ประสบการณ์กรรมฐานเมตตาใหญ่-กรรมฐานกับดวงจิตวิสาขบูชา66น.91พิธีจุติคุรุเทวากรรมประสิทธิ์ปฐมฤกษ์"

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ransang, 6 มิถุนายน 2011.

  1. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ช่วงนี้ผมจะทะยอยส่งของที่ค้างส่งให้นะครับ รู้สึกช่วงนี้หลาย ๆ คนจะพบเรื่องราวที่ทำให้การปฏิบัติต้องถดถอยรวมถึงตัวผมเองด้วยก็เพิ่งจะตั้ง ๆ ขึ้นมาได้นิดหน่อย แต่ก็ต้องพยายามครับเพราะความทุกข์ยากกำลังคืบคลานเข้ามา
     
  2. โต้งชลบุรี

    โต้งชลบุรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,474
    ค่าพลัง:
    +18,351
    สวัสดีครับ คุณนิรันดริ์
    ผมเองก็ละเลยการปฏิบัติไปบ้างในช่วงที่ผ่านมา อาจเพราะองค์ประกอบด้านการงาน
    และอื่นๆอีกมากมายครับ หลังจากอาทิตย์นี้ผมคงจะโล่งมากขึ้นครับ

    ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ได้ปฏิบัติอย่างต่อเนื่องด้วยนะครับ
     
  3. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723


    ขอให้ผ่านพ้นช่วงนี้ด้วยดีครับ


    ในการปฏิบัตินั้นทุกอย่างมีหลักมีข้อกำหนดพื้นฐานไว้ให้ทำความเข้าใจและเป็นแบบอย่าง เมื่อก่อนผมก็เป็นคนหนึ่งทำตามที่คิดที่เคยชิน นำแบบนั้นมาทำนิดแบบนี้มาทำหน่อยไม่ได้เลยแม้งูหรือปลา พอกรรมเข้ามาก็ตายลูกเดียวเดี๋ยวเรื่องนั้น เดี๋ยวเรื่องนี้ โดยเฉพาะเรื่องใกล้ตัวให้ทดสอบจิตใจมีทุกวัน บุญที่จะทำให้กรรมผ่อนคลายก็คือบุญจากกรรมฐานจะช่วยตั้งแต่ภายในจนถึงภายนอก ทำให้ภายในเราละวางตามกำลังใจที่เราทำกรรมฐานได้ ภายนอกก็จะช่วยคลายและสลายสิ่งที่ไม่ดีถ้าสิ่งที่ต้องพบเจอจากภายนอกหนักกรรมฐานก็จะช่วยให้เบาลงได้ หากเป็นเรื่องที่เบาก็จะช่วยให้หลายจนสลายไปได้

    บุญกรรมฐานจะแตกต่างจากบุญอื่น บุญกรรมฐานสามารถถ่ายทอด หนุนส่ง บุญอื่น ๆ ได้มากกว่าด้วย ดังนั้นไม่ว่าจะทำกรรมฐานตัวใดขอให้ตั้งใจทำตั้งใจปฏิบัติให้ถูกให้ได้ผลแม้เพียงเสี้ยวเดียวก็ส่งผลและมีอาณิสงค์มหาศาล แต่การปฏิบัติกรรมฐานนั้นถ้ามองดูให้ดีก็คือการฝืนบางสิ่งบางอย่างในเบื้องต้นเพื่อเป็นการฝึกตัด ฝึกละ ฝึกคลายกิเลส เพราะหากไม่ฝืนก็เป็นไปตามสิ่งยั่วยุที่มีมากมายไม่ว่าจะเป็นความสวย ความหล่อ ความขาว ความเนียน ความอร่อย ความหวาน ความขม ความเย็น ความร้อน ความสะดวก ความสบาย อีกมาย ๆ หลายอย่างแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าต้องฝืนจนทำอะไรไม่ได้เลยเราต้องปฏิบัิตอย่างเหมาะสม พอเหมาะและพอควรแก่เวลา กาละเทศะ เหมาะสภาพร่างกายและจิตใจ อย่าให้ตึงเกินไป แต่ก็อย่าให้หย่อนจนเกินไป ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ทำ แล้วเราเองจะเรียนรู้เองว่าความพอดีของเราในการปฏิบัิตินั้นอยู่ที่จุดใด

