ปุถุชน....คนช่างสงสัย...

สงสัยค่ะ เวลาสวดมนต์ไหว้ตอนเด็กๆหลับ ช่วงกล่าวอุทิศบุญนี่เกือบทุกครั้งเด็กๆจะหายใจหรือกรนแบบถี่มากๆจนน่าตกใจกลัวเค้าจะเป็นอะไร คือเป็นทั้งสองคนเลย สังเกตหลายครั้งแล้วอะไรจะพร้อมใจกันกรนถี่ขนาดนี้ ดูก็นอนหลับลึกดีสวดเสร็จก็ไม่มีอะไร หรือสวดบทปกติที่ไม่ใช่ช่วงกล่าวอุทิศบุญก็เห็นเด็กๆหลับปกติ วันนี้ก็กรนถี่ตอนกำลังกล่าวอุทิศบุญค่ะ ช่วยไขข้อสงสัยด้วย

 

.
เขียน ๒๒.๔๒

ท่านนพโชว์รูปพระจันทร์หลายรูปแล้ว
แต่เห็นกระต่ายในพระจันทร์ไม่ค่อยชัดนะ
เลยเอากระต่ายมาฝาก ชัดพอได้นะ แต่สงสัย
ว่าเส้นสีเขียวมาจากไหนครับ ช่วยดูให้หน่อยนะ นะ

ถ่ายตอนใกล้ห้าโมงเย็น สองรูปห่างกันนาทีเดียว
ตอนถ่ายก็ไม่เห็นเส้นนะ พอมาดูในคอมถึงเห็น
ก็แปลกใจว่ามาไง จะมโนว่าพระอินทร์ส่งซิก
ก็ดูจะโอเวอร์ไปหน่อย พอจะบอกได้ไหม






ถ่ายไว้ตั้งกะเดือนเก้า ปีห้าหกน่ะครับ
สงสัยมานาน แต่ก็ไม่สงสัยมาก
พระจันทร์ของท่านช่วยนึก
เลยอยากถามน่ะครับ


กระต่ายป่า ข้างวัด / แสงแห่งค้างคาว
.

 

เรื่องปกติมากครับ..คือกระแสเย็นมันกำลังขึ้นหรือกำลังส่งไป..
เหมือนๆตอนที่เรากรวดน้ำอุทิศ
ส่วนกุศลแล้วเรารู้สึกว่า
กระแสที่หมุนๆอยู่มันขึ้นบน
เรารู้สึกเบาๆโล่งๆนั้นหละครับ
และปกติ ถ้าเราสังเกตุดีๆ ทั้งร่างกายนะครับ
ช่วงที่กระแสเย็นกำลังขึ้นทั้งหมดนั้น
มันจะมีกระแสตัวหนึ่ง เริ่มที่ใต้จมูกและวนผ่านใต้จมูก
ลงมาถึงคอและวนขึ้นไปผ่านปลายจมูกไปรวมกับกระแสเย็น
ที่กำลังขึ้นไปข้างบน ในช่วงที่กระแสตรงนี้วน
มันจะมีกระแสบางส่วน ที่จะวนผ่านใต้จมูกลงมาที่คอ
สลับอย่างนี้ไปเรื่อยๆ กระแสพวกนี้ ส่วนหนึ่ง
มาจากการหายใจในช่วงนั้นนั่นเอง
เนื่องจากถ้า เรายังหายใจอยู่ ยังไงก็ต้องแบบนี้
เพียงแต่ว่า ถ้าเรานอนหลับมันก็เลยแสดงออก
มาในลักษณะการกรน ถ้าสังเกตุดีๆตอนลืมตา
จะจับกระแสตรงนี้ได้..

ยกเว้นว่าไม่หายใจถึงจะไม่มี ๕๕๕

 

ถ่ายดวงจันทร์ ได้ประมาณนี้หละ
มือใหม่ๆ..
ถ้าจะถ่ายประมาณละเอียดเลย
คงต้องประมาณ กล้องยักษ์
ขนาดเท่าปืนกลแล้วหละ ๕๕๕
และด้วยอุปกรณ์ที่มีคงต้องไปถ่าย
บนยอดเขาเอเวอเรสต์แล้วหละ
หรือคงต้องขอภาพจาก นาซ่า
แล้วกัน ๕๕๕

