พลังเอกภพยูเรอัส

โอเคครับ ผมเข้าใจ เป็นทั้งความรู้และ Itemพลัง แบบทำงานอัตโนมัติ อาจจะมาทีล่ะอย่าง หรืออาจจะมาคู่ หรือ อาจจะมากกว่านั้น เพราะฉะนั้นการรับพลังแต่ละครั้งจึงทำให้เราเลื่อนระดับ ผมเข้าใจแบบนี้ถูกไหมครับ ทำไมต้องทำทีละข้างค่อยสังเกตด้วยครับ ทำพร้อมกันไม่ได้หรือครับ เหมือนพี่จะบอกว่ามือซ้ายกับมือขวา อาจให้ความรู้สึกแตกต่างกัน
อืม... โอเคเดี๋ยวผมสังเกตเอง ผมดีใจนะที่พี่คิดแบบฝึกหัดให้ ไม่ว่าเป็นแบบฝึกหัดแบบไหนผมยินดีให้ความร่วมมือเสมอครับ ผมจะบันทึกไว้เอากี่วันดีครับ เป็นว่าผมจะมาบอกทุกวันนะครับ

 

อืม... นั่งอ่านซ้ำไปซ้ำมา ผมเข้าใจว่าการจะเข้าใจข่าวสารในพลังได้ ถ้าเรารับพลังซ้ำไปซ้ำมา และฝึกพื้นฐานแต่ละขั้นซ้ำมาซ้ำไป ก็จะเข้าใจเหมือนที่ผมอ่านข้อความรุ่นพี่ซ้ำไปซ้ำมา คงไม่ถือสากับวิธีการใช้ภาษาของผมนะครับ เขียนตามความเข้าใจน่ะครับ

 

เรียน พี่ดาว ตรงข้อความสีแดง ควรจะเริ่มยังไง จะเข้าถึงได้ยังไง

ในเมื่อสัมผัสถึงพลังนี้ได้ และเห็นลักษณะลมแบบเปลวเทียน พุ่งออกตามจักระต่างๆ เห็นการหมุนของเปลวเทียน ยิ่งลำแสงที่มือยาวชนเพดานคล้ายส่องไฟลางๆ ลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็น แล้วพอสัมผัสและเห็นได้แบบนี้ มันไปรบกวน การทำสมาธิภาวนา ทำให้เข้าสมาธิแบบลึกๆ ไม่ได้ เพราะมันรู้สึกตัวอยู่ตลอดเวลาว่ามันหมุนตรงโน้นตรงนี้ จิตก็เกาะความรู้สึกโน้นนี้ไปเรื่อย ถ้าจะเข้าสมาธิก็ตั้งนาน เพราะอาการรับสัมผัสได้ ชักรำคาญ มันไม่ได้เปิดปุป ปิดปัปได้แบบไฟฟ้า ตอนนี้มีอาการใหม่มาอีก หูข้างซ้ายได้ยินเสียงหมุนจักระ โดยส่วนตัวไม่ได้ไปเรียนวิชามาจากไหน มันมาเองกับการทำสมาธิกำหนดลมหายใจ

 

ตอบ
คำถามนี้ ผมแยกเป็น 2 คำถาม นะครับ

1. นั่นหมายถึง การเรียนวิชาพลังเอกภพยูเรอัส
ระดับต้น เริ่มเรียนเรื่องพลัง รับพลังส่งพลัง นำไปใช้ประโยชน์ ด้านรักษาโรค
ช่วยเหลือ ตนเอง และ ผู้อื่น
ได้ฝึกเมตตา และ ความปรารถนาดี ไปพร้อมๆ กัน
จน พัตนา ตามกันไป ..... เป็นลำดับ....
เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา
เชื่อมโยงกัน สัมพันธ์กัน
คนที่ ยังไม่ มีเมตตา แล้ว มาบอกว่า ฉัน อุเบกขา.............55

( เป็นคำตอบ ของคน งก ขี้เหนียว ตะหนึ่ ตอบ ให้ น่าฟัง เท่านั้น )

ในระดับกลาง ก็จะหนักไปในด้าน การพัฒนาจิต
การเข้าถึง พระสูงสุด (ของท่าน)

ผู้ที่ ได้เรียนและฝึกฝน ไป ตามลำดับ ก็ จะค่อยๆ เข้าใจ เป็นขั้นๆไป

หากผม ตอบ เพียงเท่านี้ ก็ คง ใจร้ายไปหน่อย...
สำหรับ คนที่ อยากรู้ แต่ยังไม่ ได้เรียน

การเข้าถึง พระของเรา
ขอใช้คำนี้ แทน นะ
ประการแรก เราเอง ต้องทราบ ว่า เรามีพระ อยุ่ หรือไม่
ท่านเป็นใคร
หากไม่รู้ หรือ ยังไม่รู้ ก็ยากที่ จะเข้าถึงท่าน

ยกตัวอย่าง
สำหรับ เรา ชาวพุทธ... หากถามว่าท่าน คือใคร
ก็ น่าจะได้ คำตอบ ว่า..
พระพุทธเจ้า...พระบรมพระพุทธเจ้า ... พระต้นธาตุต้นธรรม...
พระพุทธเจ้าองค์ปฐม...
หรือบางคน อาจตอบว่า มีอีก
พระโพธิสัตย์ พระมหาโพธิสัตย์....ฯ

