พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485

    อะ. มาแล้วครับ เทคนิค ปั่นกระทู้เล็กน้อยครับ ล้อเล่นน่ะ ความจริง ผบ.เรียกไปตากผ้าครับ พูดอย่างนี้ หลายท่านอาจคิดว่าผม กม. ไม่ใช่หรอกครับ ความจริงผมเป็นคนดีของครอบครัว ที่สมัยนี้ท่าจะหายากซะแล้ว อ้าว เข้าเรื่องดีกว่า
    ก่อนหน้านี้ ถ้าจะเจาะรู ถ้าอยากได้รูเล็กๆก็ต้องใช้เข็ม แต่มีปัญหาคือ พอลนไฟแล้วไปเจาะ ก็จะมีคราบเขม่าดำติดพลาสติก ไม่ค่อยงาม คราวนี้ได้การแล้วครับ ก็ต้องลนไฟเหมือนเดิม เข็มลนไฟนะครับ ไม่ใช่ไฟลนก้น(คงไม่หยาบนะ เป็นสำนวน) ใช้เข็มหมุดนะ หรือเข็มที่เขาแถมมากับกาวตราช้างก็เล็กดี เพราะจะมีหมุดให้จับไม่ร้อนถึงมือ คราวก่อนที่ดำก็เพราะไปลนไฟจากเทียน ดังนั้นลนไฟจากไฟแช๊ค อันละ 3 4 5 บาทนี่ละครับ สังเกตุว่าปลายเข็มแดง ก็แทงทะลุพลาสติกในจุดที่ต้องการได้เลย ได้รูขนาดเล็ก เรียบร้อยสวยงาม ไม่ต้องมีอุปกรณ์มาก สะดวก ประหยัด รวดเร็ว แป๊บเดียวเองครับ ไม่มากหรือนานเหมือนผมโม้

    แถมหน่อยหากไม่ใช่ตลับพระ แต่เป็นลักษณะ เลี่ยมกันน้ำมา เจาะรูหน้าแล้วเจาะ ตำแหน่งล่างก็จะดี เพราะจะทำให้น้ำที่เข้าไปไม่ขัง ระบาย ระเหยได้เร็ว ป้องกันปัญหาไอน้ำเกาะติดหน้าปัท รูล่าง ถ้าส่วนหน้า 2 ส่วนหลัง2 ก็จะระบายน้ำได้เร็วขึ้นนะจะบอกให้ เว้นแต่เกรงว่าจะเสียทัศนียภาพ ก็แค่รูเดียวก็พอ มองหาตำแหน่งที่โค้งไปต่ำสุดก็แล้วกัน เฮ้อ จิ้มดีดซะเหนื่อย

    อ้อ รับรองดีที่สุดแล้ว ใครว่าไม่จริงก็เถียงวิธีอื่นมาได้เลยคร๊าบ
    ;aa44
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2008
  2. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    มาชมกันดูซิครับว่างาเก่าขะไหนขนาด...โบราณว่าชาดดีไม่ต้องทาสีก็แดง...จริงอย่างโบราณท่านว่าไม๊ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    อันนี้ความเห็นที่ผมได้ยินมานะ...พิมพ์พระต่างๆที่ใช้ในยุคหลัง(ยกเว้นบางพิมพ์ของบางวัดก็มีแกะบล็อกใหม่)...ผมว่าส่วนใหญ่วัดต่างๆในกรุงเทพฯได้รับพระราชทานต่อมาในภายหลัง...จึงทำให้มีคนเข้าใจว่าพระวังหน้าวังหลวงไม่มีจริง...ทั้งที่จริงๆท่านเป็นต้นแบบ(Original)...ด้วยเหตุนี้คนจึงเข้าใจว่าพระวังหน้าไป copy แบบพระยุคหลัง(ซึ่งอันที่จริงเขาคิดแบบนี้ก็ถูกนะ)ซึ่งสวนกับความจริงที่ว่าพระยุคหลังนำบล็อกวังหน้าไปใช้ต่างหาก...ก็ขอทิ้งให้เป็นข้อคิดนะครับผมอาจจะผิดก็ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2008
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองได้เห็นพระพิมพ์ ซึ่งมีลักษณะเดียวกันหรือคล้ายกันมาก ที่หลายๆวัดได้นำไปใช้ในการสร้างพระพิมพ์ของแต่ละแห่ง เช่น พิมพ์เจ้าสัว หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ,พิมพ์ไพ่ตอง หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ,พิมพ์เพชรหลีก (ผมจำชื่อวัดไม่ได้) และยังมีพิมพ์อื่นๆอีกหลายๆพิมพ์ ซึ่งพิมพ์ดั้งเดิมนั้น หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรท่านอธิษฐานจิตไว้ให้ เช่นหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า เป็นต้น

    พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลต่างๆ ที่หลวงปู่พระโสณเถระเจ้าท่านอธิษฐานจิต ผมบอกได้ว่า มีน้อยมาก เท่าที่เคยเห็นมา น้อยจริงๆครับ

    ส่วนแม่พิมพ์ผมเองมีอยู่บางส่วนเช่นกัน แต่ยังมีหลักฐานที่สำคัญมากๆก็ยังมีอยู่อีก แต่ผมขอสงวนสิทธิ์ไม่แจ้งให้ทราบ เนื่องจากเปิดเผยไป เสี่ยงต่อการถูกปลอมแปลงได้ครับ
     
  5. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    สมเด็จงาแกะดูปิดทองรองชาดว่าเก่าถึงยุคไม๊ครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    ใครที่มาอ่านเจออย่ามัวแต่ถือทิฐิเลยครับเพราะไม่มีใครเกิดทันสักคนขนาดปู่ผมถ้าท่านอยู่ยังเกิดไม่ทันเลย(ปู่ถ้าอยู่นับจนปัจจุบันก็ร้อยไม่เกิน110-115ปี) พระที่ท่านสร้างฝังกรุไว้จำนวนเท่าไรไม่มีใครรู้...แต่ก็ไม่น่าน้อยนะครับเพราะท่านอยู่หลายรัชกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เวลามาตรฐานของไทย ยังคงเป็นเวลาเดิม

    http://hilight.kapook.com/view/27719


    [​IMG]







    ตามที่มีข่าวปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์รายวัน ฉบับวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2551 ใจความว่า

    "ที่ผ่านมาเวลาของประเทศไทยไม่มีมาตรฐานแน่นอน อย่างช่วงเคารพธงชาติที่แต่ละจังหวัดเคารพธงชาติไม่ตรงกัน ดังนั้นสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติจะปรับเปลี่ยนเวลาของประเทศไทยใหม่ทั่วประเทศ เพื่อให้ถูกต้องแม่นยำตามหลักสากล" ​

    นอกจากนี้แล้วข่าวดังกล่าว ยังได้ถูกขยายความเพิ่มเติมภายหลัง พร้อมทั้งยกตัวอย่างประกอบเพิ่มเดิมอีกด้วย ส่งเป็นข่าวที่ส่งต่อกันเป็นทอดๆ ทางอี-เมล จึงเกิดกระแสข่าวอีกว่า สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติจะปรับเปลี่ยนเวลาของประเทศไทยไปอีก 30 นาที!!!

    ข่าวดังกล่าวได้ทำให้เกิดความเข้าใจผิด และทำให้เกิดความแตกตื่นขึ้น ซึ่งได้มีผู้คนเป็นจำนวนมากสอบถามมายังฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า ซึ่งรับผิดชอบทางด้านไฟฟ้าเวลาและความถี่ จึงขอทำความเข้าใจดังนี้. . .

    [​IMG] สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ไม่ได้ทำการเปลี่ยนแปลงเวลามาตรฐานของประเทศไทยใดๆ ทั้งสิ้น

    [​IMG] เวลามาตรฐานของประเทศไทยยังคงเป็นเวลาเดิม คือ เวลา ตามมาตราเวลาพิกัดสากล UTC+7 ชั่วโมง

    สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ คือ ผู้รับผิดชอบในการสร้าง และรักษาวินาทีมาตรฐานของประเทศไทย ตามพระราชบัญญัติพัฒนาระบบมาตรวิทยาแห่งชาติ พ.ศ.2540 และป็นผู้รับผิดชอบส่งสัญญาณเวลา (time signal) ที่เกิดจากการสร้างวินาทีมาตรฐาน ไปยังหน่วยงานกลางระหว่างประเทศ เพื่อร่วมกำหนดมาตราเวลาพิกัดสากล UTC (Coordinated Universal Time) ร่วมกับสถาบันมาตรวิทยาและหน่วยงานด้านเวลาของประเทศอื่น ​

    มาตรเวลาพิกัดสากล UTC นี้ได้รับการยอมรับร่วมกันให้เป็นมาตราเวลาระหว่างประเทศ โดยที่เวลามาตรฐานของประเทศต่างๆ จะได้จากการบวกเวลาตามมาตราเวลาพิกัดสากล UTC กับค่าประจำ Time zone ที่ +7 ดังนั้น เวลามาตรฐานของประเทศไทยจึงเป็น เวลา UTC+7 ชั่วโมง ​

    ประเทศอังกฤษ ตั้งอยู่ใน Time zone ที่ +0 ดังนั้น เวลามาตรฐานของประเทศอังกฤษจึงเป็น เวลา UTC+0 ชั่วโมง ​

