ปริศนา "ZERO POINT"... แหล่งพลังงานแห่งการดำรงอยู่ของสรรพสิ่ง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย kindred, 4 มกราคม 2010.

  1. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    ขอบคุณค่ะ คุณเซลล์
    ก่อนจะไปเรื่อง ที่คุณเซลล์กล่าว เดี๋ยวขอเรื่องนี้ก่อนนะคะ
    เรื่องของ Merkaba -- The hologram of love


    The hologram of love
    เป็นรูปแบบของรูปทรงทางเรขาคณิตที่ศักดิ์สิทธิ์
    ซึ่งเป็นต้นกำเหนิดของทุกสิ่งในจักรวาลทั้งมวล
    (เดี๋ยวเรื่องนี้ไปเปิดอีกกระทู้ดีกว่า...ค่อนข้างน่าสนใจ)

    พื้นฐานมาจากความรักที่ปราศจากเงื่อนไข
    เพราะ ทุกสิ่งในจักรวาลต่างสั่นสะเทือนและสะท้อนกันไปมา
    ในทุกมิติ ทุกความถี่ ความคิด การกระทำทุกอย่าง
    จะปรากฏขึ้น อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

    ซึ่งเป็นรูปแบบของความรักอันไม่มีเงื่อนไข
    ที่เรามีอยู่แล้วในตัวทุกคน แต่เราลืมเลือนมันไป
    จิตเดิมแท้ของเราและจักรวาล มาปลุกจิตสำนึกที่หลงลืมกันดีกว่าค่ะ

    Merkaba และ
    Mer-Ka-Ba Meditation
     
  2. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    [​IMG]

    Merkaba หรือ Merkabah คือ ยานพาหนะแห่งแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์
    ที่ถูกอ้างว่า เป็นเครื่องมือของ ascended masters (เหล่าคุรุทางจิตวิญญาณ)
    เพื่อการเชื่อมต่อและเข้าถึงปริมณฑลที่สูงกว่า

    “Mer” หมายถึง แสงสว่าง
    “Ka” หมายถึง วิญญาณ
    “Ba” หมายถึงร่างกาย

    Mer-Ka-Ba หมายความว่า จิตวิญญาณ/ร่างกาย ถูกล้อมรอบด้วย
    การหมุนอย่างสมดุลย์ของ ในสนามพลังงานแสงสว่าง (วงล้อในวงล้อ)
    วนเป็นเกลียว คล้ายใน DNA
    เพื่อเคลื่อนย้ายจิตวิญญาณ/ร่างกาย จากมิติหนึ่งๆ ไปยังมิติอื่นๆ

    [​IMG]
    Hologram of Love Merkaba
    --------------------------------------------------------------

    [​IMG]

    Wheel Of Karma-- Wheel Of Wheel
    วงล้อคือวงจร ความจริงเคลื่อนที่อยู่ในวงจรเวลา
    วงล้อแห่งกรรม คือ วงล้อการสร้างสรรค์เปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้นหรือมีพลังมากขึ้น

    (Alchemy Wheel of Creation) หมุนวนเป็นเกลียว เหมือนห่วงของ slinky toy
    ที่ทำให้จิตวิญญาณ เคลื่อนจิตสำนึก จากระดับหนึ่งๆ ไปยังระดับอื่นๆของการตื่นรู้

    ไม่มีจิตวิญญาณใดถูกพันธนาการไว้ โครงสร้างของจิตวิญญาณของคุณ
    ทุกสิ่งที่คุณทำเป็นพื้นฐานมาจาก การถูกเข้ารหัส DNA ของคุณ
    จะถูกปลดปล่อยออกมา ในแแคปซูลของเวลาหนึ่งๆที่มีความถี่ต่างๆกัน
    ตามบทละครในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพ
    ในทวิภาวะของแต่ละชาติภพของเรา

    จิตสำนึกเคลื่อนตัวจากความถี่ที่ต่ำกว่าไปยังโครงข่ายการเยียวยา
    เพื่อให้เราการตื่นรู้และเกิดความสมดุล มากขึ้น – พวกเราคงอยู่และ
    เรียนรู้ประสบการณ์ ที่นี่ ในเครื่องฉายภาพสามมิติที่ถูกจัดขึ้นบนเวลาที่เป็นเส้นตรง
    และเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมทางชีวภาพ

    เพื่อการมีประสบการณ์ทางอารมณ์
    มันกำลังเริ่มขึ้นแล้ว และถ้าคุณอ่านสิ่งนี้อยู่ในท้ายที่สุดคุณอาจกำลัง
    เข้าสู่การตื่นรู้ – หรือย้อนกลับไปสู่ การตระหนักได้ว่าเรามาเพื่อทำอะไร

    วงล้อแห่งกรรม เหมือนเฟืองเกียร์ของนาฬิกา(เวลา)
    – วงจรแห่งประสบการณ์ของจิตวิญญาณ ที่เกิดขึ้นในทันทีอย่างพร้อมเพรียงกัน
    และ ทำงานด้วยการ synchronicity เพื่อที่จะให้คุณมีประสบการณ์
    และ ตื่นขึ้น ในการตื่นรู้ที่สูงกว่า สิ่งนี้สร้างสรรค์ได้ความรู้สึกของ deja vu
    – อดีต และชีวิตบนเส้นทางคู่ขนาน – และการมีประสบการณ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 กุมภาพันธ์ 2010
  3. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    [​IMG]

    ทฤษฎีของความลี้ลับในยุคใหม่ กล่าวถึง MerKaBa ว่าเป็นยานพาหนะ
    สำหรับการเข้าสู่โลกหลากมิติ(เหมือนTime Machine)
    ที่ประกอบด้วยจัตุรมุข(ปิรามิดด้านเท่าสี่ด้าน) 2 ขนาด
    ที่เกี่ยวประสานเข้าด้วยพลังงานแห่งแสงสว่าง โดยมีจุดศูนย์กลางร่วมกัน

    จตุรมุขอันหนึ่งชี้ปลายแหลมคว่ำลงและ อีกอันหนึ่งหงายขึ้น
    ตำแหน่งของรูปทรงที่สมมาตรกัน นี้ เรียกว่า stella octangula
    หรือ ดาวแปดด้าน(stellated octahedron)

    [​IMG]

    ในหนังสือของนักฟิสิกส์ Drunvalo Melchizedek อธิบายรูปทรงแบบนี้ว่าเป็น
    "Star Tetrahedron"เพราะมันมองดูเหมือน รูปดาวเดวิด 3 มิติ
    โดยการจินตนาการถึงการวางซ้อนกันของ "Star Tetrahedrons"
    ด้วยการหมุนอย่างสมดุลย์ของลมปราณ จากเทคนิคการควบคุมลมหายใจ

