รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Xorce, 26 พฤศจิกายน 2008.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อนุโมทนาครับพี่ชัด ขออภัยที่ข้อความด้านบนพิมพ์ถูกๆผิดๆเพราะรีบพิมพ์บวกกับ มันมืด เพราะพักเที่ยงและก็เริ่มทำงานกันในตอนช่วงบ่ายเลยพิมพ์ถูกๆผิด ^^;
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 พฤษภาคม 2009
  2. oze

    oze Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +94
    ได้ลองอ่านดูบ้างแล้วคับ แต่สงสัยเพราะผมไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนเลยไม่ได้จับภาพ

    พระเพชรและไม่ได้กำหนดความเวิ้งว้างแต่รู้สึกว่ามันจะขึ้นของมันเอง ก็เลยไไม่รู้ว่า

    ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคืออะไร แต่ก็ขอขอบคุณมากนะคับ จะพระยายามฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น

    คับ ขอบคุณคับ
     
  3. thipphayawan

    thipphayawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +31
    สวัสดีค่ะ Khun Xorce

    หลังจากที่เล่าถึงประสบการณ์การนั่งสมาธิเมื่อจิตเคลื่อนตัวขึ้นไปอยู่กลางหน้าผากเองแล้ว ก็ฝึุกสมาธิอยู่เป็นประจำทุกวันนะคะ แต่มาตอนนี้เมื่อจิตสงบนิ่งดิ่งพอควรแล้วจิตมักจะเคลื่อนตัวขึ้นไปกลางหน้าผากอยู่ทุกครั้ง จนวันหนึ่งขณะที่ประคองจิตอยู่จุดนั้น ก็รู้สึกว่าตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไปมันว่างเปล่า เหลืออยู่แต่จุดนั้นเพียงจุดเดียวค่ะ นั่งได้สักพักจะออกจากสมาธิค่ะเพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนจึงทำให้รู้สึกกลัวค่ะ
     
  4. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    พี่ชัดขอความเห็นนอกเรื่องหน่อยนะครับ
    ไอเรื่องของพวกเครื่องลางของขลังนี่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมมากนักแต่ ได้ไปอ่านกระทู้นึงมา เลยมาพิจารณาดูว่า การที่อยากได้ทรัพย์สินแผ่นดิน ตัวอย่างเช่น ดิน น้ำ ไฟ มาเป็นของตัวเองนี่ก็ผิดมหัน ต้องไปใช้กรรมในนรก ใช่ไหมครับ
    แต่ ผมไม่ได้อยากได้หรือลักขโมยมา ผมได้ทอดมาจากพ่อผม เรื่องของเหล็กไหล ผมไม่รู้หรอกว่าตอนที่ได้มานั้นชอบธรรมรึเปล่า เพราะผมมีพลังจิตไม่พอที่จะดูพลังในพระองค์นั้น หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังรวมกันอยู่ ไม่ถึงขนาดนั้น พี่ชัดช่วยดูให้หน่อยได้รึเปล่าครับ
     
  5. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่อและอันนี้ถามเข้าเรื่องล่ะ ^^ ผมควรจะทำอารมณ์แผ่เมตตาอยู่ตลอดเวลาแทน การทำสมาธิที่เรากำหนด ได้รึเปล่าครับ เพราะ สมาธิส่วนหนึ่งผมต้องใช้ในการทำงานทางโลก มันจะปนเปสับสน แต่บางครั้งก็เข้าสมาธิได้ บางครั้งก็ไม่ได้แต่ สำหรับแผ่เมตตานั้น ผมรู้สึกว่าผมจะคงอารมณ์ได้ตลอดและนานกว่าหน่ะครับ หรือ ผมควรกำหนดสมาธิรูปพระ เหมือนเดิมดีครับ
     
  6. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ oze ครับ

    ได้ลองอ่านดูบ้างแล้วคับ แต่สงสัยเพราะผมไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนเลยไม่ได้จับภาพ

    พระเพชรและไม่ได้กำหนดความเวิ้งว้างแต่รู้สึกว่ามันจะขึ้นของมันเอง ก็เลยไไม่รู้ว่า

    ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันคืออะไร แต่ก็ขอขอบคุณมากนะคับ จะพระยายามฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น