    เมืองนิวยอร์ก ประเทศหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ใน Time zone ที่ -5 ดังนั้น เวลามาตรฐานของเมืองนิวยอร์ก ประเทศหรัฐอเมริกา จึงเป็น เวลา UTC-5 ชั่วโมง ​

    สิ่งที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติกำลังดำเนินการ และต้องการประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานต่างๆ และประชาชนทั่วไปทราบก็ คือ ​

    ขณะนี้สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ได้จัดให้มีการถ่ายทอดสัญญาณเวลาผ่านระบบอินเทอร์เน็ต Network Time Protocol เพื่อให้ผู้ที่ประสงค์จะใช้งานมาตราเวลาพิกัดประเทศไทย หรือเวลามาตรฐานประเทศไทย สามารถเข้าถึงข้อมูลเวลาดังกล่าวได้อย่างทั่วถึง โดยเซอร์เวอร์เวลา (time servers) ที่ถ่ายทอดสัญญาณเวลามาตรฐานประเทศไทย ที่สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติได้จัดให้มีขึ้น คือ time1.nimt.or.th และ time2.nimt.or.th

    โดยหวังว่า การถ่ายทอดสัญญาณเวลามาตรฐานของประเทศผ่านระบบนี้ จะเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการใช้เวลาที่ถูกต้องตรงกับเวลามาตรฐานของประเทศ สามารถปรับจูน (time) คอมพิวเตอร์ของคนให้มีเวลาตรงกับเวลามาตรฐานของประเทศได้ ​

    หากสถานีโทรทัศน์และวิทยุทั้งหลายจะปรับจูน (time) เวลาของสถานีผ่านระบบระบบอินเทอร์เน็ตดังกล่าว ก็น่าจะทำให้เวลาเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา และลงจากยอดเสา ในเวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ตามลำดับของแต่ละสถานีตรงกัน ​

    และน่าจะส่งผลต่อไปยังประชาชนทั่วไป ซึ่งเทียบเวลาของนาฬิกาของตน กับเวลาของสถานีโทรทัศน์และวิทยุดังกล่าว ​

    อย่างไรก็ตาม ด้วยข้อจำกัด และความไม่แน่นอนของเส้นทางสัญญาณเวลา ระหว่างผู้รับสัญญาณและตัวจ่ายสัญญาณของสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ความถูกต้องของการถ่ายทอดเวลาผ่านทางอินเทอร์เน็ตจึงจำกัดอยู่ในย่าน 1 วินาทีเท่านั้น



    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
    หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับวันศุกร์ที่ 15 เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 ​

    ข้อมูลโดย คุณ สิวินีย์ สวัสดิ์อารี
    นักมาตรวิทยา ฝ่ายมาตรวิทยาไฟฟ้า
    สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    -----------------------------------​

    ไทยปรับเวลาใหม่ ให้ตรงกันทั่วประเทศ บังคับใช้ 23 ส.ค.

    http://hilight.kapook.com/view/27387

    [​IMG]




    จากความเหลื่อมล้ำทางเวลาของไทย จนทำให้ไม่เป็นมาตรฐาน สถาบันมาตรวิทยากระทรวงวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี จึงดำเนินการปรับเปลี่ยนเวลาของไทยใหม่ทั่วประเทศ เพื่อให้ถูกต้องแม่นยำตามหลักสากล

    ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พล.อ.ต.ดร.เพียร โตท่าโรง ผู้อำนวยการสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถาบันมาตรวิทยาฯ จะดำเนินการปรับเปลี่ยนเวลาของประเทศ ไทยใหม่ทั่วประเทศ เพื่อให้ถูกต้องแม่นยำตามหลักสากล เพราะที่ผ่านมามาตรฐานเวลาของไทยไม่เคยตรงกัน ซึ่งจะเป็นไปตามประกาศกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เรื่องหลักเกณฑ์การเก็บรักษาข้อมูลจราจร ทางคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ พ.ศ.2550 ถูกต้องแม่นยำตามหลักสากล ซึ่งจะมีพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิด โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ ​

    โดยกำหนดให้ผู้ประกอบ 4 ประเภท ดังนี้

    1. ผู้ ประกอบกิจการโทรคมนาคมและกิจการกระจายภาพและเสียง อาทิ ผู้ให้บริการโทรศัพท์ขั้นพื้นฐาน โทรศัพท์ เคลื่อนที่ ผู้ให้บริการเอทีเอ็ม เป็นต้น ​

    2. ผู้ให้บริการการเข้าถึงระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ อาทิ ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต เจ้าของหอพัก โรงแรม หน่วยราชการ บริษัทต่างๆ เป็นต้น ​

