พบวัดพิลึก ห้ามไหว้พุทธรูป

หากที่อ่านดูตามที่คุณ ศุภผลธนภัทร
ได้นำพระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ชุด 91 เล่ม (มหามกุฎราชวิทยาลัย) ก็น่าจะความกระจางแจ้งแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อได้มีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นมาแล้ว
- ไม่ควรที่จะยึดติด (เคารพบูชาด้วยใจได้แต่อย่ายึกติด)
- แต่ก็ควรให้ความเคารพบูชา
นี่เป็นเพียงความเห็นส่วนหนึ่งของข้าพเจ้า หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้
อย่างไรก็ดีควรยึดตามพระไตรปิฎก

 

ผมไม่ได้เป็นสาวกภูมิเหมือนหลวงพ่อเกษม
แต่ผมเป็นพุทธภูมิ และก็ไม่เคยไปหาหลวงพ่อเกษมด้วย
แค่เคยดูแผ่น CD แล้วเทวดามาบอกว่าได้อนาคามี เลยเอามาเปิดดูอีกที
แล้วพิจารณาดู เอยมันก็จริงอย่างที่เทวดาบอก
การปฎิบัติของผมทำทุกอย่างคับ อดทนต่อสิ่งที่ใจเราทนได้ยาก ทุกอย่าง
ตอนปฎิบัติผมไม่รู้หรอกว่าสมถะ วิปัสนาเป็นอย่างไร แค่นั่งสมาธิไปเลื่อยๆ
ทำจนถึงที่สุด สุดแล้วสุดอีก จนท้อหันไปกินเหล้า เที่ยว เล่นยา
จนตัวเองใกล้จะตาย ตอนนั้นก็เลยกลัวว่าถ้าเราตายเราคงตกนรกแน่เลย
ก็เลยนั่งสมาธิ แล้วท่องพุทธโธ ใจก็นึกถึงพระพุทธรูป แต่ใจผมก็ไม่สงบ กำลังจะขาดใจตาย จึงเอะใจขึ้นมาว่า พระพุทธรูปนั้นไม่ใช่พระพุทธเจ้า เราไม่เคยเห็นท่าน เราเกิดไม่ทันท่าน ใจผมก็แวบขึ้นมาได้ว่า ถ้านั้นก่อนที่เจ้าชายสิทธถะ
ก่อนออกบวชท่านไปเจออะไรมา ก็คือเด็กที่พึ่งเกิด คนแก่ คนเจ็บ คนตาย สุด
ท้ายก็สมณะ ผมคิดถึงตอนที่พระพุทธเจ้าก่อนจะออกบวช
แล้วผมก็ได้เจอพระพุทธเจ้า ที่ไม่ใช่พระพุทธรูป ทุกวันนี้ได้ศึกษาพระธรรมของพระพุทธเจ้า ได้เป็นสงฆ์ที่มีศีลบริสุทธ์
ในหมู่มนุษย์นั้นเหล่าบัวมีน้อยนักที่จะเบิกบาน
จะมีซักกี่คนที่เข้าถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างแท้จริง
ผู้เข้าถึงนั้นละอริยะบุคคล
ผมเป็นพระโพธิสัตว์คับ ได้โมกธรรมทุติยะภูมิ

 

