ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ตอบ PM ครบนะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีเรื่องมาเล่าให้ฟังสองเรื่องนะครับ

    เรื่องแรก ที่แจ้งมาพี่ท่านนี่เล่าว่าเป็นประสบการณ์ของพระนางมนสาเทวี พี่เค้าว่าตัวเขาเองค่อนข้างจะมีฐานะที่เรียกว่าดีมาก แต่ตอนหลังมีปัญหาทางธุรกิจ ที่ฟังดูเหมือนกับลูกค้ามาวางเงินมัดจำไว้แล้วหายไปหลายเจ้า ทำให้มีหนี้อะไรทำนองนี้และเป็นหนี้จำนวนมหาศาล พี่เค้าว่าเค้าเองมีบ้านหลายหลัง มีหลังละร้อยกว่าล้านอยู่หนึ่งหลัง กับหลักล้านอีกหลายหลัง ก็เลยคิดจะขายบ้านที่แพงที่สุดเพื่อเอาเงินมาหมุนใช้หนี้ก่อน เค้าว่าทำอย่างไรก็ขายไม่ได้ไปบูชาวัตถุมงคลมามากมาย บางที่ว่าสาลิกาดีบูชามาตัวละเป็นหมื่นก็มี จะบูชาจะขออะไรก็ขายไม่ได้ซักทีจนท้อแล้วมาโทษเศรษฐกิจทั้งคิดวว่าบ้านเราทำเลก็ดีเป็นบ้านพร้อมที่ดินทำไมขายยากขนาดนี้ เงินก็ต้องหมุนรายจ่ายก็ต้องมี เค้าว่าคนเป็นหนี้จะเข้าใจว่ามันช้าไม่ได้ ทีนี้หลังจากบูชามนสาเทวีของพ่ออาจารย์ไป เขาว่าได้นำไปบูชาและถวายขนมให้พระนาง เป็นขนมของอินเดียตามที่แนะนำให้หามาไหว้ ตกกลางคืนเค้าฝันเห็นเด็กผู้หญิงแขกคนนึงเต้นรำแบบอินเดียในมือถือขนมทั้งสองข้างด้วยลักษณะท่าทางดีใจอย่างมาก พี่เค้าถามว่าเชื่อมั๊ย มันขายได้ ขายได้แล้วจริงๆ ตอนนี้นอกจากใช้หนี้แล้วยังเหลือเงินมาหมุนด้วย นอกจากนี้หลังจากขายบ้านพร้อมที่ดินได้ ก็ฝันเห็นองค์มนสาเทวีที่บูชามามีทองแปะเต็มองค์พระไปหมด พี่เค้าว่าตื่นมาก็เลยรีบไปหาซื้อทองคำเปลวมาปิดให้สมกับที่ฝัน แล้วก็โทรมาเล่าให้ฟังนี่เอง พี่เค้าว่าฟังแล้วอาจจะไม่คิดว่ามีอะไรแค่ขายบ้านได้ แต่เค้าว่าความรู้สึกของเค้ามันคือปลดภาระที่แบกลงและทำให้เค้ามีโอกาสทำกินมากขึ้น จากที่ต้องทนแบกรับหนี้ที่มาจากการทำธุรกิจ เลยฝากพี่เค้าไปว่าจะทำอะไรก็ให้ดูดีๆนิดนึง เพราะขนาดมัดจำแล้วยังชิ่งหลายเจ้าตามที่พี่เขาว่า น่ากลัวจริงๆ มนสาเทวีนี่ก้แนะนำไปหลายคนเพราะเฮี้ยนช่วยได้หลายเรื่อง ขอให้ไหว้ดีๆ

    อีกเรื่องเป็นเรื่องของสมิงพระกาฬ พี่คนนี้เค้าว่าเอาไปอธิษฐานให้เฝ้าบ้าน ซึ่งเป็นบ้านในโครงการบ้านจัดสรรค์ เค้าว่าเค้าไหว้สมิงพระกาฬตามปกติ และบ้านของเค้าก็เก็บของมีค่าเอาไว้เยอะ ดังนั้นจึงไม่เคยนำสมิงมาพกเลย ได้แต่วางใส่พานไว้เพื่ออธิษฐานให้เฝ้าบ้านเท่านั้น ทีนี้ก็ดำเนินชีวิตไปตามปกติ จนเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามบ้านของเค้ามากดกริ่งและถามว่า ไปเอาเสือมาจากไหนเอาสัตว์ป่ามาเลี้ยงได้ไง เลี้ยงอยู่ในบ้านหรอ เห็นปล่อยออกมาเดินเล่นเฉพาะตอนกลางคืนหลายคืนแล้ว หมาที่บ้านของเค้ากลัวมาก พี่เขาทีแรกยังนึกไม่ถึงได้แต่บอกว่าเสือเสออะไรที่ไหนไม่มี บ้านผมก็เลี้ยงหมา พี่ตาฝาดรึเปล่าเห็นหมาเป็นเสือไปได้ เค้าว่าตอบไปแบบนั้นแต่เพื่อนบ้านก็ยืนยันกลับมาว่าเสือจริงๆ หมาอะไรตัวเท่าวัวเท่าควายแบบนั้น แถมตาสีเขียวปั้ดเลย พี่เค้าว่าตอนแรกผมฟังก็ยังเฉยๆนะเพราะคิดว่าเค้าตาฝาก แต่พอนึกไปนึกมาทั้งบ้านมีสมิงพระกาฬที่ใส่พานบูชาไว้ตรงแท่นบูชาอยู่อย่างเดียวที่เป็นเสือ นอกจากนั้นทั้งบ้านก็ไม่มีอะไรที่บูชามาแล้วเป็นเสือ ก็เลยขนลุกเข้าใจว่าคงเพราะตัวเค้าอธิษฐานให้สมิงพระกาฬคอยเฝ้าบ้านให้ เพื่อนบ้านถึงได้เห็นแบบนั้น ก็ได้นำมาเล่าให้ฟังว่าใช้เฝ้าบ้านก็ดีนะ ถ้าไม่สะดวกพกติดตัว
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันี้เดี๋ยวมาติดตามกันนะ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่กฤษอริชญ์ ET 0634 4223 4 TH

    พี่ปภัสสร ET 0634 4224 8 TH

    พี่เปรมยุดา ET 0634 4225 1 TH

    พี่สุรวุฒิ ET 0634 4226 5 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มาพูดคุยกันรอบเย็น

    เมื่อวานก็มีพี่คนนึงเล่าเกี่ยวกับเรื่องพระสมเด็จองค์ปฐมเข้ามา พี่คนนี้เป็นศัลยแพทย์ และส่วนใหญ่จะตามบูชาพระสมเด็จองค์ปฐมของพ่ออาจารย์ไว้ทุกรุ่น เราจำได้ว่าเขาเอาเฉพาะเสด็จพระใหญ่อย่างเดียวเลย อย่างอื่นเขาไม่สนใจ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบและปฏิปทาของใครนะครับ

    พี่เค้าเล่าให้ผมฟังว่าพอดีได้ไปกราบหลวงปู่ซึ่งเป็นพระที่แม่และครอบครัวของพี่เขานับถือมาก ให้การอุปัฏฐากอย่างดีและมักจะพาตัวพี่เค้าไปกราบสักการะท่านประจำก็เลยมีเรื่องมาเล่า พี่เค้าว่าหลวงปู่ท่านนี้เป็นพระธรรมดาๆแต่ท่านเคร่งในการปฏิบัติมาก พี่เค้าว่าท่านมีตาในใสกระจ่างมากทีเดียว แต่ท่านไม่ได้เปิดตัวและก็ไม่ได้เป็นพระมีชื่อเสียงอะไร

