รวมคำทำนายและวิเคราะห์ภัยพิบัติ - What's Next ?

ขอบคุณคุณhiflyerสำหรับการไขข้อมูลเรื่องนี้ค่ะ โพสต์ข้างบนสำคัญค่ะ เพราะเป็นปัจจัยที่เราต้องคอยสังเกตกันต่อไป โดยเฉพาะแมนเทิลและลาวารอบแกนโลก ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลให้ภูเขาไฟปะทุถี่ขึ้น?
ส่วนตัวคิดว่าการเปลี่ยนแปลงแม่เหล็กเหนือเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เว้นแต่มีปัจจัยเร่งค่ะ ซึ่งไม่มีใครคาดเดาได้อีก ผลกระทบคือระบบส่งสัญญาณ การสื่อสารโทรคมนาคม และการดำรงชีพของพวกสัตว์บางชนิด
การติดตามข้อมูลและตรวจสอบข้อมูลอย่างที่เราเป็นมาเสมอตั้งแต่ปีที่แล้ว เป็นประโยชน์สูงสุดของบอร์ดนี้ค่ะ...ดูแหล่งข้อมูล และตรวจสอบความน่าเชื่อถือ

 

ผมยังสงสัยเหมือนกันว่า ทำไม NOAA ถึงได้แก้ไขข้อมูลเดิม ช่วงปี 2001-2010 ดูแล้วก็คล้ายกับ USGS ที่ชอบปรับตัวเลข และส่วนใหญ่ก็จะปรับลด ผมค่อนข้างเชื่อถือตัวเลขของหน่วยงานญี่ปุ่นนะ WDC, Kyoto



หมุด แทน ค่าดั้งเดิม ส่วน วงกลม แทน ค่าที่ปรับแก้แล้ว



การย้ายตำแหน่งของ Magnetic North Pole มีอัตราความเร็วสูงขึ้นในช่วงเกือบ 20 ปีนี้เอง



แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า มันจะมุ่งตรงไปเรื่อยๆ เป็นเส้นตรง เพราะนั่นมันอุดมคติเกินไป จากรูปข้างบน 2000 ปีที่ผ่านมา ขั้วโลกเหนือแม่เหล็กก็วนเวียนอยู่ใน Arctic Circle มาตลอด อาจเป็นไปได้ว่า อีกไม่นานคงจะได้เห็น มันเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา หรือไม่ก็วกกลับ นะครับ


.

 

ขั้วแม่เหล็กแบ่งออกได้เป็นสองแบบ คือ

1. ขั้วแม่เหล็ก (magnetic poles)

2. ขั้วแม่เหล็กโลก (geomagnetic poles)

ขั้วแม่เหล็กคือตำแหน่งบนโลกที่สนามแม่เหล็กโลกมีทิศทางในแนวดิ่ง กล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า ความเอียงของสนามแม่เหล็กโลกที่ขั้วแม่เหล็กเหนือมีค่าเป็น 90 องศา ในขณะที่ความเอียงของสนามแม่เหล็กโลกที่ขั้วใต้มีค่าเป็น -90 องศา ดังนั้นเมื่อเอาเข็มทิศปกติ (ซึ่งปกติจะหมุนได้เฉาะในแนวขวาง) ไปไว้ที่ขั้วแม่เหล็กเหนือหรือขั้วแม่เหล็กใต้ มันจะหมุนแบบสุ่มแทนที่จะชี้ไปทิศเหนือ

สนามแม่เหล็กโลกอาจประมาณได้ว่าเป็นสนามแบบไดโพล ซึ่งไดโพลนั้นมีตำแหน่งอยู่ที่ใจกลางโลก และไดโพลนั้นก็เป็นแกนของสนามแม่เหล็กโลกด้วย เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกไม่ได้เป็นไดโพลแบบสมบูรณ์ จึงทำให้ขั้วแม่เหล็กกับขั้วแม่เหล็กโลกอยู่คนละตำแหน่งกัน






.