    [​IMG]
    This looks like a UFO​

    เป็นวิธีที่จะไปกระตุ้นให้เกิดการทำงานของสนามพลังงานที่มองไม่เห็น
    ขึ้นมารอบๆตัวเรา สนามพลังงานนี้มีรูปทรงคล้ายยานบิน
    พลังงานนี้มาจากตำแหน่งฐานล่างสุดของกระดูกสันหลัง(จุดกุณฑลินี)

    ขั้นสูงสุดของการฝึกฝน สนามพลังงานอาจมีขนาดกว้างถึง 55 ฟุต
    เมื่อการกระตุ้นก่อให้เกิดการทำงานได้สักครั้งหนึ่งแล้ว
    สนามพลังงานรูปทรงยานบินนี้ จะนำพาเราตรงเข้าสู่
    ความตระหนักรู้ใน มิติที่สูงกว่าได้
    <o>
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  4. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Mer-Ka-Ba Meditation

    The Teaching Of Spherical Breathing: Using 18 Breaths
    By Drunvalo Melchizedek

    ที่มา..http://www.crystalinks.com/merkaba.html

    [​IMG]

    มีขั้นตอนการหายใจ 17+1 ใน
    6 ขั้นตอนแรก เป็นการปรับสมดุลย์ขั้วกระแสไฟฟ้า
    7 ขั้นตอนต่อไป เป็นการปรับการไหลเวียนของลมปราณภายในร่างกายให้เหมาะสม

    การหายใจขั้นต่อไป สำหรับการยกระดับจิตสำนึก จาก มิติที่ 3 ไปสู่มิติที่ 4

    และ 3 ขั้นตอนสุดท้าย ของการฝึกหายใจนี้
    เพื่อสร้างการหมุนของ Merkabah ให้เกิดขึ้นภายใน และรอบๆร่างกาย

    ขั้นตอนท้ายสุดของการฝึกไม่มีบอกไว้ การฝึกทำสมาธิด้วยวิธีนี้ วันละ1ครั้ง
    จะทำให้ทุกลมหายใจของคุณมีแต่การตื่นรู้

    โปรดจำไว้ว่าแต่ละครั้งที่คุณหายใจ คุณกำลังเชื่อมต่อเข้าไปใกล้กับพระผู้เป็นเจ้า
    <o>
    </o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  5. uuuu0010

    uuuu0010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +247
    น่าสนใจมากเลยจ้า คุณ kindred
     
  6. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เน๊อะ... คุณ uuuu0010 เน๊อะ...
    เดรดก็ว่าน่าสนใจดี แต่จะช้าหน่อยนะค่ะ เพราะคนเขียน อ่านไป แปลไป
    จินตนาการตามไป และทำตามไป...อิอิ

    แล้วมั่วไปค้น ข้อมูลเพิ่มเติม เผื่ออ่านแล้ว งง...
    มาเป็นอุปกรณ์เสริมให้ค่ะ

    งั้นต่อเลยน้า...ค่อยๆ ไปนะค่ะ ขอเน้นว่า เห็นไม่เห็นไม่ต้องไปซีเรียสนะค่ะ
    งานนี้ ใช้ตาในอย่างเดียว อยากเห็นอะไรได้ทั่ว จักรวาลค่ะ Take it easy

    แล้วท่านใด เสริมได้ ตามบายเลยนะค่ะ เรียนรู้ไปพร้อมๆกันค่ะ
     
  7. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Positioning and Mudras

    <o></o>
    <o>[​IMG]</o>
    Position for standing female relative
    to Star Tetrahedron energy field.


    <o></o>
    [​IMG]

    Position for female in meditation position
    relative to Star Tetrahedron energy field.


    <o></o>
    <o>[​IMG]</o>
    Position for standing male relative
    to Star Tetrahedron energy field.



    [​IMG] <o></o>
    Position for male in meditation position
    relative to Star Tetrahedron energy field.


    ที่มา...Merkaba Meditation Technique<o></o>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  8. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Breath # 1 : หายใจเข้า

    หัวใจ: เปิดใจให้กว้าง และ ให้รู้สึกรักในชีวิตทุกๆชีวิต แต่ถ้าคุณทำไม่ได้
    อย่างน้อยที่สุด คุณต้องเปิดรับความรักเข้าสู่ตัวคุณให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
    นี่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของทั้งหมด <o></o>

    จิตใจ : ให้ตระหนักถึงจตุรมุขแห่งเพศชาย
    (ปลายยอดจะพุ่งเข้าหาดวงอาทิตย์ จตุรมุขที่มุมแหลมที่ชี้ไปข้างหน้าสำหรับเพศชาย
    จตุรมุขที่มุมแหลมที่ชี้ไปข้างหลังสำหรับเพศหญิง ...ดูภาพประกอบ)

    [​IMG]

    เติมแสงสว่างสีขาวที่สุกใสไว้รอบๆร่างกายคุณ
    สร้างมโนภาพให้ดีที่สุดเท่าที่คุณจะสามารถทำได้
    ถ้าคุณไม่สามารถสร้างมโนภาพได้ ให้ทำความรู้สึก เหมือนว่าแสงนั้นอยู่รอบๆตัวคุณ

    ร่างกาย : ให้ทำมือในท่ามุทรา (นิ้วชี้แตะนิ้วหัวแม่โป้ง) จำไว้ว่าแตะอย่างแผ่วเบา
    และอย่าให้นิ้วแต่ละนิ้วที่เหลือของคุณแตะถูกกัน
    อีกทั้งไปสัมผัสโดนวัตถุใดๆ หงายฝ่ามือขึ้น

    [​IMG]<o></o>

    ลมหายใจ : เริ่มวิธีหายใจแบบโยคะเต็มรูปแบบ หายใจทางจมูกเท่านั้น
    ขั้นแรกหายใจออกจากท้องขึ้นมา มาที่กระบังลม และทรวงอก
    เป็นการหายใจออก1ครั้ง อย่าแบ่งเป็นสามช่วง

    การหายใจออกจะสมบูรณ์เมื่อ จดจ่อที่ส่วนทรวงอก และ ผ่อนคลายท้อง
    หรือจดจ่อที่ท้องแล้วผ่อนคลายทรวงอกก็ได้ ผ่อนลมหายออกอย่างช้าๆ

    สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหายใจอย่างเป็นจังหวะ
    เริ่มจากหายใจเข้ายาว 7วินาทีหายใจออก 7 วินาที
    เมื่อเริ่มคุ้นเคยกับการฝึก จังหวะการหายใจจะเป็นไปเอง
    ------------------------------------------------------------

    หมายเหตุ :เ พื่อช่วยให้เข้าใจการหายแบบโยคะ เต็มรูปแบบ<o></o>

    ขอเสนอให้อ่าน <o></o>
    วิทยาศาสตร์การหายใจ
    <o></o>
    แปลและเรียบเรียงโดย
    พระยานรรัตนราชมานิต ตรึก จินตยานนท์ (ธมมวิตกโกภิกขุ)
    จาก Science of Breath ของ Yogi Ramacharaka<o></o>

