ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

๙ มค.๕๖ -ร่วมประมูลดวงแก้วโรจนราชาบดี

​

ขอเชิญร่วมประมูล ดวงแก้วบรมจักรพรรดิ “ดวงแก้วโรจนราชาบดี” ขนาดกว่า ๑๐ กิโลกรัม อัญเชิญพร้อมกับดวงแก้วศศิบุญญรัตน์ถ้ำแห่งหนึ่งในเทือกเขาภูพาน

ดวงแก้วนี้ ปรากฏในสมัยสมเด็จพระพุทธมังคละพุทธเจ้า โดยมีพระโชติสุริยเทวะ เป็นหัวหน้ากายสิทธิ์ ๑๕,๒๕๐,๐๐๐ องค์ ปัจจุบันอยู่ชั้นสวรรค์ดุสิต

เริ่มต้นการประมูลที่... ๑๕,๑๑๙ บาท

กติกาในการประมูล

๑. เริ่มวันที่ ๗ -๙ มกราคม ๒๕๕๖ ภายใน ๑๒.๔๕ น. ตรงกับวันแรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๑ ปีมะโรง
๒. หากที่มีผู้ประมูลในราคาสูงสุดเท่ากัน ๒ ท่าน จะตัดสินด้วยเวลาที่ปรากฏในเว็บพลังจิต โดยไม่เกินวันเวลาที่กำหนดไว้
๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วัน เมื่อโอนปัจจัยแล้ว จะทำการจัดส่งดวงแก้วให้แก่เจ้าของต่อไปค่ะ กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
เลขที่ 080-252647-2
ธนาคารไทยพาณิชย์
สาขาถนนศรีนครินทร์(กรุงเทพ-กรีฑา)
ประเภท ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์

ปัจจัยร่วมบุญ ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่ายนำเข้ากองบุญสมเด็จพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร (กองบุญแก้วบรมจักรพรรดิ)

http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมกองบุญแก้วบรมจักรพรรดิค่ะ.283863/page-100#post6885657
ปัจจัย ๑๐ % หลังหักค่าใช้จ่าย ร่วมสร้างฐานพระพุทธอัมรินทร์รัตนบพิตร และปัจจัยจำนวน ๕๐๐ บาท ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพช่อฟ้า กองที่ ๒๖๓ กับครอบครัวโรจนฤทธิกรค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆท่านด้วยค่ะ

Numsai

 

สำหรับประวัติจะนำเสนอในวันพรุ่งนี้ต่อไปค่ะ

Numsai

 

ขอกราบโมทนาในธรรมทานด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะครับ ^^

ชอบ ประโยคนี้มาก ๆ

"ท่านใดที่ทำความดีแล้ว ความดียังไม่ส่งผล เนื่องจากบางครั้งเกิดจากอกุศลกรรมเก่าให้ผลอยู่ การทำความดีทุกครั้ง เทวดาผู้รับผิดชอบจะมีการบันทึกความดีนั้น

ขอให้มีความอดทน ต่อสู้ สร้างความดีต่อไป อย่าท้อแท้ในการทำดี วันหนึ่งฟ้าเปิด วันนั้นเราจะตั้งรับผลของกรรมดีแทบไม่ทัน

ขอให้ยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้าเสมอ วันหนึ่งเราจะเห็นผลของกรรมดีนั้น เราขอโมทนาบุญ"

 

ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใส คณะของคุณจันทรกาล และทุกๆท่านด้วยครับ

 

สวัสดีปีใหม่
ขอโมทนาบุญทั้งหมด ทั้งปวงของพี่น้ำใส และทุกท่านครับ
ร่วมประมูลดวงแก้วโรจนราชาบดี ๑๕,๒๐๐ บาทครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขอน้อมรับพร และธรรมทานจากท่านพญายมราช ทั้งหมดทั้งมวล เจ้าค่ะ
และจะขอยึดมั่นในคำสอนของพระพุทธเจ้า ตราบเข้าสู่พระนิพพานเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ


ด้วยบุญศลที่ได้ทำมาตั้งแต่อดีตชาติ จนถึงปัจจุบัน ที่จำได้ก็ดี จำไม่ได้ก็ดี
ทั้งบุญกฐิน บุญผ้าป่า บุญที่ถวารภัตตาหาร บุญที่บริจากโลหิต
บุญที่ถวายดวงแก้วมณี บุญบวชลูกชาย บุญที่ร่วมสร้างโบสถ์ สร้างวิหาร
บุญถวายบาตรพระ บุญถวายน้ำดื่ม บุญถวายสังฆทาน บุญที่ถวายดอกไม้สด พวงมาลัย แด่พระสงฆ์ และบุญทุกๆบุญของเข้าพเจ้า

ขอน้อมถวายบุญนี้แด่ท่านพระยายมราช ท่านสุวรรณ ท่านสุวาร และนายนิริยบาล ขอให้ทุกท่านจงโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

จันทรกาล

 

ขออนุโมทนาสาธุบุญกับทุกท่านและ ขออนุโมทนาบุญกับธรรมทาน ของพี่น้ำใส ด้วยนะครับ
พร้อมกันนี้ขอน้อมอุทิศบุญจากการบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา และบุญกิริยาวัตถุทั้ง 10 ประการ น้อมถวายแด่พระภิกษุ ทั้ง ๔๓ รูป พระยายมราช ตลอดจนเหล่าบริวาณ นายนิริยะบาลด้วยครับ
ขอให้ทุกๆท่าน โปรดจงร่วมโมทนาบุญในครั้งนี้ด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอร่วมประมูลดวงแก้วที่ ๑๕,๕๐๐ บาทครับ

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 72 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 65 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ] Numsai*, wanta_nop, widya, TSAR, MAYTASIT, Vatechayana

 

สาธุ เจ้าค่ะ โดนใจตรงนี้มากเลย
ปกติ คนเราจะอธิษฐานเวลาทำบุญเสร็จใช่ไหมคะ
ตาลก็อธิษฐานประจำ ว่าขอให้พ้นจากความจนเสียที
จะได้มีสตางค์เยอะ ๆ มาช่วยทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาได้เต็มกำลัง (เป็นข้ออ้างชั้นดี อิอิ)
อธิษฐานบ่อย ๆ เพราะจนเหลือเกิน อยากเลิกคบค้าสมาคมกับมันเต็มที...
แถมลงทุนทำอะไรก็ขาดทุนตลอด...มือไม่ขึ้น มีเจ๊งกับเจ๊ง...


มีครั้งหนึ่งสมเด็จองค์ปัจจุบันท่านเมตตาบอกว่า...
สิ่งที่อธิษฐานขอ กำลังบุญจะจัดสรรให้ตามวาระ
ต้องรอ อดทนรอจนกว่าจะถึงวาระนั้นค่ะ...
ก็ต้องรอเหงือกแห้งกันไป จนกว่ากรรมเก่าจะหมด อิอิ...
(ทำเองแท้ ๆ ดันไม่ค่อยอยากจะรับ)


ขอโมทนาสาธุในบุญอันประเสริฐของพี่น้ำใส และพี่เอ๋ จันทรกาลด้วยค่ะ
ที่ได้ช่วยเหลือพระภิกษุทั้ง ๔๓ รูปให้ไปจุติในภพภูมิที่สูงยิ่งขึ้น
สาธุ ขอน้อมโมทนากับธรรมทานอันมีค่ายิ่ง อีกครั้งค่ะ

ปล. รอเชียร์ประมูลลูกแก้วนะคะ ใครจะได้เป็นผู้โชคดีหนอ สู้ ๆ ค่ะ

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ prapaanpong เช่นกันค่ะ สำหรับประวัติดวงแก้วเดิมยังไม่ลืมนะคะ ขอให้มีความสุขกายสุขใจ และเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใด ขอให้สำเร็จตามความปรารถนาค่ะ

Numsai

 

สาธุ สาธุ สาธุ..

ขออนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวลด้วยค่ะ ท่านเทวดาองค์หนึ่งในอดีตพระ ๔๓ รูป ฝากบอกว่า

"เราขอบใจในน้ำใจของท่าน บุญกุศลนี้จะส่งผลให้ท่านในอนาคต สิ่งใดที่เป็นทิพย์จะปรากฏขึ้นแก่ท่าน ความแจ่มใสในญาณจะปรากฏขึ้นแก่ท่าน ขอจงมั่นใจในคุณความดีที่ทำ และระลึกถึงความดีที่ทำเสมอ ๆ

หากจะไปเยี่ยมเรา ๆ อยู่สวรรค์ชั้นปรนิมมิตตวสวัตตีนะ ขอโมทนา..."ท่านฝากมาแค่นี้ค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ am12 อีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ขออนุโมทนาบุญกับน้องตาลอีกครั้งค่ะ เมื่อเช้าพี่เข้า youtube เปิดฟังพระสวดมนต์ ไปมาไปพบเรื่องของคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าของพระเดชพระคุณหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ..

หลายท่านอาจจะเคยอ่าน หรือเคยฟังแล้ว ขออนุญาตมาทบทวนกันอีกรอบ นั่งฟังไปจากประสบการณ์ของท่านนายห้างประยงค์ ตราใบโพธิ์ และเทียบกับประสบการณ์ของตัวเอง เกี่ยวกับพระคาถาพระปัจเจก ฯ หรือพระคาถาเงินล้านก็ดี พระคาถาจะให้ผลจริง ๆ ก็ต่อเมื่อจิตเราเป็นสมาธิอย่างน้อยอุปจารสมาธิ

นอกจากการอธิษฐานตามน้องตาลบอกแล้ว ตั้งใจทำงานโดยสุจริต หมั่นทำบุญใส่บาตร หรือใส่บาตรวิระทะโย (นำเงินใส่กระปุก เงินนั้นห้ามใช้ นำไปทำบุญ)

ที่สำคัญ การสวดคาถาพระปัจเจกฯ หรือพระคาถาเงินล้านก็ตาม หากสวดระหว่างการทำสมาธิ จนจิตสงบเป็นฌาณ จะมีผลมาก

สำหรับของพี่ก็แปลก ๆ คือ ทุกครั้งที่สวดในสมาธิ และมีแสงสีทองเข้ามาหาตัว ยิ่งแสงสีทองมากเท่าไร ลาภที่ได้จะมากเท่านั้น เช่น อยู่ ๆ ก็เพื่อนอยู่ต่างประเทศโอนเงินมาให้หลายหมื่น บางครั้งก็เป็นแสนเป็นต้น

หรือกรณีเงินงอก คือ เราคิดว่าเงินในกระเป๋าหมดแล้ว แต่พอดูอีกทีก็มีเงินเพิ่มขึ้นมา อันนี้ก็แปลก ปรกติท่านห้ามไม่ให้พูดว่า เงินงอก ถ้ารู้ก็ให้เฉย ๆ ไป อย่างนี้เป็นต้น

ดังนั้น ท่านใดติด ๆ ขัด ๆ เรื่องเงินทองนะคะ อย่าท้อ ตั้งใจหยอดกระปุก วันละบาทก็ได้ เมื่อได้หลายสิบบาท นำเงินนั้นไปใส่บาตร หรือทำสังฆทาน

จากนั้นเวลาปฏิบัติธรรม ช่วงนี้เปลี่ยนจากคำภาวนาปกติ มาเป็นสวดพระคาถาเงินล้าน หรือคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้าก็ได้ค่ะ มีผลเหมือนกันค่ะ เพียงแต่คาถาเงินล้าน มีเรื่องการปัดอุปสรรคต่าง ๆ และการเร่งลาภให้เร็วขึ้นค่ะ

ขออนุโมทนาบุญกับน้องน้ำตาล และทุก ๆ ท่านอีกครั้งค่ะ

Numsai

 