    3. ผู้ให้บริการเช่าระบบคอมพิวเตอร์ ​

    4. ผู้ให้บริการร้านอินเตอร์เน็ตต่างๆ ​

    ทั้งนี้ผู้ให้บริการทั้งหมด ต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากไม่ปฏิบัติตามตามกฎหมายของกระทรวงไอซีที จะต้องมีโทษปรับประมาณ 1-5 แสนบาท

    พล.อ.ต.ดร.เพียรกล่าวอีกว่า สำหรับประชาชนทั่วไป หากต้องการตั้งเวลาให้เป็นมาตรฐาน ขณะนี้สถาบันมาตรวิทยาฯ ได้ประสานกับกรมอุทกศาสตร์ กองทัพเรือ เพื่อตั้งเวลามาตรฐานสำหรับประเทศไทยแล้ว และกำลังประสานกับกรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเทียบเวลาผ่านทางสถานีวิทยุเอฟเอ็ม เพื่อให้ประชาชนเทียบเวลาทางวิทยุเอฟเอ็มได้ แต่ต้องมีตัวสัญญาณรับที่เรียกว่า ไทม์ เซิร์ฟเวอร์ ติดที่นาฬิกาที่ต้องการจะเชื่อมกับสัญญาณเอฟเอ็มด้วย ในส่วนนี้ทางสถาบันมาตรวิทยาฯ จะประสานกับบริษัทที่ผลิตนาฬิกา เพื่อผลิตนาฬิกาพิเศษที่ตรงเวลา และมีความแม่นยำมากที่สุด

    "การปรับเปลี่ยนเวลาใหม่ครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะทุกคนต้องการความแม่นยำ โดยเฉพาะหน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับข้อมูล เรื่องของความมั่นคง เรื่องของสุขภาพ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ พวกสัญญาณดาวเทียม และที่สำคัญงานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ที่จะช่วยแกะรอยของอาชญากรรม และสามารถใช้เป็นหลักฐานมัดตัวผู้กระทำผิดได้ โดยมีเวลาเป็นเครื่องยืนยันการกระทำ เห็นได้ชัดจากกรณีใบแดงของ นายยงยุทธ ติยะไพรัช เกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง หลักฐานสำคัญก็มาจากเรื่องของเวลา" พล.อ.ต.ดร.เพียร กล่าว และว่า ที่ผ่านมาเวลาของประเทศไทยไม่มีมาตรฐานแน่นอน และไม่ตรงกัน เห็นได้ชัดเจนที่สุดช่วง 08.00 น. และ 18.00 น. ที่เป็นช่วงเคารพธงชาติ แต่ละจังหวัดเวลาเคารพธงชาติจะไม่เท่ากันเลย แม้กระทั่งฟรีทีวีในบ้านเมืองก็ยังมีเวลาไม่ตรงกัน​






    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    [​IMG]
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บริจาคเลือด ส่งผลดีมากกว่าที่คิด

    http://hilight.kapook.com/view/27717

    [​IMG]


    ในช่วงระยะหลังๆ เรามักได้ยินข่าวสภากาชาดไทยประกาศขอ "บริจาคเลือด" บ่อยครั้งขึ้น สะท้อนให้เห็นว่า ความต้องการการบริจาคเลือดยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง เนื่องใน "วันบริจาคโลหิต โลก (Worlk Blood Donor Day)" เราไปดูกันดีกว่าว่า การบริจาคเลือดมีความสำคัญอย่างไร
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หิวขนม..ด.ช.วัย 3 ขวบย่องชอปตีสาม
    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000095406
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 สิงหาคม 2551 13:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> อนาโนวา - พ่อแม่ช็อก หลังถูกตำรวจปลุกกลางดึก เพื่อนำลูกชายวัยซนที่ย่องออกจากบ้านไปซื้อขนมในซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ไกลออกไปถึงไมล์ครึ่ง (2.4 กิโลเมตร) มาส่ง

    แม็กซ์ แม็กกราท วัย 3 ขวบ จัดการไขประตูหน้าที่ล็อกแน่นหนาถึง 2 ชั้น และย่องออกจากบ้านในชุดนอนและรองเท้าของพี่ชายที่ขนาดใหญ่กว่า 2 ไซส์

    เจมส์ บราวน์ คนขับรถบรรทุกในเพรสตัน อังกฤษ เป็นคนเห็นเด็กชายกำลังยืนเยี่ยมๆ มองๆ อยู่หน้าซูเปอร์มาร์เก็ต
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หิวขนม..ด.ช.วัย 3 ขวบย่องชอปตีสาม
    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9510000095406
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>15 สิงหาคม 2551 13:16 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> อนาโนวา - พ่อแม่ช็อก หลังถูกตำรวจปลุกกลางดึก เพื่อนำลูกชายวัยซนที่ย่องออกจากบ้านไปซื้อขนมในซูเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ไกลออกไปถึงไมล์ครึ่ง (2.4 กิโลเมตร) มาส่ง

