยู่ใกล้ๆเราเป็นของเรา ท่านตั้งใจฝังให้ไว้เพราะว่าคนหลายคนได้สร้างบุญสั่งสมกุศลไว้แต่ต้องมารับทุกข์เวทนาเสวยวิบากกรรมเสียแต่เริ่มไม่มีโอกาสเชิดชูหน้าตาตัวเองท่านว่าน้ำมันนี้มันดูดหมด ดูดแม้แต่โอกาสที่ดีให้เข้าถึงตัวมีโอกาสผ่อนปรนความทุกข์สร้างบารมีต่อไป และยังดูดทุกสิ่งเข้ามา ท่านว่าน้ำมันนี้สำคัญนัก ถ้าใช้เป็นแล้วล่ะก็ดูดได้ทุกสิ่งเลย ไม่เว้นแม่แต่มนุษย์ที่มีชีวิต ที่จริงใช้ทางเสน่ห์ก็ได้ แรงอย่างยิ่งยวด แม้จะไปทำงานเจรจาหรือสร้างสัมพันธ์กับผู้ใดก็ให้อาราธนาน้ำมันนี้นึกว่าเขากำลังโดนปลิงเกาะและดูดเลือดเนื้ออยู่เช่นนั้น ท่านว่าเห็นผลทุกราย
    - ผงเศรษฐีทั้งเก้า พ่ออาจารย์ท่านใช้ผงที่สืบทอดมาของหลวงพ่อปานซึ่งปกติท่านจะใช้บรรจุในพระพิมพ์ทรงสัตว์นั้นทำให้พระพิมพ์ทรงสัตว์ของหลวงพ่อปานมีอานุภาพมาก หัวใจสำคัญขององค์พระก็อยู่ที่ผงนี้ ท่านนำมาขออนุญาติและขอบารมีครูมหาเศรษฐีทั้งเก้าท่านแห่งพุทธกาล ซึ่งได้เคยกระทำมหาบริจาค กระทำทานอย่างมหาศาลมโหฬารใหญ่โตและเป็นพระอริยบุคคล ด้วยกุศลเจตนาการบริจาคอันยิ่งใหญ่ของมหาเศรษฐีทั้งเก้านี้เป็นการเสียสละอันกระทำได้ยากนักหนา จะทำเหตุอัศจรรย์ให้เกิดขึ้นได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะให้ใครทำผงทางโชคลาภก็ไม่เสมอทั้งเก้าท่านนี้ลงมาทำด้วยตัวเอง ท่านจึงขอบารมีครูมหาเศรษฐีผู้อริยบุคคลทั้งเก้านี้ให้ประสิทธิผงเป็นกรณีพิเศษให้ผู้ครอบครองผงนี้ได้ร่ำรวยเสมือนมหาเศรษฐีพุทธกาลเช่นนั้น
    - ตะกรุดสิทธิลาภราชาโชค พ่ออาจารย์ท่านได้ลงหัวใจยันต์สิทธิลาภ อันเป็นวิชาเอกที่มีประสบการณ์กันมากของท่านลงในแผ่นตะกั่วขอมโบราณพันปี ท่านว่าเท่านี้ยังไม่พอท่านยังเสริมมนต์ขอพรเทวดา มนต์แก้วสารพัดนึก มนต์มหาสำเร็จ มนต์พระเจ้าเปิดปากเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าตะกรุดสิทธิลาภราชาโชคนี้ทำให้เป็นชุดพิเศษเพื่อฝังพระโคตรเจ้าสัวโดยเฉพาะ ท่านว่าพกไว้เฉยๆว่าดีแล้ว แต่เมื่อใดก็ตามที่เปิดปากขอพรสิ่งใด เอาว่าสิ่งนั้นต้องสำเร็จต้องได้สมกับมนต์ที่ลงไว้นั่นเอง


