พระอาจารย์โต ขอเชิญร่วมสร้างอุโบสถล้านนา สมเด็จองค์ปฐม ประดับทองคำแท้หน้าตัก 4 ศอก

ในห้อง 'พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง' ตั้งกระทู้โดย MayBuddhaBlessYou, 19 มีนาคม 2014.

  1. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  2. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  3. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุุ
     
  4. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  5. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  6. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    วันที่ 5 กรกฎาคม 2557 ได้โอนเงินเข้า
    ธนาคารกรุงไทย สาขาบ่อสร้าง
    บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 553-0-23265-5
    บัญชีชื่อวัดพระบาทปางแฟน

    เพื่อสร้างสมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 4 ศอก พระประธานพระอุโบสถ วัดพระบาทปางแฟน

    จำนวน 200 บาท ครับ
     
  7. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  8. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    คำสอนองค์สมเด็จพระปฐมบรมครู
    ต้นเหตุแห่งทุกข์ ใจเป็นผู้สร้างขึ้นเอง เพราะขาดการสำรวมอินทรีย์ หรืออายตนะทั้งหก อะไรมากระทบหรือสัมผัสเข้าไฟภายในก็ลุก เหมือนกับมีพระอาทิตย์เกิดขึ้นที่ใจ เป็นการเบียดเบียนตนเอง เบียดเบียนผู้อื่น และเป็นทั้งเบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ขาดพรหมวิหาร ๔ อย่างชัดแจ้ง ต้นเหตุจริงก็เพราะลืมการกำหนดรู้ลมหายใจเข้าออกหรือ อานาปานัสสติ ทำให้ขาดสติ - สัมปชัญญะตามลำดับ หากพวกเจ้าใคร่ครวญดีๆ ก็จะพบกรรมทั้งหลายมาแต่เหตุทั้งสิ้น หรือเป็นอริยสัจโดยตรง ทุกอย่างอยู่ที่ความเพียรของพวกเจ้าเอง ตถาคตเป็นเพียงผู้บอก ผู้ชี้แนะเท่านั้น
     
  9. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อานิสงส์การสร้างสมเด็จองค์ปฐม

    หลวงพ่อ “ช่างมาถามเกี่ยวกับลักษณะองค์ปฐม อาตมาบอกสร้างแบบพระพุทธรูปธรรมดา แต่ต้องอ้วนหน่อยนะ คือมีเนื้อมากหน่อย ไม่ใช่อ้วนพุงพลุ้ยนะ และก็เวลาลงไปสอนกรรมฐาน เมื่อเสร็จแล้วเขาก็คุยกันเขาก็ถามปัญหา ถามไปถามมา เขาถามถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐมว่า ถ้าจะสร้างจะมีอานิสงส์ยังไง ลุงสองลุง นายบัญชี กับลุงพุฒิ ท่านมายืนอยู่นานแล้ว ท่านไม่มีโอกาสคุย เพราะอาตมาขึ้นไปคุยกับพระซะ

    ท่านบอกว่า การสร้างองค์ปฐมนี่ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ เอาบัญชีมาให้ดู บอก นี่…บัญชีเล่มนี้ (คือว่าเป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่ที่จดธรรมดา) “บัญชีสีทอง” เป็นทองคำล้วนทั้งเล่มเลย ฉันอยากได้บัญชีเอามาขาย ท่านบอก.. ถ้าสร้างองค์ปฐมลงบัญชีเล่มนี้โดยเฉพาะ ก็แสดงว่าคนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี่ ต้องเป็นคนมีบุญมาก…หรือไง?

    แต่ก็ไม่ได้หมายความต้องเงินมากนะ คือว่าโดยมากเราจะนึกไม่ถึงกันใช่ไหม เรานึกกันถึง พระกกุสันโธ พระโกนาคม พระพุทธกัสสป แต่ยังไม่เคยนึกถึงองค์ปฐม ส่วนใหญ่ไปนึกถึง พระศรีอาริย์ ยังไม่เป็นพระพุทธเจ้า ใช่ไหม นี่องค์นี้เป็นองค์แรก ก็คุยกันแล้ว ท่านบอกว่า การสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมทำได้ยาก คือว่าเป็นพระพุทธเจ้าต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด ใช่ไหม และการทำบุญเนื่องในการสร้างวิหารก็ดี สถานที่ก็ดี เอาของไปประดับก็ตาม ทีนี้อย่างคนมีเงินน้อย ๆ ใช่ไหม ก็มีสตางค์ไม่มาก เอาสตางค์ 9 สตางค์ 10 สตางค์ ไปใส่แท่น อย่างนี้ลงบัญชีสีทองหมด

    คือไม่หมายความต้องมีเงินมากเสมอไปนะ ที่เขามีน้อยๆ บาทสองบาท 10 สตางค์ 20 สตางค์ พวกนี้เอาไปใส่แท่นอย่างนี้ลงบัญชีทองหมด...

