ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91-ยันต์คนมนต์พระกาฬ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ransang, 6 มิถุนายน 2011.

  1. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,308
    ค่าพลัง:
    +13,237
    ผมก็ไปถวายสังฆทานที่ซอยสายลม วันอาทิตย์เหมือนกันครับ เสียดายไม่ได้เจอกัน
     
  2. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ***วันอาสาฬหบูชา และ วันเข้าพรรษาปี 2558***

    ในคืนวันสำคัญของชาวพุทธศาสนิกชน...จึงขอเชิญพี่น้องชาวเวียงนาคราช ทานบารมี “สวดพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์” เชื่อมกระแสการสาธยายมนต์พลังงานพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ทั้งหลายที่สถิตย์ทั่วอนันต์จักรวาล ตั้งแต่องค์ต้นปฐมพระคาถาอันมี สมเด็จพระปัจเจกพุทธเจ้าองค์ปฐมต้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ครูผึ้ง หลวงปู่.ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เทพพรหมเทวดา ที่สวดพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    เพื่อเกื้อหนุนเหนี่ยวนำลูกหลานทั้งหลายที่ได้ท่องภาวนา"พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์" พร้อม "เมตตาหนอ" จงเป็นผู้ที่ไม่ขาด ไม่จน คำว่าไม่มีจงอย่าเกิดขึ้น. มีความคล่องตัวในการทำมาหากิน. หน้าที่การงานเจริญ. สุขภาพร่างกายแข็งแรง จิตใจเบิกบาน. รู้เห็นตามความเป็นจริง...เทอญ "วิระทะโย.สวาโหม. พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม. หนอออออออออออ

    ในคืนวันพฤหัสบดี ที่ 30 กรกฎาคม 2558 และ คืนวันศุกร์ ที่ 31 กรกฎาคม 255

    -เวลา 21.09 น. ตั้งนะโม 3 จบ อาราธนาศีล 5 บทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ
    ท่องพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ 108 จบ / พระคาถาเงินล้าน 9 จบ (กรณีพิเศษ)

    พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ “พุทธะ มะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม” (ต้องขึ้นด้วย พุทธะ)

    การแผ่เมตตาหนอ คือ เปล่งเสียงว่า “พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนออออออออ”(หนอลากเสียงยาว) พร้อมกำหนดจิตตามกระแสเสียง “หนอ”ไปจนสุด จำนวน 5 ครั้ง (เสร็จพิธี)

    หมายเหตุ...ท่านใดไม่สะดวกอยู่นอกบ้าน...เมื่อถึงเวลากำหนดท่องพระคาถาได้เลยครับ..ไม่ผิดอะไรแถมยังดีเสียอีก..
    ………………………………………………………………………………

    ท่านใดจะถวายพานพ่อแม่ครูบาอาจารย์ครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์.. เตรียม

    1.มะพร้าว 1 ลูก , 2.กล้วยน้ำว้า (เขียวหรือสุก) 1 หวี , 3.พวงมาลัย 1 พวง , 4.หมากพลู 5 คำ , 5.ธูป 6 ดอก 6.เทียน 6 เล่ม ,7.เงิน 6 บาท

    นำใส่บนพานจัดให้ดูสวยงาม เมื่อถึงเวลายพกพานถวายพ่อแม่ครูบาอาจารย์ อันมีครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์....

    ถวายตัวเป็นลูกหลานขอให้ท่านเมตตาสงเคราะห์... “เรื่องความคล่องตัวในการทำมาหากิน มีความคล่องตัวทุกด้าน ตำแหน่งหน้าที่กิจการงานมีความเจริญมั่นคง คำว่าไม่มีจงอย่าได้เกิดขึ้น สุขภาพร่างกายแข็งแรงตามวัย จิตใจมั่นคงในความดี ในทานทั้งหลาย ในองค์พระคาถาเกิดศีลอริยะมรรคยิ่งๆขึ้นไป”
     
  3. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    จากท่านอาจารย์ครับ

    คืนวันนี้ถือว่า...สุดๆๆๆร่างกาย
    เสมือนเป็นไข้เมื่อใกล้ถึงเวลา
    เข้า...จึงต้องเดินกรรมฐาน 30 นาทีเพื่อสลายสภาวะเมื่อยล้าที่จะดึงจิตให้อารมณ์คล้อยต่ำ...
    เพียงประคองตัวและจิตได้
    ระดับหนึ่ง

    รู้ว่าคืนนี้...โดนขวางอย่างสุดๆ จะทำให้เกิดอารมณ์เสียด้วย
    เหตุต่างๆ...แต่ไม่มีผลเท่าไร
    เพราะตั้งสติให้รู้ทัน....นับแต่นั้นร่างกายเริ่มเมื่อยล้าอย่างบอก
    ไม่ถูก...เสมือนแบกของหนัก
    มาก...

    ดัง...มารไม่มีบารมีไม่เกิด...การปฎิบัติการสวดมนต์ครั้งถือว่า
    เป็นการรวมกระแสครั้งใหญ่ครั้งแรกในวันสำคัญทางพระศาสนา
    ด้วย...

    *จงรู้ไว้ว่า"มีอานิงสงส์สูง
    มาก. จะมีมากอย่างไรย่อมให้
    แสดงผลรู้ด้วยตนเอง...แต่ขอ
    รับรองดังที่บอกกล่าว"

    ระหว่างที่เริ่มตั้งนะโม. จิตเห็น
    พระพุทธเจ้ากายพระมหาจักร
    พรรดิ์มือขวาวางบนเข่าขวา
    (ปางชนะมาร)องค์ใหญ่. ชัดเจน.ถือว่าเป็นนิมิตหมาย
    อันเป็นมงคลสูงสุด...

