พระเครื่องวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง(แท้ ดูง่าย)

รายการที่ 172 ตะกรุดหลวงพ่อกวย



ปฐมบท
หลวงพ่อกวยเป็นศิษย์พระอริยสงฆ์หลายองค์ เช่น
-หลวงปู่เฒ่า วัดค้างคาว เป็นพระรุ่นพี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ศึกษาวิชาจากตำราเดียวกัน มีการเเลกเปลี่ยนวิชากันหลวงพ่อกวยได้ไปศึกษาการทำผ้ายันต์ค่ายกลกับหลวงปู่เฒ่า
-หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ พระเกจิที่โด่งดังของสิงห์บุรี มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาขอเรียนวิชา เช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น หลวงพ่อกวยได้สร้างเเหวนตามตำรับของหลวงพ่อศรี
- หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ ผู้สร้างมีดเทพศาสตราวุธอันดับ 1 ท่านได้ไปเรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอฯลฯ

หลวงพ่อกวย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์จอมขมังเวทย์ เจ้าแห่งมนต์มหากาฬ ฉายาท่าน คือ ผู้วิเศษแห่งสรรค์

ผู้วิเศษแห่งสรรค์

การปลุกเสกวัตถุมงคล
พระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ จะปลุกเสกเองทั้งหมด มนต์พระกาฬ เป็น มนต์ที่ท่านต้องปลุกเสกด้วยทุกครั้ง มนต์นี้ ใครทำไม่ดี คิดไม่ดี จะแพ้ภัยตัวเอง ท่านจะสั่งศิษย์ของท่านไว้เสมอว่า อย่าเอาวัตถุมงคลต่างๆของท่านไปลองเดี๋ยวจะเข้าตัว เพราะท่านได้ปลุกเสกมนต์พระกาฬเอาไว้

วิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล
ท่านจะปลุกเสกตามฤกษ์มงคล แล้วจึงปลุกเสกด้วยฤกษ์โจร ฤกษ์บุญพญามาร คือพระของท่านนั้น คนดีก็ใช้ โจรก็ใช้ ท่านมีวิธีการปลุกเสกที่เข้มขลังมาก ปลุกเสกตอนเช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ เที่ยงคืน ค่อนสว่าง ท่านจะปลุกเสกทุกวัน เพื่อป้องกันคนชะตาขาดใช้ คือจันทร์ถึงอาทิตย์ หาก วันไหนเป็นวันอ่อน ยิ่งต้องปลุกเสกให้มาก วิธีปลุกเสก เช้าสายบ่ายเย็นกลางคืนกลางดึกนี้ ตรงกับไสยดำทุกอย่าง คือ ท่านกันเอาไว้ เพราะไสยดำเขาจะทำช่วง ๗ เวลานี้ คนจิตอ่อนหรือคนธรรมดาจะกันไม่ได้เลย

ข้อห้ามในวัตถุมงคลของท่านคือ ห้ามด่าแม่เด็ดขาด






ตะกรุดมหากาฬหลวงพ่อกวย
ราคาพิเศษ 2100 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

รายการ172 ครับ

 

รายการที่ 174 พระขรรค์หลวงพ่อโสก วัดปากคลอง สุดยอดเทพศาตราวุธ



ปฐมบท
ท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อคล้าย วัดพระทรง และหลวงพ่อแหล่ม วัดบางคลี่ และเป็นสหธรรมิกของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เป็นผู้ทรงวิทยาคุณ มีจิตตานุภาพและกฤตยาคมกล้าแข็ง วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเหรียญพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว พระขรรค์ ปลัดขิก ผ้ายันต์ และวัตถุที่เป็นมงคลอื่น ๆ ลูกศิษย์ลูกหาผู้ใกล้ชิด และประชาชนทั่วไป ได้นำไปบูชาพกพาอาราธนาติดตัว มีประสบการณ์ปาฏิหาริย์เยอะมากมาย วัตถุมงคลของท่านโดดเด่นในเรื่องคงกระพันชาตรี สยบภูตผีปีศาจ เสนียดจัญไร แคล้วคลาดปลอดภัย จากภัยพิบัติ



ความเป็นมา
พระขรรค์ เป็นเทพศาสตรา ใช้สำหรับการปราบสิ่งชั่วร้ายและภูติผีปีศาจ และคุ้มกันอันตรายทั้งปวง วัตถุประสงค์ในการสร้างก็ดุจเดียวกันคือ "มีดหมอ" นั่นเอง พระขรรค์ด้ามทำด้วยเขาควายเผือกของ หลวงพ่อโสก วัดปากคลอง เป็นเกจิอาจารย์ที่ชาวเมืองเพชรให้ความเคารพนับถือมาก พระขรรค์ของหลวงพ่อโสกนั้น เป็นที่แสวงหากันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ดังมีคำกล่าวที่ว่า "ลูกผู้ชายชื่ออ้ายแผน เมืองเพชร ขอให้มีปลัดขิกอัน ผ้ายันต์ผืนพระขรรค์เล่มของหลวงพ่อโศก ถึงไหนถึงกัน" คำกล่าวนี้บ่งบอกถึงความเชื่อถือและความศักศิทธิ์แห่งเครื่องรางที่ท่านสร้างไว้ได้เป็นอย่างดี



สุดยอดเทพศาตราวุธ
พระขรรค์เขาควายเผือกหลวงพ่อโศก ถือว่าเป็นหนึ่งในสุดยอดแห่งพระขรรค์ ที่มีอานุภาพใช้ได้ทุกทาง
1.คุ้มครองรักษาป้องกันอันตรายเมื่ออยู่กับตัวผู้ใช้
2.ป้องกันภัยภูติผีปีศาจ
3.ผ่อนหนักเป็นเบา ไม่ถึงคราวรอดตาย
4.เป็นที่ยำเกรงต่อศัตรู เป็นมหาอำนาจ
5. ด้ามพระขรรค์ ทำจากเขาควายเผือกถูกฟ้าผ่าตาย ตามเคล็ดวิชา เพราะสายฟ้านั้นมีพลังอำนาจทำลายล้างตามธรรมชาติที่รุนแรงที่สุด และเป็นเคล็ดคุ้มครองให้ผู้ถือครอบครองพระขรรค์ไม่ถูกฟ้าผ่าตาย



กรรมวิธีการสร้าง
ตามตำราของท่านกำหนดว่าเขาควายนั้นจะต้องประกอบด้วยลักษณะดังนี้ เขาควายเผือก (ควายธรรมดาใช้ไม่ได้) ต้องตายโหง ขวิดกันเองตาย หรือถ้าถูกฟ้าผ่าตายได้ก็ยิ่งวิเศษ เขาควายนั้นจะต้องไม่ถูกต้มมาก่อน เมื่อควายตายลงก็ต้องชำแหละตัดเขาออกสดๆ ไม่ต้องรอให้แล่ควายออกเป็นส่วน ๆ แล้วจึงนำหัวมาต้มเพื่อเอาเขาออกได้ สะดวกท่านว่าใช้ไม่ได้ แกะเป็นด้ามพระขรรค์ (โดยไม่ทวนเขา) เวลาแกะให้จำไว้ว่าทางไหนทางโคนเขา ทางไหนทางปลายเขา ให้ทำเครื่องหมายไว้ เวลาแกะให้แกะจากโคนเขาไปหาปลายเขา เป็นทางเดียวตลอดเวลาการแกะจนสำเร็จ ถ้าทวนแม้แต่ครั้งเดียวใช้ไม่ได้ต้องทิ้งไป