    ทีนี้พอพี่เค้าไปกราบหลวงปู่ก็ทักเขาว่า โยมห้อยอะไรมา ที่กลางน่าอกโยมน่ะ สว่างทั้งกุฏิเลย พี่เค้าก็ถอดพระออกมาให้หลวงปู่ดู พี่เค้าบอกว่าวันนั้นผมห้อยองค์ปฐมของพ่ออาจารย์ไว้ตรงกลาง ซ้ายขวาก็เป็นพระกริ่งและก็องค์ปฐมของที่อื่น เค้าว่าที่ห้อยของพ่ออาจารย์ท่านไว้ตรงกลางเพราะองค์พระค่อนข้างจะมีน้ำหนักเลยวางตำแหน่งไว้จุดนี้

    เค้าว่าพอหลวงปู่รับไป ท่านพิจารณาแต่องค์ปฐมของพ่ออาจารย์ พร้อมกับอุทานออกมาเบาๆพอที่พี่เขากับแม่จะได้ยินว่า นี่ พระพุทธเจ้าสูงสุด พี่เค้าว่าน่าแปลกนะท่านไม่ได้เรียกองค์ปฐมแต่ท่านเรียกว่าพระพุทธเจ้าสูงสุดพร้อมกับท่านได้หยิบสังฆาฏิของท่านมาพาดและนำองค์พระไปวางไว้ที่โต๊ะและก้มลงกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์

    พี่เค้าว่าท่านรู้ได้อย่างไรผมไม่ทราบเพราะพระของพ่ออาจารย์นั้นไม่ได้มีชื่อบอกเลยว่าเป็นองค์ปฐมหรืออะไร แต่กับวาจาหลวงปู่ที่ทั้งบ้านผมนับถือ กับการกระทำและแสดงออกของท่านที่ในอดีตผ่านมาไม่เคยมีแบบนี้ ท่านสำรวมระวังคำพูดมาก ไม่เคยพูดหรือมีปฏิกิริยาที่จะกระทำออกมาให้เห็นขนาดนี้เลย พี่เค้าว่าเท่านี้ผมคิดว่าพอแล้ว ผมเชื่อหมดใจจริงๆ


    ก็เอามาเล่าให้ฟังกัน ใครที่มีสมเด็จองค์ปฐมที่พ่ออาจารย์ท่านสร้าง ก็นำออกมาอาราธนาสวดมนต์ขอชมบารมีกันดูนะครับ
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    นางกวัก
    เชื่อว่าหลายคนคงมีไว้บูชา วันนี้ก็มาอ่านประวัติกันนะครับอ่านแล้วคิดตาม จะยิ่งมีประโยชน์มากยิ่งขึ้น;)

    นางกวัก เป็นที่ทราบกันดีว่านางกวักคือรูปปั้นที่มักถูกวางไว้หน้าร้าน และพ่อค้าแม่ขายมีไว้เพื่อกราบไหว้บูชา โดยหวังให้กิจการค้าของตนเจริญรุ่งเรือง


    โดยนางกวักมีชื่อจริงว่า สุภาวดี มีบิดาชื่อ สุจิตพราหมณ์ ส่วนมารดาชื่อ สุมณฑา นางเป็นคนเมืองมัจฉิกาสัณฑ์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ไม่ไกลจากเมืองสาวัตถี ครอบครัวของนางมีอาชีพทำมาค้าขาย ต่อมาสุจิตตพราหมณ์ผู้เป็นพ่อต้องการจะขยายกิจการ จึงไปซื้อเกวียนมา 1 เล่ม และสินค้าไปขึ้นเกวียนเพื่อไปเร่ขายตามถิ่นต่างๆ ซึ่งนางสุภาวดี ก็ขออนุญาตบิดาเดินทางตามไปด้วยในบางครั้ง เพื่อหวังเที่ยวชมสถานที่ต่างๆ ระหว่างการค้าขาย

    ระหว่างเดินทางไปค้าขาย นางสุภาวดีได้พบกับ “พระกัสสปเถระเจ้า” ผู้เป็นอริยสงฆ์ เมื่อนางได้รับฟังธรรมเทศนาจากพระกัสสปเถระเจ้า พระกัสสปเถระเจ้าก็ได้กำหนดจิตเป็นอำนาจจิตพระอรหันต์ ประสิทธิ์ประสาทพรให้ครอบครัวของนางสุภาวดีในทุกครั้งที่นางได้มีโอกาสไปฟังธรรม

    ต่อมา นางสุภาวดีได้เดินทางติดตามบิดาของตนไปทำการค้าอีก และได้มีโอกาสฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์นามว่า “พระสิวลีเถระเจ้า” ด้วยความตั้งใจ จึงทำให้นางสุภาวดีมีความรู้แตกฉานในหลักธรรมต่างๆ และเนื่องจากพระสิวลีเป็นผู้มีชีวิตอัศจรรย์กว่าพระสงฆ์อื่น กล่าวคือ ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์มารดายาวนานถึง 7 ปี 7 เดือน และเมื่อคลอดออกมาก็พร้อมไปด้วยวาสนาและบารมีที่ติดตัวมากับวิญญาณธาตุของท่าน พระสิวลีท่านจึงเป็นผู้ที่มีลาภสักการบูชามาหาท่านตลอดในทุกคราวที่ต้องการ และเมื่อนางสุภาวดีมาฟังธรรมบ่อยครั้งด้วยความตั้งใจ พระสิวลีเถระเจ้าจึงได้กำหนดกุศลจิต ประสาทพรให้แก่ครอบครัวของนางสุภาวดี

    เมื่อจิตของนางสุภาวดีได้รับการประสาทพรจากพระอรหันต์ถึงสององค์ ว่า “ขอให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์ด้วยทรัพย์สินเงินทอง จากการค้าขายสินค้าต่างๆสมความปรารถนาเถิด” จึงส่งผลให้บิดาทำการค้าเจริญรุ่งเรือง และได้กำไรอย่างไม่เคยขาดทุน

    เมื่อบิดารู้ว่า นางสุภาวดีคือต้นเหตุแห่งความเป็นมงคลนี้ และทำให้ครอบครัวมีเงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย จนกลายเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยระดับมหาเศรษฐี พร้อมด้วยเงินทองและกองเกวียนสินค้ามากมาย เทียบเท่ากับธนัญชัยเศรษฐี ผูเป็นบิดาของนางวิสาขาแห่งแคว้นโกศล บิดาของนางสุภาวดีจึงได้หมั่นฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า และ ปฏิบัติธรรมด้วยความศรัทธาสืบมา

    เมื่อนางสุภาวดีสิ้นชีวิตลง ชาวบ้านจึงปั้นรูปปั้นของแม่นางสุภาวดีขึ้น เพื่อไว้บูชาเพื่อขอให้การค้ารุ่งเรือง ความเชื่อเรื่องนี้ได้ถูกแพร่หลายข้ามประเทศเข้ามายังสุวรรณภูมิ และยังคงเป็นความเชื่อที่พ่อค้าแม้ค้าทั้งหลายยังคงศรัทธาสืบมาจนถึงทุกวันนี้

    150162_276485105796451_1833320111_n.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ศุภชัย ET 0634 4373 9 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่วันชัย ET 0634 9704 8 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ประกาศๆนิดนึงนะครับ

