พระเครื่องวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลัง(แท้ ดูง่าย)

รายการที่ 206 ตะกรุดพิศมร(ขนาดเล็ก) หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย สมุทรสงคราม


ปฐมบท
หลวงพ่อแก้ว เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองสมุทรสงคราม ท่านสำเร็จญาณวิเศษ สามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ทั้งปัจจุบัน อดีต และอนาคต ท่านเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่อง ตะกรุดพิศมรใบลาน เหรียญ ผ้ายันต์ และลูกอม เลื่องลือที่สุดในด้านมหาอุตม์คงกระพันชาตรีเป็นเลิศที่สุดในปัจจุบัน จน เจ้านายหลายพระองค์ได้แวะมากราบนมัสการท่าน ถึงเมืองสมุทรสงคราม อาทิ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ฯลฯ มีเรื่องเล่ากันว่า ข้าราชการอยู่ที่สมุทรสงคราม เมื่อต้องเข้ามาทำธุระในกรุงเทพฯ ถ้ารู้ว่ามาจากสมุทรสงคราม เป็นต้องถูกถามหาของฝากเป็นตะกรุดพิศมรใบลานของหลวงพ่อแก้ววัดพวงมาลัย เสียทุกเที่ยวไป
ที่มา คำว่า "พิสมรวัดพวงมาลัย"
สุดยอด ๙ เครื่องราง-ของขลัง ทรงคุณค่า เป็นโคลงคำกลอนดังนี้ ....

"หมากดีที่วัดหนัง เบี้ยขลังวัดนายโืรง ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์ มีดบินวัดหนองโพธิ์ พิสมรวัดพวงมาลัย ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง ราหูคู่วัดศรีษะฯ เเหวนอักขระวัดหนองบัว ลูกเเร่ที่วัดบางไผ่ ฤทธิ์เหลือร้ายหาใดปาน "
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล ทั่วทุกคนควรค้นหา ติดกายยามยาตรา ภัยมิกล้ามาเเพ้วพาน"
อุปเท่ห์ในการสร้าง
ตะกรุด พิศมร หรือที่เรียกกันอีกอย่างว่า “ตะกรุดบังปืน” สมัยนั้น ถ้าผู้มีความประสงค์จะมาขอให้หลวงพ่อแก้ว ทำตะกรุดพิศมร ผู้ที่ต้องการได้ตะกรุด จะต้องไปตัดใบลานเฉพาะเจาะจงที่ ตำบลบังปืน เท่านั้น หากไม่เป็นไปตามที่หลวงพ่อท่านกำหนดไว้ ท่านจะไม่ลงให้เด็ดขาด สาเหตุ ที่ต้องใช้ใบลานปากคลองบางปืน หลวงพ่อแก้ว บอกว่าเพราะชื่อ "บางปืน" ที่กร่อนเป็น "บังปืน" ให้ความหมายในการข่มนาม ใช้ชื่อในการสะกดลงอักขระเลขยันต์ เพื่อบ่งบอกให้ เทพ เทวดา ฟ้าดิน ได้รับรู้ว่า ของของท่านใช้ดีทางไหน
ตะกรุดพิศมร

ชื่อเสียงอันโด่งดังของตะกรุดพิศมรเป็นที่เลื่องลือทั่วฟ้าเมืองไทย สมฉายาว่า "ตะกรุดพิศมร ถอนไม่ได้" เพราะพุทธคุณความเข้มขลังของตะกรุดพิศมร ที่มีความศักดิสิทธิ์จนเป็น ที่เลื่องลือ ไม่มีเวทย์มนตราใดหรืออาวุธศักดิสิทธิ์ใดจะมาถอดถอนให้ตะกรุดพิศมรเสื่อม คลายความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ได้ จึงเป็นที่เลื่องลือจนถึงทุกวันนี้
คาถาอาราธนา
ตั้งนะโม ๓ จบ
เอา ตะกรุดจบที่หน้าผาก แล้วว่าคาถา ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ" เมื่อคาดเข้าติดตัว ให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือก ดังนี้ "ภูภิ ภูภะ อะมิ มิมังกายะพัทธนัง อธิษฐานมิ"

ตะกรุดพิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เป็นตะกรุดที่ชายไทยต้องมีไว้ติดตัว เป็นประโยคที่พูดติดปากกันมานาน เพราะอานุภาพของตะกรุดนั้นมีมากจริงๆ ทั้งกัน ถอน แก้มีอยู่ในตะกรุดของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ชื่อเสียงอันโด่งดังของตะกรุดเป็นที่เลื่องลือทั่วฟ้าเมืองไทย เพราะพุทธคุณความเข้มขลังของตะกรุดนั้น มีความศักดิสิทธิ์จนเป็น ที่เลื่องลือ ไม่มีเวทย์มนตราใดหรืออาวุธศักดิสิทธิ์ใดจะมาถอดถอนให้ตะกรุดนั้นเสื่อมคลาย ความเข้มขลังศักดิสิทธิ์ได้ จึงเป็นที่เลื่องลือจนถึงทุกวันนี้

พุทธคุณ
สุดยอดแห่งมหาอุตม์กันปืน เมตตามหานิยม แคล้วคลาดภัยอันตราย

ตะกรุดพิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย ลูกนี้เป็นตะกรุดสาริกา มีขนาดเล็กยาว 1.5 เซ็นติเมตร พันเชือกด้ายสายสิญจ์ลงรักเก่า สวย แท้ ดูง่าย



ตะกรุดพิศมร(ขนาดเล็ก)
หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย
ราคาพิเศษ 4500 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 207 พระกริ่งผมหวี คุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม วัดอาวุธ ตอกโค้ด



อภิญญาของคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
หายตัวได้

ครั้งนั้นท่านเจ้าคุณฯ ได้ให้คุณแม่บุญเรือนเข้าไปอยู่ในหอระฆัง แล้วล๊อคด้วยกุญแจข้างนอก แต่แค่พอหันหลังจะเดินลงมา ก็เห็นร่างของคุณแม่บุญเรือนออกมาอยู่ข้างนอกแล้ว ...
อธิษฐานน้ำที่ท่วมอยู่ให้ยุบหายไปได้

ในวันทำบุญบ้านของคุณแม่บุญเรือน เรือนของท่านยกใต้ถุนสูงแบบโบราณ มีลูกศิษย์มามากมายแต่ขึ้นเรือนท่านไม่ได้เนื่องจากมีน้ำท่วมพื้นทางที่จะขึ้นบันได คุณแม่บุญเรือนท่านยืนอยู่ข้างบนแล้วชี้นิ้วไปที่น้ำ น้ำค่อยๆ วนแล้วยุบหายไปในพื้นดินต่อหน้าต่อตา...
อธิษฐานขอลมให้พัด

