ฝันไปถึง เมืองบังบด เมืองผี แดนลับแล แล้วแต่จะเรียก

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jarujun, 21 มกราคม 2015.

  1. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ขึ้นเรือน ไปทั้งที่ตัวยังเปียก โดยมินำพากับรอยน้ำที่ตนทิ้งไว้บนกระดาน
    แล้วก็ให้ชะงักไป เมื่อพบกับผู้ที่เฝ้ารอบนเรือน

    สิงห์มองเมียของท่านพระยาด้วยใบหน้าเรียบเฉย มิได้ยกมือไหว้ เพียงค้อมศรีษะ
    ให้เพียงนิด แล้วเหลือบมอง ลูกของท่านพระยาที่เคยเอ็นดูในฐานะน้องชายร่วมบิดา
    แต่ก็มิมีรอยยิ้มให้

    "นั่งก่อนซิเสือ จักอยู่ค้ำหัวพ่อเจ้าไปอีกกี่เพลา"
    เมียท่านพระยาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นแกมประชด

    สิงห์กล่าวตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉยโดยไม่หันไปสบตา
    "ข้า ขุนสิงห์ บัดนี้แม้มิได้แต่งเครื่องแบบทหาร แต่ก็อยู่ในราชการ
    ของเจ้าหอหน้าแห่งเมืองสองแคว หากท่านพระยามีการใด ขอท่านจงเร่ง
    สั่งการเถิด ข้าจักได้พักเสียที หากท่านจักมายึดเรือนพักคืน ข้าจักไปพักที่
    โรงช้างกลาง "

    พระยาสุพรรณบุรี เม้มปาก แล้วหันไปสบตาเมียท่าน ที่ทำหน้ามิพอใจ จนเมีย
    พระยามิกล้าโต้ตอบ

    " ไปผลัดผ้าในห้องเถิด เสือ ข้ามีราชการจักปรึกษา หวังว่าเจ้าคงมิรังเกียจ
    กะไรเสีย ก็เคยกินข้าวสุกที่บ้านข้า จงเติบใหญ่ เป็นถึงท่านขุนแห่งเมืองสองแคว"
     
  2. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขุนสิงห์ได้ฟังก็ให้ละอายใจ แลสะกดอารมณ์ตน หากมิเข้าถ้ำเสือ คงจักมิได้ลูกเสือ
    หากอยากทราบความว่าพระยาสุพรรณบุรี คิดการใด คงจักต้องยอมโอนอ่อนผ่อนตาม

    สิงห์เดินจักเข้าห้องพักของตนเพื่อผลัดผ้า ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าของน้องชายวิ่งตามมา
    สิงห์ไม่หันหลังไปมอง เปิดประตู แต่มิได้ปิดตาม ปล่อยให้น้องชายข้ามธรณีประตู
    เข้ามาในห้อง

    "ปิดเสีย" สิงห์เอ่ยกับน้องชาย

    "ขอรับ พี่เสือ"

    ขณะที่สิงห์กำลังผลัดผ้า น้องชายก็พูดไม่หยุด คำพูดที่พรั่งพรูนั้น สิงห์คิดว่า
    คงมิได้เสแร้ง ด้วยน้องชายยังเยาว์นัก

    "พี่เสือ ขอรับ ข้าขออภัยที่ไปขัดจังหวะดาบ จนท่านพ่อต้องโกรธ
    ส่งพี่เสือไปเสียไกล ข้าร้องไห้เสียใจหลายคืน จนผ่ายผอม
    ท่านพ่อว่า พี่เสือไปฝึกเป็นทหารรับใช้พ่ออยู่หัว เมื่อข้าโตข้าจักเก่งให้ได้
    อย่างท่านพ่อ แลพี่เสือ ท่านพ่อว่า พี่เสือเก่งนัก จนได้เป็นท่านขุน
    พอข้ารู้ข่าวพี่ ท่านจึงยอมให้มาพบพี่หวังว่าท่านพี่คงอภัยให้ข้า พี่เสือ
    อย่างไรเสีย เราก็พี่น้องกันนะขอรับ"
    ปลายเสียงอ่อนลง อย่างสำนึกผิดจริงๆ

