มงคลวัตถุ - เครื่องรางของขลัง (๙)

รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่แผ้ว วัดกำแพงแสน..







รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รูปหล่อรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก ซึ่งจัดสร้างได้งดงามและเหมือนหลวงปู่แผ้วมาก ออกให้บูชาไม่นานก็หมดจากวัดอย่างรวดเร็ว ประสบการณ์ดีด้านคลาดแคล้ว ปลอดภัย ทหารตำรวจชอบยิ่งนัก รูปหล่อรุ่นแรกองค์นี้พิเศษหลวงปู่แผ้วเจิมหมึกเงินที่ใต้ฐานให้ด้วยครับ สภาพสวยเดิมๆ หายากพอๆกับเหรียญรุ่นแรกครับ แบ่งบูชา 1,200 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->j999<!-- google_ad_section_end --> ขอบพระคุณมากครับ)<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3579918", true); </SCRIPT>

 

รูปหล่อรุ่นแรก หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รูปหล่อรุ่นนี้จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก ซึ่งจัดสร้างได้งดงามและเหมือนหลวงปู่แผ้วมาก ออกให้บูชาไม่นานก็หมดจากวัดอย่างรวดเร็ว ประสบการณ์ดีด้านคลาดแคล้ว ปลอดภัย ทหารตำรวจชอบยิ่งนัก รูปหล่อรุ่นแรกองค์นี้พิเศษหลวงปู่แผ้วเจิมหมึกเงินที่ใต้ฐานให้ด้วยครับ สภาพสวยเดิมๆ หายากพอๆกับเหรียญรุ่นแรกครับ แบ่งบูชา 1,200 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)
ขอจองครับ

 

ขุนเพ็ด.. ไม้คูณตายพราย..







"ปลัดขิก" หรือ "ขุนเพ็ด" เป็นเครื่องรางของขลังที่โบราณาจารย์นิยมจัดสร้างขึ้น มีลักษณะรูปร่างแปลกตาไปจากวัตถุมงคลประเภทอื่น กล่าวคือ จะมีสัณฐานเป็นรูป "ลึงค์" หรืออวัยวะเพศชาย

จะทำจากไม้มงคล กัลปังหา เขาสัตว์ หรืองา นิยมแขวนไว้ระดับเอวโดยจัดสร้างขึ้นมามากมายหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจิ๋วกว่าปลายนิ้วก้อย ไปจนถึงขนาดเท่าของจริง และขนาดใหญ่โตมโหฬาร สูงท่วมหัว

ด้วยความนิยมใช้ปลัดขิก ถึงขนาดที่ว่ามีการท่องไล่เรียง "ของดี" หรือของสุดยอดของเครื่องราง ที่คู่ควรสะสมไว้ว่า "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อป่าน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นวัดศีรษะทอง เบี้ยแก้กันวัดนายโรง ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง"

ในสมัยโบราณปลัดขิกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย ทั้งนี้จะผูกปลัดขิกดอกน้อยๆ ไว้ที่สะเอวของเด็กเพศชาย ซึ่งนอกจากความเชื่อในด้านป้องกันอันตรายแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่บ่งชี้ในเรื่องเพศอย่างเด่นชัด ต่อมาเมื่อกิตติศัพท์ทางแคล้วคลาดรอดพ้นจากโรคภัยและอันตรายต่างๆ ขจรขจายออกไป ก็เกิดความนิยมในการเสาะแสวงหา บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ก็รวบรวมเอาความรู้ต่างๆ ดำเนินการปลุกเสก และจัดสร้าง มีการเลือกไม้หรือวัสดุอันเป็นมงคลตลอด จนจดจารพระคาถา เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นใจให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นอานุภาพของปลัดขิกจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงการรักษาป้องกันโรคแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ได้กลายสภาพเป็นเครื่องรางของขลัง (Charm and Talismans) โดยมีความเชื่อว่ามีอานุภาพทางด้านป้องกันอันตราย มีเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ การทำมาค้าขาย หรืออื่นๆ อีกด้วย

ขุนเพ็ด แกะจากไม้คูณยืนต้นตายพราย หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ จ.พิจิตร ลงจารด้วยตัวท่านเอง ใช้ทางเมตตามหานิยม ค้าขายดีนัก กันเขี้ยวงาอสรพิษร้าย และกันผีได้ดีอีกด้วย แบ่งบูชา 400 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->dejlee<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3579962", true); </SCRIPT> ขอบพระคุณมากครับ)

 

รับทราบการจองครับ..

รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ

thaiput007@hotmail.com

 

พระเม็ดบัวที่หายาก..





พระเม็ดบัวของดีที่หายากของหลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐฒ พระเม็ดบัวเนื้อชนวนสัมฤทธิ์หล่อโบราณนี้จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก จากชนวนสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการหล่อพระประธาน พระชุดนี้จะหาสวยได้ยากเพราะเป็นพระหล่อโบราณขึ้นดินไทย สร้างล้อพิมพ์พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ด้านหลังจะตอกโค๊ตตัวนะทุกองค์ พระเม็ดบัวเนื้อชนวนองค์นี้สภาพสวยไม่ผ่านการใช้ เป็นพระหายากและดีมากอีกรุ่นนึง ลูกศิษย์ไม่ควรพลาดครับ แบ่งบูชา 850 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->dejlee<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3579962", true); </SCRIPT> ขอบพระคุณมากครับ)

 

"ปลัดขิก" หรือ "ขุนเพ็ด" เป็นเครื่องรางของขลังที่โบราณาจารย์นิยมจัดสร้างขึ้น มีลักษณะรูปร่างแปลกตาไปจากวัตถุมงคลประเภทอื่น กล่าวคือ จะมีสัณฐานเป็นรูป "ลึงค์" หรืออวัยวะเพศชาย

จะทำจากไม้มงคล กัลปังหา เขาสัตว์ หรืองา นิยมแขวนไว้ระดับเอวโดยจัดสร้างขึ้นมามากมายหลายขนาด ตั้งแต่เล็กจิ๋วกว่าปลายนิ้วก้อย ไปจนถึงขนาดเท่าของจริง และขนาดใหญ่โตมโหฬาร สูงท่วมหัว

ด้วยความนิยมใช้ปลัดขิก ถึงขนาดที่ว่ามีการท่องไล่เรียง "ของดี" หรือของสุดยอดของเครื่องราง ที่คู่ควรสะสมไว้ว่า "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อป่าน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นวัดศีรษะทอง เบี้ยแก้กันวัดนายโรง ตะกรุดหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง"

ในสมัยโบราณปลัดขิกถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของเพศชาย ทั้งนี้จะผูกปลัดขิกดอกน้อยๆ ไว้ที่สะเอวของเด็กเพศชาย ซึ่งนอกจากความเชื่อในด้านป้องกันอันตรายแล้ว ยังเป็นเครื่องมือที่บ่งชี้ในเรื่องเพศอย่างเด่นชัด ต่อมาเมื่อกิตติศัพท์ทางแคล้วคลาดรอดพ้นจากโรคภัยและอันตรายต่างๆ ขจรขจายออกไป ก็เกิดความนิยมในการเสาะแสวงหา บรรดาพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ก็รวบรวมเอาความรู้ต่างๆ ดำเนินการปลุกเสก และจัดสร้าง มีการเลือกไม้หรือวัสดุอันเป็นมงคลตลอด จนจดจารพระคาถา เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นใจให้ผู้คนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นอานุภาพของปลัดขิกจึงมิได้จำกัดอยู่เพียงการรักษาป้องกันโรคแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ได้กลายสภาพเป็นเครื่องรางของขลัง (Charm and Talismans) โดยมีความเชื่อว่ามีอานุภาพทางด้านป้องกันอันตราย มีเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ การทำมาค้าขาย หรืออื่นๆ อีกด้วย