ในขณะทำพิธีอยู่ในเรือนของท่าน อากาศร้อนอบอ้าว ท่านชี้นิ้วขึ้นไปในอากาศ แล้วกล่าวว่า "ลมไปไหนหมดเจ้าค่ะ ขอให้พัดมาหน่อย" ทันใดนั้นลมก็พัดมาทันที จนกระดิ่งที่แขวนอยู่รอบๆ ศาลาดังระงมไปหมด คุณแม่พูดต่อไปอีกว่า "ขอแรงกว่านี้อีกค่ะ" คราวนี้ลมก็พัดแรงขึ้นอีกมากจริงๆ ...
ย่นระยะทางได้

ครั้งหนึ่งศิษย์ของท่านปวารณาที่จะขับรถไปส่งท่านที่เขาวงพระจันทร์ ปรากฏว่าพอถึงเวลาไปรับท่าน ท่านยังติดแขกอยู่อีกสาม-สี่คน ท่านก็บอกให้ขับล่วงหน้าไปก่อน ศิษย์ของท่านก็ ขับรถไปเรื่อยๆ ไม่ได้จอดที่ไหนเลย แต่พอไปถึงที่หมาย ปรากฎว่าเห็นคุณแม่บุญเรือนมาอยู่ก่อนแล้ว และกำลังทำพิธีให้กับลูกศิษย์อยู่ และพอสอบถามกับคนที่นั่นก็ได้ความว่า คุณแม่บุญเรือนมาถึงร่วมๆ ชั่วโมงแล้ว และไม่เห็นว่าใครมาส่งท่านด้วย...
อธิษฐานยา

ครั้งนั้นศิษย์ของท่านที่เป็นพระ พบว่าที่ปอดมีจุดในฟิลม์เอ็กซ์เรย์ มาหาคุณแม่ (คุณแม่ห้ามลูกศิษย์ใช้คำว่า ขอให้ท่านรักษา เพราะท่านจะพูดว่า "ฉันไม่ใช่หมอ" ต้องพูดว่า ขอให้ท่านช่วยสงเคราะห์) พอศิษย์ของท่านเดินขึ้นเรือนท่าน ท่านก็เข้ามากราบแล้วก็ไปนั่ง ยังไม่ทันได้พูดอะไร ท่านหันไปหยิบปูนที่ใช้กินกับหมากส่งมาให้ แล้วชี้มาที่อกของศิษย์ของท่านบอกว่า ให้เอาปูนนี้ไปทาที่อก ....
อีกสัปดาห์ต่อมา ก็ปรากฏว่ามีเม็ดดำๆ คล้ายๆ หัวข้าวสารโผล่ออกมาจากอกศิษย์ของท่านสามเม็ด ก็ใช้มือดึงออกมาทั้งสามเม็ดและไม่เกิดแผลอะไรเลย พอไปเอ็กซ์เรย์ดูอีกที จุดดำที่ปอดของศิษย์ของท่านก็หายไปแล้ว

บทความนี้เป็นการยกย่องสรรเสริญคุณแม่บุญเรือน ซึ่งแม้ท่านจะเป็นผู้หญิงแต่ท่านก็ปฏิบัติได้จริง คุณธรรมหรือการปฏิบัติธรรมนั้น ไม่แบ่งเพศและวัย ผู้ที่ทำจริง ปฏิบัติจริงก็ได้ผลจริงอย่างแน่นอน

พระคาถาพระสีวลี​

พระอินทร์ ได้มอบพระคาถานี้กับคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม
พระ อรหันต์เจ้า ที่มีบุญบารมีทางลาภสักการะมากกว่า พระอรหันต์ด้วยกันในสมัยพุทธกาล พระอินทร์ ได้มอบพระคาถานี้กับคุณแม่บุญเรือนโตงบุญเติม ท่านแม้เป็นฆราวาสแต่ก็ได้ฝึกธรรมะถึงขั้นได้อภิญญา มีฤทธิ์เดชมากมาย ดังมีหลักฐานให้อ่านให้ดูได้ที่ วัดอาวุธ ถ.จรัลสนิทวงศ์ บางพลัด กทม.
นะ ชาลีติ ฉิมพา จะ มหาเถโร
สุวรรณะ มามา โภชนะ มามา วัตถุวัตถา มามา
พลาพลัง มามา โภคะ มามาร มหาลาโภ มามา
สัพเพ ชะนา พหู ชะนา ภวันตุเม
ถ้าจะให้เกิดลาภสม่ำเสอ ให้ท่องสวดพระคาถาตามกำลังวันดังนี้วันอาทิตย์ ๖ จบ วันจันทร์ ๑๕ วันอังคาร ๘ วันพุธ ๑๗ วันพฤหัส ๑๙ วันศุกร์ ๒๑ วันเสาร์ ๑๐

พระกริ่งผมหวี คุณแม่บุญเรือน
บูชา 3800 บาท

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 208 แหวนพิรอด หลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน



แหวนพิรอด
พระเกจิอาจารย์ตั้งแต่ครั้งอดีต ได้จัดสร้าง"แหวนพิรอด" ตามตำราโบราณหลวง พ่อม่วง ท่านนำผ้ามัดตราสังข์ มาลงอักขระด้วยพระคาถาอิติปิโส มงคลฯ กับหัวใจพระธรรม ๗ คัมภีร์ ลงเดินหน้า ถอยหลัง เรียกว่า ลงอักขระสดุ้งกลับ คือ กลับสิ่งเลวสิ่งร้ายให้กลายเป็นดี หรือที่ดีอยู่แล้วก็จะทำให้ดียิ่งๆขึ้น เมื่อทำเสร็จแล้วจึงเอามาปลุกเสก หลวงปู่จะทดสอบความขลังโดยเอาแหวนพิรอด ใส่ในเตาที่มีไฟลุกโชน ถ้าวงไหนไม่ไหม้ไฟ ถือเป็นอันเสร็จใช้ได้ ท่านจึงจะมอบให้แก่ผู้ที่มาขอไป เพื่อนำ ไปเป็นเครื่องมงคล พกพาอาราธนาติดตัว ด้วยเหตุที่แหวนพิรอดไม่ไหม้ไฟนั้น จึงมีความเชื่อกันว่าเป็นของดี ของคงทนทางคงกระพัน มหาอุด กันเขี้ยวงาต่างๆ คนที่ได้นำไปใช้ต่างก็มีประสบการณ์กันมากมาย จึงเป็นที่นิยมเสาะหาพกพาติดตัวเมื่อใครอยากจะได้ก็จะไปขอให้ท่านเมตตาทำให้ ท่านก็จะพิจารณาทำให้เป็นรายบุคคลไป ซึ่งบางคนกว่าจะได้ต้องรอนานหลายๆเดือน