    เห็นสอบถามกันมาหลายท่านเรื่องน้ำมันกับสีผึ้งของพ่ออาจารย์ว่าจะมีออกให้บูชามั๊ย สำหรับสีผึ้งตอนนี้ก็ยังไม่มี แต่น้ำมันมี อันนี้ให้ติดตามก็แล้วกัน ท่านว่าของที่บรรจุในน้ำมันนี้เฮี้ยนจริง ท่านต้องประสระโลหิตด้วย มีเครื่องมงคลไม่กี่ชนิดที่พ่ออาจารย์ท่านประสระโลหิต บอกได้คำเดียวว่าห้ามพลาด....
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ) รายกการนี้เดี๋ยวรอจองพร้อมกันนะครับ พอดีมีจองเข้ามาก่อน ผมยังไม่ได้เปิดจองนะ ไว้รอลงรายละเอียดแล้วจะประกาศอีกที อย่าพลาดแล้วกัน
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ไหว้วันโกน
    วิธีนี้ดีจริงๆลองทำกันดูนะ บางทีไม่จำเป็นต้องเรื่องหวยก็ได้ แต่โดยรวมแล้วชีวิตดีขึ้นอย่งเห็นได้ชัดทีเดียว

    ถ้าพูดถึงการเสี่ยงโชคกับตัวเลขอย่าง "หวย" แล้ว เชื่อว่าหลายๆคนคงจะหาทุกวิถีทางที่จะทำให้ตัวเองมีโชคลาภร่ำรวยจากการเล่นหวยเป็นแน่ ซึ่งแต่ละคนก็มีการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเองเชื่อและนับถือในแต่ละงวดใช่มั้ยล่ะ..ซึ่งมันก็เป็นเรื่องลี้ลับแล้วก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อส่วนบุคคลด้วยเนอะ แต่วันนี้ไชโย-โมบาย มีอีกหนึ่งวิธีลี้ลับมานำเสนอกัน นั่นก็คือ "การไหว้วันโกน" หรือ "ตักบาตรวันโกน"

    ก่อนอื่นขออธิบายถึงวันโกนก่อน เผื่อว่าหลายๆคนอาจยังไม่รู้ วันโกน คือ วันขึ้น 7 ค่ำ กับ 14 ค่ำ และวันแรม 7 ค่ำ กับ 14 ค่ำ ของทุกเดือน (หรือ วันแรม 13 ค่ำ หากตรงกับเดือนขาด) ซึ่งเป็นวันก่อนวันพระ 1 วัน วันพระ คือ วันขึ้น 8 ค่ำ กับ 15 ค่ำ และวันแรม 8 ค่ำ กับ 15 ค่ำ ของทุกเดือน (หรือวันแรม 14 ค่ำ หากตรงกับเดือนขาด) ซึ่งเป็นวันที่คนโบราณเชื่อว่าเป็นวันปล่อยผีหรือดวงวิญญาณเร่รอนที่หิวโหยให้ขึ้นมารับส่วนบุญกุศล

    การตักบาตรวันโกนนั้น เมื่อได้ทำแล้วเชื่อกันว่าจะทำให้ชีวิตเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ อะไรที่ติดขัดจะค่อยหาย เริ่มราบรื่นขึ้นมา เวลาที่จะตักบาตรวันโกน ขอให้ทำหลังจากเวลา 19.00 น. และไม่เกิน 22.00 น. โดยมีขั้นตอนและของที่ต้องเตรียมดังนี้..

    จุดธูป 1 ดอก
    ข้าวสวย 1 ถ้วยเล็ก
    น้ำเปล่า 1 แก้ว
    ปลาทูทอดสวย 1 คู่ (2ตัว)


    นำไปวางที่กลางแจ้งหรือใต้ต้นไม้ใหญ่หน้าบ้านนอกรั้วบ้าน ขอให้ปักธูปไว้ที่ดิน แล้วกล่าวอธิษฐานดังนี้

    " ข้าพเจ้าชื่่อ.....วันนี้วันโกนและต่อๆไปทุกวันโกนข้าพเจ้าจะนำข้าวปลาน้ำมาให้เจ้ากรรมนายเวรที่ติดตามตัวข้าพเจ้าและเทวดาที่ดูแลรักษาตัวข้าพเจ้า เจ้าที่เจ้าทาง ผีสางนางไม้ ภูติผีปีศาจ สัมภเวสีผีเร่ร่อนอดยาก ตลอดจนสัตว์เดรัจฉานที่ผ่านไปมาทั้งหลาย จงมาดื่มกินข้าวปลาน้ำที่ข้าพเจ้านำมาให้ครั้งนี้ และเมื่อได้ดื่มกินอิ่มหนำสำราญแล้ว ขอจงรีบนำสิ่งที่ไม่ดีทั้งหลายออกไปจากบ้านและตัวของข้าพเจ้าเดี๋ยวนี้เลย พร้อมทั้งอวยพรให้ข้าพเจ้าจงร่ำรวยแก้วแหวนเงินทองไหลมาเทมา มีโชคลาภถูกหวยถูกล็อตเตอรี่รางวัลใหญ่ๆ สุขภาพแข็งแรง ปราศจากทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บ ปัดเป่าปัญหา อุปสรรคให้หมดสิ้นไปโดยเร็ว ความสุขกลับมาเยือน ความทุกข์ห่างหายฉับพลัน สาธุ! "



    ถ้ามันไม่ยากอะไรก็จงลองทำดู เมื่อได้ทำแล้วขอให้จงได้ทำทุกๆวันโกน จงอย่าได้ลืม.. แล้วคุณจะเจอในสิ่งที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรสงสัยเช่นทำไมต้องปลาทู บางอย่างถ้าสงสัยหรือไม่เชื่อสู้ไม่ต้องทำแต่แรกดีกว่า แต่ถ้าปราศจากความสงสัยคิดว่าเป็นพิธีกรรมก็ทำไป อันนี้มีแต่ดีกับดี

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเปิดให้จองน้ำมันนะครับ แอบกะซิบว่าด้านในพ่ออาจารย์ท่านแกะพรหมฤาษีวสิษฐ์บรรจุไว้ พร้อมผงวิเศษและตะกรุดเทียมครูอีกสี่ดอก ก็นานแล้วที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้สร้างมหาฤาษีผู้ยิ่งใหญ่นับตั้งแต่ออกเหรียญพรหมฤาษีนารทไป ดังนั้นห้ามพลาดเด็ดขาด เดี๋ยววันนี้จะมาพูดเรื่องพรหมฤาษีวสิษฐ์กันนะครับ;)
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พระฤาษีวสิษฐ์

    ก็มาพูดคุยกันคร่าวๆให้รู้จักท่านกันนะครับ พระวสิษฐ์เป็นพรหมฤษีที่มีคุณงามความดี เป็นที่หนึ่งของชาวโลกทั้งสามโลก ท่านมีเมตตาธรรมสูง ยากที่จะหาผู้ใดเทียบเท่า ทั้งในด้านบารมีก็มิได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เท่าใดนัก ทั้งอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์พร้อมทั้งหลักวิชาการ ในด้านคาถาอาคมก็เปี่ยมยอดตลอดกาล


    ฤาษีวสิษฐ์เป็นมหาฤาษี เป็น1ในสัปตมหาฤาษีของมันวันตระปัจจุบัน เป็นมนัสสาบุตรของพระพรหมมา และเป็น1ในประชาบดี มีชายาชื่ออรุณธาตรี มีบุตรคือศักติมหาฤาษี

    ฤาษีวสิษฐ์มีแม่โคสารพัดนึกชื่อกามเธนุ ครั้งหนึ่งฤาษีวิศวามิตรอยากได้โคสารพัดนึก แต่ฤาษีวสิษฐ์ไม่ให้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ฤาษีวิศวามิตรอิจฉาฤาษีวสิษฐ์ และพยายามเป็นพรหมฤาษีเหมือนฤาษีวสิษฐ์บ้าง อีกหมื่นปีให้หลัง พรหมฤาษีวิศวามิตรจึงหวนย้อนมาทวงคืนศักดิ์ศรี และการปะทะอิทธิฤทธิ์กันระหว่างมหาฤาษีสองตนจะเกิดขึ้นระลอกแล้วระลอกเล่า จนสร้างความปั่นป่วนไปทั่ว ดั่งคำกล่าวที่ว่า "เป็นที่สยดสยองแก่ชาวโลกและทวยเทพยิ่งนัก" ซึ่งภายหลังพรหมฤาษีทั้งสองก็ได้เป็นเพื่อนรักกัน เลิกรบรากันในที่สุด