    พ่ออาจารย์ท่านได้สร้างพระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชคไว้ทั้งหมด 8 องค์ ท่านว่าถือว่าเป็นจำนวนเลขมงคล เรียกว่าเป็นสัญลักษณ์ของเครื่องหมายอินฟินิตี้คือมีกินมีใช้ไม่หมด ดังนั้นที่ด้านหลังองค์พระบริเวณฝาขวดน้ำมันปลิงดูดทรัพย์ท่านจะจารเลข 8 เอาไว้ด้วย ท่านว่าพระนี้เป็นของสำคัญ เป็นของมีเจ้าของตามตราบัญญัติทุกองค์ ท่านว่าเป็นของสำคัญที่ใช้เสริมร่างกายให้มีกำลังพระจักรพรรดิเป็นอาถรรพ์แฝงเร้นดังนั้นครูบาอาจารย์ท่านจึงเลือกผู้ครอบครองและมีวาสนาต้องกันไว้ตั้งแต่เริ่ม


    คาถาบูชา(นะโม 3 จบ)
    มาขะโย มาวะโยมัยหัง มาจะโกจิ อุปัททะโว ธัญญะธารานิ เม ปะวัสสันตุ ธะนัญชัยยัสสะ ยะถา ฆะเร สุวัณณานิ หิรัญญาจะ สัพพะโภคาจะ ระตะนานิ ปะวัสสันตุ เม เอวัง ฆะเร สุมะนะ ชะฏิลัสสะ จะ อะนาถะปิณฑิกะ เมณฑะกัสสะ โชติกะ สุมังคลัสสะ มัณฑาตุ เวสสันตะรัสสะ ปะวัสสันติ ยะถา ฆะเร เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ สัพพะสิทธิ ภะวันตุ เม


    * ให้แจ้งจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น สำหรับผู้บูชา ให้แจ้งชื่อนามสกุล วันเดือนปีเกิดไว้ให้พร้อมทุกคน เพื่อที่พ่ออาจารย์ท่านจะได้นำผงมงคลพระปัจเจกพุทธเจ้าหรือผงเงินไหลมา มาทำการเจิมประสิทธิบอกกล่าวแก่องค์พระเป็นการเฉพาะต่อไป รายได้จากการบูชาสมทบทุนการศึกษาเด็กกำพร้ามและด้อยโอกาสทางสังคม


    ร่วมทำบุญบูชา พระผงโคตรเจ้าสัวมหาจักรพรรดิสิทธิลาภราชาโชค บูชา 4,000 บาท

    035.jpg image.png 1207072486.jpg 6352105473583100002.jpg 456_145-1.jpg SAM_5308.jpg SAM_5310.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2017
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    วันนี้เดี๋ยวส่งของที่ค้างไว้ให้นะครับ สามท่าน มีรอเลี่ยมอยู่:p
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่วีระชาติ ER 5708 1833 9 TH

    พี่กฤตเมธ ER 5708 1834 2 TH

    พี่บุญชนะ ER 5708 1835 6 TH
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    เดี๋ยวพรุ่งนี้มาลงสาระความรู้ต่อให้นะครับ;)
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อานุภาพของสัจจะ
    (เมื่อเวลาที่สมาธิไม่ดีหรืออานุภาพแห่งมนต์คาถาเสื่อม คนโบราณท่านจึงหันมาทบทวนสัจจะและศีลของตัวเอง)

    รักษาคำสัตย์เพียงอย่างเดียวก็ยังได้ไปเกิดในสวรรค์
    คัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาได้จารึกเรื่องราวอานิสงส์ของการรักษาคำสัตย์เอาไว้ว่า
    ในกาลก่อนมีสตรีนางหนึ่ง ไม่ได้ให้ทาน ไม่ได้ทำการบูชา ไม่ได้ฟังธรรมเลย มีแต่รักษาเพียงคำสัตย์อย่างเดียว ตายแล้วไปบังเกิดในเทวโลก
    พระมหาโมคคัลลานะ จาริกไปในเทวโลก ยืนอยู่ใกล้ประตูวิมานของเทวดานั้น ถามว่า “เธอทำบุญอะไรไว้ จึงได้สมบัติมากเช่นนี้”
    นางเทพธิดานั้นตอบท่านว่า “บุญนี้ดิฉันได้เพราะรักษาคำสัตย์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น”
    พระเถระมาถวายบังคมพระศาสดา ทูลถามว่า “พระเจ้าข้า บุคคลอาจได้ทิพยสมบัติด้วยคุณเพียงพูดแต่คำสัตย์อย่างเดียวเท่านั้น ได้หรือไม่”
    พระศาสดาตรัสว่า “โมคคัลลานะ เหตุไฉนเธอจึงถามเราเล่า ความข้อนี้ นางเทพธิดาบอกแก่เธอแล้วมิใช่หรือ”