 

ตำแหน่งของขั้วแม่เหล็กไม่ได้อยู่นิ่งกับที่ แต่จะเคลื่อนไปประมาณ 15 กิโลเมตรต่อปี เนื่องจากสนามแม่เหล็กโลกมีการเปลี่ยนแปลงขนาดและตำแหน่งอยู่ตลอด ขั้วแม่เหล็กทั้งสองมีการเคลื่อนตัวตลอดเวลา และไม่ขึ้นแก่กัน ปัจจุบันขั้วแม่เหล็กใต้อยู่ห่างจากขั้วโลกมากกว่าที่ขั้วแม่เหล็กเหนืออยู่ห่างจากขั้วโลก บริเวณที่ล้อมรอบวัตถุท้องฟ้า (astronomical objects) ที่เกิดจากสนามแม่เหล็กของตัวมันเองเรียกว่า แมกนีโตสเฟียร์ (magnetosphere) โลกของเราก็มีแมกนีโตสเฟียร์ และดาวเคราะห์ที่มีสนามแม่เหล็ก (magnetized planets) อื่นๆ เช่น ดาวพฤหัส ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส และดาวเนปจูน นอกจากนี้เทหวัตถุท้องฟ้า (celestial objects) เช่นดาวแม่เหล็กก็มีแมกนีโตสเฟียร์เช่นกัน รูปร่างลักษณะของแมกนีโตสเฟียร์ของโลกนั้น จะเป็นผลมาจากสนามแม่เหล็กโลก ลมสุริยะ และ สนามแม่เหล็กระหว่างดาวเคราะห์ ภายในแมกนีโตสเฟียร์ จะมีไอออนและอิเล็กตรอนจากทั้งลมสุริยะ และชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ของโลก ซึ่งถูกกักโดยสนามแม่เหล็กและสนามไฟฟ้า Magnetic tails เป็นบริเวณที่เส้นสนามแม่เหล็กที่มีขั้วตรงข้ามกันขนานกัน magnetic tail ของโลกจะอยู่ไกลไปถึงวงโคจรของดวงจันทร์ และ magnetic tail ของดาวพฤหัสก็จะอยู่ไกลไปถึงดาวเสาร์




.

 

ประเทศไทยได้รับการปกป้องจาก “สนามแม่เหล็กโลก”



ในขณะที่เราใช้ชีวิตท่ามกลางความวุ่นวายของสารพัดปัญหาบนโลก หลายคนอาจจะไม่รู้ว่ากำลังได้รับการปกป้องจาก “สนามแม่เหล็กโลก” ที่ทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้อนุภาคที่มีประจุรุนแรงลงมาทำลายชีวิตบนโลกได้ และประเทศไทยโชคดีกว่าใครที่ตั้งอยู่บน “เส้นศูนย์สูตรแม่เหล็กโลก” ที่มีพลังปกป้องเข้มข้นกว่าใคร

ดร.เดวิด รูฟโฟโล อาจารย์ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กล่าวไว้ในงานเสวนาวิชาการหลายครั้งระบุว่า “แม้ในทางภูมิศาสตร์ไทยไม่ได้ตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร แต่ในแง่สนามแม่เหล็กโลกนั้นไทยตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งทำให้มีสนามแม่เหล็กเข้มที่สุดและปกป้องไม่ให้อนุภาคมีประจุผ่านลงมาได้ง่ายๆ หรือได้รับผลกระทบน้อยสุดเมื่อเกิดพายุสุริยะหรือรังสีคอสมิคตรงมายังโลก โดย จ.ชุมพรมีความเข้มของสนามแม่เหล็กสูงสุด”





ภาพประกอบ : เส้นศูนย์สูตรโลก และ เส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลก


สนามแม่เหล็กโลก (Magnetosphere)

สนามแม่เหล็กโลกเกิดจากการกระบวนการไดนาโมของโลก กล่าวคือโลหะหนักที่มีสถานะเป็นของเหลวที่อยู่ในแกนโลกมีการหมุนวน ทำให้เกิดสนามแม่เล็กที่เอียงทำมุมประมาณ 10 องศาจากแกนหมุนของโลก ที่ผิวโลกมีความเข้มของสนามแม่เหล็กโลกประมาณ 30,000 – 60,000 นาโนเทสลา และความเข้มจะค่อยๆ ลดลงเมื่ออยู่ห่างจากผิวโลกมากขึ้น



สนามแม่เหล็กโลกช่วยปกป้องเราจากลมสุริยะและรังสีต่างๆ
Illustration of solar wind impact on Earth's magnetosphere Copyright: NASA


NSTDA Blog : Open Knowledge - National Science and Technology Development Agency : NSTDA - Thailand

.

 

อยู่ประเทศไทย อุ่นใจกว่าที่ไหนๆ

ความเข้มสนามแม่เหล็กสูง เพราะเส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลกผ่านแถว จ. ชุมพร

แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางสูง เพราะอยู่เหนือเส้นศูนย์สูตรเล็กน้อย ในขณะที่ตรงเส้นศูนย์สูตร มีแรงเหวี่ยงสูงสุด อุกกาบาตจะเข้ามาชนโลกบริเวณเส้นศูนย์สูตร จึงเป็นไปได้น้อยมาก

พายุน้อย แผ่นดินไหวนิดหน่อย ร้อนพอทน หิมะไม่ตก ภูเขาไฟที่แอคทีฟไม่มี

ภัยธรรมชาติใหญ่สุด คือ น้ำท่วม กับ ฝนแล้ง

.