    ฤาษีวสิษฐ์ กับลูกหลานของท่านเป็นผู้แต่งมัณฑละที่ 7 และเป็นผู้เรียบเรียงพระเวทในทวาปรยุค ทั้งท่านฤาษีวสิษฐ์ยังเป็นผู้เล่าเรื่องของวิษณุปุราณะ ร่วมกับฤาษีปุลัสตย์ให้ฤาษีปรศุรามฟัง


    ฤาษีวสิษฐ์ได้ทำหน้าที่เป็นปุโรหิตในราชสำนักของกษัตริย์สุริยวงศ์หลายยุคหลายสมัย เช่นท้าวเสาทสะ ท้าวนิมิ ท้าวทศรถ พระราชบิดาของพระราม เป็นต้น ซึ่งทั้งนี้แน่นอนว่ายอดอาจารย์ย่อมต้องมีสุดยอดศิษย์เช่นกัน กล่าวให้ชัดก็คือพรหมฤาษีวสิษฐ์นี้ ก็คืออาจารย์ผู้ถ่ายทอดศาสตร์และวิชาแขนงต่างๆให้แก่พระราม พระลักษณ์ พระพรต พระสัตรุดนั่นเอง


    อาศรมของฤาษีวสิษฐ์ตั้งอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำคงคา ตรงกับปัจจุบันคือรัฐอุตรขัณฑ์ ใกล้กับฤาษีวยาส
    ครั้งหนึ่งฤาษีวสิษฐ์คิดว่าฆ่าตัวตายโดยการกระโดดลงแม่น้ำสรัสวตี แต่ด้วยบุญฤทธิ์ของท่าน กลับกลายเป็นว่าแม่น้ำสรัสวตีแตกเป็นหลายร้อยสายเพื่อไม่ให้มหาฤาษีทำลายชีวิตสำเร็จ ซึ่งเรื่องแม่น้ำสรัสวตีแตกเป็นหลายร้อยสายนั้นก็เป็นเรื่องจริง


    มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์นั้น ดังที่กล่าวไปแล้วท่านเป็นเจ้าของแม่โควิเศษเรียกว่าแม่โคสุรภีหรือกามเธนุที่มีกำเนิดมาจากการกวนเกษียรสมุทร ว่ากันว่าแม่โคแก้วสารพัดนึกนี้สามารถให้ได้ทุกสิ่งตามที่เจ้าของปรารถนาทีเดียวขอย้ำว่าแม้เจ้าของปรารถนาสิ่งใดแม่โคย่อมเนรมิตรให้ได้เสมอใจนึก ด้วยความสามารถเช่นนี้แน่นอนว่าย่อมเป็นที่ปรารถนาแก่ทั้งสามโลกไม่เว้นเทวดาหรืออสูรด้วย แต่เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงมอบแม่โคให้แก่พระวสิษฐ์มหาฤาษีนั้น ว่ากันว่าแม้ทวยเทพก็ยังยอมรับ หรือตลอดจนอสูรทั้งหลายที่ปรารถนาโคสุรภีก็ยังต้องอ่อนข้อไม่กล้าโต้แย้ง เพราะหวาดเกรงในคุณธรรมตลอดจนฤทธิ์เดชของพรหมฤาษีวสิษฐ์นั่นเอง ว่ากันว่าชื่อของท่านเป็นที่เกรงขามไปทั้งสามโลก ซึ่งโคสุรภีของพรหมฤาษีวสิษฐ์นี้มีความสำคัญมาก และในกาลต่อมาก็เป็นต้นเหตุของมหาสงครามมหาภารตะยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่นั่นเอง


    prom3.jpg 122450907.jpg image.jpg
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ติดตามกันดีๆห้ามพลาดนะ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยกแผ่นดิน{มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)}

    จากที่สอบถามกันเข้ามาตลอดว่าพ่ออาจารย์มีเครื่องมงคลสายน้ำมันอื่นนอกจากน้ำมันจักรพรรดิ์จำแลงซึ่งให้บูชาหมดไปแล้วหรือไม่ ท่านก็เมตตานำมงคลยกแผ่นดินออกมาให้บูชากัน ซึ่งในมงคลยกแผ่นดินนั้นจะประกอบไปด้วย มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์ซึ่งพ่ออาจารย์แกะมาจากไม้ขนุนอาถรรพ์ฟ้าผ่า+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)


    มงคลยกแผ่นดินนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า เป็นเครื่องรางที่มีอานุภาพและคุณนานัปการจนไม่สามารถอธิบายให้ฟังได้ทั้งหมด ท่านว่าเมื่อได้บูชาไปนั้น ไม่ต้องทำอะไรเลย ไม่ต้องเปิดมาเล่นรึเปิดมาใช้แต่อย่างใด ให้เพียงแต่อาราธนาติดตัวเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเพียงเท่านั้นก็เป็นเมตตามหานิยมอย่างเอก ทั้งเป็นมหาอำนาจปราบผลาญศัตรูหมู่ไพรี ทำลายอำนาจคุณไสยอวิชชา ป้องกันโรคและภัยพิบัตินานัปการอันจะเกิดมาจากมหาธาตุทั้งสี่คือดินน้ำลมและไฟ ทั้งยังป้องกันเหตร้ายนานัปการ แม้เมื่ออาราธนาไปแห่งใดย่อมเป็นที่เกรงขามในโลกทั้งสามไม่ว่าจะมนุษย์ ยักษ์มาร อสูร เทวดา ภูติผีทั้งหลาย เค้าย่อมคร้ามเกรงเรานักด้วยบารมีพรหมฤาษีวสิษฐ์ที่ครอบหัวเหยียบกระหม่อมรักษาเราไว้จะคิดอ่านการสิ่งใดย่อมสำเร็จสมประสงค์ทุกเจตนารมณ์ ด้วยว่าโองการและพรของมหาพรหมพระวสิษฐ์มุนีย่อมบรรหารแม่โคแก้วสุรภีให้เนรมิตประทานแก่เราดุจใจปรารถนา


    พ่ออาจารย์ท่านว่ามงคลยกแผ่นดินนั้นเป็นของมีอานุภาพมาก ด้วยมีคุณวิเศษสามารถช่วยให้ผู้บูชาแหวกว่ายพ้นจากอุปสรรค ปัญหา ความขัดสนทั้งมวล พ่ออาจารย์ท่านว่า
    1. ชีวิตที่ล่มจม ล้มเหลว
    2. ชีวิตที่อดอยากยากจน
    3. ชีวิตอันมีภัยคุกคาม
    4. ชีวิตที่มีอุปสรรคและปัญหา
    5. ชีวิตที่ตกต่ำหาความสุขมิใคร่พบ
    ท่านว่าทุกสิ่งเหล่านี้ รวมไปถึงสิ่งที่มากกว่านี้แต่ท่านไม่สามารถบอกกล่าวออกมาได้เพราะเบื้องบนเขาไม่ให้ท่านพูด ท่านว่าข้างบนเค้าต้องการให้คนขวนขวายกันเองบ้างไม่ใช่ชี้นำเขาไปทั้งหมด ท่านว่าเอาประมาณนี้ก็พอทุกสิ่งเหล่านี้ที่ดำรงค์อยู่จะแหวกออก ให้เราสามารถเอาชนะและพ้นจากเคราะห์ซ้ำกรรมซัดทั้งปวงเหล่านี้ได้ พ้นจากสิ่งไม่ดีทั้งหลาย นำมาถึงซึ่งชีวิตใหม่ การเริ่มต้นใหม่ ด้วยอำนาจบารมีเฉพาะทางของพรหมฤาษีวสิษฐ์ที่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามยกย่องว่าเป็นมหาฤาษีผู้ประเสริฐและเก่งที่สุดในสามโลก ท่านจะช่วยให้ชีวิตเบื้องหน้าของเรานั้นพบแต่ความสุขความเจริญ ความสมหวัง ความสำเร็จในกิจทั้งปวง จะหาอุปสรรคและความตกต่ำอันใดมิได้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้กาลเบื้องหน้าถ้าเจอเหตุการณ์อะไรอันจิตเราไม่พึงประสงค์ เพียงยกมือวันทากล่าวอาราธนาขอบารมีมหาฤาษีวสิษฐ์มุนีมาคุ้มเกรงตัวตนโดยพลัน กาลอันไม่พึงประสงค์เหล่านั้นย่อมผ่านไปไม่กล้ำกรายหรือทำลายเราลงได้แต่อย่างใด