    ก็ถามว่า บัญชีสีทองหมายถึงอะไร ท่านบอก มันหมายถึงกลับไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าทุกองค์ต้องโมทนา หมด”

    ผู้ถาม : “หลวงพ่อครับ การหล่อองค์ปฐมด้วยทองคำนี่อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือว่าจะแตกต่างกันอย่างไรครับ ถ้าเป็นทองคำเหมือนกัน?”

    หลวงพ่อ : “ก็มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้า บัญชีสีทอง ไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น”

    ผู้ถาม : “หมายถึงเป็นเจ้าภาพหล่อองค์ปฐมนี่หรือครับ?”

    หลวงพ่อ : “ใช่ ๆ ๆ จะทองคำก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม…เหมือนกันลงบัญชีเล่มเดียวกัน”


    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป

    คำสอนของท่านหลวงพ่อฤาษีลิงดำ(พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี(เกี่ยวกับอานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป)

    การสร้างพระพุทธรูปจัดว่าเป็น พุทธบูชา ถ้าในกรรมฐานจัดว่าเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน (การระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์) ถ้าตายจากคนไปเกิดเป็นเทวดา มีรัศมีกายสว่างไสวมาก การสร้างพระถวายด้วยอำนาจพุทธบูชาทำให้มีรัศมีกายมากเป็นคนสวย ตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    "พุทธะปูชา มะหาเตชะวันโต" แปลว่า "การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชอำนาจมาก"

    การสร้างพระพุทธรูปนี่เป็นพุทธบูชาเป็นพุทธานุสสติในกรรมฐาน ๔๐ กอง ท่านบอกว่ากำลังของพุทธานุสสติเป็นเหตุให้เข้าถึงนิพพานได้ง่ายที่สุด ง่ายกว่ากองอื่นก็เห็นจะจริง เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านอยู่ที่นิพพานนี่ และท่านก็เป็นต้นตระกูลของพระนิพพาน ทีนี้เมื่อเราต้องการสร้างพระพุทธรูปให้สวยตามที่เราชอบเห็นแล้วก็ทำให้จิตใจสดชื่น จิตมันก็นึกถึงพระอยู่เสมอ ถ้าจิตนึกถึงพระพุทธรูปองค์นั้นอยู่เสมอก็จัดเป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน

    ถ้าใจเราเกาะพระพุทธเจ้าเป็นปกติ ตายแล้วลงนรกไม่เป็น ฉะนั้นถ้าเราชอบพระแบบไหนปางไหน ก็ให้สร้างอย่างที่เราชอบจิตจะได้เกิดศรัทธา หลวงพ่อปานวัดบางนมโคแนะนำว่าควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันออกหรือทิศเหนือ ไม่ควรหันหน้าพระบูชาไปทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ เพราะจะทำให้สตางค์ไม่เหลือใช้

    ส่วนอานิสงส์การสร้างแท่นพระนั้น ก็มีอานิสงส์เหมือนกับการสร้างพระพุทธรูป คือแท่นพระพุทธรูปเขาบกพร่องอยู่ เราทำให้เต็ม อย่างที่นางวิสาขาหรือพระสิวลีได้เคยทำมาในอดีตชาติ อานิสงส์ไม่ใช่เล็กน้อยนะ อานิสงส์ใหญ่มาก จะเกื้อหนุนให้รวย วาสนาบารมีสูง การสร้างแท่นพระหนุนพระพุทธรูป ซึ่งเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าให้สูงน่ะ จะทำให้ฐานะของเราดีขึ้น

