มีผู้กล่าวว่า ถ้าจิต เกิดความคิดอะไรขึ้นมา เกิดความรู้อะไรขึ้นมา ให้พิจารณา สิ่งนั้น

ไม่เข้าใจก็รู้ว่างง
ถ้าเขียนเป็นภาษาไทยทั้งหมด
กราบงามๆไว้ล่วงหน้าเลยครับ

 

ก้อนผง นั่นก็คือ สบู่ ฮับ

วิธีการทำสบู่ คนโบราณ ก็จะใช้ คลี่เถ้า ไขมัน--สี(ผงกลิ่น) ฯลฯ

คำว่า น้ำชำระกาย ก็หมายเอา อารมณ์พิจารณกายเป็นของสกปรก
มีเหงื่อ มูต คูถ เพื่อให้ ละวางกาย ไม่มีการ ไปอาลัยอาวรณว่า
กายจะเป็นยังไง จะแสบไหม จะต้องถูกขัดถูเป็นแผลไหม
( คือ สบู่อินเดีย หนักๆ นี่เขาว่า ทำจาก คลี่วัว ห๊อมหอม เพราะ
ของที่วัวกินแล้วย่อยออกมาเป็น .สารปลากรอบไตรกรีเซอรีน ชนิดต่างๆ )

นะ

มี วัตถุ อันนึง สามารถ หน่วงให้เป็น ก้อน ใส่มือได้อย่างไม่
ลำบากในการใช้งาน

มี กายที่ ละสลัดวาง ด้วยการเห็นเป็น อสุภะ ขัดเกลาด้วยศีล ดีแล้ว

พอมี ปิติ ก็หน่วงไปซิครับท่าน หัว ไหล ตุ ต้อง
โน้มนำ "แผ่" ไปได้

เรียกว่า " อาหารของมนสิการ " เรียกสวยๆ ก็ โยนิโสมนสิการ

เรียกเป็นกริยาจิต ก็คือ "เหตุใกล้ให้เกิด" ที่สามารถ บริหาร จัดการได้
เหมือนคู้แขนเข้า เหยียดแขนออก

ตอนนี้ หาก ระลึกปั๊ป ทำได้เลย

ไม่มี เออะ รอ ก่อน ขอใช้ชีวิต ดั่งลูกพระอาทิตย์ก่อน ผีผ้าห่มเรียกพี่

 

ผมว่า ลุง อย่าไปดู เหตุใกล้ ไกลปืนเที่ยง แบบนั้น

ให้ดู ปัจจุบันนี้

เหตุใกล้ เพื่อ พระนิพพาน ของลุง ไม่มีแววจะเป็นเรื่อง สมาธิ สติ ปัญญา

แต่เป็น การ นมสิการ สัทธรรมของผู้มีพระภาค

สังเกตตรงนี้ ฮับ

ทำไม ใกล้กว่าคนอื่น

พิจารณาดีๆ นี่ แม้นจะไม่ได้ สติ สมาธิ ปัญญา อะไร
แต่ ขณะจิตสุดท้ายเนี่ยะ สมสีสี นิพพานในปัจจุบัน
ตัวเหลือง ตัวนิ่ม ได้เลย

 

ข้อสงสัยที่คุณ @ลุงจอห์น ถามนี่น่าสนใจครับ ผมรบกวนคุณ @ลุงจอห์น ช่วยกรุณาคลิ๊กเบาๆที่ หมายเหตุ ครับ

Spoiler: หมายเหตุ

… ก็ไม่รู้สินะ… ผมขอสงวนท่าทีไม่ตอบคำถามนี้ครับ… แต่ผมชอบสําบัดสํานวนลีลาโวหารของคุณ @ลุงจอห์น มากครับ ที่ว่า “… ลักษณะคล้ายกับแป้งเย็นยี่ห้อดังผสมน้ำและมีคนมาพรม ดีด ใส่ร่างขณะนั่งอยู่บนอาสนะ ซึ่งไม่ง่ายหรือนานครั้งที่จะเกิดสำหรับข้าพเจ้าเพราะไม่ชำนาญ ข้าพเจ้าเข้าใจถูกหรือไม่…” ลักษณะของการใช้สำนวนโวหารแบบนี้… ผมฟันธงเลยครับว่าคุณ @ลุงจอห์น คือ คุณหมอ.ดร.โอ จากคอลัมน์เด็ด เสพสมบ่มิสม แน่นวล… ใช่หรือไม่ครับ?

