ผีมีจริง...ตอนสร้างเมรุเผาศพเสร็จเพราะมีเว็บพลังจิตใช้งบเกือบล้าน(ป่าช้าโบราณ)

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย พระจิรวัฒน์ ญาณวโร, 7 กรกฎาคม 2011.

  1. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุครับ ท่านพระอาจารย์
    ...รายชื่อผู้บริจาคในสายของผมคงไม่ต้องพิมพ์ในใบฎีกา
    ...เพราะได้แจ้งไปโดยส่วนตัวกันเรียบร้อยแล้วตามความศรัทธา
    ...แต่คงต้องพิมพ์ใบอนุโมทนาบุญ ให้กับผู้บริจาคเพื่อเป็นหลักฐานให้เขาหน่อยเท่านั้นครับ
     
  2. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ผมอยากเล่าว่าผมมาสนใจพุทธศาสนาได้ยังไงนะครับ ก่อนหน้านี้ผมไม่เชื่อเอา
    มากๆ ผมกลับสนใจศาสนาคริสตร์ที่สอนเรื่องความรักมากว่า ผมหาคำตอบของ
    ชีวิตมานาน แล้วผมก็ได้เจอหนังสือที่ตอบปัญหาของผมทุกเรื่อง อยู่ในร้าน
    หนังสือในมหาวิทยาลัย ผมชะใช้เวลาพักกลางวันเข้าไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับ
    เรื่องจิตวิญญาณ แล้วผมก็ได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งชื่อว่า สนทนากับพระเจ้า
    ความคิดแรกของผมก็คือมันคงเหมือนหนังสือแปลเล่มอื่นที่มีแต่น้ำ เอามาใช้
    ประโยชน์อะไรไม่ได้เลย แต่พอลองได้อ่านผมแทบจะไม่อยากเชื่อว่าผมกำลัง
    ยืนอ่านอะไรอยู่ มันเป็นบทสนทนาระหว่างผู้ชายคนหนึ่งที่คิดจะฆ่าตัวตายเพราะ
    ผิดหวังกับชีวิต กับพระเจ้า (ซึ่งต่อมาผมเรียกท่านว่าสมเด็จพ่อองค์ปฐม) ถึงทุก
    ประสบการณ์ในชีวิตของผมจะบอกกับผมว่ามันเป็นไปไม่ได้ แต่ลึกๆ ในใจของ
    ผมยอมรับอย่างเต็มที่เลยทีเดียว เมื่อผมได้ศึกษาหนังสือเล่มนี้เรื่อยๆ ก็พบว่ามัน
    ก็คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์นั่นเอง แต่เป็นภาษาที่ใหม่และง่ายจน
    ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อผมอ่านเล่มนี้จบแล้วผมสามารถเข้าใจธรรมที่ยากๆ
    ในพระไตรปิฏกได้อย่างง่ายแทบจะไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว นั่นคือสาเหตุที่ผมสนใจ
    ศาสนาพุทธ อยากเอาเรื่องความตายจากหนังสือเล่มนี้มาให้อ่านกัน พอดีมีคน
    แปลให้เรียบร้อยครับ
     
  3. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    มรณานุสติจากหนังสือสนทนากับพระเจ้า


    @@ เห็นเลยว่ามีแง่มุมเกี่ยวกับความตายอีกเยอะมากที่ผมไม่เข้าใจ @@

    ใช่ นี่เป็นเพราะเธอไม่อยากจะคิดถึงเรื่องนี้ ทว่าเธอต้องใคร่ครวญถึงความตายและความสูญเสียในวินาทีที่เธอรับรู้ถึงมันไม่ ว่าจะเป็นเวลาไหนในชีวิต ไม่อย่างนั้นเท่ากับเธอยังไม่ได้เข้าใจชีวิต หากแต่รู้เพียงครึ่งๆ กลางๆ เท่านั้น

