เรื่องเด่น มหัศจรรย์ เรื่องจริงที่เหลือเชื่อ "ปรากฏการณ์เผชิญหน้าพญาครุฑในกรุงเทพ"

ขึ้นอยู่กับระดับชั้นของสวรรค์ด้วย อย่างสวรรค์ชั้นที่หนึ่ง จะเป็นอย่างนั้น คือมีสังคมคล้ายๆ เมืองมนุษย์ สมาชิกหลายๆ บางส่วน ที่หลากเผ่าหลายพันธุ์ ของสวรรค์ชั้นนี้ ยังมีรัก มีเสพกาม มีหลง มีโกรธ มียกทัพโยธาไปโรมรันพันตู
กันก็มี

แต่สวรรค์ชั้นบนๆ ขึ้นไป ยิ่งชั้นสูงๆ เท่าไร ความละเอียดประณีตของศีลก็จะยิ่งมาก เช่น ไม่มีกิเลส ไม่มีเกลียด โกรธ

 

({)ไอ้ที่เสพกามคล้ายมนุษยื กรึ่งเทพกลึ่งสัตว์ แต่ถ้าเป็นเทวดาตั้งแต่ ชั้นที่ ๑ ขึ้นไป ถึง๖ ชั้น เขาไม่เอากันเหมือนมนุษย์และสัตว์ เขาแค่มีจิตยินดีก็เป็นสูข แล้ว ใครจะไปเกิดเป็นลูกน้องบริวารของใคร จะไปเกิดของหรือในเขตุวิมานนั้นๆ จะเป็นเมียหรือ บริวารขององค์นั้นๆ ชื่อนั้นๆ แล้วตั้งแต่พรหมชั้นที่ ๑ ถึง๑๖ ชั้นไม่มีเพศแล้ว จะเป็นหญิงหรือชาย เมื่อเจริญสมาธิกรรมฐาน ไปเป็นพรหม ก็ไม่มีเพส หญิงหรือชาย มันคล้ายกันหมด ไปด้วยกำลังบูญหรือฌาณนั่นเอง ถ้าคุยเรื่องเนี้ย คุยกันเป็นวัน ไม่จบหรอกครับ ถ้าทุกคนมีเหตุและผล ไม่ใช่ตะแบงอย่างเดียว จบครับแต่ยังไม่ละเอียด แค่นี้ ก่อน ถ้าคนที่ฝึกมาดีเขาจะรู้ครับ

มาต่อข้อความของท่านบางคน คำว่าเทวดาไม่มีโกรธ ท่านระงับไว้ตั้งแต่สมัยเป็นมนุษย์แล้ว มีศิล ๕ บริสุทร์ กรรมบท ๑๐ จิตท่านละเอียด จึงไปเกิดเป็นเทวดา แต่เทวดาทุกชั้น ก็มีพระอริยะ อยู่ตั้งแต่โสดาบันจนถึง พระอนาคามีขึ้นไปครับ แค่เหงื่อไคลไหลจากรักแหล้ ก็จุติลงมาเกิดเป็นสัตว์นรก หรือเปรต หรืออสูรกาย หรือเป็นคน) (ถ้าเลื่อนไปเป็นเทวดาพรหม ชั้นสูงๆ ท่านต้องมีรัศมีกาย สว่างเจิดจ้า ยิ่งส่ว่างมากขึ้นไป ก็ยิ่งไปชั้นสูงๆ ไอ้ที่ว่ารบกัน มันคงมาจากวัณคดี ถ้าเรื่องจริงก็คง เป็นพวก อสูร กรึ่งเทวดากรึ่งอสูร ถ้าจะเปรียบเทียบ มันเยอะมาก ตัวอย่าง พยานาค กรึ่งเทพกรึ่งสัตว์ พยาครุฑ คนธรรย์ เพชรพยาธร กินร กินรี หรืออย่างอื่นอีกมากมาย ที่เราไม่รู้จัก

เอาแค่ดูความชั่วความดี ของตัวเองก็พอ ความชั่วของคนอื่นน่ะอย่าไปดูเลย เพราะตัวอย่างที่เอ่ยมา ก็สร้างบารมี ไปเกิดเป็นพวกนั้นๆ ทั้งนั้น จะไปเกิด เป็น สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน คน เทวดา พรหม อรูปพรหม เป็นพระอรหันตืเข้านิพพาน ก้ไปจากคน แล้วแต่ละท่านจะเลือกอะไรต่างหาก เล่า

