ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. tuinipon

    tuinipon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +84

    น้ำท่วมเกิดจากการกัก กันน้ำ ไม่ให้เข้าเขตเศรษฐกิจ โดนเฉพาะกรุงเทพฯ กักแล้วเอาเข้าทุ่งที่เป้นอู่ข้าวของคนไทย น้ำท่วมหมด แล้วจะเอาข้าวที่ไหนกินกัน ข้าวคงราคาแพงลิ้บลิ่ว อีก 2-3 เดือนข้างหน้า แล้วจะเป็นอยู่อีก 3-4 เดือนต่อไป จนกว่าข้าวรุ่นใหม่จะเก็บเกี่ยว คนจนคงเดือดร้อนกันทั่วหน้า แต่เขตเศรษฐกิจกันน้ำท่วมอารายกันนักกันหนา จนน้ำท่วมชาวบ้านหมดเนื้อหมดตัว อยู่บ้านไม่ได้ น่าจะแบ่งๆ กันท่วมบ้าง
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ความยุติธรรมจะล่มสลาย โลกจะสั่นสะเทือน"

    [​IMG]

    ภาพยนต์อินเดียเรื่อง นารายณ์ 10 ปาง เป็นหนังที่เก่ามากและย่อความรวบรัด เนื่องจากต้องเล่าถึง 10 ปาง ภายในเวลา 2 ชั่วโมง 9 ปางแรก ได้เกิดขึ้นมาแล้วในอดีต ปางที่ชาวไทยเราน่าจะรู้จักกันดี ก็ได้แก่ อวตารปางที่ 7 เป็น พระราม ในรามเกียรติ์ ปางที่ 10 กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เป็นปางที่ยังมาไม่ถึง และมีการทำนายอนาคต!!

    ในหนังปางสุดท้ายเป็นฉากการสนทนาระหว่าง...พระนารัท(เทพใกล้ชิดพระนารายณ์) ถามพระนารายณ์ว่า ที่ผ่านมาก็อวตารมาถึง 9 ครั้งแล้ว ถัดจากนี้จะยังมีการอวตารอีกไหม พระนารายณ์ ก็ตอบว่า มีอีก และจะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วพระนารายณ์ก็บรรยายเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น ในรูปแบบของการร่ายเพลงยาว ตามแบบฉบับของหนังอินเดีย มีเนื้อหาดังนี้...

    "ความจริงกลายเป็นเรื่องโกหก
    ความยุติธรรมจะล่มสลาย
    โลกจะสั่นสะเทือน

    ความไม่ยุติธรรมจะครองเมือง
    เด็กหนุ่มสาวจะหายสาปสูญ
    ผู้คนจะหิวโหย
    จะมีแต่ความยากจนและขาดแคลน
    โลกจะกลายเป็นเหมือนนรก
    นี้คือสัญญาณของการทำลายครั้งสุดท้าย
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กัลกี...
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10
    ในทุกอย่างมีการโกง
    เหตุการณ์ที่กล่าวมาจะเกิดขึ้น
    และเพราะเหตุนี้ เด็กๆ
    จะถูกทำให้ได้รับบาดเจ็บ
    แต่ยาที่ได้รับก็ไม่ถูกต้องกับอาการ
    และคนที่ทำการค้าและธุรกิจต่างๆ
    จะได้รับผลประโยชน์จากการโกงเหล่านี้
    การบูชาต่างๆ
    ที่สวยงามด้วยดอกไม้และสิ่งต่างๆ
    การบูชาที่ถูกต้อง
    การบูชาที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ประเสริฐ
    จะกลายเป็นการบูชาผี
    จะกลายเป็นการบูชาต่อเหล่าภูติผีปีศาจ
    เป็นการเปลี่ยนแปลงไปสู่วัฒนธรรมใหม่
    เป็นสัญลักษณ์ของกลียุค
    หรือยุคแห่งความมืดมน
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กัลกี...
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10
    คนโกหกขี้โกงจะได้รับความสนุกสนาน
    คนรวยจะได้รับความเพลิดเพลิน
    ส่วนคนดีคนจนและนักบวช โศกเศร้าเสียใจ
    ดาวเคราะห์ทั้งหลายจะรับความหนักไม่ได้
    และเกิดภัยธรรมชาติ
    ส่วนภูติผีปีศาจทั้งหลายจะเต้นด้วยความดีใจ
    ภูเขาโลกทั้งหลายจะเกิดแผ่นดินไหว
    ปีศาจออกมาเต้น
    ไฟแห่งความโกรธจะบดขยี้โลกเป็นเสี่ยงๆ
    พายุฝนจะทำลายป่า และทะเลจะท่วมเมือง
    และจะกลืนโลก
    ในท้ายที่สุดจะเป็นการอวตารของ กัลกี
    นารายณ์อวตารครั้งที่ 10"

    หนังจบลงแค่นี้ พระนารายณ์ไม่ได้บอกรายละเอียดต่อว่า เมื่ออวตารเป็น อัศวินขี้ม้าขาว นาม กัลกี แล้ว จะมาจัดการกับวิกฤติโลกอย่างไร?

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PDVD_003.jpg
      PDVD_003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36.9 KB
      เปิดดู:
      3,323
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  3. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "เล่นการพนัน" เป็นหนทางแห่งความพินาศ

    [​IMG]

    อบายมุข 6 ช่องทางของความเสื่อม ทางแห่งความพินาศ เหตุย่อยยับแห่งโภคทรัพย์ ได้แก่ ดื่มน้ำเมา เที่ยวกลางคืน เที่ยวดูการเล่น เล่นการพนัน คบคนชั่วเป็นมิตร และเกียจคร้านการทำงาน
    • ติดสุราและของมึนเมา มีโทษ 6 อย่าง คือ
    1. ความเสื่อมทรัพย์อันผู้ดื่มพึงเห็นเอง
    2. ก่อการทะเลาะวิวาท
    3. เป็นบ่อเกิดแห่งโรค
    4. เป็นเหตุเสียชื่อเสียง
    5. เป็นเหตุไม่รู้จักละอาย
    6. ทอนกำลังปัญญา
    • ชอบเที่ยวกลางคืน มีโทษ 6 อย่าง คือ
    1. ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาตัว
    2. ผู้นั้นชื่อว่าไม่คุ้มครอง ไม่รักษาบุตรภรรยา
    3. ผู้นั้นชื่อว่าไม่รักษาทรัพย์สมบัติ
    4. ผู้นั้นเป็นที่ระแวงของคนอื่น
    5. คำพูดอันไม่เป็นจริงในที่นั้นๆ ย่อมปรากฏในผู้นั้น
    6. อันเหตุแห่งทุกข์เป็นอันมากแวดล้อม
    • ชอบเที่ยวดูการละเล่น มีโทษ โดยการงานเสื่อมเสียเพราะใจกังวลคอยคิดจ้อง กับเสียเวลาเมื่อไปดูสิ่งนั้นๆ ทั้ง 6 กรณี คือ
    1. รำที่ไหนไปที่นั่น
    2. ขับร้องที่ไหนไปที่นั่น
    3. ดนตรีที่ไหนไปที่นั่น
    4. เสภาที่ไหนไปที่นั่น
    5. เพลงที่ไหนไปที่นั่น
    6. เถิดเทิงที่ไหนไปที่นั่น
    • ติดการพนัน มีโทษ 6 อย่าง คือ
    1. ผู้ชนะย่อมก่อเวร
    2. ผู้แพ้ย่อมเสียดายทรัพย์ที่เสียไป
    3. ความเสื่อมทรัพย์ในปัจจุบัน
    4. ถ้อยคำของคนเล่นการพนัน ซึ่งไปพูดในที่ประชุมฟังไม่ขึ้น
    5. ถูกมิตรอมาตย์หมิ่นประมาท
    6. ไม่มีใครประสงค์จะแต่งงานด้วย เพราะเห็นว่า ชายนักเลงเล่นการพนันไม่สามารถจะเลี้ยงภรรยา
    • คบคนชั่ว มีโทษ โดยนำให้กลายไปเป็นคนชั่วอย่างคนที่ตนคบทั้ง 6 ประเภท คือ
    1. นำให้เป็นนักเลงการพนัน
    2. นำให้เป็นนักเลงเจ้าชู้
    3. นำให้เป็นนักเลงเหล้า
    4. นำให้เป็นคนลวงผู้อื่นด้วยของปลอม
    5. นำให้เป็นคนโกงเขาซึ่งหน้า
    6. นำให้เป็นคนหัวไม้
    • เกียจคร้านการงาน มีโทษ โดยทำให้ยกเหตุต่างๆ เป็นข้ออ้างผัดเพี้ยนไม่ทำการงาน โภคะใหม่ก็ไม่เกิด โภคะที่มีอยู่ก็หมดสิ้นไป คือให้อ้างไปทั้ง 6 กรณี คือ
    1. หนาวนักแล้วไม่ทำการงาน
    2. ร้อนนักแล้วไม่ทำการงาน
    3. เย็นไปแล้วไม่ทำการงาน
    4. ยังเช้านักแล้วไม่ทำการงาน
    5. หิวนักแล้วไม่ทำการงาน
    6. อิ่มนักแล้วไม่ทำการงาน
    อบายมุขทั้งหมดนี้ หากประพฤติเข้าแล้วก็เป็นเหตุให้เกิดความฉิบหาย ทำให้เกิดความเสื่อมเสียแก่ชีวิตร่างกายได้เหมือนกันทุกข้อ

    ที่มา http://th.wikipedia.org
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2011
  4. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    เมืองไทยเป็นเมืองพุทธ..การพนัน...ทำแท้ง..ค้าขายยาเสพติด.. ทุกอย่างผิดศีลและกฎหมาย...แต่ความจริง ณ ปัจจุบันที่ผลงานรัฐบาลหนึ่งทำไว้ ก็คือ การพนันมีทุกหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ จังหวัด(เป็นบ่อนส่งส่วย) หวยใต้ดินระบาดหนัก (ทั้งที่มีรัฐบาลชุดหนึ่งเอาขึ้นมาเอาเงินมาสร้างคนแต่พวกเสียผลประโยชน์เอากลับลงไป) ยาบ้ามีขายยังกะขนม การทำแท้ง..เป็นไง..นี้หรือเมืองพุทธ เราน่าจะยอมรับความจริงกันได้แล้ว...30 บาทรักษาทุกโรค ก็ถูกพวกสูญเสียผลประโยชน์ทำลาย แต่ความจริง ที่ปรากฏก็คือ ช่วยชาวบ้าน คนจนที่เป็นโรค หัวใจ โรคไต มะเร็งทุกอย่าง โรคที่ใช้เงินจำนวนมากรักษา ก่อนมี 30 บาท คนจนทุกคนเป็นโรคพวกนี้ส่วนมากยอมตาย เพราะการรักษาใช้เงินมากขายไร่ขายนามารักษาจนหมดเนื้อหมดตัว (นี้หรือค่าของคนจน)....พอแล้ว....ส่วนตัวก็ไม่จนไม่รวยแต่ทำงานแล้วเห็นสภาพพวกนี้แล้วสงสารเขา.....
     