ขุนเพ็ด แกะจากไม้คูณยืนต้นตายพราย หลวงพ่อหวั่น วัดคลองคูณ จ.พิจิตร ลงจารด้วยตัวท่านเอง ใช้ทางเมตตามหานิยม ค้าขายดีนัก กันเขี้ยวงาอสรพิษร้าย และกันผีได้ดีอีกด้วย แบ่งบูชา 400 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

ขอจองครับ

 

พระเม็ดบัวของดีที่หายากของหลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐฒ พระเม็ดบัวเนื้อชนวนสัมฤทธิ์หล่อโบราณนี้จัดสร้างขึ้นเป็นรุ่นแรก จากชนวนสัมฤทธิ์ที่เหลือจากการหล่อพระประธาน พระชุดนี้จะหาสวยได้ยากเพราะเป็นพระหล่อโบราณขึ้นดินไทย สร้างล้อพิมพ์พระหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ด้านหลังจะตอกโค๊ตตัวนะทุกองค์ พระเม็ดบัวเนื้อชนวนองค์นี้สภาพสวยไม่ผ่านการใช้ เป็นพระหายากและดีมากอีกรุ่นนึง ลูกศิษย์ไม่ควรพลาดครับ แบ่งบูชา 850 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองครับ..

รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ

thaiput007@hotmail.com

 

ท้าวเวสสุวัณ "รุ่นแรก" วัดเกตุม





เข็มกลัด ท้าวเวสสุวรรณกะไหล่ทอง วัดเกตุมวดี จ.สมุทรสาคร ปี พ.ศ.๒๕๑๑
กะไหล่ทองครับ รุ่นนี้มีเกจิที่เป็นที่รู้จักกันดีว่ามีณานติดต่อกับท้าวเวสสุวัณได้นั่นก็คือ พระเดชพระคุณหลวงพ่อเนื่อง แห่งวัดจุฬามณี จ.สมุทรสงคราม
ร่วมปรกปลุกเสกอยู่ด้วย วัดเกตุมขี้นชื่ออยู่แล้วครับ เรื่องการปลุกเสกท้าวเวสสุวัณ พิธีใหญ่ครับ ท่านท้าวเวสสุวัณในสมัยโบราณนั้น มีธรรมเนียมประเพณีต่าง ๆ เกี่ยวกับทารก หรือ ความเชื่อถือในเรื่องผีสาง ในการปกป้องคุ้มครองบุตรโดยทำรูปท้าวเวสสุวัณแขวนไว้ที่เปลเด็ก ถือเป็นธรรมเนียมมาช้านานทีเดียว ด้วยเหตุที่ว่า ท้าวเวสสุวัณ เป็นนายพวกยักษ์ เป็นใหญ่ในบรรดาผีปีศาจทั้งหลาย จึงนิยมทำรูปท้าวเวสสุวัณแขวนไว้ที่เปลเด็ก เพื่อป้องกันปีศาจไม่ให้มารบกวนเด็ก โดยมักเขียนลงบนผ้าขาวม้า แขวนไว้ที่เปลเด็ก โดยเหตุที่เขียนลงบนผ้าขาวม้า ก็เพราะว่า ท้าวเวสสุวัณ มีพาหนะเป็นม้า จึงสมมุติว่า ผ้าขาวม้าเป็นพาหนะ “ม้า” ของท้าวเวสสุวัณ ในส่วนที่สร้างเป็นเครื่องรางของขลัง เป็นรูปเคารพ ที่สามารถพกพาติดตัวได้นั้น ถ้าถือเอาความนิยมเป็นอันดับหนึ่งของวงการพระเครื่อง ที่มีการเช่าหาแลกเปลี่ยนกันในมูลค่าสูง

เข็มกลัดท้วเวสสุวัณ วัดเกตุม รุ่นแรก ปี 5211 หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณีปลุกเสก สภาพสวยมาก กะไหล่ทองเต็มๆ แบ่งบูชา 950 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007<!-- google_ad_section_end -->

 

เหรียญใหม่มาแรง เหรียญเพชรกลับ หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม..