 

พญาครุฑ

ท่านทั่งสองไม่ใด้เห็นพญาครุฑแต่เห็นครุฑ คำว่าพญาแปลว่าผู้เป็นใหญ่สูงสุด พญาครุฑจะมีเครื่องประดับอันสวยงามเกิดจกบุญล้วนๆ ผมใด้สัมผัสและจับต้องนาคผู้หญิงมาแล้ว ผมเชื่อพระพุทธเจ้าพูดทุกอย่างไม่มีความสงสัยอะไรแล้ว ไม่มีความเตือนเต้นอีกแล้วมีแต่ฌานสมาธิเป็นสิ่งที่หน้าเตือนเต้นมากๆสำหรับผม เทวดาและอมนุษย์เป็นสัตว์โลกที่หน้าสงสารมาก พระนิพพานเป็นสิ่งอัศจรรย์สุดๆควรไปดูและไปเห็น

 

อย่างนั้น จงมาอธิบายให้ละเอียด รอบคอบ

 

ตอนที่ 2เมตตาจากจิตแม้จ้าวเวหายังยอมอ<wbr>โหสิ

เป็นภาพของทิพย์ทองแผ่เมตตาให้พ<wbr>ญาครุฑซึ่งมีแต่ความเคียดแค้นพย<wbr>าบาทดวงจิตของพญาครุฑจึงมีสีดำเ<wbr>มื่อทิพย์ทองแผ่เมตตาให้พญาครุฑ<wbr>เขาก็ไม่ยอมรับปฎิเสธ ทิพย์ทองก็ไม่ยอมละความพยายาม ทิพย์ทองกำหนดจิตให้สงบ อำนาจจิตยามนี้สว่างไสวราวกับปร<wbr>ะกายพรึก ดวงจิตสว่างถึงที่สุดเบาบางอย่า<wbr>งอิสระสักครู่ ทิพย์ทองเห็นกายตัวเองบางโปร่งใ<wbr>สลอยเข้าลอยออกระหว่างกายเนื้อก<wbr>ับกายทิพย์ดวงจิตยามนี้เป็นอิสระจากกิเลสทั้งมวลเพียง<wbr>ชั่วขณะทิพย์ทองรู้สึกถึงภาวะจิ<wbr>ตในขณะนี้ได้เมื่อกายทิพย์ชำนาญ<wbr>การเข้าออกและก็หยุดนิ่งอยู่ในก<wbr>ายเนื้อ แสงสว่างโอภาสสว่างจนถึงจุดดวงจ<wbr>ิตปราศจากกิเลสชั่วขณะนี้ทำให้ร<wbr>ะลึกรู้ได้ทันทีว่าเป็นดวงจิตสะ<wbr>อาดเต็ม เปี่ยมด้วยบารมีจิตแผ่กุศลให้พญ<wbr>าครุฑโดยเร็วทิพย์ทองแผ่กุศลให้<wbr>พญาครุฑพร้อมกับขออโหสิกรรมเต็ม<wbr>กำลังของจิตแสงสว่างนวลสีขาวพุ่<wbr>งตรงไปหาจุดหมายที่พญาครุฑต้องแ<wbr>สงประกายเรืองรองแวววับใสกระจ่า<wbr>งแสงกระทบห้อมล้อมดวงจิตพญาครุฑ<wbr>ชั่วครู่ขับไล่แสงสีดำของโมหะ โทสะ ให้ค่อยๆเคลื่อนออกจากจิตของพญา<wbr>ครุฑจนหมดสิ้น ดวงจิตที่ปราศจากสีดำของพญาครุฑ<wbr>เปล่งประกายแวววับใสกระจ่างเมื่<wbr>อแสงกระทบผิวกายก็เปล่งประกายเร<wbr>ืองรอง ทิฐิจางหายไปความอิ่มเอิบเข้ามา<wbr>เต็มที่ความโกรธแค้นหมดสิ้นไปดว<wbr>งจิตของพญาครุฑ ความนิ่มนวลอ่อนหวานเข้ามาแทนที<wbr>่
พญาครุฑรำพึง โอ้…อัญญานี
ในที่สุดเจ้าก็ได้ทำให้ข้ายอมแพ<wbr>้ ต่อแรงเมตตาที่เจ้าเพียรพยายามแ<wbr>ผ่มาให้ข้าเจ้าได้ทำสำเร็จแล้วไ<wbr>ม่มีดวงจิตชั่วร้ายอันใดหนีพ้นไ<wbr>ปจากดวงจิตบริสุทธ์ของผู้บำเพ็ญ<wbr>ธรรมของผู้บริสุทธิ์ไปได้แม้จะพ<wbr>ยายามไม่ยอมรับ ก็ต้องยอมเมื่อผู้นั้นฝึกจิตให้<wbr>ถึงระดับ…มันช่างอัศจรรย์จริงหน<wbr>อ
“ข้าขออโหสิกรรมให้เจ้า อัญญาณี…!