  5. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    พายุลูกใหม่ น่าจะชนประเทศไทยช่วงภาคอิสาน จะมีผลกระทบต่อ อิสาน กลาง เหนือ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  6. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ให้ดูเทียบกับภาพจริง น่าจะมีผลกระทบกับประเทศไทยมาก เจ้านัลแก
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  7. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    อัพเดต เตือนน้ำท่วมกรุงเทพ
    วันที่ 29 กันยายน 2554
    18.40 น. นายกเทศมนตรีตำบลหลักหก อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี ออกแก้ไขปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ตำบลหลักหก ถนนเลียบคลองรังสิตทั้งสองฝั่งหรือซอยผู้ใหญ่เลี้ยง
    17.00 น. เขตดอนเมือง หวั่นน้ำล้นคลอง สั่งด่วนอุดกระสอบทรายกั้น เผยระดับน้ำวิกฤตสูงกว่าผิวจราจรแล้ว
    14.47 น. น้ำจากคลองรังสิต ทะลักเข้าพื้นที่กรุงเทพแล้ว
    น้ำเหนือไหล่บ่าจาก คลองรังสิตไหล่บ่าข้ามกระสอบทราย เข้าพื้นที่ริมถนนโลคัลโรดแล้ว ระดมเจ้าหน้าที่จำนวน 40 นาย และทหารจากปตอ.พัน 7 จำนวน60 นาย มาช่วยเหลือในการป้องกันน้ำเข้าท่วมในเขตกรุงเทพมหานคร
    ………………………………………………………………………………………
    ดร.อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผอ.สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : สทอภ. หรือ GISTDA หน่วยงานในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เผยภาพจากดาวเทียม แสดงพื้นที่เสี่ยงภัยที่จะเกิดน้ำท่วมกรุงเทพฉับพลัน ในช่วง 3-5 วันที่จะถึงนี้ ใน 13 เขตของกรุงเทพมหานคร ได้แก่
    - หนองค้างพลู
    - ทุ่งสองห้อง
    - สายไหม
    - คลองถนน
    - อนุสาวรีย์
    - จระเข้บัว
    - ลาดพร้าว
    - คลองกุ่ม
    - คลองจั่น
    - หัวหมาก
    - สะพานสูง
    - คลองสองต้นนุ่น
    - ลาดกระบัง
    ส่วนบริเวณปริมณฑล ได้แก่ จ.นนทบุรี จ.นครปฐม จ.สมุทรปราการ และจ.ฉะเชิงเทรา
    จึงเตือนประชาชนเตรียมรับสถานการณ์น้ำท่วม และหลีกเลี่ยงเส้นทางจราจรที่มีน้ำท่วมขัง รวมทั้งติดตามข่าวสถานการณ์น้ำท่วม และระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมอุปกรณ์ป้องกัน ตลอดจนเตรียมย้ายที่อยู่ชั่วคราว
    Mthai News


    [​IMG]
    รายงานข่าวแจ้งว่า พบค้างคาวตัวสีส้มสด ปีกสีส้มสลับน้ำตาล มีขนปุย ยาว 15 ซ.ม. หนักประมาณ 10 กรัม ติดอยู่ที่หน้ารถตู้ของนาย สงัด ยามี อายุ 45 ปี ทะเบียน นข 5388 เชียงราย ซึ่งจอดอยู่ภายในวัดเชียงยืน ถนนสันโค้งหลวง ม.14 ต.รอบเวียง อ.เมือง จ.เชียงราย
    ทั้งนี้ นายสงัด เล่าว่า รถของตนเป็นรถตู้รับส่งนักเรียนจาก อ.ป่าแดด ไปส่งตามโรงเรียนและวิทยาลัยต่างๆ ในตัวเมืองเชียงราย ขณะขับรถผ่านไปตามถนนสายเทิง-เชียงราย เมื่อถึงบริเวณหมู่บ้านร่องขุ่น ต.ดอยลาน อ.เมือง ก็พบสัตว์ปีกขนาดใหญ่บินตัดหน้า ตนคิดว่าเป็นผีเสื้อจึงไม่ได้สนใจ กระทั่งส่งนักเรียนตามสถาบันการศึกษาต่างๆ จนครบ จึงไปพักรถอยู่ภายในวัด เพื่อจะไปรับเด็กเดินทางกลับบ้านในช่วงเย็น ปรากฏว่าพบค้างคาวตายติดอยู่หน้ารถ และเนื่องจากมีลักษณะประหลาดดังกล่าวจึงจะนำไปส่งให้กับสำนักงานปศุสัตว์ จ.เชียงราย เพื่อตรวจสอบต่อไป
    อย่างไรก็ตาม ค้างคาวดังกล่าวมีชื่อว่ายอดกล้วยปีกผีเสื้อ เป็นค้างคาวที่มักอาศัยอยู่ตามยอดใบกล้วยที่ม้วนเป็นหลอดหรือท่อ เมื่อยอดกล้วยแก่ขยายออกไม่ม้วนแล้ว ค้างคาวเหล่านี้ก็จะอพยพไปหาที่อยู่ใหม่ต่อไป นอกจากนี้ยังชอบเกาะอยู่ตามใบแห้ง ยอดหญ้าพง และยอดอ้อ และยอดอ้อย
    พบเห็นอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จนถึงอินเดีย ศรีลังกา และจีนตอนใต้ อย่างไรก็ตามค้างคาวชนิดนี้ เป็นสัตว์ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2535 ด้วย
    Mthai News
    เกาะติดทุกข่าวเด่น ประเด็นร้อน ในรอบวันกับ Mthainews บน facebook คลิ๊กเลย
    [​IMG]
    ติดต่อทีมข่าว MThai News : news@mthai.com
    [​IMG]
    แท็ก : ค้างคาว, เชียงราย



    [​IMG]
    สำนักข่าวเอเอฟพีได้รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา ได้มีคนไปพบถุงเงินจำนวนหนึ่งที่ปิดไว้อย่างมิดชิด ถูกทิ้งไว้ในห้องน้ำสารธารณะ ของศาลาว่าการเมืองซากาโดะ ทางตอนเหนือของโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
    ซึ่งถุงเงินดังกล่าวมีข้อความที่เขียนด้วยมือ ระบุว่า “ฉันตัวคนเดียว ไม่มีอนาคต ดังนั้นขอให้เงินนี้จงเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในโตโฮกุเถิด”
    ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของเมือง ก็ต้องกุมขมับเพราะต่างก็ไม่รู้ว่าเจ้าของเงินคือใคร เนื่องจากไม่มีพยานรู้เห็นเหตุการณ์ตอนบุคคลปริศนานำเงินไปทิ้งไว้ในห้องน้ำดังกล่าว
    อย่างไรก็ตามทางการก็ได้ประกาศว่า หากเศรษฐีใจบุญผู้นี้ไม่มารับเงินคืนภายใน 3เดือน ก็จะส่งให้แก่สภากาชาดญี่ปุ่นเพื่อทำตามวัตถุประสงค์ที่เขาตั้งใจไว้ต่อไป
    สำหรับเมือง โตโฮกุ ก็เป็นอีกเมืองหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติเมื่อ 6 เดือนก่อนเช่นเดียวกัน โดยมีผู้เสียชีวิตจากเหตุกาณ์ดังกล่าวราว 20,000 คน
     
  8. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> พายุเนสาดเคลื่อนเข้าชายฝั่งเวียดนาม อุตุเตือน จ.ในภาคตะวันออก-ภาคใต้อันดามัน ฝนตกหนัก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ประกาศเตือนภัย ฉบับที่ 5 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (30 ก.ย. 54) เรื่อง พายุไต้ฝุ่น“เนสาด” (NESAT) ระบุว่า พายุไต้ฝุ่นเนสาดบริเวณตอนเหนือของเกาะไหหลำเคลื่อนลงอ่าวตังเกี๋ยแล้ว
    และได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของกรุงฮานอย ประเทศเวียดนามประมาณ 300 กม. หรือที่ละติจูด 20.5 องศาเหนือ ลองจิจูด 108.5 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กม./ชม. และเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 18 กม./ชม. คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวขึ้นชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในวันนี้ ขอให้ติดตามข่าวจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดต่อไป

    ส่วนมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยมีกำลังแรง ทำให้บริเวณ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครนายก จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ยังคงมีฝนตกหนักในบางพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระมัดระวังอันตรายจากน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากที่อาจเกิดขึ้น สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม หนองบัวลำภู อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
    ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา
    อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร
    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีลมแรงส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 2-3 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งกับมีลมแรง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
    อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศา ลมตะวันตก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.



    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>คลองรังสิตทะลักจ่อท่วมเมืองหลวง </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>คลองรังสิตทะลัก ท่วมถนนสายซ่อมสร้างรังสิตปากเกร็ด ทำการจารจรติดขัดหลายกิโลเมตร


    เมื่อวันที่ 29 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อล้นฝั่งเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน รวมทั้งถนนสายซ่อมสร้าง หมู่ 5 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างถนนรังสิต-ปทุมธานี และถนนติวานนท์ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กม.ทำให้การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องทำการปิดถนนขาออกจากรังสิตให้รถวิ่งสวนทางในฝั่งขาเข้ารังสิต ทำให้เกิดการติดขัดยาวหลายกิโลเมตร

    นางรุ่งฤดี นวลจันทร์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/7 ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี

    กล่าวว่า ระดับน้ำจากคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ได้เอ่อท่วมขึ้นมามากตั้งแต่เมื่อเวลาประมาณ 06.00 น.ซึ่งระดับน้ำได้เอ่อขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้งตัวไม่ทัน และเก็บข้าวของหนีน้ำไม่ทัน น้ำได้ท่วมเข้าในบ้านอย่างรวดเร็ว ซึ่งก่อนหน้านี้น้ำก็เคยเอ่อท่วมขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่งและเพิ่งลดลงไปจนปกติเมื่อประมาณ 10น. วันที่ผ่านมา ที่สำคัญตอนนี้นอกจากถูกน้ำท่วมเข้าบ้านแล้ว ยังต้องมาเดือดร้อนเพราะรถทิ่วิ่งลุยน้ำผ่านไปมาทำให้คลื่นซัดเข้าบ้านสร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย


    ส่วนบนถนนสายคลองน้ำอ้อม – เชียงรากน้อย ซึ่งเป็นถนนเลียบคู่ไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา และเป็นคันเขื่อนมีความยาวประมาณ 13 กม. ในเขต อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

    ได้มีกลุ่มชาวบ้าน ทั้งจากในเขต ต.บ้านกระแชง ต.บ้านปทุม ต.บ้านงิ้ว และต.เชียงรากน้อย ได้ออกมาร่วมมือร่วมใจช่วยกันกรอกกระสอบทรายแล้วนำไปวางเพิ่มเสริมความแข็งแรงของแนวคันดินและแนวกระสอบทรายที่วางไว้อยู่เดิม เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับขึ้นสูงกว่า 50 ซม.