    ในมงคลยกแผ่นดินนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าจะประกอบไปด้วยสิ่งต่างๆ ดังต่อไปนี้
    - มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี ซึ่งแต่เดิมนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเราไม่กล้าสร้างหรอก เพราะท่านเป็นมหาฤาษีผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ท่านว่าเธอคิดดูนะในบรรดาฤาษีทั้งหมด มหาฤาษีทั้งเจ็ดคือที่สุดแล้วของฤาษีที่มีฤทธิ์และบารมีเฉพาะตัวมากล้นพ้นประมาณ สามารถท่องเที่ยวเดินทางไปได้ในอนันต์จักรวาล มีกิจหน้าที่ช่วยเหลือสรรพสัตว์ดุจคุรุผู้วิเศษ ยิ่งเป็นมหาพรหมฤาษีวสิษฐ์นั้นท่านมีความสำคัญยิ่งนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าให้สังเกตุแต่ละลัทธิแต่ละนิกาย จะมีการยกย่องมหาฤาษีผู้วิเศษสุดยอดแห่งจักรวาลนี้แตกต่างกันไป ไม่มีชื่อไหนเสมอกันหรือตรงกันซักที่ แต่กับพรหมฤาษีวสิษฐ์นั้นเป็นที่น่าแปลกใจอย่างยิ่งนั่นคือทุกนิกายมีชื่อของท่านหมด กล่าวเหมือนกันหมดอย่างไร้ความแตกต่างว่าท่านคือมหาฤาษีหนึ่งในสัปตฤาษีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งเจ็ด ไม่ว่าจะในมานวธรรมศาสตร์ มหาภารตะ ศิวะนิกาย ไวษณพนิกาย หรือแม้แต่ความเชื่อเกี่ยวกับมานสาบุตรแห่งพระพรหมมาทั้งเจ็ด ทุกนิกายทุกศาสตร์กล่าวตรงกันอย่างไม่มีข้อโต้แย้งว่าท่านคือสัปตมหาฤาษี
    พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะมีวาระโอกาสให้เราสร้างรูปเทียมครูของท่านนั้น ทีแรกครูพระสยมท่านแนะนำว่าให้ทำรูปมหาสาวกพระวสิษฐ์มุนีขึ้นมา เพราะถึงยุคถึงกาลสมัยที่จะเปิดดวงชะตาของสัตว์ที่อยู่ในห้วงทุกข์ซึ่งตรงนี้เป็นกิจธุระและหน้าที่ของพระวสิษฐ์ที่จะช่วยเหลือเหล่าผู้ที่มีวาสนาแต่ผจญเคราะห์กรรม พูดให้เข้าใจโดยง่ายก็คือบุญยังมีแต่กรรมบังอยู่ ซึ่งภายหลังพ่ออาจารย์ท่านนั้นก็ได้เชื่อมจิตสัมผัสญาณกับมหาฤาษีวสิษฐ์ และได้ทำการแกะรูปเทียมครูท่านขึ้นมา โดยท่านว่าครูให้ใช้ไม้ขนุนฟ้าผ่า โดยพ่ออาจารย์ท่านยิ้มพร้อมกับพูดติดตลกว่าคงเพราะท่านมีผิวกายขาว ห่มผ้าก็ขาวและใส่เครื่องทองแบบมหาฤาษีชั้นสูงกระมัง ท่านก็เลยอยากให้รูปเคารพท่านขาวๆ แต่ความจริงนั้นไม้ขนุนฟ้าผ่านี้เป็นไม้อาถรรพ์ตรงตามตำราได้ประจุพลังของสายฟ้าซึ่งเป็นพลังธรรมชาติอันยิ่งใหญ่เชื่อว่าเป็นพลังของเทพเจ้า ทั้งชื่อยังเป็นมงคลนามจะได้หนุนนำพาผู้ใช้บูชา พ่ออาจารย์ท่านว่าไม้ขนุนนี้มีอาถรรพ์ผิดธรรมชาติมากนัก นั่นคือฟ้าลงหรือฟ้าผ่านั้นได้ผ่าตอนกลางวันแสกๆไม่มีเมฆฝนหรือสิ่งใดที่จะปกคลุมท้องฟ้าเลย เรียกว่าพระอาทิตย์เที่ยงตรงทั้งทรงกลด บรรยากาศโล่งๆปลอดโปร่งแดดแรงๆนี่แหละ แต่กลับมีฟ้าลง ฟาดใส่กิ่งขนุนตรงทิศตะวันออก ท่านเห็นและรู้ว่าข้างบนท่านให้มวลสารเก็บไว้รอเวลาทำสิ่งสำคัญ ท่านจึงพลีเก็บไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าแกะไม่ยากหรอก แต่พิธีกรรมหนุนแผ่นดินทั้งยังต้องประสระโลหิต ตลอดจนการปลุกเสกที่พระวสิษฐ์ท่านแนะนำให้ทำนั้นล้วนยากยิ่งเพราะว่าเป็นวิชาที่จะหนุนไปถึงแก่นของจิตของชีวิตกันทีเดียว ท่านว่าเสกไปก็ต้องชักยันต์ในอากาศประทับไป เสกไปประทับไปเต็มไปหมด พ่ออาจารย์บอกว่าถ้าคนมีตาในจะเห็น รูปเล็กๆแค่นี้แต่ข้างในมียันต์เยอะเต็มไปหมด ล้วนแต่เป็นวิชากลับชะตา กลับดวง พลิกดวงพลิกชีวิตทั้งสิ้นเป็นร้อยเป็นพันแขนง พ่ออาจารย์ท่านว่าท่านทำจนท่านรู้สึกเหนื่อยจึงได้ขอเมตตาให้มหาฤาษีวสิษฐ์ได้แบ่งภาค ให้สภาวะจิตของท่านมาถือกำเนิด ให้รูปเปรียบครูนี้มีญาณ มีบารมีของท่านครอบอยู่แบบมีชีวิตจริง เพื่อที่ผู้บูชาจะได้เปลี่ยนชีวิตจริงๆเช่นกัน
    - สี่ตะกรุดเทียมครู เป็นตะกรุดสำคัญอันประกอบด้วยสรรพวิทยาการสี่ชนิด ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าตะกรุดเทียมครูนี้คือมีฤทธิ์เท่าครูหรือเสมอครูทีเดียว ซึ่งตะกรุดทั้งสี่ประกอบไปด้วย
    1. นารายณ์หอบธรณี พ่ออาจารย์ว่าสูตรนารายณ์หอบธรณีนี้ เกิดจากตอนที่อสูรลักเอาแผ่นดินไป พระนารายณ์จึงตามไปปราบและนำแผ่นดินกลับคืนมาซึ่งท่านว่าแผ่นดินในที่นี้ก็คือพระแม่ธรณีนั่นเองวิชานารายณ์หอบธรณีนี้ท่านว่าหาคนทำยาก เพราะเป็นสูตรที่ช่วยให้ชีวิตคนที่ตกต่ำ อยู่ในจุดด้อยเหมือนพลัดตกเหว ติดหล่ม จมปลัก กลับมารุ่งเรืองเจริญก้าวหน้า เหมือนแผ่นดินยกสูงไม่ให้เราตกต่ำ เหมือนพระนารายณ์มาหอบมากอบกู้ พาดวง พาชะตาชีวิตเราลอยขึ้นไป พ่ออาจารย์ท่านว่าสำคัญถึงขนาดนั้น นารายณ์หอบธรณีนี้คือหอบไว้ ชูไว้ เอาว่าให้เป็ดาวค้างฟ้า หอบเอาไว้ตลอด คิดจะตกจะร่วงยังทำไม่ได้เลย เพราะท่านหอบท่านดึงเอาไว้ นี่คือบารมีครูบารมีพระนารายณ์โดยเฉพาะ
    2. พรหมประทับจันทร์ วิชาพรหมประทับจันทร์นี้ ท่านว่าให้กล่าวจริงๆก็เป็นโคตรเสน่ห์เลย แต่จะแตกต่างจากวิชาอื่นนิดหน่อย คือเป็นเสน่ห์ที่จะเปลี่ยนร่างกายเรา พ่ออาจารย์ท่านว่าตัวพรหมประทับจันทร์นี้คือวิชาที่จะช่วยให้เราดูมีเสน่ห์ น่าค้นหา เป็นที่สะดุดตาสะดุดใจของชนทั้งหลาย ท่านเปรียบเอาไว้ว่าหน้าของพระพรหมนั้นมีสง่าราศีฉันใด ได้ชื่อว่าเป็นหน้าที่สวยงามที่สุดในจักรวาล เป็นที่ปรารถนาจะมอง เหนือกว่าหน้าของเหล่าเทพยดานางฟ้าฉันใด หน้าของเราก็มีสง่าดุจหน้าของพรหมฉันนั้นท่านว่าคิดเอาเองว่าจะน่ามองขนาดไหน ซ้ำพรหมประทับจันทร์ยังซ้อนเสริมด้วยวิชาเชิญพระจันทร์เข้ารูปซึ่งท่านผูกกับยันต์เล่นชู้ไว้ด้วย ท่านว่าเสริมให้ทั้งนะเข้าหา นะรำไร นะจังงัง นะเสน่ห์ ส่งผลทางชู้สาวและเสน่หายิ่งขึ้นไปอีก เพราะพระจันทร์นั้นแม้ปรากฏที่ใด เหล่านางฟ้านางอัปสรย่อมหลงใหลถึงขั้นยอมพลีกายถวายชีวิตนั้นทีเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเสน่ห์ใหญ่ซ้อนเสน่ห์ใหญ่แบบค่ายกล เป็นตะรุดเสน่ห์ที่ทำยากเสกยาก มีพลังยิ่งกว่าเราไปครอบพระลักษณ์หรือครอบเทพรัญจวนอะไรทั้งสิ้น เพราะนี่คือพรหมประทับจันทร์