ประวัติดวงแก้วโรจนราชาบดี และดวงแก้วศศิบุญญรัตน์ ตอน ๑

​

ย้อนหลังไปก่อนสมัยสมเด็จพระมังคลสัมมาสัมพุทธเจ้า มีเมืองหนึ่งนามว่า รชตมุนีนคร นครนี้กำเนิดมาจากการอธิษฐานจิตของพระรชตดาบส สร้างเมืองขึ้นมาด้วยฤทธานุภาพมานานมาก จนถึงกระทั่งถึงยุคสมัยการปกครองของพระโภชน์สุคต

เหตุที่พระองค์มีพระนามว่า "โภชน์สุคต" นั้น เนื่องจากในวันประสูตินั้น พืชพันธุ์ธัญญาหารต่าง ๆ ในเมืองนี้ เกิดมีผลผลิตที่มากกว่าเดิม ทำให้ชาวเมืองได้รับผลิตผลมากเกินคาด สามารถนำไปค้าขายในต่างเมืองได้ ชาวเมืองที่เคยยากจนก็มีกำไรจากการค้าขาย ด้วยบุญญาธิการของพระองค์

เมื่อพระองค์เติบโตได้เรียนวิชาความรู้ต่าง ๆ สำเร็จในเวลาอันสั้น ไม่ถึง ๓ ปี ก็สำเร็จวิชาต่าง ๆ ได้ เมื่อถึงวันอันควร พระบิดาให้อภิเษกสมรส กับพระนางศศิรัตนประภา ซึ่งมีพระสิริโฉมงดงามยิ่งนัก มีกลิ่นกายที่หอมดุจดอกไม้นานาพันธุ์ ดัวยผลบุญในการก่อน เมื่อพระนางย่างกรายไปที่ใด ดอกไม้บริเวณนั้นจะส่งกลิ่นหอมไปทั่ว

ต่อมาทรงมีพระโอรส-ธิดา ๓ พระองค์ พระนามว่า “ศตวรรษ-มหัสนัย(มหา+หัสนัย) –ศิริจันทรา” พระโอรส-ธิดา ล้วนแต่เป็นผู้มีบุญญาธิการมาเกิด พระโอรสทั้งสองจุติมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต ส่วนพระธิดานั้นมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

คืนหนึ่งพระองค์ทรงสุบินว่า มีดวงแก้วปรากฏขึ้นมาพร้อมกัน ๒ ดวงส่องสว่างไสว พระองค์ปรารถนาที่จะคว้าดวงแก้วมณีนั้นไว้ ปรากฏว่า คว้ามาได้เพียงดวงเดียว ส่วนอีกดวงนั้นได้ลอยไป ณ.ห้องบรรทมของพระมเหสีและหยุดบนแท่นบรรทมของพระมเหสี

เมื่อทรงตื่นจากบรรทม มีจิตที่แจ่มใสมีความสุขมาก จึงได้เรียกโหราจารย์ให้มาทำนายพระสุบิน โหราจารย์ของเมืองนั้น มีอยู่ ๓ ท่าน คือ ท่านศุภเมศวร์ ท่านสุวัฒน์ และท่านสุขเกษม ต่างทำนายตรงกันว่า

“พระองค์และพระมเหสีจะได้พบผู้มีบุญญาธิการในอนาคตกาลเบื้องหน้าถึง ๒ ท่าน เมื่อพบแล้วพระองค์และพระมเหสีจะพบแต่สิ่งที่เป็นมงคล และมีที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุด
ความหมายอีกประการของดวงแก้วมณี หมายถึงความเจริญรุ่งเรืองจะบังเกิดแก่ชาติบ้านเมืองด้วยบุญญาธิการของพระองค์และพระมเหสี”

พระโภชน์สุคต และพระมเหสีต่างก็มีความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง จึงได้สร้างโรงทานตรงประตูทางเข้า-ออกเมืองทั้ง ๔ แห่ง และหน้าพระราชวังอีก ๑ แห่ง ๑ ปีจะมีการสร้างมหาทานอันยิ่งใหญ่ โดยเปิดคลังสมบัติ ๑ วัน เพื่อแจกจ่ายสมบัติแก่ชาวเมืองคนละชิ้น