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "โลกยุคใหม่หรือยุคพันปีแห่งสันติสุข"

    [​IMG]

    เรามาดูต่อว่าเมื่อเข้ามาสู่ยุคใหม่หรือยุคพันปี สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากยุคเก่ามีอะไรบ้าง

    ข้อหนึ่ง คือ มนุษย์ที่จะมีชีวิตอยู่ในยุคพันปี ก็จะมีแต่พี่น้องของเรา คือผู้เชื่อทั้งหลายที่ได้รับความรอด ทั้งพวกที่ได้ตายไปก่อนแล้ว และพวกที่ถูกรับขึ้นไปตอนที่พระเยซูคริสต์เสด็จมา และพวกที่มากลับใจทีหลัง และทนผ่านความทุกข์ยากลำบาก 7 ปีมาได้

    ข้อสอง คือ ทุกคนที่ได้รับร่างกายใหม่แล้ว เป็นกายวิญญาณที่ไม่มีวันเน่าเปื่อย ไม่มีเชื้อบาป และไม่มีวันตายอีกแล้ว

    ข้อสาม คือ ไม่มีมารซาตานคอยหลอกล่อมนุษย์อีกต่อไป เพราะถูกจับขังไว้แล้ว
    อิสยาห์ 2:2-3 ได้บันทึกถึงยุคพันปีว่าจะมีลักษณะเป็นอย่างไร
    “ในยุคหลังจะเป็นดังนี้ คือภูเขาแห่งพระนิเวศของพระเจ้า จะถูกสถาปนาขึ้นให้สูงที่สุดในจำพวกภูเขาทั้งหลาย และจะถูกยกขึ้นให้เหนือบรรดาเนินเขา และประชาชาติทั้งสิ้นจะหลั่งไหลเข้ามาหา และชนชาติทั้งหลายเป็นอันมากจะมากล่าวว่า "มาเถิด ให้เราขึ้นไปยังภูเขาของพระเจ้า ยังพระนิเวศแห่งพระเจ้าของยาโคบ เพื่อพระองค์จะทรงสอนวิถีของพระองค์แก่เรา และเพื่อเราจะเดินในมรรคาของพระองค์" เพราะว่าพระธรรมจะออกมาจากศิโยน และพระวจนะของพระเจ้าจะออกมาจากเยรูซาเล็ม”
    “ในยุคหลังจะเป็นดังนี้” ยุคหลัง คือยุคโลกใหม่หรือยุคพันปี ที่เรากำลังพูดถึง ก็คือแผ่นดินโลกจะถูกฟื้นฟูใหม่ให้ดีขึ้นกว่าเก่า สภาพแวดล้อมก็ดีขึ้น ไม่มีมลพิษ ผู้คนทั้งหลาย ก็จะมีชีวิตอยู่ด้วยความเชื่อในพระเจ้า รักพระเจ้า ดำเนินชีวิตในทางพระเจ้า โดยมีพระเยซูคริสต์ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด ทรงครอบครองแผ่นดิน โลกจะมีความสงบสุข สันติสุขขนาดไหน ไม่มีมารมาคอยรบกวนเราอีกแล้ว ไม่มีกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนังอีกแล้ว รักกันฉันท์พี่น้อง สามารถที่จะเข้าใจกันได้ ท่านนึกภาพว่าโลกใบนี้จะมีความสุขมากขนาดไหน
    สดุดี 119:165
    “บุคคลเหล่านั้นที่รักพระธรรมของพระองค์ มีสันติภาพใหญ่ยิ่ง ไม่มีสิ่งใดกระทำให้เขาสะดุดได้”
    เอเสเคียล 36:26-27
    “เราจะให้ใจใหม่แก่เจ้าและเราจะบรรจุ จิตวิญญาณใหม่ไว้ในเจ้า เราจะนำใจหินออกไปเสียจากเนื้อของเจ้า และให้ใจเนื้อแก่เจ้า และเราจะใส่วิญญาณของเราภายในเจ้า และกระทำให้เจ้าดำเนินตามกฎเกณฑ์ของเรา และให้รักษากฎหมายของเราและกระทำตาม”
    นั่นคือคำเผยพระวจนะของพระเจ้า พูดถึงเรื่องเกี่ยวกับโลกใหม่ ยุคพันปีว่าจะเป็นอย่างไร มนุษย์ทุกคนในยุคพันปี จะมีจิตวิญญาณที่เหมือนพระเยซูคริสต์ ทุกคนดำเนินตามกฎเกณฑ์ของพระเจ้า ทุกคนมีผลของพระวิญญาณทั้ง 9 อย่างอยู่ในตัว เป็นโดยธรรมชาติ เราไม่ต้องมาฝืนบังคับตนเองว่า ไม่ยอมกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ต้องทำตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงนำ ในกฎเกณฑ์ที่พระเจ้าทรงบัญญัติไว้ พยายามไม่เห็นแก่ตัว พยายามมีความรัก มาถึงยุคพันปี ไม่ต้องพยายามอีกแล้ว เพราะว่าไม่มีกิเลสตัณหาทางฝ่ายเนื้อหนัง ในชีวิตของเราอีกต่อไป
    อิสยาห์ 2:4 บันทึกไว้ว่าในยุคนั้นเป็นอย่างไร
    “พระองค์ทรงวินิจฉัยระหว่างบรรดาประชาชาติ และจะทรงตัดสินเพื่อชนชาติทั้งหลายเป็นอันมาก และเขาทั้งหลายจะตีดาบของเขาให้เป็นผาลไถนา และหอกของเขาให้เป็นขอลิด ประชาชาติจะไม่ยกดาบต่อสู้กันอีก เขาจะไม่ศึกษายุทธศาสตร์อีกต่อไป”
    เมื่อถึงยุคพันปี ทุกคนก็อยู่แบบสงบ มีสันติสุข ไม่ต้องมีการต่อสู้ ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีการวางแผนสู้รบอะไรกันอีกแล้ว อาวุธทุกอย่างก็ไม่ต้องมี และไม่ใช่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้นที่มีการเปลี่ยนแปลง แม้กระทั่งสัตว์ป่าที่เคยดุร้าย ก็จะกลายเป็นเพื่อนกับมนุษย์ด้วย เปิดดูอิสยาห์ 11:6-9 บันทึกไว้อย่างนี้
    อิสยาห์ 11:6-9
    “สุนัขป่าจะอยู่กับลูกแกะ และเสือดาวจะนอนอยู่กับลูกแพะ ลูกโคกับสิงห์หนุ่มจะหากินอยู่ด้วยกัน และเด็กเล็กๆ จะนำมันไป แม่โคกับหมีจะกินด้วยกัน ลูกของมันก็จะนอนอยู่ด้วยกัน และสิงห์จะกินฟางเหมือนวัวผู้ และทารกกินนมจะเล่นอยู่ที่ปากรูงูเห่า และเด็กที่หย่านมจะเอามือวางบนรังของงูทับทาง สัตว์เหล่านั้นจะไม่ทำให้เจ็บหรือจะทำลาย ทั่วภูเขาศักดิ์สิทธิ์ของเรา เพราะว่าแผ่นดินโลก จะเต็มไปด้วยความรู้เรื่องของพระเจ้า ดั่งน้ำปกคลุมทะเลอยู่นั้น”
    สิงโตกินฟาง ผมชอบสิงโตมาก ถึงวันนั้นผมจะไปกอดสิงโต ไปซบเหมือนกับซบสุนัขที่บ้าน เล่นกับเราเพลินไปหมดเลยทุกอย่าง นึกถึงภาพโลกใบนี้ถูกทำให้กลับมาเป็นเหมือนสมัยอาดัมและอีฟยังไม่ได้ทำบาป โลกใบนั้นถูกทำให้กลับคืนมาใหม

    พอศึกษาเรื่องต่างๆ เหล่านี้ มันเป็นความหวังใจของเราจริงๆ เพราะว่ามันบันทึกไว้ในพระคัมภีร์ ไม่ใช่เรื่องคิดเอง แต่เป็นคำเผยพระวจนะ ซึ่งบังเกิดขึ้นแล้วส่วนหนึ่ง ที่บอกว่าพระเยซูคริสต์จะมาบังเกิด พระเจ้าจะมาเกิดเป็นมนุษย์ ก็เกิดแล้ว เป็นไปตามคำเผยพระวจนะ แล้วบอกว่าพระเจ้าที่มาเกิดเป็นมนุษย์จะมาตายที่ไม้กางเขน จะทนทุกข์ทรมาน และแบกบาปของเราทั้งหลายไว้ที่พระองค์ ก็เกิดแล้ว แล้วพระองค์จะเป็นขึ้นมาใหม่ในวันที่สาม ก็เกิดแล้ว และเราทั้งหลายจะได้รับการช่วยให้รอด จากความบาปผิดทั้งหลาย ก็เกิดแล้ว เพราะฉะนั้นที่ยังไม่เกิด ก็คือแล้วพระองค์จะกลับมารับเราที่เชื่อในพระองค์ แล้วพระองค์ปรับปรุงโลกใบนี้ให้เป็นเหมือนใหม่ ให้เราครองกับพระองค์ในยุคพันปี มันก็จะต้องเกิดตามมาเหมือนกันอย่างแน่นอน

    นี่คือสิ่งที่พระคัมภีร์บันทึกเอาไว้ แล้วในโลกยุคพันปี ก็จะเป็นโลกที่สวยสด งดงาม แต่ยุคพันปี ก็ยังเป็นแผ่นดินโลกอยู่นะครับ ยังไม่ได้เป็นบ้านสวรรค์ถาวรนิรันดร์ ที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมให้กับเรา นี่เราอยู่แค่ 1,000 ปีเท่านั้นเอง ยังดีขนาดนี้เลย แล้วท่านลองนึกถึงภาพสวรรค์นิรันดร์กาล ที่พระเจ้าทรงเตรียมเอาไว้ให้กับเราทั้งหลาย ผู้ที่รักพระองค์ จะดีขนาดไหนที่บอกว่าถนนเป็นทองคำ

    เราต้องรอคอยบ้านใหม่ของเรา ที่อยู่บนสวรรค์นิรันดร์กาล ที่พระคัมภีร์บอกว่าเราเฝ้าทูลขอ วิงวอนต่อพระองค์ที่จะอยู่ในพระนิเวศน์ของพระองค์ อยู่ในสวรรค์ร่วมกับพระองค์นิรันดร์กาล ซึ่งเราเรียกกันว่า “สวรรค์ใหม่” ไม่ใช่สวรรค์เก่า สวรรค์เก่าก็คือสวรรค์ที่เมืองบรมสุขเกษม แต่นี่เป็นสวรรค์ใหม่ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้ให้กับเรา ที่เรียกว่าเยรูซาเล็มใหม่ ลองคิดดู ท่านมาเชื่อพระเยซูมีอะไรดีบ้าง (1) พอมาเชื่อพระเยซูคริสต์เจ้าปุ๊บ พระองค์ทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์ อยู่กับเราเลย (2) ทรงดูแลชีวิตเราตั้งแต่อยู่บนโลกใบนี้เลย ตั้งแต่ที่เรารับเชื่อพระเจ้า ดูแลทุกข์สุขให้กับเรา ดูแลสุขภาพให้กับเรา ดูแลการเงินให้กับเรา ดูแลครอบครัวของเรา ดูแลชีวิตของเรา ดูแลความเชื่อของเรา ถ้าเราไว้วางใจในพระองค์ทุกอย่าง เอเมน

    เราไม่ต้องห่วงเลย ขนาดนกในอากาศพระองค์ยังทรงดูแลได้ แล้วมากกว่านั้นสักเท่าไรที่เราเป็นลูกของพระองค์ พระองค์จะดูแลไม่ได้หรือ นี่ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ มาเชื่อพระเจ้าก็ดีแล้ว แค่นั้นไม่พอ เมื่อหมดอายุขัย ที่พระองค์ทรงกำหนดให้ชีวิตเราอยู่บนโลกใบนี้ รับใช้พระเจ้าอยู่บนโลกใบนี้ แบบโลกไม่ใช่บ้านเกิดเมืองนอนของเรา ชั่วคราว 70 – 80 ปี พอจบหน้าที่ของเรา พระองค์ทรงดูแลต่ออีก พาวิญญาณเราไปพักกับพระองค์ที่เมืองบรมสุขเกษม ซึ่งอยู่เหมือนสวนเอเดนเลย รอวันที่พระเยซูคริสต์จะกลับมา รอรับร่างกายใหม่ ซึ่งเหมือนกายวิญญาณ ซึ่งเหมือนพระเยซูคริสต์ อยู่ตรงนั้นก็สบายแล้ว จากนั้น จะมาครอบครองร่วมกับพระองค์ในโลกใบนี้ ยุคพันปี ก็สบายอีก แล้วก็รอไปสวรรค์นิรันดร์กาล ที่พระองค์จะสร้างให้กับเรา คือเยรูซาเล็มใหม่ชั่วนิจนิรันดร์ มันมีแต่ดีตลอดเลย นี่คือพระคัมภีร์สัญญาไว้ทั้งสิ้น ขอพระเจ้าอวยพรครับ

    ที่มาhttp://www.holyofholies.net/sermon08/10_oct_12.htm

    หลังจากปี 2012 มีสี่ประการที่จะเกิดขึ้นคือ..