 

สมาธิที่ทำให้เกิดปัญญา
คือสมาธิที่จิตใจสงบไม่ขุ่นข้นมัว
น้ำที่สงบไม่ขุ่นข้นมัวเมื่อไร้การรบกวน
คือสมาธิที่สงบนิ่งเมื่อสงบนิ่งนานๆน้ำก็เริ่มใส
เมื่อน้ำมีความใสพอก็จะมองเห็นเศษตะกอน
คือเห็นสิ่งที่อยู่ในน้ำ
เมื่อรู้เห็นตะกอนหรือสิ่งใดอยู่ในน้ำ
ความรู้ที่เห็นก็เป็นปัญญาครับ

 

ป่วยเป็นโรคดีซ่านก็เหลืองทั้งตัวเหมือนกันครับ
ตรวจสอบดูให้ดีๆครับ

 

ช่ายฮับ อย่างพระโสดาบันท่าน ละสักกายทิฐิได้จิงๆ จะเหนทุกอย่างธรรมดา ใจจะม่ายค่อยไปตัดสินอะไร นอกจากเผลอนั่นล่ะฮับ ส่วนการตัดสินอะไร ก้น่าจะเรียกเปน สักกายทิฐิ ได้มั้งฮับ เพราะเอาเราไปตัดสิน
ในเรื่องของสัญชาตญานต่างๆ ผงว่าน่าจะเปนกานทุกคงฮับ ปายทิ้งโน้นมั้งฮับพระอรหันต์

จิงๆเดินยุ่บนมรรค8 กันยุ่แล้ว ก้ไม่พ้นมรรคผลแน่นอน ซึ่งแล้วแต่เวลาแต่ละคงแล้วฮับตรงนี้ ถ้ามรรคผลจะม่ายเกิดก้เพราะหยุดเดิน เพราะความขี้เกียจ กับ เข้าใจความหมายของมรรค8 ผิดไป จนทำผิด มีช้างยุ่สองเชือกที่ฉุดยุ่มั้งฮับ

 

ภาวิตายะ อาเสวิตายะ พะหุลีกะตายะ วัตถุกะตายะ

พูดง่ายๆ ไม่ต้องเยอะ ก็ ฝึกบ่อยๆ เนืองๆ ต่อเนื่อง

ผลของสมาธิ ในอริยะมรรคที่เกิด บังคับสั่งเอาไม่ได้

เกิดแต่เหตุ ของการประกอบ ส่งต่อเป็นลำดับ

 

ความสงบของจิตตัวนี้คือความสงบแบบรู้เท่าทันสังขารของจิตเรา จึงเกิดปัญญา ไม่ใช่สงบแบบดำดิ่งลงลึกฮับ คุณไร้สมถภาพ

 

คุยกันเรื่องอริยสัจที่มองต่างมุมกันนิดหน่อย ฮับแม่การะเกด ต่อไปผงจะสงบเสงี่ยม ตอบโต้หมื่นเรืองน้อยๆก้ได้ เขาว่าอะไรมา ก้ใช่ฮับ ใช่ฮับ เปนเด็กดี ว่านอนสอนง่าย แม่การะเกดจะได้ม่ายเสียจายฮับ

แม่การะเกดฮับ มีข้อเกตุ ต่อให้ฟังคลิปบรรลุของลพ.ป ลพ.ย ลต.บ หรออื่นๆอีกร้อยคลิป ก้คงได้แค่พูดตามในคลิป นอกเหนือจากนั้น ไปกันไม่รอดหรอกฮับแม่การะเกด ไม่ต้องพูดถึงสภาวะหลังการเหนแจ้งจะจินตนาการไปไม่ถูกแล้ว เอาแค่วิธีปฏิบัติพื้นๆถ้าพลิกเหลี่ยมนิกโหน่อยย ก้ งงเต๊ก เกิดพายุทอร์นาโดโหมกระหน่ำในบอร์ด ทั้งที่จิงแบบเดียวกานแต่มองคนละมุม ผงงี้ยัง งงเต๊ก ว่าทำไมม่ายเข้าใจกัน ตามไปด้วยเบยฮับแม่การะเกด

