ผมสงสัยว่าพระที่ผมไปกราบไหว้องค์นี้อยู่นี้ท่านน่าจะเป็นพระอรหันต์นะ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Prichasamart, 27 เมษายน 2012.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ที่จังหวัดเลย รพ.หลวงตาบริจาคเครื่องมือ อย่างดีครับ ไม่ต้องไปอุดรเลย คุณเป็นเจ้าของร้านขายยารึครับ
     
  2. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ไม่ค่อยเข้าใจคำถามหนะครับ เพียงแต่ว่าผมถึงได้กล้าที่จะเริ่มทำการพิสูจน์ความเป็นอริยะของพระให้รัดกุมมากขึ้นอย่างไรหละครับ
    ถือเอาได้ว่าอาจจะเป็นความโง่เขลาของผมก็ได้ครับที่พยายามมองคนที่อยู่ในผ้าเหลืองในแง่ดีไปหมด แต่ก็ถือว่าในตอนนี้เราก็ได้พยายามที่จะระวังมากขึ้นยังไงหละครับ
     
  3. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ไม่ได้เป็นเจ้าของร้านขายยาหรอกครับ เป็นแค่หมอคนหนึ่งหนะครับ เพียงแต่ว่าผมรู้จักกับตัวแทนยามากมายที่จะขอให้ช่วยสั่งซื้อยามาได้ในราคาส่งซึ่งทำให้ได้ยามาในราคาถูกๆหนะครับ
    ตั้งแต่ทำโครงการสงฆ์อาพาธมา ก็ยังไม่มีเคยมีพระสงฆ์มาadmit แล้วใช้เงินจากโครงการนี้เลยครับ เป็นแค่ผู้ป่วยนอกเท่านั้น และก็อย่างที่บอกผมก็จะดูเอาเป็นรายๆไปหนะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นพระที่ผมได้ไปหาที่วัดของท่าน แล้วก็ประเมินเอาว่าเราน่าจะให้การรักษาพยาบาลท่านได้ ก็ปวารณาตัวไปให้ท่านมารับการรักษาที่โรงพยาบาลของผมได้ก็แค่นั้นเองครับ
     
  4. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    อ้อ..คุณเป็นเจ้าของ รพ. ก็เท่านั้นเองครับ
    .. ทีนี้เข้าประเด็น ใบสุทธิพระล่ะครับ หากคุณปฏิบัติธรรมมานาน ต้องรู้กฏหมายซี่ครับ ที่บนภูเขามันสร้างไม่ได้ ..ใครจะยกให้ได้เล่าครับ
     
  5. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ก็มีเจ้าของที่ดินที่เค้าพาผมไปดูที่นั่นแหละครับเป็นคนยกที่ดินให้ท่าน
    อ้อ ผมเป็นแค่หมอประจำคนหนึ่งแค่นั้นเองครับ ไม่ใช่เจ้าของโรงพยาบาลหรอกครับผม
    จากที่คุณสับสนได้เตือนมา ก็ถือว่าจริงครับว่ามันจะมีกฎหมาย(กฎของเถรสมาคมในเรื่องการสร้างสถานปฏิบัติธรรม) ซึ่งผมหาเจอจากลิ๊งค์นี้
    การขอตั้งสำนักปฏิบัติธรรม
    ยังไงเดี๋ยวผมจะพิมพ์เอาไปให้ท่านศึกษาดูจะได้ไม่เป็นการผิดกฏหมายหนะครับ อย่างน้อยถ้าท่านเป็นพระจริงท่านก็คงพร้อมที่จะเข้าร่วมปฏิบัติตามขั้นตอนของเถรสมาคมหนะครับ
     
  6. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ขอบคุณนะครับคุณติงติง
     
  7. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ขอบคุณครับที่ช่วยเตือน จริงๆแล้วผมจะแสดงชื่อบัญชีโครงการสงฆ์อาพาธ อย่างที่ได้แสดงภาพเอาไว้ก็ได้ แต่ว่าคราวที่แล้วก็มีการโอนเงินมาเข้าบัญชีสงฆ์อาพาธด้วยสองจุดประสงค์คือ 1)สำหรับโครงการสงฆ์เอง และ 2)การสร้างโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง แล้วกลายเป็นว่ามีปัญหากับคณะกรรมการที่จะเซ็นถอนเงิน เค้าบอกว่าแยกไม่ได้ว่าเงินส่วนไหนโอนเข้าส่วนไหน คราวที่แล้วผมก็เลยต้องออกเงินตัวเองเพื่อเอาไว้บริจาคให้กับทางวัดที่ใช้เพื่อการสร้างโบสถ์แทน(ทั้งหมด)หนะครับ
    แต่อย่างไรก็ตามในครั้งนี้ก็ถือว่ายกเลิกการโอนเงินไปแล้วหนะครับ คือว่าใครจะโอนมาหรือไม่โอนมาผมไม่ถือว่าเป็นปัญหาอะไรเลยครับ แค่แจ้งให้ทราบไว้ว่าขั้นตอน ณ ถึงตอนนี้ยังเป็นขั้นตอนของการตรวจสอบพระองค์นี้ก่อนหนะครับ แล้วจนเมื่อพิสูจน์แล้วว่าท่านเป็นของจริงค่อยว่ากันใหม่อีกทีหนะครับ
     
