มาบอกวิธีการดึงพลังจิตใต้สำนึกมาใช้อย่างง่ายและได้ผล

ดีครับ หลากหลายความคิดเห็น และการแนะนำ โมทนาครับ สาธุ สาธุ

 

กระดาษยับเหมือนกัน

จิตใต้สำนึกใช้ยังไงหรอครับ ผมคิดถูกป่าวพยายามคิดว่ากระดาษคืออีโต้

เเล้วตะเกียบคือถั่วฝักยาว

เวลาตัดต้องคิดรวดเดียวเลยรึป่าว

หรือว่าต้องคิดจนจิตใต้สำนึกมันออกมา

 

cool!~

 

โอ๊ยโหย๊ ผมทำได้แล้วจริงๆด้วย


ผมเอามีดอีโต้ตัดถั่วฝักยาว ปรากฏว่ามันขาดจริงๆคับ
สุดยอดมากมาย


อิอิ
(ลองทำของจริงก่อนแล้วค่อยจิตนาการ)

 

น่านำไปทดลองดู แต่น่าจะมีคำอธิบายที่ละเอียดกว่านี้หน่อยนะครับ

 

ผมใช่กระดาษแข็งเลย มันไม่ขาดแน่ แต่ตะเกียบก็ไม่หักอยู่ดีคับ หวัดดีคุณjoke1966 ด้วยนะคับ

 

ตอนเด็กๆ เอานิ้วชี้ตัดปากกาลูกลื่น (พลาสติก) ประจำ
ถ้ากลัวและคิดว่ามันไม่หัก มันก็จะไม่หัก และเจ็บนิ้วมาก
แต่ถ้าคิดว่ามันหักด้วยนิ้วตัดผ่านได้ ก็โช๊ะเดียวเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
แบบว่ามันศรัทธานิ้วตัวเอง
แต่ไม่มีศรัทธาในกระดาษอ่ะ

 

อยากให้ลอง ตัดแขนคน ดู อ่ะ

อยาก รู้ ว่าจะรู้สึกเจ็บ มาก ป่าว

 

เรืองการใช้พลังจิตใต้สำนึกนี้ ผมเคยอ่านหนังสือ The Top Secret เขียนโดยทันตแพทย์ สม สุจีรา มีทียอดขาย 5 แสนเล่ม

ตอนหนึ่งในหนีงสือเขียน เรื่องของนักกอล์ฟ ไทกอร์ วูดส์
ที่สามารถตีลูกลงหลุมได้อย่างปาฏิหารย์
มีคนเคยไปถามเคล็บลับความสำเร็จของ
ไทเกอร์ วู้ดส์
เขาเผยว่า ก่อนที่เขาจะตีลูกกอล์ฟออกไป เขาได้จินตนา
การภาพในใจว่าลูกกอล์ฟมันลงหลุมไปก่อนที่เขาจะตีออกไปซะอีก

และตอนตีไปมันก็วิ่งไปลงหลุมตามภาพนั้นจริงๆ
เพราะจิตใต้สำนึกมันจัดสรรค์ให้ทั้งหมด
ทั้งการคำนวนระยะ แรงที่ตีออกไป มันแค่ทำตามจิต
สำนึกที่สั่งการและจินตนการเท่านั้น

เห็นไหมครับว่า ความเชื่อมั่น จินตนาการ และ
ภาพความสำเร็จที่เกิดขึ้นล่วงหน้า
หลัการเดียวกันเลย

 

อีกเรื่องหนึ่ง ผมดุข่าวบันเทิงในทีวี

ข่าวรายกงานมีการสำรวจโพลจากการโหวตของชาวฮ่องกง ว่า
ดารานักแสดงชายฮ่องกงคนไหนที่หล่อที่สุด
ผลโพลเผยว่า หลิวเต๋อหัว คือนักแสดงที่หล่อที่สุดอันดับหนึ่ง