    ในการปฏิบัิติที่เริ่มเข้าใจพื้นฐานเบื้องต้นเกี่ยวกับความเหมาะสมเกี่ยวกับตัวเราแล้วก็ควรมีขั้นตอนในการปฏิบัิติเพื่อที่จะให้เกิดความก้าวหน้าบ้างไปตามโอกาศ เพื่อไม่ให้จิตตกหรือแช่อยู่ในสภาวะใดสภาวะหนึ่งนานจนเกินไปจะเกิดการติดหรือวิตกเกิดขึ้นได้



    เท่านี้ก่อนนะครับ ผมเขียนไปเรื่อย ๆ โดยเน้นพื้นฐาน แต่ก็มีถูกและผิด ต้องขออภัยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2012
  4. moo noi

    moo noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    6,328
    ค่าพลัง:
    +23,902
    ขอร่วมโมทนาในโอกาสอันดีของพี่นิรันดร์ด้วยค่ะ.......:cool:
     
  5. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ขอเล่าเพิ่มอีกหน่อย

    เนื่องจากผมก็เคยฝึกนั่งสมาธิแบบทั่วไปนั่งแบบมั่วเองนะครับไม่อยากอ้างครูบาอาจารย์เพราะผมยังทำได้ไม่ดีพอเทียบกับหลาย ๆ ท่าน แต่ก็บังเอิญพระท่านสงเคราะห์ได้บพเห็นนิมิตบ้าง และผมก็มาพบท่านอาจารย์และได้ฝึกตามแนวท่านอาจารย์ด้วยกรรมฐานหนอเริ่มต้นก็ทำได้ระดับหนึ่งตามที่ท่านเมตตาบอกนะครับเพราะผมมันยังไม่ได้เรื่องอีกมาก และก็มาสู่กรรมฐานหนอในปัจจุบัน มีเรื่องลักษณะของผลกรรมฐานที่เกิดแก่จิตที่ผมสังเกตดูคือการปฏิบัติบางอย่างนั้นจะเกิดจากภายในจิตออกสู่ภายนอก และการปฏิบัิติส่วนใหญ่จะส่งผลจากภายนอกเข้าสู่ภายในจิต ผมอยากให้ลองสังเกตุและทำกันดูนะครับแต่ทำแบบสักแต่ว่ารู้นะครับอย่าทำแบบจับผิด

    กรรมฐานหนอนั้นจะเกิดผลจากภายในจิตมาสู่ภายนอกและนิมิตนั้นมีน้อยมาก และพลังงานของกรรมฐานหนอนั้นว่างและสูงมาก เป็นพลังงานที่ใส สว่าง สะอาด ลึกซึ้งมาก แค่นี้ก่อนนะครับบางอย่างลึกไปผมก็ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือไม่ จะส่งผลแก่ผู้ปฏิบัิติเป็นส่วนใหญ่ดวงจิตและผู้อื่นจะได้รับบางส่วน

    กรรมฐานเมตตาใหญ่นั้นผลจะเกิดจากภายนอกเข้ามาสู่ภายในจิตแต่จะเข้าไปถึงจิตในได้เร็วมาก และสามารถส่งให้แก่ดวงจิตภายนอกที่เกี่ยวข้องได้ทันทีที่ปฏิบัิติ พลังงานจะสดใส นุ่มนวล อบอุ่น มีเมตตา และละเอียดอ่อน จะส่งผลต่อผู้ปฏิบัติ 50 % และดวงจิตที่เกี่ยวข้องหรือส่งรอบกายอีก 50 %
     
  6. knurack

    knurack เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2010
    โพสต์:
    364
    ค่าพลัง:
    +1,202
    ขอรับพระผงด้วยคนครับ ที่อยู่ทาง pm ครับ
     