ต้นตำรับตำรา
ตำรา ทำแหวนพิรอดถักนี้เป็นของโบราณ สืบแต่แผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช สมัยนั้นในราชสำนักมีอาจารย์ฆราวาสชื่อดัง ๒ คน คือ พระวิชาจารย์มนตรี(อาจารย์ชาตรี) กับหลวงราชปรีชาหาญ(อาจารย์พิรอด) อาจารย์ ๒ คนนี้เคยไปกับ พระวิสูตรสุนทร(ปาน) หรือโกษาปาน ถึงประเทศฝรั่งเศส และได้ลองวิชาอาคมให้พระเจ้าหลุยส์ เป็นที่พอพระทัยมาก ได้รับรางวัลกลับเมืองไทยมากมาย จนเป็นที่กล่าวขวัญเลื่องลือมาจนถึงทุกวันนี้ ต่อมาตำราการสร้างแหวนพิรอดตามตำรับโบราณนี้ได้รับการสืบทอดต่อมายังหลวงพ่อ ม่วง ท่านได้สร้างแหวนพิรอดมาตั้งแต่ประมาณปี พศ.๒๔๗๐
พระคาถาบูชา
โอมพระพิรอด ขอดพระพินัยหัวใจพระคาถาเมื่อสวมใส่หรือพกพา
โอมพระพินัย คลายพระพิรอดหัวใจพระคาถา เมื่อถอดออก




แหวนพิรอด
หลวงพ่อม่วง วัดบ้านทวน
บูชา ๓๕๐๐ บาท

ปิดรายการ
โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 209 ตะกรุดกระดูกห่าน หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด


หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด

จอมขมังเวทย์
พระเกจิอาจารย์ยุคโบราณ จอมขมังเวทย์วิทยาคมสุดยอดอาคมเข้มขลัง ชื่อเสียงโด่งดังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ท่านเก่งกล้าวิชาอาคมตั้งแต่เป็นฆราวาส เคยเป็นเสือเก่าแต่กลับตัวกลับใจมาบวชเป็นพระ ในสมัยนั้นไม่มีใครสามารถปราบเสือหรุ่นลงได้ ท่านมีวิชาผูกหุ่นลวงให้เจ้าหน้าที่ยิงและจับมานับครั้งไม่ถ้วน ท่านสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ทุกครั้ง ในเวลาต่อมาได้กลับใจเป็นคนดีเข้ามาช่วยราชการ จนได้รับพระราชทานยศเป็น ขุนกาวิจลใจภารา ต่อมาท่านออกจากราชการมาบวชพระ จนท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาสักยันต์เก้ายอด จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิสิทธิ์หนังเหนียวยิงฟันแทงไม่เข้า ในสมัยนั้นในวงการนักเลงคนจริง ไม่มีใครไม่รู้จัก "นักเลงเก้ายอด"

วัตถุมงคล
ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเพียงไม่กี่ชนิด อาทิ เช่น
1.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์
2.ตะกรุดโทน
3.ตะกรุดกระดูกห่านและกระดูกแร้ง
4.แหวนพิรอดนิ้ว 9 ยอด
5.สักยันต์เก้ายอด
พระเกจิใหญ่แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
หลวงพ่อหรุ่น ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกะพร้อม ท่านมีชื่อเสียงยันต์เก้ายอดจนเป็นที่เลื่องลือทั่วเมืองไทย วิชาสุดยอดอีกอย่างหนึ่งของท่าน คือ ตะกรุดกระดูกห่าน ที่เป็นโด่งดังไม่แพ้ใคร
พุทธคุณ
แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี มหาอุตม์



ตะกรุดกระดูกห่าน
หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด
บูชา ๓๐๐๐ บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7<!-- google_ad_section_end -->

 

แจ้งโอนเงินครับ ที่อยู่จัดส่ง...
นาย เฉลิม โพธานารักษ์
โรงพยาบาล ฝาง เลขที่30 หมู่ 4 ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ 50110 โทร 081-468-1122

 

รายการที่ 210 สีผึ้งสีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ ปี พศ.2532



ปฐมบท
หลวง พ่อเริ่ม ท่่านเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เึ่ช่น หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างปลัดขิกอันโด่งดัง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างแพะมหาเสน่ห์อันดับ ๑ ของเมืองไทย ผู้เป็นทั้งอาจารย์และเป็นปู่หลวงพ่อเริ่ม
เรียนวิชา
หลวงปู่อ่ำ วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างแพะมหาเสน่ห์อันดับ ๑ ของเมืองไทย ผู้เป็นทั้งอาจารย์และเป็นปู่ของหลวงพ่อเริ่ม ท่านเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อทาบและหลวงปู่ทิม หลวงปู่อ่ำได้ถ่ายทอดวิชาฝนแสนห่าและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ซึ่งเป็นวิชาเมตตามหานิยมชั้นสูง แต่ก่อนที่จะสอนวิชาแก่หลวงพ่อเริ่ม ท่า่น ได้ทดสอบสมาธิและความกล้าในความจริงของหลวงพ่อเริ่ม โดยจับมัดมือไพล่หลังคล่อมตออยู่ริมป่าช้าวัดหนองกระบอก โดยให้คาถา ๔ ตัว ภาวนาจนเชือกหลุด หลวงพ่อเริ่มท่านก็สามารถทำได้ หลวงปู่อ่ำจึงยอมรับเอาไว้เป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาดังกล่าว
ศิษย์อาจารย์เดียวกัน
ท่่านเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ทิม โดยไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนวิชากัน หลวงพ่อเริ่มท่านได้สร้างวัตถุมงคล เช่น เหรียญ พระปิดตา พระกริ่ง และแพะมหาเสน่ห์ ฯลฯ แต่วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ พระกริ่งปรโม และพระกริ่งฟ้าลั่น มีราคาแพงและค่านิยมสูงรองลงมาจากพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เท่านั้น

สีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา
สีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา สร้างจากตำราโบราณ กรรมวิธีการสร้างยากมาก หลวง พ่อเริ่มต้องไปบิณฑบาตสีผึ้งมาจากท่าสำคัญ ๆ 7 ท่า ต้องเป็นท่าเรือ หรือท่ารถ ที่มีผู้คนพลุกพล่านซื้อง่ายขายคล่อง ท่านจะไปบิณฑบาตโดยถามตามร้านค้าว่า โยมมีสีผึ้งขายไหม ? ถ้าเขาตอบว่า มี ท่านจะบอกว่า อาตมาเป็นสงฆ์ไม่มีปัจจัย ขอบิณฑบาตสีผึ้งของโยมสักหน่อยจะได้ไหม เมื่อเขาให้ ท่านจะสัพพีให้ศีลให้พร ทำอย่างนี้จนครบ 7 ท่า ขั้นแรกนำสีผึ้งนั้นมาปั้นเป็นรูปหญิงสาว นำเอา ไปฝังไว้กลางป่าช้าจนครบ ๓ คืน แล้วจึงไปขุดเอามา ก่อนจะไปฝังกลางป่าช้า ต้องเข้าไปนั่งเรียก ยายกะสีตีกะลาและนายป่าช้า จนปรากฏในนิมิต แล้วเอ่ยปากขอฝากฝังหุ่นขี้ผึ้งไว้ เมื่อครบ ๓ วัน ๓ คืน แล้วจึงไปขุดขึ้นมา นำผงผสมกับสีผึ้ง แล้วนำสีผึ้งมากวนกับน้ำมันมะพร้าว โดยให้เด็กสาวพรหมจารีเป็นผู้กวนแล้วเก็บไว้ เมื่อคราวใดที่เกิดจันทรคราส คือ ท่านก็จะเริ่มทำพิธีปลุกเสกตั้งแต่พระราหูเริ่มอมพระจันทร์ จนพระราหูคลายพระจันทร์ รวมแล้วให้ได้ 7 ครั้ง จึงจะถือว่าเสร็จครบตามตำราระหว่างที่พระราหูเข้าอมพระจันทร์นั้น ตามตำราโบราณ ถือว่า เป็นมหานิยมอย่างสูง หลวงพ่อเริ่มท่านกล่าวว่าสีผึ้งท่านสร้างยาก ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี จึงสำเร็จ จึงจะสำเร็จครบตามตำรา
ที่สำคััญ ตัวจริง แท้ บูชามาจากวัดจุกกระเฌอ



สีผึ้งมหาเสน่ห์หลวงพ่อเริ่ม
บูชา ๕๕๐ บาท

ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Thumbnails</LEGEND> </FIELDSET>

 

รายการที่ 211 ตะกรุดสามห่วงหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม



ปฐมบท
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พระเกจิในอดีตผู้สร้างกุมารทองโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาสร้างกุมารทองแก่ศิษย์เอก คือหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเต๋ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิจอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครปฐม ต่อมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติ่มกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปรมาจารย์บรมครูผู้สร้างกุมารทอง หลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบ เช่น พิรอดแขน ตะกรุดสามห่วง ตะกรุดหน้าผากเสือ ผ้ายันต์ ปลาตะเพียนเงิน-ทอง ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา สีผึ้ง และกุมารทอง ฯลฯ แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
ตะกรุดสามห่วง
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้ คือ กุมารทอง ส่วนตะกรุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตะกรุดสามห่วง เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ตะกรุดมหารูด ในยุคแรกจะสร้างด้วย ตะกั่ว หรืออลูมีเนียม เงิน ทองแดง ขึ้นอยู่กับวัสดุของผู้ที่ต้องการนำมาให้ท่านสร้าง ตีแผ่เป็นแผ่นแล้วลงจารอักขระ ปลุกเสกแล้วม้วนเป็นตะกรุด ประมาณ 4-5 ชั้น ยุคต่อมาใช้ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ลงจารอักขระ นำมาม้วนด้วยก้านตาล เมื่อนำไปปลุกเสกแล้วจึงนำมาถักด้วยเชือกกระสอบ ทายางไม้หรือทารัก ซึ่งแล้วแต่จะหาวัสดุได้ ยุคสุดท้ายจะถักด้วยเชือกไนล่อน ใช้หนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือ หรือใช้ผ้าแดงและผ้าขาว ถักเชือกสามหู เป็นที่มา "ตะกรุดผ้าแดง" เล่ากันว่า ตี๋ใหญ่ใช้ติดตัวด้วย สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกตะกรุดสามห่วง คนที่ได้ไปจะต้องลองยิงก่อนที่แถวหลังวัด เมื่อแน่ใจแล้วจึงนำไปแขวน สำหรับตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนแบบไหน ใช้ได้ทั้งนั้นสุดยอด ตะกรุดสามห่วง มีประสบการณ์มากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีสมญานามเป็น "เจ้าตำหรับตะกรุดสามห่วง"
พุทธคุณ
เด่นทางด้าน มหาอุต คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย กันคุณไสย กันภูตผีปีศาจ และ เมตตามหานิยม
คาถาปลุกตะกรุด 3 ห่วง
ตั้ง นะโม 3 จบ อุทธัง อัทโธ ปัดนะ นะโมพุทธายะ นะแคล้ว โมคลาด พุทธปัด ธาปิด ยะมิถูก นะสันตะรันโตผิด โสอิกะวิติภา

วิธีการใช้ตะกรุด
เป็นมหารูด 1.เวลาสู้ ให้รูดตะกรุดไว้ด้านหน้า
2.เวลาหนี ให้รูดตะกรุดอยู่ด้านหลัง
3.ใช้เป็นเมตตาหาผู้หญิง ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างซ้าย
4.ใช้เป็นเมตตาหาเจ้านาย ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างขวา



ตะกรุดสามห่วง
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
บูชา ๓๕๐๐ บาท

ปิดรายการ
โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

แจ้งโอนเงินครับ 3 รายการ 4200 บาทครับ...

 

ของสวยๆ ทั้งนั้น..
คราวหน้าคงได้เป็นลูกค้าอีกแน่เลย

 

ขออนุญาติถามครับ ไม่ทราบต้องเลี้ยงต้องดู ต้องเซ่นอะไรเป็นพิเศษ หรือเปล่าครับ

 

รายการที่ 212 ตะกรุดยุคต้น หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม



ปฐมบท
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม พระเกจิในอดีตผู้สร้างกุมารทองโด่งดังมีชื่อเสียงมากที่สุด มีราคาแพงที่สุดในประเทศไทย ผู้เป็นอาจารย์ถ่ายทอดวิชาสร้างกุมารทองแก่ศิษย์เอก คือหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม หลวงพ่อเต๋ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก พระเกจิจอมขมังเวทย์แห่งเมืองนครปฐม ต่อมาศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติ่มกับ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง ปรมาจารย์บรมครูผู้สร้างกุมารทอง หลวงพ่อเต๋ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้หลายรูปแบบ เช่น พิรอดแขน ตะกรุดสามห่วง ตะกรุดหน้าผากเสือ ผ้ายันต์ ปลาตะเพียนเงิน-ทอง ตะกรุดโทน ตะกรุดสาลิกา สีผึ้ง และกุมารทอง ฯลฯ แต่ละอย่างล้วนมีอภินิหารเป็นที่ประจักษ์และเล่าขานกันมาทุกวันนี้
ตะกรุดยุคต้น
วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียงให้ท่านจนทุกวันนี้ คือ กุมารทอง ส่วนตะกรุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ ตะกรุดสามห่วง เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า ตะกรุดมหารูด ในยุคต้นจะสร้างด้วย ตะกั่ว หรืออลูมีเนียม เงิน ทองแดง ขึ้นอยู่กับวัสดุของผู้ที่ต้องการนำมาให้ท่านสร้าง ตีแผ่เป็นแผ่นแล้วลงจารอักขระ ปลุกเสกแล้วม้วนเป็นตะกรุด ประมาณ 4-5 ชั้น ยุคต่อมาใช้ กระดาษถุงปูนซีเมนต์ลงจารอักขระ นำมาม้วนด้วยก้านตาล เมื่อนำไปปลุกเสกแล้วจึงนำมาถักด้วยเชือกกระสอบ ทายางไม้หรือทารัก ซึ่งแล้วแต่จะหาวัสดุได้ ยุคสุดท้ายจะถักด้วยเชือกไนล่อน ใช้หนังหน้าผากเสือหรือหนังเสือ หรือใช้ผ้าแดงและผ้าขาว ถักเชือกสามหู เป็นที่มา "ตะกรุดผ้าแดง" เล่ากันว่า ตี๋ใหญ่ใช้ติดตัวด้วย สมัยนั้นคนที่ได้รับแจกตะกรุดสามห่วง คนที่ได้ไปจะต้องลองยิงก่อนที่แถวหลังวัด เมื่อแน่ใจแล้วจึงนำไปแขวน สำหรับตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ไม่ว่าจะเป็นยุคไหนแบบไหน ใช้ได้ทั้งนั้นสุดยอด ตะกรุดสามห่วง มีประสบการณ์มากมาย ทำให้ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง จนมีสมญานามเป็น "เจ้าตำหรับตะกรุดสามห่วง"
พุทธคุณ
เด่นทางด้าน มหาอุต คงกระพันชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย กันคุณไสย กันภูตผีปีศาจ และ เมตตามหานิยม
คาถาปลุกตะกรุด
ตั้ง นะโม 3 จบ อุทธัง อัทโธ ปัดนะ นะโมพุทธายะ นะแคล้ว โมคลาด พุทธปัด ธาปิด ยะมิถูก นะสันตะรันโตผิด โสอิกะวิติภา

วิธีการใช้ตะกรุด
เป็นมหารูด 1.เวลาสู้ ให้รูดตะกรุดไว้ด้านหน้า
2.เวลาหนี ให้รูดตะกรุดอยู่ด้านหลัง
3.ใช้เป็นเมตตาหาผู้หญิง ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างซ้าย
4.ใช้เป็นเมตตาหาเจ้านาย ให้รูดตะกรุดอยู่ข้างขวา

ตะกรุดหลวงพ่อเต๋ ยาว 4 นิ้ว ดอกนี้เป็นยุคต้น ม้วนด้วยแผ่นโลหะตะกั่ว ไม่ได้ถักหูเป็นสามห่วง เจ้าของเดิมเก็บรักษาอย่างดีไม่ได้ใช้เลย ถักเชือกหุ้มอีกชั้น ผิ้วหิ้ง ลงรักแดง สภาพสวย


ตะกรุดยุคต้น
หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
บูชา ๓๕๐๐ บาท
ปิดรายการ


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 213 พระสมเด็จพิมพ์พุทธกวัก หลวงพ่อทาบ



เจ้าตำรับสีผึ้งอันดับ๑
หลวงพ่อทาบ เจ้าตำรับสีผึ้งเขียวมรกต อันดับ๑ ของเมืองไทย ท่านเป็นสหธรรมิกและศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงปู่ทิม ท่านได้สร้างพระเครื่องมากมายหลายพิมพ์ และจะนิมนต์หลวงปู่ทิมมาปลุกเสกทุกครั้ง
ประวัติการสร้าง
สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2505 โดยอาจารย์ปถม อาจสาคร เป็นผู้แนะนำ การตำ คลุกเค้าผงและกดพิมพ์พระ

มวลสารส่วนผสม
1.ผงวิเศษเก่าหลวงพ่อทาบ
2.สีผึ้งเขียวเกี่ยวสาวหลวงพ่อทาบ
3.ผงปถมัง ผงอิทธิเจ ของอาจารย์ปถม อาจสาคร
4.ผงถ่านคัมภีร์ใบลานโบราณเก่าของหลวงพ่อทาบ
5.ผงวิเศษของหลวงพ่อบุญมี วัดโพธิสัมพันธ์ อ.ศรีราชา ชลบุรี
6.ผงดินมงคลของหลวงพ่อทาบ
7.ผงโยคีฮาเล็บ วัดสารนาถ อ.แกลง
ปลุกเสกครั้งที่ 1
หลวงพ่อทาบปลุกเสกเดี่ยว 1 พรรษาเต็ม
ปลุกเสกครั้งที่ 2
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่นั่งปรกปลุกเสก ณ วัดกระบกขึ้นผึ้ง
1.หลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่ รับนิมนต์เป็นประธานพิธี
2.หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
3.หลวงพ่อเย็น วัดบ้านแลง
4.หลวงพ่อลัด วัดหนองกระบอก
พระเกจิอาจารย์ได้เข้าสมาธินั่งปรกปลุกเสกตั้งแต่ 18.00 น. ถึงประมาณ 02.00 น. ของวันใหม่ โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่หลวงปู่ทิมอิสริโก รับนิมนต์มาปลุกเสกนอกวัดละหารไร่ และท่านได้นั่งปรกปลุกเสกรวดเดียว 8 ชั่วโมง โดยไม่หยุดพักฉันน้ำชา (ปกติจะลั่นฆ้องทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้พระคุณเจ้าได้ถอนสมาธิพักผ่อนอิริยาบถและฉันน้ำชาประมาณ 30 นาที)

เกิดอัศจรรย์ในพิธี กระปุกสีผึ้งที่หลวงปู่ทิมปลุกเสกเกิดเสียงปะทุระเบิด ด้วยพลังจิตของหลวงปู่ทิมจนเป็นที่กล่าวขวัญเล่าลือ
พุทธคุณ
ครบทุกด้านสุดยอดเสน่ห์เมตตามหานิยม แคล้วคลาดและโชคลาภค้าขาย
.
ประสบการณ์
ในงานวัดกระบกขึ้นผึ้ง เรื่องตีรันฟันแทงมีขึ้นเป็นประจำทุกงาน บรรดา หนุ่มในหมู่บ้านหลายแห่งได้มาพบกันในงานวัด และต่างก็ได้รับแจกพระเครื่องผงดำไปคนละองค์สององค์ ก็มีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นจนได้มีการเขม่นและเกิดตีรันฟันแทงกันขึ้น แต่ก็ไม่ปรากฏว่ามีใครเลือดตกยางออกเลย ด้วยเหตุนี้พระเครื่องส่วนที่นำออกไว้แจกจึงหมดไปในเวลาไม่นาน และพระเครื่องชุดนั้นก็ดังระเบิด รายต่อมาสามล้อระยอง กำลังปั่นซาเล้งอยู่กลางถนน เสาไฟฟ้าเกิดหักลงเกือบจะทับรถ ซึ่งแล่นมาพอดี คนขับไม่เป็นอะไรเพราะในตัวมีพระผงซึ่งได้รับแจกมาจากหลวงพ่อทาบเพียงองค์ เดียว เรื่องนี้ดังมากในตลาดยุคนั้น
.
ด้านเมตตามหานิยม
มีคนง่อยอยู่ใกล้วัดกระบกขึ้นผึ้งคนหนึ่ง นับถือหลวงพ่อทาบ และได้รับพระผงพิมพ์พระปิดตาไว้องค์หนึ่ง หลวงพ่อทาบสั่งว่าถ้าใช้ด้วยความศรัทธาและมั่นใจก็จะสัมฤทธิ์ผลทุกอย่าง ชายง่อยผู้นี้เป็นคนง่อยประเภทโด่ไม่รู้ล้ม มีภรรยาถึง ๖ คน ทุกคนอยู่กับชายง่อยด้วยความสามัคคี ไม่มีเรื่องทะเลาะกัน จนเป็นที่อิจฉาของเพื่อนบ้าน จนเป็นที่กล่าวขวัญและเล่าลือกันทั่วไปกิตติศัพท์เรื่องนี้โด่งดังไปทั่วเมืองระยอง