    ระหว่สงที่สวดพระคาถานั้น...ตาปรือๆๆให้หลับตาคล้ายคนตาบวมลืมตาไปขึ้น...สวดไปๆจะจิตจะดิ่งลงเข้าฌานทันที...ต้องดึงสติกลับมาระลึกอยู่ที่ปากและเสียง...จนเมื่อสวดครบ...สถานการณ์จึงดีขึ้น...เมื่อกำหนดแผ่เมตตาหนอ....พลังงานที่แผ่ออกไปได้เร็วเบาไปทั่วกลมกลืนกับพลัง
    จักรวาล......สาธุ ขออนุโมทนา
    กับทุกท่านนะครับ

    ท่องได้มากน้อย..ก้อถือว่าได้ร่วมสร้างกระแสพระคาถาพระปัจ
    เจกโพธิ์ร่วมกัน

    หมายเหตุ...ยังมีคืนพรุ่งนี้วันเข้าพรรษาอีก
    นะครับ
     
  4. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ผลจากท่านอาจารย์สำหรับวันนี้ครับ

    คืนนี้วันเข้าพรรษา...รู้สึกไม่สบายตัวและทีเหตุการณ์รบกวนจิตใจเล็กน้อย...แต่ต้องหากลยุทธ์หลีกเลี่ยงเบี่ยงเบนไปก่อน

    เมื่อถึงเวลาสวดมนต์...จนกระทั่วเริ่มท่องพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์...เริ่มมัอาการหาว..อยู่เป็นระยะ. น้ำมูกน้ำตาไหลออกมาเช่นกันสบับกันไปมา...จึงไม่สนใจสวดมนต์ไป. แต่มีความรู้สึกว่า"กระแสพลังงานวันนี้คล่องไหลเบากลมกลืนมากกว่าเมื่อคืนวันอาสาฬบูชา"

    จนกระทั่งครบ 108 และพระคาถาเงินล้าน 9 จบ. ต่อมาท่องพระคาถาเมตตาใหญ่1จบพร้อมพนมมือโดยมีองค์พระกริ่งสมเด็จองค์ปฐมต้นเมตตาหนอ...อยู่ในฝ่ามือที่พนมไหว้...กระแสพลังงานนิ่งสงบเมตตาเย็น....

    เมื่อถึงช่วงแผ่เมตตาหนอ...รู้สึกว่าแผ่เมตตาหนอถึง 5 รอบ3รอบแรกเบาสบาย"ไม่ต้านไม่ขัดไม่ติดขัดไม่สะดุด...ไหลไปแบบเบาสบาย"

    แต่รอบที่4 เห็นพลังงานก่อตัวท่ามกล่างความเวิ้งว้างของจักรวาล...เป็นองค์พระพรหมแต่เป็นสี่องค์ที่หันหลังชนกัน...แต่เป็นเนื้อเดียวกัน. หมุนรอบๆมีพลังงานกระจายออกเป็นสาย...คล้ายกับลมพายุหมุน

    รอบที่5 เห็นเป็นตรีศูตรตั้งตรงมีจักรหมุนรอบตัวเอง...โดยด้ามของตรีศูรสอดอยู่ตรงกลางตรีศูตรเป็นลักษณะแกนกลาง...พลังกระจายออกเป็นลักษณะกลีบดอกบัว

    ซึ่งเป็นนิมิตที่ไม่ได้กำหนดเองประการใด....ขอความเป็นจริงที่เห็นมีผลเพียงใด...จงดลบันดาลให้แก่ลูกหลานครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์ทั้งหลาย..ได้รับโดยพลันทุกประการทันทีทันใด. ถือเป็นขวัญกำลังให้มีความเพียรปฏิบัติยิ่งๆขึ้นๆ. สาธุ. วิระทะโยะ. สวาโหม. พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม. หนอออออออออ
     
  5. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ในเดือนกันยายนจะมีการหล่อองค์หลวงปู่พระมหากัสสปะมหาเถระ ผมได้จัดเตรียมล็อกเก็ตหลวงปู่เทพโลกอุดรไว้เพื่อรวบรวมเงินเป็นค่าใช้จ่ายช่วยท่านอาจารย์ในการหล่อพระครั้งนี้

    อาจจะแปลกแตกต่างจากคนอื่นบนพื้นฐานเดิม ก็ต้องขออภัยลองติดตามชมดูนะครับ ปาฏิหาริย์แห่งหลวงปู่เทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์ ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงปู่พระมหากัสสปะมหาเถระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ผมในนามพี่ น้อง เพื่อน หรือ อาจาน......
    ขอให้ผู้ที่สนใจในแนวปฎิบัติตามแนวทางของ........
    "เวียงนาคราช ทานบารมี".

    ให้กำหนดเวลาเป็นกิจลักษณะ เป็นส่วนตัว
    1.ปฎิบัติกรรมฐานวิปัสสนาญาณ. ใช้คำภาวนาว่า "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม" นั่งหรือเดิน.

    2.ท่องพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ 108 จบและคาถาเงินล้าน 9 จบ เป็นหลัก(ต่อด้วยพระคาถาอื่นๆตามต้องการ)

    3.แผ่เมตตาด้วย "เมตตาหนอ" ด้วยคำว่า. "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม. หนออออออออ(ลากยาว)"
    .........................................
    ในกรณี...ใช้ชีวิตประจำวันทั้งวันทุกวันสามารถจะปฏิบัติได้..ตามทุกสถานที่เวลา. ขึ้นอยู่กับความ
    เหมาะสมของเราเอง

    .ท่องหรือภาวนา. "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม" หรือ "พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ " หรือ "พระคาถาเงินล้าน" หรือ "พระคาถาอื่นๆ"สลับกันไปทั้ง วันก้อได้...

    พยายามอย่าให้ ...ตัวเราตกลง ในห้วงความคิด ฟุ้งซ่าน. กังวล. เสียใจ. ทุกข์ไม่ว่าเรื่องใด
    ..นี้แหละจะทำให้เราเริ่มขาดสติ..ปรุงแต่ง ไปตามอารมณ์.
    ทำอะไรก้อผิดพลาดเสียหาย...มีการกระทบกระทั่งไม่รู้จักจบ...เป็นเวรกรรมผูกพันกันมาอีกไม่จบ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    งานครูผึ้งที่ได้ดำเนินการไปแล้ว

    - พิมพิ์โปสเตอร์ 6000 แผ่น เข้าพิธีงานหล่อองค์ 15 นิ้ว 9/7/58 แจกในงานหล่อไปจำนวนหนึ่ง
    - แจกภาพขนาดแขวนคอติดเหรียญขวัญถุงติดพระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า 16 ชุด
    - แจกภาพกับผู้ร่วมบุญบูชาล็อกเก็ตเพื่อหล่อหลวงปู่โตถวายวัด
    - กำลังแจก ภาพ 100 ชุด ๆ ละ 3 ภาพ ทางไปรษณีย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    จากท่านอาจารย์

    ผมในนามพี่ น้อง เพื่อน หรือ อาจาน......
    ขอให้ผู้ที่สนใจในแนวปฎิบัติตามแนวทางของ........
    "เวียงนาคราช ทานบารมี".