"หลวงพ่อผอง ธัมมธีโร" หรือ "พระครูธีรพัชโรภาส" เจ้าอาวาสวัดพรหมยาม ต.สามแยก อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังสายหลวงพ่อทบ ได้รับการถ่ายทอดสรรพวิทยาคม การฝึกสมาธิ ตลอดจนเคล็ดลับต่างๆ ในการปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคลให้ศักดิ์สิทธิ์

หลวงพ่อผอง เกิดเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2467 ที่บ้านหันน้อย ต.หันมะเขือ อ.พล จ.ขอนแก่น

อุปสมบทเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2489 ที่วัดศรีชมชื่น ม.15 ต.บ้านเรือ อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น มีพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมธีโร

ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อทบ วัดเขาน้อย อ.ชนแดน ศึกษา วิทยาคม

หลวงพ่อผอง ได้อยู่ปฏิบัติรับใช้หลวงพ่อทบ นานหลายพรรษา จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลดงขุย-ชนแดน

หลวงพ่อผอง ได้เริ่มจัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ ทั้งเนื้อว่าน รูปหล่อ เหรียญชนิดต่างๆ มาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2535 เพื่อหาทุนสมทบก่อสร้างศาลาการเปรียญ ห้องสมุด และอุโบสถ

วัตถุมงคลของท่านทุกรุ่น ล้วนได้รับความนิยมสูง ด้วยไม่เน้นจัดสร้างเพื่อการค้าแต่อย่างใด แต่จัดสร้างเพื่อมอบให้ญาติโยมที่สมทบทุนบริจาคทรัพย์สร้างถาวรวัตถุในพระพุทธศาสนาเท่านั้น

เหรียญยันต์กลับ เป็นอีกเหรียญรุ่นหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สร้างขึ้นในวาระที่หลวงพ่อผอง มีอายุครบ 7 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2551 จัดสร้างเป็นเหรียญดีบุกจำนวน 300 เหรียญ เหรียญทองแดงรมดำ 3,000 เหรียญ เฉพาะเหรียญดีบุก ทุกเหรียญจะมีเลขกำกับทุกเหรียญ อีกทั้งก่อนมอบให้ลูกศิษย์คนใด หลวงพ่อจะจารด้วยมือของท่านเอง

ลักษณะของเหรียญทั้ง 2 ชนิด เป็นเหรียญทรงกลมคล้ายรูปไข่ มีลายกระหนกล้อมรอบ ขนาด 2.5 เซนติเมตร มีหูห่วงเชื่อม

ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางจะเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อผอง ขนาดครึ่งองค์ ใต้รูปโค้งไปตามขอบ เขียนว่า "๗ รอบ หลวงพ่อผอง" มีอักขระ 3 ตัว อยู่ด้านบนและด้านข้างซ้าย-ขวา บนศีรษะรูปเหมือนหลวงพ่อ

ด้านหลังเหรียญ เป็นยันต์ห้า หัวกลับลง ด้านบนยันต์เขียนว่า "วัดพรหมยาม อ.วิเชียร บุรี จ.เพชรบูรณ์" ปลายยันต์ หัวกลับ เขียนว่า ๒๕๕๑ คือปี พ.ศ. ที่จัดสร้าง

ภายหลังจัดสร้างแล้วเสร็จ ปรากฏว่า เหรียญรุ่นนี้ชนิดดีบุก หมดไปในชั่วพริบตา ส่วนเหรียญทองแดงรมดำ ก็หมดไปแล้วเช่นกัน

เหรียญดังกล่าว เชื่อกันว่ามีพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย สามารถแก้คุณไสย เมตตามหานิยม ชาว อ.วิเชียรบุรี อ.บึงสามพัน และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนใหญ่นิยมเหรียญรุ่นนี้ นำไปห้อยคอติดตัวแทบทุกคน

ส่วนราคาเช่าบูชาในหมู่นักสะสม จะอยู่ที่หลักพันต้นๆ จนถึงหลักพันกลาง แต่ส่วนมากใครที่มีไว้ในครอบครอง มักจะไม่ยอมนำไปปล่อยให้เช่าบูชาต่อ จนกลายเป็นเหรียญหายากอีกรุ่นหนึ่งไปแล้วในขณะนี้
คอลัมน์ เปิดตลับพระใหม่