มีหญิงคนหนึ่งชื่อ นางไม้ ใจกล้า อยู่บ้านหนองคอกหมู อ.บ้านค่าย ได้ออกไปเก็บผักเก็บหญ้ากลางทุ่ง ขณะนั้นฝนตกกำลังพรำ ๆ ฟ้าได้ผ่าถูกต้องนางไม้สลบที่ เสื้อผ้าที่สวมใส่ไหม้ไฟ สร้อยเงินที่ห้อยคอละลาย แต่พระพิมพ์หลวงพ่อทาบยังอยู่ปกติ ผู้ที่มาช่วยปฐมพยาบาลร่างอันสลบไสลของนางไม้ต่างก็ตกตะลึงไปตาม ๆ กัน อิทธิปาฏิหาริย์หลายรูปแบบของพระเครื่องหลวงพ่อทาบมีมากมายหลายเรื่องในยุค นั้น

สำคัญที่สุด
พระผงมหาโสฬส มีการสร้างหลายพิมพ์ พิมพ์พระปิดตามหาโสฬส ปัจจุบันทะลุหลักหลายหมื่น แต่พระสมเด็จพิมพ์พุทธกวัก สร้างและปลุกเสกในพิธีเดียวกันพุทธคุณไม่แตกต่างกัน ราคายังพอเช่าหาได้

อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่
http://uauction.uamulet.com/AuctionD...=298&qid=14426

พระสมเด็จพิมพ์พุทธกวัก
บูชา 1300 บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

ได้รับเรียบร้อย ขอบคุณมากครับ

 

รายการนี้ ถ้าผู้จองคนเดิมยกเลิก ขอสิทธิ์จองต่อนะครับ แจงทางPM ก็ได้นะครับ
ขอบคุณครับ

 

รับของแล้ว..ขอบคุณครับ

 

รายการที่ 214 พระปิดตาหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงก
ปฐมบท
หลวงพ่อขริก ท่านเป็นบรมครูพระเกจิอาจารย์ยุคเก่าผู้เรืองเวทย์วิทยาคมแห่งภาคตะวันออก เป็นพระอาจารย์ผู้ประสิทธิประสาทวิชาการสร้างปลัดขิกแก่ีหลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก ท่านมีชื่อเสียงในการสร้างปลัดขิกและพระปิดตา ศิลป์เป็นเอกลักษณ์ วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นปลัดขิกหรือพระปิดตาล้วนที่หายากมากในยุคปัจจุบันนี้

พระปิดตาหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงก ปลุกเสกโดยอาศัยฤกษ์ยาม พุทธานุภาพของพระปิดตาหลวงพ่อเหลือ ดีด้านเมตตาค้าขายและโชคลาภ คนรุ่นเก่าเล่าว่า พระปิดตาของท่านดีทางโชคลาภ ค้าขาย เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมอย่างยิ่งสมปรารถนาทุกประการ
พุทธคุณ
เด่นที่สุดทางเสน่ห์เมตตามหานิยม โชคลาภ ค้าขาย และคุ้มครองปกป้องภัยอันตราย

พระปิดตาองค์นี้ ใต้ฐานพระมีรอยจารอักขรลายมืิหลวงพ่อขริก ศิลป์มาตราฐานนิยม


พระปิดตาหลวงพ่อขริก วัดสาวชะโงก

ราคาพิเศษ ๔๐๐๐ บาท
ปิดรายการ


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 215 แหวนพิรอดเก้ายอด หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด


หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด

จอมขมังเวทย์
พระเกจิอาจารย์ยุคโบราณ จอมขมังเวทย์วิทยาคมสุดยอดอาคม เข้มขลัง ชื่อเสียงโด่งดังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ท่านเก่งกล้าวิชาอาคมตั้งแต่เป็นฆราวาส เคยเป็นเสือเก่าแต่กลับตัวกลับใจมาบวชเป็นพระ ในสมัยนั้นไม่มีใครสามารถปราบเสือหรุ่นลงได้ ท่านมีวิชาผูกหุ่นลวงให้เจ้าหน้าที่ยิงและจับมานับครั้งไม่ถ้วน ท่านสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ทุกครั้ง ในเวลาต่อมาได้กลับใจเป็นคนดีเข้ามาช่วยราชการ จนได้รับพระราชทานยศเป็น ขุนกาวิจลใจภารา ต่อมาท่านออกจากราชการมาบวชพระ จนท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาสักยันต์เก้ายอด จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิสิทธิ์หนังเหนียวยิงฟันแทงไม่เข้า ในสมัยนั้นในวงการนักเลงคนจริง ไม่มีใครไม่รู้จัก "นักเลงเก้ายอด"

วัตถุมงคล
ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเพียงไม่กี่ชนิด อาทิ เช่น
1.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์
2.ตะกรุดโทน
3.ตะกรุดกระดูกห่านและกระดูกแร้ง
4.แหวนพิรอดนิ้ว 9 ยอด
5.สักยันต์เก้ายอด
พระเกจิใหญ่แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
หลวงพ่อหรุ่น ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกะพร้อม ท่านมีชื่อเสียงยันต์เก้ายอดจนเป็นที่เลื่องลือทั่วเมืองไทย วิชาสุดยอดอีกอย่างหนึ่งของท่าน คือ ตะกรุดกระดูกห่าน ที่เป็นโด่งดังไม่แพ้ใคร
พุทธคุณ
แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี มหาอุตม์ เมตตามหานิยม