  8. Jt Odyssey

    Jt Odyssey เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +12,591
    คุณทรงพลเค้าเป็นถึงนายแพทย์ (ผมตรวจสอบแล้วว่าเป็นจริง ) ร่ำเรียนมาสูงเพื่อช่วยเหลือคนอยู่แล้ว เงินเดือนเค้าตั้งเท่าไหร่ จะมาหากินอะไรกับเงินบริจาคเล็กๆน้อยๆ ผมเชื่อแน่นอนว่าเค้าไม่ใช่มิจฉาชีพ ลองมองให้เป็นกลางๆ ไม่มีอคติ แล้วคุณ (อาจ) จะเห็นเหมือนผม

    ไอการที่เห็นใครรับเรี่ยไรแล้วฟันธงไปเลยว่า คนนี้เป็นมิจฉาชีพ หรือ คนนี้เป็นพระเชื่อถือ โดยไม่ได้พิจารณาองค์ประกอบอื่นๆให้ถี่ถ้วนนั้น ผมเห็นว่าเป็นการกระทำของคนไม่ฉลาด ที่เพียรจะสร้างมโนกรรม หรือวจีกรรมให้ตัวเอง


    ผมขออนุโมทนากับคุณหมอด้วย :cool::cool::cool::cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 เมษายน 2012
  9. luckyinlux

    luckyinlux สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +3
    ไม่รู้นะ....พระอรหันต์ส่วนใหญ่ท่านจะไม่พูดว่าท่านเจริญฌาญแล้วมีเหตุอะไร ตามที่อ่านน่าจะเป็นฤทธิ์ของอภิญาญ จะเป็น1ใน อภิญญา 9 รึป่าวไม่รู้ แต่ถ้าพระจะจบกิจ ไม่เกิดอีกท่านต้องจบด้วยอริยสัตย์ เห็นทุกข์ เหตุแห่งการดับทุกข์ จนไม่ยึดติดอะไรเลย และท่านจะไม่พูดอวดด้วย....เพราะกลัวคนจะปรามาส(ถ้าปรามาสพระอรหันต์โทษหนัก)ท่านจะไม่พูด สอนแต่ธรรมของพระพุทธเจ้า และท่านจะรักพระพุทธเจ้ามากๆ พูดถึงองค์สมเด็จบ่อยๆ ท่านจะน่ารัก และเมตตาเรามาก
     
  10. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    แจ้งความคืบหน้า ในการไปหาพระองค์นี้
    วันนี้เป็นวันจันทร์ มีตัวแทนยามาหาผม ผมก็เลยคุยเรื่องพระองค์นี้ให้ตัวแทนยาฟัง แล้วก็กลายเป็นว่าเราก็เลยตัดสินใจที่จะขึ้นไปหาพระองค์นี้ด้วยกัน
    เรื่องหลังจากนี้ คงต้องเอาเป็นว่าให้ท่านตีความเอาเองเลยก็แล้วกัน
    1)วันนี้ที่คุยๆกันไปนั้นผมได้ถามท่านตรงๆไปเลยว่าที่ท่านบอกว่าท่านเคยตรัสรู้ขึ้นมาได้นั้น คำว่าตรัสรู้ควรจะต้องเป็นคำศัพธ์ที่ใช้สำหรับพระพุทธเจ้าไม่ใช่หรือ
    ท่านก็ตอบว่าไม่ใช่ การบรรลุธรรมอะไรก็ตามที่เป็นขั้นเป็นตอนขึ้นไปเหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้ารู้ ก็ใช้คำว่าตรัสรู้ได้เหมือนกัน การรู้ว่าศีลห้าเป็นเรื่องพื้นฐานเบื้องต้นของมนุษย์แบบนี้เป็นต้น ก็เป็นการตรัสรู้เหมือนกัน
    ซึ่งถ้าลองไปดูในคำว่า ตรัสรู้ที่เว็บไซต์วิกิพีเดีย ก็พูดไว้สองนัยเช่นกัน ว่าคำว่าตรัสรู้นั้น นัยหนึ่งคือการ รู้แจ้ง รู้อย่างแจ่มแจ้ง รู้ชัดเจน ใช้เป็นคำเฉพาะสำหรับพระพุทธเจ้า "ตรัสรู้" ของพระพุทธเจ้า คือตรัสรู้ ญาณ ๓ ได้แก่
    1.บุพเพนิวาสานุสสติญาณ ความรู้เป็นเหตุให้ระลึกถึงขันธ์ที่เคยอาศัยอยู่ในอดีตได้ คือระลึกชาติได้
    2.จุตูปปาตญาณ ความรู้ในจุติและอุบัติเกิดของสัตว์ทั้งหลาย เรียก ทิพพจักขุญาณ หรือ ทิพยจักษุญาณ บ้าง
    3.อาสวักขยญาณ ความรู้ในการกำจัดอาสวกิเสส