    1. มนุษยชาติจะก้าวล่วงเทคโนโลยีที่เราใช้และรู้จักในขณะนี้ แทบทั้งหมด
    2. มนุษยชาติจะก้าวล่วงรูปแบบของเวลาและเงินในรูปที่ใช้กัน ในขณะนี้
    3. เราจะผ่านเข้าสู่มิติที่ห้าอันเป็นมิติจิตวิญญาณ - จากมิติที่สี่ - วิกฤติที่เจ็บปวด
    4. ระนาบของระบบสุริยะจะอยู่ในระนาบเดียวกับระนาบของ กาแล็กซี

    ปฏิทินมายาบอกด้วยว่า ในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 1987 กระทั่งถึงช่วงปี 2012 เป็นช่วงเวลาระหว่างกลางของมิติที่ 4 สู่มิติที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงอันตราย เพราะเป็นช่วงที่จะมีความล่มสลายในทางธรรมชาติ และจิตวิญญาณของชาวโลกส่วนใหญ่ แต่ขณะเดียวกันก็จะมีการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณของคนอีกส่วนหนึ่ง (apocalypse แปลว่าการเปิดเผยที่ หมายถึงวิวัฒนาการทางจิตอีกด้วย) น่าแปลกที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของ เวลาจะสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของความถี่ของกระแสแม่เหล็กโลก ที่สะท้อนออกมาตามการหมุนรอบตัวเองของโลก (Schumann Resonance ที่เคยคงที่ที่ความถี่ 7.8 เฮิรตซ์ หรือรอบต่อวินาทีทุกวันนี้ได้สูงขึ้นเป็น 11.8 รอบต่อวินาที)

    โดยปฏิทินของชาวมายา มิติที่ 5 หรือหลังปี 2012 คือช่วงเวลาที่มนุษยชาติส่วนหนึ่ง จะมีวิวัฒนาการสู่แสงใสกระจ่าง (แปลกอีกที่ใช้คำว่า clear light เช่นเดียวกับในคัมภีร์พีระมิดของอียิปต์ และคัมภีร์มรณศาสตร์ของทิเบต ที่มีความหมายสู่จิตวิญญาณบริสุทธิ์)

    ที่มา โลกหลัง 2012 สู่มิติที่ห้า - ห้องพลังลี้ลับ-ความน่าอัศจรรย์ของพลังธรรมชาติUFO ...

    ลิ้งค์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกัน

    ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์ จากบันทึกของ 3 ศาสนา - PaLungJit.com

    "ยุคของพระเจ้าจักรพรรดิ์" จะเหลือเพียงศาสนาเดียว ... - PaLungJit.com

    เรื่องการมาปรากฏกายของพระเจ้าจักรพรรดิ์ ตามที่มีบันทึกเอาไว้ในทุกศาสนา

    ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  10. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>ออสซี่ตะลึง-เจอ "วาฬหลังค่อมสีขาว" สุดหายาก </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>วันที่ 30 ก.ย. สำนักข่าวเอเอฟพีและเว็บไซต์น.ส.พ.เดลี่เมล์

    รายงานว่า นายเวย์น ฟิวอิงส์ ชาวออสเตรเลีย พบและบันทึกภาพ "วาฬหลังค่อมสีขาว" หรือ white humpback whale เอาไว้ได้ ขณะนั่งเรือออกไปดำน้ำอยู่นอกชายฝั่งซิดฮาร์เบอร์ หมู่เกาะวิตซันเดย์ ซึ่งตั้งอยู่ในเขตปะการัง
    เกรตแบร์ริเออร์รีฟ

    รายงานข่าวระบุว่าวาฬหลังค่อมสีขาวเป็นสัตว์หายากที่แทบไม่มีใครพบเห็นแล้วในยุคปัจจุบัน

    เฉพาะในพื้นที่นอกชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลียคาดว่าทุกวันนี้มีเหลืออยู่เพียงแค่ 10-15 ตัว จากประชากรวาฬหลังค่อมกว่า 15,000 ตัวในพื้นที่ดังกล่าว เมื่อประเมินจากภาพถ่าย คาดว่า วาฬหลังค่อมสีขาวตัวนี้น่าจะเป็นลูกวาฬ อายุไม่กี่สัปดาห์ ลำตัวยาวประมาณ 12 ฟุต



    นายมาร์ค รีด เจ้าหน้าที่ประจำผุ้ดูแลแนวปะการัง เกรตแบร์ริเออร์รีฟ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่วาฬหลังค่อมสีขาวที่พบครั้งนี้ อาจเป็นลูกของวาฬ "มิกาลู" วาฬสีขาวชื่อดังของออสเตรเลีย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>รัสเซียห้ามนำเข้าเนื้อวัวบดจากโรงงานในแคนซัส หวั่นปนเปื้อนเชื้ออีโคไล </TD></TR><TR><TD> </TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top>มอสโก 30 ก.ย. - รัสเซียสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวบดจากโรงงานไทสัน เฟรช มีทส์ ในรัฐแคนซัส ของสหรัฐ หลังจากบริษัทดังกล่าวเรียกคืนเนื้อ 131,300 ปอนด์ เนื่องจากเกรงว่าอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียอีโคไล

    สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานอ้างหัวหน้าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภครัสเซียที่ว่า

    การออกคำสั่งห้ามดังกล่าวเป็นมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมาถึงรัสเซีย ก่อนหน้านี้กระทรวงเกษตรสหรัฐแถลงว่า ได้รับทราบเรื่องการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียดังกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เมื่อสำนักงานสาธารณสุขในรัฐโอไฮโอแจ้งพบการติดเชื้ออีโคไลในเขตบัตเลอร์เคาน์ตี้ ระหว่างวันที่ 8-11 ก.ย.ที่ผ่านมา และจากการเก็บตัวอย่างเนื้อบดจากบ้านหลังหนึ่งเมื่อวันที่ 19 ก.ย. ปรากฏว่าพบการปนเปื้อนเชื้ออีโคไล. - สำนักข่าวไทย


    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:"ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง"
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  11. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    เมื่อวานนี้ (29 ก.ย.) นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (รมว.รง.) ในฐานะประธานคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (ครส.) กล่าวภายหลังประชุมคณะกรรมการ ว่า ได้ข้อสรุปร่วมกันถึงการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบ โดยเริ่มใช้นโยบาย 1 ม.ค. 2555 โดยปีแรกใช้งบเพิ่มอีก 8,000 ล้าน ปีที่ 2 ใช้อีก 15,000 ล้าน เพิ่มเติมจากปรับขึ้นเงินเดือนปริญญาตรี 15,000 บาท ที่ใช้งบ 18,800 ล้านบาท
    ทั้งนี้ที่ประชุมจะนำเสนอแนวทางการปรับฐานเงินเดือนข้าราชการทั้งระบบเข้าสู่การพิจารณาของครม. วันที่ 4 ต.ค.นี้ ซึ่งไม่ใช่การปรับขึ้นแค่ 6% ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะการขึ้น 6% เป็นตัวเลขของการปรับขึ้นเงินเดือนทั้งระบบราชการในแต่ละปี
    โดย ลูกจ้างรัฐวิสาหกิจที่ได้รับค่าจ้างไม่ถึง 300 บาทต่อวัน ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 24,419 คน จะปรับให้เป็น 300 บาทต่อวัน โดยใช้เงินเพิ่มขึ้นเดือนละ 23.9 ล้านบาท
    เงินเดือนข้าราชการ กลุ่มวุฒิ ปวส.
    - เงินเดือนต่ำสุดของข้าราชการที่ทำงานมา 1 ปี คือ 7,670 บาท และ ต่ำสุดของที่ทำงานมา 10 ปี คือ 16,710 บาท
    โดยขั้นตอนของการปรับฐานเงินเดือน คือ
    - ทำงานมา 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,290 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,590 บาท
    - ทำงานมา 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,000 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
    - ทำงานมา 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
    - ทำงานมา 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
    - ทำงานมา 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
    - ทำงานมา 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 100 บาท
    เงินเดือนข้าราชการ กลุ่มวุฒิปริญญาตรี
    - เงินเดือนต่ำสุดของข้าราชการที่ทำงานมา 1 ปี คือ 9,140 บาท และต่ำสุดของที่ทำงานมา 10 ปี คือ 19,910 บาท
    โดยขั้นตอนของการปรับฐานเงินเดือน คือ
    - ทำงานมา 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,540 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 3,320 บาท
    - ทำงานมา 2-3 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,800 บาท
    - ทำงานมา 4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
    - ทำงานมา 5-6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
    - ทำงานมา 7-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,300 บาท
    - ทำงานมา 9 ปี ปีแรกปรับขึ้น 500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 800 บาท
    - ทำงานมา 10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
    เงินเดือนข้าราชการ กลุ่มวุฒิ ปริญญาโท
    เงินเดือนต่ำสุดของข้าราชการที่ทำงานมา 1 ปี คือ 12,600 บาท และต่ำสุดของที่ทำงานมา 10 ปี คือ 23,110 บาท
    โดยขั้นตอนของการปรับฐานเงินเดือน คือ
    - ทำงานมา 1 ปี ปีแรกปรับขึ้น 2,700 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,300 บาท
    - ทำงานมา 2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 2,000 บาท
    - ทำงานมา 3-4 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,500 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,700 บาท
    - ทำงานมา 5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,400 บาท
    - ทำงานมา 6 ปี ปีแรกปรับขึ้น 900 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,100 บาท
    - ทำงานมา 7 ปี ปีแรกปรับขึ้น 600 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 900 บาท
    - ทำงานมา 8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 300 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
    - ทำงานมา 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 100 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 300 บาท
    เงินเดือนข้าราชการ กลุ่มวุฒิปริญญาเอก
    - เงินเดือนต่ำสุดของข้าราชการที่ทำงานมา 1 ปี คือ 17,010 บาท และต่ำสุดของที่ทำงานมา 10 ปี คือ 28,110 บาท
    โดยขั้นตอนของการปรับฐานเงินเดือน คือ
    - ทำงานมา 1-2 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,690 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,800 บาท
    - ทำงานมา 3-5 ปี ปีแรกปรับขึ้น 1,200 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 1,200 บาท
    - ทำงานมา 6-8 ปี ปีแรกปรับขึ้น 800 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
    - ทำงานมา 9-10 ปี ปีแรกปรับขึ้น 400 บาท ปีที่ 2 ปรับขึ้น 600 บาท
    ทั้งนี้หลังจากปรับฐานเงินเดือนในปีที่ 2 แล้วนั้น
    - ข้าราชการเก่าที่จบปวช.ที่ทำงานมา 1 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 10,690 บาท
    ส่วนที่ทำงานมา 10 ปี อยู่ที่ 17,110 บาท
    - วุฒิปวส.ที่ทำงานมา 1 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 12,010 บาท
    ส่วนที่ทำงานมา 10 ปี จะอยู่ที่ 19,810 บาท
    - วุฒิปริญญาตรีที่ทำงานมา 1 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 16,310 บาท
    ส่วนที่ทำงาน 10 ปี จะอยู่ที่ 23,810 บาท
    - วุฒิปริญญาโท ที่ทำงานมา 1 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 18,710 บาท
    ส่วนที่ทำงาน 10 ปี จะอยู่ที่ 26,610 บาท
    - วุฒิปริญญาเอก ที่ทำงานมา 1 ปี เงินเดือนจะอยู่ที่ 24,810 บาท
    ส่วนที่ทำงาน 10 ปี จะอยู่ที่ 33,210 บาท
    Mthai News