 

อย่างความเห็นข้างบนบอกไว้ ประเทศไทยนี่แหละดีแล้วที่จะอยู่ ถ้ากลัวภัยกันจริงๆ และโดยส่วนตัวนะ พูดกันจริงๆ สมัยนี้ถีงโลกมันจะร้อนกว่าเดิม ถ้าให้เลือก ขออยู่ในยุคปัจจุบันนี้ดีกว่าที่จะอยู่ในยุคอดีต

ลองคิดดูสมัยก่อน โรคอหิวาต์มาทีตายกันเป็นหมื่นๆ เกิดกาฬโรคระบาดทีตายกันเป็นล้านๆ แผลติดเชื้อนิดหน่อยก็ตายกันได้ง่ายๆแล้ว ไหนจะศึกสงครามก็มีอยู่บ่อยๆ ต้องเกณฑ์ผู้คนกันให้วุ่นวาย

ถึงแม้จะร้อนไปหน่อยแต่อยู่ในยุคนี้แหละดีสุดแล้ว

ปล. พวกนักนิมิต นักเพ้อฝัน นักทำนาย จะต้องย้ายถิ่นและเตรียมโน่นนี่นั่น บางทีสิ่งที่เค้าเห็นอาจจะเห็นแบบคลิปข้างล่างก็ได้เน้อ
<object width="560" height="315"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/vmkaVoLoFEU?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0"></param><param name="allowFullScreen" value="true"></param><param name="allowscriptaccess" value="always"></param><embed src="http://www.youtube.com/v/vmkaVoLoFEU?version=3&amp;hl=en_US&amp;rel=0" type="application/x-shockwave-flash" width="560" height="315" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true"></embed></object>

 

พวกที่คอยมาวาดภาพจนกลายเป็นว่ายุคนี้มันเป็นยุคแห่งภัยพิบัติ อวสานของโลกมาใกล้แล้ว ไอ้โน่นไอ้นี่คือสัญญาณ ลองมาดูสมัยก่อนกันดีกว่า




หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า "แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์" กันมาจนชินหู
ทั้งสองวัดนี้.. มักจะได้ยินพร้อมๆกันเสมอ..เพราะครั้งหนึ่งมันเคยเป็นอย่างนั้น
และมันก็คือ นรกจำลองดีๆ นี่เอง

โดยเฉพาะเรื่องของวัดสระเกศ ที่แต่ก่อนเป็นศูนย์รวมของแร้งนับพัน
อันเนื่องมาจากโรคห่าระบาดเมืองในช่วงรัชกาลที่ 2 นั่นเอง
สถิติคนตายตอนนั้นก็ไม่มากไม่มายเท่าไรหรอกตายไปสามหมื่นคนภายใน 15 วันเท่านั้น เท่านั้นจริงๆ

กรุงเทพตอนนั้น.. กลายเป็นเมืองแห่งคนตายเลย
เพราะคนที่มีชีวิตอยู่ เห็นจะน้อยกว่าศพที่กองระเนระนาดไปทุกตารางนิ้ว
แม้แต่แม่น้ำลำคลองก็ยังเต็มไปด้วยซากศพ จนใช้อาบใช้กินไม่ได้เลยทีเดียว

คนตายกันไม่รู้วันละกี่พัน จะจัดพิธีทำศพก็ไม่ทัน จะเผาก็ไม่ทัน จะฝังก็ไม่ทันอีก..

ไม่มีวิธีการไหนจะจัดการกับศพเหล่านั้นได้
สุดท้าย.. ต้องขุดหลุมแล้วเอาศพมากองรวมกันไว้ที่นี่..วัดสระเกศ

นอกจากสมัยรัชกาลที่ 2 แล้วโรคห่าก็ระบาดกันทุกรัชกาลเลย
เค้าก้อจะเอามากองรวมกันที่วัดสระเกศ..
ฝูงแร้งก็จะมารวมกันอยู่ที่นี่ เยอะขึ้น เยอะขึ้น อิ่มหนำสำราญมากมาย
จำนวนคนตายมันมากจนฝูงแร้งมีกินกันได้ทั้งชีวิตเลยทีเดียว
---->ตำนานที่มา ของคำว่า แร้งวัดสระเกศ เปรตวัดสุทัศน์ พร้อมภาพหาดูยาก สมัย โรคห่าระบาด - Dek-D.com > Board : รูปคนน่ารัก