ก็ตาม... นามที่ เรียก ใครจะเรียก อย่างไร ก็ ไม่ใช่ สาระที่จะมาถกเถียงกัน

สรุปได้ว่า ท่านมีพระสูงสุด ของท่านแล้ว

หรือ บางคน รู้ สึกว่า ท่านยัง ไกลตัวเรา มากเกินไป

"หน่อเนื้องพุทธางกูล มีอยู่แล้วในตัวท่าน"

พระองค์ นี้ อยู่ใกล้ ตัวเรามากที่สุด คือ กายธรรมของพระพุทธเจ้า หรือพระอรหันตเจ้า ในอนาคต องค์ นี้ นี่ เอง

ท่านอยู่กับเรา เสมอ
แต่ เรา เอง ซิ นำ สิ่ง หยาบ มาปกคลุมท่านไว้ จนเจ้าตัวเอง ก็ ยังมองไม่เห็น

.................................
เกริ่น มายาว พอควรแล้ว

สรุปว่า ทุกคน มี พระสูงสุด ของท่านแล้ว ..... นะ

หากเรา ประสงค์ จะ เชื่อม ต่อ กับท่าน
ต้องทำตัว ให้ เข้าใกล้ ท่าน
มี ใจ ... ระลึก...ถึง ท่าน

นี้เป็นเบื้องต้น.....

ก็ ในทำนอง เดียวกัน กับ ที่ ผม แนะนำให้ สนใจพลัง จนสัมผัสพลังได้นั่นแหละ

สนใจ เฝ่ามอง เฝ้า ติดตาม
จนเจอ ตัว กันจริงๆ.................. สวัสดี ครับ คุณพลัง
เป็นเพื่อนกัน แล้ว นะ กับ คุณพลัง............................55

สำหรับ พระ ท่าน ทำนองเดียวกัน
เรา สนใจ ต่อท่าน จิตใจ จดจ่อ กับท่าน ติดตามท่าน ด้วยความน้อมน้อม
ในที่สุด ก็ น่าจะ ได้ พบ ท่าน........


ขอตอบ เพียงเท่านี้ ก่อน .......
ไม่จบ ก็ คง ต้องเขียนยาว เป็น หนังสือ เรื่องยาว เล่มหนึ่ง เลย เดียว


2. ที่ ท่าน ทำสมาธิ จน มีพลัง

ทำสมาธิ แล้ว มีพลัง .... เป็นได้ ครับ

พลัง , กับ สมาธิ สองสิ่งนี้ ไม่ เหมือนกัน

ใคร จะ ฝึกสมาธิ ก็ ได้ พลัง เป็น ของแถม
ใครจะฝึกพลัง ก็ จะ ได้ สมาธิ ตามมา เหมิอนกัน

จะเริ่มจากไหน ก็ ไม่ ว่ากัน แต่ ปลายทาง ... ก็คือ ธรรมะ เช่นเดียวกัน...


ที่เล่าว่า
มีแสงจากปลายนิ้ว หรือมือ เป็นเส้นยาว พุ่งขึ้นไป
เรียกง่ายๆ ก็ แล้ว กัน แบบหนังสตารวอร์ ว่า ดาบเจได
(ขอยืม อ.สามตา มาเรียกบ้าง)

ดาบเจได ปกติ ทุกคนมี ครับ
แต่พอ มีพลัง เพิ่ม ขึ้น ก็ จะยาว มากขึ้น หมายถึง พลังจะพุ่งได้ ไกลมากขึ้น

ตอบแบบ ตรงไปตรงมา แล้ว นะ นี่ ....

แสดงว่า คุณ สามารถ ทำได้ ดี ทีเดียว ยืดดาบเจได ได้ยาวชนเพดาน
ก็ น่าจะมากกว่า 1.20 เมตร
พลังระดับ นี้ จอมยุทธ แล้ว นะ
หากนำไป ใช้ เหลือ ผู้ คน เช่น คนป่วยไข้ ก็ น่าจะได้ ประโยชน์ มาก
( แต่ควร ศึกษา วิธี ก่อน นะครับ และ วิธี ป้องกันตัว ด้วย)

และ ที่ ว่า ได้ยิน เสียงจักระ หมุน
ตรง นี้ ผม ว่า ไม่ ใช่ ครับ
จักระ จะหมุน เร็ว หรือ ช้า ก็ ไม่ มี เสียง
เพราะ เสียง ที่ เราได้ยิน ด้วยหู
กับ การทำงาน ของจักระ ในย่านความถื่แสง.... มัน คนละย่านความถี่ กัน
ห่างไกล กันมาก
จน ไม่ มี โอกาส ที่หู จะได้ยิน

เพราะฉะนั้น ที่ได้ยิน..... ต้องไป สังเกต ต่อ ว่าได้ยินอะไร
ผม ไม่ ได้ บอก ว่า คุณ คิดไป เอง นะ
แต่ การได้ยิน นี้
การได้ ยิน เสียง อะไร....
อาจ เกี่ยว ข้อง หรือ ไม่ เกียวข้อง กับสิ่ง ที่เรา กำลัง พูดกันอยุ่ ก็ได้