    แม็กซ์ แม็กกราท วัย 3 ขวบ จัดการไขประตูหน้าที่ล็อกแน่นหนาถึง 2 ชั้น และย่องออกจากบ้านในชุดนอนและรองเท้าของพี่ชายที่ขนาดใหญ่กว่า 2 ไซส์

    เจมส์ บราวน์ คนขับรถบรรทุกในเพรสตัน อังกฤษ เป็นคนเห็นเด็กชายกำลังยืนเยี่ยมๆ มองๆ อยู่หน้าซูเปอร์มาร์เก็ต

    “ผมเข้าไปหาและถามเขาว่ามาทำอะไรดึกดื่นป่านนั้น เขาตอบซื่อๆ ว่า พ่อแม่พี่น้องหลับปุ๋ยอยู่ที่บ้าน แต่เขาอยากออกมาซื้อขนม”

    เจมส์ ถามแม็กซ์ ว่า บ้านช่องอยู่ที่ไหนและขับรถพาไปส่ง แต่ปลุกเท่าไรคนบ้านนั้นก็ไม่ตื่นเลยต้องโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ

    “ตอนแรกฉันและสามีรู้แต่ว่าถูกตำรวจปลุกขึ้นมากลางดึก พอตำรวจบอกว่าพบลูกชายของเรานอกบ้าน ฉันยิ่งงงใหญ่ว่าเขาออกไปได้อย่างไร นี่ยังไม่หายช็อกเลย

    “เขาชอบผจญภัยมาก แต่เรื่องนี้เกินคาดไปหน่อย ฉันไม่ได้ยินอะไรเลยตอนที่เขาออกไป มันน่ากลัวมากเมื่อคิดว่าอาจเกิดอะไรขึ้นบ้างเพราะเขาต้องข้ามถนนหลายสายกว่าจะไปถึงซูเปอร์มาร์เก็ตนั่น

    “เมื่อถามว่าทำไมถึงออกไป เขาบอกอยากกินขนม แต่ว่าเขาไม่มีเงินติดตัวหรอก”

    พ่อแม่เด็กน้อยรับปากว่าต่อไปจะเก็บกุญแจให้พ้นมือลูกชายวัยซน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
     
  12. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    เหอๆ จ้าวนายผมไม่ชอบผจญภัยขนาดนี้หรอกครับ แต่ชอบช่วยดูแลเรื่องต่างๆ นี่ก็บอกว่า.... ฟ้าจะร้องแล้วปิดอินเตอร์เน็ทได้แล้ว.... ผมก็คงต้องปิดแล้วครับเพราะว่าหลายแว๊บหลาย ครืนแล้วครับ กึ๋ยส์
     
  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nanodent [​IMG]
    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>...เมื่อถามถึง พระเครื่องที่แขวนติดตัวเป็นประจำ หนู มิเตอร์ บอกว่า มีอยู่องค์หนึ่ง แขวนติดตัวมานานกว่า ๒๐ ปีแล้ว เป็นพระสมเด็จ ไม่รู้พิมพ์และก็ไม่รู้วัดด้วย โดยได้มาจาก อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี เมื่อครั้งไปช่วยทำงาน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังให้กับ เทรี่ เมฆวัฒนา หลังจากได้พระมา ก็นิมนต์ขึ้นคอ และไม่เคยให้ใครดู ว่าแท้หรือไม่แท้ ถึงจะไม่แท้ก็คงยังนับถือ โดยมองว่า ท่านเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า เรื่องความแท้ไม่แท้ รวมทั้งราคาเช่าซื้อ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยสักครั้งเดียว </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ถ้าท่านลองสังเกตุพระสมเด็จองค์กลางดู...ผมว่าไม่น่าจะเป็นสมเด็จวัดระฆังนะแต่น่าจะเปนสมเด็จวังหน้าหรือวังหลวงนะครับ...</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เจ้านายผมนี่ดูแต่การ์ตูนเน็ทเวอร์กทั้งวันครับ ตอนนี้กำลังติดใจนินจานารุโตะครับ...
     