 

มาดูเชื้อกาฬโรคกันมั่ง ตายกันทั่วโลกไปประมาณ75ล้านคน

กาฬโรคระบาดในยุโรป (อังกฤษ: Black Death หรือ Black Plague หรือ Bubonic Plague) หมายถึงเหตุการณ์โรคระบาดที่ร้ายแรงที่สุดเหตุการณ์หนึ่ง ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ (กาฬโรค)

เริ่มต้นขึ้นในแถบตะวันตกเฉียงใต้ และตอนกลางของเอเชีย และแพร่กระจายเข้าไปที่ยุโรป มียอดผู้เสียชีวิตจากทั่วโลกรวมแล้วประมาณ 75 ล้านคน และในจำนวนประมาณ 20 ล้านคนเกิดขึ้นที่แถบยุโรปเท่านั้น จากเหตุการณ์กาฬโรคระบาดในยุโรปทำให้ชาวยุโรปเสียชีวิตไปร่วม 2/3 ของประชากรชาวยุโรปทั้งหมด

โรคเดียวกันนี้จะกลับมาระบาดที่ยุโรปในทุกยุคทุกสมัย และจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย นับตั้งแต่ปี ค.ศ. 1700 มีความพยายามที่จะหยุดยั้งโรคระบาดนี้ในทุกทาง ไม่ว่าจะรุนแรงแค่ไหน และดูเหมือนว่าโรคนี้จะหายไปจากยุโรปราวช่วงศตวรรษที่ 18

กาฬโรคระบาดในยุโรปส่งผลกระทบอย่างยิ่งต่อประชากรชาวยุโรป และเปลี่ยนโครงสร้างทางสังคมของชาวยุโรปไปอย่างสิ้นเชิง มันยังจู่โจมไปถึงวิหารโรมันคาทอลิก ซึ่งเป็นศูนย์รวมของศาสนจักรในสมัยนั้น ส่งผลให้มีการล่าสังหารพวกชนกลุ่มน้อยไปทั่วทุกสารทิศ อย่างเช่นพวก ยิว มุสลิม ชาวต่างชาติ ขอทาน ผู้เป็นโรคเรื้อน ฯลฯ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อทัศนะคติของชาวยุโรปในยุคนั้น ว่าอย่างน้อยวันนี้ต้องเอาชีวิตให้รอดให้ได้

 

เหตุการภัยพิบัติรุนแรงจะเกิดวันไหน ตอนไหนปีไหนไม่มีใครรู้หรอก อย่าไปเชื่อพวกนักทำนายทายทักที่บอกจะเกิดปีนั้นปีนี้ อ้างว่าติดต่อเทพสวรรค์เบื้องบนได้หรือเบื้องบนมาบอก เห็นนิมิตต่างๆนาๆ โม้ทั้งนั้น

คุณลองพิสูจน์พวกผู้วิเศษแบบง่ายๆเลยก็ได้ คุณบอกว่าคุณลืมpasswordของemailที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ ขอให้ผู้วิเศษช่วยที ร้อยทั้งร้อยพวกผู้วิเศษที่เห็นนิมิตต่างๆนาๆ เข้าเฝ้าเบื้องบนกันเป็นประจำ สามารถรู้ว่าเบื้องบนเลื่อนภัยพิบัติก็ได้ แต่passwordของemailแค่นี้เค้าบอกคุณไม่ได้หรอก

 

วันนี้แล้วสินะ มาดูว่า จะแม่นรึปล่าว

.

 

Reading, Meaning and Effect ครับ





.

 

ขอย้อนหลังกับช่วงที่เกิด Geomagnetic Storm ระดับ G2 เมื่อวันที่ 1 มิย 56 ที่ผ่านมาครับ

ค่า IMF Bz มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับ Geomagnetic Storm ( Kp Index )
จากกราฟ ดูเหมือนการตรวจจับ Solar Wind Speed จะมี delayed รึปล่าวไม่ทราบ










เพิ่มเติม :


ผลกระทบจาก Geomagnetic Storm จะเกิดแถบ Latitude สูง( ขั้วโลก ) ก่อน ดังเช่น ปรากฎการณ์ Aurora ฯลฯ เนื่องจากแถบบริเวณเส้นศูนย์สูตรสนามแม่เหล็กโลกมีความเข้มของสนามแม่เหล็กสูงที่สุด เป็นเหมือนเกราะป้องกันอันตรายจากอนุภาคและรังสีต่างๆให้กับโลก ( Radiation Belt ) แต่ที่แถบขั้วโลกค่าสนามแม่เหล็กต่ำและอนุภาคไฟฟ้าต่างๆ สามารถลงกรานด์ได้ง่ายกว่า






.

