ยินดีช่วยเหลือ แก้ไขทุกปัญหา ทุกสภาวะอารมณ์ ของ วิปัสสนากรรมฐาน

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย pra_TopSecret, 1 สิงหาคม 2010.

  1. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868

    สาธุการ..................
     
  2. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    ขออภัยคุณโยมด้วย อาตมาพิมช้า
    พิมยาวหน่อย ขออภัย

    ขอรบกวนถามท่านนิดนึงนะ
    1 อาทิตย์ มี 7 วัน
    เป็นวันพระ 1 วัน
    แล้วอีก 6 วัน มันเป็นวันอะไร

    วันมาร รึไง
     
  3. vietnam

    vietnam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +2,684

    ขออนุญาติ นิมนต์ถามเรื่อง การที่จะทำสมาธิ 2 ข้อนะครับ

    1. ศีลบริสุทธิ์กับศีลไม่บริสุทธิ์ การเจริญสมาธิจะแตกต่างกันไหมครับ
    2. ถ้าอยากให้ศีลบริสุทธิ์ต้องทำอย่างไร

    นิมนต์หลวงพี่ช่วยชี้แจงให้ทราบด้วยครับ
     
  4. Bi-Location

    Bi-Location Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +49
    มิได้เป็นวันมารดอกท่าน... แต่ขึ้นชื่อว่าสมมุติแล้ว หากไม่วิมุตติ อย่าพึงไปถามถึง
     
  5. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868

    ตัวหาย หรืออวัยวะ บางส่วน หายไป อันนี้เป็น อุทยัพยญาณ
    การเห็นการเกิด และ ดับ ไป ของ รูปนาม
    อันนี้สำคัญมาก อนุโมทนาด้วยจริง ๆ
    กำหนดรู้ รูหนอ รู้หนอ หายหนอ หายหนอ รู้ตาม เอา ตัวนี้เป็นอารมณ์

    เรื่อง ที่เงียบหายไป อันนี้ไม่ต้องตกใจ เป็นภาวะของ ภังคญาณ
    ระวังเรื่องเดียว
    ตอนจะออก จาก ไอตัวสงบนั้น ค่อย ๆ ถอนออก หาก ถอนออกเร็วไป ร่างกายเราจะสั่น ๆ บางครั้งมันหวิวไปเลยก็มี แต่อย่ายึดมันนะ
    ให้ องค์ มรรค ดำเนินต่อไป ถึง ญาณ ตัว ถัดไป หากรู้ว่ามันสงบ กู้ ทักมันเบา ๆ สงบหนอ สงบหนอ อย่าไปติด

    กำหนดรู้ต่อ ให้มาก ๆ พยามดู ใน ฐาน 4 ฐานนี้ กาย เวทนา จิต ธรรม
    ให้เห็นความเป็นจริงของรูปนามต่อไป ปล่อยให้ องค์ ใรรค เคลื่อเข้าสู้วิถีแห่งความพ้นทุกข์ไปเอง เท่านี้
     
  6. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ขออนุญาติแสดงความคิดเห็น


    ภาวนามัย นั้น หากภาวนาได้ มี ไม่ใช่ไม่มีค่ะหลวงพี่
    การภาวนานั้น คือ เราจะได้รู้ตามความเป็นจริง เริ่มรู้การปรุงแต่ง
    จนไม่ปรุง รุ้ไปเรื่อยๆ โดยไม่ทิ้งการภาวนา ไม่บัญยัญใด ๆๆ
    รู้รู้ไป ตามสภาพของความเป็นจริงของ กายเรา ใจเรา
    จะตอบว่า ไม่มี ไม่ได้ หากภาวนาแล้วไม่รับรู้อะไรเลยนั้น ผิดหลักแล้วค่ะ
     
  7. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    พระท๊อปตอบธรรม ตอนตอบธรรม
    สติอยู่ตรงไหน

