รับเปิดภาษาเทพ ทางโทรศัพท์ นะครับ

ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ปฏิบัติเลยคะ พี่แทน แค่สวดมนต์ก่อนนอนแค่นั้นเอง เฮ่อ แถมเวลานอนก็นอนไม่ค่อยหลับเอาเสียเลย เฮ่อ คิดมากไปหน่อยละมั้ง

 

ผมได้ทราบข่าวดีมา จึงจะรบกวนขอคำแนะนำบ้างครับ และมีเวลาจะโทรไปคุยครับ
พงษ์ธีระ 10/6/53

 

ขอบคุณมากครับพี่ได้ความรุ้เยอะ

จะตั้งใจปฏิบัติธรรมครับ

 

ไม่ทราบว่าสำหรับดิฉันถึงเวลาแล้วหรือยังคะ
ขอบคุณค่ะ พี่ฝน

 

พี่แทนคะ เวปออนแล้วหรือคะ เวปอะไรเอ่ย

 

คุณแทนค่ะ อยากทราบอีกอย่างก่อนที่จะตัดสินใจ หาก โทรไปเปิดแล้วอยากรู้ว่า เกี่ยวกันรึเปล่าว่า เราต้องเห็นในสิ่งที่กลัว คือวิญาณนะค่ะ

 

บางทีทำไม่ให้เห็นก็ไม่ง่ายนะครับ สำหรับบางท่านที่ถูกกำหนดให้เห็น หรือ สัมผัสแบบนั้นได้

แต่ที่อยากแนะนำ ก็คงเป็น ทำอย่างไร เราถึงจะไม่กลัว ไม่ปรุงแต่ง ให้เราทุกข์ กับ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา นะครับ

วงจร
รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ---> การปรุงแต่งของจิตว่าสิ่งที่เห็น น่ากลัว ---> ความกลัว



วิธีไม่ให้กลัว นะครับ
วิธี (ก) ปิดกั้น รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ที่เรากลัว นะครับ
เมื่อ ปิดกั้นอย่างนี้ ข้อมูลก็ไม่เข้า ก็ไม่มีอะไรให้ปรุงแต่ง ก็ไม่เกิดความกลัว นะครับ
แต่ยากที่เราจะ ปิดกั้นไม่ให้อะไรผ่านเข้ามา โดยสมบูรณ์ ตลอดไป นะครับ

วิธี (ข) ทำลายการปรุงแต่งของจิต ที่ก่อให้เกิดความกลัว นะครับ
สาเหตุหนึ่งของความกลัว อยู่ที่การปรุงแต่ง นะครับ
ถ้าเรายกเลิกการปรุงแต่งที่ก่อความกลัว เราก็จะเลิกกลัวได้ในที่สุด นะครับ
ข้อดีของวิธีนี้ คือ เราไม่จำเป็นต้อง ปิดหู ปิดตา ปิดปาก ปิดจมูกหรือปิดสัมผัสต่างๆ นะครับ
เรายังรับข้อมูลได้ทุกทาง แต่รู้จักคัดกรอง และไม่ปรุงแต่ง หรือ แสดงผล เป็นความทุกข์ หรืออารมณ์ ในทางลบ ต่างๆ นะครับ

รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส -----> วางเฉย ไม่ปรุงแต่ง ไม่วิจารณ์ ไม่แสดงอารมณ์ ไม่แสดงเวทนาว่าชอบ ไม่ชอบ -----> ไม่รู้สึก (ก็รวมถึงจะไม่รู้สึกกลัวด้วย)