    [​IMG]
    นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่า​การกระทรวงพลังงาน ​เปิด​เผยภายหลัง​การประชุมคณะกรรม​การบริหารน​โยบายพลังงาน(กบง.)ว่า ที่ประชุมมีมติ​ให้กองทุนน้ำมัน​เชื้อ​เพลิงกู้​เงิน 10,000 ล้านบาท ​
    เพื่อชด​เชยน​โยบาย​การชะลอ​เ​ก็บ​เงิน​เข้ากองทุนน้ำมันฯ กลุ่ม​เบนซิน-ดี​เซล ที่เคยประกาศไปก่อนหน้านี้ หลังจากล่าสุดฐานะกองทุนติดลบกว่า 1,000ล้านบาท ​โดยจะกู้เงินจาก​แหล่ง​เงินภาย​ในประ​เทศ
    ขณะเดียวกัน กบง. ก็​เตรียมจะพิจารณา​เ​ก็บ​เงิน​เข้ากองทุนน้ำมันฯ​ เพิ่ม​ใหม่ ​เพราะต้อง​การ​ให้ประชาชนประหยัดพลังงาน​ในช่วงที่ราคาน้ำมันลดต่ำลง รวม​ทั้งจะพิจารณายก​เลิก​การ​ใช้น้ำมัน​เบนซิน91
    โดยวันนี้ (30ก.ย.) จะ​เสนอ​เรื่อง​ทั้งหมดให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็น​ผู้ตัดสิน​ใจอีกครั้งใน​การประชุมคณะกรรม​การน​โยบายพลังงาน​แห่งชาติ (กพช.) รัฐมนตรีว่า​การกระทรวงพลังงานกล่าว
    สำหรับที่ประชุมฯ กบง. วันนี้จะพิจารณา​การ​เ​ก็บ​เงิน​เข้ากองทุนน้ำมันฯ กลุ่ม​เบนซิน91​ และ 95 คืน 1 บาทต่อลิตรจนกว่าจะครบตามจำนวนที่รัฐบาลมีน​โยบายลด​เ​ก็บ​เงิน​เข้ากองทุนฯ ​ไปก่อนหน้านี้
    กล่าวคือ ​เบนซิน95 ชะลอ​การ​เ​ก็บ​ไป7.50 บาทต่อลิตร รวมภาษีมูลค่า​เพิ่ม (​VAT) ​เป็น 8.02 บาทต่อลิตร
    ​เบนซิน 91 อยู่ที่ 6.70 บาทต่อลิตร รวม​รวมภาษีมูลค่า​เพิ่ม (VAT) เป็น 7.17 บาทต่อลิตร
    น้ำมันดี​เซลจะมี​การปรับขึ้น 60สตางค์ต่อลิตร​เท่านั้น ​และ​ไม่มี​ความจำ​เป็นที่จะขึ้น​ให้ครบตามที่ลด​ไป 2.80 บาทต่อลิตร รวม​ VAT ​เป็น 3บาท
    ส่วน​การยก​เลิก​ใช้น้ำมัน​เบนซิน91 จะ​เริ่มดำ​เนิน​การ​เดือนมกราคม 2556 นอกจากนี้ยังจะมีหารือการลอยตัวแอลพีจี ภาคขนส่งและภาคครัวเรือนควบคู่ไปอีกด้วย

    Mthai News
     
  12. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    =====================================


    29 ก.ย. 54


    ปีหน้า-----------ผมว่า----------จะหนักกว่า
    เพราะว่า---------ทุกที่-----------กำลังถอย
    แจ้งก่อน---------คาดการ-------ไม่ได้ฝอย
    จะได้ถอย--------ตั้งรับ----------ได้ทันกาล

    หาที่สูง----------เตรียมไว้--------พร้อมอาหาร
    จะทันกาล--------เมื่อภัย----------มาประสบ
    อาหาร-----------ยูกยา-----------หาให้ครบ
    จะไม่อด----------มีกิน------------ยามภัยมา

    วันนี้มี------------คนดี-----------เข้ามาใหม่
    มาปราศัย---------พูดคุย---------เรื่องของภัย
    ผมชักชวน--------เข้าร่วม--------ถ้าอยากไป
    ตัดสินใจ----------ให้ดี-----------ค่อยว่ากัน

    ผู้มาใหม่------------เปลี่ยนแผนใหม่-------ไว้รองรับ
    เรื่องของทรัพย์------ซื้อของตัว------------เผื่อผู้อื่น
    ทั้งสำเนา-----------ใบรับรอง-------------ไม่ต้องยื่น
    มันดูวุ่น-------------ต่อตัว----------------และผู้ไป

    ข้าศึกเริ่ม-----------ประชิด----------กรุงเทพฯ
    คงปวดเฮด---------น่าห่วง----------เมืองหลวงแตก
    แล้วพี่น้อง----------ชนบท----------ใครจะแบก?
    คงต้องแยก---------ช่วยตัว----------ให้รอดก่อน



    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน


    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "ยุคศิวิไลซ์อันน่าอัศจรรย์ "

    <DIV class=MsoNormal align=center>
    เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[COLOR=#660066] [COLOR=#333333] [B]ความเดิมจากตอนที่แล้ว...[/B] ความอัศจรรย์แห่งยุคพระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ได้มีปรากฏในคัมภีร์ไตรภูมิโลกวินิจฉัย ซึ่งสามารถจำแนกเป็นหัวข้อคร่าวๆ ได้อย่างน้อย 6 ประการ ดังต่อไปนี้ [/COLOR]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=center><DIVE />[COLOR=#333333][FONT=Verdana][B]ความอัศจรรย์ลำดับที่ 1.ได้แก่ เรื่องสภาพเศรษฐกิจและสังคม[/B][/FONT] [/COLOR]</DIV>[COLOR=#333333] [/COLOR]
    [CENTER][COLOR=#333333][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531019/531019p10.jpg[/IMG][/COLOR][/CENTER]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    [COLOR=#333333] โลกในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ผู้มี[COLOR=#333333]บุญ[/COLOR]จะลงมาเกิดกันจนเต็มแผ่นดิน จนเป็นผลทำให้โลกในยุคนั้น มีแต่สันติสุขและจะไม่มีการรบราฆ่าฟันกันเลย เพราะผู้คนในยุคนั้น จะมี[COLOR=#333333]ศีลธรรม[/COLOR]ประจำใจ และมีความรักใคร่ฉันพี่น้อง มองกันด้วยความเอื้ออาทร ภาพของโลกในยุคนั้น ประชากรบนโลกจะมีเป็นจำนวนมาก และจะสร้างอาคารบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆกัน แต่ถึงกระนั้น อาหารการกินกลับอุดมสมบูรณ์ ไม่ขัดสนเลยแม้สักนิดเดียว พูดง่ายๆ คือ เหลือกินเหลือใช้นั่นเอง นอกจากนั้น...โลกในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ ยังปราศจากความเหลื่อมล้ำทางสังคมอีกด้วย[/COLOR]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    [CENTER][COLOR=#333333][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p1.jpg[/IMG][/COLOR][/CENTER]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[COLOR=#333333][COLOR=#333333] โลกในยุคนั้น จะปราศจากความเหลื่อมล้ำทางสังคม กล่าวคือ จะไร้ซึ่งอภิอัครมหาเศรษฐีผู้รวยล้นฟ้าอยู่เพียงผู้เดียว หรือไร้ซึ่งยาจกวณิพกผู้ยากไร้ เพราะทุกๆคนที่เกิดมาในยุคนั้น จะมีรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และคุณสมบัติ ที่ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน หรือถ้าจะพูดให้เข้าใจกันง่ายๆ คือ แต่ละคนจะมีความหล่อ สวย รวย ฉลาด ไล่เลี่ยกันนั่นเอง [/COLOR]
    [CENTER][COLOR=#333333][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p2.jpg[/IMG][/COLOR][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[COLOR=#333333]<DIVE />[/COLOR]</DIV>[COLOR=#333333] [/COLOR]
    [COLOR=#333333] อีกทั้งโลกในยุคนั้น จะไม่มีคนอนาถาเข็ญใจไม่มีที่อยู่อาศัย เพราะของกินของใช้ ผ้านุ่งผ้าห่มในยุคนั้น จะสามารถบันดาลได้จากต้นกัลปพฤกษ์ที่มีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง หากใครต้องการสิ่งใดก็จะไปที่ต้นกัลปพฤกษ์ เพื่อของสิ่งของต่างๆ ตามที่ตนเองปรารถนา ดังนั้น...คำว่า เศรษฐกิจตกต่ำ หรือ ภาวะข้าวยากหมากแพง ดังเช่นในยุคปัจจุบัน ย่อมไม่เป็นที่รู้จักของผู้คนในยุคนั้น[/COLOR]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    [CENTER][COLOR=#333333][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p3.jpg[/IMG][/COLOR][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[COLOR=#333333]<DIVE />[/COLOR]</DIV>[COLOR=#333333] [/COLOR]
    [COLOR=#333333] นอกจากนี้ คนที่เกิดขึ้นในยุคสมัยของพระศรีอริยเมตไตรย์ จะเป็นผู้ที่พรั่งพร้อมและบริบูรณ์ไปด้วยรูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัส อันประณีต ถ้าดูเผินๆก็จะมีรูปร่างลักษณะคล้ายๆดั่งชาว[COLOR=#333333]สวรรค์[/COLOR] (คือ แลดูงดงามคล้ายๆกันไปหมด)[COLOR=#ffffff]-[/COLOR]เพราะฉะนั้น คนในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ จะเป็นผู้ที่มีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม แลดูเป็นหนุ่มเป็นสาวอยู่ตลอดเวลา แม้คนที่กำลังเข้าสู่วัยชราซึ่งเป็นช่วงสุดท้ายของชีวิต ร่องรอยแห่งวัย ประเภท...ตีนกา รอยยับรอยย่น หรือสิวฝ้า กระ จะไม่มีปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่นิดเดียว [/COLOR]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    [CENTER][COLOR=#333333][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p4.jpg[/IMG][/COLOR][/CENTER]
    [COLOR=#333333] [/COLOR]
    [COLOR=#333333] ในยุคนั้น จะไม่มีคนพิการทางร่างกาย และพิกลทางจิตใจ แม้สักคนเดียว ดังนั้น คน[COLOR=#333333]หูหนวก[/COLOR] [COLOR=#333333]ตาบอด[/COLOR] ง่อยเปลี้ยเสียขา [COLOR=#333333]ใบ้[/COLOR]บ้า[COLOR=#333333]ปัญญาอ่อน[/COLOR] จะไม่มีปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่น้อย ทุกคนล้วนดูดี สมส่วน สง่างาม ดูเจริญตาพาเจริญใจเป็นอย่างยิ่ง[/COLOR]