ขออนุญาตแสดงความเห็นบ้างครับ...ในอีกบางมุมมอง..
....ท่านเจ้าอาวาส..อาจรำคาญที่ญาติโยมหวังพึ่งในน้ำมนต์และวัตถุมงคลรวมทั้งความเชื่อในอิทธิปาติหาริย์ชนิดหลับหูหลับตาเชื่อ......จนไม่สามารถพึ่งพิงตนเองได้.......และท่านคงอยากให้ญาติโยมศึกษาในหลักธรรมตามพระไตรปิฏกโดยตรง.....ก็เป็นได้หรือเปล่าครับ...
อีกประการหนึ่ง..ท่านคงเห็นว่าวัดส่วนใหญ่ในปัจจุบัน..มักมีระบบพุทธพาณิชจริงๆ..เป็นการแสวงหาทรัพย์จากการนำอิทธิปาติหารย์มาล่อให้ผู้คนหลงงมงาย..บางครั้งถึงขนาดสร้างปรากฏการณ์แหกตาผู้คน..ก็มี ..ซึ่งน่าจะไม่ใช่ทางที่ควรเดินของผู้มีศีลสูง...และผู้ศึกษาธรรมะ...ถ้าสังเกตุหน่อย..ว่าเหล่าผู้คนในยุคปัจจุบันที่ศึกษาธรรมมะอย่างต้องการรู้จริงรู้แจ้งตามกำลังที่ทำได้อย่างเราๆท่านๆมักเป็นคนที่มีการศึกษาค่อนข้างสูงหรือคนที่ประสพทุกข์ยากมามากมายจนต้องใช้ธรรมมะมาข่มใจหรือจากบุญเก่าที่นำมาหนุนส่งทำให้เกิดความสนใจจริงจังจนพอจะรู้ว่าอะไร คือ อะไร....แต่สำหรับชาวบ้านตาสีตาสาที่ใช้อินเตอร์เน็ทไม่เป็น..ความลำบากยากจนและความแร้นแค้นจากปัญหาการครองชีพและครอบครัวและกิเลศที่พอกพูนจนหน้ามืดตามัว..หวยเบอร์, การพนัน, กล้วยออกปลีสองหัว..หมูพิการจากการสะสมของสารเคมีทางการเกษตร ออกลูกมีห้าขา ก็ยังก้มกราบไหว้บูชาเพื่อขอหวยขอให้ช่วย..ขอโชคขอลาภ...หรือมีตาน้ำขึ้นมาจากบ่อบาดาลเก่าที่เค้าถมทิ้งซึมขึ้นมา..ก็ว่าเป็นน้ำศักดิ์สิทธิ์ซึ่งจะช่วยรักษาโรคอะไรก็ได้ ถ้าบังเอิญสมหวังนั่นก็น่าจะมาจากพลังใจและพลังจิตที่เข้มแข็งและเหตุปัจจัยอื่นๆของตัวเค้าเองนั่นแหละ ..สำหรับพระพุทธรูปเค้ามักจะมองว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มักดลบันดาลอะไรก็ได้พึ่งพาอ้อนวอน บนบานศาลกล่าวขออะไรก็ได้,ป้องกันภยันตรายใดๆก็ได้ตามความเชื่อที่ยึดถือสืบต่อกันมา..ก็ก้มลงกราบไหว้พึ่งพิง...ทั้งๆที่กราบไหว้เสร็จรับศีลรับพรเสร็จ..หลังจากนั้นไม่เกินห้านาที สติก็หลุดหาย ก็ทำกรรมต่อทันที..ไม่ว่าด้วย
กายกรรม,วจีกรรม.หรือมโนกรรม..ในสังคมปัจจุบัน..ยังมีคนที่แยกแยะได้เท่าไรว่า บุญคืออะไร บาปคืออะไร ก็คือยังยึดยังถือไม่ปล่อยวางอีกมากมายตามความหยาบและละเอียดของจิตและกระบวนการคิดและวิถีชีวิต.....
...เราไม่ได้ไปสอบถามเรื่องราวจากปากท่านเจ้าอาวาสโดยตรง,ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์,ไม่ได้ดูให้เห็นกับตา,ไม่รู้แจ้งจุดประสงค์แห่งการกระทำ,เราฟังข่าวมาจากโทรทัศน์และสื่อสิ่งพิมพ์..โดยข้างเดียว ก็คือยังไม่รู้ความจริงนั่นเอง.......บางครั้งการใช้กุศโลบายในการถ่ายทอดธรรมมันก็มีอยู่ใช่รึเปล่าครับอย่างกรณีนี้คือการสอนไม่ให้ยึดติดในวัตถุเมื่อคนที่สร้างและคนที่มองคิดไม่เหมือนกัน,ต่างมุมมองก็ย่อมมีการขัดแย้ง การเคารพบูชาน่าจะอยู่ที่จิตอยู่ที่ใจหรือเจตนาซึ่งก็คือการเคารพเลื่อมใสนั่นเอง..การแสดงออกโดยการไหว้ก้มกราบถ้าหากไม่มีความจริงใจและเคารพศัทธาเลื่อมใสก็คงหาความหมายอันใดมิได้....ยอดภูเขาสูงมีทางเดินขึ้นหลายทางแต่จุดมุ่งหมายคือสถานที่แห่งเดียวกันฉันใดการศึกษาและปฏิบัติธรรมเพื่อการรู้จริงรู้แจ้งก็มีได้หลายวิธีการฉันนั้นและในระหว่างทางนั้น..พระอาจกลายเป็นมารหรือมารอาจกลายเป็นพระได้..ขออภัยถ้าผิดพลาดนะงับ

 

ขออนุโมทนาบุญที่เกิดจากการปรารถนาพุทธภูมิครับ สาธุ _/l\_

 

คนรู้จริงเค้าไม่พูด คนพูดรู้น่ะ้ไม่จริง....

ผมเองก็รู้ไม่จริง... ขอโมทนากับผู้รู้จริงด้วยครับ...

 

*** หลวงพ่อเกษมบอกว่า
พวกคนที่มีเครื่องรางของขลังหรือวัตถุวิเศษใดๆก็ตาม
และพวกคนเหล่านี้มีความรัก – อาลัย – ยึดถือ
ในเครื่องรางของขลังหรือวัตถุวิเศษใดๆนั้นว่าเป็นที่พึ่ง
เมื่อพวกคนเหล่านี้ตายไปแล้วก็เข้าไปสถิตอยู่ในเครื่องรางของขลังหรือวัตถุวิเศษเหล่านั้นก็มีมาก<O</O

<O</O

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


พูดจาหาเหตุผลที่ชัดเจน และเชื่อถือไม่ได้เลยอ่ะ

เหมือนพูดให้เชื่อ แต่ไม่สามารถหายกตัวอย่างประกอบให้ชัดแจ้งได้

ดิฉันจะเชื่อพระที่ พูดแล้วทำให้เข้าใจได้แจ่มแจ้งมากกว่าพูดไปเอง

ดิฉันเคยถามหลวงพี่องค์หนึ่งเรื่องร่างทรง( ซึ่งเป็นพระที่ไม่มี ตาทิพย์ หรือ มีฤทธิ์อะไรเลย)

ถาม ดิฉันจะรู้ได้ไงว่าตำหนักทรงไหน เป็นเทพของจริง หรือเป็นคนปลอมเป็นเทพ
เคยไปอยู่ตำหนักมีความรู้สึกว่า เป็นผีไม่ใช่เทพแน่ๆ เพราะรู้สึกได้กลิ่นเหม็นตลอดเวลาที่อยู่ในตำหนักทรง แล้วก็รู้สึกขยะแขยงมากๆอยากจะเป็นลม
คือคนที่ชวนไป บอกว่าทายอดีตได้แม่นยำมากมาย แถมบอกอดีตชาติได้ด้วย
ซึ่งบางคนเป็นลูกหลาน ร.5 ยังต้องไปกราบไหว้เลยเพราะว่าเชื่อว่า ทรงร.5 จริงๆ
แล้ว ที่ดิฉันไปดูเพราะ ทางพี่ที่ชวนไปเขาระลึกชาติที่แล้วได้และมั่นใจว่าที่นี่ของจริงแน่นอน เพราะพูดตรงกับที่เขาฝันระลึกชาติได้ แต่พอดิฉันไปถึงกับรู้สึกอึดอัด บอกไม่ถูกก็ทายดิฉันตรงนะคะ (แต่ทำไมรู้สึกอึดอัดใจบอกไม่ถูก)