    ------------------------------------------------------------
    หายใจผ่านช่องจมูก หายใจเข้าอย่างมั่นคงสม่ำเสมอ
    ในขั้นแรกเพื่อเติมลมเข้าไปสู่ส่วนล่างสุดของปอด และเปิดกระบังลมให้ทำงานเต็มที่
    ด้วยแรงลมที่ดันลงไปอย่างเบาๆ ยังผนังด้านหน้าของช่องท้อง
    เพื่อไปเติมในส่วนกลางของปอด และดันออกไปจนส่วนล่างสุดของกระดูกซี่โครง,
    กระดูกหน้าอก และทรวงอก จากนั้นลมจะมาเติมในส่วนบนของปอด
    จะทำให้ทรวงอก รวมถึงกระดูกซี่โครงส่วนบนทั้ง 6 คู่ด้วย ขยายและยกตัวขึ้น<o></o>

    ในการอ่าน ดูเหมือนการหายใจจะมีการเคลื่อนไหวต่างกันสามระดับ
    แต่จริงๆแล้ว การหายใจต้องต่อเนื่องสม่ำเสมอ
    โดยการหายใจผ่านเข้าไปที่โพรงช่องอก จาก กระบังลมที่ต่ำกว่าไปถึงจุดสูงสุดของทรวงอก

    หลีกเลี่ยงการหายใจที่ติดขัด และพยายามคงความต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอไว้
    การฝึกฝนจะช่วยทำให้ลมหายใจไหลสะดวกขึ้นและไม่เกิดการติดขัดในสามระดับนี้
    และการหายใจจะต่อเนื่องสม่ำเสมอ
    หลังจากคุณฝึกฝนการหายใจแบบนี้ไปประมาณ 2-3 นาที <o></o>

    ผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆ รักษาตำแหน่งของทรวงอกให้คงที่
    ค่อยๆผ่อนลมออกจนสุด เมื่อหายใจออกจนสุดลม ผ่อนคลายทรวงอกและ ส่วนท้อง
    การฝึกฝนที่ละเล็กทีละน้อยจะทำให้การฝึกในส่วนนี้ง่ายขึ้น
    และ เมื่อทำได้ซักครั้งหนึ่งมันก็เป็นไปเองอย่างอัตโนมัติในภายหลัง <o></o>

    Breath # 1 : หายใจออก<o></o>

    หัวใจ : ความรัก<o></o>
    ใจ : ให้ระลึกถึงจัตุรมุขแห่งเพศหญิง
    (ปลายยอดจะชี้ไปที่โลก จัตุรมุขที่มุมแหลมที่ชี้ไปข้างหลังสำหรับเพศชาย
    จตุรมุขที่มุมแหลมที่ชี้ไปข้างหน้าสำหรับเพศหญิง ...ดูภาพประกอบด้านบน)
    เติมแสงสว่างสีขาวที่สุกใสไว้รอบๆร่างกายคุณ

    <v:shapetype class="inlineimg" id="_x0000_t75" title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" smilieid="24" stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" v:shapetype="" o="">ร่างกาย: ทำท่าจีบมุทรา<o></o>

    การหายใจ: เมื่อหายใจเข้าจนสุดลมแล้ว ให้หายใจออกอย่างช้าๆ ยาวๆ
    ประมาณ 7 วินาที ในทางปฏิบัติของโยคะ เมื่อลมหายใจออกปอดหมดแล้ว
    ผ่อนคลายทรวงอก และช่องท้อง อย่าออกแรง และกลั้นลมหายใจไว้ประมาณ
    5 วินาที หรือจนกว่าจะทนไม่ได้ แล้วเริ่มหายใจใหม่อีกครั้ง
    แล้วทำตามขั้นตอนต่อไป

    Pulse- การสั่นสะเทือน
    [​IMG]<o></o>

    จิต : ให้นึกถึง ด้านแบนราบของทรงสามเหลี่ยมที่เท่ากันนี้
    ด้านบนของจตุรมุขแห่งเพศหญิง ตั้งอยู่ในตำแหน่งแนวขวางพาดผ่านทรวงอกของคุณ
    ตรงบริเวณกระดูกสันอก แสงที่วาบขึ้นมาและสั่นสะเทือนเหมือนพลังงาน
    ส่งให้สามเหลี่ยมร่อนลง ผ่านทะลุจตุรมุขแห่งเพศหญิง พลังงานลบทั้งหมดจากมือมุทรา
    จะเริ่มเล็กลงและพุ่งผ่านไปทางปลายยอดของจตุรมุข หรือวงจรไฟฟ้า
    แสงสว่างจะถูกยิงพุ่งลงไปที่ปลายยอดสู่ศูนย์กลางของโลก
    ปฏิบัติการของจิตจะแสดงอาการ ตามการเคลื่อนไหวของร่างกาย

    ร่างกาย : เคลื่อนไหวดวงตาทั้งสองอย่างช้าๆแล้วเหลือบมองขึ้นไปข้างบน
    การเคลื่อนไหวของการมองนี้ ไม่ควรแข็งขืนนัก คุณจะรู้สึกรู้สึกซ่าๆ เสียวแปลบ
    คล้ายโดนหนามแทง ที่บริเวณตาที่สาม แล้วรีบเหลือบตาต่ำลงมาให้มากที่สุด
    เท่าที่จะต่ำได้ทันที คุณจะรู้สึกถึงเหมือนมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านไปตามกระดูกสันหลัง

    ร่างกายและจิตใจของคุณ ต้องสอดประสานกับปฏิบัติการของจิตที่อยู่เบื้องบน
    ด้วยการเคลื่อนไหวของดวงตา การมองจากบนลงล่างในเวลาเดียวกัน
    มองในจิตให้เห็นฐานพื้นราบของจตุรมุขแห่งเพศหญิงเคลื่อนลงไป
    สู่จุดปลายยอดของจตุรมุขเพศหญิง

    การปฏิบัติการที่ร่วมกันนี้จะไปขจัดความคิด และความรู้สึกในด้านลบ
    ที่อยู่ในระบบไฟฟ้าของคุณออกไป ด้วยการทำงานร่วมกันกับท่ามุทราในแต่ละท่าโดยเฉพาะ
    ทันทีที่สั่นสะเทือนพลังงานลงไป การเริ่มวงรอบใหม่ของการจีบนิ้วมุทราในแต่ละท่า
    ใช้วิธีการหายใจในตั้งแต่ขั้นตอนแรก ใน 5 ขั้นตอนต่อไปนี้

    Breath # 2 : การหายใจกับมุทราขั้นที่สอง: นิ้วหัวแม่โป้งจีบติดกับนิ้วกลาง

    Breath # 3 : การหายใจกับมุทราขั้นที่สาม: นิ้วหัวแม่โป้งจีบติดกับนิ้วนาง<o></o>

    Breath # 4 : การหายใจกับมุทราขั้นที่สี่: นิ้วหัวแม่โป้งจีบติดกับนิ้วก้อย<o></o>

    Breath # 5 : การหายใจกับมุทราขั้นที่ห้า: นิ้วหัวแม่โป้งจีบติดกับนิ้วชี้
    (ทำขั้นตอนการหายใจขั้นแรก) <o></o>