เราเปลี่ยนได้นะครับ
เป็นวิทยาศาสตร์ ก็เรียกว่า การปรับเปลี่ยนจิตใต้สำนึก นะครับ
ทางศาสนา ก็จะเรียกว่า การเปลี่ยน การปรุงแต่ง การติดยึด (ทางเวทนา) อยู่ในส่วนของโมหะ นะครับ
ความกลัว จะถือว่าเป็นโมหะ(ความหลง) ก็ได้นะครับ คือ หลงไปกลัวเอง ทั้งทั้งทีไม่กลัวก็ได้ นะครับ
ไม่กลัว สบายใจกว่า เพราะ ไม่ต้องคอย หลีกหนี ในสิ่งที่กลัว นะครับ

ผ่านไปให้ได้นะครับ ซักวันก็ต้องผ่านไปให้ได้อยู่แล้ว นะครับ
เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะครับ
(^_^)

 

ก็พยายามไม่กลัวแต่หนูจะคอยบอกสิ่งที่เรียกว่าวิญญาณตลอดว่า ถ้าจะมา ให้มาในฝัน และพยายามอย่าให้น่ากลัว ถ้าทำได้น่ะ ห้ามมาให้เห็นแบบเป็นตัวเป็นตนเด็ดขาดเพราะกลัวมากๆๆ ค่ะ แต่เหมือนจะเห็นผลค่ะ เพราะ ส่วนมาก หรือทั้งหมดเท่าที่รู้จะมาในความฝัน ค่ะ และน่ากลัวบ้างไม่น่ากลัวบ้างแบบว่า รับได้ในส่วนหนึ่ง ส่วนมากก็จะมาในรูแฃปแบบการขอบุญ กุศลน่ะค่ะ
หนูจึงกลัวว่า ถ้า เปิดแล้ว จากที่ฝันเห็นอย่างเดียว จะกลายเป็นว่าจะได้ทั้งฝันและเห็นแบบเบิ้ล น่ะค่ะ แต่กับครูบาอาจารย์ก็ต้องการสื่อกับท่านให้ได้มากกว่านี้นอกจากในฝันค่ะ

 

ขอบคุณมากครับ สำหรับเมื่อคืนที่ท่านได้ช่วยเหลือเปิดภาษาเทพให้ ถึงแม้ว่าร่างกายยังไม่พร้อม ถ้าพร้อมแล้วเมื่อไหร่จะติดต่อไปรบกวนอีกครั้งครับ

ขออนุโมทนา สาธุ และขอขอบคุณครูบาจารย์ที่มีเมตตาช่วยเลือ

 

รบกวนช่วยดูให้ด้วย ว่าพร้อมหรือไม่ ก่อนที่จะโทรไป
หรือมีคำแนะนำอื่นๆ อนุโมทนาในทานที่ทำด้วย

 

อันนี้มะมีคำตอบแน่เยย แนะนำให้โทรไปลองเลยคร่า เห็นถามหลายคนแล้ว อิ อิ พี่แทนใจดีมากรับรองนิสสัยน่ารักเหมือนในรุปแห่ะ ฮ่าๆๆๆๆ

 

คุณแทนค่ะ ไม่ได้อยากเปิดภาษาเทพ แต่ว่าอยากทราบว่ามีอาจารย์กะเค้าบ้างมั้ยค่ะ ที่อยากทราบไม่ใช่อะไร เพราะอยากรู้ว่าเคยฝึกกรรมฐานมาก่อนแล้วเป็นวิํิธีการไหน จะได้ไปฝึกทางนั้นเผื่อถ้าต่อยอดมันจะได้ฝึกเร็วกว่า แต่อยากทราบแค่นี้ค่ะ เพราะว่าอยากฝึกด้วยตัวเอง ขอบคุณมากนะค่ะ

 

รบกวนสอบถามเกี่ยวกับอาการขนลุกนิดนึงค่ะ
บางครั้งอยู่เฉยๆ ขนหัวลุกซู่ เย็นบริเวณศรีษะ เป็นระยะ แล้วหายไป
เป็นการเตือนของครูบาอาจารย์รึป่าวค่ะ หรือเป็นวิญญาณอื่นๆ
ขอบคุณค่ะ

 