    ทุกห้วงขณะจบสิ้นลงใน วินาทีที่มันเริ่มต้นขึ้น ถ้าไม่เห็นความจริงนี้เธอจะไม่เห็นความงามที่แฝงอยู่ในทุกห้วงยาม แล้วเธอก็จะมองช่วงเวลาต่างๆ ว่าธรรมดาสามัญ ไม่มีอะไรสลักสำคัญ


    ทุก ปฏิสัมพันธ์ “เริ่มสิ้นสุด” ในวินาทีที่มัน “เริ่มก่อเกิด” เมื่อใคร่ครวญเรื่องนี้ให้ถึงก้นบึ้งและเข้าใจถ่องแท้ คุณค่าแท้จริงของทุกห้วงยาม (และของชีวิต) จะเปิดเผยต่อเธอ


    ไม่มีวันที่เธอจะเข้าถึงชีวิตถ้าไม่เข้าใจความตาย และเธอก็ต้องทำมากกว่าแค่เข้าใจ
    เธอจะต้องรักมันด้วย เธอต้องรักความตายแบบเดียวกับที่เธอรักชีวิต

    ห้วงยามที่เธอมีสัมพันธ์กับแต่ละคนจะมีค่าขึ้นทันทีที่เธอมองว่า มันคือปฏิสัมพันธ์
    ครั้งสุดท้ายของ เธอกับเขา ในลักษณะเดียวกัน ประสบการณ์ที่เธอมีในแต่ละห้วงขณะจะถูกยกระดับยิ่งกว่าอะไร ในวินาทีที่เธอคิดว่ามันคือวาระสุดท้าย การไม่ยอมพิจารณาความตายของตัวเอง ทำให้เธอมิอาจพินิจชีวิตตัวเองตามไปด้วย

    เธอไม่ได้เห็นสิ่งต่างๆ อย่างที่มันเป็น เธอคลาด
    ห้วงขณะนั้นไปต่อหน้า แถมยังพลาดทุกสิ่งที่มันนำติดมือมาให้ เธอมองผ่านมันแทนที่จะมองทะลุเข้าไป

    ถ้า เธอมองสิ่งใดให้ลึกซึ้ง เธอจะมองทะลุมัน การเพ่งพินิจเรื่องใดให้ลึกซึ้ง คือการมองเรื่องนั้นจนทะลุ ภาพตบตาจะเลือนหายไป แล้วเธอก็จะเห็นเรื่องนั้นหรือสิ่งนั้นอย่างที่มันเป็นจริงๆ เมื่อนั้นเธอจะสามารถมีความสุขกับมันอย่างแท้จริง ซึ่งหมายถึง
    สามารถนำความรื่นรมย์เบิกบานใส่เข้าไปในเรื่องนั้น (การ “มีความสุข - enjoy” กับเรื่องใด คือการทำให้เรื่องนั้นกลายเป็นสิ่งเบิกบาน – joyful ขึ้นมา)

    กระทั่งสิ่งมายาเธอก็สามารถมีความสุขกับมัน เพราะเธอจะ
    รู้ว่ามันไม่ใช่ของจริง แค่รู้อย่างนี้ก็สุขไปครึ่งหนึ่งแล้ว! เพราะเธอเฝ้าแต่คิดว่ามันเป็นจริง ใจเธอถึงโดนเผาจนเจ็บร้าวอยู่อย่างนี้

    ไม่มีอะไรต้องเจ็บปวดเมื่อเธอเข้าใจว่ามันไม่จริง ขอพูดอีกรอบนะ


    ไม่มีอะไรต้องเจ็บปวดเมื่อเธอเข้าใจว่ามันไม่จริง


    มัน เหมือนกับภาพยนตร์หรือละครที่ฉายบนเวทีแห่งจิตใจของเธอเอง เธอกำลังผูกเรื่องสร้างสถานการณ์และวางบทบาทตัวแสดง ทั้งยังเขียนบทเองด้วย