    Breath # 6 : การหายใจกับมุทราขั้นที่หก: นิ้วหัวแม่โป้งจีบติดกับนิ้วกลาง
    (ทำขั้นตอนการหายใจขั้นที่สอง)
    <o>
    ส่วนแรกของการหายใจ 6 ขั้นตอนแรก เป็นการปรับสมดุลย์ขั้วในร่างกาย
    และทำความสะอาดระบบกระแสไฟฟ้า เสร็จสมบูรณ์แล้ว
    และตอนนี้คุณพร้อมที่จะเริ่มใน 7 ขั้นตอนต่อไปได้แล้ว<o></o>
    <o></o>

    </o></v:shapetype>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  9. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Breath # 7: หายใจเข้า

    หัวใจ : รัก คุณจะมีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนบริสุทธิ์ขึ้น
    หลังจากถูกขัดเกลาจากการทำสมาธิที่สมบูรณ์ ในขั้นต้น<o></o>

    จิต : ให้จิตนาการ หรือรู้สึกว่า มีท่อวิ่งผ่านอยู่ภายในร่างกายคุณ
    ทันที่ที่คุณเริ่มการหายใจเข้า ในขั้นตอนนี้ ให้จินตนาการถึงแสงสีขาวสุกใส
    ของปราณเคลื่อนลงไปตามท่อจากบนลงล่าง และเคลื่อนจากล่างขึ้นมาข้างบนในเวลาเดียวกัน

    [​IMG]

    จุดที่แสงสว่างทั้งสองสายมาบรรจบกันในร่างกาย โดยการควบคุมของจิต
    และนี่ คือความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่กว้างใหญ่ตลอดทั่วทั้งหมดของจักรวาล
    มันจะนำคุณเข้าสู่การตื่นรู้จากมิติที่3 เข้าสู่มิติที่ 4

    การบรรจบกันของปราณสองสายนี้ที่สะดือ หรือที่ถูกต้องไปกว่านั้นท่อในร่างกาย
    ตรงระดับสะดือปราณสองสายที่มาบรรจบกันเป็นขณะที่เราเริ่มรับลมหายใจเข้า
    วงกลมของแสงสีขาวหรือปราณนี้ ก่อรูปร่างขึ้นมาตรงจุดที่บรรจบกัน
    ขนาดเท่าประมาณผลของเกรปฟรุ๊ต ทั้งหมดจะเกิดขึ้นในทันที

    การหายใจอย่างต่อเนื่อง ของขั้นตอนที่ 7 นี้
    จะทำให้วงของปราณเข้มข้นและขยายเติบโตขึ้นอย่างช้าๆ<o></o>

    ร่างกาย: สำหรับการหายใจขั้นตอนที่7 นี้ ให้ใช้ท่าทางของจีบมุทรา
    ทั้งหายใจเข้าและหายใจออก <o></o>

    การหายใจ: หายใจเข้ายาวและลึกแบบโยคะ 7 วินาที หายใจออก 7 วินาที
    โดยไม่มีการกลั้นหายใจในขั้นตอนนี้ การไหลเวียนของกระแสปราณจากสองขั้ว
    จะไม่มีการหยุดหรือเปลี่ยนแปลงไปในทางใด

    เมื่อคุณหายใจเข้าและออก มันจะไหลต่อเนื่องอย่างสม่ำเสมอ
    และคงอยู่อย่างนี้ตลอดไปในลมหายใจของคุณ และ แม้หลังความตาย<o></o>

    Breath # 7: หายใจออก<o></o>

    จิต : ศูนย์กลางของวงของปราณที่สะดือ จะขยายตัวต่อเนื่องไป
    ช่วงขณะหายใจออกจนสุดลม วงของปราณ จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางโดยประมาณ 8-9 นิ้ว
    <o></o>
    การหายใจ : อย่าผ่อนลมออกจากปอดแรงเกินไป
    เมื่อปอดของคุณโล่งอย่างเป็นธรรมชาติ ให้เริ่มขั้นตอนต่อไปได้ทันที <o></o>

    Breath # 8 : หายใจเข้า<o></o>

    หัวใจ: รัก <o></o>
    จิต : วงของปราณ จะทำให้พลังงานชีวิตเข้มข้น และขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ <o></o>

    Breath # 8 : หายใจออก<o></o>

    จิต : วงของปราณ จะเพิ่มขนาดต่อไปเรื่อยๆและ จะมีขนาดใหญ่ที่สุด
    เมื่อถึงจุดสิ้นสุดการหายใจแบบนี้ แต่ละคนมีขนาดของวงปราณต่างกันไป

    ถ้าคุณเอานิ้วที่ยาวที่สุดของคุณ จี้ไปตรงจุดศูนย์กลางของสะดือ
    แนวเส้นจากปลายนิ้วถึงข้อมือ(ความยาวของมือ) จะแสดงให้เห็นถึง
    รัศมีที่ใหญ่ที่สุดของวงปราณของคุณ
    วงแห่งกระแสปราณ จะไม่ใหญ่ไปกว่านี้ <o></o>

    Breath # 9: การหายใจเข้า<o></o>

    จิต : วงแห่งปราณ ไม่สามารถใหญ่ขึ้นไปกว่านี้ได้อีก
    แล้วเกิดอะไรขึ้นเมื่อวงปราณเริ่มเข้มข้น
    สิ่งที่ปรากฎให้เห็น คือ วงกลมนี้จะส่องแสงสุกสว่างขึ้นมาแทน
    <o></o>
    การหายใจ : ทรงกลมเติบใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น ในขณะที่คุณหายใจเข้า <o></o>

    Breath # 9 : การหายใจออก<o></o>

    การหายใจ : ขณะที่คุณหายใจออก ทรงกลมนี้จะสุกสว่างมากขึ้น มากขึ้น<o></o>

    Breath # 10: การหายใจเข้า<o>

    จิต : ตอนนี้เมื่อหายใจเข้าไปได้ครึ่งทาง ทรงกลมจะเริ่มสว่างขึ้น สว่างขึ้น
    วงของปราณกลับกลายมวลของมัน เป็นลูกบอลที่ส่องประกายแสงสว่างสีขาว
    ที่เจิดจ้าสุกสว่างดั่งดวงอาทิตย์ ตอนนี้คุณพร้อมที่จะเริ่มขั้นตอนต่อไปแล้ว<o></o>

    Breath # 10: การหายใจออก<o></o>

    จิต :ในขณะที่หายใจออก ทรงกลมเล็กๆเส้นผ่าศุนย์กลางประมาณสองฝ่ามือ
    จะพองออกและขยายตัวขึ้น ใน 1 วินาที นี้ ทรงกลมจะเริ่มขยายตัวออกอย่างรวดเร็ว
    เหมือน sphere of Leonardo ตอนนี้ร่างกายของคุณถูกโอบอุ้มไว้ด้วยทรงกลม
    ของแสงสว่างสีขาวขนาดใหญ่ โดยสมบูรณ์