แหวนพิรอดเก้ายอด
หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด
บูชา ๓๕๐๐ บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 216 ตะกรุดมงกุฏพระพุทธเจ้า หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง



ปฐมบท
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ท่านเป็นพระเถราจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังองค์หนึ่งในยุครัตนโกสินทร์ เหรียญที่ท่านสร้างมีค่านิยมสูงสุดเป็นอันดับ 1 ของเมืองไทย ตามประวัติท่านได้ศึกษาวิปัสสนาธุระ และพุทธาคม กับหลวงปู่รอด วัดนายโรง ปรมาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดในการสร้างเบี๊ยแก้และหมากทุย ซึ่งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ของท่านเอง

เดินบนใบบัว

ได้เล่ากันต่อๆ มาว่า ในสมัยที่หลวงปู่เอี่ยมยังเป็นสามเณร ในครั้งนั้นหลวงปู่รอดได้เดินธุดงค์โดยมีสามเณรร่วมเดินทางไปด้วย ถึง จ.กาญจนบุรี ข้างหน้าภูมิประเทศเป็นบึงใหญ่ขวางหน้าอยู่ ส่วนด้านข้างเป็นภูเขาสูงชันมากยากแก่การปีนข้าม หลวงปู่รอดบอกกับสามเณรว่า เมื่อท่านเดินก้าวลงใบบัวในหนองน้ำ ถึงฝั่งตรงข้ามให้เณรคอยก้าวตาม เหยียบทับรอยเท้าของท่านบนใบบัวแต่ละใบอย่าให้พลาดได้ ท่านจึงบอกคาถาให้บริกรรมขณะที่จะก้าวเดิน ท่านเจริญอาโปกสิณอยู่ครู่หนึ่ง ท่านได้ก้าวเดินบนใบบัวทีละก้าว ส่วนสามเณรก้าวตามไปพร้อมด้วยบริกรรมคาถา ผ่านท้องน้ำอันเวิ้งว้างไปโดยตลอด สามเณรเห็นว่า ใบบัวก้าวสุดท้ายของหลวงปู่รอด ก่อนที่ท่านจะก้าวขึ้นฝั่งนั้น เป็นใบบัวที่เล็กมากและอยู่เกือบชิดตลิ่งแล้ว จึงไม่เหยียบตามหลวงปู่รอดไปจะสืบเท้าก้าวขึ้นฝั่งเลยที่เดียว แต่ไม่สำเร็จ เพราะใบบัวที่เท้าหลังเหยียบอยู่ยุบตัวลงเสียก่อน เณรจึงตกลงไปในน้ำ หลวงปู่รอดหันมาดูได้แต่หัวเราะและกล่าวขึ้น บอกให้เดินตาม ทุกก้าวไปก็ไม่ยอมเดิน ถ้าเป็นกลางบึงคงสนุกใหญ่
ศิษย์มีครู
หลวงปู่เอี่ยมท่านถอดแบบอย่างมาจากองค์หลวงปู่รอดผู้เป็นพระอาจารย์ิ หลวงปู่รอดเก่งอย่างไร หลวงปู่เอี่ยมก็เก่งอย่างนั้น ท่านพระเถระผู้กอปรด้วยศีลาจริยาวัตรอันงดงาม เป็นที่เคารพสักการะแด่ชนทั้งหลายโดยทั่วไป แม้แต่องค์พระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ 5 พระองค์ทรงเคารพนับถือในส่วนพระองค์เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย
ผู้ถวายคำพยากรณ์ แด่ ร.๕
เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์เข้านมัสการหลวงปู่เอี่ยม เพื่อขอรับการพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าในการเสด็จประพาสยุโรป หลวงปู่ได้กราบทูลความถวายว่า

"มหาบพิตร การเสด็จพระราชดำเนินสู่ยุโรปครั้งนี้ จะต้องประสบภัยสองครั้ง ครั้งแรกในทะเลที่วังวน อาตมาจะถวายผ้ายันต์พิเศษและคาถากำกับ เมื่อเข้าที่คับขันขอให้ทรงเสด็จไปยืนที่หัวเรือ แล้วภาวนาคาถากำกับผ้ายันต์แล้วโบกผ้านั้น จะเกิดลมมหาวาตะพัดให้เรือหลุดจากการเข้าสู่วังวนได้

ภัยครั้งที่สองเกิดจากสัตว์จตุบท (สี่เท้า) คืออัศดรชาติอันดุร้ายที่ฝ่ายตรงข้ามจะทดลองพระองค์อาตมาจะถวายคาถาพิเศษ สำหรับภาวนาเวลาถอนหญ้าให้อัศดรอันดุร้ายนั้นกิน จะคลายพยศและสามารถประทับบังคับให้ทำตามพระราชหฤทัยได้เหมือนม้าเชื่อง"
.
พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า
คาถาเสกหญ้าให้ม้ากินที่หลวงปู่เอี่ยมถวายนั้น คือ "คาถาอิติปิโสเรือนเตี้ย" หรือ "มงกุฎพระพุทธเจ้า" มีตัวคาถาว่า
"อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธะนาเมอิ อิเมนา พุทธะตังโสอิ อิโสตังพุทธะปิติอิ"

แท้ ดูง่าย ทองแดงและเชือกเก่า ความยาว 4.5 นิ้ว ปัจจุบันเหรียญหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง ราคาหลักล้าน ใช้ตะกรุดแทนเหรียญได้เลยแถมราคาสบายกระเป๋า




ตะกรุดมงกุฏพระพุทธเจ้า
หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง
ราคาพิเศษ ๖๖๐๐ บาท
ปิดรายการ


โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 217 ตะกรุดกระดูกห่าน หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด


หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด

จอมขมังเวทย์
พระเกจิอาจารย์ยุคโบราณ จอมขมังเวทย์วิทยาคมสุดยอดอาคม เข้มขลัง ชื่อเสียงโด่งดังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 ท่านเก่งกล้าวิชาอาคมตั้งแต่เป็นฆราวาส เคยเป็นเสือเก่าแต่กลับตัวกลับใจมาบวชเป็นพระ ในสมัยนั้นไม่มีใครสามารถปราบเสือหรุ่นลงได้ ท่านมีวิชาผูกหุ่นลวงให้เจ้าหน้าที่ยิงและจับมานับครั้งไม่ถ้วน ท่านสามารถหลบหนีจากเงื้อมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้ทุกครั้ง ในเวลาต่อมาได้กลับใจเป็นคนดีเข้ามาช่วยราชการ จนได้รับพระราชทานยศเป็น ขุนกาวิจลใจภารา ต่อมาท่านออกจากราชการมาบวชพระ จนท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง มีลูกศิษย์ลูกหามากมาสักยันต์เก้ายอด จนเป็นที่กล่าวขานถึงความศักดิสิทธิ์หนังเหนียวยิงฟันแทงไม่เข้า ในสมัยนั้นในวงการนักเลงคนจริง ไม่มีใครไม่รู้จัก "นักเลงเก้ายอด"