แสงสีเขียวตรงแป๊ะ แบบนี้เลย
ส่วนตัวก็ยังไม่เคยเห็นนะ
คือ ที่เคยเห็นเป็นสีแดง เป็นท่อๆแบบนี้แระ
หรือแสงสีขาวที่ออกจากหน้าอก
พระสงฆ์มีชื่อท่านหนึ่ง
เอกลักษณของแสงที่เหมือนกันคือจะไม่มีขอบให้เราเห็นได้ชัดเจน
และสีจะกระจายมีความสม่ำเสมอเท่ากัน
แต่ภาพที่เคยเห็นคือ ถ่ายบุคคลในระยะใกล้
และแสงนั้นกำลังครอบตัวบุคคลอยู่
และแสงนั้นกำลังออกจากพระสงฆ์รูปนั้นอยู่
ดังนั้นจึงไม่อาจที่จะสามารถสรุปได้เลย
แต่ถ้าสงสัยว่าเป็นแสงท่านหรือไม่
ก็ขอเชื่อมท่านดู แล้วย้ายมาเชื่อมกับแสงนี้
ก็จะพบคำตอบด้วยตัวเอง
คำตอบนี้ไม่จำเป็นต้องให้
ชาวโลกคนอื่นๆได้รับรู้
ร่วมด้วยกับเราก็ได้
ปล.พอเข้าใจเนาะ

 

.
เขียน ๑๕.๑๙

เชื่อมไม่เป็นครับ ไม่ยอมหัดด้วย กลัวเก่งอ่ะ ๕๕๕
เดาเอาว่า ถ้าเราทำได้ จะโดนก็อปไปได้ง่ายๆ
แบบว่า ถ้าเราเก่งขึ้น ศัตรูก็จะเก่งขึ้นตาม
เลยไม่ยอมฝึกหลายๆ อย่างน่ะครับ

แต่ส่วนตัวแล้ว ตอนนั้นที่เห็นรูป ก็พยายามจะตีความ
ก็ได้ข้อสรุปมั่วๆ ว่า "ใคร" คงมาบอกว่าใกล้แล้ว
อีกนิดเดียวก็ถึงเส้นชัยแล้ว อย่างนั้นล่ะ มั้ง
เห็นเป็นสีเขียว ก็เลยเดาว่าพระอินทร์

ตะกี้ไปดูรูปต้นฉบับ เส้นแสงน่าจะอยู่ด้านหน้าก้อนเมฆนะ
เพราะช่วงที่เส้นผ่านเมฆ ขอบๆ จะจางลงเล็กน้อย
เส้นตรงแหน๋วเลย โคนใหญ่กว่าปลายนิดนึง
จะว่าไป ก็ไม่ค่อยอยากรู้นะ ว่าใครทำ

เพราะรู้สึกว่า ในนิทานของเราจะมีแต่ขาใหญ่เพียบเลย
ถ้ารู้ว่าใครเป็นใคร แล้วจะไม่กล้าซ่าส์ล่ะมั้ง นะ
ในบท เค้าเลยจัดไว้ ให้ไม่ต้องรู้จักเลย
ไม่ต้องกราบไหว้บูชาใครทั้งนั้น

ชื่อที่ปรากฏในนิทาน ว่าเป็นท่านโน้นท่านนี้
ก็ไม่ได้เห็นหน้าค่าตาซักท่านเลยอ่ะ
เดาเอา จากร่องรอยที่ปรากฏ
ให้เห็นจากหลักฐาน

เดาอีกตามเคยว่า คงเป็นเพราะอยากให้เป็นวิทยาศาสตร์
พิสูจน์ได้บ้าง มีหลักฐานให้เห็นกันได้หลายๆ คน
แบบแมสโปรดักส์น่ะนะ เห็นกะตาได้แยะๆ
ชาติไหนภาษาไหน ก็เข้าใจได้หมด


กระต่ายป่า ข้างวัด / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

โหแสงอะไรเนี่ย ขอบก็ไม่มี ประหลาดมาก เหมือนส่งมาจาก ยามแม่นะ ในหนัง starwar มากครับ :'(

 

เขียน ๑๓.๔๗

แต่ว่า เสาลำแสงนี้นี่นะ โคนใหญ่กว่าติ๊ดนึงน่ะ
เลยเดาว่า คงส่งจากโลกออกไปมากกว่า
แต่จะส่งไปต่างดาว หรือต่างมิติ
อันนี้ก็ไม่ทราบได้นะ เนอะ