    ให้กำหนดเวลาเป็นกิจลักษณะ เป็นส่วนตัว
    1.ปฎิบัติกรรมฐานวิปัสสนาญาณ. ใช้คำภาวนาว่า "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม" นั่งหรือเดิน.

    2.ท่องพระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ 108 จบและคาถาเงินล้าน 9 จบ เป็นหลัก(ต่อด้วยพระคาถาอื่นๆตามต้องการ)

    3.แผ่เมตตาด้วย "เมตตาหนอ" ด้วยคำว่า. "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม. หนออออออออ(ลากยาว)"
    .........................................
    ในกรณี...ใช้ชีวิตประจำวันทั้งวันทุกวันสามารถจะปฏิบัติได้..ตามทุกสถานที่เวลา. ขึ้นอยู่กับความ
    เหมาะสมของเราเอง

    .ท่องหรือภาวนา. "พระพุทธะ. เมตตา. อโหสิ. กรรม" หรือ "พระคาถาพระปัจเจกโพธิ์ " หรือ "พระคาถาเงินล้าน" หรือ "พระคาถาอื่นๆ"สลับกันไปทั้ง วันก้อได้...

    พยายามอย่าให้ ...ตัวเราตกลง ในห้วงความคิด ฟุ้งซ่าน. กังวล. เสียใจ. ทุกข์ไม่ว่าเรื่องใด
    ..นี้แหละจะทำให้เราเริ่มขาดสติ..ปรุงแต่ง ไปตามอารมณ์.
    ทำอะไรก้อผิดพลาดเสียหาย...มีการกระทบกระทั่งไม่รู้จักจบ...เป็นเวรกรรมผูกพันกันมาอีกไม่จบ...
     
  9. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ประสบการณ์ที่ท่านอาจารย์ นำมาบอกเล่า จากศิษย์ที่อยู่ทางใต้ เพิ่งจะขึ้นมาพบท่านอาจารย์เมื่อ 9/7/58 ที่ผ่านมา

    อ.คะจะเล่าเรื่องน่าประหลาดใจให้ฟังคะ

    คือตอนนี้ร้านหนูสวนกระแสมากคะ ร้านอื่นที่ขายสินค้าตัวเดียวกันกับหนูคือสี แล้วก็กระเบิ้องปูพื้น หรือร้านขายวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ตอนนี้ค่อนข้างแย่มาก บางร้านถึงกับขายไม่ได้เลย
    แต่ร้านหนูทั้งสองร้านสวนกระแสมากจนน่าตกใจ ยอดไม่ตกลงเลย แถมยังมียอดขายดีขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ยิ่งร้านสาขาที่ 2 นี่ จากเมื่อก่อนขายเรื่อยๆ. ยอดขายไม่ได้ดีมาก แต่ช่วนี้กลับขายดีจนน่าตกใจคะ

    บางครั้งหนูก็อดคิดไม่ได้นะคะ ว่าเป็นเพราะคาถาพระปัจเจกโพธิ์ แต่ก็นะหนูเพิ่งท่องจริงๆจังๆได้ไม่นานเอง แต่ที่แน่ๆภาวนา พระพุทธะ เมตตา อโหสิกรรม ทุกวัน
    แล้วบางครั้งหนูก็ภาวนา เมตตาใหญ่นี้ เพื่อเดินจงกลมในร้านด้วย สามีหนูก็ภาวนา ลูกๆหนูก็ภาวนา ทุกวัน
    หนูคิดว่า หลักๆแล้วมาจากการที่หนูตั้งใจถือศีล ทำทาน และภาวนา เมตตาใหญ่เนี่ยละคะ และเมื่อท่องคาถาปัจเจกโพธิ และพระคาถาอื่นๆร่วมด้วย. จึงดียิ่งๆขึ้นอีก
    ขอบคุณนะคะที่บอกสิ่งๆดีให้ให้หนูปฎิบัติ (หนูโฮป..แสบน้อย 4 สค.58)
     
  10. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม

    เป็นกรรมฐานโบราณในยุคขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า อโนมทัสสี ซึ่งมีเหตุให้หลวงปู่เทพโลกอุดรได้อาราธนามาให้ท่านอาจารย์นำมาเป็นกรรมฐานบอกกล่าวแก่ลูกหลานชาวเวียงนาคราช

    การภาวนามีผลต่อจิตวิญญาณอย่างสูงทั้งจิตวิญญาณของผู้ภาวนาเองและจิตวิญญาณของสิ่งรอบข้าง(เจ้ากรรมนายเวร เทพ พรหม เทวดา คน สัตว์ ทั้งหลาย)

    ส่งผลต่อการอโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ปลดปล่อยพันธนาการระหว่างกัน ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และผลบุญกุศลที่จะพยายามทำต่อเนื่องจนส่งผล

    ตัวผมเองได้รับผลจากกรรมฐานเมตตาใหญ่และหนออย่างมากมาย จนเกินคำบรรยาย ซึ่งกล่าวไปก็อาจจะฟังดูเกินความจริง ถ้าท่านทั้งหลายปราถนาความสุข ซึ่งมาจากกาารบรรเทาของกรรม วิบากกรรม กรรมฐานเมตตาใหญ่จะช่วยท่านได้เร็วและชัดเจน เกื้อหนุนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลทั้งหลายที่ท่านบูชาได้อย่างดี ไม่มีข้อจำกัด

    แต่การปฏิบัติขออย่าให้หวังความเร็ว ความสูขสบาย ขอให้ระลึกถึงกรรมที่ส่งผลต่อเราว่ามันทุกข์ ลำบาก เพราะเราได้สร้างไว้ ทำให้เขาลำบาก เขาทุกข์ เราจึงทุกข์ เราจึงลำบาก เมื่อเรายอมรับความคลายต่าง ๆ ก็จะเกิดได้ง่ายและส่งผลได้ดี

    บอกเล่าคร่าว ๆ นะครับ ขอตามแต่จะพิจารณา
     
  11. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ตัวอย่างงานล็อกเก็ตหลวงปู่ใหญ่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    โครงการสร้างบุญกุศลของเวียงนาคราช ทานบารมี
    เดือน กันยายน 2558 (กำหนดการระบุอีกครั้ง)

    1.วันเสาร์ ที่ 5 กันยายน 2558 พิธีเททองหล่อ “พระนเรศวร(พระองค์ดำ)” หน้าตัก 30 นิ้ว

    อาจารย์พงษ์...เจ้าภาพดำเนินการจัดสร้าง ประดิษฐานที่ตำหนักพระองค์ท่าน

    1.กรณีไม่สามารถมาร่วมพิธีได้....เขียนดวงชะตาลงในแผ่นทอง (ระบุให้ชัดเจน) ส่งมาที่ ตู้ปณ.10 ปณฝ.กระทรวงพาณิชย์ ถ.นนทบุรี 1 ต.บางกระสอ
    อ.เมือง จ.นนทบุรี 11005

    2.ร่วมทำบุญโอนเข้าบัญชี 050-235-6879 นายสมพล พลธนันต์ ธ.กสิกรไทย ส.เชียงกง
    ...........................................................................