  15. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nanodent [​IMG]
    <CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>[​IMG]</CENTER><CENTER>...เมื่อถามถึง พระเครื่องที่แขวนติดตัวเป็นประจำ หนู มิเตอร์ บอกว่า มีอยู่องค์หนึ่ง แขวนติดตัวมานานกว่า ๒๐ ปีแล้ว เป็นพระสมเด็จ ไม่รู้พิมพ์และก็ไม่รู้วัดด้วย โดยได้มาจาก อ.ธนิสร์ ศรีกลิ่นดี เมื่อครั้งไปช่วยทำงาน ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังให้กับ เทรี่ เมฆวัฒนา หลังจากได้พระมา ก็นิมนต์ขึ้นคอ และไม่เคยให้ใครดู ว่าแท้หรือไม่แท้ ถึงจะไม่แท้ก็คงยังนับถือ โดยมองว่า ท่านเป็นองค์แทนของพระพุทธเจ้า เรื่องความแท้ไม่แท้ รวมทั้งราคาเช่าซื้อ ไม่เคยอยู่ในความคิดเลยสักครั้งเดียว </CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER></CENTER><CENTER>ถ้าท่านลองสังเกตุพระสมเด็จองค์กลางดู...ผมว่าไม่น่าจะเป็นสมเด็จวัดระฆังนะแต่น่าจะเปนสมเด็จวังหน้าหรือวังหลวงนะครับ...</CENTER>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ narongwate [​IMG]
    ** ความเห็นส่วนตัว **
    ผมว่าน่าจะเป็นเนื้อปัญจสิริ เหมือนว่าจะเป็นเนื้อสีเขียวแล้วมีแซมสีชมพู/แดง เอ...หรือว่าตาลายหว่า ;20
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูป</LEGEND>[​IMG]
    </FIELDSET>
    ผมว่าพระพิมพ์องค์กลางนี่คุ้นๆจังนะครับ แต่ผมรู้น้อยครับเลยไม่ค่อยแน่ใจนะเนี่ย หุ หุ
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมก็รู้น้อยเหมือนกัน เดาว่าเป็นพระสมเด็จ เนื้อปัญจสิริ รุ่นนี้น่าจะเป็นหลวงปู่องค์พระอภิญญาใหญ่อธิษฐานจิตครับ
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    มีคำถามมาถามอีกแล้ว รู้สึกว่าจะเงียบๆกัน มาลับสมองกันหน่อย

    [​IMG]

    1.พระพิมพ์องค์นี้ แท้ หรือ ไม่แท้
    ก. แท้
    ข. ไม่แท้

    คะแนนคำตอบ
    ตอบถูก 10 คะแนน
    ตอบผิด -10 คะแนน



    หากตอบว่า แท้ ไปตอบข้อต่อไป ถ้าตอบว่า ไม่แท้ หยุดเพียงข้อนี้ครับ

    2.พระพิมพ์องค์นี้ เป็นพระวังหน้า หรือพระวังหลวง

    ก. พระวังหน้า
    ข. พระวังหลวง

    คะแนนคำตอบ
    ตอบถูก 2 คะแนน
    ตอบผิด -2 คะแนน


    3.พระพิมพ์องค์นี้ หลวงปู่องค์ไหนเป็นผู้อธิษฐานจิต

    ก. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์
    ข. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 4 พระองค์
    ค. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์
    ง. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์
    จ. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์
    ฉ. สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ช. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ซ. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 4 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฌ. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 3 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ญ. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 2 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฎ. หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1 พระองค์ และสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
    ฏ. หลวงปู่พระอภิญญาใหญ่

    คะแนนคำตอบ
    ตอบถูก 5 คะแนน
    ตอบผิด -5 คะแนน


    4. สถานที่ที่ใช้ในพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง

    ก. วัดบวรสถานสุทธาวาส
    ข. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    ค. วัดมหาธาตุ
    ง. วัดโพธิ์

    คะแนนคำตอบ
    ตอบถูก 7 คะแนน
    ตอบผิด -7 คะแนน

    หมดเขตรับคำตอบ วันพรุ่งนี้(16 สค.51)เวลา 18.00 น. และหากว่ามีผู้ตอบไม่ถึง 5 ท่าน ผมจะ pm คำตอบไปให้ท่านที่ตอบครับ<!-- / message --><!-- sig -->
     
  18. narongwate

    narongwate เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,840
    ขอถามเพื่อเป็นความรู้หน่อยครับ ว่าเหตุใดก่อนการปิดทองถึงมีการรองชาด ด้วยครับ
    ความคิดผมสัณนิฐานว่า น่าจะเป็นการทำให้ทองติดกับเนื้อวัสดุได้ดีขึ้นเหมือนกันกับ "รัก"
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    สำหรับท่านสมาชิกชมรมพระวังหน้า มีความเห็นกันอย่างไร ลองปุจฉา วิสัชนากันดูครับ

    .
     