เกร็ดประวัติเสือขาว
เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อดิ่ง มีของดีที่อยู่กับตัว แขวนพระปิดตา ตะกรุดหลวงพ่อดิ่ง แต่ไม่ประพฤติตนเป็นคนดี หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล" ตำรวจชุดไล่ล่าล่าหลวงพ่อดิ่งจะลากลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ปลายพระขรรค์ของหลวงพ่อโสก วัดปากคลองเขียนพระคาถาตามที่ท่านให้ ลงที่ลูกปืนที่หัวกระสุน" หลวงพ่อโสก ท่านเป็นสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโสกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนังเหนียว" กระสุนที่ใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิง จารด้วยพระขรรค์ของหลวงพ่อโสก วัดปากคลอง

คาถากำกับพระขรรค์
"พุทโธ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ ธัมโม ปัพพะชายาโน สัืพพะศัตรู วินาสสันติ สังโฆ ปัพพะชายาโน สัพพะศัตรู วินาสสันติ"



พระขรรค์หลวงพ่อโสก
บูชา 6500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

โอนให้เรียบร้อยแล้วครับตามSMS ที่แจ้งไปสักครู่ครับ ที่อยู่ตามP.m.ครับผม ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 175 ลูกอมหลวงพ่อไล้ วัดเขายี่สาร



ปฐมบท
หลวงพ่อไล้ ท่านเป็นพระเกจิในสมัย ร.๓ ยุคโบราณแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกระพ้อม ท่านถ่ายทอดสุดยอดวิชาลูกอมมหากันและวิชากระสุนคตแก่หลวงพ่อคง ท่านเป็นพระมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ว่าอะไรเป็นตามนั้น ถ้าท่านอวยพรให้ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาก็จะได้เป็นตามนั้นทุกรายไป

ความเป็นมา
ในสมัยก่อนแถบวัดเขายี่สารมีงูเห่าชุกชุม มีชาวบ้านถูกงูกัดเป็นประจำ เมื่อมีคนถูกงูเห่ากัดก็มักจะนำมาให้ท่านช่วยรักษา ท่านจะถามว่าถูกกัดที่ไหน ถ้าบอกว่าถูกกัดที่เขายี่สาร ท่านก็จะบอกว่า "งูเห่าบนเขายี่สารนี่มันกัดคนไม่ตายหรอก" ท่านจะมอบลูกอมเพื่อแจกญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เอาไว้ให้ป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษต่างๆ



กรรมวิธีการสร้าง
เครื่องรางของขลังหลวงพ่อไล้ ที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ ลูกอม มีส่วนผสมของว่านและผงพุทธคุณ ชันยาเรือที่ท่านบิณฑบาต และผงวิเศษต่างๆ เมื่อทำเสร็จท่านก็จะนำไปปลุกเสกภายในพระอุโบสถ แล้วค่อยแจกจ่ายแก่ศิษย์ ลูกอมของหลวงพ่อร้ายมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย นอกจากจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีแคล้วคลาด เมตตามหานิยม กันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษแล้ว ในสมัยก่อนเขานำมาห้อยคอเด็กๆ แล้วเกิดประสบการณ์ว่าเด็กตกลงไปในแม่น้ำไม่จม เป็นของดีและหายาก



ลูกอมในตำนาน
หรือเรียกอีกอย่างว่า “ลูกอมด้ายสาวพรหมจรรย์” ลูกอมท่านดีทุกทาง โดยเฉพาะกันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษ อีกทั้งเด่นเรื่องมหานิยม เสียดายที่ตอนหลังหลวงพ่อจึงให้ลูกศิษย์เอาลูกอมที่เหลือใส่เรือไปเททิ้งกลางทะเลและไม่สร้างอีกต่อไป เพราะมีคนเอาไปขูดใส่น้ำให้ผู้หญิงกิน เมื่อได้เขาแล้วก็ทิ้งขว้างไม่ดูแล เพื่อไม่ให้นำไปใช้ในทางไม่ดีอีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันหาของแท้หายากมาก และมีจำนวนน้อย

สำคัญที่สุด
ลูกอมหลวงพ่อไล้ มีเอกลักษณ์ตรงที่มีห่วง เนื้อแห้งลงรักเก่า ปัจจุบันหาของแท้ยากมาก ที่มาดี ได้มาจากคนเก่าแก่ข้างวัดฯ



ลูกอมหลวงพ่อไล้
บูชา 4000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 177 ลูกอมหลวงพ่อไล้ วัดเขายี่สาร (ลูกที่ 2)



ปฐมบท
หลวงพ่อไล้ ท่านเป็นพระเกจิในสมัย ร.๓ ยุคโบราณแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง เป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกระพ้อม ท่านถ่ายทอดสุดยอดวิชาลูกอมมหากันและวิชากระสุนคตแก่หลวงพ่อคง ท่านเป็นพระมีวาจาศักดิ์สิทธิ์ ว่าอะไรเป็นตามนั้น ถ้าท่านอวยพรให้ใครมียศถาบรรดาศักดิ์ อยู่เย็นเป็นสุข ต่อมาก็จะได้เป็นตามนั้นทุกรายไป

ความเป็นมา
ในสมัยก่อนแถบวัดเขายี่สารมีงูเห่าชุกชุม มีชาวบ้านถูกงูกัดเป็นประจำ เมื่อมีคนถูกงูเห่ากัดก็มักจะนำมาให้ท่านช่วยรักษา ท่านจะถามว่าถูกกัดที่ไหน ถ้าบอกว่าถูกกัดที่เขายี่สาร ท่านก็จะบอกว่า "งูเห่าบนเขายี่สารนี่มันกัดคนไม่ตายหรอก" ท่านจะมอบลูกอมเพื่อแจกญาติโยมที่มาทำบุญที่วัด เอาไว้ให้ป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษต่างๆ



กรรมวิธีการสร้าง
เครื่องรางของขลังหลวงพ่อไล้ ที่ขึ้นชื่อที่สุด คือ ลูกอม มีส่วนผสมของว่านและผงพุทธคุณ ชันยาเรือที่ท่านบิณฑบาต และผงวิเศษต่างๆ เมื่อทำเสร็จท่านก็จะนำไปปลุกเสกภายในพระอุโบสถ แล้วค่อยแจกจ่ายแก่ศิษย์ ลูกอมของหลวงพ่อร้ายมีประสบการณ์ต่างๆ มากมาย นอกจากจะอยู่ยงคงกระพันชาตรีแคล้วคลาด เมตตามหานิยม กันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษแล้ว ในสมัยก่อนเขานำมาห้อยคอเด็กๆ แล้วเกิดประสบการณ์ว่าเด็กตกลงไปในแม่น้ำไม่จม เป็นของดีและหายาก