    * จึงเป็นเรื่องที่ยืนยันได้ว่า พุทธธรรมนั้นให้ความสำคัญในเรื่องของการรักษาคำสัตย์เพียงไร

    วิกฤตสัจจะไม่ใช่เรื่องธรรมดา
    การรักษาคำพูด หรือ การไม่กล่าวเท็จ ก็คือข้อหนึ่งในศีลห้าอันถือว่าเป็นมนุษยธรรม คือ ธรรมของมนุษย์ ถ้าต่ำกว่านี้มนุษย์ก็มักจะมีปัญหาเสมอ
    ในสังคมยุคปัจจุบันนี้การที่จะพูดตรงไปตรงมาไปเสียทั้งหมดนั้นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากอยู่สักหน่อย เช่น ถ้ามีคนถามว่าคิดอะไรอยู่ เราก็มักจะตอบว่า เปล่า ไม่ได้คิดอะไร ทั้งๆ ที่จริงๆ แล้วก็คิด นี่อาจไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไรนักแต่ก็อาจทำให้เราสังเกตได้ว่า ในต่างยุคสมัยนั้นความมีสัจจะของผู้คนก็ต่างกัน
    เรื่องที่สำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ไม่ว่ายุคไหนๆ คำพูดที่ให้แก่กันไว้อย่างเป็นจริงเป็นจัง ถ้าไม่รักษาเอาไว้ก็จะเกิดวิกฤตตามมาจนได้ การไม่รักษาคำพูดที่ให้ไว้ บางครั้งคนเราอาจไม่สังเกตพบผลเสียในทันทีทันใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองแล้วแน่นอนทันทีคือ จะเป็นคนไม่จริงกับสิ่งที่ตัวเองได้ พูด คิด และตั้งใจไว้ หรือ ลบล้างและทรยศต่อสิ่งที่ตัวเองสร้างขึ้นมา

    *ฉะนั้น เมื่อเวลาที่สมาธิไม่ดีหรืออานุภาพแห่งมนต์คาถาเสื่อม คนโบราณท่านจึงหันมาทบทวนสัจจะและศีลของตัวเอง
    แม้ในปัจจุบัน เรื่องของเครดิตก็เป็นเรื่องที่เห็นได้ไม่ยาก ถ้าคนเราถูก ดิสเครดิต หมดความเชื่อถือลงเมื่อใด กว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ก็ยากแสนยาก อันตรายจาก วิกฤตความเชื่อ เป็นเรื่องที่คนยุคนี้เข้าใจกันดี นี่อาจเป็นเรื่องสังคมภายนอก แต่สำหรับภายในนั้นยิ่งไปกันใหญ่
    คนเราจะทำอะไรให้ดีได้ล่ะ ถ้าหากธาตุแท้ของความเป็นตัวเรานี้ไม่จริงกับอะไรสักอย่าง ประโยชน์หรือข้อได้เปรียบจากการไม่รักษาคำพูดมันจะได้สักเท่าไหร่กัน ถ้าคนเรามานึกถึงว่า ได้ประโยชน์จากเขา แต่อริยทรัพย์ของเราพร่องไปทุกที..