ลองสังเกต ต่อไป ครับ
อาจได้ ... ข้อมุล ใหม่ๆ เพิ่มเติม... น่าสนใจ

ผม เอง ก็ เคยได้ยินเสียง ทำนองนี้... แต่ ยังไม่ ได้ ค้นควาต่อ

แต่ เรื่อง การมองเห็น .. ยัง ค้นคว้าไป ได้ ไม่ ไกล นัก... ทำทีละอย่าง..55

ตอบมายาวมากแล้ว
แต่ ก็ ยังไม่ ได้ จบ ....
แต่ด้วยสมควรแก่เวลา จึงต้องเอวัง ด้วยประการฉะนี้.... ครับผม

 

สาธุ ครับ พี่ดาว
อ่านเพลิน จิตนาการไปตามที่เขียนเลย
รออ่านต่อเล่ม2นะครับพี่ดาว เอาประสบการณ์มาเล่าเยอะๆครับ

 

ว่าเรื่องหูข้างซ้าย ช่วงนี้จะได้ยินถ้าทำสมาธิขั้นเล็กๆ น้อยๆ ก็ได้ยิน
เสียงมันเหมือน กับเสียงลมที่ออกกลางกระหม่อมผุดเหมือนโซดา เสียงดังแต๊กๆๆๆ เหมือนใบพัดเฮลิปคอปเตอร์ จะเรียกอะไรดี จักระ 7 อันนี้เป็นมาก่อน เป็นปกติ แต่ตอน ไม่ออกที่กลางกระหม่อมอย่างอย่างเดียว มันมาออกตรงหูซ้าย เพราะหูขวา ไม่ได้ยินเสียงนี้ ดังที่หูซ้าย แต่ข้อดี ได้ยินที่ดังเบามากๆได้ เช่น เสียงนาริกาข้อมือเดิน ที่วางอยู่บนโต๊ะเดิน ติ๊กๆๆ

ส่วนการเห็นลม เอาตรงจักระที่มือน่ะ หงายมือ ตั้งจิตเฉยๆ มอง แบบไม่ต้องคิดเรื่องไร มองเฉยๆ จิตนิ่งมากก็จะเห็นชัดมาก เป็นเปลวเทียนพวยพุ่งขึ้นข้างบนความสูงประมาณ 1 ข้อศอก แต่รัศมีความไกลไปมากกว่านั้น ตรงปลายเปลวจะหมุน ถ้าเอามามือซ้อนกันก็จะดับเบิ้ลความแรง ส่วนจักระอื่นก็เป็นลักษณะนี้ ตรงหน้าอก เห็นได้แบบต้องนอนหงายมอง
ตรงส่วนหัว จริงๆท่าจะเห็นได้ ถ้าลูกกะตาไปอยู่บนหัว

เอาแค่นี้ก่อน ได้เวลาไปทำงานแล้วค่ะ

ส่วนเรื่องพระของเรา อันนี้ไม่ทราบ

 

อืม... หรือจะมีเสียงได้จริงๆ การศึกษาเรื่องพลังท่าทางยังมีอะไรอีกเยอะนะเนี่ย ที่รุ่นพี่ให้ฝึกพลังมาทางมือซ้ายกับมือขวา เมื่อคืนลองทำไปเข้าใจว่าเป็นการกับความคุ้นเคยกับพลัง และการฝึกเคลื่อนย้ายพลังทีแรกผมก็คิดว่ามันน่าจะง่ายนะ แต่ทำไปทำมาก็ว่ายากเหมือนกันนะ การจะให้รวมอยู่แต่มือ แล้วสลับไปมา ว่างๆก็ทำไปเรื่อยๆเลยครับ สรุปว่าผ่านไปนึงวัน บางทีมือรู้สึกอุ่นๆ บางทีรู้สึกเย็น บางทีก็แค่พลังยิบๆ บางทีก็หน่วงๆ เข้าใจว่าอยู่ที่ระยะเวลาในการสะสมพลัง กับความจดจ่อตั้งใจช่วงนั้น

 

ที่ ผม ลอง ให้ทำแบบฝึกหัด
ก็ ไม่ต้อง ซีเรียส มากนัก ทำไป แบบง่ายๆ แต่ ใส่ใจ สังเกต ก็พอ

การสังเกต เฝ้าระวัง
ผล ก็ จะได้ เรื่อง การสัมผัส การรับรู้... ตามมา ด้วย

คนที่ ได้เรียน ตามระดับ 1 2 3 4 5 6 7 ฯลฯ ไป พลังก็ จะได้รับการอัพเกรด
ไปตาม ลำดับ

แต่ การ รับรู้ ก็ ดี ตาม ไปด้วย
จะต่างกัน ก็ ตรงที่ ใคร สังเกตมาก หน่อย ก็ รู้ มากกว่า คนอื่น เท่านั้น

............................55

หลอกน้อง ให้ ทำการ บ้าน....... คงไม่ เป็นไร มั้ง...

ทำไป .. ก็ ได้ กับ ตัวเอง...