ที่มาจากหนังสือพิมพ์ :

 

หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม



หลวงพ่อพระครูธีรพัชโรภาส ( ผอง ธมฺมธีโร ) นามเดิมชื่อ ผอง นามสกุล อินทรผล เกิดที่บ้านหันน้อย ต. หนองมะเขือ อ. พล จ. ขอนแก่น เมื่อวันอังคารที่ 24 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2467 บิดาชื่อ นายหลอด อินทรผล มารดาชื่อ นางบุญโฮม ผลโพธิ์ มีพี่น้องร่วมท้องมารดาเดียวกันทั้งหมด 7 คน ท่านเป็นพี่คนโต การศึกษาในวัยเยาว์ท่านเรียนจบชั้น ม.ศ. 3 จากโรงเรียนบำรุงไทย 2 อ. พล จ. ขอนแก่น ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ท่านได้เข้ารับการฝึกเป็นกองทหารอาสาในช่วงปี 2488 พอถึงช่วงปลายปีนั้นสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลงท่านจึงไม่ได้ไปร่วมรบแต่อย่างใด

ท่านอุปสมบทเมื่อ วันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2489 ที่วัดศรีชมชื่น ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 15 ต. บ้านเรือ อ. ภูเวียง จ. ขอนแก่น โดยมีพระครูปฏิพัทธ์ธรรมคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลัง จากที่ได้บวชที่วัดศรีชมชื่นแล้ว ท่านได้จำพรรษาที่ วัดโพธิ์ชัย และวัดสระแก้ว วัดละ 1 พรรษา ท่านสอบได้นักธรรมชั้นตรีที่วัดโพธิ์ชัยและนักธรรมชั้นโทที่วัดสระแก้ว หลังจากนั้นท่านได้เดินธุดงค์ผ่านมาทางเทือกเขาจังหวัดชัยภูมิ มาจำพรรษาที่วัด มะกอกหวาน อ. ชัยบาดาล จ. ลพบุรี อีก 2 พรรษา หลังจากจำพรรษาที่นี่แล้ว พอออกพรรษานั้นท่านได้เดินธุดงค์ไปตามจังหวัดต่าง ๆ ทั่วภาคกลาง เช่นพระนครศรีอยุธยา ชัยนาถ นครสวรรค์ พิจิตร ฯลฯ และได้มาพักที่ อ. ตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ก่อนจะเดินธุดงค์ขึ้นไปทางภาคเหนือ เหมือนท่านได้เคยบำเพ็ญบารมีเป็นศิษย์กับอาจารย์ ร่วมกันมากับหลวงพ่อทบ ท่านได้รับการชักชวนจากเจ้าอาวาสวัดสว่างเนตร ต. ดงขุย อ. ชนแดน ให้มาจำพรรษาและพัฒนาวัดร่วมกัน ท่านจึงได้ตัดสินใจจำพรรษาที่วัดนี้ เป็นเวลาถึง 7 พรรษา ช่วง พ.ศ. 2492 – 2498

