ผมค้นพบแล้ว! วิชชาพลังจักรวาลขั้นสูงสุดที่พระพุทธเจ้าแอบซ่อนไว้

โลกมันกลมกว่าที่คิดนะ ไม่มีซ้ายแล้วก้ขวาเกินหรอก มนุษย์เป็นผู้เลือกทางเดินของตน

 

ผมขอแสดงความยินดี กับเจ้าของกระทู้ และโมทนาสาธุ ความรู้ของท่านเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน จิง ความรู้ท่านถูกต้อง แต่ยังไม่ถูกที่สุดนะ อย่าลืมเติมกรอบของศีลด้วย ศีลจะทำให้เราไม่กระทบผู้อื่น และผู้อื่นไม่กระทบเราดังนั้น รักษาศีล ปฏิบัติตามมงคล 38 ครับ
ผมขอโมทนาสาธุกับความรู้ท่านจิงๆ เปนความรู้แบบสมัยใหม่ที่ใช้หลักอ้างอิงเหตุผล กับธรรมมะ ได้ดีมากทีเดียว ผู้ทียังมองไม่เหนการพิจารณา ยึดมั่นในครูบาอาจารย์ หรือตำรามากเกินไป ก็จะไม่มีความรู้เกิดขึ้นแบบเรียกว่า ปัจจัตตังนะคับ คือตัวผลไม่เกิดจากตัวเราเอง มัวแต่ไปยึดตัวผลจากตำรามาเปนเหตุ แล้วอ้างว่าเปนตัวผล อันนี้เหนื่อยใจครับเพราะยังไม่เกิดความรู้เฉพาะตนจากการประมวลความรู้เลย เพราะเหตุไม่ลงเมื่อละกิเลศตัวเองซึ่งต่างกับครูบาอาจารย์ ไม่มีการประยุกต์เข้ากับตัวเอง แล้วความรู้เฉพาะตนจะเกิดยังไง ก็จะมีความรู้เฉพาะอาจารย์ เฉพาะตำราเกิดเท่านั้น อย่าลืมนะครับ ธรรมมะคือธรรมชาติ ทุกสรรพสิ่ง ทุกกฏเกณฑ์ ทุกตัวตน ทุกรูปนาม และทุกจักรวาล ล้วนอยู่ในพระธรรมที่พระสัพพันยู ตรัสรู้ เป็นเรื่องเดียวกัน แต่ในสิ่งที่ท่านไม่กล่าวคือ ใบไม้นอกกำมือ เท่านั้น เพียงจัดองค์ความรู้แล้วตีน้อมพิจารณาเข้ามาในความรู้ที่อยู่ในกำมือ พระพุทธองค์ เท่านั้นเอง
ความรู้แต่ละคนสั่งสมมาไม่เท่ากัน การพิจาณาของแต่ละคนไม่เท่ากัน จะปฏิบัติธรรมแก้ใจของตนเองนั้น ก้ต้องใช้ความรู้ของตนเองนั้นละ มาสอนตนเองจนเป็นปัจจัตตัง รู้ได้เฉพาะตน เมื่อรู้ได้เฉพาะตน ก็อาศัยเครื่องมือ คือ พระธรรมในกำมือพระพุทธองค์ตรวจสอบความรู้ของเรา หากหาทางลัด คือ หาผู้รู้ครูบาอาจารย์ที่รู้จริง เห็นจริง ท่านจะช่วยทำให้เราพิจารณาธรรมแก้ไข ได้เร็วขึ้น นั้นเองครับ ผมดีใจครับที่คนรุ่นใหม่ ใช้ปัญญาพิจารณาธรรมผนวกกับความรู้สมัยใหม่ แม้จะยังไม่ถูกทั้งหมดแต่ก็เป็นเหตุปัจจัย ให้เจริญในธรรมต่อไปครับ

 

สรุปก็คือ...........ปล่อยวาง.......คิดบวก...........ทำดี..........ไม่ก่อกรรมเพิ่มมาอีก

 

..........^______^........

 

โปรดอย่าแคร์ใคร ไม่ต้องสนใจ เพราะนี่คือ อนุตรธรรม ที่ต้องทำใครเห็นความสว่างก็เดิน ไม่เห็นก็หยุดนิ่ง ต่อไป ท่านคงรู้อยู่แล้วว่าหน้าที่นี้ ย่อมต้องมีคนวิจารณ์ ซึ่งเราต้องพิสูจน์ตัวเองและผ่านมันไปให้ได้ เอาใจช่วยค่ะ ไม่แน่ใจคุณคือคนเดียวกับ physigmund_foid ใน oknation หรือเปล่า อยากติดต่อพูดคุยด้วยค่ะ

 

กุสะลา ธัมมา อะกุสะลา ธัมมา อัพยากะตา ธัมมา...

พออ่านเรื่อยๆ ท่อนนี้มันก็ลอยเข้ามาในหัว เลยไปหาว่าแปลว่าอะไร
พอดูความหมายก็น่าจะเกี่ยวกันนะ ลองเอาไปช่วยตีความหมายหน่อยละกันนะ

 

พูดให้ฟังง่ายๆคือจะแปลงหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าเรื่องมงคล ๓๘ ประการ
ให้ไปเป็นพลังจักรวาลว่างั้นเถอะ
แต่ทั้ง มงคล ๓๘ ประการ และ พลังจักรวาลนี้ ล้วนมีเจ้าของผู้ค้นพบทั้งคู่
เจ้าของเขาจะยอมหรือ ไหนยังจะลูกศิษย์ของเขาอีกเล่า
ทั้งฝ่ายพระ และฝ่ายผู้ฝึกพลังจักรวาล ซึ่งเขาย่อมมีอาจารย์ของเขา