    2.วันอาทิตย์ ที่ 27 กันยายน 2558

    2.1 พิธีเททองหล่อ “หลวงปู่พระมหากัสสปะเถระเจ้า” หน้าตัก 30 นิ้ว จำนวน 2 องค์

    คุณจตุพร(พี่หน่อย)...เจ้าภาพดำเนินการจัดสร้าง 1 องค์ ประดิษฐานหน้าพระธาตุพนมจำลอง ลป.ขาว พุทธรักขิตโต จ.สกลนคร
    คุณตี้.......เจ้าภาพดำเนินการจัดสร้าง 1 องค์ ประดิษฐานหน้าพระธาตุเจดีย์ พระเสก จ.อำนาจเจริญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ประสบการณ์ลูกหลานครูผึ้งพระปัจเจกโพธิ์ ที่อยู่ทางใต้....นำมาบอกเล่า

    อ.คะจะเล่าเรื่องน่าประหลาดใจให้ฟังคะ

    คือตอนนี้ร้านหนูสวนกระแสมากคะ ร้านอื่นที่ขายสินค้าตัวเดียวกันกับหนูคือสี แล้วก็กระเบิ้องปูพื้น หรือร้านขายวัสดุก่อสร้างอื่นๆ ตอนนี้ค่อนข้างแย่มาก บางร้านถึงกับขายไม่ได้เลย

    แต่ร้านหนูทั้งสองร้านสวนกระแสมากจนน่าตกใจ ยอดไม่ตกลงเลย แถมยังมียอดขายดีขึ้นกว่าเดิมเรื่อยๆ ยิ่งร้านสาขาที่ 2 นี่ จากเมื่อก่อนขายเรื่อยๆ. ยอดขายไม่ได้ดีมาก แต่ช่วนี้กลับขายดีจนน่าตกใจคะ

    บางครั้งหนูก็อดคิดไม่ได้นะคะ ว่าเป็นเพราะคาถาพระปัจเจกโพธิ์ แต่ก็นะหนูเพิ่งท่องจริงๆจังๆได้ไม่นานเอง แต่ที่แน่ๆภาวนา พระพุทธะ เมตตา อโหสิกรรม ทุกวัน

    แล้วบางครั้งหนูก็ภาวนา เมตตาใหญ่นี้ เพื่อเดินจงกลมในร้านด้วย สามีหนูก็ภาวนา ลูกๆหนูก็ภาวนา ทุกวัน
    หนูคิดว่า หลักๆแล้วมาจากการที่หนูตั้งใจถือศีล ทำทาน และภาวนา เมตตาใหญ่เนี่ยละคะ และเมื่อท่องคาถาปัจเจกโพธิ และพระคาถาอื่นๆร่วมด้วย. จึงดียิ่งๆขึ้นอีก

    ขอบคุณนะคะที่บอกสิ่งๆดีให้ให้หนูปฎิบัติ (หนูโฮป..แสบน้อย 4 สค.58)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2015
  14. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    วันนี้ 9/8/57 ตามเจตนาที่ตั้งใจและได้รับมอบหมาย จากครูผึ้งและท่านอาจารย์ ให้นำรูปภาพโปสเตอร์ที่พิมพิ์ไว้ไปแจกที่ "ซอยสายลม"

    ก่อนไปก็เครียด ๆ และก็วุ่น ๆ เรื่องงานทำให้อารมณ์เสียและสวดมนต์และปฏิบัติได้น้อย หงุดหงิด ๆ ๆ

    เมื่อคืน8/8/58 ก็ถามท่านอาจารย์ทาง Line ว่าจะแจกหมดใหมครับ ............. ท่านอาจารย์แนะนำว่าให้ขอบารมีครูผึ้ง ขอให้ท่านช่วย

    เช้าวันนี้ก็ยังไม่ค่อยหายหงุดหงิด ก่อนออกจากบ้านจึงจุดธูป 9 ดอก ขออาราธนาบารมีครูทั้งหมด ขอให้การไปแจกรูปในครั้งนี้อย่าได้ติดขัดมีอุปสรรค์ใด ๆ

    จากข้าวของทั้งหมด รูปที่ม้วนไว้อย่างสะดวกเพื่อง่ายต่อการนำกลับไปบ้าน 1 ถุงใหญ่ ประมาณ 300 ภาพ และภาพที่ไม่ได้ม้วนอีกประมาณ 100 ภาพ การเดินทางไปจึงนั่งแท็กซี่ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

    เมื่อไปถึงซอยสยลม หน้าซอยบ้านหลวงพ่อ จ่ายเงินค่ารถ ลงรถแล้วรีบถือของตรงไปที่บ้านรับสังฆทาน วางถุงที่ใส่ม้วนภาพแอบ ๆ ไว้ก่อน แล้วไปถวายสังฆทานถังละ 100 บาท 2 ถังซะก่อน พร้อมกับมองหาน้า ๆ ที่เคยเห็นเพื่อจะขอคำแนะนำในการแจกภาพ

    เมื่อถวายสังฆทานเสร็จก็พบน้าท่านหนึ่งที่เคยเห็นประจำแต่ท่านคงไม่รู้จักผม 555
    ผม........คุณน้าครับ ผมได้พิมพิ์ภาพมาแจกฟรี ไม่ทราบจะแจกที่บริเวณไหนได้ครับ
    คุณน้า....ไหน ๆ มีแค่ไหน....มากใหม...ภาพอะไร....(ผมก็เดินนำไปหยิบถุงภาพใหดู)
    ผม........(ผมหยิบภาพที่ไม่ได้ม้วนให้ดูให้ดู)..เป็นภาพครูผึ้งครับ....นี่ครับถุงนี้
    คุณน้า....โอ้เยอะนี่....งันเอาไปถวายหลวงพ่อเลย (ผมรีบหยิบถุงภาพและรีบเดินดิ่งไปเลย..แต่หยุดหยิบภาพที่ไม้ได้ม้วนประมาณ 100 ภาพในกระเป๋าออกมาด้วย)

    หลวงพ่อ.....โอ้นี่อ่ะไรล่ะ
    ผม..........ผมขอนำภาพที่ทำไว้มาถวายครับ ภาพครูผึ้ง ที่มอบคาถาให้หลวงพ่อปาน
    หลวงพ่อ.....ไหน ๆ ล่ะ
    ผม.......นี่ครับผม
    หลวงพ่อ......โอ้แล้วภาพนี้ได้มาได้ไง
    ผม........ท่านอาจารย์ได้รับนิมิตรมาครับ
    หลวงพ่อมองภาพและพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง.....
    หลวงพ่อ....(หลวงพ่อมองภาพ)โอ้นี่ทำมาเหมือนเปี๊ยบเลย...