ลูกอมในตำนาน
หรือเรียกอีกอย่างว่า “ลูกอมด้ายสาวพรหมจรรย์” ลูกอมท่านดีทุกทาง โดยเฉพาะกันเขี้ยวงา สัตว์มีพิษ อีกทั้งเด่นเรื่องมหานิยม เสียดายที่ตอนหลังหลวงพ่อจึงให้ลูกศิษย์เอาลูกอมที่เหลือใส่เรือไปเททิ้งกลางทะเลและไม่สร้างอีกต่อไป เพราะมีคนเอาไปขูดใส่น้ำให้ผู้หญิงกิน เมื่อได้เขาแล้วก็ทิ้งขว้างไม่ดูแล เพื่อไม่ให้นำไปใช้ในทางไม่ดีอีกต่อไป ทำให้ปัจจุบันหาของแท้หายากมาก และมีจำนวนน้อย

สำคัญที่สุด
ลูกอมหลวงพ่อไล้ มีเอกลักษณ์ตรงที่มีห่วง เนื้อแห้งลงรักเก่า ปัจจุบันหาของแท้ยากมาก ที่มาดี ได้มาจากคนเก่าแก่ข้างวัดฯ



ลูกอมหลวงพ่อไล้ (ลูกที่ 2)
บูชา 4000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 178 ตะกรุดเจ็ดพญาช้างสาร หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว



สุดยอดพระเกจิอาจารย์
หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองแปดริ้ว เหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ.2481 ของท่านเป็นหนึ่งในเบญจภาคีเหรียญ หรือแม้แต่เครี่องรางของขลัง “ลิง” ก็เป็นหนึ่งในทำเนียบเครืองรางของขลังเช่นกัน มีกรรมวิธีการสร้างที่พิศดาร นำรากพุดซ้อนที่ชี้ไปทางทิศตะวันออกมาแกะเป็นรูปลิง ท่านจะปลุกเสกโดยจะ ให้ลูกศิษย์หาอาวุธเท่าที่จะหาได้ จำพวกปืนผาหน้าไม้ ระเบิด คมแฝก เหล็กหลาว เอาอาวุธมาวางรวมกัน จากนั้นท่านนั่งทับอาวุธต่างๆที่คลุมด้วยหนังเสือเพื่อข่มอาวุธ ท่านจะเรียกอาการสามสิบสองของลิงให้ครบ แล้วเสกจนเสร็จพิธี เป็นหนึ่งในเครื่องรางที่กรมหลวงชุมพรฯเคยทดลองยิงแล้วไม่ออก เรื่องพุทธคุณในพระเครื่องหรือเครื่องรางของหลวงพ่อดิ่ง จึงเป็นที่เลืองลือมานานตราบจนเท่าปัจจุบัน

ลูกอมผงยาดำเจ็ดพญาช้างสาร
เสือขาวเป็นจอมโจรเจ้าของฉายาขุนโจรร้อยศพ มีประวัติเหี้ยมโหดมาก เสือขาวมีของดีที่อยู่กับตัวคือ "ลูกอมหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว" หลวงพ่อดิ่งได้เตือนเสือขาวว่า "มึงจะต้องตายโหงหากไม่เลิกเป็นโจร" เสือขาวนั้นทะนงตัว เพราะไม่มีอาวุธใด ๆ ทำอันตรายได้ ปืนยิงไม่ออก มีดแทงไม่เข้า ความเป็นอมตะของเสือขาวนี้เอง ทำให้เกิดความลำพองใจไม่ฟังคำเตือนของหลวงพ่อดิ่งผู้เป็นอาจารย์ ตำรวจชุดไล่ล่าได้มาหาหลวงพ่อดิ่งที่วัดบางวัว แล้วถามว่าจริงหรือที่ว่าเสือขาวนั้นหนังเหนียว หลวงพ่อดิ่งบอกว่า "จริง ไอ้ขาวมันหนังเหนียว ยิงฟันไม่เข้าหรอก แต่มันจะแพ้ดวงของมันเอง อาตมาบอกไม่ได้หรอกว่าจะสังหารไอ้ขาวได้อย่างไร เพราะมันเป็นการผิดศีล"
ตำรวจชุดไล่ล่าล่าหลวงพ่อดิ่งกลับ ในขณะนั้นมีตาเถรคนหนึ่งซึ่งรู้จักกับจ่าบุญมีได้มาบอกว่า "ถ้าจะสังหารไอ้ขาว จะต้องใช้ลูกปืนที่หัวกระสุนทำด้วยใบมีดหมอ มีดหมอต้องเป็นของหลวงพ่อโศก วัดปากคลอง ท่านเป็นสหายของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว วิชาอาคมของหลวงพ่อดิ่งที่ลงไว้ หลวงพ่อโศกท่านจะจารแก้ไว้บนใบมีดหมอของท่าน" เสือขาวได้ปะทะกับตำรวจชุดไล่ล่าอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับทุกครั้ง เพราะกระสุนเพียงนัดเดียวเสือขาวถึงกับทรุดสิ้นลายของคำว่า"จอมโจรหนัง เหนียว" ต่อมาเสือขาวถูกจับกุมและพิพากษาโทษประหารชีวิต ซึ่งกระสุนที่เพชรฆาตใช้สังหารเสือขาว หัวกระสุนทั้งหมดที่ใช้ยิงทำจากใบมีดหมอของหลวงพ่อโศก วัดปากคลองทุกนัด

กรมหลวงชุมพรฯยกย่อง
วัตถุมงคลทุกชนิดที่หลวงพ่อดิ่งได้สร้างไว้ิ ล้วนแต่เข้มขลังทรงพุทธานุภาพ ไม่ว่าจะเป็นลูกอม พระปิดตา หรือลิงจับหลัก ฯลฯ ดังเหตุการณ์ตัวอย่างเช่น