ภาพนี้อาจารย์วารุณีเล่าว่าเป็น<wbr>ภาพที่ดวงจิตของพญาครุฑซึ่งเป็น<wbr>สีดำ เมื่อทิพย์ทองเริ่มแผ่เมตตาให้ม<wbr>ากขึ้นๆก็เกิดมีแสงสว่างสีนวลขา<wbr>ว พุ่งไปจับที่ดวงจิตของพญาครุฑซึ<wbr>่งเป็นสีดำแสงสีนวลขาวค่อยๆไล่ด<wbr>วงจิตที่เป็นสีดำของพญาครุฑออกไ<wbr>ปทีละนิดๆ ถ้านึกภาพไม่ออกก็ให้นึกถึงภาพข<wbr>องราหูอมจันทร์ที่ค่อยๆคายจนกระ<wbr>ทั่งดวงจิตที่เป็นสีดำหายไป จึงมีดวงจิตใสแสงสว่างสีนวลขาวเ<wbr>ข้ามาแทนที่เป็นภาพที่สวยมากอีก<wbr>ภาพหนึ่ง

ยังมีตอนต่อครับ

 

เมตตาธรรม

 

ตอนที่ 3 รูปลักษณ์นางกินรีชายาพญาครุฑ
นางกินรีผู้เป็นหัวหน้าย่างกายอ<wbr>อกมายืนเด่นสง่าใบหน้าของกินรีต<wbr>นนี้งดงามตระการตา ผิวกายของนางขาวปนชมพูดั่งกลีบบ<wbr>ัวหลวงสีชมพู ผิวของนางแตกต่างกับผิวของเหล่า<wbr>บริวารที่ผุดผ่องเป็นสีผิวที่บ่<wbr>งบอกว่าอีกไม่นานเมื่อหมดอายุไข<wbr>ในแดนทิพย์นางจะไปจุติในแดนมนุษ<wbr>ย์ภพภูมิเบื้องหน้า ปฏิบัติธรรมตัดภพตัดชาติไม่ต้อง<wbr>วนเวียนต่อไปอีก ผมของนางดกดำยาวสลวยเป็นมันราวก<wbr>ับแพรไหมรวบรัดไว้ด้วยรัดเกล้าอันเล็กประดับด้วยอัญมนีหลาก<wbr>สีไว้เบื้องหลังหน้าผากกลมมนนูน<wbr> คาดสวมทับไว้ด้วยรัดเกล้าอัญมณี<wbr>หลากหลาย อัญมณีของรัดเกล้างดงามตระการตา<wbr>ส่องประกายแวววับ แสงของอัญมณีส่องกระทบใบหน้าทำใ<wbr>ห้ง ดงามตื่นตายิ่งนัก จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วโก่งดั่งคันศรดกดำเป็นมัน หัวคิ้วจรดชิดกัน ดวงตาดำขลับยาวรี เฉียงขึ้นส่งประกายเจิดจ้าราวกั<wbr>บนิลน้ำเลิศ ล้อมรอบด้วยขนตางอนหนาเป็นแพแบบ<wbr>ขนตากระต่าย ริมผีปากเป็นรูปกระจับเต็มอิ่มแ<wbr>ดงเจิดจ้าราวกับทาด้วยชาดสีแดงส<wbr>ด