    ในระหว่างเหตุการณ์มีลูกศิษย์รุ่นใหญ่ ๆ อยู่รอบหลวงพ่อท่านอยู่ และก็ได้หยิบภาพไปดูกันหลายคนทีเดียว

    เล่าเท่าที่เล่าได้นะครับผม แล้วแต่จะพิจารณา ผมไม่มีภาพมาให้ดูนะครับขออภัยจริง ๆ

    เหตุการณ์ ณ วันที่ 9/8/58 ...นิรัน

    **หมายเหตุ..ภาพแรกได้จัดทำเป็นภาพโปรเตอร์พร้อมพระคาถา "พระปัจเจกโพธิ์"
     
  15. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    เพิ่มเติมเพื่องานหลวงปู่โต ภาคต่อไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ประสบการณ์กรรมฐาน เมตตาใหญ่กับการอโหสิกรรมเจ้ากรรมนายเวร

    วันที่ 23/10/58 เป็นวันไถ่ชีวิตสัตว์เล็กที่ท่านอาจารย์เป็นผู้นำบุญ ในการร่วมทำกิจกรรมในวันนี้ถือว่าค่อนข้างราบลื่นกว่าครั้งก่อน ๆ ที่เคยทำมา ตามที่ท่านอาจารย์เปรย ๆ ให้ฟัง

    กิจกรรมดำเนินไปตามกำหนดการและตามรูปแบบของเวียงนาคราชแบบเรียบง่ายและสบายใจ ได้ซื้อทั้งปลาดุกหลายร้อยกิโลกรัม ปลาช่อนจำนวนหนึ่ง ปลาหมอจำนวนหนึ่ง ปลาไหลจำนวนหนึ่ง หอยขมจำนวนหนึ่ง เมื่อปล่อยสัตว์เล็กเหล่านี้แล้วก็ตามท่านอาจารย์เข้าไปอธิฐานในศาลเจ้าแม่ทับทิมอย่างสุขใจทุกคน

    เมื่อกิจกรรมดำเนินไปเสร็จต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ของตนเองต่อไป

    หลังจากกลับจากการทำบุญที่ท่าน้ำผมก็ตรงเข้าบ้าน แล้วออกไปซื้อของใช้สำหรับร้านผัดไทให้แม่ ก็กลับมานอนพักผ่อนที่บ้านตอนบ่าย 2 โมง เนื่องจากว่าช่วงนี้เหมือนนอนหลับไม่ค่อยสนิท และนอนดึกมากเกินเวลา เพราะผมก็มีปัญหาสุขภาพบางอย่างที่ไม่สามารถนอนดึกมาก ๆ ได้
    เอนตัวลงนอนตั้งแต่บ่าย 2 โมง ตื่นขึ้นมาอีกทีก็บ่าย 4 เย็น ซึ่งก่อนนอนก็ตั้งใจไว้ว่าเมื่อตื่นจะเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่และสวดเมตตาใหญ่อุทิศบุญซะหน่อย เมื่อลืมตาตื่นก็สะลึมสะลือสักพัก ก็ ฝืนลุกขึ้น แล้วก็ไปตั้งท่าและเดินจงกลมในห้อง การเดินกรรมฐานเมตตาใหญ่ก็เดินไปตามที่ท่านอาจารย์ได้แนะนำสั่งสอนมา พยายามประคองจิตและการเดินให้ตรงตามหลักเท่าที่จะทำได้

    ผมเดินจงกลมไปได้ประมาณ 8.5 รอบ ก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกายซ้อยอยู่กับอะไรสักอย่าง คล้าย ๆ เหมือนที่เคยเป็น (เจ้ากรรมนายเวรมาซ้อน) ในสภาวะนั้นก็เกิดอาการเศร้าเสียใจขึ้นมาในใจและแสดงออกทางกายค่อย ๆ สะอึกสะอื้นออกมาในระหว่างเดินกรรมฐาน พยายามประคองสติและเดินกรรมฐานต่อไปอีกสักครู่พร้อมกับนึกอุทิศบุญในใจในขั้นต้น และตัดสินใจเดินตรงเข้าห้องพระเพื่อกล่าวอุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรที่มาแฝงแสดงออกทางกายนี้ ในขณะที่กล่าวอธิฐานอุทิศบุญก็มีอาการสะอึกสะอื้น เศร้า เสียใจอยู่ตลอด จนกล่าวอุทิศบุญเสร็จอาการก็ค่อย ๆ หายไป ผมจึงตั้งสติสวดมนต์เมตตาใหญ่ต่อไป
    แต่ในระหว่างสวดเมตตาใหญ่อยู่นั้นก็รู้สึกอะไรแปลก ๆ เหมือนมีอะไรเริ่มแทรกแฝงเข้ามาอีก แต่ยังรู้สึกอยู่ไกลออกไปจากครั้งแรก พอสวดเมตตาใหญ่ไปอีกสักพักช่วงกลาง ๆ อาการก็เริ่มเข้ามาใกล้ขึ้น พอสวดไปถึงช่วงท้ายตั้งแต่ช่วงมนุสสา อาการก็เริ่มชัดเจนมีอาการสะอึกสะอื้น เศร้าเสียใจ ออกมาอาการจะน้อยกว่าช่วงแรกนิดหน่อย ก็พยายามสวดเมตตาใหญ่จนจบแล้วก็กล่าวอธิฐานอุทิศบุญและอโหสิกรรมกับท่านเจ้ากรรมนายเวรท่านนี้ไป