กรมหลวงชุมพรฯรับขวัญทหารใหม่ที่ชลบุรี หลังจากที่กรมหลวงฯกล่าวทักทายต้อนรับอย่างเป็นทางการ ขั้นตอนสุดท้าย ท่านกรมหลวงฯจะอาราธนาน้ำมนต์ของหลวงปู่ศุข ผู้เป็นอาจารย์ของท่านมาประพรมให้แก่เหล่าทหารเพื่อความเป็นสิริมงคล ในขณะที่ท่านประพรมน้ำมนต์อยู่นั้น ปรากฏว่ามีทหารหลายนายที่มีอาการของขึ้นคล้ายกับลิง สร้างความวุ่นวายภายในแถว ทหารที่มาสมัครใหม่บริเวณใกล้กันก็ช่วยกันจับ แต่ก็เอาไม่อยู่ กรมหลวงฯจึงชมทหารพวกที่ของขึ้นว่า พวกนี้เป็นศิษย์มีครูดี ซึ่งทหารเหล่านั้นมีลิงจับหลักของหลวงพ่อดิ่งติดตัวอยู่ มีอีกเหตุการณ์ที่ท่านกรมหลวงฯขอทดลองยิงลิงหลวงพ่อดิ่ง เมื่อท่านสังเกตเห็นลิงจับหลักที่ทหารห้อยอยู่ก็ทรงตรัสถามว่า ลิงตัวนี้ของใคร ทหารก็ตอบว่า ของหลวงพ่อดิ่ง แห่งวัดบางวัว ท่านก็ถามกลับทันทีว่า..ลองยิงได้ไหม...ทหารจึงถอดลิงที่คล้องคอไว้ออกไป แขวนที่ต้นไม้ แล้วท่านกรมหลวงฯก็ลองยิง ปรากฏว่ายิงอย่างไรก็ยิงไม่ออก


กรรมวิิธีการสร้างที่เข้มขลัง
หลวงพ่อดิ่ง ท่านทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล เช่น ลิงจับหลัก ตะกรุด 7 ดอก และลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร ฯลฯ มีการทำพิธีตัดไม้ข่มนาม เอาหนังเสือมาปูทับอาวุธนานาชนิด เช่น ปืน ระเบิด หอก ดาบ มีด เป็นต้น ท่านจะขึ้นไปนั่งปลุกเสกบนหนังเสือ ปลุกเสกจนสว่าง โดยที่ไม่ลุกขึ้นไปไหนเลยขณะที่ปลุกเสกจนกระทั่งเสร็จพิธี

สำคัญที่สุด
ตะกรุดเจ็ดพญาช้างสาร ท่านจะสร้างตะกรุด 7 ดอก ตามเคล็ดตำราโบราณ คือ คุ้มครองป้องกันภัยต่างๆทั้ง 7 วัน ในยามเมื่อมีภัยมาถึงตัวได้อย่างชะงัดนักแล มีคุณวิเศษในด้านอยู่ยงคงกระพัน ในสมัยก่อนคนแถบวัดได้นำลูกอมเจ็ดพญาช้างสารมาทดลองโดยนำมาใส่ไว้ในปากปลาช่อนแล้วทดลองฟันดู ปรากฏว่าฟันไม่เข้าคมมีดเด้งออกเหมือนกับเอามีดไปฟันยางรถยนต์ เรื่องกันปืนผาหน้าไม้ด้วยแล้ว ใครมีวัตถุมงคลของท่านติดตัวจะไม่ตายโหง เป็นที่เลืองลือมานานตราบจนเท่าทุกวันนี้ ปัจจุบันยากจะหาของแท้มาบูชา มีแต่รูปภาพในหนังสือให้เห้นเท่านั้น หายากที่สุดในบรรดาวัตถุมงคลทุกชนิดของหลวงพ่อดิ่ง



ตะกรุดเจ็ดพญาช้างสาร
บูชา 8000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 180 ตะกรุดพอกผง หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ขนาด 1.2 นิ้ว



ปฐมบท
ในบรรดาอมตะเถราจารย์ผู้เข้มขลังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง ที่ปรากฎเกียรติคุณชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักและเป็นที่เคารพศรัทธา ที่ปรากฎมากมายหลายรูป หากเอ่ยถึง หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ยากนักที่จะหาคนไม่รู้จัก วัตถุมงคลที่ท่านสร้างและปลุกเสกเอาไว้ เล่าลือถึงประสบการณ์มากมาย เป็นสิ่งที่ยืนยันให้เห็นถึงกฤษดาภินิหารแห่งพระเวทย์อาคมขลังของท่าน

ศิษย์สำคัญขององค์บรมครู
ท่านเป็นศิษย์สำคัญองค์หนึ่งของหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว ท่านได้รับการถ่ายทอดในสุดยอดวิทยาคมจากหลวงปู่ยิ้ม ก่อนจะมอบวิชานี้ให้และรับเป็นศิษย์ หลวงปู่ยิ้มท่านทดลองพลังจิตของ หลวงปู่ใจ โดยนำบาตรพระมาตั้งทำน้ำมนต์ เอาจอก(ขัน)ใบเล็กๆ ปักเทียนไว้ภายในให้ลอยอยู่ภายในบาตร หลวงปู่ยิ้มท่านสอนให้หลวงปู่ใจ ท่องภาวนาไปเรื่อยๆ หลวงปู่ยิ้มท่านสั่งว่า เทียนระเบิดดับเมื่อไร นั่นหมายถึงว่า "คุณใจ เรียนวิชาของฉันจบลงหมดสิ้นแล้ว" หลวงปู่ใจท่านทำอยู่ 7 คืน เทียนก็ไม่ยอมระเบิดดับ หลังจากกลับมาพัก ท่านจึงตัดสินใจว่าถ้าหากคืนพรุ่งนี้ยังทำไม่ได้ ก็จะกลับอัมพวา ปรากฏว่าคืนวันที่ 8 ท่านทำได้สำเร็จ ท่านสามารถเพ่งกระแสจิต เทียนที่ลอยในจอก(ขัน) ภายในบาตรพระก็แตกเปรี๊ยะดังขึ้นมา หลวงปู่ยิ้มได้กล่าวชมว่า "เมื่อแรกเรียนท่านก็เก่งกว่าเสียแล้ว พอๆ พอแล้ว คุณเรียนสำเร็จในวิชานี้แล้ว หยุดเท่านี้ล่ะ ขืนนั่งต่อไปมันจะต่อไม่ติด เออ..ท่านนี่เก่งไม่ใช่เล่นนะ อย่างนี้แสดงว่าได้เคยเรียนวิชาอะไรๆ ต่างๆ มาบ้างแล้ว จิตท่านถึงเป็นสมาธิได้นิ่งแน่วอย่างนี้ ฉันยังสู้คุณไม่ได้เลย สมัยฉันเรียนจากครูของฉัน ฉันต้องเรียนถึงสิบห้าวันถึงสำเร็จ วิชาทำตะกรุดลูกอมนี้ แต่นี่ท่านเรียนได้เพียงเจ็ดวันเทียนก็แตกสำเร็จแล้ว เก่งมาก เอาเลยนะต่อไปนี้อยากได้วิชาไหนๆ ในตำรานี้มีบอกไว้หมด เรียนจดเอาไปเลย ต่อไปจะได้เป็นตัวแทนของฉัน อนาคตข้างหน้าท่านใจจะต้องมีชื่อเสียงยิ่งไปกว่าฉัน" หลวงปู่ยิ้มจึงถ่ายทอดวิชาว่าด้วยการสร้างตะกรุดปราบหงษามหาระงับ ตะกรุดลูกอมอันเลื่องลือของท่านให้แก่หลวงปู่ใจจนหมดสิ้น