และสอบได้นักธรรมชั้นเอกที่วัดสว่างเนตร หลังจากนั้นท่านได้ย้ายมาจำพรรษาที่วัดสิริรัตนาราม บ้านท่านข้าม อ. ชนแดนอีก 7 พรรษา ในช่วง 14 พรรษา ที่อยู่ที่ อ. ชนแดนนี้ ท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นพระสังฆาธิการทำหน้าที่เลขานุการเจ้าคณะตำบล และเคยรักษาการเจ้าคณะตำบลดงขุย ชนแดน อยู่หลายปี และท่านได้เดินทางไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อทบ วัดเขาน้อย ( วัดพระพุทธบาทเขาน้อยในปัจจุบัน ) เทพเจ้าของชาวเพชรบูรณ์ ท่านได้เรียนวิชาอาคมต่าง ๆ คู่กับพระอาจารย์เพ็ง ( พระที่จารตะกรุดให้หลวงพ่อทบ ) ศิษย์เอกของหลวงพ่อทบอีกรูปหนึ่งจากหลวงพ่อทบจนหมดสิ้นวิชาความรู้ของหลวงพ่อทบ และ ยังได้ช่วยเป็นธุระในการสอนหนังสือนักธรรมให้แก่พระภิกษุและสามเณรที่วัด หลวงพ่อทบตลอดระยะเวลาที่ท่านจำพรรษาอยู่ที่ อ. ชนแดน อีกด้วย นอกจากนี้ท่านยัง เป็นพระคู่สวด คู่กับพระอาจารย์เพ็ง คอยสวดญัตติจตุถกรรมวาจาให้แก่ผู้ที่จะบวช โดยมีหลวงพ่อทบ นั่งเป็นพระอุปัชฌาย์ โดยท่านได้ร่วมเดินทางไปบวชพระกับหลวงพ่อทบในถิ่นทุรกันดารเกือบจะทุกที่ เช่น วังโป่ง ดงขุย ท่าข้าม สามแยกวังชมภู ยางหัวลม นาเฉลียง ฯลฯ หลังจากที่อยู่ฝากตัวเป็นศิษย์และช่วยหลวงพ่อทบสอนหนังสือและบูรณะก่อสร้างถาวรวัตถุที่วัดเขาน้อย และวัดที่ท่านจำพรรษาแล้ว จนมีความเจริญก้าวหน้าโดยลำดับแล้ว

พอถึง ปี 2506 ท่านเบื่อหน่ายในตำแหน่งทางการปกครอง มุ่งแสวงหาความสงบทางด้านจิตใจ ท่านจึงได้ตัดสินใจกราบลาหลวงพ่อทบ ออกเดินจาริกธุดงค์จาก อ. ชนแดน ข้ามเทือกเขารังสามแยกวังชมภู ผ่านมาทางบ้านนาเฉลียง หนองไผ่ บึงสามพัน และได้เดินธุดงค์มาทางบ้านถ้ำท่าเกย ต. สามแยก มาพักที่วัดถ้ำท่าเกยได้ระยะหนึ่ง ก็มีชาวบ้านจากบ้านพรหมยามและบ้านโค้งสุพรรณ ได้พากันเดินทางมานิมนต์ท่านให้ไปช่วยสร้างวัดที่บ้านพรหมยาม ท่านจึงรับนิมนต์และเดินทางมายังบ้านพรหมยามเมื่อวันศุกร์ที่ 6 กรกฎาคม 2506 ตรงกับวันขึ้น 14 ค่ำเดือน 8 ซึ่งเป็นวันโกนก่อนวันพระเข้าพรรษาเพียง 1 วัน ชาวบ้านได้ช่วยกันสร้างกุฏิที่พักชั่วคราวเป็นเรือนไม้ไผ่หลังคามุงหญ้าคา ให้ท่านได้พักจำพรรษาหลังจากนั้นพอออกพรรษาแล้ว ท่านได้ชักชวนชาวบ้านในละแวกหมู่บ้านใกล้เคียงให้ช่วยกันสร้างวัดพรหมยามขึ้นมา วัดพรหมยามได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความร่วมมือร่วมใจของชาวบ้าน ประกอบกับปฏิปทาที่น่าเลื่อมใสน่าเคารพของหลวงพ่อผอง ทำให้ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านอย่างที่สุด