    แต่ก็มีตรัสรู้ อีกนัยหนึ่งคือรู้แจ้งอริยสัจ ๔ ได้แก่ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค อันนี้ก็ใช้คำว่าตรัสรู้เช่นกัน
    ที่มา ตรัสรู้ - วิกิพีเดีย
    ดังนั้นถามว่าหลวงพ่อองค์นี้ผิดไหมที่ใช้คำว่าตรัสรู้ ผมจึงถือได้ว่าไม่ผิด
    2)ผมถามท่านไปตรงๆเลยในวันนี้ว่าท่านเป็นพระอรหันต์ใช่หรือไม่ ท่านก็บอกมาพร้อมกับหัวเราะบอกว่าไม่ใช่
    ตกลงว่าเมื่อเป็นอย่างนี้ท่านจะตีความต่อไปอย่างไรหละ ในเมื่อท่านไม่ยอมรับ
    แต่เมื่อผมเอาบันทึกธรรมะที่ท่านได้จดบันทึกมาในช่วงที่ท่านบวชและเดินธุดงค์มานั้นผมว่าเป็นธรรมขั้นสูงที่ไม่ผิดเพี้ยนไปจากที่พระพุทธเจ้าสอนเลย
    ท่านให้ผู้ที่ปฏิบัติเริ่มต้นที่ศีลห้าอย่างสมบูรณ์ก่อน ท่านพูดถึงสติปัฏฐานสี่ ท่านพูดถึงวงล้อที่เริ่มต้นด้วยอวิชชา ตัณหา อุปทาน อะไรพวกนี้ แล้วก็พูดถึงการวางธาตุ วางขันธ์ไปเสีย อย่างนี้ก็ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็มีพระรูปหนึ่งที่มาอ้างตัวว่าเป็นพระอรหันต์มาแสดงตัวกับท่าน ท่านก็ตรวจสอบในเรื่องของการแยกรูปนาม แยกขันธ์ห้า พระรูปดังกล่าวก็ยังแยกไม่ได้เลย ท่านก็เล่าให้ฟังว่าอย่างนี้ถือว่าเป็นอรหันต์ไม่จริง
    เรื่องต่างๆเหล่านี้ท่านบอกว่าท่านศึกษาเข้าที่ข้างในกาย ข้างในใจของท่านเองทั้งนั้น เพราะว่าท่านไม่ได้ผ่านการเรียนบาลี ธรรมะแบบในวัดเหมือนอย่างพระสงฆ์อื่นๆทั่วไป ดังนั้นจึงเป็นไปได้ว่าท่านอาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคำว่าตรัสรู้นั้นมีนัยยะอันหนึ่งที่หมายถึงว่าจะต้องสงวนใช้กับพระพุทธเจ้าเท่านั้น
    แต่ถ้าหากหลวงพ่อองค์นี้สามารถรู้ในเรื่องของทุกข์ และการดับทุกข์ได้เหมือนอย่างที่พระพุทธเจ้ารู้แล้วหละก็ผมว่าท่านก็บรรลุภูมิธรรมขั้นสูงเลยทีเดียว
    3) ถามว่าท่านมาตั้งเป็นสำนักสงฆ์ สำนักวิปัสนาตรงนี้ขึ้นมาทำไม ท่านก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกันมันเหมือนว่ามันมีนิมิตที่จะให้ท่านต้องเดินทางมาที่นี่ ท่านบอกถึงขั้นว่า มันมีนิมิตที่บอกว่าท่านน่าจะเคยเกิดเป็นผู้นำชุนชนที่บริเวณที่ท่านอยู่นี้ ที่สำคัญก็คือ มันเหมือนว่ามีนิมิตว่ามันมีโถกระดูกของท่านที่ฝังอยู่ตรงรากไม้ที่ชาวบ้านแถวนี้เค้าเริ่มปูเทพื้นปูนสร้างศาลาให้ท่าน ห่างจากที่ท่านนั่งอยู่นี้ไม่เกินห้าเมตร แล้วท่านก็เลยบอกให้ชาวบ้านช่วยกันขุดตรงรากไม้ที่ว่าแล้วก็เจอไหโบราณที่ใส่กระดูกนี้อยู่จริงๆด้วย (เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู เพราะว่าวันนี้มันเย็นแล้ว ไปคุยกันท่านตอนเลิกงานก็เลยเย็นไปหน่อย) แต่ที่แน่ๆก็คือมีน้องตัวแทนยาที่เดินทางมาด้วยกันก็เห็นโถกระดูก(เก่ามากๆ)กับตาด้วยเหมือนกัน