    สิงห์ผลัดผ้าจนเสร็จ แอบชำเลืองมองน้องชายที่ยืนคอตก เพราะสิงห์ไม่ตอบเสียนาน
    แล้วก็อดสงสารมิได้
    " มิใช่ความผิดของเจ้าหรอก เป็นการของผู้ใหญ่ เจ้ายังเด็กนัก"

    น้องชายมีท่าทีสดชื่นขึ้นทันใด

    "กระนั้น พี่เสือจักกลับไปอยู่เมืองสุพรรณบ้านเราหรือขอรับ เรือนของพี่
    ท่านพ่อยังมิได้ยกให้ใคร แลยังสะอาดงดงามเสมอนะขอรับ"

    สิงห์ถอนหายใจอีกครา

    "พี่ยังไม่รู้วันหน้า แต่พี่มีหน้าที่ต้องรักษาสัตย์สาบาน เพลานี้คงยังกลับมิได้"

    น้องชายได้แต่พยักหน้า ด้วยเกิดเป็นลูกทหาร ย่อมทราบดีว่า หน้าที่มาก่อนเรื่องใดทั้งสิ้น
     
  3. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ที่แต่งตัวเรียบร้อยในชุดทหารองครักษ์ ของเจ้าหอหน้า ก็ออกมายืนอยู่หน้า
    พระยาสุพรรณบุรี มองน้องชายที่รีบถลาลงไปนั่งระหว่างท่านพระยาและเมีย

    แล้วนั่งลงกับพื้นในท่าขัดสมาธิ ด้วยท่าทีเรียบเฉย

    "ขออภัยท่านพระยาแลท่านหญิง ข้าอยู่ชายแดนเสียนาน จักลืมกิริยามารยาทอันงาม
    ไปบ้าง ต้องขออภัย บุญคุณที่ท่านพระยาเคยชุบเลี้ยง ข้ามิได้หลงลืม แต่ลูกผู้ชาย
    ชาติทหาร หน้าที่แลเกียรติสำคัญยิ่งนัก บัดนี้ข้าได้ตั้งสัตย์สาบานจักภักดีกับเจ้าหอหน้า
    แลพ่ออยู่หัว ขอให้ท่านพระยาจงละเว้นโทษให้ข้า ที่มิอาจตอบแทนบุญคุณได้ ด้วย
    เรื่องชาติเรื่องแผ่นดินสำคัญนัก"

    ท่านพระยาสุพรรณบุรี นิ่งขึง มิกล่าวอันใด เป็นนาน
    "กระนั้นหรือ อย่างไรเสีย ที่ข้ากับเมียมาในวันนี้ ก็เพียงอยากให้เจ้าตรึกตรองให้ดี
    จักเป็นทหารนั้น ไม่ได้เพียงมีฝีมือเชิงดาบเชิงมวย จักต้องมีคนคอยผลักดัน จึง
    จักได้เป็นแม่ทัพนายกอง หากเจ้ามาอยู่กับข้า ก็ถือว่าได้ตอบแทนข้า ที่ส่งเจ้าไปฝึก
    กับขรัวอินทร์ จนได้เป็นศิษย์เอก ก็มิใช่ข้ารึ ที่ผลักดันเจ้า"

    สิงห์ตอบโดยมิได้แสดงอารมณ์ใดทั้งสิ้น
    "ข้าเป็นทหาร เพียงคำสัตย์สาบานกับขรัวอินทร์ เป็นท่านขุนเพียงคำสัตย์สาบานกับ
    เจ้าหอหน้า ทรัพย์สิน เกียรติยศใด ข้ามิได้นำพา อันชีวิตข้ามอบให้ขรัวอินทร์
    เมื่อขรัวอินทร์มอบข้าให้แผ่นดิน ข้าก็มอบชีวิตให้แผ่นดิน"
     
  4. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ท่านพระยาเห็นท่าขุนสิงห์ แล้วตรึกตรองว่า
    "เสือ เจ้าเปลี่ยนไปมากจริง ใยดูโตขึ้นเพียงนี้ ข้าปล่อยเพลาเนิ่นนานไป จักเสียการที่วางไว้"

    แม้นใจคิดอีกอย่าง แต่ปากกลับพูดอีกอย่าง
    "เอาเถิด แต่เพลานี้ ข้าอยากให้เจ้ามาช่วยงานข้า กะไรเสียก็เคยได้ชื่อว่าเป็นพ่อลูก"