อืม..พอโม้ถึงเสาลำแสง ก็คิดถึงขึ้นมาเชียว
ตั้งไว้ไม่รู้กี่ต้นแล้วอ่ะ มีสองเวอร์ชั่นแล้วนะ
รุ่นแรก ตั้งไว้ทั้วประเทศไทยเลย มโนนะ
แต่รุ่นสอง ตั้งไว้ยามไปเยือนที่ต่างๆ
รุ่นนี้ ไปติดตั้งด้วยตัวเองเลยนะ
แถมทุกต้น มีลูกแก้วด้วยอ่ะ
มีประจำไว้ ทุกเสาเลย


กระต่ายป่า แห่งเกาะนาฬิเกร์ / ชาวหมู่บ้านในนิทาน
.

 

รุ่นนี้สำหรับไว้ส่องกระต๋าย บนดวงจันทร์ ไม่เกี่ยวกับแสง ๕๕๕

 

ว่ากันเรื่องแสง ที่เห็นได้ไม่ว่าจะลืมตาหรือหลับตา
หรือจะถ่ายติดด้วยภาพ หรือ การถ่ายวีดีโอ
ถ้าไม่ใช่เกิดจากทางเทคนิคใดๆ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
หรือไม่ว่าด้วยจะรู้หรือไม่รู้
ทั่วไปแสงก็เป็นสิ่งบอกลักษณะของจิต ณ เวลานั้น
ซึ่งอาจจะต้องเข้าใจก่อนว่า สีของจิตพวกนี้มันเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา
แต่ยังไงก็ต้องมีสีที่เด่นชัดที่สุด เช่น สีแดงที่ไม่เข็มมาก เป็นกลุ่มที่
เนื้อหาเดิมจิตมาทางฤิทธิ์ สีเขียวเป็นกลุ่มดวงจิตที่สามารถที่จะรักษาคนได้
อะไรทำนองนี้ยกตัวอย่าง เพราะถ้าเอาละเอียดจริงๆ จะมีประมาณ ๒๒ สี
ส่วนปกติทั่วไป เราจะเห็นได้ประมาณ ไม่เกิน ๑๑ สี
และเรื่องพวกนี้จริงๆเราไม่ต้องไปถามใครแค่สร้างสติทางธรรม
เอาไว้ กำลังสติทางธรรมจะเป็นตัวบอกเราได้เองอัตโนมัติ
แม้แต่สีตัวจิตเราเอง
ก็จะมีสีของจิตที่เราเด่นที่สุด ณ เวลานี้แม้ว่าจะมีสีอื่นๆแทรกมาด้วยก็ตาม
และการเห็นได้ ก็คล้ายๆกับการเห็นนิมิต คือ ถ้าจิตเราเคยมีสัมพันธ์มาก่อน
ยังไงเราก็มีโอกาสเห็นได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติมาก..
ไม่ว่าเราจะเห็นแบบหลับตา หรือ ลืมตาได้
จะด้วยวิชาใดๆหรือเทคนิคเฉพาะบุคคล
ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

และการเห็นแบบนี้ได้ ถ้าเต็มที่มากกว่า ๓ วินาทีไปแล้ว
ในทางปฏิบัติถือว่า ยังไม่คล่องตัวต้องฝึกฝนอีกมาก
และทางปฏิบัติ จะเห็นเวลาไหนเราก็ต้องเห็นได้
นี่คือปกติมาฐานการใช้งานทั่วไปปกติ
และรักษาการเห็นได้นานจนกว่าเราจะ
ไม่ต้องการเห็นด้วย

และเราก็ต้องเข้าใจว่า ถ้าเราจะหลุดพ้นได้
ตัวจิตเรามันต้องไม่มีสีอะไรหลงเหลือนะครับ
เพราะว่า การที่ยังมีสี ไม่ว่าจะสีอะไร แสดงว่าดวงจิตเรามันยังทิ้งไม่ขาด
ซึ่งพวกนี้ยังเป็นเหตุให้เราต้องกลับมาเวียนว่าตายเกิดได้อยู่นั่นเอง
แต่ถ้าเราไม่ได้ซีว่า จะต้องพ้นหรือชอบทางมหายานก็ไม่ว่ากัน
และการเห็นแสงพวกนี้ บ้างครั้งก็ผ่านมาแต่เราก็ข้ามไปก็มี...
แต่จำไว้ว่า ถ้าต้องการพ้น ก็ไม่ควรไปยึดมั่นถือมั่นอะไร