    อมตะตลอดกาล
    อำนาจของสัจจะหรือบุญฤทธิ์ของสัจบารมีนั้น ไม่ว่าคนยุคนี้จะเชื่อมั่นกันเต็มร้อยหรือไม่ เรื่องราวต่างๆ ก็ยังคงเป็นเรื่องอมตะตลอดกาล เช่น เรื่องพระร่วงกับขอมดำดิน เรื่องสัจจะของนางสุชาดาในตำนานพระแก้วดอนเต้า เรื่องสัจจะของพระนางมัสสุหรีหรือพระนางเลือดขาวแห่งลังกาวี เป็นต้น นอกจากนี้ก็ยังมีเรื่องของพระเถระผู้มีวาจาสิทธิ์อีกมากมาย

    ด้วยสัจจกิริยาของลูกนกคุ่มโพธิสัตว์
    ไฟจะไม่ลุกหรือแม้จุดไฟก็ไม่ติดไปตลอดกัป(ภัทรกัป)


    *ตามคัมภีร์พระพุทธศาสนาใน อรรถกถาชาดก ได้กล่าวไว้ว่า
    เมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์และทรงถือกำเนิดเป็น ลูกนกคุ่ม นกพ่อแม่ทำรังอยู่ในป่า ทิ้งให้ลูกนกนอนอยู่ในรัง ส่วนนกสองตัวผัวเมียก็ออกไปหาเหยื่อมาป้อน ยังมิทันที่ลูกนกจะมีกำลังกางปีกบินและยกเท้าก้าวเดินได้ก็พอดีถึงฤดูไฟไหม้ป่า ไฟเกิดไหม้ป่าลุกลามมาเสียงดังสนั่นหวั่นไหว บรรดาฝูงนกทั้งหลายต่างกลัวตาย พากันส่งเสียงร้องเอ็ดอึงบินออกจากรังของตนหนีไป นกคุ่มพ่อแม่ทั้งสองของพระโพธิสัตว์ก็กลัวตาย จึงทิ้งพระโพธิสัตว์ไว้ในรังแล้วพากันบินหนีไปเช่นกัน พระโพธิสัตว์นอนอยู่ในรังยืดคอออกดู เห็นไฟป่ากำลังลุกลามท่วมท้นเข้ามาจึงรำพึงว่า
    ถ้าข้าพเจ้ามีกำลังกางปีกบินไปในอากาศได้ ข้าพเจ้าก็จะบินไปที่อื่น ถ้าข้าพเจ้ามีแรงยกขาเดินไปบนพื้นดินได้ ข้าพเจ้าก็จะก้าวขาเดินไปที่อื่น ทั้งพ่อและแม่ของข้าพเจ้าก็กลัวตายทิ้งข้าพเจ้าไว้แต่ผู้เดียว ต่างเอาตัวรอดบินหนีไปแล้ว บัดนี้ข้าพเจ้าไม่มีที่พึ่งอื่น ตัวเองก็หาคุ้มครองตัวเองได้ไม่ ตัวเองหาเป็นที่พึ่งแก่ตัวไม่ วันนี้ข้าพเจ้าควรทำอย่างไรดีหนอ ครั้นแล้วก็คิดได้ว่า ในโลกนี้มีคุณคือ ศีล มีคุณคือ สัจจะ พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทั้งหลายซึ่งทรงบำเพ็ญพระบารมีมาแล้วในอดีต ได้ประทับนั่ง ณ โคนไม้โพธิพฤกษ์และทรงตรัสรู้แล้ว พระองค์ทรงประกอบด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา วิมุตติ และวิมุตติญาณทัสสนะ ประกอบด้วยสัจจะ ด้วยความเอ็นดู ด้วยความกรุณาและขันติ ทรงเจริญเมตตาในสรรพสัตว์ทั้งหลายบรรดามีอยู่ในโลกมาแต่อดีตกาล อนึ่ง คุณธรรมทั้งหลายที่พระสัพพัญญูพุทธเจ้าทรงรู้แจ้งแทงตลอดมีอยู่ เรื่องนี้เป็นสัจจะ คือความจริง แม้ในตัวข้าพเจ้าเองก็มีสัจจะ 3 ประการปรากฏอยู่ เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าควรระลึกถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่ล่วงลับไปแล้ว พร้อมทั้งคุณธรรมที่พระพุทธเจ้าทั้งหลายทรงบรรลุแล้วนั้น ยึดเอาสัจจะที่มีอยู่ในตัวข้าพเจ้ามาทำสัจจกิริยา ขอให้ไฟป่าถอยกลับไป ทำความสวัสดีให้เกิดแก่ตนเองและฝูงนกทั้งหลายด้วย.....
    ครั้นแล้ว ลูกนกคุ่มก็ทำสัจจกิริยา(ซึ่งภายหลังเรียกว่า วัฏฏกะปริตร) ไฟไหม้ป่าก็ดับไปเหมือนเอาคบเพลิงจุ่มลงในน้ำ พระปริตรนี้มีเดชหรือความขลังตั้งอยู่ชั่วกัปในที่บริเวณนั้น ไฟจะไม่ลุกหรือแม้จุดไฟก็ไม่ติดไปตลอดกัปด้วย