    สิงห์เม้มปากอย่างขัดใจ แต่ใช้ความเยือกเย็นเข้าข่ม
    "หากการที่ท่านพระยาวาน ไม่ขัดต่อการของเจ้าหอหน้าแลพ่ออยู่หัว ข้ายินดีรับใช้"

    ท่านพระยาให้แปลกใจนัก เพียงเพลาไม่นาน ใยสิงห์จึงภักดีต่อเจ้าหอหน้าเพียงนี้
    คงจักต้องตรึกตรองให้รอบคอบ หากจักทำการอันขัดต่อเจ้าหอหน้า ยังขุนแก้ว
    ที่มีท่าทีแทบจะถวายชีวิตเพียงพูดอ้างพระนามเจ้าหอหน้าในทางให้เคลือบแคลง

    เป็นที่เลื่องลือถึงความภักดี ของทหารองครักษ์ แลทหารที่ได้ติดตามไปรบกับเจ้าหอหน้า
    ทรงมีดีกะไร ใยจึงผูกสมัครใจบริวารไว้เยี่ยงนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2017
  5. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    "ข้าเดินทางมาหลายเพลา คุณหญิงแลน้องเจ้าเหนื่อยนัก จักพักที่เรือนนี้
    เจ้าจักขัดหรือไม่ ให้ท่านขุนทั้งสาม ย้ายไปพักที่เรือนพ่อหมอพราหมณ์"

    สิงห์เงียบไปครู่ แล้วตอบไปตามใจคิด
    "เพลานี้ ข้าผูกสมัครใจกับเจ้าช้างน้อยบุญทิ้ง ด้วยสงสารที่ขาดพ่อเหมือนข้า
    หากท่านพระยามิขัด ข้านั้นถูกลงโทษให้มารับโทษที่กรมคชบาล
    ข้าอยากพำนักที่เรือนพ่อหมอ อยู่กับเจ้าช้างน้อยไร้เดียงสาคงจักเหมาะกับข้า"

    สิงห์ไม่รอท่านพระยาตอบรับ ลุกพรวดพราดขึ้น ลงเรือนไปทันใด
    สุดที่ท่านพระยาจะทัดทาน ได้แต่มองสบตากับคุณหญิงเมียท่านพระยา

    น้องชายรีบวิ่งตามสิงห์ลงเรือนไป อย่างอยากรู้อยากเห็น ท่านพระยาพยักหน้าให้
    ท่านขุนคนสนิท รีบตามลงเรือนไปเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2017
  6. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์เดินลงเรือนอย่างว่องไว แต่เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่รีบลุกลี้ลุกลนตามมา ตามด้วยเสียง
    ฝีเท้าเบาแต่หนักแน่น ก็เลยชะลอฝีเท้าลง จนน้องชายตามมาทัน
    " พี่เสือ ขอรับ ขอข้าไปดูเจ้าบุญทิ้งด้วยทีเถิด"

    สิงห์ไม่ตอบกะไร เหลือบไปทางขวา เมื่อเห็นซาเงตามมา ก็พยักหน้าให้
    ซาเงรีบเข้ามา สิงห์ส่งสายตาให้ซาเงทางด้านหลัง ซาเงรู้ใจ ก็รีบเดิน
    ไปทางท่านขุนคนสนิทของท่านพระยา

    น้องชายรีบวิ่งตามมา ท่าทางอิดโรย
    "พี่สิงห์ขอรับ เดิยช้าลงหน่อย ข้านั่งม้ามาทั้งวัน ระบมไปทั้งตัว"

    สิงห์ไม่กล่าวกะไร อุ้มท่านชายขึ้นหลัง
    "ขอบพระคุณ ขอรับ"ท่านชายเอ่ย แล้วซบหน้าลงบนไหล่สิงห์

    สิงห์ยังเดินไม่ถึงเรือนพ่อหมอ ท่านชายที่กอดคอสิงห์ ก็หลับพับซบสิงห์เสียแล้ว
     
  7. รชฏ

    รชฏ ไปนิพพานตามหลวงพ่อ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +427
    ไม่ได้เข้ามาสิบกว่าปีดีใจจัง^^สาธุเรื่องราวดีๆด้วยจ้า
     
  8. saramander

    saramander สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +2
    อ่านมาถึงหน้าสุดท้ายสักที เรื่องราวสนุกมากครับ เล่าได้เห็นภาพเลย
     
