พระเยซูเป็นพระโพธิสัตว์หรือเปล่า ?

พุทธ คริสต์ ก็พี่น้องกันอ่าครับ มีเจตจำนงเดียวกันคือให้ผู้คนมีความดี
ติดตัวประจำใจไว้ แต่อาจแตกต่างด้านสาระตามแนวทางของศาสดา

 

ก็มีสิทธิ์นะครับ... แต่ศาสนาคริสต์ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่มาจากปิตราจารย์พวกอิตาลี่มากกว่าครับ คนยิวชื่อลูก้าก็เป็นคนเขียนไบเบิ้ล อัครสาวกชื่อยอห์นก็ทำเป็นไม่รู้จักท่าน อัครสาวกชื่อยูดาสก็ทรยศ... พระเยซูจริงๆแล้ว น่าสงสารนะครับ... แต่ก็มีหลายๆทฤษฎีที่บอกว่าท่านไม่ได้ตายบนไม้กางเขน บ้างก็ว่าท่านตายที่แคชเมียร์ บ้างก็ว่าตายบนกางเขน บ้างก็ว่าก่อนตายท่านตะโกนว่า พระเจ้าทำไมทอดทิ้งข้าพระองค์(ไบเบิ้ลฉบับโรมัน) บ้างก็ว่าท่านตะโกนว่า พระบิดาลูกทำสำเร็จแล้ว(ฉบับใหม่ๆ) สรุปคือหาความชัดเจนไม่ได้ ไม่รู้ข้อเท็จจริง
คริสตชนจึงยืนยันความเชื่อที่ตั้งอยู่ในความศรัทธาปสาทะล้วนๆครับ... Deus Benedicat

 

เอาแค่ เทวดา ก็พอ

ไม่ต้องถึงขั้นพระโพธิสัตว์หรอกครับ มากเกินไป

คุณธรรมพระโพธิสัตว์ ตามพระพุทธศาสนา ต้องชัดเจนกว่านี้ ถ้าแค่นี้ ใครๆก็กลายเป็นพระโพธิสัตว์กันได้ทั้งนั้น ชาวพุทธเองที่ปราถนาพุทธภูมิ แต่ทำได้แค่ปาก คุณธรรมไม่ถึงก็เยอะแยะ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ พื้นๆ นะครับ

ตามหลักพระพุทธศาสนา

ถ้าพระเยซูจะขึ้นสวรรค์ ก็เพราะคุณธรรมพื้นฐานตามที่พุทธแสดงไว้ เช่น ทาน เมตตา ภาวนา ศีล

ถ้าพระเยซูจะลงนรก ก็เพราะการสอนที่ผิด และยึดมั่นมากในความเชื่อที่ผิดนั้น ตามทิฏฐิ 62 อันเป็นมิจฉาทิฏฐิ

ซึ่งก็น่าพิจารณาว่า การที่ท่านเชื่อว่าตนเองเป็นพระเจ้าแบ่งภาคมาเกิด แล้วต้องตายเพื่อไถ่บาปให้มนุษย์ (ประมาณบูชายัญแด่พระเจ้า,แพะรับบาป) ความเชื่อเช่นนี้จะเป็นสัมมาทิฏฐิได้อย่างไร

หรือว่าก่อนเสียชีวิต ถ้าท่านมีจิตเมตตาให้อภัยคนที่ทำร้ายท่าน ท่านก็ขึ้นสวรรค์

แต่ว่า ถ้าท่านมีจิตหดหู่ปนอยู่มากอันเป็นนิวรณ์ ก็ลงนรก


อันนี้ว่ากันตามหลักธรรมของพุทธ ไม่เกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ หรือแอบแฟงเจตนาส่วนตนใดๆนะครับ

 

พระเยซู ได้รับการบรรจุเป็นพระพุทธเจ้า

ผู้มี อนาคตังสญาณ เท่านั้นที่จะรู้ถึง

ความจริงข้อนี้

 

เรื่องนี้มีอยู่หลายบริบท ที่เราต้องพิจารณา ศึกษา และควร ระวัง !!!