    วัฏฏกะปริตร มีอานุภาพป้องกันไฟและภยันตราย

    ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อนที่จะตามมานี้เป็นช่วงที่เกิด อัคคีภัยได้ง่าย พุทธศาสนิกชนผู้ไม่ประมาทนอกจากจะต้องระมัดระวังรอบคอบแล้ว การสวด วัฏฏกะปริตร ก็เป็นเครื่องป้องกันที่สำคัญยิ่งอย่างหนึ่งที่ยึดถือกันมาแต่โบราณและกล่าวกันว่ามีผู้เห็นผลมามาก

    สำหรับคาถา หัวใจนกคุ่ม หรือ หัวใจนกคุ้ม นั้น เป็นคาถาที่มีมาแต่โบราณ ใช้ภาวนากันความร้อนและไฟไหม้ เวลาเกิดไฟไหม้ให้ภาวนาคาถาแล้วใช้ผ้าหรือมือโบกไป ไฟก็จะดับ คาถามีเนื้อความว่า สุ โป กัญ จะ บางตำราจะว่าคาถา หัวใจน้ำ คือ อะ ปา นุ ติ ก่อนนำหน้า จึงรวมเนื้อความเป็นว่า อะ ปา นุ ติ สุ โป กัญ จะ มีอานุภาพเช่นกัน

    สัจจะ มิได้หมายความเพียงการกล่าววาจาเท่านั้น แต่โดยความหมายแล้วสัจจะนั้น หมายถึง ความจริงใจ จริงจัง ความซื่อสัตย์ โดยสรุปก็คือความรับผิดชอบนั่นเอง รับผิดชอบต่ออะไรบ้าง ก็รับผิดชอบต่อบุคคล คือคบใครก็คบด้วยความจริงใจ ไม่คดในข้องอในกระดูก รับผิดชอบต่อคำพูดคือพูดจริงทำจริง พูดอย่างไรก็ทำ

    อย่างนั้น ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้น รับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน คือไม่ว่าจะทำงานอะไร ก็ตามจะตั้งใจทำงานนั้นให้ดีที่สุด และประการสุดท้ายรับผิดชอบต่อความดี คือไม่ว่าจะทำอะไรก็จะถือเอาธรรมเป็นใหญ่ไม่ยอมทำในสิ่งที่ผิดศีลธรรม.