หลวงพี่บอกว่า หลวงพี่ไม่รู้เหมือนกัน เพราะเน้นศึกษาธรรมะ ไม่ได้เน้นเรื่องฤทธิ์
แต่เท่าที่ทราบมา ทรงเทพมี ทรงผีก็มี คนธรรมหลอกลวงต้มตุ๋นเงินทองโดยอ้างเทพก็มี

พวกอสุรกาย บางตน อยู่มาเป็น 1000 ปี พวกนี้รู้หมดเลยนะ
ว่าคนๆนี้เคยเกิดเป็นอะไรมาก่อน ชาติที่แล้วเป็นใคร บอกได้ละเอียดมาก
แถมมีฤทธิ์เยอะมาก ขอแค่นึกก็สามารถจำแลง แปลงกายเป็นเทพ เป็นใครก็ได้มาหลอกเรา แต่พวกนี้เป็นพวกที่สร้างบุญ ผสมสร้างบาป ยิ่งคนไหนมีบุญบารมีสูงมากๆ คนๆนั้นมักจะมีเทพใหญ่ๆคุ้มครองร่างอยู่ พวกทรงปีศาจอสุรกายจะกด องค์บารมีไม่ให้มาช่วยเหลือโดยให้รับขันธ์ผี ความจริงแล้วทุกคนมีพระ มีเทพคุ้มครองอยู่แล้ว
แถบจะไม่จำเป็นต้องรับขันธ์เลย

บางคนมาเล่าให้ฟังว่า พอใช้ตาทิพย์มองเข้าไปลึกๆ ไม่ใช่เทพ
แต่เป็น ปีศาจ เขี้ยวโง้ว ตาแดงก่ำเลย ไม่ใช่เทพหรอก ปีศาจเลยแหล่ะ


ตั้งแต่ได้คุยกับหลวงพี่ท่านนี้ ดิฉันก็เลิกไปตำหนักเลย
ความจริงเคยไปตำหนักทรงมา 3 ที่เอง แล้วก็เคยไปเจอ ร่างทรง1ท่าน( ไม่ใช่ในตำหนัก)

ตอนนั้นรู้สึกสับสนมีความรู้สึกว่าไม่น่าจะใช่เทพอ่ะคะ
คนอื่นเขาเชื่อ แต่ไม่จำเป็นนี่ที่เราต้องไปเชื่อถาม ถือตาม
ตอนนั้นก็เลยไปถามพระ พอดีพระท่านอาจจะบวชเรียนมาเยอะเลยตอบได้ตรงคำถามก็เลยคิดได้
หลังๆ จะเน้นทำบุญ กราบไหว้บูชา ตามวัดแขก วัดไทย ตามศาลดังๆ ทั่วไปมากกว่า คนอื่นอาจจะมองว่าดิฉันหัวแข็ง แต่ไม่ใช่เลย ถ้าพระที่มีเหตุผลดีมากพอดิฉันเชื่อนะคะแล้วก็ทำตามเอง โดยไม่ต้องมาบอกด้วย

++++++++++++++++++++++
ไม่ได้อยากจะเถียงกับ ลูกศิษย์หลวงพ่อดอกจ๊ะ แต่ ผู้น้อยไม่เชื่ออ่ะคะ

คนที่ชอบสะสมพระ หรือสะสมตำรา หนังสือ (เป็นความชอบส่วนบุคคล)

ทุกคนจะมีความชอบแตกต่างกัน

อย่างดิฉันจะชอบ สะสมหนังสือ กับ แผ่นหนังต่างๆ(ถ้าดิฉันตายไป วิญญาณของดิฉันจะไป แฝงกาย ในการ์ตูนไฟฝัน ควันรักเปล่าคะ ???)

ถาม ถ้าคนที่บ้าพวกพระเครื่องพอตายไป แล้ววิญญาณต้องไปสิงในพระ

แบบนี้คนที่คลั่งรถแข่ง ชอบสะสมรถเป็น 100 คัน

อย่างสุลต่านบูลไน มีรถเป็น 1000 คัน ( พอตายต้องไปแฝงในรถเปล่าคะ)

อย่างบางคนหวงของเล่น ของซาริโอ้ ที่สะสมไว้มากๆ ใครแตะไมได้
(พอตายต้องไปแฝงในตุ๊กตา ซาริโอ้เปล่า)

อย่างหนังแผ่นบางเรื่องดิฉันหวงมาก ไม่ให้ใครยืมเลย( ดิฉันต้องไปเป็นวิญญาณ ผีลูกหมูแฝงในแผ่นหนังเล่มนั้นเปล่าคะ)

อย่างตอนเด็กๆ ดิฉันจะหวงตุ๊กตาบาร์บี้มากๆ เพราะราคามันแพงมากในสมัยนั้น
ถ้าดิฉันตายจะต้องไป แฝงในซากอีเน่าตุ๊กตาบาร์บี้ที่ดิฉันตั้งชื่อว่า ฟลอริด้าเปล่าคะ

อย่างพระ บางองค์แฟนให้มาดิฉันก็หวงมากดิฉันต้องไปแฝงในพระเปล่า?

ดิฉันเชื่อเรื่อง วิญญาณที่หวงสมบัติ(เลยไม่ยอมไปเกิด)
แต่ มันอยู่ที่จิตวิญญาณที่แต่หล่ะดวง เพราะ คนที่ใกล้ตายแล้วปลงได้เขาก็ไปตามทางของเขาเองแหล่ะ แต่ถ้ายังปลงไมได้ ยังมีห่วงอาลัยในโลกก็ยังไม่ไปสู่สุขติง่ายๆ

คนบวชเรียนมาแล้ว หลายคนเขาคิดแบบดิฉันนะคะ
เพราะ คนเรามีกิเลศ มีอาลัยในชาติภพ อาลัยในตัวบุคคล ทรัพย์ เป็นห่วงไม่ให้ไปสู่สุขติ แต่ไมได้หมายความว่า คนชอบเรื่องพระเครื่อง ชอบเรื่องสะสมทอง จะต้องเป็นผีเฝ้าสมบัติทุกคนหรอกคะ