ลำคอระหงเป็นปล้องประดับด้วยอุบ<wbr>ะอัญมณีอันใหญ่งดงามสัมพันธ์กับ<wbr>ไหล่นวลละออมนลาด ทรวงอกเปลือยเปล่าตั้งเด่นชูชัน<wbr>คาดทับทรวงด้วงสังวาลสองสายไขว้<wbr>ทับกัน แขนประดับพาหุรัต (รัดต้นแขด) เป็นรูปพญานกใหญ่ซึ่งเป็นอาวุธป<wbr>ระจำตัวของนางตลอด ลำแขนกลมกลึงดุจลำเทียนไร้รอยต่<wbr>อของข้อกระดูก ปลายข้อมือประดับด้วยปลอกแขนแนบ<wbr>เนื้อเอวคอดกิ่วมองเห็นท้องนูนอ<wbr>อกมาเล็กน้อยบอกให้รู้ว่านางกิน<wbr>รีตนนี้กำลังทรงครรภ์ ใต้สะดือลงไปมีสังวาลอุบะอัญมณี<wbr>อันใหญ่คาดรัดปิดบังรอยต่อของผิ<wbr>วเนื้อมนุษย์กับขนนกหลากสีที่มั<wbr>นแวววับ ขาของนางเป็นขาแบบนกสีเหลืองสด สะบักหลังมีปีกอันใหญ่สองปีกติด<wbr>อยู่พู่หางของนางเป็นพู่ที่งดงา<wbr>มกลิ่นกายของนางหอมกรุ่นกำจายโช<wbr>ยมาจากร่างหอมชื่นใจอย่างประหลา<wbr>ด
อาจารย์วารุณีเล่าให้ฉันฟังว่าท<wbr>ี่บรรยายรูปร่างหน้าตานางกินรีต<wbr>นนี้ได้อย่างละเอียดเพราะว่าเขา<wbr>มายืนให้ดู ไม่เช่นนั้นเราจะบรรยายให้เห็นภ<wbr>าพได้อย่างไร จริงๆแล้วหน้านางกินรีสวยมาก
ขอจบเรื่องเพียงเท่านี้ก่อน…เรื<wbr>่องราวยังมีอีกเยอะเดี๋ยววันหลั<wbr>งจะเล่าให้ฟังใหม่

อ.เสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์

 

อยากอ่านต่อค่ะ ทุกเรื่องที่เล่ามีในหนังสือใช่ไหมคะ เดี๋ยวไปหาฃื้อ

 

เท่าที่ทราบเหลือแต่มิติซ้อนมิติเล่ม2ครับ ส่วนมิติซ้อนมิติเล่ม1กับตำนานรักข้ามภพหมดนะครับ จะพิมพ์เสร็จประมาณกลางเดือนต.ค.ครับติดต่อสั่งจองได้ที่สำนักพิมพ์ช่อแก้ว ติดต่อ0863247404คุณเสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์ ทราบว่าตอนนี้ยอดจองเข้ามามากครับ รายได้ทุกบาทเข้าเป็นค่าใช้จ่ายในสถานปฏิบัติธรรมภวันตุเตทั้งหมดครับ อนุโมทนาด้วยครับ

 