    วิธีการฝึกสัจจบารมีกระทำได้ดังต่อไปนี้
    1.ศึกษาประวัติการสร้างบารมีของนักสร้างบารมีในทั้งในอดีต และในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคืนที่พระองค์พทรงปรารภความเพียรทรง กระทำสัจจกิริยาว่า หากไม่บรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณจะไม่ลุกจากที่ ที่สุดพระองค์ ก็ทรงบรรลุเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ หรือพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ ท่านก็ได้กระทำสัจจกิริยาในคืนวันเพ็ญเดือน ๑๐ หากไม่บรรลุธรรมของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะไม่ยอมลุกจากที่นี่ ที่สุดท่านก็สามารถค้นพบวิชชาธรรมกายได้ อย่างนี้เป็นต้น เมื่อเราได้ศึกษาประวัติการสร้างบารมีของท่านทั้งหลายเหล่านี้ เราจะมีกำลังใจในการสร้างสัจจบารมีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป
    2.ฝึกทำทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น กิจวัตร กิจกรรม ภาระกิจที่ได้รับหมอบหมายอย่างดีที่สุด ไม่ทำแบบขอไปที เพียงพอให้เสร็จ จะทำวัตร จะสวดมนต์ จะบริหารร่างกาย จะทำงาน ทุกอย่างก็ต้องทำอย่างดีที่สุด ไม่ปล่อยผ่านแม้เรื่องเล็กน้อย ทำอย่างเต็มที่ เท่าที่ ความสามารถของเราจะทำได้ อย่างนี้แหละจะเป็นการฝึกสัจจบารมีของเรา
    3.ประหยัดคำพูด คือพูดเท่าที่จำเป็น คำพูดนั้นพูดแต่คำที่เป็นประโยชน์จริง ไพเราะ ถูกกาล เพราะการพูดมากก็ผิดมาก พูดน้อยก็ผิดน้อย แต่หากไม่พูดเลย เดี๋ยวจะไม่รู้เรื่อง ฉะนั้นก่อนพูดทุกครั้งต้องพิจารณาก่อน ว่าสิ่งใดควรพูดสิ่งใดไม่ควรพูด แล้วสัจจบารมีของเราจะเพิ่มพูนขึ้น
    4.ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่าเรายังไม่หมดกิเลส โอกาสที่จะกระทำความผิดนั้น เป็นเรื่องที่เป็นไปได้ แต่เมื่อกระทำไปแล้วต้องยอมรับผิด อย่ากลัวเสียหน้า เพราะหากกลัวเสียหน้าแล้ว เราจะไม่สบายใจเอง ต้องตามจดจำความผิดที่กระทำไว้ เมื่อเรายอมรับผิด แล้วตั้งใจแก้ไขตนเอง ผู้อื่นก็พร้อมจะให้อภัยอยู่แล้ว เราเองก็สบายใจ
    5.คบหากัลยาณมิตรที่เป็นคนทำจริง พูดจริง เพราะกัลยาณมิตรจะคอย ตักเตือนเราไม่ให้กระทำสิ่งที่ไม่ดีได้ นอกจากนี้ การมีผู้ที่เราไว้ใจสามารถบอกกล่าว ความผิดที่เรากระทำได้ นั่นจะเป็นการฝึกให้เราเป็นคนที่ไม่ปิดบังความชั่วของตนเองไปได้อีกทาง และกัลยาณมิตรจะช่วยบอกหนทางแก้ไขให้กับเรา ไม่ให้เราต้องกระทำ ผิดอีกครั้ง
    6.ปฏิบัติธรรม หมั่นนั่งสมาธิอย่างสม่ำเสมอ เพราะการหมั่นทำสมาธิจะทำให้ เรามีสติสามารถควบคุมความประพฤติทางกายวาจา โดยเฉพาะทางวาจา เมื่อเรามีสติ ก็จะกล่าวแต่เรื่องที่เป็นประโยชน์ สัจจบารมีก็จะเพิ่มพูนอยู่เรื่อยๆ และเป็นการสร้างสัจจบารมีอย่างดีที่สุดด้วย.


    ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล

    รวบรวมโดย...แสงธรรม

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg

     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่วิชัย ER 5708 2011 1 TH

    พี่วันชัย ER 5708 2012 5 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ ER 5708 2013 9 TH

    พี่ดุสิตา ER 5708 2014 2 TH

    พี่เสฐณันท์ ER 5708 2015 6 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ใครจะสอบถามหรือพูดคุยอะไรก็ PM เข้ามาได้เลยนะ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    วันนี้ผมไม่ได้ส่งของนะครับ ที่โอนไว้เดี๋ยวติดไว้ส่งวันจันทร์ทีเดียวนะ:)
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    วันนี้มีแต่คนไลน์ถามโทรถามกันเยอะเรื่องพระโคตรเจ้าสัวว่าไม่ทันจองกัน เรายังแปลกใจว่าลงต้องหลายวันทำไมเพิ่งเห็นกันวันนี้ ก็ติดตามกันไว้นะครับ ใครจะถามอะไรก็ PM ไว้;)
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    มนุษย์ 7 ประเภท