    ครั้งหนึ่งมีญาติโยมถามหลวงพ่อฤาษีลิงดำเรื่องการชำระหนี้สงฆ์ว่าถ้าหากนับรวมหลาย ๆ ชาติเราไม่รู้ว่าเคยล่วงเกินของสงฆ์มามากน้อยเท่าไหร่ จะทำอย่างไรจึงจะชำระหนี้สงฆ์ได้หมด หลวงพ่อท่านกำหนดสมาธิจิตถามพระพุทธเจ้า ก็ปรากฏนิมิตเป็นพระพุทธเจ้าลอยมาตอบคำถามท่านว่า "ถ้าจะชำระให้ครบถ้วนเป็นเงินเท่าไหร่ก็ไม่พอ ให้สร้างพระพุทธรูปหน้าตัก ๔ ศอก" พระหน้าตัก ๔ ศอก ถือว่าเป็นพระประธานมาตรฐาน ท่านบอกว่า "พระพุทธรูปนี่ไม่มีใครตีราคาได้ ใช้ในการชำระหนี้สงฆ์ หนี้สงฆ์ที่แล้ว ๆ มา ถือเป็นการหมดกันไป"

    เมื่อถามว่าการสร้างพระองค์หนึ่งชำระหนี้สงฆ์ได้คนเดียวหรือกี่คน ท่านก็บอกว่า "ถ้าไม่ปิดทองได้คนเดียว ถ้าปิดทองครบถ้วนได้ทั้งคณะ" คำว่า "คณะ" หมายความว่าบุคคลหลายคนก็ได้ ตัดบาปเก่าชำระหนี้สงฆ์เก่า ๆ ได้หมด แต่ถ้าสร้างหนี้ใหม่ต่อก็เป็นหนี้ใหม่เหมือนกันนะ เวลาถวายสังฆทานเพื่ออุทิศให้แก่ผู้ตาย อย่างน้อยควรมีพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง ๕ นิ้วขึ้นไป ผู้ที่อนุโมทนารับบุญรับกุศลจะมีรัศมีกายสว่างมาก เพราะเทวดาหรือพรหมเขาแบ่งฐานะกันตามความสว่างของร่างกาย ไม่ได้ดูที่เครื่องแต่งตัว ถ้ามีผ้าจีวรด้วย ผู้อนุโมทนาจะมีเครื่องประดับสวยงามกว่าเดิม ถ้ามีอาหารด้วย ความเป็นทิพย์ของร่างกายจะดีกว่าเก่า

    อานิสงส์การสร้างพระพุทธรูป นำมาจากหนังสือ "หลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม ๑" โดยพระราชพรหมยาน วัดจันทาราม (ท่าซุง) อ.เมือง จ.อุทัยธานี จัดทำโดย เจ้าหน้าที่ธัมมวิโมกข์

    หลวงพ่อตอบ:

    1) สร้างพระ 1 องค์ ได้อานิสงส์ 5 กัปป์ ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ สร้างด้วยอะไรก็ตาม หมายความว่าบุญกุศลจะตามหนุนส่งท่านไปทุกภพทุกชาตินานถึง 5 กัปป์........(หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ)....

    2) หลวงพ่อฤาษีลิงดำ กล่าวว่า"การสร้างสมเด็จองค์ปฐมทำได้ยาก คือ ว่าเป็นพระพุทธเจ้าองค์ต้นพระพุทธเจ้าทั้งหมด การสร้างองค์ปฐมนี้ ท่านเปลี่ยนบัญชีใหม่ โดยใช้บัญชีสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม จดบันทึก(เป็นอีกเล่มหนึ่งจากที่จดธรรมดา) ก็แสดงว่า คนที่จะสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมได้นี้ ต้องเป็นคนมีบุญมาก และไปนิพพานได้เร็วมาก" เพราะบัญชีสีทอง หลวงพ่อฯบอกว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ต้องโมทนาหมด......

    3) ผู้ใดสร้างรูปพระพุทธเจ้า จะเป็นองค์เล็กเท่าต้นคาก็ดี ใหญ่กว่าต้นคาก็ดี ผู้นั้นจะได้เป็นพรหม เป็นพระอินทร์ หมื่นชาติแสนชาติ ถ้าเป็นมนุษย์ จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิหมื่นชาติ แสนชาติ จะไม่เป็นผู้ตกต่ำเลย ตราบจนกว่าเข้าสู่นิพพาน (หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว)......