เมื่อผุ้สื่อข่าวได้ไปถาม หลิวเต๋อหัว ถึงเคล็ดลับที่ทำให้ตนเองหล่อ
อยู่เสมอ ทั้งๆที่เขาก็อายุมาแล้ว

หลิวเต่อหัยเผยเคล็ดลับว่า
ทุกๆเช้าเมื่อเขาตื่นขึ้นมา ตอนที่เขาเข้าห้องน้ำและส่องกระจก
และเขาจะบอกกับตัวเองในกระจกว่า
ฉันหล่อที่สุดๆๆ บอกซ้ำๆกันทุกวัน

ผมก็เอาเทคนิคนี้ไปใช้ด้วยครับ
ผมก็บอกตัวเองต่อหน้ากระจกว่า ผมจะหล่อกว่านี้ๆๆ

ท่านจะสังกตุเห็นว่าบุคคลที่ประสบความสำเร็จ
ในชีวิตแต่ละสาขาอาชีพ
เขาล้วนแล้วแต่ดึงพลังจิตใต้สำนึกมาใช้ทั้งนั้น

 

แปลกแต่จริง ตะเกียบที่หัก มันไม่ได้หักนะครับ
รอยมันโดนตัด ชัดๆๆ หรือว่าเราคิดไปเอง
แต่ถ้าใช้มือหักเอา รอยมันน่าจะไม่เรียบ
หรือว่าเรามัน ติ้งต๊อง คิดไปเอง

 

สาธุ ฉันจะรวย ฉันจะรวย และสวยให้ดู สาธุ ผมเคยบันทึกคำพูด และข้อความบางอย่าง ใส่ในจิตน่ะ คือคำว่า ทั้งชีวิตคิดร้อยล้าน เขียนไว้หมดในบ้าน ที่โต๊ะทำงาน คนรอบข้างว่า บ้า บ้า แต่เหลือเชื่อนะ ผมต้องลาออกจากงานเดิม เงินเดือน 13000 บาท สิบกว่าปีก่อน มันมากโขน่ะ ต้องหางานใหม่ เริ่มเงินเดือนใหม่ 4000 บาท แต่ปฏิหารย์มีจริงน่ะ บวกเงินเดือน บวกเงินเดือนขึ้นบ่อยๆ โบนัท ค่าคอมมิชั่น ผมมีเงินล้านได้ ใช้เวลา 1 ปีกว่านิดหน่อยเอง แหมมันได้แค่ % เดียว แต่ก็พิสูจน์ได้ว่า จิตใต้สำนึกมีจริง แต่สตังค์ก็ใช้หมดไวเหมือนกันครับ สาธุ สาธุ

 

ทดลองทำแล้วคะ หลายครั้งด้วย
แต่ผลออกมาก็คือ แบ้ง20ยับ
ไม่ทราบว่าคุณ รักไร้พ่าย
ไปเรียนที่ไหนมาคะ อยากไปเรียนมั่งจัง

 

ดีค่ะ ทุกคน

สนใจเรื่องจิตใต้สำนึกเหมือนกันค่ะ สำหรับคนที่กำลังพยายามฝึกตัดตะเกียบอยู่ แนะนำให้ลองฝึกใช้จิตใต้สำนึกด้วยการจิตนาการแบบง่ายๆก่อนดีไหมค่ะ

โดยฝึกจิตนาการและบอกกับตัวเองก่อนนอน ในขณะที่กำลังนอนและกำลังจะหลับว่า ฉันจะตื่นนอนตอน 7 โมงเช้า ภาวนาไปเลยๆ แบบสบายๆนะคะ แล้วตอนเช้าเราก็จะตื่น 7 โมงเช้าแป๊ะเลยค่ะ แล้วก็รู้สึกสดชื่นแจ่มใสค่ะ (ไม่ใช่ใช้นาฬิกาปลุกนะคะ) ทำได้อย่างนี้แล้วค่อยมาลองฝึกตัดตะเกียบดูนะคะ ซึ่งการฝึกภาวนาให้ตื่นนอนกี่โมงๆนี่ หลายๆ คนน่าจะพอทำได้อยู่แล้ว และที่ทำได้เพราะช่วงเวลาก่อนหลับจะเป็นช่วงที่จิตใต้สำนึกกับจิตสำนึกติดต่อกันได้โดยตรง ประมาณว่าจิตสำนึกมันไม่หวักแหวกน่ะคะ และคำสั่งคำสั่งเดียวที่เราภาวนาและจิตนาการก็จะถูกส่งตรงไปให้จิตใต้สำนึกนะคะ