  7. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    มีเพื่อนผู้ใจบุญช่วยค่าจัดส่งพระที่ผมแจกมาจำนวน 500 บาทนะครับ ขออนุโมทนาสาธุการด้วยครับ

    จริง ๆ ผมตั้งใจจะไม่รับเงินช่วยเหลือจากใครแล้วเพราะดูแล้วไม่ค่อยสบายใจกะว่าจะส่งเท่าที่ส่งได้ขอยอมทุ่มเทแบบเดิมดีกว่าทุ่มให้สุด ๆ จะได้เิลิกยึดตัวตนตนนี้ซะที แต่ท่านนี้มีความตั้งใจสูงมากผมจึงรับและต้องขออนุโมทนาบุญด้วย

    ขอขอบคุณครับ
     
  8. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    อนุโมทนาบุญกับพี่นิรันดร์ด้วยครับ ยินดีกับท่านที่ได้รับพระครับ
     
  9. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723


    ของคุณเดี่ยวผมจะส่งให้นะครับ ตั้งใจไว้แล้ว
     
  10. ฌานกร

    ฌานกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,433
    ค่าพลัง:
    +14,651
    ขอบคุณครับพี่นิรันดร์ :cool::cool::cool:
     
  11. อนันตภพ

    อนันตภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +2,969
    ขอรับพระผงด้วยคนครับ ที่อยู่ทาง pm ครับ
     
  12. pee02

    pee02 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2010
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +60
    ขอรับพระผงหลวงปู่ใหญ่ด้วยครับ ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง pm นะครับ

    อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  13. nudjinnong

    nudjinnong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,161
    ค่าพลัง:
    +3,012
    อนุโมทนากับพี่ๆทุกท่านด้วยนะครับ
    พระผงหลายปู่ใหญ่ที่พี่นิรันด์แจก ใช้กำนั่งสมาธิได้ดีครับผม

    ผมรู้สึกว่าตัวเองว่อกแวกน้อยลง ^_^:cool::cool:
     
  14. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    วันนี้ขอนำพุทธโอวาทมาให้อ่านและพิจารณา แต่ต้องขอกล่าวว่าผมเมื่อเริ่มศึกษาธรรมใหม่ ๆ ได้อ่านหนังสือเรื่อง พระพุทธโอวาทก่อนปรินิพพานแล้วใจมันซาบซึ้งจนพยายามอ่านให้จบเพราะเนื้อหาก็ไม่ได้มาก อยากให้ทุกคนลองหามาอ่าน เพื่อเป็นพื้นฐานของใจพื้นฐานของจิต ขอนำ 62 พุทธโอวาท ช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนปรินิพพานมาให้อ่านนะครับ จากหนังสือ 62 พุทธโอวาท รวบรวมโดย จิรวังโสภิกขุ


    โอวาทที่ 1 ศีลเป็นพื้นฐานของใจ

    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ศีลเป็นพื้นฐานเป็นที่รองรับคุณอันยิ่งใหญ่ ประหนึ่งแผ่นดินเป็นที่รองรับและตั้งลงแห่งสิ่งทั้งหลายทั้งที่มีชีพและหาชีพมิได้ เป็นต้น ว่าพฤกษาลดาวัลย์มหาสิงขรและสัตว์จตุบาททวิบาทนานาชนิด บุคคลผู้มีศีลเป็นพื้นใจย่อมอยู่สบาย มีความปลอดโปร่งเหมือนเรือนที่บุคคลปัดกวาด เช็ดถูเรียบร้อยปราศจากเรือดและฝุ่นเป็นที่รบกวน "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  15. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    โอวาทที่ 2 สมาธิคือความสงบของใจ