ความเป็นมา
หลวงปู่ใจ ท่านเป็นพระเถราจารย์ ผู้ประพฤติตนอยู่ในพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด พูดน้อย ไม่โอ้อวดคุณวิเศษแห่งตน ไม่ยึดติดในลาภยศสรรเสริญ ไม่ยกตนข่มท่าน ด้วยเหตุนี้วัตถุมงคลของท่าน จึงเข้มขลังอย่างยิ่งยวด แต่ก็ใช่เรื่องง่าย ที่ใครสักคนก่อนจะได้รับของดีจากมือของท่านโดยตรง บางคนเดินทางมาจากจังหวัดไกลๆ ขอเท่าใดท่านก็ไม่ยอมให้ เพราะท่านทราบด้วยข่ายญาณอันแก่กล้าของท่าน ทราบว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ประพฤติไม่ดี ท่านจะปฏิเสธไม่ยอมให้เด็ดขาด ตรงกันข้าม กับบางคนที่ท่านเห็นว่าเหมาะสมและสมควร ท่านก็จะมอบให้ทันทีทั้งกำชับด้วยว่า “เก็บไว้ให้ดีนะจ๊ะ อย่าไปบอกใคร ของฉันดีทางแคล้วคลาด และเมตตามหานิยมจ๊ะ”

อิทธิปาฏิหารย์
ท่านใช้อำนาจจิตกสิณเตโช กำนันจำรัส ศรีอนันต์ ได้เดินทางไปยัง วัดเสด็จ เพื่อกราบเยี่ยมเยียนท่าน บังเอิญเห็นท่านนั่งขัดสมาธิ มือพนมระหว่างอกหันหน้าเข้าหาหม้อยา ซึ่งตั้งอยู่บนแผ่นอิฐมอญซ้อนกันทำเป็นเตา แต่ไม่ได้จุดไฟ หลวงปู่ใจ ท่านนั่งบริกรรมใช้เวลานานพอสมควรก็ปรากฏว่า หม้อยาที่อยู่หน้าท่านมีควันลอยขึ้นมาคล้ายไอน้ำที่กำลังเดือดพล่าน ทั้งๆ ที่ไม่ได้จุดไฟ นับว่าเป็นเรื่องมห้ศจรรย์มาก ท่านต้มยาโดยไม่ได้จุดไฟ

ศิษย์ของท่านที่มีชื่อเสียง
1. หลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ
2. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี (ขอเรียนวิชาบางแขนง ทำตะกรุดลูกอม)
3. พระมหาสุรศักดิ์ วัดประดู่ (เป็นศิษย์สายหลวงปู่ใจ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่หยอด)
4. หลวงพ่อแดง วัดอินทาราม (เป็นศิษย์สายหลวงปู่ใจ โดยท่านเป็นศิษย์ของหลวงปู่หยอด)

พุทธคุณ
ดีทางแคล้วคลาด และเมตตามหานิยม



ตะกรุดพอกผง หลวงปู่ใจ
ราคาพิเศษ 2700 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ

ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

จองครับ

 

รายการที่ 182 ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง



ปฐมบท
ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของกรมหลวงชุมพรฯเคารพนับถืออย่างสูง ท่านเป็นพระเกจิอภิญญาจารย์ผู้มีจิตเข้มแข็งและมนต์คาถาอาคมเข้มขลัง บารมีสูงเกร่งด้วยญาณสมาธิ ท่านเป็นผู้ครอบครองปั้นเหน่งแม่นาค ต่อจากสมเด็จพระพุฒจารย์โต วัดระฆัง ภายหลังมอบให้กรมหลวงชุมพรฯเป็นผู้ครอบครอง กรมหลวงชุมพรฯและเชื้อพระวงศ์เคารพท่านมาก ในยุคบ้านเมืองระสำระสายด้วยไฟสงครามมหาเอเชียบูรพา ชาวบ้านมาพึ่งบารมีท่านให้ปัดเป่าเพศภัย ความศักดิสิทธิ์ของท่านเป็นที่ประจักษ์่ต่อสายตาชาวบ้านจนเป็นที่เคารพนับถือ ขนาดฉนวนโลหะที่ท่านปลุกเสก หลอมด้วยไฟแรงสูง ยังไม่ยอมหลอมละลาย แม้แต่พระเกจิอาจารย์ในสมัยนั้นยุคเดียวกัน ต่างยกย่องยอมรับท่านเป็นพระเกจิฯที่มีพลังจิตอาคมเข้มขลัง

ปาฏิหารย์
พระวิบูลย์ธรรมาภรณ์ วัดราชาธิวาส ได้นิมนต์พระอาจารย์พริ้งองค์เดียวไปปลุกเสก เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ ผ้ายันต์ที่กองอยู่กระพือพรึบเหมือนลมกระทบคลื่นอยู่ไปมา ทั้งๆ กระทำพิธีอยู่ในพระอุโบสถของวัดชนะสงคราม หน้าต่างประตูปิดหมด สมัยนั้นไม่มีพัดลม และมีผู้ร่วมเป็นสักขีพยานอยู่หลายท่าน กองผ้ายันต์เคลื่อนไหวเป็นอยู่พักหนึ่งจนเสร็จพิธี"

ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง เป็น1ในเบญจภาคีลูกอมเมืองไทย ได้แก่
1.ลูกอมมหาจินดามณีมนตราคม วัดตุ๊กตา
2.ลูกอมมหากัน วัดบางกระพ้อม
3.ลูกอมเกราะเพชร วัดบางนมโค
4.ลูกอมเจ็ดพญาช้างสาร วัดบางวัว
5.ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก


ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง
เป็นลูกอมในตำนาน สร้างแจกตอนสงครามโลกครั้งที่2 แม้แต่พ่อปาน วัดบางนมโค ยังมาเรียนวิชาทำลูกอมจากท่าน เล่าลือกันว่าเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญวิชาทางไสยศาสตร์ไม่แพ้หลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า ท่านมีความสามารถหลายด้าน เจนจบในศาสตร์ทางพุทธาคมหลายแขนง ทั้งผ้ายันต์ เสื้อยันต์ ตะกรุด มงคลแขน มงคลสวมหัว พระเครื่องเนื้อผง เนื้อโลหะ เนื้อดินเผา ลูกอมเนื้อผง สีผึ้งทาปาก ฯลฯ มีเรื่องเล่าว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ นั้น หลวงพ่อพริ้งท่านทำลูกอมเนื้อผงแจกไม่ทัน กระทั่งต้องเก็บหินกรวดในลานวัด มาเสกแจกแทนลูกอม ซึ่งก็ขลังไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

พุทธคุณ
สุดยอดเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพันชาตรี ดีครอบจักรวาล


สำคัญที่สุด
ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง จะมี 3 เนื้อ คือ ที่นิยมสุดสร้างในยุคต้น มีจำนวนสร้างน้อย หายากที่สุด คือ ลูกอมสีดำ(มีส่วนผสมของมวลสารผงวิเศษมากที่สุด) รองลงมาคือ ลูกอมสีชมพู ที่มีทำออกมามากสุดคือ สีเทา