คนที่หวงมากๆ จนตามไปเกาะติดกับของสิ่งนั้น มันมีจริงนานแล้ว
เพราะ วัตถุโบราณหลายชิ้นมี วิญญาณสิงอยู่จริงๆ
บางอย่างก็เกิดจาก การกักขังวิญญาณ ของหมออาคม
เช่น เอาผีแม่นาคลงหม้อ
*** แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า พวกชอบสะสมพระเครื่อง ตายไปจะต้องเป็น วิญญาณสิงสู่ในพระเครื่องทุกคน****

 

<TABLE class=ipbtable cellSpacing=1><TBODY><TR><TD class=post2 id=post-main-8584 vAlign=top width="100%">พระพุทธรูปรอดพ้นจากการทำลายของคลื่นยักษ์สึนามิ
แปลจาก www.dhammatimes.com
นัฐ แปล มณี และ บ้านสายรุ้ง เรียบเรียง





เมือง Galle, ประเทศศรีลังกา
พระพุทธรูปจำนวนมากที่หล่อด้วยปูนซีเมนต์ หรือ ปูนพลาสเตอร์ นั่งนิ่งในท่าขัดสมาธิยิ้มอย่างสงบเย็น ท่ามกลางซากกำแพงอิฐ ปรักหักพัง อันเป็นผลพวงของคลื่นยักษ์สึนามิยังคงหลงเหลือให้เห็นจำนวนไม่น้อย ในจำนวนนั้น มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์สูง 10 ฟุต รวมอยู่ด้วย
พระพุทธรูปที่ตั้งอยู่เรียงรายใกล้ๆกับสะพาน ที่อยู่ริมฝั่งของจุดจอดรถของเมืองศรีลังกาตอนใต้ ให้รอดพ้นจากคลื่นยักษ์ซึ่งพัดพาเอา รถยนต์ จักรยายนต์ และรถบัส เข้าไปรวมกองกันในตึก บาน

หน้าต่างของตู้กระจกที่ประดิษฐานองค์พระพุทธรูปแตกละอียด แต่โครงสร้างของตู้ยังคงแข็งแรงมั่นคงอยู่ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนนับพัน ในบริเวณนั้น และเกือบ 30,000 คนทั่วประเทศศรีลังกา

ผู้คนส่วนใหญ่ที่อาศัยอยู่บนเกาะ ประมาณร้อยละ 70 เป็นชาวพุทธ ที่เหลือเป็นชาวคริสต์ ฮินดู และ มุสลิม ความอดทนและปฏิสัมพันธ์ระหว่างความ

เลื่อมใสศรัทธาในแต่ละศาสนามีสูงมาก หลายคนในเมือง Galle สวดมนต์ให้กับคนที่นับถือศาสนา

อื่น ถึงแม้ว่าจะยังคงมีปัญหาเกี่ยวกับความขัดแย้งเรื่องชนเผ่าทางตอนเหนือของศรีลังการะหว่าง

ชนกลุ่มน้อย Tamil ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวฮินดู กับชนส่วนใหญ่ Sinhalese ซึ่งนับถือศาสนาพุทธเกือบทั้งหมด พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่บนแท่นหิน มีลักษณะนุ่มนวลอ่อนช้อย มือทั้งสองประสานกันเหนือหน้าตักในท่าทำสมาธิ เปลือกตาหนา ริม

ฝีปากเม้มเล็กน้อยอย่างสุขุม ยิ้มในสีหน้า องค์พระพุทธรูปห่มด้วยผ้ากาสาวพัตร์สีเหลืองทอง ด้านหลังประดับด้วยผ้าม่านลวดลายภาพวาดของภูเขา

ส่วนในสถานที่อื่นๆ สัญลักษณ์ทางศาสนาต่างๆได้ถูกทำลายลง หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวและติดตามมาด้วยคลื่นยักษ์สินามิที่โหมเข้าทำลาย

ชายฝั่งของหลายๆประเทศเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ทางตอนใต้ของอินเดีย วัดฮินดูเก่าแก่ที่มีอายุกว่าศตวรรษในมลรัฐ Kerala ได้สูญหายไปในทะเล

และอีกวัด ที่ตั้งอยู่อีกด้านหนึ่งของรัฐได้พังทลายลง ทำให้ศาสนิกชนจำนวนมากที่เข้ามาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาล้มตายจำนวนมาก