เปิดบารมี เป็นยังไงเหรอครับ แล้วจะส่งผลกับชีวิตได้มากน้อยขนาดไหนครับ ทำให้มีสัมผัสพิเศษได้รึเปล่าครับ

 

อยากทราบเหมือนกันค่ะ

ว่าตัวเองมีรึเปล่า

ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ

 

(^_^) ไม่ต้องเปิดก็ได้นะครับ

ส่วนของการปฏิบัติต่างๆ
การปฏิบัติแต่ละอย่าง จะส่งผลแตกต่างกันบ้างนะครับ เหมือนกับการอาหารที่เราทาน จะได้รับสารอาหารแต่ต่างกันออกไป นะครับ

เราควรทานอะไร ขึ้นอยู่กับ ว่าเราต้องการ ผลอย่างไร ด้วย นะครับ

ถ้าเราต้องการเน้นเพิ่มกล้ามเนื้อ ก็อาจเน้นทานโปรตีน (แต่ควรทานอย่างอื่น ไม่ให้บกพร่องด้วย)
ถ้าต้องการภูมิคุ้มกัน เพราะอาจจะไม่สบายบ่อย ก็อาจจะต้องเน้น ผัก ผลไม้ แต่ก็ให้ทานอย่างอื่นด้วยเช่นกันครับ

การปฏิบัติ มีให้เลือกหลายอย่าง กรรมฐาน ก็มีหลายแบบ และผลก็แตกต่างกันบ้าง นะครับ
อาจจะดูว่า ตัวเราต้องการอะไร
จะได้ปฏิบัติได้ถูกต้องตามผลที่คาดหวังนะครับ

ถ้าเราตอบว่า เราต้องการอะไร ได้แล้ว
อาจจะต้องดูว่า ทำไมถึงต้องการอย่างนั้น เพื่ออะไร ถ้าได้ผลอย่างนั้นแล้วอย่างไงต่อ
อาจจะได้มุมมองในการปฏิบัติ ใหม่ หรือ การหวังผล เปลี่ยนไป ในทางที่สมควรกับเรามากขึ้น นะครับ

 

การขนลุก เกิดได้จากหลายสาเหตุ นะครับ
จากจิตใต้สำนึก ก็มี จากสภาพอากาศ อุณหภูมิก็มี
หรือจากการสัมผัสดวงจิตต่างๆ ก็มี

การสัมผัสกับพลังงานที่มองไม่เห็น แล้วขนลุก ก็จะสามารถเกิดขึ้นได้ทั้ง
เวลาที่เราสัมผัสกับดวงจิตที่ดี หรือ ที่เป็นมิตรกับเรา
หรือจะเป็น ดวงจิตที่ไม่ดี หรือ ที่คิดร้ายกับเรา ก็แล้วแต่กรณีนะครับ

 

สำหรับการเปิดบารมี เปิดญาณ หรือ ต่อสัญญาเก่า(ส่วนที่ใช้ประโยชน์ได้)
ผู้ต่อให้คือองค์ครูบาอาจารย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่โทรมา เปิดให้ นะครับ

การเกี่ยวข้อง ก็มีทั้งที่ มีบุญสัมพันธ์ หรือบางท่าน เคยเป็นครูเป็นศิษย์กันมาก่อน นะครับ

อยู่ที่การร้องขอให้ท่านช่วยหรือไม่นะครับ
แต่อย่างน้อยเราควรพยายามเองด้วย และทำตนให้เป็นที่พึ่งของตนเอง
จะได้เอาตัวรอดในสถานการณ์ต่างๆได้ เพราะท่านอื่นอาจจะไม่ได้อยู่กับเรา ตลอดเวลา นะครับ