ลูกอมสะท้านปฐพีหลวงพ่อพริ้ง
บูชา 3000 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

รายการที่ 183 เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน



ปฐมบท
ท่านเป็นอีกหนึ่งพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง ควบคู่ไปกับหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ วัตถุมงคลที่สร้างและปลุกเสกเอาไว้ มีมากมายหลายชนิด แต่ที่รับความนิยมสูงพร้อมทั้งมากล้นประสบการณ์ก็คงหนีไม่พ้น เบี้ยแก้ ท่านได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ กับพระอธิการพ่วง และพระครูธรรมสารรักษา(อ้น) วัดบุปผาราม พระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ต่อมาท่านได้ศึกษาด้วยตนเองจากตำราโบราณต่างๆอย่างเชี่ยวชาญ ท่านเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ได้แลกเปลี่ยนวิชาเวทย์วิทยาคมกับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ




ความเป็นมา
เบี้ยของท่าน จะเป็นเบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือก ส่วนการเลี่ยมจับขอบด้วยเนื้อทองคำ เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่ได้เลี่ยมมาจากทางวัด มักนิยมนำเบี้ยไปที่ร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ เป็นร้านเดียวกันกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ นำไปเลี่ยมกัน ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมเบี้ยแก้ของทั้งสามสำนักนี้จึงมีลักษณะคล้ายกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียวกันนั่นเอง การพิจารณา ในการจะแบ่งแยก เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์จะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ และหลวงพ่อนุ่น วัดนางใน




จุดที่ใช้ในการสังเกต
เบี้ยลูกนี้เป็นของหลวงพ่ออะไร ดูจากการปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรง
-เบี๊ยแก้หลวงพ่อนุ่ม จะวางแปะแผ่นตะกรุดเนื้อตะกั่วแล้วปิดทับด้วยชันโรงทับอีกชั้นหนึ่งปิดแผ่นตะกรุดตะกั่วไว้ด้านใน
-หลวงพ่อภักตร์ จะใช้ตะกรุดเนื้อตะกั่วชินเงินแปะทับ
-หลวงพ่อคำ วางแปะด้วยแผ่นตะกรุดเนื้อทองแดง และที่สำคัญมากๆคือเสียงของปรอทของหลวงพ่อคำ จะแตกต่างจากของหลวงพ่อภักตร์และหลวงพ่อนุ่ม โดยสิ้นเชิง



พุทธคุณ
มีคุณวิเศษเหนืออนันต์ และประสบการณ์มากมายไม่แพ้เบี้ยแก้ดังๆของสำนักอื่นใด ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุการณ์ร้ายให้กลับกลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตาค้าขาย และเหมาะที่จะใช้พกพาติดกายไปทุกๆที่ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ “อโคจร”



เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน
บูชา 4300 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

รายการนี้ผมขอยกเลิกการจองก่อนครับ

รายการที่ 167 ลูกอมหลวงพ่อร้าย วัดเขายี่สาร คุณpichitp จอง หน้าที่ 51

 

รายการที่ 168 พระพุทธพิมพ์พระประธานเนื้อครั่ง หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง
โอนแล้วครับ ที่จัดส่งแจ้งใน PM.แล้วครับ ขอบพระคุณครับ

 

(ลูกอม ลพ.พริ้ง)
เข้าบัญชีให้แล้วครับ 3,100 บ. กรุณาส่งมาที่
"ศักดิ์สิทธิ์ ชนะ"
79/222 หมู่ 2 (ลภาวัน 9) ซอย 9/1C
ต.บางพลับ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120
ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 183 เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน



ปฐมบท
ท่านเป็นอีกหนึ่งพระคณาจารย์ดังของ จ.อ่างทอง ควบคู่ไปกับหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ วัตถุมงคลที่สร้างและปลุกเสกเอาไว้ มีมากมายหลายชนิด แต่ที่รับความนิยมสูงพร้อมทั้งมากล้นประสบการณ์ก็คงหนีไม่พ้น เบี้ยแก้ ท่านได้ศึกษาพระเวทย์วิทยาคมพร้อมทั้งสรรพวิชาต่างๆ กับพระอธิการพ่วง และพระครูธรรมสารรักษา(อ้น) วัดบุปผาราม พระเกจิอาจารย์มีชื่อเสียงในสมัยนั้น ต่อมาท่านได้ศึกษาด้วยตนเองจากตำราโบราณต่างๆอย่างเชี่ยวชาญ ท่านเป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ ได้แลกเปลี่ยนวิชาเวทย์วิทยาคมกับอีกหลายพระคณาจารย์ ไม่ว่าจะเป็น หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ จะไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ




ความเป็นมา
เบี้ยของท่าน จะเป็นเบี้ยเปลือยไม่มีการถักเชือก ส่วนการเลี่ยมจับขอบด้วยเนื้อทองคำ เงิน นาค นั้น แล้วแต่ลูกศิษย์ที่ได้รับจะนำไปเลี่ยมกันเองไม่ได้เลี่ยมมาจากทางวัด มักนิยมนำเบี้ยไปที่ร้านทองในตลาดวิเศษชัยชาญ เป็นร้านเดียวกันกับลูกศิษย์ของหลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์ และหลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ นำไปเลี่ยมกัน ฉะนั้นลักษณะการเลี่ยมเบี้ยแก้ของทั้งสามสำนักนี้จึงมีลักษณะคล้ายกัน เพราะเลี่ยมร้านเดียวกันนั่นเอง การพิจารณา ในการจะแบ่งแยก เบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์ วัดโบสถ์จะตัวใหญ่กว่าของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำ และหลวงพ่อนุ่น วัดนางใน




จุดที่ใช้ในการสังเกต
เบี้ยลูกนี้เป็นของหลวงพ่ออะไร ดูจากการปิดท้องเบี้ยภายหลังบรรจุปรอทเข้าไปในตัวเบี้ยแล้วจะปิดทับด้วยชันโรง
-เบี๊ยแก้หลวงพ่อนุ่ม จะวางแปะแผ่นตะกรุดเนื้อตะกั่วแล้วปิดทับด้วยชันโรงทับอีกชั้นหนึ่งปิดแผ่นตะกรุดตะกั่วไว้ด้านใน
-หลวงพ่อภักตร์ จะใช้ตะกรุดเนื้อตะกั่วชินเงินแปะทับ
-หลวงพ่อคำ วางแปะด้วยแผ่นตะกรุดเนื้อทองแดง และที่สำคัญมากๆคือเสียงของปรอทของหลวงพ่อคำ จะแตกต่างจากของหลวงพ่อภักตร์และหลวงพ่อนุ่ม โดยสิ้นเชิง