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในใจกลางเมือง Galle ผู้คนจำนวนหนึ่งยังคงแสดงความคิดเห็นต่อกรณีที่พระพุทธรูปรอดพ้นจากอำนาจมหาศาลของคลื่นยักษ์ น่าจะเนื่องมาจากพระพุทธรูปเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นด้วยรากฐานอันมั่นคง เฉกเช่นเดียวกับรูปปั้นของนายกรัฐมนตรีในอดีตของ Galle และรูปปั้นของทหารหาญผู้ซึ่งเสียชีวิตในสงครามการสู้รบกับกบฏ Tamil
"พระพุทธเจ้าเป็นบุคคลผู้ซึงได้รับพรอันประเสริฐ..ดังนั้นรูปปั้นของพระองค์จึงได้รับการปกป้องคุ้มครอง" เป็นคำกล่าวของ U.M. Husain คนงานชาวมุสลิม ผู้หนึ่งที่รอดพ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมด้วยการปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนโต๊ะ และกลิ้งตัวขึ้นไปบนผนังกำแพงเมื่อโต๊ะถูกน้ำพัดพาไป ชาวพุทธ เชื่อในเรื่องของการห้ามฆ่าสัตว์ตัดชีวิต
ชาวพุทธบางคนกล่าวว่า เหตุกาณ์แผ่นดินไหวที่อินโดนีเซียอันเป็นต้นกำเนิดของคลื่นมหันตภัยครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจากเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สัตว์จำนวนมากถูกฆ่าตายเพื่อการเฉลิมฉลอง พวกเขายังกล่าวต่ออีกว่า เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ในศรีลังกา เมื่อปีที่แล้วก็เกิดขึ้นระหว่างสิ้นสุดเทศกาล รอมาดอน อันเป็นเทศกาลถือศีลอดของชาวมุสลิมเช่นกัน คลื่นยักษ์ได้ทำลายกำแพงโดยรอบของวัดพุทธแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งลงอย่างราบคาบ อุปกรณ์ตกแต่งภายในต่างๆภายในวัด ถูกคลื่นทำลายและพัดพาไป ในขณะที่พระพุทธรูปองค์เล็กๆซึ่งตั้งอยู่ในกำแพงกระจกยังคงรอดพ้นจากการถูกทำลาย ผู้ที่พักอาศัยอยู่ในวัดกล่าวว่า ยังมีพระพุทธรูปอีกองค์หนึ่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลาย โดยมีรถบัสคันหนึ่งล้มลงและปิดกั้นองค์พระพุทธรูปไว้ และรับแรงกระแทกอันเกิดจากคลื่นนั้นแทน ในซอกมุมหนึ่งของตัวเมือง
ประชาชนผู้ศรัทธาในศาสนาจำนวนหนึ่งหลบอาศัยอยู่ในวัดฮินดุ ที่มีกำแพงปกคลุมไปด้วยต้นมอส และมีรูปปั้นของเทพเจ้าที่เป็นสัตว์ต่าง ๆ กลิ่นธูหอมอบอวลทั่วบริเวณที่มืดสลัว มีสุนัขขี้เรื้อนนอนขดตัวหลับอยู่ที่มุมหนึ่งของห้อง
Nimala Ubeysiri ชาวพุทธผู้ซึ่งแวะเวียนเข้ามาสักการะวัดฮินดูทุกสัปดาห์กล่าวว่า การรอดพ้นจากคลื่นสึนามิครั้งนี้เป็นเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ "สิ่งที่เราอยากจะบอกก็คือ ประชาชนในประเทศควรที่จะสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน และลืมเรื่องความแตกต่างระหว่างกันเสีย" เธอกล่าว

<!--IBF.ATTACHMENT_8584-->

<!-- THE POST -->​

</TD></TR><TR><TD class=formbuttonrow noWrap>


</TD><TD class=formbuttonrow noWrap><!-- PM / EMAIL / WWW / MSGR -->


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ดิฉันค้นภาพพระพุทธรูปในประเทศไทย

ที่รอดพ้น จากการทำลายในซึนามิไม่เจอ
(แต่มีคนส่งเมล์มาให้ดูแล้ว ยังหาไม่เจอ)

รู้แต่ว่ามี ศาลเจ้าจีนในภูเก็ต( ที่คนให้สัมภาษณ์ว่า ตอนเกิดเรื่องวิ่งหนีไปหลบในศาลเจ้าแล้ว สังเกตุได้เลยว่าคลื่นก็สงบลงอย่างประหลาด ไม่พัดเข้ามาในศาลแต่รอบๆ แหลกหมด)เรื่องนี้ ออกทีวีด้วยนะ เป็นศาลเทพทางจีนนี่แหล่ะ

รวมไปถึง พระพุทธรูปอีกหลายองค์ ที่ไม่ได้รับอันตรายจากซึนามิเลยสักนิด

ถ้าพระพุทธรูป (เป็นแค่เศษปูน เศษหิน) ทำไม ไม่ถล่มแตกสลายไปแบบ บ้านปูนทั้งหลัง โรงแรม ที่ก่อจากอิฐ และ ปูนหล่ะคะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD background=/images/news/h_title.jpg height=54>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=left>เหลือเชื่อ... สิ่งที่ซึนามิไม่อาจทำลายได้ </TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD background=/images/news/bg_news.jpg><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" align=center border=0><TBODY><TR><TD style="HEIGHT: 20px" align=right colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=15></TD><TD background=/images/news/f_t.jpg></TD><TD width=15></TD></TR><TR><TD width=15 background=/images/news/f_l.jpg></TD><TD bgColor=#ffcb99>

​

</TD><TD width=15 background=/images/news/f_r.jpg></TD></TR><TR><TD width=15></TD><TD background=/images/news/f_b.jpg></TD><TD width=15></TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR><TR><TD colSpan=3> </TD></TR><TR><TD class=fontdetail align=justify colSpan=3>

เหลือเชื่อ... สิ่งที่ซึนามิไม่อาจทำลายได้ ​

​

​

​

;aa21

​

​

​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ผมเงียบมาหลายวันแล้ว
ขอแสดงความเห็นบ้างเนาะ
บอกก่อนเลยนะครับว่า ถ้าจะให้ผมเชื่อระหว่างพระเกษม กับหลวงปู่ หลวงพ่อทั้งหลาย ผมเลือกนะครับว่าผมนับถือ หลวงปู่หลวงพ่อมากกว่า
ผมอยากรู้เกี่ยวกับตอนที่พระอุปคุต กำราบพญามารน่ะครับ หลังจากพระอุปคุตมหาเถรกำราบพญามารแล้ว ท่านขอให้พญามารท่านนิมิตรูปกายของพระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระสาวก แสดงแก่พระอุปคุตมหาเถรแลพระทั้งหลายได้เห็นนั้น แล้วพระท่านได้พร้อมใจกันกราบ อันข้อนี้ แสดงว่าพระอุปคุตมหาเถรท่านยังมีจิตยึดติดนิมิตอยู่หรือเปล่าครับ แค้ถ่ทน่ะครับ ไม่ต้องมาสอนผมหรอกครับยังพอใจในคำสอนของหลวงปู่หลวงพ่อทั้งหลายอยู่ครับ
เอ่อแล้วงั้นการที่พิธีทางพระราชวัง ยังมีการใช้พระพุทธรูป พระแก้วมรกต อื่นๆ นั้นแปลว่าท่านก็ไม่ก้าวหน้าสิครับ ยึดมั่นถือมั่น ทำไมไม่ลองแนะท่านหน่อยล่ะครับ
อืมๆๆ ใครพอมีพระ พระราชทานบ้างมั้ยอ่ะครับจะขอเอาไปถวายพระเกษม ว่าท่านจะทำลายของพระราชทานมั้ย (หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ) อืมๆๆ ที่จริงอยากถามว่าการที่ภิกษุ ทำลายของของญาติโยมผู้ที่เอามาถวายนั้น โดยที่ญาติโยมไม่รู้ หรือไม่ทราบนี่เป็นการผอดหรือไม่ เพราะวัตถุทั้งหลายนั้น ถือเป็นสมบัติของพระศาสนา ไม่ใช่ของพระภิกษุรูปหนึ่งรูปใด ก็หามิได้ อย่างนี้ผิดมั้ยอ่ะครับ