    ไม่มีสิ่งใดให้เจ็บปวดเมื่อเธอเข้าใจว่าทุกอย่างไม่ใช่เรื่องจริง


    นี่เป็นความจริงกับเรื่องความตายเฉกเช่นเรื่องชีวิต


    เมื่อไหร่ที่เข้าใจว่าความตายก็เป็นภาพลวงตา เมื่อนั้นเธอจะพูดได้ว่า “โอ มัจจุราชเอ๋ย ไหนละ เหล็กไนของเจ้า”


    กระทั่งความตายเธอก็มีความ
    สุขกับมันได้! แม้แต่ความตายของคนอื่นเธอยังสามารถเริงรื่นกับมัน

    ฟังดูพิลึกใช่ไหม เหมือนพูดเรื่องประหลาดหรือเปล่า


    มันจะพิลึกและประหลาดต่อเมื่อเธอไม่เข้าใจความตาย (และชีวิต) เท่านั้นละ


    ความตายไม่เคยเป็นจุดสิ้นสุด หากแต่เป็นจุดเริ่มต้นเสมอ ความตายคือทวารที่เปิดออก มิใช่ประตูที่ลั่นดาลลง


    เมื่อ ไหร่ที่เข้าใจว่าชีวิตเป็นนิรันดร์ เธอจะเข้าใจว่าความตายคือมายาหรือภาพลวงตา ซึ่งทำให้เธอคอยพะวงกับเรื่องทางกาย (จึงยิ่งเสริมให้เธอเชื่อว่าตัวเธอคือร่างกาย) ทว่าเธอ
    หาใช่ร่างนี้กายนี้ การเสื่อมสลายของกายสังขารจึงไม่ใช่เรื่องที่เธอต้องกังวล

    ความ ตายควรสอนเธอให้รู้ว่า สิ่งจริงแท้คือชีวิต และชีวิตก็ควรสอนเธอว่า สิ่งมิอาจหลบเลี่ยงหาใช่ความตาย หากเป็นความไม่เที่ยงหรืออนิจจัง


    ความไม่เที่ยงคือสัจธรรมหนึ่งเดียว


    ไม่มีสิ่งไหนคงมั่นไม่แปรผัน ทุกสิ่งต่างเลื่อนไหลไม่หยุดนิ่ง ทุกห้วงขณะ ทุกภวังค์จิต


    หากสิ่งใดจะเที่ยงแท้จีรัง มันก็ไม่มีทาง
    เป็นอย่างนั้นไปได้ เพราะแม้แต่มโนคติเรื่องความเที่ยงก็ยังตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงจึงจะมีความหมายอะไรขึ้นมา ฉะนั้นกระทั่งความเที่ยงแท้ก็ไม่เที่ยง จงมองเข้าไปให้ลึก ใคร่ครวญสัจธรรมนี้ให้ดี ทำความเข้าใจเรื่องนี้แล้วเธอจะเข้าใจพระเจ้า

    นี่ คือธรรมะ และนี่คือพุทธะ นี่คือธรรมะของพุทธะ นี่คือพระธรรมและพระผู้มีพระภาคเจ้า คือบทเรียนและบรมครู คือผู้ถูกสังเกตและผู้สังเกต ...ร้อยรึงเข้าเป็นหนึ่ง


    ไม่เคยมีอะไร
    ที่พ้นไปจากความเป็นหนึ่ง ตัวเธอนั่นละที่คลี่คลายมันออกมา เพื่อว่าชีวิตจะตีแผ่ให้เธอเห็นต่อหน้า

    ทว่า ยามเธอเห็นชีวิตตัวเองกระจัดกระจายอยู่ตรงหน้า อย่าให้ตัวเองกระเจิดกระเจิงตามไปด้วย แต่จงผนึกตัวเองไว้ให้มั่น! เห็นภาพมายานั้น! หาความสุขจากมัน! แต่อย่า
    กลายเป็นตัวมัน!