    ถ้าเคยอ่านประวัติของหลวงปู่ชอบ ก็จะพบว่าหลวงปู่ชอบเคยเดินทางไปสร้างกุฏิที่แห่งหนึ่งที่อำเภอวังสะพุงที่เป็นสถานที่หลวงปู่ชอบได้เคยเกิดเป็นเก้งหรือกวางนี่แหละ แล้วมาโดนคนยิงตายอยู่ที่ตำแหน่งตรงนั้น (ผมว่าสิ่งที่ท่านทำอยู่นี้ก็น่าจะคล้ายๆกัน)
    และวันนี้ท่านก็ยังบอกว่าพวกชาวบ้านที่มาไหว้ท่านอยู่ทุกวันนี้ก็มีบางคนที่เคยเกิดร่วมกันมาในสมัยก่อนโน้นด้วย
    ช่วงที่ผ่านมานี้ก็มีชาวบ้านหลายคนเข้ามาคุยกันท่านแล้วถามท่านว่าท่านทำอะไรอยู่บนดอยแห่งนี้หรือเปล่าเพราะว่าชาวบ้านเห็นเป็นแสงไฟส่องสว่างอยู่เหนือดอยนี้อยู่เรื่อยๆ ซึ่งตามปกติถ้าเป็นการเห็นนิมิตแบบนี้ในบริเวณที่ไม่มีคนอาศัยอยู่การเห็นแสงไฟแบบนี้มักจะบ่งบอกถึงว่า ณ บริเวณนั้นเป็นสถานที่ที่มีพระธาตุอยู่ แต่นี่ท่านเป็นพระที่ยังมีชีวิตอยู่ อันนี้ก็ต้องสุดแท้แต่ใจท่านจะตัดสินแล้วหละครับ
    4)น้องตัวแทนยาเล่าให้ท่านฟังถึงพระรูปหนึ่งที่น้องเค้าขอให้ช่วยไปในงานบุญตั้งศาลที่บ้านของน้องเค้า แล้วมีเรื่องที่น้องเค้าใส่ซองให้กับพระไป แล้วเหมือนว่ามีการเข้าใจผิดกันเล็กน้อยว่าน้องเค้าไม่ได้ใส่ซอง แล้วพระรูปที่ว่านี้ก็ไม่พอใจ ท่านก็ต่อว่าพระสงฆ์เดี๋ยวนี้เป็นแบบนี้ไปหมดที่หวังเอาลาภสักการะจากฆราวาส แล้วการไปตั้งศาลก็เหมือนเป็นการปลุกผีให้มันเกิดขึ้นมา ทั้งๆที่จริงๆแล้วเราควรจะนับถือพระพุทธเจ้าให้มากเข้าไว้มากกว่า
    5)เมื่อผมถามท่านว่า คำว่านิพพาน นี้หมายถึงดับสูญ เหมือนว่าไฟที่ดับแล้วมันก็ไม่เหลืออะไรเลย แบบนี้ก็ไม่ดีสิ เพราะมันเหมือนว่าทำให้เราไม่รับรู้ในความสุขใดๆที่เกิดขึ้นอีกใช่ไหม ท่านก็บอกว่าไม่ใช่เข้าใจผิดแล้ว คำว่านิพพานหมายถึงว่าเราดับจากกิเลสต่างหาก
    6)ท่านเล่าให้ฟังว่าท่านเคยนั่งสมาธิไปเป็นสี่ชั่วโมงแล้วท่านก็เห็นอะไรก็ไม่รู้ที่เป็นตัวดำๆที่หลุดออกไปจากตัวท่าน อันนี้ผมไม่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร จะหมายถึงการเห็นอัตตาหรือกิเลสที่หลุดออกไปได้หรือไม่
    6)จากที่ได้คุยๆไป ผมจึงยังมองไม่เห็นว่าสรุปแล้วท่านมีการอวดตัว ยกตนเพื่อจะให้ตัวเองดูเหมือนว่าเป็นพระอรหันต์แต่อย่างใด ท่านแค่บอกว่าท่านก็แค่บรรลุธรรมอันเป็นวิมุติเท่านั้น เพียงแต่ว่ามีแต่ผมเท่านั้นเอง ที่ไปตีความจากคำพูดของท่านว่าท่านเป็นพระอรหันต์
    7)การมาตั้งสถานที่เพื่อสั่งสอนธรรมที่สถานที่นี้ ก็ไม่ได้เป็นการหวังลาภสักการระแต่อย่างใด ท่านบอกว่ามันเป็นความเมตตาข้างในที่ท่านอยากจะเผยแพร่ธรรมะของพระพุทธเจ้าให้กับคนที่ยังไม่รู้ก็แค่นั้น