    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify>[CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p5.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE /></DIV>
    อีกทั้งคนและสัตว์ต่างๆที่เกิดในยุคนั้น จะพูดจาภาษาเดียวกัน กล่าวคือ สัตว์สามารถพูดภาษามนุษย์ได้ มีเมตตาจิตต่อกัน ไม่คิดทำร้ายกัน และจะตั้งมั่นอยู่แต่ในสุจริตธรรม เพราะมนุษย์ทุกคน รวมถึงสัตว์ทุกตัว ที่เกิดขึ้นในยุคนั้น จะมีศีลห้าเป็นปกติ ดังนั้น พวกสัตว์ที่เป็นคู่เวรคู่กรรม อย่างเช่น กากับนกเค้า แมวกับหนู งูกับพังพอน เมื่อไปเกิดยุคนี้...ทั้งสองฝ่ายจะกลายเป็นมิตรกัน

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p6.jpg[/IMG]

    [B][COLOR=#333333]ความอัศจรรย์ลำดับที่ 2.ได้แก่ เรื่องสุขอนามัย[/COLOR][/B][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE /></DIV>
    มนุษย์ในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น จะมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ ไร้ซึ่ง[COLOR=#333333]โรคภัยไข้เจ็บ[/COLOR]ที่เป็นอันตรายร้ายแรงมาเบียดเบียน ดังนั้น โรงพยาบาลหรือโครงการต่างๆที่จัดตั้งขึ้นเพื่อรักษาโรคภัยไข้เจ็บอย่างเช่นในยุคปัจจุบัน ก็จะหมดความจำเป็นไปเลย ที่เป็นเช่นนั้น...ทั้งนี้ก็ด้วย[COLOR=#333333]บุญ[/COLOR]ญา[COLOR=#333333]บารมี[/COLOR]ของผู้คนในยุคนั้นนั่นเอง

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p7.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE /></DIV>
    แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่ามนุษย์ในยุคนั้นจะไม่มีโรคมาเบียดเบียนเอาเสียเลย เพราะในความเป็นจริงแล้ว ยังมีโรคที่มาเบียดเบียนผู้คนในยุคนั้นได้อยู่เหมือนกัน แต่ถึงจะมีก็มีเพียงแค่โรคสามประเภทเท่านั้น ได้แก่...

    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE />[COLOR=#333333][B]โรคประเภทที่หนึ่ง[/B] คือ [B]โรคหิวอาหาร[/B][/COLOR] สำหรับโรคหิวอาหารนั้น ถือเป็นโรคประจำขันธ์ของมนุษย์ทุกคน ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดมายุคใดสมัยใด มนุษย์ก็ต้องเป็นโรคนี้ด้วยกันทั้งนั้น </DIV>
    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p8.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIV class=MsoNormalCxSpMiddle align=justify><DIVE /></DIV>
    ส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคหิวอาหาร ทั้งนี้ก็เป็นเพราะกายหยาบต้องการอาหารนั่นเอง เมื่อไหร่ที่เราลืมบริโภคอาหาร เมื่อนั้นโรคหิวอาหารก็จะกำเริบและแสดงอาการออกมาให้เห็น เช่น อาการท้องร้อง เป็นต้น

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p9.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIVE /></DIV>
    [COLOR=#333333][B]โรคประเภทที่สอง[/B] คือ [B]โรคที่เกิดจากความเมาอาหาร[/B][/COLOR] สำหรับโรคชนิดนี้มีสาเหตุมาจากการบริโภคมากจนเกินไป เมื่อไหร่ที่เราบริโภคมากจนเกินไป เมื่อนั้นโรคที่เกิดจากความเมาอาหารก็จะแสดงอาการออกมาให้เห็น เช่น ร่างกายจะรู้สึกอึดอัดหรือไม่สบายเนื้อสบายตัว เป็นต้น

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531020/531020p10.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIVE /></DIV>
    ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะว่าอาหารในยุคนั้น ล้วนมีรสชาติกลมกล่อมชวนให้ลิ้มรสเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้น เมื่อใครได้บริโภคอาหารเข้าไปแล้ว จึงเกิดอาการติดใจและยากที่จะห้ามใจได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ ภาวะเมาอาหารจึงเกิดขึ้น

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531028/531028p1.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIVE /></DIV>[B][COLOR=#000066] [/COLOR][/B]
    [B][COLOR=#333333]โรคประเภทที่สาม[/COLOR][/B] ซึ่งถือเป็นโรคชนิดสุดท้ายที่จะมาเบียดเบียนผู้คนที่เกิดในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์ นั่นก็คือ...โรคชรา ซึ่งโรคชนิดนี้ถือเป็นโรคประจำขันธ์ของมนุษย์ทุกคนเช่นเดียวกับโรคหิวอาหาร ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดมายุคใดสมัยใด มนุษย์ก็ต้องเป็นโรคนี้ด้วยกันทุกคน ถึงแม้อายุขัยเฉลี่ยของมนุษย์ในยุคนั้นจะยืนยาวถึงแปดหมื่นปี แต่ถึงกระนั้น ก็ใช่ว่าทุกคนจะหลีกเลี่ยงโรคชราลงไปได้ ซึ่งโรคชราในยุคของพระศรีอริยเมตไตรย์นั้น ไม่ได้หมายถึงวัยชรา หรือโรคที่ทำให้คนกลายเป็นคนแก่แล้วก็ตาย อย่างที่หลายๆคนเข้าใจ เพราะในยุคนั้น คนแก่จะไม่มีปรากฏให้เห็นเลยแม้แต่เพียงคนเดียว

    [CENTER][IMG]http://www.dmc.tv/images/ScoopUpdate/Dream02/D531028/531028p2.jpg[/IMG][/CENTER]
    <DIVE /></DIV>
    เพราะฉะนั้น เมื่อวันเวลาแห่งวัยได้ล่วงเลยผ่านไปจนมาถึงช่วงเบื้องปลายของชีวิต สังขารร่างกายของมนุษย์ในยุคนั้นก็จะเริ่มอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ เช่น จากที่เคยมีเรี่ยวแรงหรือมีกำลังมาก ก็จะเริ่มมีกำลังลดน้อยถอยลงไป เป็นต้น ถึงแม้คนที่เข้าสู่วัยชราจะมีกำลังหรือเรี่ยวแรงที่ลดน้อยถอยลงไปก็ตาม แต่ถึงกระนั้น สภาพร่างกายภายนอกกลับดูไม่มีความแตกต่างจากคนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวเลย

    พูดง่ายๆว่า...คนในยุคนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับชาว[COLOR=#333333]สวรรค์[/COLOR] กล่าวคือ...เวลาที่[COLOR=#333333]เทวดา[/COLOR]องค์ไหนใกล้จะหมด[COLOR=#333333]บุญ[/COLOR]หรือใกล้จะจุติ สภาพร่างกายก็ยังคงดูเป็นปกติไม่ได้เหี่ยวย่นแต่อย่างใด ถ้าจะมีอาการให้เห็นก็แค่รัศมีกายเศร้าหมอง หรือเหงื่อออกตามรักแร้ เป็นต้น เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนภพภูมิหรือถึงเวลาจุติ กายที่เป็นทิพย์ก็จะแวบหายไปในทันที ซึ่งช่วงบั้นปลายชีวิตของมนุษย์ในยุคนั้นก็จะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้

    ที่มา [URL="http://www.dmc.tv/pages/20101028-ยุคศิวิไลซ์อันน่าอัศจรรย์_LEFT"][COLOR=purple]http://www.dmc.tv/pages/20101028-ยุคศิวิไลซ์อันน่าอัศจรรย์_LEFT[/COLOR][/URL]


    [/COLOR]
    [/COLOR]


     
  14. ZZ

    ZZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2005
    โพสต์:
    5,374
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,649
    <object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/RD2o8TAe7wo?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/RD2o8TAe7wo?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>

    <object style="height: 390px; width: 640px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/QegZ6aKbVLI?version=3"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/QegZ6aKbVLI?version=3" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="640" height="360"></object>
     
  15. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เมื่อร่างกายมนุษย์เปลี่ยนเข้าสู่มิติที่ 5

    [​IMG]


    อ้างอิง เรื่องเมื่อเข้ามาสู่ยุคใหม่หรือยุคพันปี สิ่งที่เปลี่ยนแปลงจากยุคเก่ามีอะไรบ้าง?

    "ทุกคนที่ได้รับร่างกายใหม่แล้ว เป็นกายวิญญาณที่ไม่มีวันเน่าเปื่อย ไม่มีเชื้อบาป และไม่มีวันตายอีกแล้ว"

    เปรียบเทียบกับร่างกายของคนในยุคพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้า

    เมื่อวันเวลาแห่งวัยได้ล่วงเลยผ่านไปจนมาถึงช่วงเบื้องปลายของชีวิต สังขารร่างกายของมนุษย์ในยุคนั้นก็จะเริ่มอ่อนกำลังลงไปเรื่อยๆ เช่น จากที่เคยมีเรี่ยวแรงหรือมีกำลังมาก ก็จะเริ่มมีกำลังลดน้อยถอยลงไป เป็นต้น ถึงแม้คนที่เข้าสู่วัยชราจะมีกำลังหรือเรี่ยวแรงที่ลดน้อยถอยลงไปก็ตาม แต่ถึงกระนั้น สภาพร่างกายภายนอกกลับดูไม่มีความแตกต่างจากคนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวเลย

    พูดง่ายๆว่า...คนในยุคนั้นจะมีลักษณะคล้ายๆกับชาวสวรรค์ กล่าวคือ...เวลาที่เทวดาองค์ไหนใกล้จะหมดบุญหรือใกล้จะจุติ สภาพร่างกายก็ยังคงดูเป็นปกติไม่ได้เหี่ยวย่นแต่อย่างใด ถ้าจะมีอาการให้เห็นก็แค่รัศมีกายเศร้าหมอง หรือเหงื่อออกตามรักแร้ เป็นต้น เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนภพภูมิหรือถึงเวลาจุติ กายที่เป็นทิพย์ก็จะแวบหายไปในทันที ซึ่งช่วงบั้นปลายชีวิตของมนุษย์ในยุคนั้นก็จะมีลักษณะคล้ายๆแบบนี้