ไม่ได้ หลอก ให้ เข้ารก เข้าพง... หลงป่า หรอกนะ.....55

 

สนุกดีครับ ผมชอบทำจริงๆนะ ทำเป็นกิจกรรมยามว่างนี่ Enjoy มากๆ ไว้ผมขอลองทำตรงนี้สักหลายวันหน่อย บทความพี่มีประโยชน์มากครับ คุณ Apinya17 มาร่วมแจมแลกเปลี่ยนประสบการณ์การกันก็ได้รู้เห็นไปอีกแบบนึง มีอะไรก็ลองบอกพูดคุยกันดูนะครับ

 

ลองทำตามพี่ดาวบอกแล้วค่ะ พอดีแฟนนิ้วก้อยข้างซ้ายชามาหลายเดือนแล้ว
ก็ส่งพลังทางไกลให้ ไม่หายซะที

เริ่มส่งพลังแบบจับที่นิ้วก้อยเค้ามาหลายวัน ก็ไม่หายซะที ตอนนี้กำหนดให้พลังวิ่งไปที่มือ(เมื่อก่อนกำหนดที่จักระ6)เหมือนที่พี่ดาวบอก ความรู้สึกคือมันเหมือนมีพลังเต้นตุ๊บๆที่นิ้ว พอถึงช่วงที่กำหนดให้พลังวิ่งถึงมือแฟนพอดี พลังจะเต้นแรงและเร็วขึ้น

จะกำหนดว่าเห็นพลีงวิ่งจากจักระ7 ลงมาที่จักระ6 แล้ววิ่งมาตามแขน ช่วงนี้ก็รู้สึกเต้นตุ๊บๆปกติ พอกำหนดถึงนิ้วก้อยเค้า จะเต้นตุ๊บๆแบบเร็วและแรงมาก
แล้วก็เริ่มกำหนดที่จักระ7-6-แขน-นิ้วก้อยแฟนใหม่ก็เต้นแบบนี้ทุกครั้งเลย

เพิ่งกำหนดแบบนี้ไม่นาน เลยยังไม่เห็นผล เดี๋ยวจะมารายงานผลค่ะ

 

5555+ สงสัยจะเป็นคนในอยากออก คนนอกอยากเข้า ..... ของแถมนี้น่าจะแบบว่า ถ้าอยากหยิบใช้เมื่อไหร่ ก็ค่อยเอาออกมาใช้ ไม่ใช่ว่าแถมมาแบบติดหนุบหนับ เกะกะขวางทางเดินไประเบียง1234

หรือเป็นเพราะว่ายังสลัดของแถมออกไม่เป็นก็ไม่รู้ พยายามจะไม่สนใจทำไงดี เราพยามยามนิ่ง ในความนิ่งนั้นมันมีสิ่งเคลื่อนไหว ลม น้ำ ดิน ไฟ มันไหลของมันบังคับให้มันหยุดไม่ได้ กูรูมักจะบอกว่า ก็แค่ตามดูแค่ตามรู้ไป โห ท่าน ดูไป น่ะ วันทั้ง ทั้งคืน มันก็ไม่หยุด คลื่นพลังพวกนี้ไหลไปตามเนื้อตามตัว เหมือนที่พี่ดาวบอก มันเป็นก้อนๆ ไหลไปไหนมา คิดให้มันไปซ้ายก็ไป ไปขวาก็ไป ยิ่งตามดูตามรู้ยิ่งเห็นชัดกว่าเดิม สมาธิเลยไม่ไปไหน ไปไม่ถึงระเบียง1 สักที

แล้วลม เปลวที่ว่านี้ จับต้องกักบริเวณได้ไหม ตอบว่า ไม่ได้ เอามือไปป้องอังๆ เล่นๆ คิดว่ามันจะรวมกันเป็นกลุ่มก้อนแบบไอน้ำ แต่มันไม่ใช่ มันทะลุทะลวง
เช่น นอนใต้ผ้าห่มหนาใส่เสื้อผ้าด้วย เปลวที่ว่านี้ยังทะลุทะลวงผ้าห่มขึ้นมาให้เห็นแบบว่า เหมือนไม่มีอะไรกั้นขวาง

วิธีที่จะเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด คือ อยู่ในห้องแบบสลัวๆ ไม่ถึงกับมืดทึบ ห้องที่ไม่มีแสงไฟ แต่มีแสงลอดมาจากผ้าม่านหน้าต่าง แบบนั้นแหละ

สมัยก่อน ก่อนที่จะเห็นตัวเองมีลมภายใน เราเห็นลมภายนอกก่อน ลมภายนอกเป็นไง ก็ลมพัดใบไม้ไหวไง ไม่มีตัวตนแค่รู้ว่าคือลม คำนิยามเขาว่างั้น

เป็นช่วงที่เราหยุดพักร้อน เราก็นอนเปลเอกขเนกสบายๆ อ่านหนังสือ ดูท้องฟ้า มองต้นไม้ อากาศเย็น ๆ ลม โชยๆ เวลาลมมาวูบนึง เห็นแบบหางตา เอ๊ะ ลมเหมือนคลื่นหมอกจางๆ เลย วูบมา มองปลายๆหางตาจะเห็น เพ่งตรงๆ ไม่เห็น ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร สงสัยชาติปางก่อนคงเป็นโยคีเพ่งลมมาก่อนเป็นแน่