    สรุปแล้วท่านคิดอย่างไรก็ต้องสุดแล้วแต่ใจของท่านแล้วหละครับ
     
  11. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ท่านเป็นลูกศิษย์ ใคร ครับ บวชที่ไหน ใครเป็นอุปชาย์ เคยธุดงธ์ไหมครับ..ช่วยกันตรวจสอบนะครับ เรื่องที่คุณหมอยกมานั่น ธรรมดามาก สำหรับพระ1-2 พรรษาก็พูดได้คล่องแล้วครับ. ยิ่งเจอพวกตกฌาน อลัชชี ยันตระ ภาวนาพุทโธ สมีนิกร แปลได้ทุกตัวของบาลี..นี่ยังไม่พูดถึงปราโมดชนะครับ อ่านจิตทะลุเลย..เอาแนวทางที่ท่านเทศน์ มาคุยให้ฟังบ้างซีครับ เราช่วยกันตรวจสอบ..การอ้าง ชาติปางก่อนเคยตายตรงนี้ จึงมาสร้างวัด มันไม่ใช่แล้วครับ..นี่มันยึดติดแม้กระทั่งกรรมที่ต่างวาระกัน..ทะแม่งๆครับ ต้องปล่อยวางอยู่กับปัจจุบัน
     
  12. ชาวพุทธ

    ชาวพุทธ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2004
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +15
    " ตรัสรู้ " คำนี้ใช้กับ พระพุทธเจ้า กับ พระปัจเจกพุทธเจ้า เท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ หรือว่าใช้กับ บุคคล พระ และอื่นๆได้ :eek:
     
  13. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ขอบคุณครับผม ขอให้ช่วยกันติดตามต่อไปก็แล้วกันครับในระหว่างการติดตามดูเรื่องราวต่อไปนั้น ขอให้ทุกท่านติดตามดูจิตใจของท่านไปพร้อมๆกันด้วยนะครับ แล้วจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะครับ
     
  14. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    "มโนปุบฺพงฺคมาธมฺมา มโนเสธฺฐามโนมยา"
    ใจเป็นใหญ่กว่าสิ่งทั้งปวง ใจเป็นประธานของสิ่งทั้งปวง
    ถ้าคิดหรือทำสิ่งใดด้วยใจบริสุทธิ์ ความสุขย่อมติดตามเขาเหมือนเงาติดตามตน

    ใจเป็นใหญ่กว่าสิ่งทั้งปวง ใจเป็นประธานของสิ่งทั้งปวง
    ถ้าคิดหรือทำสิ่งใดด้วยใจเศร้าหมอง ความทุกข์ย่อมติดตามเขาเหมือนเงาติดตามตน

    ขุนเขาไม่สะเทือนด้วยแรงลม บัณฑิตย่อมไม่หวั่นไหวด้วยคำสรรเสริญนินทรา
    ถึงถูกความทุกข์ทับถม ถึงพลาดพลั้งล้มลง บัณฑิตก็ยังคงสงบอยู่ได้ โดยไม่ละทิ้งธรรม

    เจริญในรสธรรม
     
  15. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    ขอบคุณครับที่ท่านช่วยชี้แจงข้อสงสัย..ขออนุโมทนาในบุญด้วยครับ สาธุๆๆ
     