นอกจากนั้นได้แจกจ่ายข้าวปลาอาหารแก่คนเดินทางทุกวัน เป็นที่น่าแปลกว่า ไม่ว่าจะแจกจ่ายไปเท่าใด ข้าวของในท้องพระคลังไม่หมด ยังคงปริมาณเดิมอยู่เสมอ ทำให้ชาวเมืองนี้อยู่ดีมีสุข มีฐานะมั่นคงมากขึ้น ยังมีต่อ...

 

ขอร่วมประมูลดวงแก้ว ๑๕,๖๐๐ บาท ครับ
โมทนาบุญทุกท่าน ด้วยครับ

อิทังปุญผลัง กุศลผลบุญใด ที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตั้งแต่อดีต จนถึงปัจจุบัน
โดยเฉพาะอานิสงฆ์ที่ข้าพเจ้าได้ร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมในการบวชพระภิกษุสงฆ์
ถวายสังฆทาน สร้างพระ สร้างวิหารทาน ธรรมทาน ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า
ถือศีล ภาวนา อนุโมทนาบุญกับครูบาอาจารย์ และท่านทั้งหลายที่ทำบุญ
ทำทาน ปฏิบัติสมาธิ เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา ด้วยอำนาจแห่งคุณพระพุทธ
อันหาที่สุดประมาณมิได้ ขอพระแม่ธรณี พระยายมราช โปรดเป็นสักขีพยาน
ด้วยอานิสงฆ์ผลบุญนี้ ขอให้ข้าพเจ้าจงเป็นผู้สำเร็จทุกประการ
และขอถวายผลบุญนี้ให้แด่
พระภิกษุ ทั้ง ๔๓ รูป
ดวงแก้วทุกดวง หัวหน้ากายสิทธิ์ และกายสิทธิ์ เทวดาในดวงแก้วทุกดวง
ขอพระแม่ธรณี พระยายมราช โปรดเป็นสักขีพยาน
และมีส่วนสำเร็จในบุญกุศลนี้ด้วยเทอญ

 

เล่นกลค่ะ แกะกล่องปุ๊บ ออกมายังงี้เลย รูปแรก พอบ่นๆว่าไหงสีนี้ ลงมาในรถ ก็กลายมาเป็นสีแบบรูป2 สนุกสนานหรรษามากเลยค่ะ ไม่ได้มีการแต่งสีใดๆนะคะ เอากล้องถ่ายรูปถ่ายมันเพี้ยน เลยใช้โทรศัพท์ สีตรงจริงๆค่ะ เลยนำมาให้ดู

หากทราบเหตุที่ท่านมาอยู่ด้วยจะดีมากเลยค่ะ จริงๆก็แอบสงสัยอยู่ แต่ไม่กล้าถาม แหะ

 

น้ำฝนขออนุญาตทุกท่านเข้าร่วมประมูลดวงแก้วบรมจักรพรรดิโรจนราชาบดีด้วยคนนะคะ

ขอประมูล ๑๕,๙๙๙ บาทค่ะ _/|\_

 

โมทนาค่ะ คุณน้ำฝน ลูกๆน่ารักจังเลย ^^ ขอให้สมปรารถนานะคะ

 

..ประวัติดวงแก้วโรจนราชาบดี และดวงแก้วศศิบุญญรัตน์ ตอน ๒...

​

เวลาผ่านไปหลายปี จนพระโอรส-ธิดาได้เติบโตเป็นหนุ่มสาว วันหนึ่งมีชายชราหนวดสีขาวยาว แต่งตัวคล้ายพราหมณ์มายังรชตมุนีนคร วันนั้นตรงกับวันที่พระโภชน์สุคตได้เปิดพระคลัง เพื่อบริจาคทรัพย์ และแก้วแหวนเงินทองประจำปี เมื่อไปถึงได้ร้องถามว่า..