ส่วนว่าการเรื่องได้ยิน ถ้าทำสมาธินิ่งถึงระดับนึง(ระดับไหนก็ไม่ทราบได้) หลายท่านก็อาจจะได้ยิน เสียงการเคลื่อนไหวของสิ่งภายในร่างกายเรา เช่น เสียง ชีพจรตรงโน้น ตรงนี้เต้น เสียงหัวใจเต้นอย่างกะกลองวัด เราก็เป็นเช่นกัน ถ้านิ่งได้แบบสัมผัสการหมุนของจักระได้ เสียงแต๊กๆๆ แบบเฮลิปคอปเตอร์ หรือ ถ้าเอามือ ทำลูกบอลพลังเกงกิ จะได้ยินเสียงกระดูกขัดๆ แบบเหมือนเอาไม้มาสีกัน แต่พวกเสียงผี เสียงเทวดา ยังไม่เคยได้ยิน 5555+

ส่วนเรื่องรักษาคน ก็ไม่รู้จะรักษาใคร เพราะคนแถวนี้ มิจฉาทิฐิ ทั้งนั้น
จะพูดให้ใครฟัง ก็กลัวว่าเขาจะว่า ยัยนี่บ้า

 

คุณBook บอกว่า แฟน นิ้วก้อยข้างซ้าย ชา มาหลายเดือนแล้ว
ประเด็นอยู่ ตรง "นิ้วก้อยข้างซ้าย" อาการ ชา

มัน ชา แปลว่า ประสาท ในส่วนนัน ทำงานได้ ไม่เป็นปกติ

ทำให้ การส่งสัญญานกลับมา ที่ประสาทส่วนกลาง ได้ แบบ ขาดๆ หายๆ

ส่งสัย สายไฟ หลุดหลวม ( ถ้าเป็นเครืองไฟฟ้า ก็ ต้อง สันนิฐาน อย่างนี้)

แต่เป็นคน ก็ ในทำนองเดียวกัน
เส้นเลือดฝอย และเส้นประสาท เริ่ม ตีบตัน....
ส่งพลัง วิ่งไป ที่ มือซ้าย เค้า ทั้งมือ ได้เลย แม้นเป็นที่ นิ้วก้อย ก็ เถิด

ส่งไป จนพลัง พุ่งออก จากปลายนิ้ว เค้าได้ ก็ น่าจะดี

หรือ หา อะไร มารับพลัง และ ของเสีย เหล่านี้ ไว้ แล้ว ค่อยนำไป เทลงดิน
ฝาก พระแม่ธรณี ไป
แล้ว อย่าลืม กล่าว ขอบคุณ พระแม่ธรณี ที่ ท่าน ได้ช่วย กำจัด ของเสีย ด้วย

แล้ว ว่างๆ
พา คุณ ผุ้ชาย ออกไป เดินเส่น วิ่งเล่น บ้าง นะ
จะได้ ลดพวกไขมันในเส้นเลือด และควบคุม มันไว้
ด้วยการออกกำลังกาย

 

การฟอกเลือด ทำให้ เค้าด้วย ....... ทุกวัน ก็ น่าจะ ดี นะครับ

............................
เพิ่ง นึกได้...


................................
พูดมาถึง ให้ คุณBook พา กันไป เดินเล่นออกกำลังกาย

ทำให้ ผม ต้องรีบ ออกไป เดินเล่น บ้าง.......................55

เพิ่งกลับมา ได้ เหงื่อ สักหน่อย.... ไป 2 กม. กลับ อีก 2 ก.ม.
วันนี้ออกสาย แดด ออกแล้ว
ถ้า ออกเช้าๆ ก่อน แดดออก ก็ จะได้ เดิน สัก 3 กลับ 3 กม.

 

ประเด็น

1. ยิ่งตามดูตามรู้ยิ่งเห็นชัดกว่าเดิม

2. เปลวที่ว่านี้ยังทะลุทะลวงผ้าห่มขึ้นมาให้เห็นแบบว่า เหมือนไม่มีอะไรกั้นขวาง

3. วิธีที่จะเห็นได้ชัดเจนมากที่สุด คือ อยู่ในห้องแบบสลัวๆ

4. เหมือนคลื่นหมอกจางๆ เลย วูบมา มองปลายๆหางตาจะเห็น

5. ถ้าทำสมาธินิ่งถึงระดับนึง(ระดับไหนก็ไม่ทราบได้) หลายท่านก็อาจจะได้ยิน เสียงการเคลื่อนไหวของสิ่งภายในร่างกายเรา

ผม แบ่งประเด็น เป็น 5 ห้วข้อ นะครับ
1. ยิ่งตามดู ก็ ยิ่ง เห็นชัด อันนี้ แน่นอนอยู่แล้ว ยิ่งไปสนใจก็ยิ่งรับรู้ได้ชัดเจนมากขึ้น มากจน รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เคยรู้ก็จะได้รู้เพิ่มขึ้น
2. เปลว ที่เห็นเป็นพลัง เค้ามีอยู่ ทั่วตัวเรา นั่นแหละ
เค้าทะลุ ทะลวง ไป ได้ ไกล
แค่ เสื้อผ้า ผ้าห่ม กันไม่ ได้ หรอกครับ
ลอง ไป หาไม้ ยาวๆ สักเมตรหนึ่ง พอถือไหว
จับปลายด้านหนึ่งไว้
ส่งพลัง ผ่านไป ยัง ไป ออกที่ ปลาย ด้านตรงข้ามได้ เลย
แล้ว แค่ ของบางๆ จะไป กัน กระแสพลังได้อย่างไร