 

นี่เป็น Geomagnetic Storm : G2 ที่เกิดขึ้น 7 มิย 56 เป็นพลังงานของ C9.5 Flare จากจุดดับ 1762 ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิย 56






.

 

มีอุกกาบาตที่เพิ่งค้นพบ กำลังจะโคจรเฉียดโลก ครับ

2013 LR6 8 มิย 56

2013 LD2 10 มิย 56

 

ส่วนนี่เป็นอุกกาบาต ที่ทะลุเข้ามาในชั้นบรรยากาศได้ เมื่อ 21:30 น. เวลาบ้านเรา
คงไม่เกี่ยวกับ 2013 LR6 / 2013 LD2 หรอกครับ





.

 

ผ่านไป 2 ปีกว่า กับเหตุการณ์แผ่นดินไหว-สึนามิ ที่ญี่ปุ่น เมื่อ 11 มีค 2011 ซ้ำร้ายทำให้เตาปฎิกรณ์นิวเคลียร์เสียหายไปอีกหลายเตา คงเป็นกรรมจริงๆเลย ครั้งแรก ก็โดนระเบิดนิวเคลียร์ที่เมือง Hiroshima ตรงกับวันเกิดผมเลย 6 สิงหา ( แต่คนละ พ.ศ.นะ 555+ )

ภัยนี้ใหญ่หลวงนัก และยังคงอยู่คู่กับการใช้ชีวิตประจำวันกันไปอีกนานโข ประมาณกันว่า 30-40 ปีเลยที่เดียว จากการตรวจวัดรังสีกว่า 2,500 จุด ดูกราฟแท่งค่าที่วัดได้ในภาพ ถ้าเป็นจุดสีเขียว ( ≤ 50nSv/h ) ถือว่า ปลอดภัย ส่วนบริเวณที่อันตรายที่สุด วัดได้ 157,000 ( สีม่วงเข้ม ) บริเวณ Fukushima Dai-ichi รังสีสามารถปลิวไปตามกระแสลมได้ไกล 150 กม. ในหลายพื้นที่ที่ห่างออกไป 50 กม. ยังมีรังสีในระดับที่สูงมาก ( สีแดง )









เพิ่มเติม : สภาพ Fukushima, Dai-ichi Nuclear Power Plant ในปัจจุบัน

.

 

Further evidence that asteroids brought elements of Life to Earth






ดูเหมือนว่าบรรพบุรุษของเราที่มาพบโลกครั้งแรก ไม่ได้มากับยาน UFO หรอกครับ แต่เกาะมากับก้อนอุกกาบาตต่างหาก เป็นเทคโนโลยี่ที่สูงสุดคืนสู่สามัญจริงๆเลย ไม่ต้องสร้างยานให้สิ้นเปลืองทั้งเงินและเวลา ปล่อยอุกกาบาตไปทั่วอวกาศ เพื่อการขยายเผ่าพันธุ์ ( ในกรณีไม่ลุกไหม้ในชั้นบรรยากาศซะก่อน ) เอ แล้วพวกเค้าที่โน้นจะรู้รึปล่าวว่า สิ่งมีชีวิตที่โลกนี้น่ะ สวยๆหล่อๆแนวๆ ทั้งนั้นเลย ห้าๆๆๆๆ

ยิ้มหรือหัวเราะ อย่างน้อยวันละครั้งนะครับ ชีวิตจะได้ยาวขึ้น อย่างน้อยก็ช่วงที่กำลังยิ้มหรือหัวเราะนั่นล่ะครับ

.

 

Update :

2013 LR6 ได้ผ่านโลกไปแล้วครับ Jun 8 at 04:43 UT ( ประมาณตอนเที่ยงบ้านเรา )

ส่วน 2013 LD2 Flyby Jun 10 at 09:37 UT ( ประมาณ 16:37 น. เวลาบ้านเรา )

.

 

วันที่ 6 มิย 56 - ไม่เกิด M/X-Flare ตามที่ทำนาย

วันที่ 7 มิย 56 ไม่เกิด EQ M6.5+ ตามที่ทำนาย นะครับ

เหมือนจะไม่ครบยก โดนน๊อค ชัวร์

.