    เธอ
    มิใช่มายา หากแต่เป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

    เธออยู่ในโลกนี้ แต่มิได้เป็นของโลกใบนี้


    จงใช้มายาแห่งความตายให้เป็นประโยชน์
    ใช้มันเสีย! ยอมให้มันเป็นกุญแจไขตัวเธอสู่ชีวิตที่ไพศาลขึ้น

    มองดอกไม้ ว่าแห้งเหี่ยวเฉาตายเธอก็จะมองด้วยใจอาวรณ์ แต่หากมองว่ามันเป็นส่วนหนึ่งขององค์รวมแห่งต้นไม้ที่กำลังแปรสภาพ ซึ่งไม่นานก็จะผลิดอกออกผล นั่นละเธอถึงจะเห็นความงามที่แท้จริงของดอกไม้ เมื่อไหร่ที่เธอเข้าใจว่าการผลิบานและโรยราของแมกไม้ คือสัญญาณว่าต้นไม้พร้อมจะให้ผล แสดงว่าเธอมองชีวิตอย่างผู้เข้าใจ


    เข้าใจเรื่องนี้ให้ดี แล้วเธอจะประจักษ์ว่า ชีวิตเป็นดั่งอุปมาสอนใจ


    ระลึก ไว้เสมอว่า เธอมิใช่กลีบบุปผา มิใช่กระทั่งดอกผล หากแต่เป็นทั้งมวลพฤกษา รากของเธอหยั่งลึกแน่นหนาในตัวฉัน ฉันคือผืนดินที่เธอชูช่อชำแรกขึ้น ทั้งกิ่งก้านใบและดอกผลจะหวนคืนสู่ฉัน พร้อมรังสรรค์ผืนดินให้อุดมขึ้นใหม่ ชีวิตจึงก่อให้เกิดชีวิต ไม่มีทางเคลื่อนคล้อยสู่ความตายได้เลย ไม่มีทาง
     
  4. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ความพิสดารว่า กุฎุมพีนั้น ครั้นบุตรของตนทำกาละแล้ว อันความโศกถึงบุตรครอบงำ ไปสู่ป่าช้า ร้องไห้อยู่ ไม่อาจที่จะหักห้ามความโศกถึงบุตรได้.
    พระศาสดาทรงพิจารณาดูสัตวโลกในเวลาใกล้รุ่ง ทรงเห็นอุปนิสัยโสดาปัตติมรรคของกุฎุมพีนั้น กลับจากบิณฑบาตแล้ว ได้ทรงพาภิกษุผู้เป็นปัจฉาสมณะรูปหนึ่ง เสด็จไปประตูเรือนของกุฎุมพีนั้น กุฎุมพีนั้นได้ฟังความที่พระศาสดาเสด็จมา คิดว่า "พระศาสดาจักทรงประสงค์เพื่อทำปฏิสันถารกับด้วยเรา" จึงอัญเชิญพระศาสดาให้เสด็จไปสู่เรือน ปูอาสนะไว้ในท่ามกลางเรือน. เมื่อพระศาสดาประทับนั่งแล้ว ก็มาถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ส่วนข้างหนึ่ง.
    ลำดับนั้น พระศาสดาตรัสถามกุฎุมพีนั้นว่า "อุบาสก ท่านต้องทุกข์ เพราะเหตุอะไรหนอแล?" เมื่อกุฎุมพีนั้นกราบทูลทุกข์เพราะพลัดพรากจากบุตรแล้ว
    ตรัสว่า "อย่าคิดเลย อุบาสก ชื่อว่าความตายนี้มิใช่มีอยู่ในที่เดียว และมิใช่มีจำเพาะแก่บุคคลผู้เดียว ก็ชื่อว่าความเป็นไปแห่งภพ ยังมีอยู่เพียงใด, ความตายก็ย่อมมีแก่สรรพสัตว์เพียงนั้นเหมือนกัน; แม้สังขารอันหนึ่ง ที่ชื่อว่าเที่ยงย่อมไม่มี
    เพราะเหตุนั้น ท่านพึงพิจารณาโดยอุบายอันแยบคายว่า
    'ธรรมชาติมีความตายเป็นธรรมดา ตายเสียแล้ว,
    ธรรมชาติมีความแตกเป็นธรรมดา แตกเสียแล้ว’
    ไม่พึงเศร้าโศก เพราะว่าโบราณกบัณฑิตทั้งหลายในกาลที่ลูกรักตายแล้ว
    พิจารณาว่า
    ‘ธรรมชาติมีความตายเป็นธรรมดา ตายเสียแล้ว,
    ธรรมชาติมีความแตกเป็นธรรมดา แตกเสียแล้ว’
    ดังนี้แล้ว ไม่ทำความเศร้าโศก เจริญมรณัสสติอย่างเดียว"
    อันกุฎุมพีทูลอ้อนวอนว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัณฑิตพวกไหนได้ทำแล้วอย่างนั้น และได้ทำในกาลไร? ขอพระองค์จงตรัสบอกแก่ข้าพระองค์"
    เมื่อจะทรงประกาศเนื้อความนั้น จึงทรงนำอดีตนิทานมา ยังอุรคชาดก<sup>๑-</sup> ในปัญจกนิบาตนี้ให้พิสดารว่า :-