( อันที่จริง แล้ว เปลว ของพลัง ที่เราเห็น ผม กำลัง หาคำอธิบายอยู่ว่า มันอาจไม่ ใช่ ตัวพลังงาน จริงๆ แต่เป็น ปรากฏการณ์ ที่เกิดจากพลัง ทำกับ อากาศรอบตัว ให้เห็นเป็นเปลว แผ่ขยายออกไป)
ในส่วน นี้ อย่าเพิ่ง เชื่อผม นะ.... เพราะผม ยัง สรุป ผลได้ไม่ชัดเจนแค่เล่าให้ฟัง เฉยๆ

3. อยู่ในห้อง ที่ มีแสงสลัวๆ จะเห็นได้ ง่าย......ครับ
ตอนผม หัดดู ใหม่ๆ ก็ ต้องดู ในที่ ที่ ไม่สว่างมากเกินไป
ยิ่งในห้องสลัวๆ จะ เห็นได้ง่าย
จน เข้าใจการเห็น แล้ว
ตอนกลางวัน กลางแจ้ง ก็ พอเห็นได้ ครับ

4. เซล สายตา ในส่วนด้านข้างๆ หางตา จะไว ต่อแสงสีเหลือง ลงไป
หรือ ในย่าน ความถี่ต่ำ ครับ
ตรงนี้ เห็นด้วย อย่างยิ่ง ..... และ สลับสนุนทฤษฏี่ ที่ผม กำลัง ค้นหาอยู่ ......ขอบคุณครับ..

5. ทำสมาธิ ระดับหนึ่ง จะได้ยินหรือรู้สึก ถึงการเคลื่อนไหวในร่างกาย ได้ อย่างดี
ข้อนี้ ก็ เป็นจริง อย่างยิ่ง ครับ

หากเรา อยู่ ในสถาที่ เงียบๆ สงัด
จนบางครั้งเรา ยังได้ ยินเสียงหัวใจเต้น ได้
รู้สึก ถึง เลือดลมในตัว วิ่ง พล่าน ไป ตามกระแสที่ เค้าวิ่ง

ในที่เงียบสงัด มี เสียลดกวนน้อย

ตอนเราทำสมาธิ ไป ระยะหนึ่ง
จะรูสึก ว่า บรรยากาศ รอบข้าง จะ เงียบลง ๆ

ก็จะมีอาการ เหมือนตอนอยู่ ในที่ เงียบสงัด นั่นแหละ

แต่ ถ้า สมาธิ ดิ่งลึก ไปมากขึ้น จน เลย จุดนี้ไป
อะไร ๆ ก็ จะหายหมด คือ แทบไม่ มีอะไร เหลือ แม้นแต่ ตัวเราเอง
ก็ หายไป..

 

ติดค้างคำตอบ สำหรับคุณชัววัฒน์ ไว้นาน
หลังจากที่ ผม ได้เข้าไปทำงาน ที่ต้องเกี่ยวข้อง กับวัดและศาสนาคริต
สองสามเดือนหลังนี้
ทำให้ พอจะเข้าใจได้ว่า
พระของเค้า กับ พระของเรา ... พลัง ของฝ่ายเขา กับพลังแบบของเรา

ก็ ไม่ได้ มีอะไร แตกต่าง กันมากนัก.... เหมือนๆ กัน นั่นแหละ

จะต่าง ก็ ตรง ที่ พวกเรา คนเรา ต่างหาก ที่ทำให้ แตกต่าง
ไป แยกแยะ ว่า ฉัน ของฉัน นั่น เธอ แบบของเธอ

ต่างกัน ก็ ตรง ชื่อเรียก กับ ความเคยชิน ในวิธีปฏิบัติ
ที่ติดมา กับ ประเพณี วัฒนธรรม ที่ เกี่ยวพันกันมา

คือดู เฉพาะ เนื้อพลัง ก็ มีความ สูงส่ง เช่นเดียวกัน....

ดังนั้น ... ในการ ที่คุณชัยวัตน์ จะ หาวิธี ช่วยลูกสาว
ก็ ใช้ วิธี การ ที่ เรา เคย ทำแบบไทยๆ ได้
โดย นำไป ปรับเปลี่ยน วิธี การ ที่ เข้ากันได้ กับวิถี ชีวิต แบบฝรั่ง

พระฝรั่ง โบสถฝรั่ง เค้าก็ มี พลัง เหมือนกัน .... ยืนยัน

เพราะฉะนั้น จึง ขอรับพลัง มาใช้ในการรักษา ได้ อย่างแน่นอน

ส่วนการ ขอขมากรรม ... เพื่อปลดล๊อค กรรมในส่วนนี้

การอุทิศบุญกุศล ให้ เจ้ากรรมนายเวร.. ก็ น่าจะทำได้ เช่นเดียวกัน
ปรับเปลี่ยน คำพูด และ วิธีการ เอาหน่อย ให้ ฝรั่ง เค้ารับได้ เท่านั้นล

และ อาจหา ทนาย หรือ ตัวแทน ไป ช่วยเจรจา ไกล่เลี่ย ให้ อีกแรง
ก็ เป็นวิธี การ ที่ น่าจะดี
ทนายที่ ว่า ลองโทรไป ปรึกษา อ.สุวิ ( หมอสุวิ ) นั่นแหละ
ผู้ชำนาญการ ด้าน เจรจา ไกล่เลี่ย