    คับ ขอบคุณคับ<!-- google_ad_section_end -->

    ที่ขึ้นมาเองเพราะเป็นของเก่าที่เคยฝึกมาก่อนน่ะครับ
    คราวนี้เรามาทำให้ละเอียด ทีละขั้นอีกที คิดว่าสามารถจะทำได้สบายครับ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
  7. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ thippayawan ครับ

    หลังจากที่เล่าถึงประสบการณ์การนั่งสมาธิเมื่อจิตเคลื่อนตัวขึ้นไปอยู่กลางหน้าผากเองแล้ว ก็ฝึุกสมาธิอยู่เป็นประจำทุกวันนะคะ แต่มาตอนนี้เมื่อจิตสงบนิ่งดิ่งพอควรแล้วจิตมักจะเคลื่อนตัวขึ้นไปกลางหน้าผากอยู่ทุกครั้ง จนวันหนึ่งขณะที่ประคองจิตอยู่จุดนั้น ก็รู้สึกว่าตั้งแต่ช่วงหน้าอกลงไปมันว่างเปล่า เหลืออยู่แต่จุดนั้นเพียงจุดเดียวค่ะ นั่งได้สักพักจะออกจากสมาธิค่ะเพราะไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนจึงทำให้รู้สึกกลัวค่ะ<!-- google_ad_section_end -->

    จิตเข้าเป็นฌาณละเอียดครับ
    เราจะรู้สึกว่าร่างกายหายไป

    ถ้าเราไม่กลัว และประคองสมาธิต่อไปนะครับ
    จะรู้สึกว่า ร่างกายหายไป และตัวเรา จะกลายเป็นดวงกลมๆ
    เป็นดวงจิตที่ลอย สงบ นิ่งๆ อยู่

    ครั้งต่อไปเราไม่ต้องกลัวนะครับ
    และหลังจากที่เราเข้าไปอยู่ในสภาวะนั้นแล้ว

    ให้เราตั้งจิตอธิษฐาน ปักหมุดไว้ด้วยนะครับ

    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งสภาวะนี้ได้ ทุกสถานที่ ทุกเวลา ทุกภพชาติ ทุกครั้งที่ข้าพเจ้าต้องการ ตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ

    อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง

    และให้เราประคองสมาธิไว้นานเท่าที่เราต้องการเลยครับ

    ขอให้สามารถเอาชนะความกลัว และเข้าถึงซึ่งความสงบได้อย่างง่ายดายด้วยเทอญ
     
  8. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12 ครับ

    พี่ชัดขอความเห็นนอกเรื่องหน่อยนะครับ
    ไอเรื่องของพวกเครื่องลางของขลังนี่ มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผมมากนักแต่ ได้ไปอ่านกระทู้นึงมา เลยมาพิจารณาดูว่า การที่อยากได้ทรัพย์สินแผ่นดิน ตัวอย่างเช่น ดิน น้ำ ไฟ มาเป็นของตัวเองนี่ก็ผิดมหัน ต้องไปใช้กรรมในนรก ใช่ไหมครับ

    ถ้าสมบัติเป็นของสาธารณะแล้วเราไปเอามาเป้นของเราคนเดียวนี่ ผิดแน่นอนครับ

    แต่นี่สืบทอดมา เราไม่ได้ไปลักโขมยมาจากวัดนี่ครับ

    แต่ ผมไม่ได้อยากได้หรือลักขโมยมา ผมได้ทอดมาจากพ่อผม เรื่องของเหล็กไหล ผมไม่รู้หรอกว่าตอนที่ได้มานั้นชอบธรรมรึเปล่า เพราะผมมีพลังจิตไม่พอที่จะดูพลังในพระองค์นั้น หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังรวมกันอยู่ ไม่ถึงขนาดนั้น พี่ชัดช่วยดูให้หน่อยได้รึเปล่าครับ

    จริงๆ สัมผัสพลังนี่<!-- google_ad_section_end --> สมาธิเล็กน้อยก็พอจะสัมผัสได้แล้วครับ