อ๊ะๆๆ ใครที่จะมากัดผมน่ะ ย้อมไปถามตัวเองก่อนเลย ไม่ยึดแล้วสะเออะ ร้อน กังวล แทนทำไมหว่า มันก็แค่คำที่ปรุงแต่งขึ้นมานี่นา จะมาปรุงแต่งสืบต่อกิเลสมาเพื่ออะไร เราบอกสิ่งเหล่านี้กับคนที่เห็นด้วยกับเราเฉยๆ ท่านที่กำลังแยกเขี้ยวใส่ผมน่ะหุบไปเลย รูปของท่านเปลี่ยนจากคนไปเป็นเดรัจฉานแล้วนา เอ่ออ ไม่ต้องมากล่าวกะเราต่อเรากล่าวกับเพื่อนที่เห็นด้วยเท่านั้น
และขอร้องขี้เกียจอ่านแล้วอ่า ที่ยกเอามาจากพระไตรปิฏกน่ะ เยอะขี้เกียจแปล พ่อเถรใบลานเปล่าเอ๊ย รำคาญ แหมยึดเหลือเกินนะตำราน่ะ ไหนว่าไม่ยึดไง

สุดท้ายใครว่างช่วยบอกพระบางรูปทีว่านินิตน่ะ เห็นแล้วเชื่อเหรอว่าตัวเองเห็นถูก ถึงเอามาสอนชาวบ้านเขา ยึดในนิมิค แล้วมาสอนผู้อื่นว่าอย่าไปยึด ไม่ดีมั้งยังงี้

 

ผมว่าถ้าใครตายไปแล้วต้องไปสิงอยู่ในตุ๊กตาเฮลโหล คิตตี้นี่คงดูทุกลักทุเลพิลึกเลยนะครับ ..แต่ว่าเรื่องไฟฝัน ควันรักนี่สามารถเอามาเช็คอายุได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ ผมคุ้นๆ นะ แต่เหมือนว่าจะเกิดไม่ทันครับ (แซวเล่นๆ นะครับอย่าเพิ่งเคืองผมล่ะ) >_<"

ผมพยายามพิมพ์ตอบด้วยใจที่เป็นกลางที่สุดแล้ว จะไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์นะครับ ขอมาดูการกระทำของตัวดีกว่า อยากให้ทุกๆ คนหมั่นฝึกภาวนากันมากๆ ยิ่งใครที่เจริญมหาสติปัฎฐาน 4 ควบคู่ไปกับพรหมวิหาร ผมยิ่งต้องอนุโมทนาบุญด้วยเลย ในกรณีนี้อยากให้เจริญพรหมวิหาร 4 กันให้มากด้วย ..ผมเริ่มเข้าใจชัดขึ้นแล้วว่าทำไมการจะเป็นพรหมได้ต้องมีสิ่งที่เรียกว่าอุเบกขาอยู่ด้วย

สิ่งที่ผมพยายามชี้ให้เห็นหากเข้ามาโพสตอบในกระทู้ที่มีความขัดแย้งทางความคิดหรือความเชื่อ (ซึ่งนานๆ ทีผมจะหลุดไปอยู่ในกระทู้นั้น) ผมขอยืนยันตามเดิมว่า อยากให้ทุกคนเจริญภาวนามากๆ ใช้ความรู้ที่ได้จากสุตมยปัญญาและจินตมยปัญญาแต่น้อย ..เพราะเมื่อเราได้ความรู้จากภาวนามยปัญญาแล้ว สิ่งที่เคยได้รู้ได้เห็นและได้คิดตรึกตรองตามสุตมยปัญญาและจินตมยปัญญาอาจจะไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องก็ได้

ผมเรียนตามตรงว่าจริตผมไปชอบพอกับแนวปฏิบัติของหลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน หลวงปู่แหวน และชอบตามแนวทางของหลวงพ่อฤาษีอย่างบอกไม่ถูก ดังนั้นผมคงยึดตามแนวทางนี้ไปจนกว่าจะได้ "อะไรดีๆ" ที่ไม่ทำให้เสียชาติเกิดมาแล้วเป็นมนุษย์ในชาตินี้บ้าง และทุกครั้งที่ผมกราบไหว้พระพุทธรูปผมจะมีความสุขและทำให้อยากนั่งสมาธิเป็นที่สุด ผมมองไปที่องค์พระ ผมไม่ได้มองไปที่เหล็กหรือดินปั้น แต่ผมจินตนาการไปว่านี่คือพระพุทธเจ้า ซึ่งผมไม่ทราบหรอกว่าท่านมีลักษณะอย่างไร แต่รู้ว่านี่คือสัญลักษณ์แทนตัวท่าน

เวลาผมไหว้ทุกครั้ง ผมจะกราบสามที ครั้งแรกนึกในใจว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ พระพุทธเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า ครั้งที่สอง ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ พระธรรมเป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า ครั้งที่สาม สังฆังสรณัง คัจฉามิ พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของข้าพเจ้า ความรู้สึกที่ได้กราบลงไปเหมือนผมกราบแทบเท้าท่านจริงๆ ครับ เพราะในชีวิตนี้ทางธรรม ถ้าไม่ได้พึ่งพระรัตนตรัยแล้วผมคงหาที่พึ่งอื่นอีกไม่ได้จริงๆ