    บุตรของเรา เมื่อสรีระใช้ไม่ได้ ละสรีระของตนไป
    ดุจงูลอกคราบเก่าฉะนั้น, เมื่อบุตรของเราตายจากไปแล้ว,
    เขาถูกเผาอยู่ ย่อมไม่รู้ปริเทวนาการของพวกญาติ เพราะ
    ฉะนั้น เราจึงไม่เศร้าโศกถึงบุตรนั่น; เขามีคติเช่นใด ก็
    ไปสู่คติเช่นนั้น (เอง)"

    ดังนี้แล้ว จึงตรัส (ต่อไปอีก) ว่า "บัณฑิตในกาลก่อน เมื่อลูกรักทำกาละแล้วอย่างนั้น ไม่ประพฤติอย่างท่านผู้ทอดทิ้งการงานแล้วอดอาหารเที่ยวร้องไห้อยู่เดี๋ยวนี้ ไม่ทำความโศกด้วย
    <wbr>อำนาจ<wbr>มรณัส<wbr>สติ<wbr>ภาวนา รับประทานอาหาร และอธิษฐาน (ตั้งใจทำ) การงาน เพราะฉะนั้น ท่านอย่าคิดว่า ‘ลูกรักของเรากระทำกาละแล้ว’
    แท้จริง ความโศกก็ดี ภัยก็ดี เมื่อจะเกิดย่อมอาศัยของที่รักนั่นเองเกิด"
    <center><big>อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปิยวรรคที่ ๑๖</big><center class="D"></center></center>
     
  5. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุครับ คุณ bluebaby2
    ..."สนทนากับพระเจ้า" มีเนื้อความและการใช้สำนวนแปลภาษาที่น่าสนใจ
    ...มีจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปมั๊ยครับ???? เช่น se-ed/นายอินทร์
     
  6. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    มีครับ ตอนนี้แปล 2 เล่มแล้วครับ น่าจะมีทุกที่นะครับ แปลไปแทบจะทุกภาษา
    แล้วแต่คนไทยเราไม่สนใจ กลายเป็นคนต่างชาติรู้จักองค์ท่านก่อนเรา
     
  7. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...ผม search google แล้ว คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล แกพูดถึงหนังสือกับนักเขียนนักเขียน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2011
  8. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    สรุปว่า คุณเสกสสรค์ แกพูดถึงการเปิดตัวหนังสือ สนทนากับพระเจ้า คือคุณรวิวาร โฉมเฉลา
    นีล โดนัลด์ วอลซ์ เขียน
    รวิวาร โฉมเฉลา แปล สำนักพิมพ์ โอ้ พระเจ้า พับลิชชิ่ง, กันยายน ๒๕๔๙


