ยินดีช่วยเหลือ แก้ไขทุกปัญหา ทุกสภาวะอารมณ์ ของ วิปัสสนากรรมฐาน

ไม่เป็นไรมิได้เจ้าค่ะ
ทำไปเพื่อความสมัครสมานสามัคคี เพื่อ ความเป็นปึกแผ่นของพระพุทธศาสนา
รู้เขา รู้เรา รู้อภัย ทุกคนก็ทำไปเพื่อความเป็นปึกแผ่นของพระศาสนาตามความคิดของตน
รู้อะไรก็มาแบ่งปันเป็นธรรมทาน ซึ่งกันและกัน สิ่งไหนที่รู้จริงแล้วด้วยตนเองก็เอามาแบ่ง
ปันเป็นธรรมทานสงเคราะห์เผื่อแผ่ผู้อื่น สิ่งไหนยังไม่รู้ก็ศึกษาทำความเห็นรู้ให้แจ้งกันต่อไป

อนุโมทนา เจ้าค่ะ

 

เคารพต่อพระรัตนตรัย
สาธุ พระคุณเจ้ากล่าวได้ชอบแล้ว
อนุโมทนาในบุญ ในกุศลครับ
เห็นว่า เจตนาดีอันใดพระคุณเจ้าได้มั่นไว้แล้ว สหายธรรมเหล่านี้จักเป็นเพียงปัจจัยบารมีให้พระคุณเจ้าเพียงเท่านั้นครับ

 

พระต้องอาบัติ

พระ=ประธาน

ต้อง=กริยา

อาบัติ=กรรม พระที่ทรงศีลบริสุทธิ์ สะอาด ได้เข้าจับต้อง หรือสัมผัส

บาป หรือความชั่วเข้าไห้แล้ว

ขอไห้เข้าใจดังนี้ อย่าได้คลาดเคลื่อน

พระอยู่เฉยๆ โดยที่ไม่ได้ละเมิดกฏพระวินัย

ถึงจะเป็นแค่สมมุติสงฆ์ ก็ยังถือว่าบริสุทธ์ไปด้วยศีล

แต่ถ้าเผลอไปละเมิด พระวินัย หรือศีลที่จะทรงไว้ในความดี ความบริสุทธ์

เรียกว่า พระต้องอาบัติ ก็หมายความว่า พระรูปนั้น ได้สัมผัส ได้จับต้อง

บาป หรือความชั่วเข้าไห้แล้ว ถ้าต้องอาบัติหนัก ปราชิก มีทางเดียวต้องสึก

แต่ถ้าต้องอาบัติ เล็กๆน้อยๆ ที่พอจะปลงได้ ก็ไม่ต้องสึกจากสมณะเพศ

พอเข้าใจกันนะครับ ว่าอาบัติแปลว่า บาป ไม่ไช่แปลว่า ต้อง
( ต้อง=เป็นกริยา อาการที่ไปกระทบ ในที่นี้ หมายถึงกระทบความชั่วหรือบาป)
ถ้าเข้าใจดังนี้แล้ว เหนือจรดใต้ วัดไหน สำนักไหน ก็มีความเข้าใจ ไปในทางเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกัน เพราะเป็นสัมมาทิฐิ

ผม..... เตือนแล้วนะครับ เข้าใจกันไห้ถูกต้องด้วย

จาก Mr. Warning

 

พระท๊อป pra-topsecret

อาบติ แปลว่า ต้อง​

ดังนั้น หากจะรักษาศีล กันจริง ๆ
รักษาให้ได้กันจริง ๆ ไม่ต้องอาบัติเลย
ก็คือ ไม่ต้อง​

ไม่ต้อง ไม่ข้องแวะ กับ สรรพสิ่ง ปล่อยให้มันเป็นไป ตามธรรมชาติ
ศีลนี้ จึง คลุม ทั้ง กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมไปพร้อมกัน​

นี่จึงเรียกว่า การรักษาศีล ที่บริสุทธิ์ที่สุด​

โดย ปรมัตถธรรม​

[/quote]


ภาษาชาวบ้าน เขาเรียกว่าผิดบานเลยนะครับ

รู้ตัวว่าผิด แล้วยอมรับ น่ายกย่องนะครับ

แต่ถ้าขืน ยังดื้อดึง ยืนกราน จะเรียกว่าอะไรดีล่ะ

 

ปรมัตถธรรมนอกเหนือ เหตุนอกเหนือผล
ธรรมอันเป็นเนื้อเดียว


อาตมาภาพเป็นเพียงผู้บอกทาง
นอกนั้นเป็นของท่าน​

 

ปรมัตถ์ เป็นอย่างไรหนอ

 

ปรมัตถ์ ไม่เป็นอะไรเลย

 

ช้างที่ไม่ใช่ช้าง นั่นน่ะช้าง
คนที่ไม่ใช่คน นั่นน่ะคน
ธรรมที่ไมใชธรรม นั่นน่ะปรมัตถธรรม​

 

ปรมัตถ์ คืออะไรหนอ....

 

ช้างไม่ใช่ช้าง ช้างไม่เข้าใจ
คนไม่ใช่คน คนไม่เข้าใจ
ธรรมไม่ใช่ธรรม ธรรมไม่เข้าใจ
ปรมัตถ์ไปใย​

 

หลวงพี่ท่าทางจะอ่านมาเยอะ คุณหลงนี่ก็เอากับเขาด้วย

ลองใช้ภาษาง่ายๆ ดีกว่าไหม หรือว่าให้อ่านเฉพาะผู้มีปัญญาเท่านั้น...