..ที่ผมถามไปในตอนแรกว่าหลวงพ่อเกษมท่านเลือกสอนแต่บัวเหล่าใด เนื่องด้วยความเป็นห่วงว่าธรรมที่ท่านใช้สอนนั้นอาจจะไม่เหมาะกับบัวทุกเหล่า สิ่งที่เราควรทำในตอนนี้ไม่ควรไปปรามาสท่าน แต่เราควรรวมตัวกันไปถามพระอริยสงฆ์ที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างหลวงตามหาบัว หลวงพ่อจรัญ ฯลฯ หรือจะให้ดีที่สุดคือไปทูลถามสมเด็จพระสังฆราชเกี่ยวกับปัญหาเรื่องนี้ว่าจะมีข้อแนะนำอย่างไรในการปฏิบัติตัวของชาวพุทธ ผมเชื่อว่าแต่ละคนคงปรารถนาไม่เหมือนกัน เช่น บางคนอยากขึ้นสวรรค์ บางคนอยากไปเป็นพรหม บางคนอยากกลับมาเกิดเป็นคนอีก บางคนอยากไปนิพพานเลย ..ซึ่งการปฏิบัติเพื่อไปให้ไปถึงแต่ละภูมิก็ต่างกันแล้ว เมื่อเรามีเป้าหมายและรู้ที่จะไปของเราแล้ว เราก็ปฏิบัติมุ่งตรงไปทางนั้นเลยจะดีที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม สุดท้ายทุกๆ คนล้วนมีเป้าหมายเดียวกันคือนิพพานแต่จะช้าหรือเร็วเท่าไรเท่านั้นเอง อย่าลืมว่าใครจะไปถึงนิพพานหรือไปให้ถึงแต่ละเป้าหมายระยะสั้นของตนได้ ล้วนต้องพึ่งตัวเองดังพุทธพจน์ที่ว่า อัตตาหิ อัตโนณาโถ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แม้พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ตั้งแต่สมเด็จองค์ปฐมมาจนกระทั่งพระพุทธเจ้าโคดม จวบจนอริยสงฆสาวกทุกองค์ แม้แต่หลวงพ่อที่ผมนับถือคือหลวงปู่แหวน หลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อฤาษี หรือว่าจะเป็นหลวงพ่อเกษมเองก็ตาม ทุกท่านทำได้แต่เพียงชี้แนะแนวทางในการปฏิบัติตามรอยของเหล่าพุทธวงศ์ ส่วนการที่จะสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการปฏิบัติของเราเอง ว่าตั้งใจมากน้อยแค่ไหน (ตั้งใจอย่างเดียวไม่พอแต่ต้องไปให้ถูกทาง นั่นคือต้องถูกต้องตามหลักอริยมรรคมีองค์แปดด้วย) วันนี้รู้สึกเหมือนผมจะเขียนดีแฮะ (คิดไปเองป่าวหว่า เพราะเขียนไปเขียนมาเหมือนกำลังนั่งเขียนเรียงความอยู่เลย ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มาร่วมสนทนาธรรมครับ

 

ขอกราบต่อหน้าพระพุทธ อันเป็นตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากข้าพระพุทธเจ้าล่วงเกินต่อพระรัตรตรัยไปจะด้วย กาย วาจา ใจ ขอกราบโปรดอดโทษยกโทษ แก่ข้าพระพุทธเจ้าตราบเท่า เข้าถึงพระนิพพานด้วยเถิด

 

ขอกราบต่อหน้าพระพุทธ อันเป็นตัวแทนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากข้าพระพุทธเจ้าล่วงเกินต่อพระรัตรตรัยไปจะด้วย กาย วาจา ใจ ขอกราบโปรดอดโทษยกโทษ แก่ข้าพระพุทธเจ้าตราบเท่า เข้าถึงพระนิพพานด้วยเถิด......ด้วยเพราะ ไม่ค่อยพอใจในคำสอนนานแล้ว อีกอย่างกระทู้นี้รู้ตัว พูดมาก จนคนหมั่นไส้แน่ๆ

 

ใครหมั่นไส้พี่ผมไม่รู้ แต่ผมชอบพี่นะ เพราะเพียงแค่อ่านที่พี่พิมพ์มาผมคิดว่าพี่เป็นคนตรงดี และที่สำคัญคือเป็นคนดีมากๆ ด้วย และทีสำคัญชอบการ์ตูนญี่ปุ่นเหมือนๆ กันเลย ชอบตรงที่ว่าคนที่คลั่งตุ๊กตาซานริโอ้มากๆ ตายไปแล้วอาจต้องไปสิงอยู่ในตัวตุ๊กตาซานริโอ้จังครับ คิดเล่นๆ ว่าถ้าตุ๊กตาเฮลโหลคิตตี้มีวิญญาณแค้นของเจ้าชักกี้แฝงอยู่แล้วมันจะหลอนขนาดไหน ฮา

 

ทุกคนมีทั้งด้านเลว และ ด้านดีในตัวนะน้อง

ในด้านเลวของพี่ก็มีนะ เยอะด้วย



ความจริง สมาชิกในเวบพลังจิตหลายคน จะมีจริตต่างกันอยู่แล้ว

บางคนก็นับถือแต่ทางหลักธรรม ไม่สนใจทาง ฤทธิ์

บางคนก็ชอบทางฤทธิ์ ชอบทางฝึกมโนมยิทธิ

แต่พี่ไม่ชอบทางฤทธิ์ ไม่เคยไปฝึกอะไรเลย
พี่ชอบทางเทพ กับ ทางหลักธรรมะปนกันๆเลยนะ

พี่ชอบศึกษาประวัติเก่าๆ ของทางพุทธกับทางอินเดียมากๆ
และก็คิดแต่จะอธิษฐานขออย่างเดียว ไหว้พระก็คือขออย่างเดียว ขอให้รวย ขอให้หมดเคราะห์ ขอให้เจอคู่ที่ดี ขอให้มีลูกที่ดี ขอให้มีแต่ความเจริญ