เพราะถ้ายึดแล้วจะหลงตัวเองได้อย่างไม่รู้ตัว
แม้ว่าจะต้องใช้เวลานานมากในการเห็น
และกำหนดให้เห็น ณ เวลาใด ที่ใด สถานที่ใด
ก็ไม่ได้ ก็จะยังหลงเองได้อย่างคาดไม่ถึง


และการปรากฏเป็นแสงเป็นลักษณะหนึ่งของหลายๆวิธีเช่น
การมาเป็นดวงจิต การปรากฏในนิมิตในสภาพแวดล้อมเหมือนกลางวัน
ถ้าสภาพแวดล้อมออกเขียวๆคล้ายมองผ่านกล้องส่องกลางคืน
ให้ระวังเพราะอาจถูกหลอกให้หลงยึดติดได้ง่ายๆ
ถ้าเผลอยึดตรงนี้ จะบอกถอนตัวอยากมากและหลงตัวเอง
เพราะใครค้านใครแย้งจะไม่เชื่อ และสมาธิก็จะไม่พัฒนา
นี่แค่เล่าให้ฟังเฉยๆ

หรือการปรากฏผ่านประตูมิติมาให้เห็นแบบตาเปล่าๆนี่ก็ใช่
หรือการปรากฏขึ้นเลยบนโลกก็ใช่ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
เราก็ไม่สามารถยึดถือได้เลย แต่ก็ควรให้ความเคารพไว้ก่อน
ถ้ากำลังสติทางธรรมเรายังไม่มากพอ
ที่จะเข้าใจได้เลย ณ เวลาที่เราเห็น
การเคารพและไม่ยึดจะปลอดภัย
ถ้ากำลังสติมากพอ และรักษาอารมย์สมาธิ
ขณะที่ยังเห็นอยู่ให้นานขึ้น
เราจะทราบได้เองว่า สิ่งที่เห็นจริงๆนั้นคืออะไร
โดยมากถ้ายึดเลย แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร
มักจะโดนหลอกได้ง่ายๆ
โดยเฉพาะนักปฏิบัติ
ที่ยังยึดติด ในเรื่อง ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่นั้นเอง
ปล.ประมาณนี้.ทั่วๆ.ไม่มีไรหรอก
ดวงจิตแต่ละดวงมีเอกลักษณ์แตกต่างกัน
ท่านๆเปิดตลอดนั่นหละครับ
รอแต่ดวงจิตที่อยู่ในร่างมนุษย์เน่าๆนี้
สร้างตัวจิตให้ไม่ยึดเกาะกายแล้วไปเข้าถึง
ท่าน ได้ทุกครั้งที่ระลึกถึงทุกครั้ง
ที่ต้องการทั้งนั้นหละครับ

 

ญ ก็ใช้นะเลนส์ Super Tele นะ 555

 

อ่อๆลืม วิธีใช้ๆ แบบนี้นะ

 

รูปถ่ายไม่สวย คม ชัด แต่อาร์ตดีค่ะ ^_^

 

ใครคุยกับนกรู้เรื่องเชิญ ๕๕๕

 

ถ่ายได้คมชัดมาก ปานว่านกจะกระโดดออกจากรูปได้

 

อยู่กทม แถมเมืองทอง ถ่ายจากอาคารที่พัก ชั้นที่ ๓๐ ใช้กล้องถ่ายนี่หละ ๕๕๕ และ
ภาพถ่ายไม่ได้มีการตกแต่งใดๆ ใช้ โหมด M ในการถ่าย
Iso 250 speed ซัทเตอร์ ๓๐ วินาทีจร้า f 2.8
จะให้ภาพคมกว่านี้ก็ได้ แต่ว่า มันจะมองไม่เห็น
แนวของเครื่องบินเส้นสีขาวๆ ที่กำลังบิน จากมุมซ้ายบน
ที่เป็นเส้นๆ พอสังเกตุออกไหม..(^_^)

 

กรณีถ้าจะเอากลางคืนให้ชัด เพิ่ม f เป็น 4.5

 

กรณีต้องการแสงสี

 

รูปสุดท้ายไม่ขึ้นค่ะ ป๋านบ...
ลงรูปยังไงให้ชัด บอกทริคหน่อยค่ะ (มือถือนะ)