  9. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ขอบคุณทุกท่านที่มากดไลค์ค่ะ
     
  10. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์แบกท่านชายน้อยบนหลัง ใจก็พลันรู้สึกถึงความเป็นพี่เป็นน้องของตน
    แม้ท่านชายจะมิใช่น้องชายร่วมสายโลหิต แต่ก็ให้นึกเอ็นดูมิได้

    จนมาถึงบ้านพ่อครู เห็นท่านขุนทั้งสามนั่งระเกะระกะ อยู่บนเรือน มองมาทางสิงห์
    ก็ค่อยๆ พยักหน้าให้ซาเงที่เดินตามมากับท่านขุน ที่ซาเงคงจัดการให้กลับไปมิได้
    จึงได้ชั่งใจว่า พระยาสุพรรณบุรี คงเข้มงวดจริงดังคำลือ จึงพยักหน้าให้ท่านขุน
    นำท่านชายบนหลังสิงห์ อุ้มกลับไปคืนพระยาสุพรรณบุรี แลท่านหญิง

    แล้วรีบเดินขึ้นเรือนไปอย่างเบาฝีเท้า

    เห็นขุนแก้ว นั่งหน้าตาเคร่งขรึมนัก
    จึงจงใจเดินไปนั่งตรงข้าม สบตาโดยมิหลบ
    "ข้าจักไม่ทรยศสายเลือดแห่งตนเป็นแน่แท้ ขอขุนแก้วจงวางใจเถิด"

    ขุนเข้ม ขุนทองยังมิทันกล่าวการใด ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าขึ้นเรือนมา
    เป็นแม่บัวคนงาม หลานสาวของพ่อหมอ สายตานั้นชม้อยมาทางขุนสิงห์
    "ท่านขุนเจ้าคะ จัดห้องหับให้ท่านขุนบนเรือน หวังว่าคงจักพึงใจในน้ำใจ
    ของข้า"

    ก่อนที่ขุนสิงห์ จะตอบรับ ก็ได้ยินเสียงโครมๆ ขึ้นเรือนมา

    "น้ำใจของแม่นี่ช่างเฝือนัก พึงใจที่ให้ท่านขุนขึ้นเรือนตน โดยมิอิดออด"
    ซาเงเอ่ยหน้าตามิยินดียินร้าย แต่วาจาช่างยวนนักหนา

    "หวังว่าแม่บัวคนงาม คงมิลืมจัดห้องจัดหับ ไว้คอยท่า ข้าด้วย
    อย่างไรเสียข้าก็เป็นดั่งเงา ของขุนสิงห์ แล้วท่านขุนเข้ม ท่านว่า มิอยากให้วุ่นวาย
    มิให้สตรีขึ้นเรือน เกรงจักมิงาม เชิญแม่บัวคนงามลงไปเถิด หากท่านขุน
    จักเรียกหาข้าจักรีบไปตาม หากไม่เรียก ก็อย่าเพิ่งเสนอเลยแม่
    จักหมดงาม"

    แม่บัวทำตาวาวใส่ซาเง แต่ก็มิกล้าออกอาการมาก รีบเดินลงเรือนไประงับใจตน
     
  11. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ทอดถอนใจ กับฉากตรงหน้า เสียงซาเง ที่ติดลมบน
    "ข้าให้น้อยใจในวาสนานัก ใยเกิดมารูปชั่วตัวดำ ไม่มีรูปทองแบบท่านขุน
    จักได้มีหญิงมาให้เชยชมไม่ว่างเว้น"

    พูดมิทันขาดคำ ซาเงก็แทบคะมำ ลงกับพื้น ดีที่ว่องไวเอาการจึง
    แค่ล้มหลังกระแทก เพราะโดนขุนสิงห์คนดุ เตะตวัดตัดขา ทั้งที่พี่สิงห์อยู่ในท่านั่ง

    "งานหลวงยังไม่วางเว้น ใจเจ้าก็จดจ่อกับเรื่องสตรี มันน่านัก
    จักให้ข้าต้องลำบากใจเพียงใด แล้วทำไมไม่ไปสืบข่าวมาว่า
    พระยาสุพรรณบุรีจักมีกลใดกันแน่"