    อาการลักษณะนี้เกิดครั้งที่ 3 แล้วจากการที่เจ้ากรรมนายเวรท่านมาผ่านเพื่อรับบุญและอโหสิกรรมกัน
    ครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 58 ครั้งที่ 2 เมื่องานหล่อหลวงปู่พระมหากัสสะเถระเจ้าในระหว่างงานหล่อพระ

    สิ่งที่เกิดขึ้นก็เป็นวิจารณญาณของแต่ละคน และกรอปกับการปฏิบัติกรรมฐานและสร้างบุญอย่างต่อเนื่อง
     
  17. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,239
    สาธุ
    ทุกบทความครับ
     
  18. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    ลำดับขั้นของจิต

    *** ขอย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก และเกี่ยวข้องโดยตรงในชีวิตประจำวันของทุกๆ ท่าน ในตารางจะมีศัพท์บางคำที่อาจจะยากสำหรับบางท่าน แต่ก็จะมีคำอธิบายรายละเอียดในช่องด้านขวา ซึ่งทางผู้ดำเนินการได้พยายามทำให้เข้าใจได้ง่ายที่สุดแล้ว ขอให้ท่านพยายามอ่าน และทำความเข้าใจให้จบทั้งเรื่อง แล้วท่านจะได้ประโยชน์ ทั้งในการใช้ในชีวิตประจำวัน และในการศึกษาธรรมของพระพุทธศาสนาต่อไป ***

    จิตของคนแต่ละคนในแต่ละขณะนั้น จะมีความประณีตแตกต่างกันไปตามสภาวะของจิตในขณะนั้น ซึ่งพอจะเรียงลำดับของสภาวะจิต จากที่มีความประณีตมากที่สุดไปหาน้อยที่สุด คือมีความสุข เบาสบายที่สุดไปหาจิตที่มีความทุกข์มากที่สุด หรือเย็นที่สุดไปหาร้อนที่สุด ได้ดังตารางข้างล่างนี้

    หมายเหตุ การดูตารางขอให้ดูที่คอลัมน์ซ้ายสุดก่อน โดยดูไล่ลงไปตามแนวตั้งจนสุดตาราง จากนั้นจึงดูในคอลัมน์ที่สองไล่ลงไปจนสุดตารางเช่นกัน ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงคอลัมน์ขวาสุด เพื่อให้เห็นภาพรวมก่อน แล้วจึงดูรายละเอียดไปทีละขั้น จากนั้นจึงกลับมาดูภาพรวมซ้ำอีกครั้ง จะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น


    ตารางแสดงลำดับขั้นของจิต

    จิตที่เย็นที่สุด โลกุตตรจิต (จิตที่เหนือโลก)

    อรหัตตมรรค / อรหัตตผล (พระอรหันต์)
    อนาคามิมรรค / อนาคามิผล (อนาคามีบุคคล)
    สกทาคามิมรรค / สกทาคามิผล (สกทาคามีบุคคล)
    โสดาปัตติมรรค / โสดาปัตติผล (โสดาบัน)
    สมาธิขั้นฌาน


    อรูปฌาน 4 ขั้น

    เนวสัญญานาสัญญายตนะ
    อากิญจัญญายตนะ
    วิญญาณัญจายตนะ
    อากาสานัญจายตนะ

    รูปฌาน 4 หรือ 5 ขั้น

    (ปัญจมฌาน - ฌานที่ 5)
    จตุตถฌาน - ฌานที่ 4
    ตติยฌาน - ฌานที่ 3
    ทุติยฌาน - ฌานที่ 2
    ปฐมฌาน - ฌานที่ 1

    มหากุศลจิต

    วิปัสสนาปัญญาขั้นต้น - สามารถปล่อยวางได้ชั่วคราว แต่ยังไม่ถึงขั้นมรรค/ผล

    สมาธิขั้นอุปจาระ - สมาธิขั้นเกือบถึงฌาน คือจิตสงบประณีตมากแล้ว แต่ยังไม่ตั้งมั่นได้นานตามต้องการ

    สมาธิขั้นขณิกะ - สมาธิขั้นต้น สงบเป็นพักๆ จิตเริ่มประณีต

    มหากุศลขั้นพื้นฐาน - เกิดจากการให้ทาน รักษาศีล ความศรัทธา หิริ โอตตัปปะ
    ความเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ธรรมปิติ

    อเหตุกจิต

    คือจิตที่เป็นกลางๆ ไม่มีทั้งกุศลเหตุและอกุศลเหตุ คือไม่มีทั้งโลภะ(ความโลภ) โทสะ(ความโกรธ) โมหะ(ความหลง-ไม่รู้ธรรมชาติที่แท้จริงของสรรพสิ่ง)
    และไม่มีอโลภะ(การสละ) อโทสะ(เมตตา) อโมหะ(วิปัสสนาปัญญา)

    อกุศลจิต


    โมหมูลจิต

    (จิตที่มีโมหะเป็นมูลเหตุ)

    อกุศลจิตที่มีแต่โมหะ(ความหลง)ล้วนๆ โดยไม่มีโลภะหรือโทสะเจือปน เพียงแต่ทำให้เกิดความลังเลสงสัย หรือฟุ้งซ่านขาดสติเท่านั้น

    โลภมูลจิต

    (จิตที่มีโลภะเป็นมูลเหตุ)

    ขั้นอ่อน

    ความเพลิดเพลินยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสทางกาย ความยึดมั่นแบบอ่อนๆ ความเพลิดเพลินในสมาธิ ความถือตัวแบบอ่อนๆ
    ขั้นกลาง

    ความอยากได้ในสิ่งที่ถูกทำนองคลองธรรม ความอยากได้ในสิ่งที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรม แต่ยังห้ามใจไว้ได้
    ความยึดมั่นขั้นกลาง ความถือตัวขั้นกลาง
    ขั้นรุนแรง

    ความอยากได้อย่างแรงกล้าจนห้ามใจไม่อยู่ ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาแม้ผิดศีลธรรม ความยึดมั่นอย่างรุนแรง
    ความถือตัวอย่างรุนแรง

    โทสมูลจิต

    (จิตที่มีโทสะเป็นมูลเหตุ)

    ขั้นอ่อน

    ความเหงา ความกลัว ความระแวง ความอิจฉาเล็กน้อย ความกังวลใจ ความขัดแย้งในใจ ความรำคาญใจ ไม่สบายใจ เศร้าโศกเสียใจไม่มาก ขัดเคืองใจ หงุดหงิด เครียด ความหมั่นไส้ อึดอัดใจ น้อยใจ มองโลกในแง่ร้าย
    ขั้นกลาง