  16. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ขอแจ้งความคืบหน้าสำหรับวันที่ 8 พ.ค. นี้นะครับ
    วันนี้เป็นวันอังคารซึ่งเป็นวันหยุดทำงานของผม ผมก็ตั้งใจเต็มที่เลยที่จะไปกราบพระองค์นี้
    แต่แล้วอยู่ๆ วันนี้ตอนเช้าๆเจ้าของที่ดินเค้าก็โทรมาบอก บอกว่า ศาลาที่พวกเค้าสร้างกันขึ้นมา ซึ่งเป็นเหมือนแค่เพิงสังกะสีที่เอาไว้นั่งคุยธรรมะกับหลวงพ่อนี่มันโดนฝนโดนลมพัดอย่างแรงจนตอนนี้มันพังไปหมดเลย หลวงพ่อท่านก็เลยไม่สะดวกที่จะให้เป็นสถานที่สอนธรรมะ ท่านก็เลยจะกลับไปที่ป่าที่อ.ภูเวียงตามที่ท่านได้อยู่ที่นั่นมาแต่ก่อน ถ้ามีโอกาสท่านอาจจะค่อยเดินทางกลับมาที่นี่อีกทีหนึ่งครับ
    ในสัปดาห์ก่อนๆที่ผมเล่าให้ฟังว่าท่านได้มอบสมุดโน๊ตที่ท่านจดบันทึกการปฏิบัติธรรมของท่านเอาไว้ให้ผมด้วย ผมก็เลยขอถือโอกาสถ่ายรูปขึ้นมาให้ดูที่นี่เลย อ้อ แล้วท่านก็ได้มอบหนังสือให้ผมเล่มหนึ่งด้วย ท่านบอกว่าหลวงพี่ทองใบที่อุดรนี้ท่านก็สอนในเรื่องการปฏิบัติธรรมได้ละเอียดดี ให้ลองเอาไปอ่าน (หนังสือมีชื่อว่าพ้นภัยด้วยธรรม)
    ในช่วงก่อนหน้านี้ที่ผมได้รับสมุดจดบันทึกธรรมจากท่านผมก็คาดหวังว่าเราน่าจะมีอะไรมาคุยกับท่านได้บ้างเพราะว่าเราก็ปฏิบัติมาบ้างพอสมควร แต่ก็รู้ตัวว่ามันไม่ได้ไปถึงไหนสักเท่าไหร่หรอกครับ มีบางครั้งที่คุยกับท่านไปท่านก็บอกว่าระดับภูมิธรรมอย่างที่ผมมีว่าไปแล้วยังเป็นระดับอนุบาลอยู่เลยนะ (ผมเข้าใจว่าท่านคงจะพยายามพูดเพื่อให้ผมรู้สึกฮึดขึ้นมาสักหน่อยที่จะปฏิบัติให้มันดีขึ้นมากกว่านี้อีก) แล้วก็ยังมีบางประโยคที่ท่านบอกว่าที่ผมปฏิบัติมาได้จนถึงขนาดนี้ อย่างน้อยก็คือว่าภายในเจ็ดชาตินี้ผมก็จะบรรลุเข้าถึงนิพพานได้แน่นอนอยู่แล้ว แต่ว่าถ้าอยากให้มีความก้าวหน้ามากๆในชาตินี้ก็น่าจะบวชเสีย
    อ้อ ผมมีรูปที่เป็นเพิงสังกะสีที่บังเอิญได้ถ่ายเอาไว้ในโทรศัพท์มือถือตัวเองเอาไว้ด้วย เป็นการถ่ายในช่วงแรกที่ได้เดินทางมาไหว้ท่านนี่แหละครับ
    เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปของท่าน กับไม่ได้ถ่ายรูปไหที่ท่านให้ชาวบ้านขุดขึ้นมาให้ดู