    สำนวนอักษร ขนาดตัวหนังสือและสีที่ใช้
    ใจตอนนั้นไหลอย่างไร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 สิงหาคม 2010
  8. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    โยม เข้าใจ ถูกต้องมาก
    ไม่ได้หมายว่า ไม่รับรู้อะไรเลยนะ
    ปัญญาตัวนี้ ไม่ใช่ตัวแบกรู้ รู้แล้ววางแม้แต่ปัญญา มันเอง
    จนมันแทบไม่มีเลย รู้จริง ๆ คือทิ่งตัวรู้
    มันเป็น ความอัตตโนมัติแห่งมหาสติ

    วิญญาณ ขันธ์ ไม่ทิ้ง แล้วจะหลุดมั๊ยหล่ะ
    โยม
    ปลงขันธ์ ไม่ใช่เจริญขันธ์
    มันแจ้งแล้ว แล้วก็คลายไปแล้ว
    ไม่ได้เอาตัวปัญญามาแจ้งคาไว้ตลอด นะ

    ลองอ่านต่ออิกนิด อธิบาย ไว้แล้ว
     
  9. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    ไม่อยู่ตรงไหนเลย
    เพราะไม้ได้เอามันไปตั้งไว้ที่ไหน
    ความเป็นธรรมชาติแห่งมหาสติ
    เพราะตอนนี้ไม่ได้คาสติ


    เหมือน ๆ ตอนกินข้าว
     
  10. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868

    องค์ แห่งมรรค ที่เกิดขึ้น จึง กรอปกับ 3 อย่าง
    ศีล สมาธิ ปัญญา
    สิ่งนี้ รวมกันเกิด พร้อมกัน
    เหมือนการ อมยาอม
    เรา ผม ทั้ง แป้ง ทั้งสมุนไพร ทั้งน้ำผึ้งพร้อม ๆ กัน

    ไม่ใช่ ทำศีล ขึ้นก่อน แล้วไปทำสมาธิตาม แล้วจึงต่อด้วยปัญญา

    3 องค์นี้ ประชุมรวมกัน มรรค จึงบังเกิด<!-- google_ad_section_end -->

    ขออนุโมทนากับคำถามเรื่องความบริสุทธิ์แห่งศีล ของโยมด้วย


    ปลงอาบัติที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องปลง
    รักษาศีลที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องรักษา
    การทำลายกิเลสที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องทำลาย
    การควบคุมจิตที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องควบคุม
    การสร้าง สติ สมาธิ ฌาน ญาณ ปัญญา ที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องสร้าง
    การดับ ที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องดับ
    การ รู้ ที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องรู้อะไรเลย
    การแสวงหาที่ดีที่สุด คือ ไม่หา
    การตั้งจุดหมายที่ดีที่สุด คือ ไม่ตั้ง
    การเชื่อที่ดีที่สุด คือ ไม่ต้องเชื่อ

     
  11. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    ถ้าเช่นนั้น ยามฉันอาหาร
    ท่านย่อมไม่รู้ว่าฉันอะไรลงไปอย่างนั้นหรือ
     
  12. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    การรักษาศีลที่บริสุทธิ์ คือไม่ต้องรักษาเลย

    เหตุใดจึงกล่าวเช่นนั้น ศีล มาจากคำว่า สีล คือความเป็นปกติ

    ศีลที่ ดีที่สุดคือ ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติของมันมากที่สุด

    ศีล ไม่ใช่ การมานั่ง เก๊กรักษา นั่งกั๊ก นั่งฝืน กรรม ที่ออกมาจากมโนกรรม

    ความบริสุทธแห่งศีลจึงจะบังเกิด
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอน เรื่องการฝืนจริต
    หากแต่ทรงสอนให้สรรพสัตว์
    เข้าถึงความเป็นเนื้อเดียวของสรรพสิ่ง
    ตามความเป็นจริง

    ดังนั้น ความบริสุทธิ์ ที่สุด คือ ความเป็นธรรมชาติ ที่ไม่ต้องคอยรักษา
    และศีล ที่บริสุทธิ์ ไม่ได้มาจากการดัดหรือการฝืนจริต