    3. พิฆาตไพรี วิชานี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงและของแรงครูแรงมาก ท่านว่าใช้ทางมหาอำนาจและอิทธิฤทธิ์ท่านว่าเพียงพกไว้ก็พอแล้ว เพราะว่าตัววิชาจริงๆนั้นพูดง่ายๆคือสามารถใช้ทำให้คนตายได้เลยทีเดียว ทั้งกำจัด แตกดับ ทำลาย พ่ายพินาศ พ่ออาจารย์ท่านว่าทำไว้ไม่ให้สูญ ซึ่งท่านก็ลงให้เต็มสูตร แต่ท่านว่าอย่าไปใช้ถึงขั้นนั้นเลย เอาแค่พกเฉยๆก็แรงมากแล้ว ท่านว่าเพียงพกอาราธนาไว้ จะช่วยกำจัดอริที่เข้ามาเบียดเบียน แม้รุกรานก็พินาศ แม้คิดมุ่งร้ายหมายชีวิตก็พินาศฉิบหายเจ็บตายมีอันเป็นไปต่างต่างนานา พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้อยู่กันยาก คนประจบสอพลอก็มีมาก คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่อาจหยั่งน้ำจิตน้ำใจของคนที่เราสมาคมหรือร่วมงาน ร่วมชีวิต ได้ ดังนั้นจึงทำให้กันไว้ดีกว่าแก้ทีหลัง วิชานี้ต่างคนต่างอยู่ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไม่รุกรานกัน ก็จะไม่มีเหตุการณ์สิ่งใดปรากฏ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งเราหมั่นเจริญพรหมวิหารตั้งจิตเป็นกุศลแผ่เมตตาอยู่เนืองๆ ตัวตะกรุดพิฆาตไพรีนี้จะยิ่งมีอานุภาพมาก ถึงกับกล่าวว่ายิ่งเราดีมากเท่าไหร่ ตะกรุดก็จะยิ่งแรงมากขึ้นเท่านั้นเป็นเงาตามตัวทีเดียว
    4. วายุผ่าอัศกรรณ วิชานี้ ท่านว่าเป็นวิชาของพระพาย เป็นวิชาสำคัญที่โดดเด่นและสามารถเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นคนที่โดดเด่นประสบความสำเร็จได้ ด้วยว่าจะช่วยให้เราชนะ ทำอะไรก็ดีกว่าคนอื่น เอาง่ายๆท่านว่าเจริญขึ้นจนคนมองและได้แต่มอง ตามอย่างไรพยายามเท่าไหร่ก็ตามไม่ทัน เหมือนดังวายุหรือพระพายที่พัดพานผ่ายอดเขาอัศกรรณนั้น ทั้งรวดเร็วและมีพลังรุนแรง ท่านว่าวิชานี้ก็เช่นกัน ช่วยให้สิ่งที่เราทำและคิดจะทำสำเร็จอย่างรดเร็ว และสำเร็จทันทีแบบรุนแรง มีอำนาจและพลังมาก ท่านว่าพกไว้ แล้วมันจะเปลี่ยนชีวิต เเม้เป็นคนเรียบๆง่ายๆก็ยังเด่นขึ้นมาได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติวิชานี้จะปกปิดกันไว้แต่สมัยโบราณ ที่เจ้าพระยาพานทองทั้งหลายเวลาได้ดิบได้ดี เลื่อนขั้นเลื่อนยศ เลื่อนแล้วเลื่อนอีกแถมเลื่อนซ้ำอีก จนผู้คนสงสัยในขณะที่บางคนผ่านไปสี่สิบปีก็ยังอยู่ที่เดิมไม่ไปไหน ท่านว่าทำไว้เพราะชีวิตคนสมัยนี้มันมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา เพราะเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก จะเรียน จะรัก จะทำงาน จะทำธุรกิจ แม้แต่จะใช้ชีวิต ก็ทุกวันนี้มีเรื่องอะไรที่เราไม่ต้องแข่งกับคนอื่นเขาบ้าง ท่านว่าเอาตัวเองให้รอด เอาตัวเองให้ดี และอย่าดีธรรมดา ต้องดีแล้วดีอีก ดีจนคนอื่นตามไม่ทันนั่นทีเดียวถึงจะอยู่ได้
    - ผงโองการเวทย์สวรรค์บรมพรหมสหัมบดี เป็นผงที่พ่ออาจารย์ท่านประกอบขึ้นมาจากว่านยาอาถรรพ์ ที่ต้องเลี้ยงดูแบบบเฉพาะเป็นกรณีพิเศษทั้งต้องรดด้วยน้ำทิพย์มุรธาภิเษกเป็นประจำทุกวัน เรียกว่าท่านทำเองทุกขั้นตอนตั้งแต่ปลูกว่าน กู้ว่าน เก็บว่าน บดว่าน ทำตัวยา จนมาประกอบปั้นเป็นแท่งผง เพื่อจะเขียนโองการเวทย์สวรรค์ของบรมพรหมครูใหญ่ คือท้าวสหัมบดี ซึ่งผงนี้ท่านว่าทำยากลบยาก เพราะท่านต้องเข้ากรรมฐานนั่งเขียนนั่งลบโดยสงัดเป็นปีมีสูตรและวิธีการซับซ้อน ลบแล้วปั้นใหม่ นำมาเขียนใหม่เวียนเป็นร้อยเป็นพันครั้ง ท่านว่าทำเป็นปีลบเอาแค่ผงทะลุกระดานได้แค่ขวดยาหม่อง เพื่อจะให้ได้ผงเวทย์สวรรค์ของบรมพรหมสหัมบดีโดยเฉพาะ ท่านว่า ผงนี้มีอานุภาพมาก ในใต้ฟ้าหมื่นห้วงจักรวาลนี้ปรารถนาสิ่งใดล้วนเป็นไปได้ทั้งสิ้น แม้นอาราธนาบูชาชีวิตจะเหมือนดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำแล้วไม่แปดเปื้อนด้วยโคลนตม ซ้ำจะช่วยให้เราหลีกเร้นจากการสมาคมด้วยคนชั่วทั้งหลาย ทำให้เราเจอมิตรที่ดีสังคมที่ดี และมีจิตสำนึกลึกๆค่อยๆปรากฏเด่นชัดขึ้นนั่นคือการระลึกถึงคุณความดีและตั้งอยู่ในคุณธรรมทั้งหลายพิจารณาเห็นความไม่เที่ยงทั้งหลายทั้งปวง ท่านว่าจิตจะประภัสสรค่อยๆเจริญๆขึ้นทีละระดับ มีพระนิพพานเป็นที่ไปในที่สุดแห่งภพ
    - น้ำมันเวทย์สั่งจิต (ใจดับสูญ) ท่านว่าท่านได้นำน้ำมันมะกอก มาหุงผสมกับน้ำมันกฤษณา ใส่ด้วยว่านยาอาถรรพ์จำนวนมาก ท่านว่าทำตามสูตรน้ำมันเวทย์สั่งจิต วิธีการทำนั้นท่านว่าไม่สามารถเผยแพร่ได้ แต่ไม่มีคุณผีคุณพรายอะไรทั้งสิ้น เป็นน้ำมันวิเศษที่มีคุณเฉพาะทางพ่ออาจารย์ท่านว่านั่นคือเวทย์สั่งจิต เป็นพลังที่สามารถดลจิตดลใจของผู้คนได้ เป็นที่สุดของสายวิชามหาเสน่ห์มหานิยมทีเดียว ท่านว่าสั่งจิตเขาได้ แรงสั่งได้นั่นเอง มีคุณไม่ต่างจากยาสั่งเลย แต่ไม่ได้เอาไว้สั่งตายหรือเอาไว้ทำร้ายใคร หากแต่เป็นสั่งเสน่ห์ สั่งให้เค้ารักเค้าเมตตาเรา เพียงตั้งจิตนึกถึงหน้าคนที่เราต้องการ ท่านว่าอยากทำอะไรก็ทำไปเถิด แต่อย่าให้ผิดศีลผิดธรรมก็พอ น้ำมันเวทย์สั่งจิตนี้ท่านว่าครูแรงนัก ถึงขั้นที่ว่าแม้นไม่ได้ไม่มาหาอกจะแตกตาย หัวใจจะดับสูญทันที พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องเสน่ห์นั้นท่านพูดมากไม่ได้เพราะมันพ้นวิสัยของท่าน ท่านพูดให้แนวทางไว้ว่าคิดเสียว่าพกอาราธนาไว้ให้คนเค้ารักเค้านิยมเราดีกว่า เอาเป็นว่าอยู่ที่ไหนก็มีแต่คนรัก ไม่มีใครกล้าเกลียด เพราะเค้าเกลียดเราไม่ลงนั่นเอง เท่านี้ชีวิตก็ดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุขแล้ว น้ำมันนี้หากปล่อยไว้ว่านยาวิเศษจะตกะกอนนอนก้นไปกลายเป็นน้ำมันสีเหลืองธรรมดา แต่หากเราจะใช้งานท่านว่าให้อธิษฐานจิตดีๆแล้วเขย่าน้ำมันจะเปลี่ยนเป็นสีแดงข้นและข้นมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ ท่านว่าสีแดงนี้เป็นมงคลดีนักใช้ดึงดูดโชคดีและความสุขเข้ามาในชีวิต ท่านว่าดีแล้วจะได้รับความสุขในทุกๆด้าน ทั้งโชคดี มีความสุข มีอายุอยู่ได้ยืนยาว