หลังจากพอฝึกกำหนดให้ตัวเองตื่นเป็นเวลาๆได้แล้ว จากการบอกตัวเองทุกครั้งก่อนนอน ก็ลองภาวนาและจิตนาการว่า พรุ่งนี้เราตัดตะเกียบได้ด้วยกระดาษ ให้เห็นภาพชัดเจนในขณะที่นอนและกำลังจะหลับ แล้วเช้าตื่นขึ้นในขณะที่จิตกำลังสงบ ให้จิตนาการการตัดตะเกียบอีกครั้ง แล้วให้ความมั่นใจ เชื่อมั่นในจิตใต้สำนึก แล้วก็จะตัดได้ค่ะ ลองดูนะคะ

ถ้าอยากศึกษาเพิ่มเติมเรื่องจิตใต้สำนึก แนะนำให้ลองซื้อหนังสือเรื่อง "พลังจิตใต้สำนึก" ของคุณ "ทศยุทธ" มาอ่านดูนะคะ ซึ่งเป็นหนังสือแปลมาจากหนังสือเรื่อง "The power of your subconscious mind" โดย Joseph Murphy ค่ะ ซึ่งผู้แต่งและผู้แปลและเรียบเรียง ได้รวบรวมความรู้ทั้งทางพุทธศาสนาและคริสตศาสนามาอธิบายไว้ในหนังสือด้วยค่ะ

ตอนแรกที่เห็นหนังสือ ในคำนำของหนังสือเล่มนนี้บอกไว้ว่า เราจะอ่านหนังสือเล่มนี้มากกว่า 1 ครั้งโดยไม่รู้ตัวและไม่รู้เบื่อ ก็แปลกใจอยู่แต่พอได้อ่าน ก็อ่านติดซะหงมแหงม และลองฝึกปฏิบัติตามในหลายๆ อย่างที่แนะนำในหนังสือ แล้วดีมากๆ ค่ะ

ปล. คนเราต้องระวังความคิดและจิตสำนึกของเราให้คิดดีอยู่เสมอ เพื่อจิตใต้สำนึกจะได้แสดงพลังอำนาจแต่สิ่งที่ดีงาม

 

g8เคยอ่านมา เมื่อหลายปีก่อน
ทดลอง ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
คุยกับ ท่านที่รู้
ท่านบอกว่า บางครั้ง จิตแกว่ง
ไม่รวมเป็นสมาธิ ครับ

 

55 เราเรียนพลังจักรวาล เป็นการเปิดจักระเพื่อดึงเอาพลังให้การสร้างมาเสริมสร้างสุขภาพกายและจิตของตน ให้แข็งแรง มันไม่ค่อยเกี่ยวกับพลังจิตใต้สำนึก แต่อาจารย์ท่านเคยสอนไว้อยู่ว่า ไม่ช้าเมื่อจิตแข็งแรงมากจิตก็จะสามารถควบคุมพลังงานในกายและดึงมาใช้งานได้ประสิทธิภาพ

 

จะลองทดลองดูบ้างค่ะ ขออนุโมทนาบุญกับบทความดีดีด้วยค่ะ

 

หนังสือพลังจิตใต้สำนึกของ ดร. Joseph Murphy ผมก็ซื้อมาอ่าน 2 เล่มครับ จะเน้นด้านการบอกเล่าประสบการณ์ของผู้ที่ใช้พลังจิตใต้สำนึกในกรณีต่างๆ
เช่นรักษาโรค ประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะไม่เน้นด้านวิธีการสั่งจิต หรือสะกดจิตตนเอง
แต่เพียงใช้คำพูดที่ไพเราะสั่งจิตใต้สำนึก
ผ่านการอธิษฐาน คล้ายอธิษฐานต่อพระเจ้าประมาณนั้น