    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ศีลนี้เองเป็นพื้นฐานให้เกิดสมาธิคือความสงบของใจ สมาธิที่มีศีลเป็นเบื้องต้น เป็นสมาธิที่มีผลมากมีอานิสงส์มาก
    บุคคลผู้มีสมาธิย่อมอยู่อย่างสงบ เหมือนเรือนที่มีฝาผนัง มีประตูหน้าต่างปิดเปิดได้เรียบร้อย มีหลังคาสำหรับป้องกันลม แดดและฝน ผู้อยู่ในเรือนเช่นนี้ฝนตกก็ไม่เปียก แดดออกก็ไม่ร้อนฉันใด บุคคลผู้มีจิตเป็นสมาธิดีก็ฉันนั้น ย่อมสงบอยู่ได้ไม่กระวนกระวาย เมื่อลม แดด และฝน กล่าวคือโลกธรรมแผดเผากระพือพัดซัดสาดเข้ามาครั้งแล้วครั้งเล่าสมาธิอย่าง นี้ย่อมก่อให้เกิดปัญญาในการฟาดฟันย่ำยีและเชือดเฉือนกิเลสอาสวะต่าง ๆ ให้เบาบางและหมดสิ้นไป เหมือนบุคคลผู้มีกำลังจับศาสตราอันคมกริบแล้วถางป่าให้โล่งเตียนก็ปานนั้น "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  16. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    โอวาทที่ 3 ปัญญาคือประทีปแห่งใจ

    " ดูกรภิกษุทั้งหลาย ! ปัญญาซึ่งมีสมาธิเป็นรากฐานนั้นย่อมปรากฏดุจไฟดวงใหญ่กำจัดความมืดให้ปลาสนาการมีแสงสว่างรุ่งเรืองอำไพ ขับฝุ่นละอองคือกิเลสให้ปลิวหาย ปัญญาจึงเป็นประดุจประทีปแห่งดวงใจ "


    " อันว่าจิตนี้ เป็นธรรมชาติที่ผ่องใสอยู่โดยปกติแต่เศร้าหมองไปเพราะคลุกเคล้าด้วยกิเลสนานาชนิด ศีล สมาธิและปัญญา เป็นเครื่องฟอกจิตให้ขาวสะอาดดังเดิม จิตที่ฟอกแล้ว ด้วยศีล สมาธิ และปัญญา ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งปวง "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  17. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    โอวาททั้ง 3 ข้อข้างต้นนั้นทำให้เราเห็นว่า ศีล สมาธิ ปัญญา นั้นเป็นพื้นฐานและเป็นส่วนสำคัญในการปฏิบัติ ก็ต้องพยายามทำและหาแนวทางที่ตนเองเข้าใจต่อกันไป เมื่อก่อนนี้ผมมีความรู้สึกแปลก ๆ คือมันเหมือนจะมี 2 ความคิดซ้อนกันอยู่ จนได้มาพบแนวทางของหลวงปู่ดูลย์จากพระอาจารย์ปราโมท ปราโมชโช เรื่องการดูจิต ผมต้องพยายามตามและรู้ให้ทันจิต ใจ และความคิดตัวเอง เพราะบางครั้งมันคิดเลว ๆ อย่างไม่รู้ตัว ก็พยายามทำได้ระดับหนึ่งคือพอจะรู้ว่ามันคิด พอจะรู้ว่ามันไหล และสิ่งที่ผมพบเจออีกอย่างคือแนวทางของหลวงพ่อโพธิ์ศรีสุริยะ เขมรโต ที่ว่าไม่ต้องไปยึดอะไร ไม่ต้องไปอะไร ๆ ทั้งสิ้น ผมไม่ได้นำมาทั้งหมดผมนำมาเฉพาะที่ผมคิดว่าต้องทำในช่วงนั้น ๆ เพราะผมก็ยังไม่ถึง ที่นำเรื่องไม่ยึดไม่ติดกับอะไรมาเพื่อให้ใจมันยั้งได้ ไม่ไปยึดเกาะกับอารมรณ์ ความคิด การกระทำที่เกิดขึ้นไปแล้ว แต่กว่าจะพัฒนาได้ก็โดนไปหลายยกตอนนี้ก็ได้แค่นิดเดียวแค่พอรู้ว่าตัวเองยังโง่ยังเลวอีกมากมาย....หลักในการปฏิบัติที่ครูบาอาจารย์บางท่านที่ผมได้ยินมาท่านบอกว่า ให้เราดูตัวเอง 90% อีก 10 % ให้ดูคนอื่นแต่ดูในส่วนที่ดี ก็ต้องมาทำตามแลำเข้าใจให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไป


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 กุมภาพันธ์ 2012
  18. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    <table id="post5470792" class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%" align="center"><tbody><tr valign="top"><td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175">ransang
    สมาชิก

    วันที่สมัคร: Jun 2007
    ข้อความ: 1,253
    พลังการให้คะแนน: 366 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </td> <td class="alt1" id="td_post_5470792" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> วันนี้ขอเพิ่ม สิ่งที่ช่วยได้จริงอีกอย่าง

    รูปภาพที่ผมแสดงด้านล่างนี้ เพื่อให้ทุกท่านนำไป Print นำไปอัด ติดไว้ที่บ้านเวลา ทำกรรมฐานเมตตาใหญ่และแผ่เมตตาให้มองภาพท่าน หากมีเวลาก็มองท่านให้ขึ้นใจ ท่านจะช่วยส่งกระแสบุญการปฏิบัติและการภาวนาให้กว้างไกลและแรงขึ้น และการแผ่เมตตาอุทิศบุญ ประกายของท่านมีรัศมีสว่างสดใสเป็นประกายระยิบระยับเลยครับ หรือนำไปติดไว้ที่ที่ทำงานขนาดตั้งโต๊ะก็ดีทำให้เราสงบร่มเย็นเป็นเมตตาด้วย

    องค์ประกอบของภาพลงตัวและ หาได้ยากยิ่งแล้ว
    1.พระไพรีพินาศองค์ใหญ่ด้านหลัง
    2.พระพุทธเมตตาอโหสิกรรม
    3.พระปางห้ามสมุทร
    4.พระปางเปิดโลก
    5.ร่มเงาไม้สีเขียว

    ลองคิดความหมายเอานะครับภาพนี้สุดยอด ผมว่าจะ Print เป็นแบบเล็ก ๆ นำไปเลี่ยมให้ลูก ๆ เหมือนกัน
    <fieldset class="fieldset"> <legend>รูปขนาดเล็ก</legend> [​IMG]
    </fieldset>
    </td></tr></tbody></table>
     
  19. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    หลักการปฏิบัติกรรมฐาเมตตาใหญ่

    ผมขออธิฐานต่อพระท่านและท่านอาจารย์ ขอบอกกล่าวคำบริกรรมกรรมฐานแก่สาธารณะ


    กรรมฐานเมตตาใหญ่ เป็นกรรมฐานโบราณ ใช้คำบริกรรมว่า

    พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม

    ให้ ภาวนา หรือสวด ให้ช้า ๆ ทีละวรรค ครับ ไปเรื่อย ๆ ทำใจให้สบายไม่ต้องไปยึดติด หากมีอะไรเข้ามาให้ความคิดก็ปล่อยมันพยายามดึงกลับเข้าคำบริกรรม แล้วสติจะค่อย ๆ กลับมา ให้ภาวนาไปเรื่อย ๆ ทั้งวันนึกได้ให้ภาวนาหรือสวดไป ในใจก็ได้ ออกเสียงก็ดี เดินก็ภาวนา นั่งก็ภาวนา แล้วเมื่อสวดมนต์ต่อหน้าพระประจำวันก็ควรสวดมาก ๆ เช่น เท่าอายุ หรือ 59 จบ หรือ 108 จบ ยิ่งดี ที่สำคัญควรกรวดน้ำด้วยทุกครั้ง ระหว่างวันก็กรวดได้ถ้าสะดวกทำได้ทำเลยจะเห็นผลไว การกรวดแห้งจะส่งผลไม่เต็มที่แต่ก็ได้ผลครับ ถ้าทำได้ควรกรวดน้ำครับ แล้วลองสังเกตุความเปลี่ยนแปลงดูครับ