    ความกลัวอย่างมาก ความอิจฉาอย่างมาก กังวลใจมาก เครียดจัด ความโกรธแต่ยังพอห้ามใจได้บ้าง ความเสียใจอย่างมาก
    ขั้นรุนแรง

    โกรธจัดจนห้ามใจไม่อยู่ ต้องแสดงออกทางกาย/วาจา อาจถึงขั้นทำร้ายผู้อื่น ความอาฆาตแค้น ความพยาบาท จองเวร
    จิตที่ร้อนที่สุด

    *** เรื่องโลกุตตรจิตขอให้ดูในเรื่องอริยบุคคล 8 ประเภท ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) ประกอบ
    *** เรื่องสมาธิขั้นฌานนั้น ในช่องด้านขวาจะเป็นชื่อของฌานขั้นต่างๆ ซึ่งมีความประณีตของจิตสูงขึ้นไปตามลำดับ สำหรับคนทั่วๆ ไปแล้ว อาจจะยังไม่จำเป็นต้องรู้ลึกในรายละเอียด ท่านที่สนใจสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ในเรื่องสัญโยชน์ 10 ในหมวดวิปัสสนา (ปัญญา) (รวมถึงเรื่องอื่นๆ ในหมวดสมถกรรมฐาน (สมาธิ))

    จิตในสภาวะต่างๆ นั้น เปรียบเหมือนน้ำที่มีอุณหภูมิแตกต่างกัน จิตที่ยิ่งประณีตมาก (อยู่ด้านบนของตาราง) ก็เหมือนน้ำที่เย็นมากและสงบนิ่งมาก ส่วนโทสะ (ความโกรธ) ก็เหมือนน้ำที่กำลังเดือดพล่านกลายเป็นไอ ทั้งร้อนทั้งปั่นป่วนไปหมด

    แม่น้ำคงคา พาราณสี

    การที่น้ำจะเปลี่ยนแปลงจากอุณหภูมิสูงไปต่ำ หรือจากอุณหภูมิต่ำไปสูง ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลงไปตามลำดับอุณหภูมิ เช่น 25 ํc เป็น 24 ํc เป็น 23 ํ c ...... 2 ํc เป็น 1 ํc เป็น 0 ํc ตามลำดับ ไม่ใช่อยู่ๆ ก็กระโดดจาก 25 ํc ไปเป็น 0 ํc ได้เลย แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นกับปริมาณความร้อน/เย็นที่มากระทำด้วย ถ้ามีการกระทำอย่างรุนแรง ก็ย่อมจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วตามไปด้วย

    จิตก็เช่นกัน การที่จิตจะประณีตมากขึ้นหรือน้อยลง ก็จะค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปตามลำดับขั้น เช่น คนที่กำลังอยู่ในความโกรธนั้น จะทำสมาธิให้เกิดขึ้นในทันทีก็ย่อมจะเป็นไปไม่ได้ ต้องค่อยๆ ปรับจิตไปเรื่อยๆ จนจิตประณีตพอแล้วสมาธิจึงจะเกิดขึ้น

    น้ำที่ 60 ํc ย่อมเดือดได้ง่ายกว่าน้ำที่ 10 ํc คือใช้เวลาและความร้อนไม่มากก็เดือดได้แล้ว
    จิตที่อยู่ในระดับมหากุศลขั้นพื้นฐาน ย่อมโกรธได้ง่ายกว่าจิตที่อยู่ในระดับสมาธิและวิปัสสนาเช่นกัน คือใช้เวลาและเหตุปัจจัยที่รุนแรงน้อยกว่าก็โกรธได้แล้ว

    น้ำที่ 10 ํc ย่อมเป็นน้ำแข็งได้ง่ายกว่าน้ำที่ 60 ํc คือใช้เวลาและความเย็นน้อยกว่า ก็เป็นน้ำแข็งแล้ว
    จิตที่อยู่ในระดับสมาธิและวิปัสสนาขั้นต้น ย่อมทำสมาธิขั้นสูงและวิปัสสนาขั้นสูงขึ้นไป ได้ง่ายกว่าจิตที่อยู่ในระดับมหากุศลขั้นพื้นฐานเช่นกัน

    นี่คือเหตุผลว่าทำไมคนที่ไม่ค่อยทำสมาธิ ไม่ค่อยกำหนดสติ (เจริญวิปัสสนา) จิตใจถึงได้เร่าร้อนได้ง่ายกว่าคนที่ทำสมาธิหรือกำหนดสติอยู่เป็นประจำ ขณะเดียวกันคนที่ไม่ค่อยทำสมาธิ ไม่ค่อยกำหนดสติ ก็จะทำสมาธิได้ยากกว่าด้วย

    ภาพจากวัดทิเบต พุทธคยา

    และการที่บางคนทำสมาธิได้ยาก แต่บางคนกลับทำได้ง่ายกว่า ก็เป็นเพราะแต่ละคนมีพื้นฐานของจิตใจที่แตกต่างกัน คือมีความประณีตของจิตโดยส่วนใหญ่ ที่แตกต่างกันนั่นเอง

    การที่คนเราจะรู้สึกเป็นสุขขึ้นมานั้น ก็เป็นเพราะจิตของเขาในขณะนั้น มีความประณีตสูงขึ้นกว่าสภาวะจิตที่เป็นพื้นฐาน หรือมีความประณีตสูงขึ้นกว่าสภาวะจิตที่เป็นปรกติธรรมดาของเขานั่นเอง เช่น คนที่มีชีวิตอยู่ในสังคมทั่วไปนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วในชีวิตประจำวันจะถูกความโลภขั้นกลาง หรือโทสะขั้นอ่อนครอบงำอยู่เป็นประจำ (ดูรายละเอียดของสภาพจิตแต่ละชนิด ในตารางข้างบนประกอบ) ดังนั้นเมื่อได้ดูหนัง ฟังเพลง เต้นรำ ฯลฯ (โลภะขั้นอ่อนทั้งหลาย) ซึ่งจะทำให้จิตประณีตขึ้นกว่าในสภาวะปรกติ ก็จะทำให้รู้สึกว่ามีความสุขขึ้นมาได้

    ดังนั้น การดูหนัง ฟังเพลง ซึ่งถึงแม้จะเป็นกิเลสก็ไม่ใช่จะมีผลเสียเสมอไป เพราะอย่างน้อยก็ทำให้จิตประณีตขึ้นมาได้ระดับหนึ่ง แต่ก็ควรควบคุมให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม มีสติรักษาตัวได้