ท่าน ใจดี อยู่แล้ว คงหาทางช่วยได้


ท่านคงไม่ บ่นหรอกว่า
" ไอ้ดาว หางานยากๆ มาให้ ทำอีกแล้ว" ....55


สำหรับ ขั้นตอน และ การรักษา อาจต้องใช้เวลา ที่ยาวนาน
แต่สำหรับ คุณพ่อ ที่แสนดี ไม่มีอะไรที่ยาก เกินไป

 

อย่างงั้นหรือครับ แต่ถ้าเอามารักษาพลังต้องมากแน่ๆ หลังจากผ่านไปสองวัน มืออุ่นๆครับ ถ้าเป็นหน้าหนาวเอาพลังมารวมที่มือให้อุ่นๆ โปะหน้าแก้หนาวนี่น่าจะช่วยแก้หนาวได้เยอะ เริ่มรู้สึกจักระตามปลายนิ้วได้ชัดขึ้นครับ

 

สวัสดี คุณพี่ดาว ด้วยนิสัยอยากรู้อยากเห็น เรื่องลมๆ ก็ไปค้นเจอ ตำราของคุณหมอสุวิ ว่าเรื่อง เส้นสิบพิสดาร มีความข้องเกี่ยวกัน ... ลิงค์ให้ชม เผื่อผู้ที่สนใจ

เรื่องลมที่เราเห็นกันนั้น ก็สงสัยว่า เอ๊ะ ลมมันออกส่วนไหนบ้าง เพราะถ้าดูของตัวเอง ก็ดูได้ไม่ครบ ไม่รู้ว่า ตรงหัวลักษณะลมเป็นยังไง ก็จับเด็กมาทดลอง เด็กที่ว่านี้อายุ 7 ขวบ
บอก ม่ามี๊ ขอดูมือสิลูก ดูไปดูมา เปลวของเด็กก็มีน่ะ แต่เปลวไม่โชติช่วงเท่าไหร่ มีแบบสั้นๆ ส่วนตรงหัว นี่เป็นลำเปลว แบบถ้าเห็นรูปนางฟ้า เทวดา มีเปลวรัศมี ก็แบบนั้นแหละ พุ่งขึ้นบ้างบน แนวตั้ง สรุปก็คนทุกคน ก็น่าจะมีเหมือนๆ กัน แต่ทำไมน้อยคนจังที่จะเห็นลมได้ ก็มีแต่คุณพี่ดาวนี่แหละ ที่บอกว่าเห็นเปลวลมได้

 

ขอคุณครับคุณดาวทะเลทราย อย่างนี้ผมก็คงต้องรบกวน อาจารย์ suwi แล้ว
คุณดาวมีเบอร์อาจารย์หรือเปล่าครับ ช่วยส่งมาให้ผมได้ไหมครับ
ตอนนี้ลูกคิมมี่ก็แย่เหมือนเดิมครับ แพนิคแอดแทคบ่อยครับ หมอก็ปลับยาอยู่อีกครับ

 

ส่งเบอร์ ไปทาง ข้อความส่วนตัว แล้ว ครับ

 

เปลวลม หรือ เปลวพลัง ที่ เราเรียก กันอยู่นี้
(จริง ๆ แล้ว คืออะไร ผมยังหาคำตอบอยู่ )
จะเป็นตัวพลัง จริงๆ หรือ เป็นปฏิกิริยา ของพลัง ทำกับอากาศรอบตัว
ซึ่งแปรผัน สอดค้อง กับ พลัง ที่ออกมา
มาก น้อย

ตัวเปลวพลัง นี้
ผม เคยทดลอง กับ คนอื่น ว่าเค้าเห็นไหม
เช่น
ตอนไป เที่ยวแม่กลอง กับ เจ้าแชมป์ สี่คน
มีผม เจ้าแชมป์ เจ้าเร กับอีกคนจำชื่อไม่ได้ แล้วมี เพื่อเจ้า เร มาสมทบกลางทาง อีก 2 คน

ตอนเข้าไป ที่วัดบางแคกลาง ไป กราบ พระที่ศาลาริมน้ำ
ผม นึกอยากจะลอง ว่า พวกนี้ มองเห็น พลังไหม

จึงพูดลอยๆ ไป ว่า เดี๋ยว ดู นะ ผม จะ ทำควัน ออกหัว ให้ ดู

แล้ว ก็ เดินไปหาที่ เหมาะๆ ข้างศาลา นั่นเอง
พอดี มี ไม้ตะเคียน ใหญ่มาก ขนาดสามคนโอบ เค้าตัด เป็นท่อน
วางไว้ สองท่อน ห่างกัน สัก สองเมตรกว่า
ผม เข้าไป ยืน ระหว่างกลาง ไม้ สองท่อนนี้
แล้ว ส่งพลัง ไป ให้ ไม้ ทั้งสอง โดยมี ผม อยู่ ตรงกลาง

สักพักเดียว
เสียง เจ้าเร ร้อง เฮ้ยๆ พี่ดาว มีควันออก จริงๆ วะ สะกิดเพือนให้ดูกัน

จะมี แต่ เพื่อนเจ้าเร สองคน ที่ไม่ เห็น นอกนั้น สามคน ก็ เห็น เปลวพลัง
พุ่งออกมา รอบตัว แบบ ซุปเปอร์เชนย่า ในหนังกาตูน

เจ้าเร.............. ไหน ว่า จะทำควันออก หัว ... ออกทั้งตัวเลย นี่ หว่า

.......................55

.......................................................