    ****************************************************

    หมายเหตุ

    ตามความเห็นของผมคิดว่า มิติของโลกเรานั้น มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆลงๆ อยู่ตลอดเวลา เช่นสภาพร่างกายและชีวิตของคนในยุคต้นกัปป์ ก็มีสภาพเป็นกึ่งทิพย์กึ่งหยาบ(มิติที่ 5) แบบเดียวกับคนในยุคพระศรีอาริยเมตไตรยพุทธเจ้านี้เช่นเดียวกัน ในยุคปัจจุบันนี้โลกของเรายังอยู่ในมิติที่ 4 คนบนโลกนี้มีกายเนื้อเป็นกายหยาบ ที่มีสภาพต้องแก่ชรา และเน่าเปื่อยผุพังเมือต้องตายไป แต่เมื่อเปลี่ยนเข้าไปสู่มิติที่ 5 แล้ว ร่างกายของคนเรา จึงมีสภาพละเอียดใกล้เคียงกับ ยักษ์ นาค ครุฑ ในโลกวิญญาณชั้นล่างๆ จึงไม่น่าแปลกใจที่มีผู้กล่าวว่า คนในยุคใหม่นั้น จะสามารถมองเห็นและพูดคุยกับเทพเทวาในระดับล่างนี้ได้ครับ

    จากคำทำนายของศาสนาคริสต์ ที่ว่าเมื่อเข้าสู่ยุคพันปีของพระคริสต์แล้ว คนเราจะไม่แก่ชรา ไม่เน่าเปื่อย และเมื่อหมดอายุขัย ร่างกายก็จะสลายหายไปเป็นอากาศธาตุในทันที ไม่ต้องเผาหรือต้องฝังเหมือนในยุคปัจจุบันนี้ ก็เพราะว่าร่างกายของคนในยุคพันปีนี้ ได้ปรับเปลี่ยนเข้าไปสู่มิติที่ 5 ดังที่ได้กล่าวมานี้ จึงดูเหมือนว่าไม่มีใครตาย เพียงแต่หายไปเฉยๆ แค่นั้นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  16. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    <TABLE id=post444027 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead>08-01-2007, 11:01 AM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right>#14 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->หนุมาน ผู้นำสาร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_444027", true); </SCRIPT>
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jul 2006
    ข้อความ: 12,217
    พลังการให้คะแนน: 5169 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]



    </TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_444027 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->*** พยากรณ์เริ่มผิดพลาด ****

    ต่อไป...การพยากรณ์ ลมฟ้าอากาศ
    จะผิดพลาด...เนื่องจาก ใช้สถิติเก่าจากปริมาณทรัพยากร ดิน น้ำ ลม ไฟ เท่าเดิม....

    แต่ปัจจุบัน โลกมีปริมาณ "น้ำ" เพิ่มมากขึ้น
    ที่ลอยมาตามกระแสลมจักรวาลจากภายนอกโลก....
    ทุกสิ่งทุกอย่างจึงจะเปลี่ยนแปลงไป...
    ช่วงแรกอาจดูโหดร้าย แต่ก็เป็นไปตาม "การกระทำที่ทำไปแล้ว" ของแต่ละคน...
    เมื่อผ่านพ้นความรุนแรง โลกจะสมบูรณ์ดังในอดีต
    น้ำจะแทรกเข้าไปทุกอนู ไม่ว่าจะเป็น หิน ทราย เหล็ก และ มนุษย์ พันธุกรรมจะถูกปรับให้สมบูรณ์
    มนุษย์ที่ผ่านสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาลไปได้ จะมีร่างกายที่สมบูรณ์
    โรคภัยต่างๆ จะสูญหายไป...

    โลกจะเป็นเหมือนดั่งสวรรค์ คือ การเข้ายุคพระศรีอาริย์ นั่นเอง....
    (พระศรีอารย์ "ไม่มีตัวตน" จนกว่าพุทธศาสนาที่มีพระโคดมเป็นพระพุทธเจ้าจะครบ ๕,๐๐๐ ปี...
    อย่า หลงเชื่อผู้ไม่หวังดี....ที่นำความเชื่อและศรัทธาของชาวพุทธมาหลอกลวง และแทรกคำสอนที่ผิดและก่อให้เกิดความแตกแยก และความรุนแรงในประเทศได้)

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "<!-- google_ad_section_end -->


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. patratyon

    patratyon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10,434
    ค่าพลัง:
    +6,293
    มึนหนัก! ตกลงว่า ประเทศไทย มีกี่จังหวัดกันแน่ 76 หรือ 77 ? (หว่า)

    [​IMG]


    เว็บไซต์ MeechaiThailand.com ____________________________ ข่าวไทย Online _______________________ ของนายมีชัย ฤชุพันธ์ อดีตรองนายกฯและอดีตประธานวุฒิสภา ในคอลัมน์ถามตอบกับมีชัย มีผู้ถามเรื่อง ประเทศไทยมีกี่จังหวัด กันแน่ ?

    คำถามคือ คืออยากรู้ว่าตอนนี้ประเทศไทยมีกี่จังหวัดครับ เพราะไปสอบมาแต่ละแห่งที่คำตอบไม่เหมือนกันเลยครับบ้างก็บอก 76 บ้างก็ว่า 77 ที่ว่า76 เขาบอกว่ากรุงเทพไม่นับเป็นจังหวัดแต่เป็นเขตปกครองพิเศษตาม พ.ร.บ. กรุงเทพนะครับ ขอความอนุเคราะอาจารย์ช่วยไขข้อข้องใจให้หน่อยนะครับ ขอบคุณครับ ถ้าจะให้ดีช่วยแนะนำว่าให้ดูกฏหมายตัวไหนดีที่ชัดเจนครับ

    คำตอบ

    นายมีชัย ฤชุพันธ์ ตอบว่า เวลาตอบก็ตอบให้หมดเปลือก ว่า มี 76 จังหวัดกับหนึ่งกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นพิเศษ
     
  18. dutchanee

    dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,127
    ค่าพลัง:
    +12,745
    สู้สู้ นะคนไทย รู้ว่ายากแต่ก็ยังดีกว่าอ่อนล้าในใจ
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    ถ้าพระศรีอาริย์ไม่มีตัวตน เหตุใดจึงมี "บุรุษผู้ทำได้" ในยุคศิวิไลซ์ ?

    [​IMG]

    อ้างอิงข้อความของคุณ หนุมาน ผู้นำสาร

    พระศรีอารย์ "ไม่มีตัวตน" จนกว่าพุทธศาสนาที่มีพระโคดมเป็นพระพุทธเจ้าจะครบ ๕,๐๐๐ ปี...อย่าหลงเชื่อผู้ไม่หวังดี....ที่นำความเชื่อและศรัทธาของชาวพุทธมาหลอกลวง และแทรกคำสอนที่ผิดและก่อให้เกิดความแตกแยก และความรุนแรงในประเทศได้​

    อ้างอิงข้อความของคุณ หนุมาน ผู้นำสาร

    โองการของพระผู้เป็นเจ้าครั้งล่าสุด ซึ่งหมายถึง โองการของโลกุตตระ คือ พรโปรดมนุษย์ ที่ประกาศไว้ เมื่อ วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐ มีเนื้อความว่าดังนี้

    “ ถึง ผู้มีอำนาจทั้งหลายทั่วโลก เราขอประกาศไว้ว่า…….สถานที่นี้ เอาหลักธรรมของ โลกุตตระ มานำสัตว์ให้หลุดพ้น เพราะฉะนั้นผู้มีอำนาจทั้งหลาย ขอให้ตั้งอยู่ในความสงบ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ถ้าฝ่าฝืน ประเทศใด ประเทศหนึ่งฝ่าฝืนโองการของ โลกุตตระ…….ฟ้าจะต่ำลงมา ”

    ภัยพิบัติที่จะเกิดขึ้น หมายถึง ฟ้าจะต่ำลงมา…ยักษ์ที่ถูกสาปจะตื่นลุกขึ้นอาละวาด คือ เปลือกโลกทั้งหมดจะเคลื่อนตัวครั้งยิ่งใหญ่ โลกจะเสียสมดุลหมุนกวัดแกว่ง….มนุษย์บนโลกจะเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวเดือนไม่เคลื่อนที่ตามปกติ ไม่เป็นเส้นตรง … มนุษย์ในอวกาศ จะมองเห็นโลกหมุนพลิกกลับไปมา หักมุม… สงครามที่ฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บังอาจใช้ท้องฟ้าเป็นสนามรบ จะไม่มีฝ่ายใครเสียใครสูญ หาผู้ชนะไม่ได้…. แต่จะทำให้ โลกมนุษย์ “ระส่ำระสาย”… ประเทศที่โหดร้ายจะราบพณาสูญ หลายประเทศที่เป็นเกาะอยู่ติดหน้าผาที่ขอบเปลือกโลก จะจมหายในทะเล คลื่นยักษ์สูงเท่าฟ้าจะถาโถมใส่แผ่นดินและเกาะต่างๆ….

    เมืองและผู้คนที่ไม่เชื่อใน “สัจจะ” จะถูกกวาดหายไปสิ้น…แผ่นดินจะแยกออก พ่นไฟสีเขียวจากใต้พิภพมาเผ่าผลาญและสูบสิ่งที่ไร้สาระและมนุษย์ที่ไม่ถูกจัดสรรให้เข้ายุคศิวิไลซ์ จะหายจมลงใต้พื้นดิน…สายฟ้าที่ใหญ่กว่ามนุษย์เคยพบเห็นหลายร้อยหลาย พันเท่า จะฟาดลงกลางเมืองถิ่นของมนุษย์ที่จิตใจสกปรกหยาบช้า …. แผ่นดินจะระเบิดออก เพราะแรงจากพายุสายฟ้า … พายุที่ยิ่งใหญ่จะก่อตัวติดๆ กัน ลูกแล้วลูกเล่า พัดทำลายความชั่วร้ายทุกอย่างจนหมดสิ้น…รวมทั้งความชั่วร้ายโหดร้ายในใจมนุษย์ชนิดขุดรากถอนโคน

    เรือของโนอาห์ เคยช่วยให้มนุษย์และสัตว์รอดจากภัยน้ำท่วมโลกในอดีต แต่ยุคปัจจุบัน สิ่งที่จะช่วยให้รอดพ้นจากสรรพภัยทั้งปวง คือ “สัจจะ” สัญญาใจของตนเอง คือ การตั้งใจจริง ที่จะทำความดีอยู่เป็นประจำทุกวัน วันละอย่าง วันละข้อ โดยกำหนดความชัดเจนที่จะทำให้กับตนเองด้วย “กำหนดเวลา” ที่จะสิ้นสุด … จึงขอให้เชื่อว่า “สัจจะ มีผลตอบแทน” … ผู้มีสัจจะ ผู้ทีเชื่อในสัจจะ คือ ผู้ที่ได้รับการคัดสรรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จากโลกกุตตระ หรือพระผู้เป็นเจ้า จะได้รับการยกเว้นจากดินฟ้าอากาศ ให้อยู่รอดอย่างปฏิหาริย์…. เพื่อจะได้พบกับ “หลักสัจจะธรรม” และ “บุรุษผู้ที่ทำได้” ในยุคศิวิไลซ์ต่อไป