    วิธีนะครับ ให้เราใช้มือข้างที่ถนัด จับไปที่วัตถุนะครับ
    และเราก็ตั้งจิต จับภาพพระให้เป็นเพชรด้วยจะยิ่งดีครับ
    ขอบารมีพระท่าน ขอให้ข้าพเจ้าสามารถสัมผัสพุทธบารมีของวัตถุชิ้นนี้ได้ด้วยเทอญ
    แล้วเราก็จะสัมผัสได้ ถึงคลื่นความเย็นครับ

    แต่พยายามอย่ายึดติดมากครับ พระเครื่องเป็นพระจริงหมด พระปลอมไม่มี
    อยู่ที่ว่าศรัทธาของเราจริง หรือศรัทธาของเราปลอมครับ

    อ่อและอันนี้ถามเข้าเรื่องล่ะ ^^ ผมควรจะทำอารมณ์แผ่เมตตาอยู่ตลอดเวลาแทน การทำสมาธิที่เรากำหนด ได้รึเปล่าครับ เพราะ สมาธิส่วนหนึ่งผมต้องใช้ในการทำงานทางโลก มันจะปนเปสับสน แต่บางครั้งก็เข้าสมาธิได้ บางครั้งก็ไม่ได้แต่ สำหรับแผ่เมตตานั้น ผมรู้สึกว่าผมจะคงอารมณ์ได้ตลอดและนานกว่าหน่ะครับ หรือ ผมควรกำหนดสมาธิรูปพระ เหมือนเดิมดีครับ<!-- google_ad_section_end -->

    เมตตา เป็นอารมณ์สมาธิที่ละเอียดกว่าสมาธิธรรมดาครับ
    เพราะสมาธิธรรมดา จะเป็น อารมณ์นิ่งๆ เฉยๆ
    แต่เมตตา จะมีความชุ่มเย็น อิ่มเอิบ อิ่มเอม เป็นตัวสุขจากสมาธิ
    ถ้าเราสามารถประคองเมตตา ได้ตลอดเลยยิ่งดีครับ ตายเมื่อไหร่อย่างต่ำสุดเป็นพรหมเท่านั้น
    เพราะจิตจะประคองฌาณเอาไว้ตลอดครับ

    แต่ภาพพระก็ไม่ควรทิ้งครับ ให้เราประคองไว้ทั้งภาพพระ และเมตตาครับ
    ให้เราประคองเท่าที่เราสามารถทำได้ครับ ถ้าได้ตลอดก็ตลอดครับ ถ้าไม่ได้ตลอด ก็ไม่เป็นไรครับ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป และเข้าถึงซึ่งอารมณ์แห่งเมตตาอัปปมาณฌาณ ที่ละเอียดยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ
     
  9. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    เมื่อตอนเย็นวันนี้ฝนตก ผมนั่งอยู่ในรถเมย์ ผมได้กำหนดรูปพระและก็ขอบารมีท่านช่วยให้ข้าพระพุทธเจ้าได้แผ่เมตตาได้ทั่วถึงทุกสารทิศแต่ การแผ่เมตตาออกไปไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่นักเพราะสมาธิผมอยู่ที่ พระรูปหนึ่ง ประดุจเหมือน พระพุทธเจ้าเพิ่ง ออกพระหนวด แต่ ทรงมีร่างกายคล้ายมนุษย์คล้ายพระพุทธรูปที่ดูแล้วแยกไม่ออก ที่รวมกันอยู่ มีประกายสีทองอำไพร สาดส่องเฉิดฉายเจิดจ้า ผิวพรรณ์ นี่ไม่ต้องพูดถึง สวยสดงดงามมากๆ ประกายเพรชก็มีแต่โดนรัสมีแสงสีทองบดบัง เพราะสว่างจ้ามากกว่า
    ท่านกล่าวอะไรผมก็ฟังไม่ได้ยินเห็นแต่ปากของท่านขยับคล้ายกับจะสนทนา ปากผมก็ขยับ มันขยับเอง ราวกับว่าผม ได้สนทนากับพระองค์หรือพระท่านได้มาบอกกล่าวอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่แน่ใจเพราะผมไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ ผมจะรู้สึกว่าลืมตาจะชัดเจนกว่าหลับตานะ แต่หลับตามันจะนิ่งกว่าลืมตา