    ซาเง รีบตอบ
    " พุทโธ่ พ่อเทวดา ใยท่านมิใช้ความเคยคุ้น เข้าสืบขอรับ
    ข้าสืบได้ ก็ได้เพียงเปลือก ท่านขุนคงต้องล้วงลูกเองเสียกระมัง
    จึงจักเหมาะ ข้าว่า น้องท่านกับท่านหญิง ก็น่าจักมีรู้กะไรบ้าง
    อย่าหาว่าข้าสอนเลยขอรับ ท่านขุนควรมิควร ก็ตรองเถิด"

    ขุนแก้วกับขุนทองพยักหน้าหงึกหงัก
    "พวกข้าก็เห็นสม"
     
  12. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    สิงห์ตรองแล้ว ก็เห็นสม แต่เกรงท่านขุนทั้งสามจักแคลงใจ
    จึงเอ่ยว่า

    "กระนั้น ข้าจักสืบข่าวตามที่เจ้าพี่ไว้ใจมอบหมาย แต่อาจทำการอันใด
    ที่ขัดตาขัดใจ ขุนแก้วกับขุนทอง ก็ขอให้เล่นไปตามบทบาท มิต้องออมมือ
    แลถนอมน้ำใจ ซาเงจักติดตามข้า พวกท่านมิต้องกังวล
    ข้าจักเปลี่ยนจากรับ มาเป็นรุก งานจึงจักสำเร็จ คงจักคอยท่ามิได้"
     
  13. ปฐมรังสี

    ปฐมรังสี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2016
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +176
    ในที่สุด ก้อ่านถึงน่าสุดท้าย ไม่มีข้าม ใช้เวลาเกือบเดือน..สนุกดีคัรบ จิตดำดิ่งเห็นภาพตอนเข้าสมรภูมิ และที่โดนใจ คือคาถาโสฬสมงคล
    ..จะค่อยติดตามครับ และยินดีร่วมกองบุญ..สาธุ
     
  14. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ได้เวลาเผยตัว ออกจากเงา ที่ซ่อนมาเสียนาน
     
  15. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    แล้วสิงห์ก็นอนเอนหลังที่ชานเรือน ท่าทางมิได้อนาทรร้อนใจ แต่อย่างใด
    คอยจนเพลาพลบค่ำ จึงลุกขึ้นมา ซาเงที่คอยท่ารีบตามไป ส่วนท่านขุนทั้งสาม
    ก็คอยฟังข่าวที่เรือน

    สิงห์เดินลงเรือน เพื่อไปหาท่านพระยา กะว่าให้ตรงกับเพลาอาหารเย็น
    เมื่อเดินขึ้นเรือน ก็ได้ยินเสียงน้องชายตนร้องไห้อยู่ จึงรีบขึ้นเรือนไป
    " ข้าไม่กิน ข้าจะไปดูลูกช้าง" เสียงท่านชายอาละวาด ตะโกนลั่นเรือน

    สิงห์เห็นท่านหญิง เมียท่านพระยา พยายามปรามให้เสียงเงียบลง ก็มิได้ผล
    สิงห์เดินขึ้นเรือน นั่งลงบนตั่ง ที่บัดนี้ เต็มไปด้วยสำรับอาหารที่จัดไว้อย่างปราณีต
    จึงแกล้งพูดเย้าท่านชาย
    " พี่หิวแล้ว เจ้าจักพิรี้พิไร กะไรนัก กินให้อิ่มหนำ จักพาไปหาเจ้าบุญทิ้ง"

    ท่านหญิงเห็นเช่นนั้น ก็ไม่กล่าวกะไร นั่งข้างสำรับ
    " แล้วท่านพ่อไปไหนเสียล่ะ ท่านชาย"
    ท่านหญิงให้สะดุดหูนัก ใยสิงห์เรียกท่านพระยาเยี่ยงนี้ แต่ก็ได้แต่เก็บไวในใจ
    เป็นท่านชายที่อดรนทนไม่ไหว รีบตอบ

    "ท่านพ่อไปสั่งการในค่ายขอรับ พี่เสือขอรับ หายโกรธท่านพ่อแล้วฤาขอรับ"