    แต่การที่คนบางคน เมื่อได้ทำร้ายตนเองหรือผู้อื่นแล้วรู้สึกว่ามีความสุขนั้น เป็นเพราะว่าพื้นฐานจิตใจของเขาอยู่ในขั้นโทสมูลจิตขั้นรุนแรงที่รุนแรงกว่านั้นนั่นเอง เมื่อเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของตนเองไปสู่สภาวะที่มีความรุนแรงน้อยลงได้ หรือสามารถทำให้ความรุนแรงนั้นผ่อนคลายลงได้ จึงทำให้รู้สึกเป็นสุขขึ้นมาได้

    คนที่ฉลาดในการพัฒนาจิต จะต้องคอยสังเกต/สำรวจจิตของตนอยู่เสมอ ว่าตอนนี้จิตของตนอยู่ในขั้นไหน ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไร

    ภาพจากวัดที่ระลึกถึงพระถังซำจั๋ง เมืองนาลันทา


    ถ้าจะให้ดี อย่างน้อยที่สุดควรพิจารณาจิตของตนเองก่อนนอนทุกคืน ว่าวันนี้ทั้งวันจิตอยู่ในสภาพไหนบ้าง เพราะถ้ายิ่งรู้ทันจิตได้เร็วเท่าไหร่ โอกาสที่จิตจะถอยหลังลงไป ก็จะน้อยลงเท่านั้น ถ้าพลาดพลั้งไปก็จะแก้ไขได้โดยง่าย เพราะจิตยังไม่กระด้างเกินไป
    ถ้าจะให้ดีที่สุดก็คือ ต้องฝึกให้มีสติรู้เท่าทันจิตอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะได้ประคับประคองจิต ให้อยู่ในสภาพที่ดีอยู่เสมอ เป็นภูมิคุ้มกันจิตให้ตกไปอยู่ในสภาพที่ไม่ดีได้ยากขึ้น และยังเป็นการเจริญวิปัสสนา คือศึกษาธรรมชาติของจิตไปพร้อมกันด้วย และเมื่อมีโอกาสที่จะพัฒนาจิตได้มากเป็นพิเศษ เช่น การสมาทานอุโบสถศีล (ศีล8) การทำสมาธิ การเจริญวิปัสสนาอย่างเข้มข้น ก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสนั้นผ่านไปอย่างเปล่าประโยชน์เลย แม้ในชีวิตประจำวันตามปรกติ ก็จะพยายามจัดเวลาให้กับการทำสมาธิ และวิปัสสนาอยู่เป็นประจำ มากบ้างน้อยบ้างตามที่จะทำได้

    ทั้งนี้ก็เพื่อจะทำสภาพที่เป็นปรกติของจิตของตนเองให้ประณีตที่สุด คือเพื่อให้จิตอยู่ในสภาพที่ประณีตที่สุดเป็นปรกตินั่นเอง ซึ่งจะส่งผลให้จิตแปรปรวนไปสู่สภาพที่หยาบกว่า หรือร้อนกว่าได้ยากขึ้น และสามารถพัฒนาจิตให้สูงขึ้น ประณีตขึ้นได้โดยง่าย

    ตัวอย่างของการปรับสภาพจิต เช่นการแก้ความโกรธโดยการแผ่เมตตาให้แก่คนที่เราโกรธนั้น ก็เพื่อเป็นการปรับสภาพจิตให้ประณีตขึ้นโดยเร็ว คือจากโทสะเป็นเมตตา ซึ่งเป็นสภาวะของจิตที่ตรงข้ามกัน ระหว่างร้อนกับเย็น ซึ่งถ้าสามารถแผ่เมตตาให้กับคนนั้นได้อย่างสนิทใจ โทสะก็จะหายไป และจิตก็จะประณีตขึ้นมาก
    แต่ถ้าไม่สามารถทำได้ในทันที ก็อาจใช้การพิจารณาเพื่อข่มความโกรธเอาไว้ (ดูวิธีแก้ความโกรธ/พยาปาทะ ในเรื่องนิวรณ์ 5 และวิธีแก้ไข ในหมวดสมถกรรมฐาน (สมาธิ) ประกอบ) แล้วก็แผ่เมตตาให้กับตัวเองและสรรพสัตว์ทั่วๆ ไปก่อน เพื่อให้จิตเย็นขึ้น แล้วจึงค่อยๆ แผ่ให้กับคนที่เราโกรธก็ได้ ต้องฝืนใจยังไงก็คงต้องพยายามฝึกเอาไว้
    ถ้ายังไม่ไหวอีก ก็พิจารณาว่าที่เราแผ่ให้นั้น จริงๆ แล้วก็เพื่อประโยชน์ของตัวเราเอง คือเพื่อปรับสภาพจิตของเราให้ดีขึ้น จะได้พ้นทุกข์จากไฟโทสะ ไม่ใช่เพื่อคนที่เราโกรธสักหน่อย

    ลองคิดดูเถิดว่าจะมีความปลาบปลื้มใจเพียงใด ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า สามารถแผ่เมตตาให้กับคนที่เราโกรธได้อย่างจริงใจ และสนิทใจเหมือนแผ่ให้กับตนเอง อยากให้ตัวเรามีความสุขเช่นไร ก็ปรารถนาให้ผู้ที่เราโกรธมีความสุขเช่นนั้น โดยไม่รู้สึกขัดแย้งในใจเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงวันนั้นก็จะเป็นคนที่ไม่มีศัตรูเลย คือใครจะโกรธ จะเป็นศัตรูกับเราก็เป็นเรื่องของเขา แต่เราจะไม่เป็นศัตรูกับใครเลย มีแต่ความเมตตาให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายอย่างเสมอกันหมด ด้วยความจริงใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤศจิกายน 2015
  19. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    งานที่รอคอยมาน

    หลวงปู่เทพโลกอุดร ปางปาฏิหาริย์นั่งมือถือลูกท้อบนปลาอานนท์ ขนาด 15 นิ้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ธันวาคม 2015
  20. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,389
    ค่าพลัง:
    +19,712
    วันนี้มีโอกาศกดพระผงหลวงปู่โตได้ 50 องค์ ฝังตะกรุดผ่านหลายพิธี ข้าวสารหิน ลูกปัด ผสมผงโสฬสมหาพรหม ผงต่าง ๆ มากมาย เตรียมไว้แจกปีใหม่นี้ครับ กะว่าจกดเพิ่มไปเรื่อย ๆ ครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...