    4) การสร้างพระ เปรียบได้กับธนาคารบุญ ซึ่งจะเกิดบุญกุศลกับผู้ที่มีส่วนในการสร้าง โดยบุญกุศลนั้น จะเกิดขึ้นทุกครั้ง ที่มีผู้มากราบไหว้ สักการะบูชา เท่ากับจำนวนคน และจำนวนครั้ง (หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา).......

    5) การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทาน ในงานฉลองพระพุทธรูปได้ ชื่อว่าเป็นผู้มี "ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม)
     
  10. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    พระพุทธคาถา[แก้ไข]
    สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ

    สวดทุกคืน คืนละ 7 จบ
    "อานุภาพคาถามีดังนี้

    ศัตรูจะพินาศไปเองเมื่อคิดประทุษร้าย
    จะเกิดผลในด้านมงคลทุกประการตามที่ปรารถนา
    จะสามารถเห็นได้แจ่มแจ้งด้วยญาณ เห็นได้ชัดเจนทุกประการ และทุกขณะที่ประสงค์จะเห็น
    เป่าให้ศิษย์ผู้เรียนทิพยจักขุญาณ และเรียนไปปรโลกได้ มีญาณเครื่องเห็นแจ่มใส
    ==คาถาพระปัจเจกพระพุทธเจ้า== ตั้งนะโมฯ 3 จบก่อนแล้ว นมัสการ ไตรสรณคมณ์ (พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆังสรณัง คัจฉามิ) แล้วให้สมาทานศีล 5 (ปาณา ฯลฯ สุราเมระยะฯ )หรือ ศีล 8 แล้วจึงท่อง สัมปะจิตฉามิ นาสังสิโม พรหมมา จะมหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ พรหมมาจะมหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุเม มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุเม มิเตพาหุหะติ พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม สัมปะติจฉามิ เพ็งๆ พาๆ หาๆ ฤาๆ สวดเช้าเย็น ครั้งละ 9 จบ จะทำให้มีความคล่องตัวในความเป็นอยู่ เงินไม่ขาดมือ หลวงพ่อบอกอีกว่า เป็นเบี้ยต่อไส้ ถ้าภาวนาควบกับอาปาฯ จิตยิ่งสะอาดยิ่งเห็นผล ....

    คาถาอภิญญารวม[แก้ไข]
    โสตัตตะภิญญา

    คาถารวมจิต[แก้ไข]
    อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ มะมะ จิตตัง

    คาถาปราโมทย์[แก้ไข]
    ปราโมทย์ ทำให้มีนิมิตที่เห็นชัด ในเวลาที่เรานั่งสมาธิ

    คาถาพระนิพพานนิมิต[แก้ไข]
    นิมิตจิตติ นิมิตจิตตา นิพพานจิตติ นิพพานจิตตา

    คาถาขีณาสวานิยตา และนิพพานสุขัง[แก้ไข]
    ขีณาสวานิยตา และนิพพานสุขัง

    คาถาเรียกจิตคน[แก้ไข]
    จิตตะ มหาจิตตัง ปิยัง มะมะ (เรียกจิตคนสำหรับเทศน์ อบรม สนทนา ทำให้ใจคนน้อมมาหา)

    คาถาสนองกลับผู้กระทำไสยศาสตร์[แก้ไข]
    สัมปจิตฉามิ

    คาถาป้องกันคุณไสย และกันยาพิษ ยาสั่ง[แก้ไข]
    เมสัมมุขา สัพพาหะระติ เตสัมมุขา สัมปะจิตฉามิ

    คาถากำบังตัว[แก้ไข]
    สัมปะติจฉามิ

    คาถากันฟ้าผ่า[แก้ไข]
    อากาเสจะ พุทธทิปังกะโร นะโมพุทธามะ

    คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป[แก้ไข]
    ๑ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ ๒ พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ ๓ ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ

    หลวงพ่อบอกคาถาบทนี้ เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๒๐ คาถาบทนี้ ท้าวเวสสุวัณให้มา ท่านบอกว่าให้สวดมนต์ไว้ทุกคืน ก่อนอื่นให้ระลักถึงบารมีของพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ อันมีสมเด็จพระพุทธกัสสปทรงเป็นประธาน เพราะท่านเป็นเจ้าของถาถานี้