ประกอบกับวัตถุมงคลของท่าน ที่ท่านปลุกเศกและได้ทำตามตำราวิชาที่เรียนมาจากหลวงพ่อทบ มีประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่สายตาของชาวบ้านโดยทั่วไป และยังเป็นประสบการณ์ที่หนัก ๆ อีกด้วย เช่น โดนถล่มยิงด้วย M 16 ถึง 40 นัด รถพรุนทั้งคัน คนขับลูกปืนถาก ๆ แขนขาบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย คนนั่งไปด้วยเสื้อขาดหนังท้องถลอก อีกรายฟ้าผ่าลงมาเต็ม ๆ ที่ร่างไฟลุกเต็มหลังควันพวยพุ่งออกจากหัวแต่ไม่เป็นอะไรเลย อีกรายโดนยิงด้วยลูกซองยาวระยะ 7 เมตร ลูกตะกั่วเข้าเต็มหน้าอกทุกเม็ดกระเด็นหงายท้อง ไปหาหมอเอาคีบหนีบลูกตะกั่วแบน ๆ ที่ติดตามหน้าอกออกแล้วกลับบ้านได้ ทางด้านเมตตามหานิยมท่านก็เป็นเยี่ยมมาก โดยเฉพาะสีผึ้งมหาเสน่ห์มหานิยม แต่ท่านจะนาน ๆ ทำครั้งนึง ปัจจุบันเลิกทำแล้ว ฯลฯ และอีกอย่างหนึ่งวัตถุมงคลประเภทพระเครื่องของท่านก็สร้างน้อยมาก ทำให้ชาวบ้านหวงแหนและแสวงหาวัตถุมงคลของท่านเป็นอันมาก

ปฏิปทาที่น่าเลี่ยมใสของท่านอีกอย่างคือท่านไม่ยึดติดในลาภสักการะแต่อย่างใด ไม่สะสมวัตถุข้าวของเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม บางครั้งท่านอาพาธเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาท คณะศิษย์ยังต้องช่วยกันออกค่ารักษาพยาบาทให้ เพราะท่านไม่สะสมจตุปัจจัยไทยธรรมญาติโยมถวายมาเท่าไหร่ ท่านก็เอามาก่อสร้างถาวรวัตถุและบำเพ็ญทานบารมีจนหมดสิ้น กุฏิที่ท่านอยู่ก็เป็นเพียงกุฏิหลังเล็ก ๆ พอได้อาศัยจำวัดและปฏิบัติธรรมเท่านั้น ปัจจุบันนี้ท่านอายุ 83 ปี พรรษาที่ 62 แต่ท่านก็ยังมีสุขภาพแข็งแรงไม่เจ็บป่วยแต่อย่างใด หลวงพ่อผองท่านนับว่าเป็นศิษย์สายตรงที่เหลือน้อยมาก ๆ ของ หลวงพ่อทบอีกรูปหนึ่ง ที่มีระยะเวลาของช่วงชีวิตเกี่ยวพันกับหลวงพ่อทบนานถึง 14 ปี 2492 – 2506 ท่านนับว่าเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเลื่อมใสและกราบไว้ได้อย่างสนิทใจอีกรูปหนึ่งของเมืองเพชรบูรณ์

 

เหรียญเพ็ชรกลับ "แจกกรรมการ"





เหรียญเพ็ชรกลับหลังเข็มกลัด เนื้อทองฝาบาตร สำหรับแจกกรรมการ ในงานวันเกิดหลวงพ่อ หลวงพ่อลงเหล็กจารเองทุกเหรียญ หายากครับ..!!!!!

thaiput007@hotmail.com โทร.084-6245007

(ปิดรายการครับ)

 

เหรียญเพ็ชรกลับ







เหรียญยันต์กลับ เป็นอีกเหรียญรุ่นหนึ่ง ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สร้างขึ้นในวาระที่หลวงพ่อผอง มีอายุครบ 7 รอบ เมื่อปี พ.ศ.2551 จัดสร้างเป็นเหรียญดีบุกจำนวน 300 เหรียญ เหรียญฝาบาตร 2,000 เหรียญ เหรียญทองแดงผิวไฟ 5,000 เหรียญ เฉพาะเหรียญดีบุก ทุกเหรียญจะมีเลขกำกับทุกเหรียญ อีกทั้งก่อนมอบให้ลูกศิษย์คนใด หลวงพ่อจะจารด้วยมือของท่านเอง

ลักษณะของเหรียญทั้ง 2 ชนิด เป็นเหรียญทรงกลมคล้ายรูปไข่ มีลายกระหนกล้อมรอบ ขนาด 2.5 เซนติเมตร มีหูห่วงเชื่อม