 

คล้ายๆสะกดจิตจนได้ดีนะ เกิดดับ เกิดดับ

 

คนในนี้เขารู้จักกันมาก่อนไม่ใช่รึ เรื่องคุยไม่ลงรอยกันไม่แปลก บางคนสร้างคำขึ้นมาเองเฉพาะกลุ่มก็มี คุยภาษาสก๊อยก็มี บลาๆ.. อ่านแล้วเข้าใจยาก การแย้งกันก็ต้องมีเป็นปกติธรรมดา ออกจากเว็บก็คงตัวใครตัวมัน

ทางพระพุทธเจ้าก็บอกไว้แล้ว อินเตอร์เน็ตพระสอนกันก็เยอะ คงไม่ถึงกับไปไม่รอดหรอกนะ

 

ต่อปายผงจะ ใช่ฮับ ใช่ฮับ เปงเด็กดีฮับ อิอิ

 

เราจะสปอยล์หนัง

 

อกตัญญู ไม่รู้ คุณของธรรม มันก็จะ อกตัญญู วันยันค่ำแหละ

มะเชื่อ ลองพินา กรรมฐาน " หลงแล้วรู้ในตำนาน "

หลงแล้วรู้ใน ตำนาน เขาจะเริ่มด้วย

ให้หา กรรมฐานสักอย่างหนึ่งเป็น วิหารธรรม
ปฏิบัติแล้ว จิต สงบสงัด

ทีนี้ อย่าปฏิบัติเพื่อ สงบ สงัด เท่านั้น
ให้สังเกต อาการ หลง ที่จะเกิดขึ้นเสมอ
โดยมีอัตตร n+1 ( คือ ต่อให้เกิด สติ
เดี๋ยวมันก็ หลงไปอีก แน่นวล เพราะ จิกผู้รู้
เป็น สิ่งไม่เที่ยง ที่ปุปุชนเห็นผิดว่า เที่ยง
มาแต่ก่อนไข่ก่อนไก่ )

นะ

หลงแล้วรู้ หลังจาก สำเร็จ วิหารธรรม เจโตวิมุตติ
อะไรมาสักอย่างหนึ่ง แล้ว เพิ่มเติม พิจารณา
อาการ หลง ที่จะเกิดขึ้นแน่ๆ หาก จับนามรูป
นี้ได้ ก็จะได้ สัมมาสมาธิ นับหนึ่ง

แค่เริ่มต้น สัมมาทิฏฐิ เท่านั้น

พอ เข้าใจไหมฮับ คุงหมูไหม้ ถ้าไม่เข้าใจ
มันจะ อกตัญญู เห็นตัวC ....... ตัวE


โถ่ว พวก ..... เก็บคำ ทำแพคเกจ หลอบ แหลบ

 

ม่ายเกี่ยวกะผงน๊าาา เงียบไว้ๆ

 

แล้วไร้คมบอกตอนไหน
ว่าดำลงลึกดิ่งพะสุธาครับ
คุณรัศม์วีชาเย็น เย็นชา เฉยชา
เห็น ผช กลายเป็นซากศพไปแล้ว

 

"ที่เขียนว่าสงบนิ่งนานๆ สงบแบบไร้ตะกอน"

ถ้าจะเขียนไปสมาธิอีกแบบต้องบอกสมาธิคือตั้งใจรู้ หรือสมาธิตั้งมั่นในการรู้เท่าทันการกระทบนั้นๆ เป็นขณะ ๆ > นำไปสู่ตัวปัญญา

 

หมูไม้คงบรรลุด้วยจินตมยปัญามั้งเลยอธิบายวิธีไม่ได้