  20. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    <TABLE width=725 border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#ffcc00>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]ช่างสิบหมู่ : Chang Sip Mu - [/FONT][FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]ช่างรัก[/FONT] </TD></TR><TR><TD>[FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานช่างลงรักปิดทองคำเปลว[/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif] งานช่างลงรักปิดทองคำเปลว หรืออย่างที่คนส่วนมากเรียกสั้นๆ ว่า "ลงรักปิดทอง" คือกระบวนการตกแต่ง ผิวภายนอกของศิลปวัตถุหรือองค์ประกอบสำหรับงานสถาปัตยกรรมแบบไทยประเพณีด้วยการลงรักหรือทายางรัก แล้วปิดด้วยทองคำเปลวทับทำให้ผิวของศิลปวัตถุหรือองค์ประกอบสำหรับงานสถาปัตยกรรมบางสิ่ง เป็นสีทองดำ เหลืองอร่ามและเป็นมันวาวเหมือนหนึ่งว่าทำด้วยทองคำอันเป็นความเชื่อโดยขนบนิยมในสังคมไทยมาแต่โบราณกาล
    งานช่างลงรักปิดทองคำเปลวได้ทำการที่เป็นงานปิดทองเป็น ๔ ลักษณะงานด้วยกัน คือ
    งานลงรักปิดทองทึบ
    งานลงรักปิดทองร่องชาด
    งานลงรักปิดทองร่องกระจก
    งานลงรักปิดทองลายฉลุ
    [/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองทึบ[/FONT]
    งานลงรักปิดทองทึบ [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]หมายถึงการปิดทองคำเปลวลงบนงานศิลปวัตถุต่างๆ ซึ่งสร้างขึ้นด้วย ดินเผา ปูนปั้น ไม้แกะสลัก หรือโหละหล่อ เพื่อให้ผิวภายนอกของศิลปวัตถุนั้นๆ เป็นผิวทองคำ และเรียบเกลี้ยงทั่วไป ตัวอย่างเช่น พระพุทธรูปปิดทองเป็นพระปฏิมาประธาน เป็นต้น[/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองร่องชาด[/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองร่องชาด หมายถึงการปิดทองคำเปลวลงบนงานศิลปวัตถุประเภทต่างๆ เช่น ปูนปั้น ไม้แกะสลัก ซึ่งมักแสดงออกในลักษณะลวดลายตกแต่งครุภัณฑ์ ยานพาหนะ หรือองค์ประกอบสถาปัตยกรรมแบบ ไทยประเพณี ซึ่งในส่วนที่เป็นลวดลายก็ดี รูปภาพแทรกระหว่างลวดลายก็ดีจะได้รับการปิดทองคำเปลว ซึ่งดำเนิน การด้วยวิธีการปิดทองทึบ แต่จะมีลักษณะต่างกันตรงที่มีการ "ร่องชาด" ซึ่งเป็นลักษณะเฉพาะของงานนี้
    คำว่า "ร่องชาด" นี้มาแต่คำว่า "ร่อง" คำหนึ่งกับ "ชาด" อีกคำหนึ่ง "ร่อง" หมายถึงรอยลึกต่ำลงไประหว่างผิว พื้นปรกติ ในกรณีนี้หมายถึง ร่องที่ได้รับการขุดควักลงไปให้ต่ำอยู่ระหว่างช่องไฟของลวดลาย หรือพื้นหลังที่ดู เหมือนต่ำลงไปในงานปั้นปูนเน้นลวดลายให้นูนสูงขึ้นจากพื้นหลังนั้น ส่วนคำว่า "ชาด" หมายถึงวัตถุสีแดงชนิดหนึ่ง ใช้ทำเป็นสีสำหรับเขียนหรือระบายคำว่า "ร่องชาด" ในลักษณะของงานปิดทองร่องชาด อาจมีความหมายเป็นทั้งคำ นามและคำกิริยา ดังนี้
    งานลงรักปิดทองร่องชาดนี้ทำขึ้นด้วยความประสงค์ให้สีแดงที่ใช้ทาลง หรือถมลงในส่วนที่เป็นร่องระหว่าง ลวดลายหรือช่องไฟระหว่างสิ่งที่ทำขึ้นในลักษณะ งานปูนปั้นงานไม้หรือหินแกะสลัก ดูเด่นเห็นกระจะขึ้นจากพื้นที่ เป็นร่องลึกต่ำหรือพื้นที่รองรับอยู่เบื้องหลังนั้นนั่นเอง