    ในวันนี้มีเมล์แจ้งมาที่ผมบอกว่ามีการโอนเงินมาด้วย 100 บาท โดยไม่ได้แจ้งชื่อผู้โอน แต่ว่าได้ส่งข้อความมาว่า : บริจาค100บาท เพื่อสำนักสงฆ์ ขออนุโมทนาครับ
    ยังไงก็ขออนุโมทนาด้วยนะครับ หลังจากนี้ขอให้ทุกๆท่านได้หยุดโอนเงินไปให้ผมก่อนนะครับ เนื่องจากว่าหลวงพ่อไม่อยู่ท่านกลับไปที่ป่าภูเวียงแล้ว แต่ถ้าท่านไม่ได้กลับมาอีกผมก็จะนำเงินของท่านไปเข้าโครงการสงฆ์อาพาธแทนนะครับ แต่ถ้าท่านกลับมาผมก็จะนำเงินของผมส่งผ่านให้กับผู้ที่ทำการก่อสร้างสำนักสงฆ์นี้ต่อไปนะครับ
    อ้อ แล้วก็มีน้องคนหนึ่งในเว็บนี้แหละครับที่ส่ง PM มาหาผมบอกว่าถ้ามีโอกาสจะเดินทางมากราบหลวงพ่อองค์นี้ ถ้ายังไงก็ขอให้บอกผมมาอีกทีในช่วงก่อนจะเดินทางนะครับ เพราะว่าตอนนี้หลวงพ่อไม่อยู่กลับไปที่ป่าที่ภูเวียงที่ห่างกันเป็นร้อยกว่ากิโลโน่นแหละครับ
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0667.JPG
      IMG_0667.JPG
      ขนาดไฟล์:
      710.1 KB
      เปิดดู:
      37
    • IMG_0668.JPG
      IMG_0668.JPG
      ขนาดไฟล์:
      704.9 KB
      เปิดดู:
      36
    • IMG_0669.JPG
      IMG_0669.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.4 MB
      เปิดดู:
      27
    • IMG_0680.JPG
      IMG_0680.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1 MB
      เปิดดู:
      51
    • IMG_0681.JPG
      IMG_0681.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      42
  17. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    มีอีกเรื่องที่อยากจะแจ้งให้ทราบ นั่นก็คือว่า ที่เคยสงสัยกันในเรื่องของคำว่า ตรัสรู้ ผมได้อ่านหนังสือของหลวงพี่ทองใบ (หนังสือที่หลวงพ่อองค์นี้ให้ผมมา) หลวงพี่ทองใบท่านก็ได้พิมพ์คำว่า ตรัสรู้ อยู่ในหนังสือของท่านอยู่เหมือนกัน โดยไม่ได้หมายถึงพระพุทธเจ้า ผมก็เลยเข้าใจว่าหลวงพ่อองค์นี้ท่านพูดให้ผมฟังในตอนแรกนั้นท่านก็คงหมายถึงการบรรลุธรรมเป็นขั้นเป็นตอนไปแบบนี้ (ผมได้ถ่ายรูปเนื้อความในหนังสือที่แสดงถึงคำว่าตรัสรู้ให้ท่านได้อ่านด้วยครับ)
    ดังนั้นผมก็เลยเข้าใจว่าหลวงพ่อท่านคงไม่ได้หมายความเอาว่าคำว่าตรัสรู้ของท่านจะไปเทียบเท่ากับพระพุทธเจ้าหนะครับ
    หลวงพ่อท่านบอกว่าจริงๆแล้วเราไม่จำเป็นต้องรู้ในเรื่องทฤษฎีหรืออะไรที่เป็นวิชาการมากเกินไป ท่านบอกว่าให้รู้หลักคร่าวๆถึงเรื่องที่ว่าจะศึกษาในเรื่องสติปัฏฐานสี่ เพียงแค่นี้ท่านก็ละทิ้งตำราไปแล้วท่านก็เข้าป่าไปทำการศึกษาเข้าที่ข้างในของตัวเองเอาอย่างเดียวก็เท่านั้นเองครับ
    ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมนะครับ ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0682.JPG
      IMG_0682.JPG
      ขนาดไฟล์:
      482.4 KB
      เปิดดู:
      34
  18. jaetechno

    jaetechno เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +6,182
    พระอรหันต์ พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่มีสิทธิพยากรณ์ ว่าองค์นั้นเป็นหรือไม่เป็น อย่างที่สองท่านรู้ได้ด้วยตัวของท่านเอง หรือพระอรหันต์ด้วยกันรู้ได้ด้วยกันเองในกลุ่มพระอรหันต์ ว่าท่านจบกิจในพระพุทธศาสนาแล้ว หลวงตามหาบัวท่านไม่เคยเอาตัวท่านเคียบเคียงพระพุทธเจ้าโดยใช้คำว่า"ตรัสรู้" ในวันที่บรรลุธรรมขั้นสูงสุดเป็นพระอริยเจ้าในบวรพระพุทธศาสนา ในช่วงชีวิตที่ผ่านมาผมได้อ่าน ได้ฟังครูบาอาจารย์ สอนก็เยอะแต่ไม่เคยปรากฎมาก่อนว่าในระดับพระอริยเจ้าจะใช้คำแทนการบรรลุธรรมคือดับกิเลสแล้วสิ้นว่า "ตรัสรู้" อันนี้เป็นเรื่องที่ผมติงเป็นอันดับแรก สองในการรู้เรื่องต่างๆไม่ว่าในอดีตหรืออนาคตฆราวาสก็ทำได้จัดเป็นฌาณโลกีย์ ซึ่งบุคคลที่เกิดมาบนโลกนี้ ก็สามารถทำได้ถ้าทำตามแนวทางที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ ฉะนั้นจะวัดความเป็นอรหันต์มิได้เด็ดขาด การดูว่าใครเป็นพระอรหันต์สำหรับปถุชนคนธรรมดาเป็นสิ่งที่ยากพอสมควร ข้อสามการบอกบุญเป็นสิ่งดีมีการโอนผ่านธนาคารอะไรก็แล้วแต่ตามกฏของเว็บจริงๆแล้วอนุญาตให้ไปในห้อง ศูนย์ ประชาสัมพันธ์ เพราะเป็นที่ให้บอกบุญโดยเฉพาะ ในส่วนการบอกบุญมักจะมีรูปภาพถ่ายเพื่ออ้างอิงเสมอ และแสดงตัวตนเองว่าเป็นใครมีเบอร์ติดต่อชัดเจน เพื่อความน่าเชื่อถือ บางท่านอาจบอกไม่มีความจำเป็นๆทำๆไปเหอะเขาเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ก็ตกนรกเองแระ เป็นความคิดที่ถูกแค่ส่วนเดียว เพราะการทำบุญทำทาน ครูบาอาจารย์หรือแม้แต่พระพุทธองค์ท่านยังให้เลือกนาบุญในการทำทาน ซึ่งมีอานิสงค์ต่างกันมาก ถ้าพระรูปนี้เป็นพระอรหันต์จริงก็ถือว่าเป็นบุญของเจ้าของกระทู้ไป.. การปฏิบัติธรรมไม่ต้องแสวงหาครูบาอาจารย์มากนัก เอาพอดีๆ แล้วเอาเวลาที่เหลือมาตั้งใจ รักษาศีล ให้ทาน ภาวนาและปฏิบัติดีกว่า ธรรมะและมรรคผลสำเร็จได้ด้วยใจมีใจเป็นประธาน มิได้อยู่ที่ครูบาอาจารย์เป็นประธาน ครูบาอาจารย์แค่บอกแนวทางปฏิบัติและไขข้อสงสัยเท่านั้นเหมือนพระพุทธองค์ท่านเคยตรัสว่า
    "ท่านทั้งหลายจงมีธรรมเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีอย่างอื่นเป็นที่พึ่งเลย เราตถาคตเองเป็นที่พึ่งแก่ท่านทั้งหลายไม่ได้ ตถาคตเป็นแค่เพียงผู้ชี้บอกทางเท่านั้น ส่วนความเพียรพยายามเพื่อเผาบาปอกุศล ท่านทั้งหลายต้องทำเอง ทางมีอยู่ เราชี้แล้วบอกแล้ว ท่านทั้งหลายต้องเดินเอง"
    ขอทุกท่านเจริญในธรรม ขออโหสิถ้าข้อความนี้ไม่ถูกใจท่านทั้งหลาย
     