    เมื่อเราภาวนา หรือทำกรรมฐานเมตตาใหญ่จะเกิดกำลังแผ่ออกมาเกิดการปรับธาตุขันธ์เราให้ดี ขึ้นมีกำลังใจ และแรงกายดีขึ้น เราจะได้ผลจากกรรมฐาน 50% และสิ่งที่เกี่ยวกับเราเช่นเจ้ากรรมนายเวร เทวดาแระจำตัว ครอบครัว ปัญหา จะได้รับผลไปอีก 50% ยิ่งทำบ่อย ๆ เขาจะได้ง่ายและมากขึ้น ๆ

    ผลที่ได้อย่าแรก ใจจะเย็นลงอยางเห็นได้ชัด อันนี้จากประสบการณ์ตัวเองและคนใกล้ชิด บรรยากาศในครอบครั้วจะเย็นขึ้น ยิ้มแย้มแจ่มใสกันมากขึ้น เป็นเมตตามหานิยม เมื่อพบใครจะมีคนยิ้มกับเรามากขึ้น บรรยากาศรอบด้านแจ่มใสขึ้น หากมีปัญหาสิ่งใดให้ภาวนาแล้วส่งให้กับปัญหาให้มีทางออกให้แก้ปัญหาได้ก็ว่า ไป จะจัดการปัญหาได้ง่ายขึ้น

    ลองทำดูขั้นต้นก่อนนะครับ ทำเองได้เอง เราทำจริงเราได้ของจริง

    ขอต่อด้วยคำอธิฐานทำกรรมฐาน และคำอธิฐานบุญนะครับ ใช้ได้กับทุกกรรมฐาน แต่ ถ้าใช้กับกรรมฐานนี้จะได้ผลเร็วมาก


    [FONT=&quot] ก่อนเริ่มการปฏิบัติกรรมฐาน[/FONT]

    [FONT=&quot]ตั้งนะโม 3 จบ ต่อด้วย บทพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ[/FONT]

    [FONT=&quot]ลูก ขออัญเชิญพุทธบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์ พระอรหันต์พระอริยะเจ้า ตลอดจนบิดามารดาครูบาอาจารย์ทุกพระองค์ โดยมีพระอาจารย์หลวงปู่เมฆ กิตติสัทโท หลวงปู่เทพโลกอุดร สมเด็จพ่อพระพุทธเจ้าอโนมทัสสี เป็นที่ตั้ง ที่ทรงพระเมตตามอบแนวการปฏิบัติกรรมฐาน “เมตตาใหญ่” ด้วยคำบริกรรมว่า “พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม” ขอให้ปฏิบัติถูกต้องลงด้วย กาย วาจา ใจ รวมเป็นหนึ่งเดียวเกิด ศีลอริยะมรรค ขอแคล้วคลาดปราศจากสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาแทรกให้เกิด อุปาทาน หลงผิด วิปลาส บ้าเสียสติ นี้ด้วยเทอญฯ

    [/FONT][FONT=&quot]คำอธิษฐานหลังจากการปฏิบัติ[/FONT]