เวลาไหว้เทพก็คือ ขออย่างเดียว อยากรวยให้ไหว้แม่ลักษมี

อยากเรียนเก่ง ก็ไหว้พระพิคเณศ

อยากเล่นดนตรีเก่ง อยากจะเขียนตำราเก่งๆก็ไหว้แม่สุรัสวดี

อยากรบเก่ง ก็ไหว้ พระขันธกุมาร

พี่สนใจธรรมะ ไม่ใช่เพราะเป็นคนที่ธรรมะ ธรรมโมเลย
ไม่เคยคิดจะเข้านิพพานเลยนะ คนในเวบนี้หลายคนคิดไปไกลมากเลยนะ

พี่เข้ามาอ่าน ถึงรู้ไง พี่หวังน้อยมากเลยนะถ้าเทียบกับอีกหลายคนในเวบเพราะหลายคนอยากเป็นพุทธภูมิ อยากเป็นนางแก้ว อยากบวชอยากนิพพาน แต่พี่ในใจแค่ ขอให้รวย ขอให้สมหวังทุกอย่าง

พี่สนใจเรื่องประวัติศาสตร์ อารยธรรมโลกมากๆ เรื่องธรรมะ ถ้าพระสอนแล้ว รู้สึกว่ามีเหตุผลดีพี่ก็จะฟัง

ช่วงที่พี่ บ้าๆ ไปสนใจเรื่องเรื่อง ตำหนักทรง ไม่ใช่เพราะชอบทางนี้นะคือจะไปขอพรอย่างเดียวเลย พี่เจอพวกร่างทรงเก๊มาแล้ว พวกนี้หลอกเก่ง โกหกเก่งมาก พระที่เทศน์ให้บริจาคเงินเยอะแล้วจะได้บุญเยอะๆก็มีเทศน์ว่าสตรีเป็นตัวมารขวางทางนิพพานก็มี

พี่โชคดีแค่ ตรงที่ว่าพี่ไม่ค่อยเชื่อใครง่ายๆ จะพระ จะอาจารย์ร่างทรงไหน
ถ้าไม่มีเหตุผลมากพอ พี่ก็ไม่เชื่อถือ

คนที่ครูอาจารย์ เวลาจะสอนใครต้องคิดก่อนพูดนะ
เพราะคนที่พูดจาฉลาดน่าเชื่อถือ เวลาไปสอนอะไรผิดๆ คนจะเชื่อกันเยอะมาก แต่ถ้ารู้จริง เข้าใจอย่างถูกต้อง ก็คือได้บุญเยอะ



(||)คนที่พูดจาโน้มน้าวใจคนเก่ง หรือ มีลีลาการพูดดึงดูดใจคน
ต้องศึกษาเรื่องที่จะพูดด้วยว่า ควรพูดแค่ไหน หรือ พูดแล้วมีผลตามมามากไหม เพราะถ้าบางคนเชื่อแล้วหลงไปทำตาม อาจจะตายเอาได้นะ

ถ้าอันไหนเรารู้ตัวว่าคิดไม่เหมือนคนอื่นเลยก็ไม่ควรพูด
เพราะ มันจะไปขวางทางธรรมะของคนอื่นได้

พี่มีเพื่อนที่นับถือ พระที่วัดธรรมกาย
เมือก่อนไม่เคยตั้งใจเรียนเลย นิสัยไม่ดีเลยด้วย
พอไปสนใจธรรมะ แล้วไปบวชที่วัดนี้
กลับมาเป็นคนดีมาก นิสัยดีขึ้น เลิกดื่มเหล้า ไม่เทื่ยวกลางคืนเลยนะ
ตั้งใจเรียนมากด้วยแต่ หลายคนจะชอบไปตำหนิเรื่องระวังจะเจอหลอกเงินบริจาค ไม่มองด้านดีเลย

แต่พี่ไม่อยากเอาเรื่องนี้มาพูดเพราะถ้าพูดแล้ว เขากลับไปเลวแบบเดิมมันก็บาปเราด้วย///ในด้านดีมี ///ในด้านไม่ดีก็มี



(((มันเหมือน กรณีของ หลวงปู่เกษม ที่พี่เห็นหลายด้านที่ดีและไม่ดีเลย แต่ไม่เคยพูด จนวันนี้มีข่าว นสพ ลง ก็เลยขอพูดให้หมดเลยว่าคิดยังไง)))

ที่หลวงพ่อสอนผ่าน VCD เรื่อง ผี ทรง เจ้า บ้า

หลายอย่างดีอยู่นะ แต่พอพูดเรื่องแม่ธรณีพี่เลยเลิกเชื่อทันทีเลย
เพราะในซีดี เรียก "นังธรณี" ใช้คำพูดไม่เหมาะสมมาก


;aa21;8

 

(||)ใช่คะ คนที่ฝึกฤิทธิ์ เพื่อที่จะมีตาทิพย์

หลายคนเห็นแฟนนอกใจบ้าง เห็นนู้น เห็นนี่ต่างๆมากมาย


แต่ก็ไม่ใช่เรื่องจริงเพราะ จิตไม่สะอาดพอ

 

สาธุเพิงได้เห็นเป็นบุญตา ขออนุโมธนาในแรงบุญอันนี้ด้วยสาธุ

 

สิ่งที่ท่านทำก็ไม่ได้หมายความว่าท่านไม่เคารพพระรัตนตรัย
แล้วพระรัตนตรัยคืออะไร

พระพุทธ- พระพุทธเจ้า (ไม่ใช่พระพุทธรูปแน่นอน)
พระธรรม- พระธรรมที่ท่านสอน
พระสงฆ์- สงฆ์ที่บริสุทธิ์

เนี่ยหละน้า......คนสมัยนี้ อะไรๆๆก็เชื่อตามสื่อกันไปหมด
ก่อนจะตำหนิท่านขอให้พิจารณาให้ดีก่อน.......