คุณ Piya เราเชื่อท่านค่ะ 100% หากท่านอยากพบกับพญาครุฑ พญานาค กินนรี กินนร หรือ เมืองบังบด ลับแล หิมพานต์ของจริงที่ไม่ใช่นิมิต แต่สามารถนำมาเล่าเขียนเป็นหนังสือให้มนุษย์ทั้งหลายได้รับรู้ของจริงๆ ข้าพเจ้าขอแนะนำสถานที่ของจริงที่หนึ่งให้จร้า รับรองเจอแน่นอน ไม่ต้องถึงกับสมาธิขั้นสูงหรือถอดจิตไปสัมผัส เอาแค่จิตสงบสำรวมเป็นกุศลสัมผัส และความตั้งใจจริงๆ ข้าพเจ้าจะบอกเหล่าญาณทิพย์ในสถานที่นั้นให้มาพบท่านและแลกเปลี่ยนสนทนาธรรมกับพวกเขา พวกเขาอยากฟังธรรมจากผู้มาเยือน เพียงท่าน pm มาหาข้าพเจ้า เราเองจะให้เบอร์ติดต่อทางสำนักสงฆ์หลังถ้ำ จ.อุบลราชธานี แล้วถามทิศทางเองจร้า เราเจอมาแล้วกับตัวเองของจริงๆ แล้วพวกเขารอคนอย่างท่านอยู่ รอเพื่อให้คนที่มีศีลมีธรรมอย่างท่าน ไปช่วยพวกเขาให้ได้รับบุญกุศลไปด้วยกัน เพราะที่นี้ไม่มีคนรู้จักมากนัก นอกจากชาวบ้านคนเฒ่าคนชราที่รู้อดีตของสถานที่นีดี เราเชื่อว่า ท่านก็เป็นลูกหลานของพญาครุฑ และบุญหรือกรรมสัมพันธ์ในอดีตชาติกันมา ท่านจึงเจอญาณทิพย์เหล่านี้เข้า

เนื่องจากตัวข้าพเจ้าเองนั้นก็มีกรรมสัมพันธฺกับพญานาคในอดีตมาเหมือนกัน เราก็เคยมาจากเมืองบาดาล จึงทำให้เรานั้นได้ถูกเจาะจงให้พบกับพวกเขาโดยเฉพาะ พญาครุฑ พญานาคไม่ใช่สิ่งที่จะพบง่ายๆหากไม่มีเหตุต้นผลกรรมกันมาก่อน

ท่านลองกำำหนดจิตถึง ชื่อของสถานที่นี้ดู แล้วทำสมาธิไปถึงญาณทิพย์ทั้งหลายที่สถานที่นั้น ก็อาจได้สัมผัสบางอย่าง บางคนขนลุกขนชันๆ

เราอ่านเรื่องของท่านแล้ว น่าสนใจมากจริงๆ ขออนุโมทนาจร้า สาธุๆๆๆ

 

ขอขอบคุณในความกรุณาของท่านนะครับ ข้าพเจ้าเองเป็นผู้ปฏิบัติธรรมผู้หนึ่งซึี่งได้นำเอาเรื่องของครูบาอาจารย์มาเล่าให้ท่านทั้งหลายฟัง เห๖ุเกิดจากอยากให้เชื่อเรื่องกรรมและภพภูมิต่างๆที่เราไม่สามาร๔เห็นด้วยตามากกว่า และอีกเห๖ุหนึ่งคืออยากโปรโมทหนังสือของสถานธรรมภวันตุเตซึ่งรายได้นำมาเป็นค่าใช้จ่ยต่างๆเช่นการก่อสร้าง แจกทาน และอาหารการกินของผุ้ที่มาปฏิบัติธรรมครับ เจตนาที่เป้นกุศลของท่านขอน้อมรับด้วยใจครับ ตอนนี้อาจารย์ท่านมีปัญหาเนื่องจากปีที่แล้วน้ำท่วมกัดเซาะฐานรากของตึกจนใกล้จะทรุดตัวลงมาจึงต้องถมสระ จึงขาดปัจจัยจำนวนมากถ้าสนใจจะร่วมบริจาคได้ที่เวบ วารุณี สวัสดิภักดิ์ | Facebookหรือสังซื้อได้ที่สำนักพิมพ์ช่อแก้ว ติดต่อ0863247404คุณเสาวนีย์ สวัสดิภักดิ์ ครับกราบขอบพระคุณและอนุโมทนากับท่านทั้งหลายมาณ.ที่นี้ด้วยครับ

 

ขอบคุณมาก ครับ น่าสนใจ...เดี๋ยวแวะไปดู facebook หน่อย

 

ครับ ยินดีครับ ลองแวะไปดุละกันครับ

 