    พอตกดึกเมื่อสักครู่นี้ผมไม่ได้สวดมนต์อะไรเลยแต่ผมนั่งสมาธิแบบไม่ได้ตั้งใจหรือ นั่งอยู่แต่ อยู่ๆมันก็เข้าสมาธิเอง โดยที่ผมนั่งเล่นสักพัก
    ในขณะนั้น หูที่ได้ยินเสียง มันก็กลับไม่ได้ยินเพราะเสียงคล้ายๆกับ วิ้วๆๆในหูมันกลบเสียงอื่นๆหมด แต่ก็ไม่ได้สนใจในเสียง วิ้งๆ นั้น มันก็เลยไม่ได้ยินอะไร แต่ก็ได้ยินเบามากๆ พอนั่งได้สักพักแล้วก็ หลับตาแล้วก็ภาวนาขอบารมีของพระพุทธเจ้าให้ข้าพเจ้าแผ่เมตตาให้มีพลังแผ่ขยายที่มากขึ้น เพราะปรกติผมจะแผ่ได้ไกลนะ ถึงจะไกลแต่ก็น้อย แต่ก็ ไม่มากเท่าใดนัก ซึ่ง ผมรู้ได้ทันทีว่า กำลังใจและพลังของพลังจิตผมสูงขึ้น ผมก็ตกใจว่า กำลังใจผมทำไมอยู่ก็สูงขนาดนี้ เพราะ หลังจากที่ผมแผ่เมตตาให้กับ พระพุทธเจ้าและพอหลังจะที่แผ่เมตตาให้กับท่านท้าวยมราช ขนก็ลุกพรุ่งปรี๊ดขึ้นไปจากก้นกบพุ้งขึ้นไปยังศรีษะและสักพัก โสตประสาทผมก็หายไปเร็วมากมีความรู้สึกแค่เพียง จมูก บริเวณคิ้วแล้วก็หู และเส้นผมบางเส้นที่กำลังลอยอยู่เท่านั้น ที่เหลือนอกจากนั้นผมไม่รู้สึกเลย ในจิตผมก็อธิฐาน(ปักหมุดได้ครึ่งเดียว เพราะมันยังไม่ชินมันเร็วมากๆ และก็นึกถึงพระนิพพานอย่างเดียวเลยอย่างอืนก็มีบ้างหลุดมา) เป็นประสบการณ์ที่ผมตกใจมากๆเลยมาเล่าให้ฟังครับ ตอนนี้ไม่ได้ขนลุกนะแต่มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นเลยทีเดียว ขอบคุณคับ อนุโมทนาครับพี่ชัด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 พฤษภาคม 2009
  10. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    อ่อ พี่ชัดครับ อันนี้ผมอธิฐานน้ำตาก็ไหลพลากตั้งแต่เริ่มอธิฐานเลยเป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ และก็ทำให้กำลังใจเพิ่มขึ้นไปได้อีกถึงจะไม่มากก็รู้สึกดีมากๆเลยครับ
    ผมได้อธิฐานตามกระทู้นี้ครับ
    http://palungjit.org/threads/สุดยอด-คำมหาอธิษฐาน-สำหรับอธิษฐานบารมี.188495/
     
  11. thipphayawan

    thipphayawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +31
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำค่ะ Khun Xorce
     
  12. SONICx

    SONICx เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +225
    ขอความกรุณษจากผู้รู้ให้ความกระจ่างด้วยครับ
    ผมสกดจิตตนเองจนเข้าถึงสู่ภวังค์ปัจเฉท (มักทำก่อนนอน)ที่รู้เพราะอาการแสดงให้รู้ตามนั้น และผมนั่งสมาธิทุกเช้าครับ (เริ่ม ตี 4 เกือบทุกวัน) เข้าถึงภาวะที่ลืมหายใจ แต่ผลสุดท้ายเหมือนกันครับ สงบ สบายอย่างบอกไม่ถูก.