 

ถูกต้องนะคร๊าบบ

ถ้าตะเกียบมันถุกตัดโดยจิตใต้สำนึก มันจะเป็นรอยตัดเลย
เหมือนของมีคมตัดนะครับ รอยมันจะเรียบเสมอกัน
ไม่มีรอบหยักเป็นขุยๆ หรือรอยไม่เรียบ

คนที่ยังทำไม่ได้เพราะความเชื่อมั่นยังไม่พอนะครับ
จิตใต้สำนึกมันมีอาหารหล่อเลี้ยงมันคือความเชื่อมั่น
ตอนที่เราตัดอาจจะยังไปลังเล เพราะความเชื่อว่ากระดาษตัดตะเกียบ
เป็นไปไม่ได้ เราจึงทำไม่ได้

จิตใต้สำนึกมันสนใจที่ภาพที่จินตนาการ มันไม่สนว่าภาพที่เห็น
นั้นเป็นอะไร แล้วก็เชื่อว่าเรากำลังหั่นถั่วฝักยาว
จิตใต้สำนึกมันก็มีประสบการณ์ด้านกานหั่นผักมาแล้ว
มันจึงตัดตะเกียบนั้นได้

(ที่มา www.sangjit.net/Picture/pic107_ss.jpg )


ตอนที่จะตัดไปอย่าไปลังเลนะครับ ตัดลงไปเลยด้วยความเชื่อมั่น
ขณะที่จะตัด เอาแบ้งคไปวางขึ้นวางลง ทำเหมือนจะตัดแต่ไม่ตัด
ให้จินตนาการถึงเราถืออีโต้ และมีถั่วฝักยาววางอยู่
แล้วบอกว่าเราทำได้ แล้วนึกภาพว่าเราได้ตัดถั่วขาดแล้ว
เห็นภาพเราตัดถั่วขาดเลย


(ที่มาwww.sangjit.net/Picture/pic97_b.jpg )

แล้วให้ภาพนี้มันชัดขึ้นๆ รอจนกว่าพลังฮึกเหิมมันเกิด
พอมันมาแล้ว ก็ให้ตัดลงไปเลยเบาๆ ไม่ต้องแรงเลย
แล้วไม่ต้องลังเลด้วย ขณะที่ตัดลงไปเหมือนตัดถั่วฝักยาว
แล้วตะเกียบมันจะขาดอย่างงายดาย

ตอนเราหั่นผักเราไม่ลังเลยังไงก็ทำอย่างนั้นนะครับ
ถ้าลังเลแม้ชั่วแวบจิตเดียวก็จะไม่ได้ เพราะเรายังเชื่อยู่ว่า
กระดาษตัดไม้ไม่ได้

เราจะรู้ได้อย่างไรว่า พลังจิตใต้สำนึกได้เผยตัวออกมา
ให้สังเกตุว่า ถ้าเรามีความรู้สึกฮึกเหิม เหมือนเราเข้าสนามรบด้วย
ความฮึกเหิม นั่นคือพลังจิตใต้สำนึก ความฮึกเหิมคือพลังความ
เชื่อมั่นที่ไปดึงจิตใต้สำนึกออกมา

นี่แสดงให้เห็นว่าความลังเลที่แหละเป็นตัวการในการทำ
ให้ชีวิตเราไม่ประสบความสำเร็จ
ความลังเลอยู่ตรงข้ามกับความเชื่อมั่น


ถ้าคุณทำได้ครั้งแรก ครั้งต่อๆไป ก็หมูแล้วครับ
ตอนผมจบหลักสูตนอบรมนี้ ผมกลับมาเอากระดาษทิชชูบางๆ
มาตัดปากกาเล่น