    [​IMG]
    sphere of Leonardo

    คุณอาจจะกลับเข้าไปสู่ สมัยโบราณจาก spherical breathing
    แต่ ณ ตอนนี้ ทรงกลมจะยังไม่เสถียรพอ
    คุณต้องฝึกหายใจอีก 3 รอบจึงจะรักษาให้ทรงกลมนี้คงรูปอย่างเสถียรได้<o></o>

    การหายใจ : ขณะหายใจออกทางปาก คุณจะรู้สึกว่าทรงกลมเริ่มพองตัวขึ้น
    ภายใน 1 วินาที ให้พ่นลมออกไปให้หมดอย่างรวดเร็ว
    ทรงกลมจะขยายตัวขึ้นอย่างทันที <o></o>

    Breath # 11 ,12 ละ 13 : การหายใจเข้า และออก
    <o></o>
    จิต : ผ่อนคลาย และให้รู้สึกถึงการไหลเวียนของกระแสปราณทั้งสองขั้ว
    ที่มาบรรจบกัน ตรงสะดือ และแล้ว ก็ขยายตัวขึ้นเป็นวงกลมที่ใหญ่โต<o></o>

    การหายใจ : หายใจอย่างเป็นจังหวะ ลึกๆ เมื่อถึงบทสุดท้ายของการฝึกขั้นที่ 13
    คุณจะมีทรงกลมขนาดใหญ่ที่มีเสถียรภาพพอ
    และพร้อมที่จะเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญ ในขั้นที่ 14<o></o>
    <o>
    </o></o>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2010
  10. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    4 ขั้นตอนที่เหลือ ค่อนข้างซีเรียส ขอเวลาทำใจหน่อยค่ะ
    การเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูด ค่อนข้างลำบาก อาจจะไม่โพสต์ต่อ...
    แม้บางเวบไซด์ ก็ไม่กล่าวถึงเลย จบที่ขั้นตอนนี้

    เพราะต่อจากนี้ ถ้าคุณยังติดต่อตัวตนที่สูงส่ง หรือผู้นำทางไม่ได้
    หรือยังไม่เชื่อมั่นใน จิตแท้ดั่งเดิมภายใน .....ค่อนข้างจะไปต่อลำบาก
    ยิ่งโดยเฉพาะ ข้อที่ 18 ที่ ไม่มีบอกไว้
    คือ...เราจะเรียนรู้ได้ จากจิตวิญญาณผู้นำทางเท่านั้น
    แล้วต้องได้รับอนุญาติก่อนจึงจะฝึกได้ค่ะ

    ตามที่เค้าบอกไว้นะค่ะ ข้าพเจ้ามิได้กั๊ก นา...ก็อยากรู้เหมือนกัน

    งั้นเอาแค่นี้ก่อนนะค่ะ
     
  11. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279

    มันเป็นคำถามที่อยู่ในฐานะ สมมุติฐาน อ่ะครับ

    ผมตั้งเป็นคำถามไว้เผื่อมีใครอยากรู้คำตอบ
    เขาจะได้เอาไปถามพระอรหันต์ดู (ถ้าเขารู้จักพระอรหันต์นะ)
    หรือ ไม่ก็ไปเป็นอรหันต์ซะเอง จะได้รู้คำตอบเอง
    ไม่ต้องไปถามใครให้ยุ่งยากครับ

    ตั้งเป็นคำถามไว้อย่างงั้นเพื่อความก้าวหน้ารอบรู้ในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไปครับ


    ปล.เสียงเราไม่หล่อ ขอบายไม่อ่านจ้า
     
  12. เซลล์

    เซลล์ ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +310
    น่าสนใจครับ
    ไม่เล่าให้หมด อย่างนี้เรียกว่า กั๊ก ครับ อิอิ..
    ต่อให้จบซิท่าน
    รออ่านอยู่ครับ :)

    [​IMG]
     
  13. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    เกรงจะโดนเพื่อนว่า กั๊ก โพสต์ต่อให้จบก็ได้ค่ะ
    ต่อๆ...

    BREATH # 14

    หัวใจ : รัก<O:p
    จิตใจ : ในขั้นตอนนี้ ให้ย้ายจุดที่ปราณทั้งสองสายมาบรรจบกันในท่อ
    จากตรงบริเวณสะดือ ไปยังบริเวณกระดูกสันอก ตำแหน่งของจักระที่ 4

    แม้ว่าวิธีนี้จะดูเหมือนเป็นวิธีง่ายๆ แต่มันเป็นการเคลื่อนไหวที่มีพลังอำนาจสุดๆ
    การหายใจจากจุดที่บรรจบใหม่ภายในท่อนี้ จะทำให้จิตสำนึกของมิติที่ 3 ตื่นขึ้น
    และเคลื่อนไปสู่มิติที่ 4 หรือจากจิตแห่งโลกภายนอก ไปสู่จิตแห่งพุทธะที่อยู่ภายใน <O:p

    ร่างกาย : นั่งขัดสมาธิ สำหรับผู้ชาย – มือซ้ายทับมือขวา
    และ สำหรับผู้หญิง -มือขวาทับมือซ้าย นี่เป็นท่ามุทรา เพื่อผ่อนคลาย<O:p

    การหายใจ : ในขั้นตอนนี้ แม้การหายใจจะเป็นจังหวะลึกและคงที่
    จะยังทำไม่ให้เกิดการเคลื่อนไหวของ MER-KA-BA
    จนกว่าคุณจะเชื่อมต่อกับตัวตนอันสูงส่งที่อยู่ภายใน หรือจิตวิญญาณผู้นำทางได้

    แม้ตอนนี้การหายใจจะเริ่มเป็นจังหวะ แต่เนื่องจากการจดจ่อที่มากไป
    ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายพลังงาน และ ไม่ใช่ในลักษณะการหายใจที่สบายๆ

    ดังนั้น คุณต้องเพียงแค่รู้สึกและปล่อยให้เป็นไป ไม่มีการใช้ความคิด
    ให้ใช้ความรู้สึกแห่งเพศหญิง(สมองซีกขวา-ปัญญาญาณ)
    ให้รู้สึกถึงลมหายใจแห่งพุทธะได้เคลื่อนผ่านทะลุในทุกๆชีวิต
    โปรดจงจำไว้ว่า การเชื่อมต่อที่คุ้นเคยอย่างลึกซึ้งเท่านั้นจึงจะเข้าถึงพระผู้เป็นเจ้าได้ <O:p

    Mer-Ka-Ba ยานพาหนะเพื่อการยกระดับจิตสำนึก<O:p
    สามขั้นตอนสุดท้ายของการหายใจ<O:p

    การเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายนี้ คุณต้องไม่พยายามใดๆ
    จนกว่าคุณจะติดต่อตัวตนที่สูงส่งของคุณได้
    (Your Higher Self---หรือจิตวิญญาณผู้นำทาง)
    และ ได้รับการยินยอมให้คุณดำเนินการต่อ ในส่วนนี้ค่อนข้างต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด

    เพราะพลังงานที่จะเข้ามาหาและล้อมรอบร่างกายและจิตวิญญาณของคุณ
    จะมีพลังอำนาจมหาศาล ถ้าคุณยังไม่พร้อม คุณอาจได้รับบาดเจ็บ
    แต่เมื่อคุณพร้อม Higher Self ของคุณ จะอนุญาติให้คุณเข้าสู่ MER-KA-BA
    จากนั้น จงอย่ากลัว เพราะคุณจะพร้อมที่จะเผชิญแล้ว


    [​IMG]<O:p</O:p
     
  14. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    BREATH #15: หายใจเข้า

    หัวใจ : รัก<O:p

    จิต: ให้นึกถึงดาวจตุรมุข จำนวนสามอัน ซึ้งซ้อนทับกันและกัน
    อันที่หนึ่ง คือตัวของมันเองที่ถูกล็อคอยู่กับที่และไม่เคลื่อนย้ายไปไหน
    แทนการไม่เงื่อนไขใดๆ และเป็นกลาง ไม่เป็นทั้งเพศชายและเพศหญิง

    ดาวจตุรมุขที่สองคือธรรมชาติแห่งเพศชาย เป็นกระแสไฟฟ้า
    ตัวแทนจิตคิดของมนุษย์ การหมุนก่อให้เกิดการทำงานในสมองซีกซ้ายของคุณ.

    ดาวจตุรมุขที่สามคือธรรมชาติแห่งเพศหญิงมีเป็นคลื่นแม่เหล็ก
    ตัวแทนอารมณ์และความรู้สึกของมนุษย์ การหมุนก่อให้เกิดการทำงานในสมอซีกขวาของคุณ

    [​IMG]

    การหายใจเข้าในขั้นตอนที่ 15, ขณะที่คุณกำลังหายใจเข้า
    ให้คุณนึกถึงคำว่า “ความเร็วเท่ากัน” เป็นการป้อนรหัสให้กับจิตของคุณ
    ว่าคุณต้องการให้ ดาวจตุรมุขทั้งสองหมุนขึ้นพร้อมๆกันไปในทิศทางของจตุรมุขแต่ละอัน
    (มันจะหมุน ไปคนละข้าง..ดูภาพประกอบ)
    ด้วยอัตราความเร็วเท่าๆกัน ในช่วงขณะหายใจออก
    หมายความว่า เมื่อเกิดการหมุนที่สมบูรณ์ของ ทั้งจัตุรมุขของจิต
    ก็จะเกิดการหมุนอย่างสมบูรณ์แบบของจตุรมุขแห่งอารมณ์ไปด้วย
    (เป็นการปรับสมดุลย์พลังงานของจิตคิดและอารมณ์ความรู้สึก
    ให้มีสภาพเป็นกลาง)

    [​IMG]

    ร่างกาย : ประสานมือในท่ามุทรา<O:p

    หายใจ : หายใจแบบโยคะ ลึกๆ และเป็นจังหวะอีก 3 ครั้ง
    หลังจากนั้นก็หันมาหายใจสั้นๆ ตื้นๆ

    BREATH #15: หายใจออก

    จิต : เมื่อจัตุรมุขทั้งสองหมุน และเริ่มปั่นออกจากกัน
    ความเร็วในการปั่นจะมีอัตราอยู่ที่ 1/3 ของความเร็วแสง
    (1/3 * the speed of light = 99 930 819.3 m /s)at their outer tips.

    คุณอาจจะมองไมเห็นสิ่งนี้ได้ เพราะมันจะปั่นด้วยความเร็วสูงสุด
    แต่คุณสามารถรู้สึกถึงมันได้ สิ่งที่คุณแค่ทำคือสตาร์ท มอเตอร์ ของ MER-KA-BA.
    คุณจะไม่ได้ไปที่ไหนหรือมีประสบการณ์ใดเกิดขึ้น
    มันเหมือนกันสตาร์ทเครื่องในขณะเข้าเกียร์ว่าง<O:p

    การหายใจ : หายใจออกโดยพ่นลมออกทางปาก
    และให้รู้สึกว่าจตุรมุขเริ่มปั่นออกจากกัน<O:p
    <O:p<O:p
     
  15. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    BREATH #16 : หายใจ

    จิต : ขณะพ่นลมหายใจออก จตุรมุขทั้งสองจะเริ่มปั่นออกจากกัน
    จากอัตราความเร็วที่ 1/3 ของความเร็วแสง ไปสู่อัตราความเร็วที่ 2/3 ของความเร็วแสง
    (2/3 * the speed of light = 199 861 639 m /s)ในทันที
    เมื่อเข้าใกล้อัตรา 2/3 ของความเร็วแสง จะเกิดปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติขึ้น

    จะมีพลังงานรูปจานที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 55 ฟุต
    ก่อตัวขึ้นรอบๆคุณ จากระดับฐานล่างสุดของกระดูกสันหลัง
    และทรงกลมของพลังงานที่ก่อตัวขึ้นล้อมรอบจตุรมุขทั้งสองนี้
    จะดูเหมือนมียานอวกาศล้อมรอบคุณอยู่

    [​IMG]

    [​IMG]


    พลังงาน matrix นี้เรียกว่า MER-KA-BA
    แต่มันจะยังไม่เสถียรพอ แม้คุณจะมองเห็นหรือรู้สึกถึง MER-KA-BA นี้ได้
    แต่คุณต้องรู้ว่ามันยังไม่เสถียร มันยังคงมีอาการสั่นโคลงเคลงอย่างช้าๆอยู่
    ดังนั้นการหายใจขั้นที่ 17 จึงจำเป็น
    <O:p
    การหายใจ : เหมือนในขั้นตอนที่ 16 หายใจออกทางปาก
    ตอนนี้ความเร็วจะเริ่มเพิ่มขึ้น ขณะที่คุณรู้สึกถึงความเร็วที่เพิ่มขึ้น
    ให้ออกแรงในการพ่นลมออกทางปาก วิธีนี้จะทำให้ความเร็วเพิ่มสูงขึ้น
    เพื่อให้ MER-KA-BA ก่อรูปร่างอย่างสมบูรณ์ ขึ้น <O:p

    BREATH #17 : หายใจเข้า<O:p

    หัวใจ : โปรดจำไว้ว่า ความรู้สึกของ รักที่ไม่มีเงื่อนไขต่อทุกๆชีวิต
    ต้องมีอยู่ตลอดเวลาของการทำสมาธิ หรือต้องไม่คำนึงถึงผลลัพท์ที่จะได้ <O:p