“พระราชาจะให้ในสิ่งทุกคนอยากได้ใช่หรือไม่”

เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่แจกทรัพย์ด้งกล่าวได้ตอบว่า

“ใช่แล้ว พ่อพราหมณ์ พ่อประสงค์สิ่งใดฤา”

พราหมณ์เฒ่าได้กล่าวว่า เราขอเข้าเฝ้าพระราชาของท่านได้หรือไม่ เจ้าหน้าที่จึงพาพราหมณ์ไปเข้าเฝ้าพระโภชน์สุคตทันที พระโภชน์สุคตนี้มีกำลังใจเต็มเปี่ยมที่จะสละทุกอย่างที่พระองค์มี แม้แต่เลือดเนื้อและชีวิต พระองค์ก็ปรารถนาที่จะสละได้

เมื่อพราหมณ์เฒ่าไปถึงหน้าท้องพระโรง ได้ทำความเคารพ และกล่าวว่า

“ทรัพย์สินต่าง ๆ ข้าพเจ้าหาได้ต้องการไม่ ข้าพเจ้านั้นอยู่ตัวผู้เดียว ขาดผู้ดูแลยามแก่ชรา ท่านประกาศว่า หากใครประสงค์สิ่งใด ก็จะยกให้โดยไม่มีข้อแม้ ท่านจะคืนคำหรือไม่ หากเราปรารถนาจะได้พระชายาของท่าน ท่านจะมอบให้แก่เราได้หรือไม่”

ทันทีที่พราหมณ์เฒ่ากล่าวจบ ทุกคนที่อยู่ในท้องพระโรง ต่างก็ตะลึงงัน พระโภชน์สุคตนั้น เปรียบเสมือนสายฟ้าฟาดกลางใจ แต่เมื่อพระองค์ตั้งใจจะสละทุกอย่าง จึงได้ตรัสว่า ..

“พ่อพราหมณ์ เหตุใดพ่อกล่าวเช่นนั้น กษัตริย์เยี่ยงเรา ตรัสแล้วไม่คืนคำ แม้แต่ชีวิตของเรา หากพ่อปรารถนา เราก็จะมอบให้ ...”

เมื่อตรัสเสร็จ ทรงย่างพระบาทไปหาพระมเหสี กล่าวด้วยถ้อยคำอันไพเราะว่า..

“น้องหญิงอันเป็นที่รักของพี่ เราได้ร่วมทุกข์สุขกันมาช้านาน น้องหญิงเองไม่เคยทำสิ่งใดที่ขาดตกบกพร่องในการปรนนิบัติพัดวี สิ่งน้อยนิดที่ทำให้พี่ขุ่นข้องหมองใจไม่เคยมี
มาบัดนี้ พี่ประสงค์จะสร้างบุญใหญ่ พี่ยอมสละแม้ชีวิตเลือดเนื้อของพี่ หากมีผู้ใดประสงค์จะเอาไป ขอน้องจงตั้งใจส่งเสริมในการสละของพี่ในครั้งนี้ด้วยเถิด”

พระนางศศิรัตนประภา พระนางเองแม้มีความสะเทือนใจ ถึงกับน้ำตาไหลพรากที่ต้องจากพระสวามีและพระโอรส-ธิดา อันเป็นที่รักยิ่ง ด้วยความรักและเคารพในพระสวามี เมื่อพระโภชน์สุคตปรารถนาเช่นนั้น พระนางก็ยอมทำตามโดยไม่มีการโต้แย้ง พระนางได้ตรัสตอบว่า..