    ผมมีข้อสงสัยดังนี้ครับ
    1. สกดจิตตนเองเพื่อเข้าภวังค์บ่อยๆมีผลเสียมั้ยครับ?
    2. ผิดมั้ยถ้าผมจะลเอกวิธีสกดจิตตนเองเพื่อเข้าภวังค์แทนการนั่งสมาธิเพราะเข้าง่ายกว่ากันเยอะ?
    ขอท่านผู้รู้ช่วยให้ความกระจ่างด้วยครับ ผมกลัวหลงทาง!!!!!!!!
     
  13. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ makoto12ครับ

    เมื่อตอนเย็นวันนี้ฝนตก ผมนั่งอยู่ในรถเมย์ ผมได้กำหนดรูปพระและก็ขอบารมีท่านช่วยให้ข้าพระพุทธเจ้าได้แผ่เมตตาได้ทั่วถึงทุกสารทิศแต่ การแผ่เมตตาออกไปไม่ค่อยมีมากเท่าไหร่นักเพราะสมาธิผมอยู่ที่ พระรูปหนึ่ง ประดุจเหมือน พระพุทธเจ้าเพิ่ง ออกพระหนวด แต่ ทรงมีร่างกายคล้ายมนุษย์คล้ายพระพุทธรูปที่ดูแล้วแยกไม่ออก ที่รวมกันอยู่ มีประกายสีทองอำไพร สาดส่องเฉิดฉายเจิดจ้า ผิวพรรณ์ นี่ไม่ต้องพูดถึง สวยสดงดงามมากๆ ประกายเพรชก็มีแต่โดนรัสมีแสงสีทองบดบัง เพราะสว่างจ้ามากกว่า
    ท่านกล่าวอะไรผมก็ฟังไม่ได้ยินเห็นแต่ปากของท่านขยับคล้ายกับจะสนทนา ปากผมก็ขยับ มันขยับเอง ราวกับว่าผม ได้สนทนากับพระองค์หรือพระท่านได้มาบอกกล่าวอะไรสักอย่าง ผมก็ไม่แน่ใจเพราะผมไม่ได้ยินอะไรเลย แต่ ผมจะรู้สึกว่าลืมตาจะชัดเจนกว่าหลับตานะ แต่หลับตามันจะนิ่งกว่าลืมตา

    พอตกดึกเมื่อสักครู่นี้ผมไม่ได้สวดมนต์อะไรเลยแต่ผมนั่งสมาธิแบบไม่ได้ตั้งใจหรือ นั่งอยู่แต่ อยู่ๆมันก็เข้าสมาธิเอง โดยที่ผมนั่งเล่นสักพัก
    ในขณะนั้น หูที่ได้ยินเสียง มันก็กลับไม่ได้ยินเพราะเสียงคล้ายๆกับ วิ้วๆๆในหูมันกลบเสียงอื่นๆหมด แต่ก็ไม่ได้สนใจในเสียง วิ้งๆ นั้น มันก็เลยไม่ได้ยินอะไร แต่ก็ได้ยินเบามากๆ พอนั่งได้สักพักแล้วก็ หลับตาแล้วก็ภาวนาขอบารมีของพระพุทธเจ้าให้ข้าพเจ้าแผ่เมตตาให้มีพลังแผ่ขยายที่มากขึ้น เพราะปรกติผมจะแผ่ได้ไกลนะ ถึงจะไกลแต่ก็น้อย แต่ก็ ไม่มากเท่าใดนัก ซึ่ง ผมรู้ได้ทันทีว่า กำลังใจและพลังของพลังจิตผมสูงขึ้น ผมก็ตกใจว่า กำลังใจผมทำไมอยู่ก็สูงขนาดนี้ เพราะ หลังจากที่ผมแผ่เมตตาให้กับ พระพุทธเจ้าและพอหลังจะที่แผ่เมตตาให้กับท่านท้าวยมราช ขนก็ลุกพรุ่งปรี๊ดขึ้นไปจากก้นกบพุ้งขึ้นไปยังศรีษะและสักพัก โสตประสาทผมก็หายไปเร็วมากมีความรู้สึกแค่เพียง จมูก บริเวณคิ้วแล้วก็หู และเส้นผมบางเส้นที่กำลังลอยอยู่เท่านั้น ที่เหลือนอกจากนั้นผมไม่รู้สึกเลย ในจิตผมก็อธิฐาน(ปักหมุดได้ครึ่งเดียว เพราะมันยังไม่ชินมันเร็วมากๆ และก็นึกถึงพระนิพพานอย่างเดียวเลยอย่างอืนก็มีบ้างหลุดมา) เป็นประสบการณ์ที่ผมตกใจมากๆเลยมาเล่าให้ฟังครับ ตอนนี้ไม่ได้ขนลุกนะแต่มีกำลังใจเพิ่มมากขึ้นเลยทีเดียว ขอบคุณคับ อนุโมทนาครับพี่ชัด<!-- google_ad_section_end -->