    จิต : ขณะหายใจเข้า ให้บอกรหัสกับตัวเองว่า 9/10 ของความเร็วแสง
    (9/10) * the speed of light = 269 813 212 m/s)
    รหัสนี้จะไปกระตุ้นจิตของคุณให้เพิ่มอัตราเร่งให้กับ MER-KA-BA
    เพิ่มเป็น 9/10 ของความเร็วแสง ที่ทำให้การหมุนของสนามพลังงานเสถียรขึ้น
    และเกิดการทำงานอย่างอื่นขึ้นด้วย

    มิติที่สามที่เราอาศัยอยู่ อยู่ในอัตราความเร็วที่ 9/10 ของความเร็วแสง
    ทุกๆ electron ของเรา หมุนอยู่รอบๆทุกๆอะตอมภายในร่างกาย
    ที่อัตราความเร็ว 9/10 ของความเร็วแสง
    นี่เป็นเหตุผลที่ต้องเลือกอัตราความเร็วที่จำเพาะเจาะจงนี้ <O:p

    การหายใจ : หายใจอย่างมีจังหวะ ด้วยวิธีหายใจแบบโยคะ <O:p

    BREATH #17: หายใจออก<O:p

    จิตใจ : ความเร็วจะเพิ่มขึ้น เป็น 9/10 ของความเร็วของแสง และ MER-KA-BA จะเสถียรภาพ <O:p

    การหายใจ : เหมือนขั้นตอนที่ 15 และ 16 หายใจออกทางปาก
    และขณะที่คุณรู้สึกว่าความเร็ว เริ่มเคลื่อนออกไป ให้ออกแรงพ่นลมหายใจออกจนหมด
    ตอนนี้คุณอยู่ในภาวะที่เสถียรแล้ว และคุณได้ติดเครื่อง MER-KA-BA ในมิติที่3
    ของคุณขึ้นมาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้วยความช่วยเหลือของ Higher Self ของคุณ
    คุณจะเข้าใจความหมายที่แท้จริงของมัน

    [​IMG]<O:p

    BREATH #18 : ของการหายใจ

    การหายใจที่พิเศษสุดนี้จะไม่มีการสอนตรงนี้
    คุณต้องรับคำแนะนำจากตัวตนที่สูงส่งของคุณเอง
    มันเป็นการหายใจที่นำคุณเข้าสู่อัตราความเร่งแห่งแสงสว่าง สู่มิติที่ 4

    คุณอาจจะหายไปจากโลกนี้ และ ไปปรากฎขึ้นที่อื่น
    ที่ที่เป็นบ้านใหม่ของคุณในชั่วขณะหนึ่ง นี่ไม่ใช่จุดสิ้นสุด
    แต่เป็นการเริ่มต้นของจิตสำนึกรู้ที่ขยายตัวขึ้น

    ทำให้คุณได้กลับบ้านและได้ไปพบกับ พระบิดาของคุณ <O:p
     
  16. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    จบ เรื่อง Mer Ka Ba แล้ว...
    เดี๋ยวจะต่อไปเรื่อง ต่อมไพเนียล หรือตาที่สาม
    จะไม่อธิบายที่มา ที่ไป หรือความหมายนะคะ
    เพราะเป็นเรื่อง ที่มีสามารถหาบทความอ่าน ได้มากมาย
    แล้วพวกเราก็คงจะ ทราบกันดีอยู่แล้ว

    อันนี้จะกล่าวแค่เรื่อง เมื่อความสงบบรรลุถึงภาวะสมบูรณ์
    โดยผ่านการโน้มนำแห่งจิตแล้วให้เพ่งจิตไปที่ต่อมไพนีล(ตาที่สาม)
    ที่เป็นที่ตั้งของจิตวิญาณโดยจะต้องทำการสั่นขึ้นที่ต่อมไพนีล

    การทำให้จิตหมุนภายในสมองแล้วให้จิตเคลื่อนที่ออกนอกศีรษะ
    ไปตามเส้นโค้งที่เกิดจากการหมุนข้างในนั้น

    การตั้งจิต ไว้ที่ตาที่สาม ก็เป็นการเข้าถึงปัญญาญาณ ภายในได้
    เพราเชื่อกันว่า ตาที่สาม เป็น STAR GATE ด้วย
     
  17. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Awakening The Third Eye :
    Tuning Into Spirit

    [​IMG]

    ที่มา...http://psychedelicadventure.blogspot.com/2009/10/awakening-third-eye-tuning-into-spirit.


    การทำสมาธิอย่างธรรมดา และ คงความตื่นรู้ไว้ คือการจดจ่อในสิ่งๆเดียว
    อารมณ์ การกระทำ และการพูด เป็นการไปเปิดจักระของเรา
    ให้เข้าสู่ ระบบพัฒนาการนำทางของจิตวิญญาณ
    ศูนย์กลางทางกายภาพ ทีเรียกกันโดยทั่วไปว่า “ตาที่สาม”
    หรือ 'Ajna Chakra' (Ajna แปลว่า การบังคับบัญชา)

    เราสามารถฝึกฝนเพื่อเปิดใช้นี้งานได้
    การควบคุมการหายใจ หายใจอย่างช้าๆ ลึกๆ
    จะเป็นการเปิดลมปราณภายใน หรือ ชี่ ทำให้เกิดการไหลเวียนที่สะดวกขึ้น
    เหมือนกับการรับสัมผัสพลังจากจักรวาล
    และเปิดช่องทางให้แสงสว่างฉายสาดเข้ามา<O:p

    ในการยกระดับจิตสำนึกรู้ให้ตื่นขึ้น
    แรกสุดด้วยการเปิดโลกทัศน์ออกไปจากกรอบที่มีการแบ่งแยก
    เพื่อเข้าให้ถึงความเป็นเอกภาพ เข้าใจในความมีอัตตา
    และความเชื่อมั่นในตนเองอย่างผิดๆ
    พร้อมทั้งหลอมละลายมันทิ้งไป และเปิดทางให้
    จิตสำนึกใหม่ของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเข้ามาแทนที่<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2010
  18. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    by Linda Williamson

    ในร่างกายมีศูนย์พลังงานหลักอยู่7 แห่งซึ่งเรียกว่า “จักระ”
    ในภาษาสันสกฤต หมายถึงวงล้อ เพราะจักระเป็นที่ๆปรากฎของญาณทิพย์
    ที่ไปปั่นเกลียวหมุนของแสงสว่าง

    [​IMG]

    จักระตั้งอยู่ตามแนวกระดูกสันหลัง
    เริ่มตั้งแต่ กุลฑาลิณี(1) ฐานล่างสุดของกระดูกไขสันหลัง
    ต่อมาคือ sacral chakra ศูนย์ของการเกิดใหม่(2)
    จักระท้อง(3)solar plexus(ร่างแหประสาทบริเวณช่องท้อง)
    จักระหัวใจ(4) ลำคอ(3) และ หว่างคิ้ว(2)
    ศูนย์ที่สูงที่สุดคือ กลางกระหม่อม(7) ดอกบัวพันกลีบ<O:p