หากกล่าวในแนวศาสนสัมพันธ์
เราต้องกล่าวเพื่อความสันติภาพอันดีระหว่างศาสนา ว่าพระเยซูท่านก็เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง เป็นบุตรของพระเจ้า โดยมีหลักธรรม หรือกฎแห่งกรรม เป็นพระบิดา หรือพระเจ้า

หากกล่าวในแนวกลมกลืนศาสนา
เราก็กล่าวว่า พระเยซูเป็นเพียงพระโพธิสัตว์ หรือ เทพเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง ตามหลักพุทธ

หากกล่าวตามหลักธรรมทางศาสนาพุทธ
ก็ว่ากันไปตามหลักคุณธรรมพื้นฐาน หรือว่าด้วยเรื่องความเชื่อที่เป็น สัมมา หรือ มิจฉา ทิฏฐิ และคุณภาพจิต ก่อนเสียชีวิต ตามที่ผมกล่าวไว้ในโพสต์ก่อน

หากกล่าวตามหลักศาสนาสากล หรือความเชื่อสากลหนึ่งเดียว
ก็ต้องพยายามตีความเข้าหาจุดร่วมเชิงปรัชญาศาสนาสากลหนึ่งเดียว โดยปรัชญาที่นิยมคือ ปรัชญาสายจิตอมตะสากล Universal

หากกล่าวอ้างในการเข้าถึง รู้เห็น ด้วยญาณสมาธิอันพิเศษต่างๆ
อันนี้ก็แล้วแต่ญาณส่วนบุคคล ซึ่งอาจจะถูกต้อง หรือไม่ก็ได้
อาจจะมีญาณจริง แต่สิ่งที่เห็นไม่จริง หรืออาจจะมีญาณไม่จริง ก็เลยเห็นปรุงแต่งไปเอง
อาจจะมีญาณจริง และเห็นจริงตามนั้นเป๊ะๆ หรือว่าเรื่องที่เห็นนั้นอาจจะโดนเทวดาองค์ใดจงใจหลอกเอาก็เป็นไปได้

ในบริบทต่างๆ ก็จะมีทั้งข้อดี และข้อเสียแตกต่างกันไป
หากสนใจก็ขอให้พิจาณากันอย่างถ่องแท้ในบริบทต่างๆ เพื่อประโยชน์ และไม่ก่อเกิดโทษกันนะครับ

 

ต่อเนื่องจากโพสต์ก่อน


มีข้อเสียที่พึงระวัง เช่น

ในขณะที่เราเองกล่าวยกย่องศาสดาของเขามากเกินไป แต่หารู้ไม่ โดยมากชาวคริตส์เขากลับว่าเราเป็นเหล่าความเชื่อซาตานด้วยซ้ำไป และแทบไม่ค่อยจะกล่าวยกย่องพระพุทธเจ้าเลยในโอกาศต่างๆ (เป็นไงล่ะ ยกย่องเขาฝ่ายเดียว เขาไม่เล่นด้วย กำ)

เขาอาจจะเข้าใจผิด ไม่พอใจที่เราไปลดความเป็น เมสิยาห์ บุตรพระเจ้าผู้ไถ่บาป มาเป็นพระโพธิสัตว์ของพุทธเรา

ชาวคริตส์เองก็ได้มีการนำพระพุทธเจ้า ไปเป็นเพียงประกาศก ประกาศข่าวประเสริฐในทวีปเอเชีย เพื่อเตรียมพร้อมการมาของพระเยซูเจ้า

บ้างก็เหมาเอาว่า พระเยซู ที่เป็นเมสิยาห์ ก็คือ พระศรีอริยะเมตไตร

หรือการที่เราให้เกียรติ และยกย่องเขามาก เขากลับถือโอกาศอุบเอาไปว่า ศาสนาเขาดีพร้อม สมบูรณ์ กว่าพระพุทธศาสนา

กรณีนี้เกิดขึ้นบ่อยมากกับสายท่านพุทธทาส เพราะท่านพุทธทาสให้เกียรติ และยกย่องศาสนาอื่นๆ ด้วยคุณธรรมส่วนตนของท่าน ที่ชอบในแนวศาสนสัมพันธ์ แต่ชาวศาสนาอื่นๆกลับนำคำสอนท่านพุทธทาสไปสนับสนุนความเชื่อของตนเอง และหลายคนยายามนำคำสอนท่านพุทธทาส มาหักล้างการตีความ และความเชื่อของชาวพุทธด้วยกันเอง พร้อมๆกับถือโอกาศกล่าวว่า "มานับถือพระเจ้าดีกว่า"