    อนุโมทนาด้วยครับ

    การแผ่เมตตาด้วยกำลังของเรา กับกำลังของพระท่านย่อมต่างกัน
    อย่างที่เราได้สัมผัสนั่นแหละครับ
    ที่แผ่เมตตาได้กว้างขึ้น เป็นกำลังของพระท่านครับ อย่าเผลอคิดว่าเป็นกำลังของเรานะครับ


    และอย่าลืมนะครับ ว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร
    ให้เราขอบารมีพระก่อนเสมอ
    และทุกอย่างจะสำเร็จได้ด้วยดีครับ

    ขอให้ตั้งใจทรงภาพพุทธนิมิตต่อไป และเจริญก้าวหน้าในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2009
  14. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ SONICx ครับ

    ตอนนี้ขอให้ลองอธิบาย วิธีการที่คุณใช้สะกดจิตตัวเองด้วยครับ


    บางครั้งเราอาจจะเข้าใจสองสิ่งนี้ คลาดเคลื่อนไปได้ครับ

    ผมจึงอยากจะทราบว่า ณ ตอนนี้ ในความเข้าใจของคุณ สิ่งใดคือการสะกดจิต และสิ่งใดคือสมาธิครับ


    กสิณ เป็นภาพที่เราเห็นในจิตของเราครับ
    เหมือนกับความคิด หรือจินตภาพครับ ไม่ได้เห็นด้วยตาเนื้อครับ

    และกสิณ กับ มโนมยิทธิ ไม่ใช่การสะกดจิตนะครับ

    เพราะการสะกดจิต เราจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และลงเอยด้วยการตกภวังค์
    หรือคล้ายกับการหลับ จะไม่มีสติ ไม่รู้ตัว


    แต่ทั้งกสิณและมโนมยิทธิ จะต้องฝึกในขณะที่เรามีสติตลอด
    เพราะเราจะต้องสนทนาโต้ตอบกับครูฝึกตลอดเวลา
    ดังนั้นทั้งกสิณ และมโนมยิทธิ ไม่สามารถจะฝึกได้หากเราถูกสะกดจิตครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤษภาคม 2009
  15. Actives

    Actives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +2,266
    พึ่งฝึกสมาธิ รบกวนขอคำแนะนำด้วยครับ คือฝึกไม่ไปถึงไหนเลย ค่อยๆพยายามมาหลายเดือนแล้ว ผมมีปัญหาอยู่ว่า ฝึกถึงจุดๆหนึ่งจิตเริ่มนิ่งแล้วไม่ฝุ่งซ้าน จะรู้สึกเหมือนอยู่ดีๆ มันหวิว คล้ายๆจะหลับไปเลย แต่ด้วยการที่ผมนั่งอยู่ กายก็ผงะ คล้ายจะล้มแล้วรู้สึกตัว และก็หลุดออกจากสมาธิ ทั้งที่พยามตั้งสติ แล้วตอนนั้นไม่ได้ง่วงด้วย ... เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลย

    ลองนอนสมาธิดูพอถึงจุดๆนี้ ก็หลัยไปเลยแบบไม่รู้ตัว

    ที่นั่งได้นานๆ ก็จะมีหลุดสมาธิอยุ่บ้าง คือไม่นิ่ง ยังมีความคิดอยู่บ้าง แต่ทำได้นานๆ สมองมันโล่งๆ และอิ่มสุขดี รบกวนแนะนำด้วยครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  16. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Actives ครับ