({) พูดออกมาได้ น่าสงสารจังคนที่กว่าวเช่นนี้คงเป็นพระอริยเจ้าแล้วสินะถึงได้ว่าอย่างนี้ เอาแค่เขตุสวรรค์ จะได้เห็นหรือเปล่า แค่นี้มันก็ปรามาสพระรัตนตรัยแล้ว แต่น้องยังลืม ไปว่า สวรรค์ทุกชั้นนั้นน่ะ มีพระอริยะเจ้า ตั้งแต่ พระโสดาบันขึ้นไปถึงพระอนาคามี ท้าวมหาราชทั้ง ๔ โดยเฉพาะท่านท้าวเวสสุวัณท่านเป็นพระอริย สมัยพระพุทธเจ้าแล้ว ฟังธรรมจากพระองค์ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม แล้ว ไม่กับมาเกิดอีก ได้เวลาท่านก็นิพพานบนนั้นเลย แล้วท่านยังมีขี้อยู่ คติแน่นอนแล้วยังล่ะ ฮาๆฮ่าฮ้าๆๆๆ

 

ใจเย็นๆคุยกันอย่างฉันมิตร ด้วยสติ ปัญญาจะเกิด

มีความสุข ทุกคนทุกท่าน

 

เรื่องนี้เคยเป็นละครช่องเจ็ดใช่มั๊ยคะ งง เป็นการโฆษณาหนังสือนิยายใช่มั๊ย

 

คนละเรื่องกันครับนั่นคือเรื่องนี้ครับ[ame=http://www.youtube.com/watch?v=XABrdr_1b48]กาษา นาคา เท่ห์ อุเทน - YouTube[/ame]

ส่วนเรื่องนี่ตำนานรักขัามภพเป้นเรื่องที่ผู้ไม่ยอมปรากฏกายเล่าให้ฟังครับ

 

อนุโมทนาบุญแก่ทุกๆท่้านที่มาร่วมเล่าประสบการณ์ความรู้ต่างๆให้ค่ะ โดยส่วนตัวเชื่อว่าสิ่งที่มองไม่เห็นนั้นมีอยู่จริงนะคะ ถึงแม้จะไม่เคยสัมผัสอะไรได้ด้วยตนเองก็ตาม ^-^

 

โอ้วว.. รู้สึกยินดีนะเนี่ย ที่มีผู้แสดงความไม่เห็นด้วย ... เป็นท่านแรกของการโพสต์เลยทีเดียว

ทำงัยได้ล่ะคะ... บางเรื่องเนี่ย ผู้รู้ก็รู้ได้เฉพาะตน
จะควักอะไรออกมาโชว์เป็นหลักฐานมันก็ไม่มี
ครั้นจะอธิบายก็อธิบายไม่ออก
เพราะชั่วโมงบินของข้าพเจ้าเองก็ยังไม่ถึง
ที่เข้ามาเนี่ยก็จะเข้ามา อโหสิกรรมค่ะ


ก็ขอให้ทุกอย่างระหว่างท่านทั้งหลายทั้งที่ไม่เห็นด้วยและในทุกความรู้สึกนึกคิดอารมณ์
จงเป็นอโหสิกรรมร่วมกัน ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ

อโหสิ อโหสิ อโหสิ

 

วารุณี สวัสดิภักดิ์


ขออนุโมทนาบุญกับท่านผุ้ใจบุญทั<wbr>้งหลายที่ได้ร่วมปัจจัยถมสระ ซัึ่งอยุ่ระหว่างศาลาปฏิบัติธรร<wbr>กับศาลาแจกทาน มาณ.ที่นี้ด้วย

<form rel="async" class="live_277926862326171_316526391751760 commentable_item autoexpand_mode" method="post" action="/ajax/ufi/modify.php" data-live="{&quot;seq&quot;:&quot;277926862326171_1225097&quot;}" id="u8shf3j55"> <a href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171"><abbr title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 10:38 น." data-utime="1349235492">วัน วันพุธ เวลา 10:38 น.</abbr> ·