    คือ
    Let it be
    ปล่อยให้มันเป็นไป อย่างธรรมชาติที่สุด
    ไม่เก๊ก ไม่กั๊ก ไม่ฝืนมัน


    ศีลที่ฝืน ศีลที่ไม่เป็นไปโดยปรมัตถ์
    ไม่เรียกว่า ศีล บริสุทธิ์

    เพียงไม่เข้าไป ต้อง ข้องแวะกับสิ่งใด นี้ก็เรียกว่า
    ไม่ผิดศีลแล้ว

    เวลาพระทำผิดศีล ต้องปลงอาบัติ
    การปลงอาบัติ การปลง ความข้อง ที่คา จิตคาใจอยู่
    ให้ตกลุล่วงไป

    นี่คือปลงอาบัติ

    อาบติ แปลว่า ต้อง

    ดังนั้น หากจะรักษาศีล กันจริง ๆ
    รักษาให้ได้กันจริง ๆ ไม่ต้องอาบัติเลย
    ก็คือ ไม่ต้อง

    ไม่ต้อง ไม่ข้องแวะ กับ สรรพสิ่ง ปล่อยให้มันเป็นไป ตามธรรมชาติ
    ศีลนี้ จึง คลุม ทั้ง กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมไปพร้อมกัน


    นี่จึงเรียกว่า การรักษาศีล ที่บริสุทธิ์ที่สุด

    โดย ปรมัตถธรรม
     
  13. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    สอบถามพระคุณเจ้าครับ......

    ๑. สมถะคืออะไร
    ๒. วิปัสสนาคืออะไร
    ๓.สมถะและวิปัสสนาต้องปฏิบัติทั้งสองอย่างไม....
    ๔.มหาสติคืออะไร...แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร.....เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะเจริญได้อย่างไร.....เมื่อเจริญขึ้นแล้วผลจะเป็นอย่างไร....
    ๕.การฝึกมหาสติ เป็นสมถะ หรือวิปัสสนา ตอนใดเป็นสมถะ ตอนใดเป็นวิปัสสนา

    กราบนมัสการพระคุณเจ้าครับ.....
     
  14. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868
    เวลาอาตมา ใส่รองเท้าแต่ คู่ เก่า ๆ สภาพจับกรัง
    ก็ตอนออกจากกุฏิ ไปนั่นไปนี่
    ตอนกลับมาถึงกุฏิ อาตมา ก็ถอดรองเท้าออกเสีย
    ไม่ได้ใส่มันเข้ากุฏิ

    อาตมาก็ใช้สติ เหมือนใช้รองเท้าแตะคู่นั้น
    ไม่ใช่ว่าตั้ง Start สติ ขึ้นมาก่อนหนิ ถึงจะใช้ได้
    มันเป็การใช้ได้เอง โดยไม่เริ่ม ไม่จบ
    ไม่เนื่องไม่ต่อ
    ใช้สติ แบบไม่ได้คาสติ

    เลยแทบไม่รู้เลยว่าสติมันอยู่ไหนของมัน
    มันอยู่ไหนก็เรื่องของมัน
    เพราะมันไม่ใช่อาตมา
    อาตมาก็ไม่ใช่มัน
    ไม่เนื่องด้วย ไม่เกี่ยวโยง ไม่สัมพันธ์กัน
    ไม่ใช่ สิ่งนั้น กับอะไร และสิ่งนี้กับอะไร