การเปิดในส่วนของญาณทางโลก นี้ จะเปิดไม่ยาก แต่จะอยู่ที่ความเหมาะสม นะครับ
ส่วนด้านของธรรมะ ก็จะมีของเก่าที่หลายๆท่านเคยผ่าน เช่นเคยบรรลุ เข้าใจ ธรรมะใดใด ในอดีตชาติมาก่อน ก็จะทำให้สิ่งต่างๆนั้น เข้ามาทำให้เราเข้าใจในชาติปัจจุบันมากขึ้น นะครับ

พูดง่ายๆ ก็คือ สัญญาเก่า นอกจากญาณ ก็เป็นไปได้ทั้งธรรมะ ต่างๆ ที่เคยบรรลุ
ด้วย นะครับ

ใครจะได้อะไรขึ้นอยู่กับสิ่งที่ทำกันมาด้วยนะครับ

สัญญา ตามความหมายของพุทธศาสนา คือ การจำได้หมายรู้ นะครับ

อาจสงสัยว่าทำไม วงเล็บว่า สัญญาเก่า ส่วนที่ใช้ประโยชน์ได้
ก็สัญญา ถือเป็น ขันธ์ ภาระติดพันของมนุษย์ ที่มีมาในอดีต
ถ้าเป็นสัญญาเก่า ส่วนที่ไม่ดี ก็อาจจะไม่ต้องจำเป็นต้องต่อยอด ให้แบกรับ ให้หนัก ให้ทุกข์ โดยใช่เหตุ นะครับ

สัญญาเก่า ส่วนที่เป็นประโยชน์ เพื่อผู้นั้น เอง หรือเพื่อ ส่วนรวม
ก็ต่อให้ แบกไว้นิดหนึ่ง แบกไว้ชั่วคราว จนกว่าจะวางทั้งหมด นะครับ

แบกส่วนที่เราคิดว่าจำเป็น แต่ปล่อยวางส่วนที่ไม่จำเป็น ไปก่อน ก็ได้ครับ
เพื่อ เราก็ได้ทำประโยชน์ ไปก่อน แล้วทุกข์น้อยเท่าที่เป็นไปได้
ยกเว้นถ้าเราหนักแน่นในการวางสิ่งต่างๆทั้งหมดในปัจจุบัน

แต่เรื่องนี้หลายคนมีกำหนด เช่น ขอช่วยผู้อื่น อีกกี่ชาติ แล้วจะพอแล้ว
กรณีแบบนี้ เป็นสัจจะ ถ้าจะเปลี่ยน ก็ควรถอนอันเก่า และอธิษฐานใหม่ นะครับ

บางท่านที่โทรมาเกิดเป็นชาติสุดท้าย ผมก็ไม่มีความจำเป็นต้องรั้งเอาไว้
เพราะการที่คนเราจะวาง ก็เป็นสิ่งที่ดี
แล้วตรงนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ดูแลแต่ละท่านก็ช่วยได้ นะครับ
เช่นการจัดฉาก ให้เราเข้าใจ จิตมากขึ้น นะครับ
แต่ทั้งนี้ สำคัญมากๆ จะขึ้นอยู่กับคนๆนั้นเอง ว่าจะเข้าใจหรือไม่

แต่ใครเป็นพระโพธิสัตว์ ผมก็รู้สึกดี เช่นกัน และเป็นกำลังใจให้
ถ้าเรามีภาระที่เราเต็มใจแบก ก็แบกส่วนที่จำเป็น อะไรไม่มีประโยชน์ ก็วางซะ
จะได้ช่วยผู้อื่นแบบเราทุกข์น้อย
การช่วยผู้อื่น อาจจะให้เรามีโอกาสรู้สึกทุกข์ เป็นผลข้างเคียง มากน้อย ตามแต่การยึดติดของจิต นะครับ

แล้ววันหนึ่ง หาโอกาส วางทั้งหมด แล้วกัน นะครับ
เพราะยิ่งเราวางได้มากเท่าไร เราก็มีโอกาสเป็นอิสระจากทุกข์ได้มากเท่านั้น