    หนุมาน ผู้นำสาร หมายถึง นามแฝง ของผู้นำสารจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดในจักรวาล คือ ศาสนทูตของพระผู้เป็นเจ้าในยุคปัจจุบัน ก่อนที่มนุษย์โลกกำลังจะเผชิญกับสรรพภัยทั้งปวงกึ่งพุทธกาล หรือ วันสิ้นยุค หรือ วันพิพากษา หรือ วันโลกาวินาศตามคัมภีร์ของแต่ละศาสนา

    สิ่งที่ใช้ยืนยันความจริงในสารที่ หนุมาน ผู้นำสาร ได้นำมาจากพระผู้เป็นเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดแห่งจักรวาล คือ พระพุทธรูปเก่าแก่หนึ่งเดียวของศาสนาศาสตร์ ที่ถูกปิดบังความจริงด้วยแท่งหินสีดำใหญ่ ที่ครอบไว้ ณ ใจกลางนครเมกกะ ซึ่งชาวมุสลิมทุกท่านมีความศรัทธากราบไหว้มายาวนาน กาลเวลานี้ คือเวลาเหมาะสมที่ความลับในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของโลกแห่งนี้จะถูกเปิดเผยต่อมวลมนุษย์ เพื่อความสันติสุขจะกลับคืนมาสู่โลกมนุษย์อีกครั้ง ก่อนที่มนุษย์ผู้หนึ่งจะทำลายโอกาสของดวงวิญญาณที่จะมาเกิด…ด้วยการฝ่าฝืนโองการของสิ่งศักดิ์สิทธิ์…. “ อย่าได้เอาท้องฟ้านี้ เป็นสนามรบ ” !!!!!!!

    ในวันแห่งการพิพากษา The Day of Judgment วันที่พระเจ้ากลับมา วันแห่งการสิ้นยุค วันที่พระธรรมจะกลับมา “ให้ทุกคนระวังตัวให้ดี …วันเวลาที่ใกล้เสด็จกลับมา จะได้ยินเสียงสงคราม ข่าวลือสงคราม … จะต่อสู้สงครามกัน เกิดความกันดาร อดอยากทุกข์ยาก เกิดแผ่นดินไหวไปทั่ว … เมื่อเห็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัว น่าเกียจน่าชัง คือ คนไร้สัจจะ ที่ไม่เชื่อในโองการจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะก่อให้เกิดสงครามนิวเคลียร์ ขอให้หนีไปดินแดนที่สูง เมืองใหญ่ที่มั่งคั่ง มีแต่การแย่งชิงผลประโยชน์เบียดเบียนกันจะอันตราย อย่ามัวชักช้า รีบหนีไปบ้านนอกคอกนา ไปถิ่นคนมั่นคงในศาสนา ภัยจะมาเร็ว โลกจะระส่ำระสาย … การเสด็จมาของบุรุษผู้ทำได้ จะปรากฏ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ !!!!!!!

    ผู้ที่รู้แล้วไม่บอกต่อๆ กัน นับเป็นกรรมยิ่งนัก … กรรมกำลังปรากฏชัดขึ้นเรื่อยๆ

    โดย “ หนุมาน ผู้นำสาร ”
    วันเสาร์ที่ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๐

    ที่มา http://maneetip.diaryis.com/2010/04/22

    หมายเหตุ

    ถ้าคำว่าพระศรีอาริย์ไม่มีตัวตน ในความหมายของคุณหนุมาน ผู้นำสาร คือจะไม่มีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ในขณะที่อายุพระพุทธศาสนาของพระสมณโคดมพุทธเจ้า ยังไม่ครบ 5,000 ปีนี้ผมก็เห็นด้วย และต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่ถ้าหมายถึงจะไม่มีพระเจ้าจักรพรรดิ์" หรือที่คุณหนุมาน ผู้นำสาร เรียกว่าบุรุษผู้ที่ทำได้ ในช่วงกึ่งกลางแห่งพระพุทธศาสนานี้ ผมไม่เห็นด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สสจ.กาญจน์แนะวิธีป้องกันควบคุมโรคช่วงน้ำท่วม</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD height=40><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>11 สิงหาคม 2554 11:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    สสจ.กาญจนบุรีแนะวิธีป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะอุทกภัย ซึ่งอาจนำมาสู่การเกิดโรคติดต่อระบาดและภัยสุขภาพต่างๆ ได้

    เมื่อเวลา 10.30 น.วันนี้ (11 ส.ค.) นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในปีนี้คาดว่าฤดูฝนจะยาวนาน อาจมีฝนตกชุกทำให้บางพื้นที่เกิดอุทกภัยหรือภาวะน้ำท่วม นำมาสู่การเกิดโรคติดต่อระบาดและภัยสุขภาพต่างๆ ได้ ซึ่งแบ่งได้เป็น 3 ระยะ คือ

    1.ระยะน้ำไหลบ่า น้ำท่วมระยะแรก อาจเกิดปัญหาการจมน้ำ ปัญหาการถูกไฟดูด ไฟช็อต สัตว์มีพิษกัด บาดแผลติดเชื้อ

    2.ระยะน้ำท่วมขัง อาจเกิดปัญหาโรคตาแดง น้ำกัดเท้า โรคอุจจาระร่วง โรคทางเดินหายใจ (ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม)

    3.ระยะน้ำเริ่มลดและน้ำลดแล้ว อาจเกิดปัญหาโรคเลปโตสไปโรซีส หรือโรคไข้ฉี่หนู และปัญหาโรคติดต่อที่นำโดยแมลง เช่น ไข้เลือดออก มาลาเรีย ไข้สมองอักเสบ

    โดย นพ.ไพศาลกล่าวแนะนำวิธีปฏิบัติเพื่อป้องกันควบคุมโรคและภัยสุขภาพ ดังนี้

    1.เตรียมของรับมือน้ำท่วม เช่น ไฟฉาย เทียนไข ยาสามัญประจำบ้าน อาหารกระป๋อง-อาหารสำเร็จรูป น้ำดื่ม ผงน้ำตาลเกลือแร่ ติดไว้เผื่อมีอาการท้องร่วง ถุงพลาสติก เอาไว้ใส่ขยะและเอาไว้ถ่ายหนัก-เบา ในกรณีน้ำท่วมขัง หากถ่ายลงในน้ำจะทำให้เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้ ปูนขาว ใช้ใส่ในถุงพลาสติกที่ถ่ายหนัก-เบา เพื่อฆ่าเชื้อโรค ถุงขยะสีดำใบใหญ่ สารเคมีกำจัดแมลงนำโรค เป็นต้น

    2.วางแผนในการอพยพคนและสัตว์เลี้ยงหากเกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้

    3.ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อป้องกันไฟฟ้าดูด และเพื่อความปลอดภัย

    การปฏิบัติตัวในระหว่างน้ำท่วม

    1.ในการกินอาหารและน้ำทุกครั้ง ต้องมั่นใจว่าอาหารและน้ำนั้นสะอาด และหากเป็นไปได้ ควรอุ่นอาหารทุกครั้งก่อนกินอาหาร

    2.งดกินอาหารดิบ ต้องปรุงให้สุกก่อน เพราะในกรณีน้ำท่วม มีโอกาสที่จะได้รับเชื้อโรคสูงมาก

    3.ล้างมือให้บ่อยเท่าที่จะทำได้

    4.ถ้าหากเป็นอาหารกระป๋อง หรืออาหารสำเร็จรูป ต้องตรวจสอบวันหมดอายุ และกระป๋องที่บรรจุอาหาร กระป๋องต้องอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่บุบ ไม่บวม และไม่เป็นสนิม และถ้าสามารถทำให้ร้อนได้ ควรทำให้ร้อนก่อนทุกครั้งก่อนกิน

    5.ถ่ายหนักและถ่ายเบาลงส้วม ห้ามถ่ายลงน้ำโดยตรง เพื่อไม่ให้เป็นการกระจายตัวของเชื้อโรค กรณีที่ไม่มีห้องน้ำ ต้องถ่ายลงในถุงพลาสติก และถ้าเป็นอุจจาระต้องใส่ปูนขาวลงไปพอประมาณ เพื่อฆ่าเชื้อ หลังจากนั้นผูกถุงให้สนิท แล้วทิ้งในถุงดำอีกที

    6.หากเกิดภาวะท้องเสีย ให้ดื่มเกลือแร่ที่ผสมน้ำต้มสุกหรือน้ำสะอาด และถ้าสามารถไปโรงพยาบาลหรือหน่วยรักษาพยาบาลได้ให้รีบไปทันที ที่สำคัญห้ามผู้ป่วยถ่ายลงน้ำเด็ดขาด

    7.หลีกเลี่ยงการแช่น้ำนานๆ โดยเฉพาะผู้มีแผลในที่ที่สัมผัสน้ำได้ หากจำเป็นควรสวมถุงพลาสติกหรือใส่รองเท้าบูท ป้องกันแผลติดเชื้อ

    8.ระมัดระวังสัตว์เลื้อยคลาน เช่น งู, ตะขาบ, แมงป่อง, สัตว์มีพิษ ควรจัดที่พักให้โล่งแจ้ง เพื่อให้ง่ายในการระมัดระวัง

    การดูแลสุขภาพหลังน้ำลด

    1. ถึงน้ำจะลดลงแต่โรคและภัยสุขภาพก็ยังคงอยู่ เช่น ไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ปอดบวม โรคฉี่หนู โรคตาแดง ท้องร่วง อาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะสภาวะน้ำกัดเท้า อาการคัน และโรคผิวหนัง เมื่อน้ำลดพื้นก็ยังแฉะ มีน้ำขัง มีน้ำเน่าจากขยะปฏิกูล และมีเชื้อโรคบางชนิด เมื่อต้องเดินลุยน้ำจึงต้องใส่รองเท้าบูท ควรล้างเท้าให้สะอาดแล้วเช็ดให้แห้งหลังลุยน้ำ เพื่อป้องกันโรคผิวหนังที่ง่ามนิ้วมือนิ้วเท้า ส่วนเสื้อผ้า ผ้าห่มและที่นอน ควรทำความสะอาด ตากแดดให้แห้ง และไม่ควรใส่ช้ำๆ นอกจากนี้ต้องระวังสัตว์มีพิษ และแมลงสัตว์กัดต่อย

    2.สภาวะเครียดจากความสูญเสีย ทั้งทรัพย์สิน สิ่งของ รายได้ อาชีพ รวมถึงการสูญเสียจากการบาดเจ็บและเสียชีวิตของบุคคลในครอบครัว ควรรับคำปรึกษาเยียวยาทางจิตใจจากหน่วยบริการด้านสุขภาพจิต

    3. การกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลขณะใช้ชีวิตช่วงน้ำท่วม หากเทศบาลหรือหน่วยงานราชการนำรถ/ เรือกำจัดขยะมารับก็ควรรวบรวมนำไปกำจัด แต่หากพื้นที่ใดไม่มี ควรรวบรวมแล้วขุดหลุมบริเวณที่น้ำแห้งแล้วฝังกลบให้เรียบร้อย ป้องกันแมลงวัน สุนัข และหนู มาคุ้ยเขี่ย

    ที่มา http://www.manager.co.th/local/viewNews.aspx?NewsID=9540000100146
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...