    พ่ออาจารย์ท่านสร้างและปลุกเสกมงคลยกแผ่นดินนี้ไว้ได้ทั้งหมดสิบขวด และท่านสั่งให้ส่งเลียมไว้ทุกขวดหลังจากที่มีคนจองและท่านอธิษฐานจิตประสิทธิ์ให้แล้ว ท่านว่าจะได้เอาไว้ใช้กัน ถ้าใช้แบบนี้จะไม่มีอันตราย ท่านกลัวว่าจะไปแกะจะไปเล่นกันเดี๋ยวน้ำมันจะหกจะเลอะแล้วต้องไปอาบน้ำมนต์ถอนเสน่ห์ถอนอาถรรพ์คุณวิชากันวุ่นวาย ดังนั้นรุ่นนี้เลยจะคิดค่าเลี่ยมพลาสติกกันน้ำเพิ่มไปในค่าบูชาเลยตามดำริของท่าน ซึ่งค่าเลี่ยมก็ตกอยู่ที่ 100 บาท


    ท่านได้อธิษฐานจิตไว้นานนับปี ท่านว่าน้ำมันนี้ทำยากเสกยาก เสกทีไรเจอแต่เรื่องผิดธรรมชาติต้องตามตำรา ท่านว่าพูดมากไปก้ไม่ได้ บางเรื่องตาเนื้อก็มองเห็น แต่บางเรื่องต้องใช้ตาในถึงจะมองเห็น ท่านว่าเป็นที่สุด และด้วยบารมีของพระวสิษฐ์มหามุนีที่ท่านเลือกท่านมองหาบุคคลที่มีบารมีคู่ควรกับท่าน พ่ออาจารย์ว่าใครเป็นเจ้าของจิตของเขาจะรู้สึกเอง ก็นี่ครูเขา เขาจะต้องมาอัญเชิญไปเอง มงคลยกแผ่นดินนี้เอาไว้ยกชะตาชีวิต เปลี่ยนดวงร้าย เปลี่ยนฐานชีวิต ใครมีบารมีต้องกันเขาจะมานำพาไปเอง


    คาถาบูชา(ระลึกถึงพระศิวะ และพระวสิษฐ์เป็นที่สุด)
    วะสิษฐะ กุมโภทะภะวะ เคาตะมารยะ มุนีนะทะระ เทวาระจิตะ เศขะรายะ จันทราระกะ ไวศะวานะระ โลจะนายะ ตัสไม วาการายะ นะมะศิวายะ