• คุณและ Ubonwattana Limlertpong ชอบสิ่งนี้
• 
  Ubonwattana Limlertpong รอหมดฝนก่อน สระนี้ถมแล้วจะเป็นลานแจกทาน
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1218805&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218805}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 10:42 น." data-utime="1349235748" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218805}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 10:42 น.</abbr>
• 
  Budsara Pincharoen ขอปวารณาตัว จะถมสระนี้ให้แล้วเสร็จจนเป็นลานแจกทานให้ได้
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1218821&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218821}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 10:45 น." data-utime="1349235932" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218821}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 10:45 น.</abbr>
• 
  Budsara Pincharoen ขอบุญที่ทำไว้ดีแล้วนี้ เป็นพลวปัจจัยให้เกิดปัญญา สามารถพาตนก้าวข้ามพ้นผ่านภัยแห่งวัฏฏสงสารได้ด้วยเทอญ
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1218831&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218831}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 10:47 น." data-utime="1349236054" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1218831}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 10:47 น.</abbr>
• 
  วารุณี สวัสดิภักดิ์ สาธุ บรามีทาน ช่วยเพื่อนร่วมเกิดแก่เจ็บตาย ด้วยการให้อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ปัจจัยการศึกษาเล่าเรียน ช่วยเติมให้แม้ทางจะช่วยอยู่ก็คงไม่พอเพียง แต่เราเข้าไปช่วยตามอัตภาพ สิ่งเหล่านี็คือการสร้างทาน บรามี ช่วยให้คนทุกข์ ยากไล้ ด้อยโอกาส เป็นสิ่งที่ตัวเรา ชอบทำมากที่สุด ยิ่งกว่าการสร้างวัตถุถาวรใดๆ รู้สึกยินดี ที่สามารถช่วยคนอื่นหยุดหิวโหย ชั่วขณะด้วยสิ่งที่เราหยิบยื่นให้ ความสุขนี้เกิดที่ใจเราเอง และเป็นสิ่งที่สร้างมันขึ้นมา แล้วได้เห็นผลในทันที่ที่เขาได้รับสิ่งของ ๆที่เราให้และของสิ่งนั้นมูลค่าเมื่อก่อนที่เราให้เจ็ดร้อยกว่าบาท สิ่งของเหล่านั้น เป็นดีๆเสมอกับทีเราใช้อยู่ ท่านทีร่วมด้วยช่วยกันทำลานบริจากทาน บุญกุศลท่านได้แล้ว และเพิ่มทวีทุกครั้งทีมีการบริจากทาน เราขอ อนุโมทนา สาธุ กับท่านผู้ใจบุญทั้งหลาย ขอความผาสุข มรรค ผล และความสำเร็จจงบังเกิด กับท่านผู้ใจบุญทุกท่าน
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1219357&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219357}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 13:47 น." data-utime="1349246822" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219357}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 13:47 น.</abbr>
• 
  วารุณี สวัสดิภักดิ์ ความ ตั้งใจเกียวกับเรื่องการบริจากทาน เคยคิดว่า ถ้าหากมีปัจจัยมายมายเหมือนคนอื่นเราอยากจะแจกทานสักแสนชุด ถ้ามีบารมีกลางๆเราอยากแจกสักหมื่นชุดถ้ามีบรามีน้อยเราอยากแจกสักพันชุด ตอนนี้เราได้แจกไปแล้วหกร้อยชุด พอดีศาลาแจกทานพังเสียก่อนเลยหยุด พึ่งสร็จเมื่อเดือน กันยาที่ผ่านมาแล้วคิดว่าเมื่อถมสระเสร็จแล้ว เราจะแจกให้ครบพันชุด แล้วทำต่อไปเรื่อยๆ ถ้าถามว่าเอาเงินที่ไหนมาซื้อของแจกทานนัก เวลาจะแจกทานมีคนร่วมด้วยเป็นปัจจัย เราก็บอกว่าคุณซื้อของมาเองดีกว่า แต่มีข้อแม้ว่า ของทีซื้อมาต้องเป็นของดีหมือนอย่างที่นี่ ยกตัวอย่างเช่น คนทำบุญน้ำปลาขวดหนึ่งก็ขออย่างดี หลายคนก็หลายขวด เมื่อจัดเป็นกองทานก็สามารถแจกของดีๆ เสมอของที่เราใช้เอง ที่สำคัญจะได้ไม่ต้องทำให้คนทำบุญแล้วได้บาปแทน คือสังสัยเกียวกับเงินทำบุญแล้วคิดว่าเราได้ผลประโยนช์จากตรงนี้ เขาจะได้เลิกคิดอกุศล เมื่อไม่คิดสงสัยก็จะได้กุศลบุญเต็มที่