และก็เป็นสภาวะ ของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ที่สามารถเอาตัวรอดจากความทุกข์ได้ นะครับ

คิดให้ดีที่สุด แต่อย่าลืม ฝึกการไม่คิด
พูด หรือ สื่อสาร ให้ดีที่สุด แต่อย่าลืม ฝึกการไม่พูด
ทำให้ดีที่สุด แต่อย่าลืม ฝึกการไม่ทำ

ฝึกการทำจิตให้ว่าง ให้เป็น
ปล่อยให้เป็น
วางให้เป็น

จริงๆแล้ว อาจไม่มีอะไร ที่สำคัญกับเรา
จะมีแต่สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญ
สิ่งนั้นจะสำคํญอยู่ตราบเ่ท่าที่จิตปรุงแต่ง ว่าสำคัญ นะครับ

ท่านใดที่ผมช่วยได้ ก็ยินดีนะครับ(^_^)
ต่อไปผมอยากเปิดบ้าน อยากใช้ชื่อ บ้านจิตบำบัด เป็นสถานธรรม+คลีนิกสะกดจิตบำบัด

อาจเน้นทั้งโลกุตตระ และโลกียะ
ที่มีโลกียะเพราะเป็นกุศโลบาย ล่อคนให้มาสนใจได้ดี นะครับ

โลกียะก็อาจจะ เปิดญาณ ให้เขา เพราะเปิดทางโทรศัพท์ บางทีสัญญาณไม่ค่อยชัด นะครับ
แล้วก็คงมีการ ออกกรรม ให้คนที่มีเจ้ากรรมนายเวร นะครับ

และส่วนโลกุตตระ ก็คงจะสอนเน้น ด้านหลุดพ้น นะครับ
มีหลายองค์ท่านถนัดจัดฉาก ให้คนเข้าใจสัจจธรรม ถ้ามีคอร์ส ดูจิตแบบภาคปฏิบัติ และทดสอบอารมณ์ในรูปแบบต่างๆ
และช่วยหาข้อบกพร่องของญาติธรรม ก็น่าจะเกิดขึ้น นะครับ

และก็จะบวกทางวิทศาสตร์ เกี่ยวกับการสะกดจิตบำบัด นะครับ
เป็นเรื่องของจิตใต้สำนึกด้วยนะครับ

ถ้าเอา วิทยาศาสตร์ บูรณาการ ศาสนา ทั้งโลกุตตระ และโลกียะด้วย ก็น่าจะ ได้ผลดีขึ้น นะครับ

มีสถานที่แล้ว แต่ผมมีงานค้าง หนังสือ ยังไม่ได้ออกเลย

แต่ดีที่ทำเว็บแล้ว ถึงแม้เว็บก็ยังไม่เสร็จ แต่บางองค์บอกว่า ถือว่าทำแล้ว
ทำภาระกิจอื่นต่อได้ ก็คือทำหนังสือต่อ นะครับ

ส่วนเว็บเป็นดอท org นะครับ จะให้บอกชื่อเว็บก็เขิน นะครับ
เนื้อหาพอจะนับบรรทัดได้ (^_^)
ถ้าพร้อมก็จะเปิดตัว นะครับ

ส่วนหนังสือ ปีนี้ อาจยังไม่ได้เห็น นะครับ

ขอบคุณครูบาอาจารย์และดวงจิตไม่ว่าจะสถานะใดใดก็ตามที่มาช่วยให้ไปในทางที่ควร นะครับ
ขอบคุณ แทนคนที่โทรมาด้วย
บางคน คุณครูบาอาจารย์เปิดญาณให้ชัดกว่าผม ก็มี
(แอบน้อยใจ) แฮะๆๆ (^_^)

 

อนุโมทนาด้วยครับ พี่แทน
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=fzC9aFvXAII]YouTube - แบกภาระ_0001.wmv[/ame]

 

อยู่แถวไหนครับ
อาจจะรู้จักครับ