  19. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    ขอบคุณที่ช่วยเตือนครับผม ผมจะระวังไว้หนะครับ อย่างที่บอกก็คือว่าความตั้งใจของผมก็คือการพยายามที่จะทำนุบำรุงพุทธศาสนาหนะครับ ดังนั้นเมื่อเห็นพระสงฆ์ที่ไหนที่คิดว่าท่านไร้ปัจจัยในการดำรงชีวิต ผมก็คิดจะเข้าไปให้ความช่วยเหลือหนะครับ แต่บอกตามตรงว่าบางทีมันก็มีความขัดแย้งอยู่ในใจเล็กน้อย ในเรื่องที่ว่าเราไม่แน่ใจว่าพระสงฆ์ที่เราให้การรักษาหรือถวายปัจจัยอะไรให้ไปนี้ท่านเป็นพระสงฆ์ที่เป็นพระสุปฏิปันโนหรือเปล่า
    ผมก็ได้แต่พยายามดูเอาว่าสิ่งที่เราให้ท่านไปนั้นจะต้องไม่ควรเป็นเงินอะไรที่มันมากมาย แต่จะให้ในสิ่งที่จำเป็นอย่างเช่นเรื่องของยา ฯลฯ
    อย่างพระองค์นี้ผมก็เลยถวายให้ท่านเฉพาะในเรื่องของยาและน้ำดื่มไปเท่านั้นก่อน สิ่งที่เหลือจากนั้นเป็นเรื่องของการสอบถามในเรื่องของธรรมะหนะครับ ซึ่งจะว่าไปแล้วมันก็ดูไม่ดีนิดนึงในแง่ที่ว่า มุมหนึ่งก็เป็นไปเพื่อการต้องการเรียนรู้ธรรมะ แต่อีกมุมหนึ่งก็เป็นไปเพื่อการจับผิดไปด้วย ซึ่งเรื่องแบบนี้แหละครับที่ทำให้ลำบากใจพอสมควร
     
  20. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    และขออภัยสำหรับAdmin ของเว็บด้วยครับ ที่ผมไม่ทราบว่ามีหน้าสำหรับเอาไว้บอกบุญเพื่อการเรี่ยไรโดยเฉพาะ แต่อย่างไรก็ตามผมก็ได้แจ้งตัวตนให้ทราบในกระทู้นี้แล้วนะครับ (จากชื่อบัญชี) เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจหนะครับ คราวต่อไปถ้าจะบอกบุญเรี่ยไร ผมจะไปบอกที่หน้าบอกบุญครับผม ขออภัยสำหรับครั้งนี้ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...