    สวัสดีครับ

    อนุโมทนากับ ความตั้งใจในการปฏิบัติด้วยครับ

    ไม่ทราบว่าเวลาที่เราทำสมาธินี่ เราใช้วิธีใดครับ
    เราภาวนาพุทโธ ดูลมหายใจ หรือว่าใช้วิธีใดครับ
     
  17. Actives

    Actives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +2,266
    สวัสดีครับ ผมก็ลองผิดลองถูกตามที่อ่านเจอ ครับ ปรกติภาวนาพุทโธครับ เคยลองยุบหนอ พองหนอ แล้วไม่ทัน
    ตอนเริ่มทำทุกครั้งก็ภาวนาพุทโธครับ พอได้สักพักคำภาวนาก็จะหายไปเอง แต่ยังจับลมหายใจอยู่ ถ้าหลุดมากๆ เหมือนดังที่กล่าวข้างต้น ผมก็ต้องมานั่งภาวนาพุทโธใหม่ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยครับ

    อนุโมทนาครับ
     
  18. thipphayawan

    thipphayawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +31
    เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาหลังจากที่นั่งสมาธิแล้วก็นอนพักผ่อนค่ะ แต่ในขณะที่นอนอยู่จิตก็ยังคงอยู่กับสมาธิแล้วรู้สึกว่ากายของตัวเองลอยอยู่เหนือที่นอนอยู่สักพัก จากนั้นก็หลับไปค่ะ นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกหลังจากที่นั่งสมาธิมาได้เกือบ 2 ปี ก่อนนั้นเวลาที่เคลิ้มๆจะหลับจะรู้สึกว่าจิตวูบอยู่บ่อยๆค่ะ
     
  19. นายเมธี12

    นายเมธี12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +540
    คำว่าไตรรักษณ์ คืออะไรคับ
     
  20. Xorce

    Xorce เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,369
    ค่าพลัง:
    +4,400
    ถึงคุณ Actives ครับ

    สวัสดีครับ ผมก็ลองผิดลองถูกตามที่อ่านเจอ ครับ ปรกติภาวนาพุทโธครับ เคยลองยุบหนอ พองหนอ แล้วไม่ทัน
    ตอนเริ่มทำทุกครั้งก็ภาวนาพุทโธครับ พอได้สักพักคำภาวนาก็จะหายไปเอง แต่ยังจับลมหายใจอยู่ ถ้าหลุดมากๆ เหมือนดังที่กล่าวข้างต้น ผมก็ต้องมานั่งภาวนาพุทโธใหม่ เป็นแบบนี้ทุกครั้งเลยครับ

    ให้เราจดจำอารมณ์ที่คำภาวนาหายไปนะครับ
    แล้วก็อธิษฐานปักหมุดเอาไว้

    ขอให้ข้าพเจ้าสามารถเข้าถึงซึ่งอารมณ์ระดับนี้ ได้ทุกครั้ง ทุกเวลา ทุกสถานที่ ที่ข้าพเจ้าต้องการตราบเท่าเข้าถึงซึ่งพระนิพพานด้วยเทอญ

    อธิษฐานย้ำไปสามครั้ง


    แล้วให้เราเริ่มทำสมาธิจากจุดที่คำภาวนาหายไปเลยครับ
    ไม่จำเป็นจะต้องเริ่มพุทโธ ใหม่ ทุกๆครั้งครับ

    จากจุดนี้ ก็ให้เราตามดูลมหายใจไปเรื่อยๆครับ
    ลมหายใจของเราก็จะละเอียด ช้าลงๆเรื่อยๆ
    จนกระทั่ง ลมหายใจหายหรือหยุดไปครับ
    จากนั้นก็ให้เราประคองความสงบนิ่งของจิต อาการที่ลมหายใจหายไป เอาไว้นานตามที่เราต้องการเลยครับ

    สิ่งที่สำคัญนะครับ คือหากวันไหนเรารู้สึกว่าเรามีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ
    ให้เราอธิษฐานปักหมุด จดจำอารมณ์ของเราเอาไว้
    เพื่อที่ในครั้งต่อไปเราจะได้เริ่มจากอารมณ์ที่เราทำได้ในครั้งก่อน
    โดยไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นครับ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...