    แม้รูป ก็ไม่เที่ยง
    แม้เวทนา ก็ไม่เที่ยง
    แม้สังขารก็ไม่เที่ยง

    ธรรมทั้งหลาย ล้วน อนัตตา ไม่มีตัวตน

    สติ ก็ เป็น สังขารขันธ์ นะ
    มันจะเที่ยงหรอ
    มันไม่เที่ยงก็ยึดไม่ได้

    มีสติ ก็ย่อมมีขาดสติ


    แต่ถ้า ปลง สติ ซะ.
    มันหมดตัว แบ่ง ตัวแยกนะ

    เมื่อนั้น จึงเป็น มหาสติ

    ยินดีมาก ที่ได้สนทนากับโยม
     
  15. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ยังรออยู่นะครับ หลวงพี่
     
  16. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868

    โลกุตระ นอกเหนือเหตุผลคับ
    และผมก็ไม่รู้ว่า เหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น
    เพราะไม่เคยไปหาเหตุหาผลมันเลย
    มันไม่ต่างจาก เรื่องของ กรรมวิสัย หรือโลกวิสัย หรือ พุทธวิสัย
    ธรรมอันเป็นเนื้อเดียวกันนี้ มันหาข้อแบ่งแยกแตกต่างไม่ได้เลย
    ดังนี้ จึงนอกเหนือเหตุและผล

    พระโสดาบันคือผู้แจ้งในการเกิดและการดับไป
    และเริ่มแจ้งใจไตรลักษณ์ มากขึ้นเรื่อยไป
    พระอรหันต์ คือผู้รู้แจ้งว่า สิ่งที่ไม่เกิด สิ่งที่ไม่ดับนี้มีอยู่

    ไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
    ยังเนื่องด้วยเหตุ และผล

    แต่ .... การถูกบีบออก จากไตรลักษณ์ เป็นธรรม อันยิ่งกว่า.....นั้นแล


    อุบาสก

    พระโสดาบัน ท่านมีความธรรมดามาก ๆ ธรรมดาจริง ๆ ความธรรรมดา ๆ นี่แหล่ะ คือกระแสนิพพาน
    การผ่านทุกข์ของท่าน ท่านแจ้งในประตูบานแรก คือ ทุกข์ ความทุกข์ ท่านจะหายไปแบบมหาศาล

    และท่านจะคล้ายเหล็กที่ถูกหลอมมาไหม่ กลายเป็นคนไหม่ ที่ละเหตุแห่งทุกข์ ได้อย่าแจ่มแจ้ง และไม่มีใครยิ่งกว่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  17. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 5 คน ( เป็นสมาชิก 4 คน และ บุคคลทั่วไป 1 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>เล่าปัง*, jinny95, pra_TopSecret, vietnam </TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]

    ขออภัยครับหลวงพี่ คือ ผมขอผ่านเข้ามาหาเพื่อนครับ.......
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  18. vietnam

    vietnam เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    337
    ค่าพลัง:
    +2,684
    ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ

    แต่กระผมเองยังเขลาอยู่ ที่อ่านผ่านมามีข้อสงสัยอยู่หลายข้อมาก

    ข้อยกมาข้อเดียวนะครับ คือ
    การรักษาศีลที่บริสุทธิ์ คือไม่ต้องรักษาเลย

    ถ้าอย่างนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะทรงบัญญัติ
    ศีล ๕ ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีลพระปาฏิโมกข์ รวมทั้งอภิสมาจาร และพรหมวิหาร ๔ ให้คนที่ยังเขลาอย่างกระผมปฏิบัติตามเพื่ออะไร


    ปล. แต่ถ้าเรารักษาศีลบริสุทธิ์หมดจด จนศีลรักษาเราส่วนนี้กระผมเชื่อหมดใจครับ

    ***********************************************

    กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินต่อ

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
    พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์
    พระธรรม
    พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย
    ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ดี ขอได้โปรดอดโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ



    ***********************************************
     
  19. pra_TopSecret

    pra_TopSecret เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2010
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +868

    สิ่งใด ยังไม่ครบบริบูรณ์ ใน ความ ประสงค์ของท่าน
    โปรด กล่าวมา อาตมาจักอรรถาธิบายต่อ ในลำดับต่อไป

    สาธุการ ขออนุโมทนา ในโยนิโสมนสิการของท่าน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2010
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    คำคมวันนี้ [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("3616877")</SCRIPT>

    Acknowledge
     

แชร์หน้านี้

Loading...