    คำถามแรกเมื่อเห็นชื่อหนังสือเล่มนี้ก็คือ นี่เป็นเรื่องจริงหรือโกหกกันแน่ ? ใครหนอที่สามารถสื่อสารกับพระผู้สร้างได้ยืดยาวอย่างนี้ ? อาจจะมีผู้คนเคยบอกเล่าถึงประสบการณ์ทางจิตวิญญาณผ่านนิมิตนานัปการเมื่อยาม วิกฤติของชีวิต แต่การมาปุจฉาวิสัชนาโต้ตอบปัญหากันแบบตัวต่อตัว จนสามารถบันทึกเป็นข้อเขียนออกมาเสียละเอียดลออ ย่อมต้องมีเบื้องหน้าเบื้องหลังให้สืบค้นเป็นแน่แท้...
    หลังจากที่เข้า ออกงานในแวดวงสถานีวิทยุมานับครั้งไม่ถ้วน พอ ๆ กับการต้องแยกทางกับคนรักหลายหน และด้วยสุขภาพซึ่งเริ่มเสื่อมถอยลงเป็นระยะ นีล โดนัลด์ วอลช์ ยังคงพยายามดิ้นรนไปสู่เส้นทางชีวิตสายใหม่อยู่เสมอ กระทั่งเกิดเคราะห์ร้ายถูกรถชนคอเกือบหัก ทำให้ต้องใช้เวลารักษาตัวเนิ่นนานจนถึงคราวซวยอย่างสมบูรณ์แบบคือ ตกงาน ไร้บ้าน หมดเงิน ต้องกลายเป็นคนเก็บขยะข้างถนน อาศัยนอนตามสวนสาธารณะ โดยสิ่งสุดท้ายซึ่งเขากำลังจะสูญเสียไปอีกคือ เริ่มหมดหวังต่อความเป็นมนุษย์ของตัวเอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2011
  9. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ชาวต่างชาติอ่านแล้วไม่สามารถเข้าใจได้มากเท่าชาวพุทธครับ ในหนังสือมีข้อความว่า

    You did not came here to learn. The only thing you have to do
    is
    to remember

    ตอนนี้ท่านบอกว่าคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อเรียนรู้แต่เกิดมาเพื่อระลึกได้ หรือก็คือมี
    สติ(ความระลึกได้) สอนเรื่องสติเหมือนพุทธเรานั่นแหละครับ
     
  10. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...หน้าปก สนทนากับพระเจ้า ใช่มั๊ยครับ
    ....upload มีปัญหาครับ
    ...คงต้องไปหาอ่านตอนนี้มี เล่ม1-2
    ...เล่ม 3 เห็นแฟนๆรอกันอยู่แสดงว่ามีนักอ่านติดตามอยู่
    ...ขอบคุณ คุณbluebaby2 ที่พูดถึงหนังสือเล่มนี้ น่าสนใจครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2011
  11. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
  12. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    จากพ่อ



    I have heard the crying of your heart. I have seen the searching of your soul. I know how deeply you have desired the Truth. in pain have you called out for it, and in joy. Unendingly have you beseeched Me. Show Myself. Explain Myself. Reveal Myself.
    I am doing so here, in terms so plain, you cannot misunderstand. in language so simple, you cannot be confused. In vocabulary so common, you cannot get lost in the verbiage.
    So go ahead now. Ask Me anything. Anything. I will contrive to bring you the answer. The whole universe will I use to do this. So be on the lookout; this book is far from My only tool. You may ask a question, then put this book down. But watch.
    Listen.
    The words to the next song you hear. The information in the next article you read. The story line of the next movie you watch. The chance utterance of the next person you meet. Or the whisper of the next river, the next ocean, the next breeze that caresses your ear--all these devices are Mine; all these avenues are open to Me. I will speak to you if you will listen. I will come to you if you will invite Me. I will show you then that I have always been there.
    All ways.
     