พุทธคุณ
มีคุณวิเศษเหนืออนันต์ และประสบการณ์มากมายไม่แพ้เบี้ยแก้ดังๆของสำนักอื่นใด ป้องกันคุณไสย ยาสั่ง แก้เหตุการณ์ร้ายให้กลับกลายเป็นดี คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย เมตตาค้าขาย และเหมาะที่จะใช้พกพาติดกายไปทุกๆที่ ไม่เว้นแม้แต่สถานที่ “อโคจร”



เบี้ยแก้หลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน
บูชา 4300 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

รายการที่ 184 ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย



บรมครูพระอาจารย์ของอาจารย์
สุดยอดพระเกจิอาจารย์แห่งเมืองสุพรรณบุรี เกียรติคุณชื่อเสียงของหลวงพ่อเนี่ยมที่โด่งดังจนเป็นที่กล่าวขาน พระเกจิจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ เช่น หลวงพ่อโหน่ง (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ) หลวงพ่อปาน (ผู้เป็นอาจารย์ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ) เป็นต้น

ศิษย์สมเด็จโต วัดระฆัง
หลวงพ่อเนียม ท่านฯได้ไปศึกษาในด้านสมถะและวิปัสสนากรรมฐานกับเจ้าประคุณ วัดระฆัง ซึ่งเป็นผู้ที่มีอภิญญาสูงและมีวิทยาคมแก่กล้า

รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า
ครั้งหนึ่งมีภิกษุจากวัดสุวรรณภูมิ ๔ รูป ไปหาหลวงพ่อเนียม เพื่อขอฤกษ์ลาสิกขาบท พอเห็นหน้าภิกษุทั้งสี่ ท่านร้องทักขึ้นว่า "จะมาขอฤกษ์ลาสิกขาบทใช่ไหมล่ะ" ภิกษุทั้งสี่ตอบว่าใช่ ท่านให้ฤกษ์ไปสามรูป อีกรูปหนึ่งท่านท้วงว่าอย่าเพิ่งเลย ชะตากำลังไม่ใคร่ดี ท่านไม่ให้ฤกษ์ แต่ภิกษุนั้นหายอมฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม ทนไม่ไหวจีวรร้อนเป็นไฟ ตัดสินใจสึกโดยไม่ฟังคำทักท้วงของหลวงพ่อเนียม เมื่อออกจากวัดกลับมาหาบิดามารดาที่บ้าน ค่ำวันนั้นเองขณะที่กำลังนั่งสนทนากันอยู่บนบ้าน ปรากฏว่ามีคนร้ายเอาปืนยิงเข้าไปในกลุ่มสนทนา กระสุนถูกศีรษะทิดสึกใหม่คนนั้นตายคาที่

ผู้มีญาณวิเศษ
วันหนึ่งหลวงพ่อเนียมเอ่ยปากขอสำรับเพลจากชาวบ้านจำนวน ๕๐ สำรับ โดยไม่ได้บอกว่าจะทำอะไรที่ไหน ครั้นใกล้จะถึงเวลาเพล สำรับที่ขอชาวบ้านทยอยมาสู่วัดครบตามจำนวน แต่ชาวบ้านมองไม่เห็นว่าจะมีอะไรผิดปกติ ไม่เห็นมีวี่แววจะ มีใครจะมาจากที่ไหน เสียงกลองเพลดังลั่นขึ้นเท่านั้น หลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย พระเกจิอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง พาภิกษุมารวม ๕๐ รูป เดินทางมานมัสการหลวงพ่อโต วัดป่าเลไลยก์ พอเดินทางมาถึงหน้าวัดน้อย ปรากฏว่าเกิดพายุขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วนเป็นที่ผิดปกติ หลวงพ่อปาน จึงพูดกับพระที่มาด้วยกันแล้ว
" เอ เห็นจะต้องแวะที่วัดนี้เสียแล้ว เจ้าของท้องที่เขาเชิญให้แวะ ไม่ควรขัดศรัทธา" จึงสั่งให้เรือจอดที่ท่าวัดน้อย พาภิกษุทั้งหมดขึ้นไปบนวัด ได้รับการต้อนรับจากหลวงพ่อเนียมด้วยการถวายเพลแก่อาจารย์วัดบางเหี้ยและ ภิกษุทุกรูป
.
คำประกาศิต
ในงานทำบุญคล้ายวันเกิด ชาวบ้านจัดงานใหญ่โต มีแสดงพระธรรมเทศนาพร้อมด้วยมหรสพสมโภช ร้านค้าตั้งเต็มลานวัด ค่ำวันนั้น เมฆดำทมึนฝนตั้งเค้า พายุพัดตึง ฝนได้ลงเม็ดมาปรอยๆ ร้านค้าขายต่างกุลีกุจอเก็บข้าวของเตรียมหนีฝนกันจ้าละหวั่น วุ่นวายไปทั่วทั้งลานวัด คนที่มาเที่ยวต่างก็หลบฝนเข้าไปในใต้ถุนกุฏิ และที่หอฉันเต็มไปหมด ในขณะที่กำลังอลหม่านกันนั้นเอง หลวงพ่อเนียมเดินลงมาจากุฏิร้องบอกว่า "ไม่ต้องเก็บไม่ต้องเลิก มหรสพเล่นต่อไป ของขายต่อไป ที่นี่ไม่มีฝน ฝนไม่ตกที่นี่ "ท่านเดินไปหยุดที่หน้ากุฏิ มองขึ้นไปเบื้องบนท้องฟ้า ดั่งคำประกาศิต ฝนตั้งเค้าและท่าจะตกลงมาอย่างหนักนั้นหาได้ตกลงมาภายในบริเวณวัด แต่เมื่อมองออกไปนอกวัดจะเห็นฝนตกลงมาอย่างรุนแรง ทั้งตกอยู่นานอักโขอยู่ พองานเลิกทุกคนต้องเดินลุยน้ำขนาดครึ่งหน้าแข้ง



ถ่ายรูปไม่ติด
เล่าลือกันว่าการถ่ายรูปหลวงพ่อเนียมถ่ายไม่ติด พระประมาณต้อง การพิสูจน์ความจริง ตามเสียงที่เล่าลือกันจะเป็นจริงเพียงใด จึงไปที่วัดน้อยแล้วนิมนต์พระทั้งวัดมานั่งถ่ายรูปพร้อมด้วยหลวงพ่อเนียม เมื่อเอาฟิล์มไปล้างปรากฏว่าไม่มีรูปหลวงพ่อเนียมอยู่ในกลุ่มนั้นจริงๆ จึง ขอทดลองถ่ายอีกโดยขอให้หลวงพ่อเนียมเดินไปที่โอ่งน้ำมนต์ ถ่ายขณะที่หลวงพ่อกำลังเดินไปและขณะอยู่ที่โอ่งกำลังทำน้ำมนต์ก็ไม่ติดอีก เป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