    เสือเงียบไปเพียงครู่ " กะไรเสีย ท่านแม่ก็สิ้นไปแล้ว อัฐิของท่านก็ยังอยู่ทีเรือน
    พี่ก็เคยเป็นคนในเรือนของท่านพ่อ ถือว่าอาหารมื้อนี้เป็นเครื่องแสดงว่า พี่มิเคย
    คิดเนรคุณท่านพ่อ" สิงห์พูด เพราะตนรู้ว่า ท่านชายแลท่านหญิงต้องนำความนี้ ไป
    บอกกล่าวให้ท่านพระยาเป็นแน่แท้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มีนาคม 2017
  16. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เพียงเพลามินาน ท่านพระยา แลท่านขุนก็กลับจากการตระเวณค่าย
    เพื่อจะร่วมสำรับอาหาร ก็ให้แปลกใจที่เห็นสิงห์นั่งรอตนอยู่ข้างสำรับ

    ท่านพระยาผู้สุขุม มิกล่าวการใด รีบนั่งลงข้างสำรับ บ่าวนำน้ำลอยดอกมะลิมาตั้ง
    เพื่อล้างมือ แล้วท่านก็ทานลงมือ เปิบสำรับ โดยมิกล่าวการใด ให้ขุ่นเคืองใจ
    ทั้งสี่ลงมือเปิบสำรับ อย่างเรียบร้อย เงียบ ด้วยต่างตกในความคิดตนเอง
     
  17. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    เพียงเพลามินาน ท่านพระยา แลท่านขุนก็กลับจากการตระเวณค่าย
    เพื่อจะร่วมสำรับอาหาร ก็ให้แปลกใจที่เห็นสิงห์นั่งรอตนอยู่ข้างสำรับ

    ท่านพระยาผู้สุขุม มิกล่าวการใด รีบนั่งลงข้างสำรับ บ่าวนำน้ำลอยดอกมะลิมาตั้ง
    เพื่อล้างมือ แล้วท่านก็ทานลงมือ เปิบสำรับ โดยมิกล่าวการใด ให้ขุ่นเคืองใจ
    ทั้งสี่ลงมือเปิบสำรับ อย่างเรียบร้อย เงียบสงบนัก ด้วยต่างตกในความคิดตนเอง

    ท่านขุนแลซาเง ที่นั่งอยู่ชานเรือน ต่างมองตากันอย่างหยั่งเชิงอยู่ในที
     
  18. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    รอจนอิ่มหนำ บ่าวก็นำขันน้ำลอยดอกมะลิ มาให้ล้างไม้ล้างมือเสีย บนสำรับ
    ท่านชายดูจักมีความสุขบยิ้ม จนหุบยิ้มมิลง
    "ท่านพ่อขอรับ พี่เสือ บอกว่ามิเคยคิดเนรคุณท่านพ่อ ขอท่านพ่ออย่าดุพี่เสืออีกเลย"

    ท่านชายนั้นรู้สึกผิดว่าตนซุกซน จนทำให้ท่านพ่อกับพี่ชายผิดใจกัน จนต้องออกจากเรือน

    ท่านพระยาทอดถอนใจ "พ่อมิเคยโกรธลูกดอก มีแต่รอให้ลูกโตพอที่จักเข้าใจ"

    สิงห์ให้สะเทือนใจกับกิริยาวาจาของท่านพระยา ได้แต่ตอบไปว่า
    "บัดนี้ เสือโตพอแล้วขอรับ ท่านพ่อ"
     
  19. jarujun

    jarujun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    3,285
    ค่าพลัง:
    +11,833
    ท่านพระยา ได้ฟังคำนั้น ก็ให้ชื่นหัวใจนัก แต่มิกล้าแสดงกิริยาอาการนัก
    ด้วยยังไว้เชิง ว่าตนเป็นพ่อ สิงห์เหมือนรู้ใจ ลุกจากตั่ง คลานเข่าไปหน้า
    ท่านพระยา แล้วกราบลงบนตัก ด้วยท่วงท่าอ่อนน้อม

    ท่านพระยาเอ่ยเบาๆว่า " ขวัญเอ๋ย ขวัญมา ลูกพ่อ"

    ซาเงเห็นแล้ว ได้แต่คำนึงว่า ท่านขุนสิงห์ เล่นสมบทบาทจริงขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2017
  20. สาธุ ภันเต

    สาธุ ภันเต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2015
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +191
    ติดตาม ติดตาม
     

แชร์หน้านี้

Loading...