เรื่องเด่น ประสบการณ์ค่ำคืนก่อนการน้อมถวายพระแก้ว

พระแก้วของ เกโอ
ก้อนแก้วสีฟ้าของคุณสมศักดิ์ เจ้าของโรงงานแก้วแห่งหนึ่งให้ผมมาประกอบฉากครับ
ทุกองค์ของ เกโอ ผมได้น้อมถวายไว้ในพระพุทธศาสนาแล้ว ไม่เก็บไว้เลย

 

พระแก้วของ เกโอ ผมใช้เทคนิคพิเศษ ด้วยการยิงแสงไฟที่แรงมากจากใต้ฐานพระแก้วองค์นั้น ทำให้องค์พระเป็นสีแดงเข้ม

 

พระพุทธชินราชในก้อนไอซ์เบิร์กด้วยเทคนิคในโฟโตช้อปส์

ก้อนแก้วไอซ์เบิร์กของ Swarovski พระพุทธชินราชด้วยโฟโตช้อปส์แต่งภาพจากองค์จริงพิษณุโลก

 

พระแก้วกลวงเป่าด้วยปอด ชนิดแก้วโซดาไลม์ซิลิก้า เป่าด้วยปอด ช่างตัดฐานผิด ไปตัด " ทับเสร็จ " ที่ยื่นเพื่อเข้าไปเสียบในฐานโลหะออก ซึ่งที่จริงต้องเหลือยื่นเข้าไปในฐานโลหะ จึงได้ภาพองค์นี้ขึ้นมา

 

แสดงให้เห็น " ทับเสร็จ " คือแก้วส่วนที่ต้องมีติดกับองค์พระ เพื่อใช้เสียบเข้าไปในฐานโลหะไม่ให้องค์พระขยับเขยื้อนได้

 

ในองค์พระแก้วปางเดียวกัน แต่ต่างวิธีการสร้าง คือสร้างด้วยวิธี Lost Wax Glass ไม่ใช่เป่าแก้วด้วยปอด ผมเติมพระธรรมจักรในฝ่าพระหัตถ์ให้ด้วย เพื่อให้พระพุทธลักษณะเต็ม ในขณะที่แม่พิมพ์เหล็กทำได้ไม่สวยเท่าเพราะมุมการสร้างชิ้นงานต่างกัน

 

ความจริงในแม่พิมพ์เหล็กก็มีอุณาโลมได้ แต่ผมเลือกเติมอุณาโลมเฉพาะในชนิดการสร้างวิธี Lost Wax Glass และชนิดแก้วคริสตัลตันเท่านั้น

 

ภาพนี้ผมตัดต่อเพื่อให้ทราบว่า ผมยกย่องพระแก้วของลาลีคเป็นอันดับ ๑ ของโลกทางเทคนิควิธีการสร้างและฝีมือช่าง อันดับ ๒ ได้แก่ของบัคคาฮ่า ฝรั่งเศสเช่นกัน และอันดับ ๓ คือที่ผมสร้าง แต่ผมยังคิดว่า ปางที่ผมสร้างนั้น สวยกว่าทางด้านการออกแบบและขนาดที่ใหญ่กว่าเขาครึ่งนิ้วเศษ ( หน้าตัก )

 

องค์นี้สร้างด้วยแก้วโซดาไลม์ซิลิก้า ค่าอัลฟ่าต่อกว่าร้อย ด้วยวิธีเทหยอดแก้วตัน ๆ ลงแม่พิมพ์เหล็ก

 

แก้วโซดาไลม์ซิลิก้ากลวงเป่าด้วยปอด ทาสีเพ้นส์ ( ไม่ใช่สีในเนื้อแก้ว )

 

แก้วโซดาไลม์ซิลิก้ากลวงเป่าด้วยปอด เทสีน้ำสีทองของเยอรมันเข้าไปภายใน แล้วเทออก

ไม่ใช่แก้วทองคำของมาโคลินซึ่งเป็นแก้วในตำนานนะครับ เดี๋ยวตกใจว่าคนไทยทำแก้วทองคำมาโคลินได้ ไม่ใช่นะครับ