    อรุณสวัสดิ์ครับ วันนี้ก็จะมาพูดถึงเรื่องประเภทของมนุษย์กัน ซึ่งลักษณะภายนอกของคนอาจจะไม่แตกต่างกันมาก เรามาดูกันว่ามนุษย์ทั้งเจ็ดนี้เป็นแบบไหน แล้วเราเป็นอะไร สามารถปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตนได้หรือไม่


    หลวงปู่ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร จ.สกลนคร พระธรรมเทศนาเมื่อวันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๑๘ มนุษย์ทั้งหลายมี ๗ จำพวก มนุษย์มี ๗ อย่าง

    1. มนุสสติรัจฉาโน ทำไมจึงว่ามนุสสติรัจฉาโน

    ดูซิ ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นสัตว์เดรัจฉานคือมันขี้เกียจขี้คร้าน รับอาหารแล้วก็นอน ไม่รู้จักการกราบ ไม่รู้จักการไหว้ ไม่รู้จักการรักษาศีลภาวนา ทำบุญให้ทานอะไร เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานน่ะ มนุษย์เช่นนั้นแหละตายไปก็ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานดูเอาซิ พิจารณาเอาซี ร่างกายเป็นมนุษย์แต่หัวใจเป็นสัตว์เดรัจฉาน


    2. มนุสสเปโต ร่างกายเป็นมนุษย์ แต่หัวใจเป็นเปรต

    มันมีแต่โมโหโทโส อยากฆ่า อยากฟัน ความทะเยอทะยานดิ้นรน มีพยาบาทอาฆาตจองเวร ดูซิ ใจมันมีอาฆาต นี่แหละมนุสสเปโตร่างกายเป็นมนุษย์ เมื่อดับขันธ์ไปแล้วก็ไปเป็นเปรต

    3. มนุสสนิรเย ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นนรก

    หัวใจเป็นนรก คือมันมืด มันกลุ้มอกกลุ้มใจ ให้ทุกข์ให้ร้อนดูเอาซิ นั่นแหละนรก ดับขันธ์ไปแล้วก็ไปนรกซี่ ได้รับความทุกข์ยากความลำบากรำคาญ นี่มนุษย์เช่นนี้ ทีนี้ถ้าไม่ไปเป็นอย่างนั้น เกิดเป็นมนุษย์ก็เป็นมนุษย์ที่ต่ำช้า หัวใจต่ำช้า อย่างอธิบายมาแล้ว ต่ำช้ายังไงล่ะ เป็นใบ้บ้าเสียจริต หูหนวกตาบอด ปากกืด กระจอกงอกง่อย ขี้ทูดกุฏฐัง ตกระกำลำบาก แน่ะ มนุษย์หัวใจเป็นยังงั้น ถ้าเกิดเป็นมนุษย์อีกก็เป็นมนุษย์ที่ต่ำช้า ดูซิ ใจเราทุกคน ไม่ว่าพระว่าเณร ไม่ว่าผู้หญิงผู้ชาย เอ้าดู อธิบายให้ฟัง ถ้ามันเป็นอย่างนั้นเราไม่ต้องการก็เลิกก็ละเสีย ให้รู้จักดีรู้จักชั่ว รู้จักผิดรู้จักถูก รู้จักฟัง อธิบายให้ฟัง


    4. มนุสสเทโว ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นเทวธิดา เทวบุตร


    หัวใจมีทาน มีศีล มีภาวนา รู้จักเคารพนอบน้อม รู้จักกราบรู้จักไหว้ ใจมีหิริโอตตัปปะ ละอายบาป กลัวบาป ใจเบิกบาน ใจสว่างไสว ใจดีดับขันธ์ก็ไปเป็นเทวบุตรเทวธิดา เรื่องเป็นอย่างนั้น ดูเอาซิ