อีกครั้งหนึ่ง ผม ทดลอง กับ เด็กนักเรียน ระดับประถม
ตอนไปไหว้พระที่วัดพระดู่ เค้าจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ ในวัด ผมเดินดูอยุ่ในศาสาแห่งนั้น จนทั่ว ตอนจะกลับมาถึงหน้าประตูทางออก
ยืนดู พระประทาน อยู่ เพลินๆ
เห็น เด็กนักเรียน ที่ ทำหน้าที่ เป็นมัคคุเทศ มายืนออ กันอยู่ สักสิบคน

ได้ การละ
ลอง หลอกเด็ก ดุ ดี กว่า
ว่าแล้ว.......................... ก็ ยืด แสง ออกจาก มือ แบบดาบเจได
ทำ เล่น เข้าๆ ออก ๆ สัก พัก
จน เด็ก คนหนึ่ง .... เห็น เข้า ร้องถาม ..ลุงทำ อะไร อ๊ะ
ผม..................... ทำแสง ออกจากมือ นะสิ
เด็ก................. ละกิดเพื่อนๆ มาดู กันใหญ่....
เด็ก.............. ทำ ยางไง ละ ลุง
ลุง..................... มองเห็น หรือ เปล่า...
เด็ก.... เห็น ครับ เห็น คะ... เห็น .. เห็น ......ฯ.........ไม่เห็น

เสียง เด็ก ตอบมา บางคนเห็น สัก 5-6 คน ไม่ เห็น สัก 4 คน

เอา อย่างนี้
จัดแบ่ง เด็ก พวกที่ เห็น ไว้ กลุ่มหนึ่ง พวกไม่ เห็น แยกไว้ อีกกลุ่มหนึ่ง

ยืดแสง ออกมา อีก ที ให้ เด็ก ดู..............

ตอนนี้ เสียง ดัง อื้ออึง ไป เลย เด็ก พูด กัน วิจารย์ กัน เจี๊ยว จ๊าว
เฮย เห็น... เปล่า
... สี ขาวๆ....
....... เออ ..... ยาว ด้วย..

..... เป็น ลำ เลย....

ก็ ว่า กันไป

เป็นอันว่า ผม รู้ แล้ว ว่า เด็ก พวกนี้ เค้า มองเห็น ได้ จริงๆ

ผม.............. ใคร อยากทำ ได้ อย่างนี้ บ้าง......

ยกมือ กัน หมด ทุกคน เลย
แม้น กระทั้ง พวก ที่มองไม่ เห็น ก็ ยาก ทำกับเเค้ด้วย

จึง เริ่ม สอน เด็กๆ ให้ ทำ
ตามแบบ PSI ball ทำง่ายๆ

สัก พัก เด็ก เริ่ม ทำ เอง ได้ บาง
บางคน ก็ มาก บางคน ก็ น้อย เอามาอวดกัน

เด็ก........... ดู สิ ดูสิ ของฉัน ได้ แล้ว ของเธอ ก็ มี ของฉันยาวกว่าง....................... ทำไม ของฉัน ได้ นิดเดียว.......

เป็นที่ สนุก สนาน กัน ไป

ทีนี้ กลายเป็นว่า เด็กตัวเล้ก สุด เจ้าตัวเล็ก ทำให้ นิดเดียว
เพื่อนๆ เค้า ก็ อวด ว่า เค้า ได้ ยาวกว่า
เจ้าตัวเล็ก ........ ลุง ลุง ของหนุ ได้ นิดเดียว สู้เพื่อนไม่ได้

ลุง ..... มา นี่ .... ( ให้กำลังใจเด็ก นะ ไม่ได้ โกง)
ให้ เจ้าตัวเล็ก................. ทำ แสง ยืดออกมา.....

แล้ว ผม ก็ ส่งพลัง ให้ เจ้าตัวเล็ก...... แสง ยืดยาว ออกมา เพิ่มขึ้น ยาวจน
ชนะ เพื่อนๆ คน อื่น .................55



โดยรวม พอสรุป ได้ ว่า
คนทั่วไป ก็ สามารถ มองเห็นได้
ประมาณ ครึง กับ ครึ่ง
แต่ เค้า ไม่ เคย สังเกต..... เท่านั้น แหละ

พี่วิมลรัตน์ ..... ตอนยังไม่ ได้มาเรียน เคยโทรมาคุยกับผม
น้อง... พลัง มันเป็นอย่างไง.... งุ งิ งุ งิ.....ฯ
ผม ..... เอางี้ นะ แบมือออก
มองดู ที่ ปลายนิ้วมือ
ว่าแล้ว จึง ส่งพลัง ให้ เค้า

สักพัก............
พี่ วิมลรัตน์ ........ร้อง ออกมา เลย น้องๆ
.......................มือพี่ มี แสง ขาวๆ ยี่น ยาวออกมา......

มัน มี อยู่ แล้ว ทุกวัน แหละ ครับ มากหรือ น้อย เท่านั้น.......55