ทั้งๆที่เจตนาท่านพุทธทาสมิใช่เช่นนั้น ท่านเพียงแค่ออกแนวศาสนสัมพันธ์เท่านั้นเอง

หรืออาจจะไปเข้าทางพวกชอบศาสนาสากล โดยได้โอกาศตีความศาสนาเข้าไปทางปรัชญาจิตอมตะสากล ซะเลย เพื่อรวมทิฏฐิทางศาสนาให้เป็นหนึ่งเดียว

ก็ขอให้ รู้เท่า รู้ทัน อย่าหน่อมแน้มกันนะครับชาวพุทธทุกๆท่าน
แต่ส่วนใหญ่ก็รู้เท่าทัน เก่งๆกันอยู่แล้วครับ สาธุ

 

เสริมเรื่องคำสอนของพระเยซู
เสริมความคิดเห็นที่ #49 ของท่าน Namushakamunibutsu

เป็นเรื่องที่พึงศึกษาว่า พระเยซูได้สอนศาสนาอยู่เพียงไม่กี่ปี แล้วท่านก็เสียชีวิต

ผู้ที่ทำการเผยแผ่ศาสนาจริงๆก็คือ นักบุญ เปโตร และ อ.เปาโล
โดย อ.เปาโล เผยแผ่ในดินแดนยิวไม่ไหว เพราะไม่มีใครเชื่อ แต่ไปรุ่งเอาในโรมัน

ศาสนาคริตส์ได้รับความรุ่งเรื่องหลังจากจักรวรรดิ์โรมันสิ้นไป โดยพวกโรมันเกลียดคริตส์ ถึงกับฆ่า เปโตร เลยทีเดียว

แต่หลังจากจักรวรรดิ์โรมันล่มสลายก็ได้รับการสนับสนุนให้แพร่หลายไปทั่วยุโรป ในเวลาต่อมา

ตรงนี้ทำให้ศึกษาได้ว่า พระเยซู สอนอะไรไว้ สอนเพียงแค่สารภาพบาป หรือล้างบาปได้ แต่ที่แน่ๆท่านเชื่อว่าท่านคือบุตรพระเจ้าผู้แบ่งภาคจากพระเจ้าลงมาเกิดเพื่อไถ่บาป ความเชื่อเช่นนี้เป็นมิจฉาทิฏฐิตามหลักพุทธแน่ๆ

คัมภีร์ไบเบิ้ล ในพันธสัญญาใหม่ พระเยซูไม่ได้เขียน แต่เป็นลูกศิษย์เขียน แล้วกล่าวอ้างเอาว่าเป็นคำสอนของพระเยซู เชื่อได้แค่ไหน???

จนมีการกล่าวกันว่า เป็นศาสนาพระเยซู หรือศาสนา อ.เปาโล กันแน่ เพราะแค่จดหมายของ อ.เปาโล ก็ได้ถูกรวบรวมเป็นไปเบิ้ลพันธสัญญาใหม่ซะครึ่งเล่มไปแล้ว

หลังจากนั้น ในยุคที่ปรัชญารุ่งเรือง เหล่าบรรดาปิตราจารย์ซึ่งเป็นบาทหลวง ก็ได้มีการนำเอาหลักปรัชญาแขนงต่างๆ มาสนับสนุน ตีความคำสอนในคัมภีร์ไบเบิ้ลให้ดูดีมีระดับขึ้นไปอีก

จะว่าไปแล้ว ศาสนาคริตส์ก็ได้กลายเป็นศาสนาของฟรั่ง โดยฟรั่ง นโยบาย และวัฒนธรรม แบบฟรั่ง มานานแสนนาน ไปแล้ว (นำโดยโรมันใหม่ หรืออิตาลี่)

ไม่ว่าจะเป็นการร้องเพลง ดนตรี ศิลปะ เทศกาลต่างๆ ก็เป็นพวกฟรั่งอย่างเห็นได้ชัดเจน อันหรูหรา อลังการ วิจิตรพิศดาร สวยงามนัก เดิมมีที่มาจากพวกกรีก และโรมัน

ซึ่งก็น่าคิดว่า หากศาสนาอื่นได้ถูกรับเข้าไปรุ่งเรืองในชาตินั้น ก็คงเห็นศาสนานั้นๆ ในรูปแบบพวกฟรั่งอย่าหรูหรา อลังการ เช่นกัน