    5. มนุสสพรหมา ท้าวมหาพรหม นางมหาพรหม หัวใจเช่นใด

    มีพรหมวิหาร มีพรหมวิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ หัวใจว่างไม่มีอะไร เหมือนกะอากาศนี้แหละ ว่างเปล่าหมด
    เหลือแต่อรูปจิต ดับขันธ์ไปเป็นพรหม ท้าวมหาพรหม นางมหาพรหม อยากรู้ก็ดูเอาซิ ที่อยู่ของเราเป็นอย่างนี้ มนุษย์ทั้งหลาย


    6. มนุสสอรหัตโต ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นพระอรหันต์

    คือละกิเลส ละตัณหา กิเลสคือใจเศร้าหมอง ตัณหาคือใจทะเยอทะยานดิ้นรนกระวนกระวาย ท่านละกิเลสตัณหา ราคะ โลภะ โทสะ โมหะ อวิชชา ตัณหาอุปาทาน ภพชาติ ละขาดในสันดาน ไม่มีสิ่งเหล่านี้ในจิตใจ เมื่อดับขันธ์ไปก็เข้าสู่นิพพาน ดับทุกข์ในวัฏสงสาร ไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดอีก ก็เป็นแต่มนุษย์ ได้แต่มนุษย์ซิ เราจึงมาฝึกหัดอบรมบ่มนิสัยของเรา เพ่งเล็งดูซิ เราอย่าดูอื่น เรานั่งอยู่ก็นั่งดูใจของเรา ไม่ได้ดูดินฟ้าอากาศนะใจของเรามันเป็นอย่างไร เหมือนที่อธิบายให้ฟังไหมล่ะมันไม่ดีตรงไหนก็แก้ไขซิ ทีนี้


    7. มนุสสพุทโธ ร่างกายเป็นมนุษย์ หัวใจเป็นพระพุทธเจ้า

    พระพุทธเจ้าก็เป็นมนุษย์เหมือนกับพวกเรานี้ ว่าเรื่องภพเรื่องชาติของท่าน บิดามารดาของท่านก็มี บุตรภรรยาท่านก็มี ท่านเป็นมนุษย์ครือเรานี่แหละ แต่ท่านประพฤติปฏิบัติ ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง เป็นสยัมภู ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง ไม่มีบุคคลผู้ใดหรือใครแนะนำพร่ำสอน รู้ด้วยตนเองเป็นสยัมภู รู้แจ้งแทงตลอดหมดซึ่งสารพัดเญยยะธรรมทั้งหลาย ไม่มีที่ปกปิด สัตว์ทั้งหลาย ตนของท่าน บุพเพนิวาสานุสสติญาณญาณความรู้ความเห็นในบุพพชาติเบื้องหลัง เป็นอะไรๆ มา ท่านรู้หมด เรื่องมันเป็นอย่างนั้น จุตูปาตญาณ จุติจากนี้ไปอยู่ในภพชาติใด ภพน้อยภพใหญ่ ท่านรู้หมดคือเหมือนอธิบายให้ฟังนี้ อาสวักขยญาณ สิ้นจากภพจากชาติท่านก็รู้หมด

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 พฤษภาคม 2017
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,101
    ค่าพลัง:
    +16,624
    เรื่องพระโคตรเจ้าสัวก็ติดจองหมดแล้วนะครับ สำหรับคนที่ไม่ทันและฝากถามว่ามีพระผงแบบใดที่มีราคาไม่สูงมากพอจะให้บูชาได้แล้วมีพุทธคุณแบบเดียวกับพระโคตรเจ้าสัวอีกมั๊ย ก็ถามให้แล้ว มีพระปิดตาเนื้องผงเปิดวาสนามหาอุดม(ได้แล้วได้อีก) ซึ่งท่านว่าจะให้บูชาในราคาไม่สูงมากเห็นของฝังแล้วสุดยอดจริงๆ อันนี้ก็ติดตามกันไว้ อย่าให้พลาดกันอีก
     

แชร์หน้านี้

Loading...