    อนึ่ง การใช้สีชาดหรือสีแดงชาดทาลงหรือถมลงในร่องนี้เป็นไปตามขนบนิยมและประเพณีนิยมว่า "สีแดง" เป็นสีที่มีความหมายถึง ความสว่าง ความสุกใส ควรใช้ควบคู่กับสีทอง ซึ่งหมายถึงความรุ่งเรืองจึงเรียกกันว่า "ลงรักปิดทองร่องชาด" หรือเรียกสั้นๆ ว่า "ร่องชาด"
    [/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานรักปิดทองร่องกระจก[/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองร่องกระจกหมายถึงการลงรักลงบนงานศิลปวัตถุต่างๆ ประเภทที่ทำขึ้นด้วย ปูนปั้น ไม้แกะสลัก ดินเผา แล้วปิดทองคำเปลวพับ ลักษณะคล้ายกันกับงานลงรักปิดทองทึบ แต่จะมีลักษณะเฉพาะของงานนี้ อยู่ที่มีการ "ร่องกระจก" เพิ่มขึ้นมา
    "ร่องกระจก" คือการใช้กระจกสีต่างๆ แผ่นบาง รูปสี่เหลี่ยม นำมาตัดย่อยเป็นชิ้นเล็กรูปร่างต่างๆ ตามประสงค์ ให้เหมาะแก่งานและพื้นที่นำมาติดลงในพื้นร่องระหว่างลวดลายหรือในช่องไฟของสิ่งที่ได้ปิดทองขึ้นในที่นั่น
    ความประสงค์ "ร่องกระจก" ก็เป็นไปเช่นเดียวกับการปิดทองร่องชาด คืออาศัยกระจกที่เป็นวัตถุมีสีและความ มันวาวถมปิดลงในร่องเพื่อหนุนหรือขับลวดลายหรือสิ่งที่ปิดทองซึ่งนูนขึ้นจากพื้นหลังให้เป็นที่ดูเด่นชัด เห็นกระจะ ตานั่นเอง
    [/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองลายฉลุ[/FONT]
    [FONT=Verdana, Arial, Helvetica, sans-serif]งานลงรักปิดทองลายฉลุ หมายถึงงานตกแต่งลักษณะหนึ่งทำขึ้นด้วยการลงรักแล้วปิดทองคำเปลวให้เป็นลวด ลายแบบต่างๆ โดยอาศัยแบบลายฉลุเป็นเครื่องกำหนดให้เกิดเป็นลวดลายเช่นนั้น
    งานลงรักปิดทองลายฉลุนี้ พึงหาตัวอย่างดูได้ตามเพดาน ท้องขื่อ ฝ้าเฉลียง ไขรา ฝาผนังในพระอุโบสถ พระวิหาร หอพระธรรม พระมณฑป เป็นต้น ลักษณะทั่วไปมักเป็นลวดลายหย่อม เช่น ลายดาว ลายดอกจอก ลายดาวรังแตน ลายดอกไม้ร่วง หรือทำเป็นลวดลายติดต่อ เช่น ลายก้านแย่งดอกใน ลายกรวยเชิง ลายเกลียวก็มี ลักษณะของลวดลายเป็นสีทองบนพื้นสีแดงบ้าง สีคราม และสีเขียวบ้าง ลวดลายแบบนี้มีลักษณะเป็นตัวขาดจากกัน ไม่ต่อเนื่องกันดังเช่นลายเขียน ทั้งนี้เนื่องจากมี "ขื่อ" ทำขึ้นในแบบลายฉลุเป็นเครื่องกั้นลายแต่ละตัวให้ขาดกัน
    งานลงรักปิดทองลายฉลุและวิธีการลงรักปิดทองลายฉลุนี้ เป็นมาด้วยการแก้ปัญหาทางการช่าง ในการทำ ลวดลายตกแต่งตามที่สูงๆ เป็นต้น ฝ้าเพดาน ท้องขื่อ หรือฝ้าปีกนก ฯลฯ ซึ่งเป็นพื้นที่ดาดอยู่เหนือศีรษะ เป็นตำแหน่ง ที่ยากและลำบากแก่การแหงนหน้าขึ้นเขียนลวดลายที่ประณีตและละเอียด จึงได้ใช้วิธีทำแบบลวดลายขึ้นบนกระดาษ บ้าง หนังแพะบ้าง แล้วฉลุตัวลายให้ขาดเป็นช่องๆ ตามรูปแบบลายนั้น ขึ้นไว้บนพื้นกระดาษนั้น เมื่อจะทำลวดลายก็ เอาน้ำยาขึ้นไปทาพื้นตรงที่จะทำให้เป็นลวดลายแล้วเอาแบบลวดลายปะติดเข้าตรงที่ต้องการให้ติดแน่น จึงเอา ทองคำเปลวปิดลงตรงช่องที่เจาะทำเป็นตัวลายบนแบบนั้นให้ทั่ว พอทองจับติดพื้นดีแล้วจึงแกะแบบถอนออกจากพื้น ตามแบบลายฉลุที่ได้ทำขึ้นเป็นแบบนั้น แบบลายฉลุนี้อาจใช้ทำลวดลายต่อเนื่องกันไปได้ไม่จำกัด ลวดลายและวิธีทำ ให้เกิดเป็นลวดลาย ลักษระเช่นนี้จึงเรียกว่า งานลงรักปิดทองฉลุลาย
    [/FONT]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>ขอบคุณข้อมูลจาก thaihandiwork.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...