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1219444&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219444}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 14:29 น." data-utime="1349249372" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219444}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 14:29 น.</abbr>
• 
  วารุณี สวัสดิภักดิ์ การ แจกทานทุกครั้ง จะนิมนต์พระมาทำหน้าทีเทศโปรดญาติโยน ส่วนตัวเราก็จะเป็นฝ่ายฟังเงียบทุกครั้ง ในครั้งหนึ่งเราเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งนั่งก้มหน้าอุ้มลูกสาวให้นั่งตัก เราพิจาราณาเห็น ซึ่งในขณะนั้นพระกำลังฉันอาหารอยู่ เราคิดในใจว่าเออหนอคำว่ารับแจกทานนี้คนคงคิดว่าตนเองต่ำต้อยสิ้นไร้ไม้ตรอก จึงต้องมารับทานคนอื่นเขา เราเลยขอไมค์ มาพูดเองว่า ท่านทั้งหลายที่มารับการอนุเคาะห์ช่วยเหลือในวันนี้ ท่านไม่ได้ติดหนี้ใดๆกับภวันตุเตทังสิ้น แต่หน้าที่ของท่านทั้งหลายมีคือข้อ มุทิตา ท่านจงเงยหน้าขึ้นมอง เทวดาในร่างมนุษย์ทีมีจิตเมตตาช่วยเหลือท่านแล้ว แสดงมุทิตา ด้วยการตั้งใจเปล่งวาจาในใจหรือออกจากปากก็ดี อนุโมทนา สาธุ เทวดาผู้ใจบุญในร่างมนุษย์ทุกท่าน ส่วนผู้ใจบุญทั้งหลายอย่าคิดว่าเขาติดค้างบุญคุณเราใดๆ เรามีหน้าทีขอบคุณผู้ทีเราได้แจกทานให้เขา เพราะว่าเขาทำให้เราได้เสร้งบารมีทาน
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1219487&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219487}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 14:52 น." data-utime="1349250779" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219487}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 14:52 น.</abbr>
• 
  วารุณี สวัสดิภักดิ์ จาก นั้นมีคนบอกเราว่า การแจกทานทำให้คนขี้เกียจ สู้สร้างวัตถุถาวรไม่ได้เราเลยบอกว่าสิ่งที่พูดมา เป็นแค่อิฐหิน ปูนทรายก่อขึ้นมา เสร็จแล้วรองเอาฆ้อนไปทุบอย่างมากมันก็พัง มันไม่ร้องไม่เ...ดูเพิ่มเติม
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1219546&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219546}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 15:19 น." data-utime="1349252342" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219546}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">วัน วันพุธ เวลา 15:19 น.</abbr>
• 
  Budsara Pincharoen สาธุค่ะ
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1219814&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219814}..[1]..[1]..[1].[0].[0][1]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="3 ตุลาคม 2012 เวลา 17:28 น." data-utime="1349260113" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1219814}..[1]..[1]..[1].[0].[0][1].">วัน วันพุธ เวลา 17:28 น.</abbr> ผ่าน มือถือ · เลิกชอบ · 1
• 
  Budsara Pincharoen สาธุกับทานบารมีของคุณแม่...สาธุ...สาธุ....สาธุ
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1221955&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1221955}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="4 ตุลาคม 2012 เวลา 7:01 น." data-utime="1349308873" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1221955}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">19 ชั่วโมงที่แล้ว</abbr> ·
• 
  วารุณี สวัสดิภักดิ์ ร้อยพันหมื่นคน ร้อยใจพันดวง เก็บมะลิได้หนึ่งดอก เอาไปให้วพระไม่เสียดายเวลาที่พูดเลย
  <a class="uiLinkSubtle" href="http://www.facebook.com/varunee.sawasdeepak/posts/277926862326171?comment_id=1225097&offset=0&total_comments=10" data-ft="{&quot;tn&quot;:&quot;N&quot;}" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1225097}..[1]..[1]..[1].[0].[0]"><abbr class="livetimestamp undefined" title="5 ตุลาคม 2012 เวลา 0:28 น." data-utime="1349371718" id=".reactRoot[177].[1][2][1]{comment277926862326171_1225097}..[1]..[1]..[1].[0].[0].">ประมาณ 1 ชั่วโมงที่แล้ว</abbr> ·
  
  
  
  
  

</form>