    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ

    พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ

    ในบรรทัดที่ ๒ นี้รักษาโรค ท่านบอกว่าเสกน้ำให้กิน เสกอะไรให้กิน เสกข้าวให้กินก็ได้นะ แม้แต่ยาพิษมันก็สลายตัว อีกบทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน

    ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานา

    ทั้งสามบทนี้ท่านให้สวดพร้อมกันเลย เวลาฉันข้าวก็เสก กลางคืนก็ให้ภาวนาไว้นะ ภาวนาไว้สักครู เช้าเย็นอะไรนี่นะ ท่านบอกว่าศัตรูจะพินาศไปเอง สำหรับบทหลังศัตรูทำอะไรไม่ได้ จะทำอะไรแล้วเราจะต้องรู้อยู่เสมอ บทกลางนะทำลายโรค ได้ทำลายโรคนี่ดีใช่ไหม เสกข้าวนะ ข้างที่เราจะฉัน เสกซะหมด และคนอื่นกินก็เป็นยาไปหมด ให้เป็นยาสำรับคนอื่นด้วยนะ ดีไหม ถ้าเห็นว่าดี ถ้าคุณจะให้รักษานี่นะ ถ้าจะใช้รักษาโรค คุณจะต้องหาดอกบัวมา ๓ ดอก ธูป ๕ ดอก เทียน ๑ เล่ม บูชาขอต่อพระพุทธรูป (ผมเข้าใจว่า ถ้าไม่นำสิ่งที่ให้นำมาผลกรรม โรค นั้นจะตกที่คนรักษา)

    ถ้าใครต้องการจะให้เรารักษา ต้องบังคับให้เขาเอาดอกบัวมา ๓ ดอกนะ ธูป ๕ เทียน ๑ เสกน้ำมนต์ เสกอะไร อะไรให้กินได้ นั่งทำก็ได้ นอนก็ได้ ภาวนาให้เป็นฌานเป็นฌานในกรรมฐานภายในตัวเสร็จ อย่าลืมนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เกาก็ได้ผลเท่ากันเป็นฌาน

    คาถาพระอินทร์[แก้ไข]
    สหัสสเนตโต เทวินโท ทิพจักขุง

    (ใช้กับการเรียน ให้อ่านหนังสือแล้วจำได้ ทำข้อสอบได้)

    คาถาพระยายม[แก้ไข]
    ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุคะโต จุติ

    จิตะเมตะ นิพพานัง สุขโต จุติ

    พุทธคาถา[แก้ไข]
    มหาวิชโย โหหิ อสังวาโส

    (ภาวนากันอันตรายทุกอย่าง ผู้คิดร้าย จะย่อยยับไปเอง เป

    คาถาเมตตา[แก้ไข]
    พระอรหัง สุคโต ภควา นะเมตตาจิต

    (คาถาบทนี้ หลวงพ่อบอกว่าให้ใช้เวลาไปติดต่อผู้อื่น เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยก่อนจะออกจากบ้าน ให้นึกใบหน้าของผู้ที่เราจะไปหาก่อน แล้วภาวนาคาถาบทนี้ไปด้วย เมื่อไปพบแล้วจะสำเร็จผลตามที่ต้องการ

    คาถานี้หลวงพ่อบอกว่า ท่านได้จากหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า (จากหนังสือ สมบัติพ่อให้)

    คาถาสมเด็จประทาน[แก้ไข]
    โคตะมะ จะ อะปาทะเกหิ เม เมตตัง เมตตัง

    (เสกของต่างๆ ให้มนุษย์ จะได้มีจิตเมตตาต่อกัน เสกอะไรก็ได้)

    คาถาพระโมคคัลลานะ ประทาน[แก้ไข]
    1.อิติ สุกขติ สุกขโต
    (ทำน้ำมนต์ให้คนอยู่ในบ้าน จะได้รับความเมตตาเป็นพิเศษ)

    2.อิติ สุคติ สุคโต
    (ทำน้ำมนต์ให้คนเดินทาง จะประสบผลสมประสงค์และปลอดภัยทุกประการ)

    คาถาท่านท้าวเวสสุวัณ[แก้ไข]
    พยัคฆัง พยัคฆา มานี่ให้หมด

    (เป็นคาถาภาวนาให้คนมารวมกัน อธิษฐานเอาตามใจ ภาวนาเรียกเสกแป้ง สีผึ้งก็ได้)