 

ha ha ha ha ha (deejai)

 

เอ้ออ.......... แบบนี้แหล่ะ ถูกกกกกกกกกกกกกกกกก

นั่นแหล่ะ ปรมัตถ์ ปรมัตถ์ จริง ๆ ก็นั่นแหล่ะ ใช่เลย เข้าใจถูกแล้วนั่นแหล่ะ

มันไม่ใช่อะไร นั่นแหล่ะ ปรมัตถ์

ถ้ามันยังใช่อยู่ ไม่ใช่ปรมัตถ์

ปัญญาแจ่มแจ้ง ดีแล้ว



อนุโมทนา สุด ๆ จริง ๆ

 

ที่จริงแนวเซน อะไรก็สูญตา อะไรก็ปรมัตถ์ อะไรก็สมมุติ หรือภูเขากลับเป็นภูเขา

หากเป็นปรมัตถ์ขบคิด ภูเขาจักไม่มีวันเป็นภูเขา

หากยังไม่ได้ออกแรงลงเขาจริงๆ

การปีนเขา เขาก้มหน้าปีน เดินทีละก้าว หายใจทีละเหือก ชมธรรมชาติทีละสิ่ง

มิใช่เงยหน้ามองเขา แล้วถึงเขา

ปรมัตถ์ในที่นี้จึงเป็นทางปิดปัญญาตน ไม่ต่างสำนวน ชาล้นถ้วย

ถามตอบกันสนุกๆนะ พระท๊อป หุหุ

 

ฝรั่งบอก tingtong (ติ้งต้อง)

ธรรมเมา ชัวร์ ({)ฟันธง

ในที่นี้คนไหน อ่านประโยคที่ผมเขียน

แล้วรู้สึก ร้อนๆ วูบวาบ

มีอาการคล้ายดังกล่าว

คนนั้นแหละ tingtong

ถ้าไม่มีอาการดังกล่าว ถือว่าปกติ

 

หนาวในคำตอบท่านมากกว่า หุหุ

 

โยม
ถามบ้างนะ
นิพพานมันต้องปีนขึ้นรึเปล่า .... ?

ปีนจากตรงไหน ........ ?
ไต่อะไรขึ้นไป.... ?
ใช้บันใดยาวกี่เมตร.... ?
ปีนนานมั๊ยกว่าจะถึงนิพพาน.... ?
ไหน.... ?
มันอยู่ตรงไหน.... ?
บอกหน่อย
ชี้ให้ดูได้ไหม.... ?
จะได้ปีนป้าง จะปีนตามกันไป

เอากันจริง ๆ นะ
บอกกันตามตรง
อาตมาเข้าใจโยม
อยากช่วยโยม

นิพพานไม่ทำอะไรเลยมันก็นิพพานอยู่แล้ว
นิพพานคือสภาพ สูญของขันธ์ 5
ลองมองดูตัวโยมนะ ก้มหน้าลงมามอง ที่หน้าอกโยมก็ได้
หรือ ดูที่แขนโยม

มันต่างอะไรจากขอนไม้ผุ ๆ พัง ๆ มั๊ย
มันเสื่อมไปตามกาล ตามเวลาอยู่แล้ว

มันนิพพานด้วยธาตุของมันอยู่แล้ว


แต่ที่มันไม่นิพพาน เพราะเราพยามไปสร้างกรรม ต่อเหตุมันเองไง
พยามไปสรางจุดหมาย ให้เรามุ่งไปหน้าอยู่เรือยไป นี่ มันถึงไม่นิพพานซักที่

นิพพาน มันนิพพาน เลย หากเราสลัดทิ้ง ทุกอย่าง จริง ๆ
สลัด แม่ตัวอยาก ตัวพยายาม ตัวมุ่งสู่อนาคตน่ะ
ทยานไปหน้าเรื่อย
แบบนี้ เมื่อไหร่จะถึงนิพพาน หล่ะโยม


เรา ทำอะไรกันอยู่
เราหลอกตัวเองกันอยู่ทั้งนั้น

อุปโหลก ตัวเองขึ้นมาก็ พอแรงแล้ว
ยังอุปโหลก หนทางให้ตัวเองเดิน
ที่แท่สุด คืออุปโหลก จุดหมายรอไว้ข้างหน้าให้ตัวเองนี่แหล่ะ

นิพพาน มันนิพพาน ด้วย ธาตุขันธ์ มันได้เอง

แต่ที่เราต้องปฏิบัติ จะสติปัฏฐานสี่เอย จะศีลเอย
มันเป็นแค่เครื่องมือ ชั่วครั้งชั่วคราว


อนุโมทนานะ
ยังมีความปราถนาดีต่อโยม อยู่เสมอ

 

เงาแห่งทิฐิ

หากหลงกลวนเล่น ..............สังขาร
หลงนานกลายเป็นพาล ..........แน่แท้
ความคิดเกิดดับปาน .............ประหนึ่ง เดือนลับ
หลงมั่นทิฐิแท้ ....................วางได้ เห็นเงา

 

ไหนทิฏฐิ
อยู่ไหน มือซ้าย หรือมือขวา ที่ถืออยู่น่ะ

วางไว้ตรงไหน ข้างๆ ตัว ด้านหน้า หรือด้านหลัง

 

อยู่ที่หน้าจอคอมนะท่าน ... สาธุ