“ข้าฯแต่พระสวามีอันเป็นที่รักยิ่ง ท่านเปรียบเสมือนแก้วตา พระโอรส-ธิดา เปรียบเสมือนดวงใจ แม้หม่อมฉันจะมีความอาลัยรักต่อพระองค์ และพระโอรส-ธิดาเพียงใด หม่อมฉันมิอาจขัดพระบัญชาของพระองค์ได้ เมื่อพระองค์ประสงค์สิ่งใด หม่อมฉันเต็มใจที่จะยอมรับในสิ่งที่พระองค์มอบให้
ขอให้หม่อมฉันได้แสดงความรัก และความเคารพเป็นครั้งสุดท้ายเถิด”

เมื่อกล่าวจบพระนางได้เดินเวียนทักษิณาพระโภชน์สุคต ๓ รอบ เมื่อครบแล้ว ทรงสลายพระเกศา และเช็ดพระบาทของพระสวามี จากนั้นก็กราบพระบาทพระโภชน์สุคต และได้เดินไปหาพราหมณ์เฒ่า และกล่าวว่า..

“พ่อพราหมณ์ บัดนี้ท่านได้ตัวของฉันไปแล้ว สุดแท้แต่พ่อพราหมณ์จะให้ฉันทำอะไร ก็ตามใจพ่อพราหมณ์เถิด”

จากนั้นพระโภชน์สุคต ทรงหลั่งน้ำ ลงมือของพราหมณ์เฒ่า ถือว่าเป็นการมอบพระมเหสีแก่พราหมณ์นั้น พระโอรส-ธิดาต่างก็ร่ำไห้แทบจะขาดใจ เหล่าเสนาอำมาตย์ต่างกลั้นน้ำตาไม่ไหว บางพวกก็ด่าว่าพราหมณ์เฒ่าที่ไม่รู้จักเจียมตัว บางพวกก็โมทนาสาธุการในการสร้างบารมีของพระราชาของตน

แท้จริงแล้วพราหมณ์เฒ่าผู้นี้ คือ ท้าวสักกเทวราช แปลงตัวมา เมื่อพระองค์ได้รับพระนางศศิรัตนประภามาแล้ว ก็ได้แปลงร่างเป็นท้าวสักกเทวราชดังเดิม และประกาศดังลั่นท้องพระโรงว่า..

“พระโภชน์สุคต เราขอโมทนาสาธุการในการบำเพ็ญบารมีของท่าน ครั้งนี้เป็นการทดสอบกำลังใจในการสละพระมเหสีของท่านเป็นครั้งแรก เราขอคืนพระมเหสีแก่ท่าน ขอท่านจงรับไว้เถิด
ต่อไปในอนาคตกาล จะมีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลก ขอให้ท่านได้พบพระองค์ และได้สร้างมหาทานบารมีต่อไปเถิด บัดนี้เราหมดหน้าที่แล้ว เราขอลา..”

จากนั้นท้าวสักกเทวราชก็หายตัวไป สร้างความยินดีแก่พระโอรส-ธิดา และเหล่าเสนาอำมาตย์ ข้าทาสบริพารเป็นอย่างยิ่ง สำหรับพระโภชน์สุคตนั้น ถึงแม้จะได้พระมเหสีคืนมา แต่พระองค์ตั้งใจสละพระมเหสีแล้ว จึงได้กล่าวแก่พระนางศศิรัตนประภาว่า..

“น้องหญิง เรานั้นตั้งใจสละเจ้าแล้ว ถึงแม้จะได้น้องหญิงกลับมา ต่อไปขอให้เราทั้งสองต่างประพฤติพรหมจรรย์กันเถอะ” พระมเหสีก็ทรงเห็นด้วยก้มกราบพระสวามีอีกครั้ง

พระโภชน์สุคตทรงประกาศมอบราชสมบัติแก่เจ้าชายศตวรรษให้ครองราชย์ต่อไป ส่วนเจ้าชายมหัสนัยนั้น ให้ดำรงตำแหน่งเป็นดุจขุนคลังแก้ว และเจ้าหญิงศิริจันทราให้ดูแลการเบิกจ่ายเบสบียงและโรงทาน

ส่วนพระองค์ และพระมเหสีได้บำเพ็ญศีลเป็นพระดาบส –ดาบสินีในอุทยานหลวงนั่นเอง (ยังมีต่อ..)