วัตถุมงคล
ท่านได้สร้างวัตถุมงคลเพียงไม่กี่ชนิด อาทิ เช่น
1.เหรียญรูปไข่ครึ่งองค์
2.ตะกรุดโทน
3.ตะกรุดกระดูกห่านและกระดูกแร้ง
4.แหวนพิรอดนิ้ว 9 ยอด
5.สักยันต์เก้ายอด
พระเกจิใหญ่แห่งลุ่มน้ำแม่กลอง
หลวงพ่อหรุ่น ท่านเป็นพระอาจารย์องค์หนึ่งของหลวงพ่อคง บางกะพร้อม ท่านมีชื่อเสียงยันต์เก้ายอดจนเป็นที่เลื่องลือทั่วเมืองไทย วิชาสุดยอดอีกอย่างหนึ่งของท่าน คือ ตะกรุดกระดูกห่าน ที่เป็นโด่งดังไม่แพ้ใคร
พุทธคุณ
แคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี มหาอุตม์

ตะกรุดเลี่ยมเงินเก่า มีรอยจารเก่า สภาพแท้ ดูง่าย


ตะกรุดกระดูกห่าน
หลวงพ่อหรุ่น เก้ายอด
บูชา ๓๐๐๐ บาท
ปิดรายการ

โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7

 

รายการที่ 218 สีผึ้งสีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ ปี พศ.2532



ปฐมบท
หลวง พ่อเริ่ม ท่่านเรียนวิชากับพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เึ่ช่น หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างปลัดขิกอันโด่งดัง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างแพะมหาเสน่ห์อันดับ ๑ ของเมืองไทย ผู้เป็นทั้งอาจารย์และเป็นปู่หลวงพ่อเริ่ม
เรียนวิชา
หลวงปู่อ่ำ วัดหนองกระบอก พระเกจิอาจารย์ผู้สร้างแพะมหาเสน่ห์อันดับ ๑ ของเมืองไทย ผู้เป็นทั้งอาจารย์และเป็นปู่ของหลวงพ่อเริ่ม ท่านเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันกับหลวงพ่อทาบและหลวงปู่ทิม หลวงปู่อ่ำได้ถ่ายทอดวิชาฝนแสนห่าและสีผึ้งเจ็ดจันทร์ ซึ่งเป็นวิชาเมตตามหานิยมชั้นสูง แต่ก่อนที่จะสอนวิชาแก่หลวงพ่อเริ่ม ท่า่น ได้ทดสอบสมาธิและความกล้าในความจริงของหลวงพ่อเริ่ม โดยจับมัดมือไพล่หลังคล่อมตออยู่ริมป่าช้าวัดหนองกระบอก โดยให้คาถา ๔ ตัว ภาวนาจนเชือกหลุด หลวงพ่อเริ่มท่านก็สามารถทำได้ หลวงปู่อ่ำจึงยอมรับเอาไว้เป็นศิษย์ถ่ายทอดวิชาดังกล่าว
ศิษย์อาจารย์เดียวกัน
ท่่านเป็นสหธรรมมิกกับหลวงปู่ทิม โดยไปมาหาสู่แลกเปลี่ยนวิชากัน หลวงพ่อเริ่มท่านได้สร้างวัตถุมงคล เช่น เหรียญ พระปิดตา พระกริ่ง และแพะมหาเสน่ห์ ฯลฯ แต่วัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ พระกริ่งปรโม และพระกริ่งฟ้าลั่น มีราคาแพงและค่านิยมสูงรองลงมาจากพระกริ่งชินบัญชรของหลวงปู่ทิม วัดละหารไร่เท่านั้น

สีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา
สีผึ้งเจ็ดจันทรปราคา สร้างจากตำราโบราณ กรรมวิธีการสร้างยากมาก หลวง พ่อเริ่มต้องไปบิณฑบาตสีผึ้งมาจากท่าสำคัญ ๆ 7 ท่า ต้องเป็นท่าเรือ หรือท่ารถ ที่มีผู้คนพลุกพล่านซื้อง่ายขายคล่อง ท่านจะไปบิณฑบาตโดยถามตามร้านค้าว่า โยมมีสีผึ้งขายไหม ? ถ้าเขาตอบว่า มี ท่านจะบอกว่า อาตมาเป็นสงฆ์ไม่มีปัจจัย ขอบิณฑบาตสีผึ้งของโยมสักหน่อยจะได้ไหม เมื่อเขาให้ ท่านจะสัพพีให้ศีลให้พร ทำอย่างนี้จนครบ 7 ท่า ขั้นแรกนำสีผึ้งนั้นมาปั้นเป็นรูปหญิงสาว นำเอา ไปฝังไว้กลางป่าช้าจนครบ ๓ คืน แล้วจึงไปขุดเอามา ก่อนจะไปฝังกลางป่าช้า ต้องเข้าไปนั่งเรียก ยายกะสีตีกะลาและนายป่าช้า จนปรากฏในนิมิต แล้วเอ่ยปากขอฝากฝังหุ่นขี้ผึ้งไว้ เมื่อครบ ๓ วัน ๓ คืน แล้วจึงไปขุดขึ้นมา นำผงผสมกับสีผึ้ง แล้วนำสีผึ้งมากวนกับน้ำมันมะพร้าว โดยให้เด็กสาวพรหมจารีเป็นผู้กวนแล้วเก็บไว้ เมื่อคราวใดที่เกิดจันทรคราส คือ ท่านก็จะเริ่มทำพิธีปลุกเสกตั้งแต่พระราหูเริ่มอมพระจันทร์ จนพระราหูคลายพระจันทร์ รวมแล้วให้ได้ 7 ครั้ง จึงจะถือว่าเสร็จครบตามตำราระหว่างที่พระราหูเข้าอมพระจันทร์นั้น ตามตำราโบราณ ถือว่า เป็นมหานิยมอย่างสูง หลวงพ่อเริ่มท่านกล่าวว่าสีผึ้งท่านสร้างยาก ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 7 ปี จึงสำเร็จ จึงจะสำเร็จครบตามตำรา
ที่สำคััญ ตัวจริง แท้ บูชามาจากวัดจุกกระเฌอ ตอนนี้ผมเหลือแค่ตลับเดียวเท่านั้น



สีผึ้งมหาเสน่ห์หลวงพ่อเริ่ม
บูชา ๕๕๐ บาท

ปิดรายการ
โอนเงินบัญชีออมทรัพย์ นายวิสุทธิ์ วรรณวงษ์ศิริ
ธนาคารกสิกรไทย สาขา สำโรง (ปู่เจ้า)
เลขบัญชี 325-2-61738-7


<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>Attached Thumbnails</LEGEND> </FIELDSET>