    คาถาป้องกันอันตราย[แก้ไข]
    รูปพระพุธโธ โหหิ

    (ภาวนาคาถานี้ เสกน้ำลายกลืนลงไปก่อนออกจากบ้าน ท่านกล่าวว่า แม้ปืนก็ยิงไม่ออก)

    คาถานวด[แก้ไข]
    อิมัสมิงมาเล อิมังเต มาสัง วัสสัง อุเปมิอิกวิติ

    (นึกถึงพระรัตนตรัยก่อนว่าคาถา แล้วให้ภาวนาเรื่อยไปขณะนวด)

    เสกของขายภายในร้าน[แก้ไข]
    นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง อุมิอะมิ มหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

    คาถาให้สารภาพ[แก้ไข]
    กัณหัง อเสนโต อเทสยิ

    (บอกความจริงให้หมด)

    คาถาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4[แก้ไข]
    อิติ สัมมาสัมพุทธัสสะ พระอรหังรักษา

    (ท่านบอกว่าท่องคาถาบทนี้แล้ว ไม่ต้องกลัวอันตราย)

    คาถาสมเด็จพระพุทธกัสสป[แก้ไข]
    จิเจตะสา มหามันตัง

    (สอนให้ทำน้ำมนต์ ใช้การทุกอย่างสวัสดี เป็นมหาเมตตา และทำลายโชคร้ายทั้งหมด ให้กลายเป็นดี รักษาโรคทั้งหมด ตามแต่จะอธิษฐาน)

    คาถาโรยทราย (นะจังงัง)[แก้ไข]
    นะโม พุทธายะ (ว่า 1 จบ)
    อิติ ศัตรู ยามาคะตา(โรยไปว่าไป)

    (ป้องกันศัตรู)

    คาถาเสกขี้ผึ้งสีปาก เมตตามหานิยม[แก้ไข]
    (คาถาพระพุทธกัสสป)

    นาสังสิโม ปาสุอุชา 10รอบ
     
  11. Actives

    Actives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +2,266
    ข้าพเจ้าแลครอบครัวขอร่วมบุญถวายปัจจัยจัดสร้าง
    อุโบสถล้านนา, พระเจดีย์จุฬามณี, สมเด็จองค์ปฐม หน้าตัก 4 ศอก (ปิดทองคำแท้ประดับเพชรชวาลอฟสกี้) ณ วัดพระบาทปางแฟน
    โดยโอนเงินปัจจัยจำนวน 418 บาท เข้าบัญชี ธนาคารกรุงไทย เลขที่บัญชี 553-0-23265-5 เมื่อวันที่ 27 กรกฏาคม 2557 เวลา 15:23:39

    และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านที่ร่วมบุญด้วยเทอญ สาธุ/\
     
  12. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    อนุโมทนาสาธุ เด๊่ยวร่วมบุญด้วยค่ะคุณเจน
     
  13. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ร่วมบุญ สมเด็จองค์ปฐม ประดับทองคำแท้หน้าตัก 4 ศอกจำนวน 400 บาท โอนแล้ววันที่ 24 ก.ค 57 ธนาคารกรุงไทย

    อนุโมทนา สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กรกฎาคม 2014
  14. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆๆ
     
  15. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
    คุณอุไร เที่ยงอยู่และครอบครัว ร่วมบุญ สมเด็จองค์ปฐม ประดับทองคำแท้หน้าตัก 4 ศอกจำนวน 1000 บาท โอนแล้วธนาคารกรุงไทย วันที่ 28 ก.ค 57

    อนุโมทนา สาธุ
     
  16. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    อนุโมทนาสาธุๆ นิพพานนะปัจจะโยโหตุ
     
  17. sirapopch

    sirapopch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +1,100
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยเทอญ สัมปะจิตฉามิ นิพพานะสุขขัง

    วิปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณในวิปัสสนา หรือญาณที่จัดเป็นวิปัสสนา คือ เป็นความรู้ที่ทำให้เกิดความเห็นแจ้งเข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามเป็นจริง แบ่งออกเป็น 9 ประการคือ

    1. อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความเกิดและความดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้น และความดับไปแห่งเบญจขันธ์จนเห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น ครั้นแล้วก็ดับไปในที่สุด (เกิด-ดับ)