ท่าน้ำศักดิสิทธิ์
ปัจจุบัน แม่น้ำที่ไหลผ่านวัดน้อย ทางวัดได้สร้างแพให้ลงไปเป็นที่ตักดื่มน้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ ตามอมตะวาจาของหลวงพ่อเนียมบรมครูเฒ่าพระอาจารย์ใหญ่ผู้ศักดิสิทธิ์ทรงอิทธิปาฏิหารย์ แม้วันเวลาจะล่วงเลยผ่านมาเป็นร้อยปี แต่ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ ยังคงอยู่จนถึงทุกวันนี้

น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์
น้ำมนต์ศักดิสิทธิ์ของท่านไม่เฉพาะแต่น้ำมนต์ในโอ่งเท่านั้น ที่ท่าวัดของท่านก็ศักดิสิทธิ์เช่นเดียวกัน ครั้งหนึ่งมีจีนคนหนึ่งชื่อ "โต้ผ่วย" มาขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อเนียม ท่านบอกเจ๊กโต้ผ่วยให้ไปตักเอาเองซิ อยู่ที่ท่าน้ำ เจ๊กโต้ผ่วยไปตักน้ำมาแล้วเอามาให้ท่านหลวงพ่อบอกให้จุดธูป พอจุดเสร็จท่านบอกกับเจ๊กโต้ผ่วยว่าเสร็จแล้ว เจ๊กโต้ผ่วยมองหน้าหลวงพ่อเนียมเป็นเชิงสงสัย และนึกฉุนตะหงิดๆ ขึ้นมาในใจ อะไรกัน ไม่เห็นหลวงพ่อท่านบริกรรมคาถาเลยแม้แต่คำเดียว จะเป็นน้ำมนต์ได้อย่างไร แต่จะไม่เอาไปก็ไม่ใช้ที่ จึงเอาไปอย่างไม่เต็มใจ เมื่อออกไปนอกวัด เจ๊กโต้ผ่วยรำพึงขึ้นอย่างแค้นใจ จึงคว่ำขวดโหลใบที่ใส่น้ำมนต์ น้ำมนต์ในขวดโหลหาได้ไหลออกมาไม่! บังเอิญพลัดหลุดมือแตกเป็นเสี่ยงๆ น้ำมนต์ในขวดโหลแทนที่จะเป็นน้ำเหลว กลับกลายเป็นก้อนน้ำแข็ง เจ๊กโต้ผ่วยตกใจรีบตาสีตาเหลือกเก็บก้อนน้ำแข็งนั้นใส่ภาชนะอื่นทันที นึกถึงอภินิหารของหลวงพ่อเนียม ยกภาชนะนั้นขึ้นทูนหัวพร้อมกับกล่าวขออภัยในใจ ที่หมิ่นหลวงพ่อและเอาก้อนน้ำแข็งน้ำมนต์นั้นไปเก็บไว้จนละลาย


สำคัญที่สุด
ตะกรุดหลวงพ่อเนียม เอกลักษณ์ของสำนักนี้ เป็นเนื้อทุบตะกั่วถ้ำชา เก่าจนกลืนเป็นเนื้อเดียวกัน ไขขึ้น ยาว 3 นิ้ว เก่าลึก อายุเกิน 100 ปี แท้ ดูง่ายที่สุด

พุทธคุณ
เกินบรรยาย สุดยอดแห่งความเหนียว คงกระพันชาตรีเป็นที่เลื่องลือไปทั่วเมืองไทย ครบเครื่องทั้งเมตตามหานิยม และแคล้วคลาด ป้องกันสารพัดกันอันตรายต่างๆนานา ฯลฯ

ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
บูชา 3600 บาท



ตะกรุดหลวงพ่อเนียม วัดน้อย
บูชา 3600 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

จอง 183 ครับ

 

จอง 184 ครับ

 

รายการที่ 185 ตะกรุดหลวงพ่อกวย



ปฐมบท
หลวงพ่อกวยเป็นศิษย์พระอริยสงฆ์หลายองค์ เช่น
-หลวงปู่เฒ่า วัดค้างคาว เป็นพระรุ่นพี่หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ศึกษาวิชาจากตำราเดียวกัน มีการเเลกเปลี่ยนวิชากันหลวงพ่อกวยได้ไปศึกษาการทำผ้ายันต์ค่ายกลกับหลวงปู่เฒ่า
-หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์ พระเกจิที่โด่งดังของสิงห์บุรี มีลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงมากมายมาขอเรียนวิชา เช่น หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม หลวงพ่อเเพ วัดพิกุลทอง เป็นต้น หลวงพ่อกวยได้สร้างเเหวนตามตำรับของหลวงพ่อศรี
- หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เทพเจ้าแห่งเมืองปากน้ำโพ ผู้สร้างมีดเทพศาสตราวุธอันดับ 1 ท่านได้ไปเรียนวิชาทำ แหวนแขน, ตะกรุด, มีดหมอฯลฯ

หลวงพ่อกวย ท่านเป็นพระอภิญญาจารย์จอมขมังเวทย์ เจ้าแห่งมนต์มหากาฬ ฉายาท่าน คือ ผู้วิเศษแห่งสรรค์

ผู้วิเศษแห่งสรรค์

การปลุกเสกวัตถุมงคล
พระเครื่องและวัตถุมงคลต่างๆ จะปลุกเสกเองทั้งหมด มนต์พระกาฬ เป็น มนต์ที่ท่านต้องปลุกเสกด้วยทุกครั้ง มนต์นี้ ใครทำไม่ดี คิดไม่ดี จะแพ้ภัยตัวเอง ท่านจะสั่งศิษย์ของท่านไว้เสมอว่า อย่าเอาวัตถุมงคลต่างๆของท่านไปลองเดี๋ยวจะเข้าตัว เพราะท่านได้ปลุกเสกมนต์พระกาฬเอาไว้

วิธีการปลุกเสกวัตถุมงคล
ท่านจะปลุกเสกตามฤกษ์มงคล แล้วจึงปลุกเสกด้วยฤกษ์โจร ฤกษ์บุญพญามาร คือพระของท่านนั้น คนดีก็ใช้ โจรก็ใช้ ท่านมีวิธีการปลุกเสกที่เข้มขลังมาก ปลุกเสกตอนเช้า สาย บ่าย เย็น หัวค่ำ เที่ยงคืน ค่อนสว่าง ท่านจะปลุกเสกทุกวัน เพื่อป้องกันคนชะตาขาดใช้ คือจันทร์ถึงอาทิตย์ หาก วันไหนเป็นวันอ่อน ยิ่งต้องปลุกเสกให้มาก วิธีปลุกเสก เช้าสายบ่ายเย็นกลางคืนกลางดึกนี้ ตรงกับไสยดำทุกอย่าง คือ ท่านกันเอาไว้ เพราะไสยดำเขาจะทำช่วง ๗ เวลานี้ คนจิตอ่อนหรือคนธรรมดาจะกันไม่ได้เลย

ข้อห้ามในวัตถุมงคลของท่านคือ ห้ามด่าแม่เด็ดขาด



ตะกรุดมหากาฬหลวงพ่อกวย
ราคาพิเศษ 2200 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

เบอร์โทร 0875509271

 

จองรายการที่ 185 ครับ