ชาวคริตส์จึงดำรงอยู่ในความเชื่อแบบศรัทธาประสาทะล้วนๆ และมีการตีความออกไปอีกมากมายหลายร้อยนิกาย โดยเฉพาะสายโปรแตสแตน(จากสามนิกายใหญ่ๆ) แต่ล่ะโบสถ์ ก็สอนไปกันคนล่ะอย่าง

จบเท่านี้ก่อนครับ

 

จากแหล่งข่าว ถ้าเกิดเป็นจริง ใครจะเสียหน้า

ติดตามกันต่อไป

 

ใน ยอห์น 8:58 พระเยซูกล่าวว่า "Before Abraham was, I am."
ซึ่งสะท้อนความเชื่อในอัตตาของท่าน ว่าท่านเป็นอมตะ
มีมาก่อนที่อับราฮัมบรรพบุรุษของชาวยิวจะกำเนิด จริงๆแล้วแม้จะโนอาห์
หรืออดัมและอีวา ท่านก็มีมาก่อนตามความเชื่อของคริสเตียนิตี้
บ้างก็ว่าพระองค์คือองค์พระผู้เป็นเจ้าอันเป็นนิรันดร์ พระบุตร พระจิต พระบิดา(วิญญาณบริสุทธิ์) เป็นหนึ่งเดียวกัน แต่ด้วยข้อขัดแย้งที่ว่า "พระเจ้าส่งนางมารีอาลงมาเป็นมารดาของเยซู ซึ่งมารีอาในศักดิ์หนึ่งคือลูกของพระเจ้า ในอีกศักดิ์ก็เป็นมเสีของพระเจ้า ในอีกศักดิ์ก็เป็นมารดาของพระเจ้า เนื่องด้วยความเชื่อที่ว่าพระเยซูคือองค์พระเป็นเจ้า

นางมารีอาจึงเป็นทั้งแม่ ลูก และมเหสี พระเยซูจึงเป็นทั้งพ่อ ลูก และสวามี...
จึงมีการเปลี่ยนแปลงคำสอน เป็นพระเยซูเป็นบุตรของพระเจ้าโดยตรง ตั้งแต่แรกแล้ว
ดำรงอยู่คู่พระเป็นเจ้าเรื่อยมา และพระเจ้าก็ส่งพระเยซูลงมาไถ่บาปแก่มนุษย์...
ซึ่งพระเจ้าเห็นว่าไม่มีมนุษย์คนใดเหมาะที่จะขึ้นมาบนสวรรค์เลย จึงกักพวกมนุษย์ก่อนหน้านี้ไว้ในไฟชำระก่อน แล้วรอให้พระผู้ไถ่ลงมาไถ่บาปแก่ปวงชนที่เป็น(ผู้รับเชื่อ)

ทั้งๆที่พระเจ้าก็สร้างมนุษย์เหล่านี้ขึ้นมา แล้วกำหนดคุณธรรมให้มนุษย์รอดไม่ได้ ต้องรอพระผู้ไถ่ ทั้งๆที่พระเจ้าสร้างสิ่งแวดล้อมที่เป็นเหตุปัจจัย ให้มนุษย์มีพฤติกรรมต่างไปจากที่กำหนดเพียงไม่มาก พระเจ้าก็ว่ามนุษย์ไหนก็ไม่เหมาะกับสวรรค์แล้ว???...

สรุปแล้ว ความเชื่อจึงคลุมเคลือ ขาดตรรกะ เหตุผลอันสอดคล้อง จึงดำรงความเชื่อด้วยศรัทธาปสาทะล้วนๆ ใครไม่เชื่อก็จะไม่ได้รับความรอด........

ในที่สุดก็เกิดแนวความเชื่อใหม่ว่า...พระเจ้าคือองค์ของความดี ใครทำดีก็เท่ากับเชื่อในพระเจ้า และรอดกันหมดทุกคน พระเยซูไถ่บาปให้ทุกคนที่เชื่อในความดี... ในที่สุดก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆๆๆ แตกเป็นมอร์มอน พยานยะโฮวาห์ ฯลฯ

ส่วนพระเยซูจะสามารถเป็นพระโพธิสัตว์ได้รึเปล่า... ก็มีความเป็นไปได้
เพราะพระโพธิสัตว์ที่ปัญญาบารมีไม่สูงมากและไม่ได้รับพุทธพยากรณ์
ก็มีสิทธิ์ที่จะเป็นมิจฉาทิฏฐิได้เหมือนกัน...