    ในขณะที่มนุษย์เริ่มมีการวิวัฒน์ทางจิตวิญญาณ จักระจะเริ่มเปิดและขยายตัวออก
    จากต่ำสุด ไปจนสูงสุด การขยายตัวของ solar plexus จะเพิ่มระดับ
    ของความไวต่อสิ่งกระตุ้นและปัญญาญาณ ในขณะที่เมื่อจักระหัวใจเปิดออก
    เราจะมีความสามารถที่จะรับและให้ ความรักความเมตตาที่ยิ่งใหญ่ได้
    การขยายตัวของศูนย์จักระลำคอ สร้างสรรค์ความสามารถที่มีอยู่ในตัวเองออกมา
    ขณะที่จักระมงกุฎ เชื่อมต่อเรา กับมิติทางจิตวิญญาณที่สูงกว่า และกับพระผู้เป็นเจ้า

    [​IMG]<O:p

    ตาที่สาม มักเชื่อมต่อในด้านจิตและพลังอำนาจที่ลึกลับ
    ภาพดวงตาที่อยู่กลางหน้าผาก มันเป็นการพัฒนาความสามารถในการมองเห็นภายใน
    และรวมไปถึง ตาทิพย์ การเห็นวิญญาณ , remote viewing
    หรือการมองเห็นได้ในระยะไกลๆ และการมองเห็นอนาคต
    ในระดับที่สูงที่สุด มันเป็นการมอบของขวัญ
    ที่เป็นความรู้และความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทางจิตวิญญาณ <O:p

    เมื่อคุณมองเห็นภาพที่สว่างจ้า หรือสีสัน ระหว่างการทำสมาธิของคุณ
    นี่เป็นสัญญาณบอกว่า ตาที่สามของคุณกำลังพัฒนา
    การฝึกฝนการทำสมาธิทั้งหมด มีความคล้ายคลึงกันตรงที่เพื่อพัฒนาตาที่สาม
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เพื่อที่จะเข้าไปสู่การมองเห็นในด้านในทั้งหมด

    บทฝึกฝนต่อไปนี้ เป็นการช่วยเปิดการใช้งานของตาที่สามโดยเฉพาะ <O:p
     
  19. kindred

    kindred เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +5,897
    Opening The Third Eye

    [​IMG]

    1.เลือกเทียนสีที่ถูกใจมาหนึ่งเล่ม สีเหล่านี้เป็นตัวแทนของสีของจิตวิญญาณ
    อยู่ในห้องที่มืดสนิท
    ตั้งเทียนไว้บนโต๊ะ ห่างจากตัวคุณประมาณ 1 เมตร
    ให้อยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าระดับสายตา
    จุดเทียนแล้วจ้องมองเข้าไปที่เปลวไฟ หายใจอย่างสบายๆ<O:p

    2.หลังจากผ่านไปสองนาที ปิดเปลือกตาลง
    คุณจะเห็นจุดเล็กๆเป็นแสงสีขาว ในตาใน จุดนั้นจะอยู่ระหว่างตาเนื้อ
    ตั้งใจจดจ่อไปที่จุดแสงนั้น พยายามอย่าเคลื่อนไหวควบคุม
    หรือไปเปลี่ยนแปลงมัน แค่มองดู<O:p

    3.แสงนั้นอาจจะปรากฎขึ้นๆลงๆ บางทีก็เปลี่ยนสี
    รักษาสภาวะการมองภายในนั้นไว้ ให้นานที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้
    คุณจะประหลาดใจว่าทำไมภาพนั้นยังคงอยู่นาน
    บางครั้งก็เหมือนจะค่อยๆหายไป และกลับมาปรากฎใหม่
    เมื่อมันจางหายไปจนหมดแล้ว เปิดเปลือกตาขึ้นและจ้องมองดูเปลวเทียนอีกครั้ง<O:p

    4.ทำวิธีนี้ ติดต่อกัน 3 ครั้ง ครั้งสุดท้าย พยายามคงภาพแสงนั้นไว้โดยไม่ให้สั่นไหว
    เมื่อคุณไม่สามารถเห็นมันได้อีกต่อไป หลับตาลง
    มองสิ่งว่างเปล่าตรงจุดที่มันเคยอยู่ต่อไป ระวังสีหรือภาพที่ปรากฎขึ้นมา

    -----------------------------------------------------------------------<O:p

    ตาที่สามมีหลายชื่อที่ใช้เรียกขาน รวมไปถึง “ที่นั่งของปัญญาญาณ”
    ในการจดจ่อระหว่างการทำสมาธิ เราจะได้รับการตื่นรู้ที่ลุ่มลึกและฝั่งแน่น
    การตื่นรู้จะเข้าถึงชีวิตของคุณในทุกๆวัน

    เมื่อเราต้องตัดสินใจหรือเผชิญหน้ากับสถาณการณ์ที่ยุ่งยาก
    เราจะสามารถสัมผัสถึง พลังงานแห่งการพิจารณาที่อยู่ภายในนี้ได้
    แทนที่จะไปหาคำตอบเพื่อแก้ปัญหานี้จากภายนอก<O:p

    ความรู้สึกเชื่อมั่นในตนเอง และ การมีอัตตา
    เป็นสภาวะการแยกตัวออกจากการดำรงอยู่ทางกายภาพ
    จะเป็นสิ่งที่คอยกีดขวางการทำงานของจักระที่หก (ตาที่สาม) อยู่บ่อยๆ
    การยอมรับการดำรงอยู่(เป็นอย่างที่ตัวเองเป็น) และ ยืนหยัดในการฝึกฝน
    จะช่วยสร้างการตื่นรู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าของตาที่สาม

    [​IMG]

    และเปิดโอกาสให้แสงสว่างภายในส่องสว่างออกมาพร้อมกับเจตนาอันศักดิ์สิทธิ์
    เพื่อจะมาขับเคลื่อนความคิด, การกระทำ, อารมณ์ และคำพูดของคุณ
    การสวดAUM(โอม) อย่างเป็นจังหวะจะโคน และ ผ่อนลมหายใจให้ไหลไป

    นี่เป็นหนึ่งในความรู้อันเก่าแก่ ที่จะเชื่อมต่อกับตาที่สาม
    จุดโฟกัสแห่งปัญญาญาณ ศูนย์กลางระบบนำทางของจิตวิญญาณ
    ช่วยให้เรากลับเข้าสู่คลื่นความถี่ทั้งหมด ของความตระหนักรู้ที่ชัดแจ้ง
    ที่เป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่ง

    [​IMG]
    <O:p<O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2010
  20. Inner Smile

    Inner Smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    699
    ค่าพลัง:
    +451
    ไม่เจอนาน Kindred ก้าวหน้าไปไกลเลย..เดี๋ยวมาอ่านต่อครับ
    อ่านแล้วนึกถึง zpm จาก stargate เลย[​IMG]..

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2010

แชร์หน้านี้

Loading...