ด้านหน้าเหรียญ ตรงกลางจะเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อผอง ขนาดครึ่งองค์ ใต้รูปโค้งไปตามขอบ เขียนว่า "๗ รอบ หลวงพ่อผอง" มีอักขระ 3 ตัว อยู่ด้านบนและด้านข้างซ้าย-ขวา บนศีรษะรูปเหมือนหลวงพ่อ

ด้านหลังเหรียญ เป็นยันต์ห้า หัวกลับลง ด้านบนยันต์เขียนว่า "วัดพรหมยาม อ.วิเชียร บุรี จ.เพชรบูรณ์" ปลายยันต์ หัวกลับ เขียนว่า ๒๕๕๑ คือปี พ.ศ. ที่จัดสร้าง

ภายหลังจัดสร้างแล้วเสร็จ ปรากฏว่า เหรียญรุ่นนี้ชนิดดีบุก หมดไปในชั่วพริบตา ส่วนเหรียญทองแดงรมดำ ก็หมดไปแล้วเช่นกัน

เหรียญดังกล่าว เชื่อกันว่ามีพุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย สามารถแก้คุณไสย เมตตามหานิยม ชาว อ.วิเชียรบุรี อ.บึงสามพัน และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนใหญ่นิยมเหรียญรุ่นนี้ นำไปห้อยคอติดตัวแทบทุกคน

ส่วนราคาเช่าบูชาในหมู่นักสะสม จะอยู่ที่หลักพันต้นๆ จนถึงหลักพันกลาง แต่ส่วนมากใครที่มีไว้ในครอบครอง มักจะไม่ยอมนำไปปล่อยให้เช่าบูชาต่อ จนกลายเป็นเหรียญหายากอีกรุ่นหนึ่งไปแล้วในขณะนี้

เหรียญเพ็ชรกลับ หลวงพ่อผอง วัดพรหมยาม เนื้อทองแดงผิวไฟแดงแปร๊ด ตอกโค๊ตรูปเพชร เหรียญสวยวี๊ดพร้อมกล่องเดิมจากวัด แบ่งบูชา 400 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

ปิดรายการให้คุณ ลายเมฆ ขอบพระคุณมากครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

เหรียญหลวงปู่สิม ปี 18





เหรียญหลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ อนุสรณ์สร้างโบสถ์วัดเม็งรายมหาราช จ.เชียงราย พ.ศ.2518 เหรียญเก่าน่าเก็บ พระอรหันต์อธิษฐานจิตไม่ควรพลาด แบ่งบูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007
(ปิดรายการให้คุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->sakuda<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3581943", true); </SCRIPT> ขอบพระคุณมากครับ)
<!-- google_ad_section_end -->

 

เหรียญหลวงพ่อสงฆ์ ไตรมาส ปี 21





เหรียญใบโพธิ์ "รุ่นไตรมาส" ปี 2521 หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย จ.ชุมพร เนื้อทองแดงสภาพสวย หายาก แบ่งบูชา 600 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ongvip ขอบพระคุณมากครับ)<!-- google_ad_section_end -->

 

เหรียญรุ่นสุดท้าย หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม..





เหรียญรูปเหมือน รุ่นสุดท้าย เทพเจ้าแห่งดอนยายหอม หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม เหรียญรุ่นสุดท้ายเนื้อทองแดงรมดำ จัดสร้างในปี พ.ศ.2536 เนื้อทองดแดงรมดำสภาพสวย เลี่ยมพลาสติคพร้อมใช้ แบ่งบูชา 350 บาท (พร้อมจัดส่งครับ)

คุณ อรรถพล ด่านศรีชาญชัย ธ.กรุงเทพ สาขาพิษณุโลก ออมทรัพย์ เลขที่ 263-520213-4 โทร.084-6245007

(ปิดรายการให้พี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ongvip ขอบพระคุณมากครับ)<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอจองด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

จองด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

รับทราบการจองครับ..

รับทราบการจองครับ ขอบพระคุณมากครับ

thaiput07@hotmail.com

 

ปิดรายการครับ..

ปิดรายการให้คุณ ลายเมฆ ขอบพระคุณมากครับ

thaiput007@hotmail.com