ด้วยเหตุที่พระเยซูเชื่อว่า อัตตาและโลกเที่ยง ไม่มีกฏแห่งกรรม ถือพระเจ้าเป็นกฏ บาปสามารถไถ่ได้ อภัยได้ แหมทำคุณไว้ แต่ไม่เชื่อพระเจ้า ก็ไม่มีผลตอบสนอง ลงนรกอย่างเดียว ทำบาปไว้แค่นั้น เพียงเชื่อในพระเจ้าสุดจิตสุดใจ ก็รอดอย่างเดียว (บ้างก็ว่ามีบาปที่ให้อภัยไม่ได้ 7 ประการ ตามนิสัยของพญามารที่พระเจ้าสร้างขึ้นมา แล้วอ้างว่ามันเลวเอง เพราะมันมีอำเภอใจ ปัดความผิดสุดๆ - -) ไม่มีเหตุปัจจัยให้สัตว์โลกไม่เท่าเทียม นอกจากน้ำพระทัยของพระเจ้าไม่อาจรู้ได้ จึงเป็นความเชื่อที่เป็นอเหตุทิฏฐิ ไม่มีการเวียนว่าย ไม่มีชาติก่อน

มีแต่ชาตินี้ และโลกหน้าที่เป็นการพิพากษาโดยพระผู้ไถ่ ว่าจะลงนรกตลอดกาลหรือสวรรค์ตลอดกาล... ก่อนจะกำเนิดเป็นวิญญาณในศิโยน มีแต่ความว่างเปล่า ถูกสร้างโดยพระเจ้า

ขันธ์ทั้งห้าก็ถูกสร้างโดยพระเจ้า แต่เมื่อถูกสร้างแล้วจะมีภาวะอมตะ เป็นอัตตายั่งยืน ดุจขุนเขา ดุจเสาระเนียด เมื่อถูกพิพากษาจึงขึ้นสวรรค์นิรันดร์ หรือลงนรกนิรันดร์ แตกสลายไม่ได้ ทำลายไม่ได้ สุขตลอดกาล ทุกข์ตลอดกาล...

 

ท่าน จิตเ... ครับ

ผมว่าถ้าท่านไม่เข้าใจความหมายของคำว่า " พระโพธิสัตว์ " แล้ว ท่านก็อย่าไป ติ จขกท......แล้วนะครับ
ผมเองอ่านดูยังไม่มีการ เปรียบเทียบข่มระหว่างศาสนา เลยนะครับ

ส่วนพระอินทร์ท่านก็ไม่ได้พิทักษ์ อะไรเลยนะ ท่านเป็นมหาเทพปกครองสวรรค์ชั้นที่ ๒ ท่านเป็นผู้สร้างมหาพระเจดีย์จุฬามณี( ที่บรรจุพระโมฬีเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ) ให้เหล่าเทวดาได้กราบไหว้ สักการะ

" พระนารายณ์ก็คือพุทธวาตาร ท่านรู้สึกอย่างไร???? " = เฉย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ไม่มีอะไรต้องรู้สึกครับ

 

คำถามนี้เป็นการยกย่องว่า พระเยชูเป็นบุคคลที่ประเสริฐสุดๆๆๆๆ และคำคัญที่สุดในศาสนาพุทธ ครับ



ท่าน จิตเ..... อย่าไปว่า จขกท.... ด้วยประโยคนี้เลยนะครับ

ปล......อาย คนที่เขาเข้ามาอ่านนะครับ อิอิ

 

ผมเองก็นับถือ พระเยชู มากๆๆเลยนะครับ

ท่านเป็น พระโพธิสัตว์เยชูเจ้า ในใจผมเลย
สาธุ...ๆๆๆ

 

.........จะอย่างไรก็ตาม ข้าน้อยเชื่อสุดหัวใจ ว่า พระพุทธเจ้า พระสัทธรรม พระอรหันตสาวก ประเสริฐที่สุด
......ข้าน้อยขอมอบกาย มอบใจ แด่ พระพุทธ พระธรรม และ พระอรหันตสาวก ตลอดตจนข้าน้อยเข้าสู่อนุปาทิเสสนิพพาน.......................สาธุ

 

สาธุ กราบอนุโมทนาครับ

 

ใครได้ฌาณ 4 ไขข้องใจด่วนครับ

 

เคยได้ยิน หลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ วัดร่มโพธิธรรม ก็เคยว่าไว้เช่นกัน

 

ขออนุโมทนา สาธุ สาธุ