  13. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ที่น่าสนใจท่านได้สอนวิธีรับพลังแสงทิพย์ไว้ด้วยครับในเล่ม 3 ครับ ท่านกล่าวว่า
    ให้จินตนาการแสงสีขาวประกายทองวิ่งจากแหล่งกำเนิดแสงที่อยู่บนศีรษะของ
    เรา เมื่อเราหายใจเข้าให้จินตนาการว่าแสงนี้ผ่านช่องว่างจากสมองของเราลงสู่
    อวัยวะต่างๆ เมื่อหายใจออกให้หายใจเอาแสงพร้อมสิ่งไม่ไปด้านล่างตัว ทำ
    อย่างนี้ซัก 7 นาที
     
  14. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]
     
  15. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG] [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->



    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    รูปเมื่อคราวทอดผ้าป่าสร้างเมรุงวด สุดท้าย อาตมารวบรวมเงินจ่ายค่าเมรุพร้อมด้วยชาวบ้าน รวมเป็นเงิน 750,000บาท(เจ็ดเเสนห้าหมื่นบาทถ้วน) ใช้เวลาก่อสร้างเมรุ11เดือน กับอีก20วัน เสร็จสมบูรณ์ เป็นประโยชน์ ต่อชาวบ้านทั้ง4หมู่ คือหมู่8-9-10-14 หลายร้อยครอบครัว ซึ้งจะใช้เมรุเเห่งนี้ ไปอีกนับเกือบร้อยปีที่เดียวคุณโยม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2011
  16. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
     
  17. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    [​IMG]
    อนุโมทนาสาธุ คุณโยมผู้ใจบุญทุกท่าน ที่ร่วมบริจาคสมทบทุน
    ซื้อที่ดินถวายไว้ในพระพุทธศาสนาทุกท่านทุกคน ขอให้โชคดี มีสุข
    พ้นจากทุกข์ เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปเข้า...สู่พระนิพพานเทอญสาธุๆ
     
  18. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    REACTIVE ---> CREATIVE
     
  19. nahpee

    nahpee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    554
    ค่าพลัง:
    +690
    ...อนุโมทนาสาธุครับ ท่านพระอาจารย์
    ...ธรรมะและธรรมชาติที่บริสุทธิ์
    ...มักได้ความบริสุทธิ์แห่งบุญกุศลตามจิตที่มุ่งมั่นศรัทธา
    ...ความสำเร็จที่ไม่คาดคิดมักมาจากสภาวะแวดล้อมแห่งธรรมชาติที่บริสุทธิ์เสมอๆครับ
     
  20. พระจิรวัฒน์ ญาณวโร

    พระจิรวัฒน์ ญาณวโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    5,029
    ค่าพลัง:
    +17,452
    อนุโมทนาคุณโยมnaphee ที่เข้าใจหลักธรรมะที่ถูกต้อง ส่วนเรื่องการพิมพ์ ใบฏีกานั้นอาตมายกเลิกตามความเห็นของคุณโยมทุกประการ ใบอนุโมทนาบัตรนั้น จำเป็นมากๆ เพื่อความสะบายใจของผู้ที่ร่วมบุญ
    ไม่มีปัญหา เเต่อย่างไรคุณโยม อาตมาได้คุยกับทางเจ้าของที่เเล้ว เป็นหลังปีใหม่ คุณโยมnahpee ให้คุณโยมnahpee ว่าจะสะดวกเดินทางวันที่เท่าไหร่
    ตกลงตามนั้น ในเบื้องต้นอาตมาได้โทรประสานไปที่ผู้ในหมู่บ้าน อ.บ.ต. ให้รับทราบในเจตนาของคุณโยมเเล้ว เเละชาวบ้าน ได้ร่วมบริจาคสมทบทุกครอบครัว ตามกำลังศรัทธาของชาวบ้านคุณโยม...
     

แชร์หน้านี้

Loading...