    2. ภังคานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความสลาย คือ เมื่อเห็นความเกิด-ดับ เช่นนั้นแล้ว เข้าใจความดับอันเป็นจุดจบสิ้นก็เห็นว่าสังขารทั้งปวงล้วนจะต้องสลายไปในที่สุด

    3. ภยตูปัฏฐานญาณ หมายถึง ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว คือ เมื่อพิจารณาเห็นความแตกสลายของสังขารแล้วก็ปรากฏเป็นของน่ากลัว เพราะล้วนต้องสลายไป ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น

    4. อาทีนวานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นโทษ คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงซึ่งล้วนต้องแตกสลายไป เป็นของน่ากลัวแล้วย่อมคำนึงเห็นสังขารทั้งปวงนั้นว่าเป็นโทษ เป็นสิ่งที่มีความบกพร่อง จะต้องประกอบไปด้วยความทุกข์

    5. นิพพิทานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นความหน่าย คือ เมื่อพิจารณาเห็นว่าสังขารทั้งปวงเป็นโทษแล้ว ย่อมเกิดความหน่ายไม่เพลิดเพลินติดใจในสังขารนั้น

    6. มุญจิตุกัมยตาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย คือ เมื่อหน่วยสังขารทั้งหลายแล้วย่อมปรารถนาที่จะพ้นไปเสียจากสังขารเหล่านั้น

    7. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงพิจารณาหาทางหลุดพ้น คือ เมื่อต้องการจะพ้นไปเสียจากสังขารจึงกลับหันไปยกเอาสังขารทั้งหลายขึ้นมาพิจารณากำหนดด้วยไตรลักษณ์เพื่อมองหาอุบายที่จะปลดเปลื้องหรือหาทางหลุดพ้น

    8. สังขารุเปกขาญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร คือ เมื่อพิจารณาสังขารต่อไปย่อมเกิดความรู้เห็นสภาวะของสังขารตามความเป็นจริง ว่ามีความเป็นอยู่เป็นไปของมันอย่างนั้นเป็นธรรมดา จึงวางใจเป็นกลางได้ไม่ยินดียินร้ายในสังขารทั้งหลาย ญาณจึงมุ่งสู่นิพพาน โดยเลิกละความเกี่ยวพันกับสังขารอีก

    9. สัจจานุโลมิกญาณ หรือ อนุโลมญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยอนุโลมแก่การหยั่งรู้อริยสัจ คือ เมื่อวางใจเป็นกลางต่อสังขารทั้งหลายและญาณมุ่งสู่นิพพานแล้ว ญาณก็จะส่งผลต่อการตรัสรู้อริยสัจ ย่อมเกิดขึ้นในลำดับต่อไป เป็นขั้นสุดท้ายของวิปัสสนาญาณต่อจากนั้นก็จะทำให้สำเร็จเป็นอริยบุคคลต่อไป
     
  18. sereenon

    sereenon เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,727
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +7,931
    ร่วมบุญทุกอย่าง 20 บาท

    นะโม ๓ จบ
    ข้าพเจ้า ชื่อนางสาวนฐมน เสรีลัดดานนท์ ขออารธนาบารมีพระรัตนตรัย มีพระพุทธเจ้าพระสิกขีทศพลที่ ๑ จนถึงพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐม จนถึงพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน พระธรรมทั้งหลาย พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พรหมทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย มาเป็นสักขีพยานในวันนี้ ข้าพเจ้าขอขมาลาโทษแด่ทุกๆพระองค์ ที่ข้าพเจ้ามีเหตุจำเป็นในการที่เบื่อหน่ายในการเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ที่เคยตั้งจิตอธิษฐานไว้ จึงขอขมาลาโทษทุกๆ พระองค์ที่ต้องเสียสัจจะบารมี ที่ตั้งไว้แด่ทุกๆ พระองค์
    ขอบารมีที่ข้าพระพุทธเจ้าได้บำเพ็ญมาเพื่อการเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์มารวบรวมกันในชาตินี้ เพื่อเข้าสู่ความเป็นพุทธภูมิ ด้วยข้าพเจ้าได้ศึกษาธรรมของพระองค์แล้วเห็นว่าเข้าใจและสามารถมีกำลังใจเพื่อบรรลุพระโพธิญาณได้
     
  19. saiji555

    saiji555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2009
    โพสต์:
    133
    ค่าพลัง:
    +426
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยคับผม สาธุคับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...