    * มงคลยกแผ่นดินนี้ เนื่องจากมีสิบขวดพอดี จึงได้ปรึกษากับพ่ออาจารย์ท่านแล้วว่าจะให้มีการแถมตะกรุดคู่ดูดทรัพย์ยุคแรกที่พ่ออาจารย์ท่านค้นเจอจำนวนสิบคู่ให้กับผู้ที่บูชด้วย โดยตะกรุดนี้จะมีจำนวนสองดอก คือแบบที่ถักเต็มดอก กับแบบที่ถักสามปล้อง พ่ออาจารย์ท่านว่าแบบที่ถักเต็มดอกนั้นให้พกติดตัวเราจะในกระเป๋าสตางค์หรือกางเกงก็ได้แต่ให้ดีที่สุดควรพกในกระเป๋าสตางค์ ส่วนอีกดอกนั้นที่ถักสามปล้อง ให้พกไว้ในที่เก็บเงินของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเซพหรือที่เก็บเงินเก็บสมบัติอะไร ท่านว่าถ้าหากนักก็ปักลงไปในถังใส่ข้าวก็ได้ จะช่วยให้การทำมาหากินของตนนั้นอุดมสมบูรณ์ แม้ใส่ในที่เก็บเงินก็ช่วยให้เงินทองการทำงานการทำธรุกิจเจริญงอกงามมีเงินเก็บเพิ่มพูนขึ้น ท่านว่าทั้งสองดอกนี้เป็นสื่อซึ่งกันและกัน แม้จะละลายกลายเป้นน้ำก็ยังใช้ได้ โดยดอกหนึ่งให้ติดตัว อีกดอกอยู่ในที่เก็บเงิน มีข้อแม้อย่างเดียวคือห้ามหายนั่นเอง
    * สำหรับผู้บูชามงคลยกแผ่นดินนี้ ก็รับจองเฉพาะทาง PM และให้แจ้งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดทาง PM ไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะเมตตาพิจารณาดวงของแต่ละท่านว่าขาดสูญสิ่งใดไป ท่านจะจารกำกับฝาขวดให้เป็นการเฉพาะเเต่ละคนก่อนจะส่งเลี่ยมต่อไป


    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยกแผ่นดิน{มหาพรหมฤาษีวสิษฐ์มุนี+สี่ตะกรุดเทียมครู+น้ำมันเวทย์สั่งจิต(ใจดับสูญ)}พร้อมเลี่ยม บูชา 4,100 บาท


    SL1026_1707.jpg image.jpg SAM_5330.jpg SAM_5331.jpg SAM_5327.jpg SAM_5328.jpg SAM_5326.jpg 122450907.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2017
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    วันนี้ผมไม่ได้ส่งของนะครับ เดี๋ยวส่งให้วันจันทร์
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ใครมีคำถามอะไรจะฝากก็ PM ไว้นะ พอดีผมมีอบรมเดี๋ยวเย็นๆจะมาตอบและดำเนินการให้
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ผมเข้าไปตอบ PM ให้ครบแล้วนะครับ ใครจะฝากอะไรก็ PM เรื่องทิ้งไว้เลย;)
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ปล่อยนก ปล่อยปลา

    เชื่อว่าหลายๆคนนะ คงจะมีการสะเดาะเคราะห์ปล่อยนกปล่อยปลากันเพราะเป็นกิจกรรมที่มีให้เห็นตามวัดอยู่แล้ว ทีนี้เราก็มาดูกันว่าไอ้ที่เราทำอยู่นี้มันถูกต้องแล้วหรือยัง ได้บุญกันเต็มที่แบบที่ควรจะเป็นหรือเปล่า แล้วทำอย่างไรถึงเรียกว่าจะได้บุญเต็มที่ วิธีนี้ก็แนะนำให้จดจำและทำตามไว้ไม่ใช่ว่าไหนๆก็ทำแล้ว แต่ทำอะไรก็อยากจะให้ตั้งใจ ทำให้มันดีที่สุดจริงๆ


    การสะเดาะเคราะห์ที่กลายเป็นบุญใหญ่ได้ หากรู้เคล็ด

    วิธีนี้นิยมกันมากตั้งแต่ครั้งโบราณกาล แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หลายคนทำแล้วไม่เห็นผล หรือไม่ได้บุญมากตามที่ปรารถนา เพราะขาดเคล็ดลับสำคัญ ซึ่งจะมาเผยแพร่ให้ทราบ

    ในการปล่อยสัตว์หรือต่อชีวิตสัตว์นั้น หลายคนเรียกว่า เป็นการสะเดาะเคราะห์ซึ่งก็แล้วแต่จิตจะพาไป แต่ในความเป็นจริงก็คือ เป็นการทำบุญใหญ่เป็นการช่วยต่อชีวิต ต่อโชคชะตา ให้เวลากับสัตว์ที่กำลังจะถึงที่ตายให้ได้มีชีวิตอีกครั้ง

    และเคล็ดสำคัญก็คือ ก่อนที่จะปล่อยสัตว์นั้น เมื่อได้ซื้อมาหรือ เจอ ณ ที่ใดก็ตามให้นำไปถวายกับพระสงฆ์เสียก่อน เพื่อเพิ่มบุญให้มากขึ้น

    เหตุเพราะว่า พระสงฆ์ที่รับนั้นมีความบริสุทธิ์และมีศีลมากกว่าเรา ท่านย่อมมีบุญมากกว่าเรา ยิ่งเป็นพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญมากแล้ว บุญนั้นจะเพิ่มเป็นหลายเท่า

    จากนั้นก็ขอทำการผาติกรรมชำระหนี้สงฆ์ หรือขอซื้อคืนมาจากท่าน แต่ที่สำคัญต้องจำไว้ให้มั่นก็คือ ต้องใช้ด้วยจำนวนเงินที่เท่ากับที่ซื้อสัตว์นั้นมา ถ้าจำนวนเงินที่ชำระหนี้สงฆ์มากกว่าก็จะเป็นการสร้างบุญเพิ่ม

    เมื่อพระสงฆ์ท่านร่วมอนุโมนาแผ่เมตตาแล้ว ก็นำไปปล่อยในที่สมควรต่อการที่สัตว์นั้นจะมีชีวิตอยู่ด้วยความสุข ซึ่งต้องอาศัยสติปัญญาในการพิจารณา

    เช่น ปลานั้นควรจะปล่อยในแม่น้ำที่ใสสะอาด ไม่เน่าเหม็นไม่ปล่อยในแอ่งน้ำหรือคูน้ำเล็กๆ เป็นอันขาด นกนั้นควรปล่อยในที่ๆ มีต้นไม้ใหญ่มีธรรมชาติไม่แห้งแล้งจนเกินไปนัก

    อานิสงส์ของบุญ ถ้าใครได้ทำตามนี้จะเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าจากการไปซื้อมาแล้วปล่อยตามยถากรรม แบบที่นิยมทำกันซึ่งนอกจากได้บุญน้อยแล้ว ยังได้บาปและกรรมกลับไปด้วย

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่นฐมน ET 0636 6001 3 TH

    พี่กฤตเมธ ET 0636 6002 7 TH

    พี่วันชัย ET 0636 6003 5 TH

    พี่สายเมธี ET 0636 6004 4 TH

    พี่เปรมยุดา ET 0636 6005 8 TH

    พี่ธีรพจน์ ET 0636 6006 1 TH

    พี่กฤตยช ET 0636 6007 5 TH

    * ชุดนี้ท่านที่มีรายการน้ำมันผมลืมใส่ตะกรุดโภคทรัพย์ที่แถมไป เดี๋ยวจะส่งให้อีกรอบวันนี้นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...