    [FONT=&quot] “กรรมฐานเมตตาใหญ่”[/FONT]
    [FONT=&quot]ด้วยกำลังที่เกิดผลมาจากการปฏิบัติกรรมฐาน “เมตตาใหญ่” ที่หาประมาณมิได้แห่ง “ศีลอริยะมรรค” เกิดจากอาศัย กาย วาจา ใจ ที่รวมเป็นหนึ่งเดียวทำให้เกิด “สมังมรรคสามัคคี” รวม เป็น ศีล สมาธิ ปัญญา เกิดมรรคเกิดผลไปตามลำดับ แต่ด้วยที่เราเวียนว่ายตายเกิดนับภพชาติไม่ถ้วนได้เสวยกำลังวิบากกรรมดีชั่ว ปะปนไป เมื่อเราเสวย “ความสุข” ผลเกิดดังฟ้าแลบผ่านไปอย่างรวดเร็ว.....แต่ถ้าเสวย “ความทุกข์” เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียวดังตกนรกหมกไหม้เป็นเดือนเป็นปี......[/FONT]
    [FONT=&quot]เราไม่สามารถที่จะรู้ได้ล่วงหน้าว่าสิ่งที่เราไม่ต้องการจะมาเมื่อไร เท่าไร ทำไม หนักไม่...[/FONT][FONT=&quot]? ไม่มีใครหยั่งรู้....กว่าจะรู้เราก็เสวยความทุกข์ไปแล้ว ดังคำว่า “อิทธิฤทธิ์ แพ้บุญฤทธิ์ บุญฤทธิ์แพ้วิบากกกรมไม่ดี วิบากกรรมไม่ดีสลายกำลังลงด้วยศีลอริยะมรรค กรรมฐานเมตตาใหญ่ เป็นกรรมฐานที่สร้างสะสมศีลอริยะมรรค...ที่ส่งผลไปให้เจ้ากรรมนายเวรหรือผล ของวิบากกรรมไม่ดีเป็นการทดแทนชดใช้สิ่งที่ได้กระทำเอาไว้” [/FONT]
    [FONT=&quot]ดัง นั้น หลังจากที่ได้ปฏิบัติกรรมฐานเกิดกำลัง(ศีลอริยะมรรค)ไม่ว่าได้มากน้อยเพียง ใด จะต้องน้อมจิตตั้งมั่นอธิษฐานส่งผลกำลังนั้น ไปมอบให้เจ้ากรรมนายเวร บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เทพพรหมเทวดา สรรพสัตว์ทั้งหลาย ตามแต่ที่ตั้งจิตอธิษฐาน....ดังนี้ จะแบ่งออกเป็นหัวข้อเพื่อจะได้เป็นแนวทางในการอธิษฐานต่อไป...[/FONT]

    [FONT=&quot]ด้วย ผลบุญอานิสงค์อันใดในการปฏิบัติกรรมฐานเมตตาใหญ่ เกิดศีลอริยะมรรคเพียงใด ขอน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา และผลบุญในการถวายนี้ขอจงเป็นพลปัจจัย (เลือกข้อใดข้อหนึ่งให้ตรงกับเหตุการณ์ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดผลได้ทันเหตุการณ์)[/FONT]

    [FONT=&quot]1.ให้ ถึงสัมมาอาชีพ หน้าที่การงาน เหล่าเทพพรหมเทวดาอารักษ์ ที่เกื้อกูล อนุเคราะห์ ค้ำชู ให้หน้าที่การงานกิจการเจริญรุ่งเรือง มีความคล่องตัว มีกิน มีใช้ ได้เก็บสะสมเพิ่มพูน เพื่อเป็นปัจจัยนำไปเลี้ยงดำรงชีพตนเอง[/FONT]
    [FONT=&quot]และ ครอบครัว ได้สร้างบุญกุศลแก่พระพุทธศาสนาไม่ขาดสายสืบเนื่องต่อไป ไม่ว่าทำการสิ่งใด ขอให้สำเร็จ สมบูรณ์ ไม่ล่าช้า มีผู้ช่วยเหลือเกื้อกูล พร้อมทั้งกาย วาจา ใจ และกำลังโภคทรัพย์ ขอให้ปลดเปลื้องพันธะนาการหนี้สินที่ติดค้างได้ภายในเร็ววันด้วยเทอญ[/FONT][FONT=&quot] “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอหนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ)”

    [/FONT] [FONT=&quot]2.ให้ ถึงธาตุสี่ขันธ์ห้าและดวงจิตบิดา มารดาในชาติปัจจุบัน ตลอดจนเทพพรหมเทวดา ที่ดูแลรักษาประจำตัว และผลบุญนี้ถึงแก่บิดา มารดาในอดีตชาติ ไม่ว่าอยู่ในภพใดภูมิใดทุกภพทุกชาติทันที ได้รู้ ได้รับ สามารถยกภูมิจิตภูมิธรรมยิ่งๆขึ้นไป และขอให้ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกผู้ทุกนามของตัวข้าพเจ้า ภรรยา บุตร ธิดา ทั้งหมดทั้งสิ้น ขอความเมตตาทุกท่านทุกดวงจิตคลายอาฆาตพยาบาท ณ กาลบัดนี้เทอญ[/FONT][FONT=&quot] “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอหนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ)”[/FONT]

    [FONT=&quot]3.ขอ ให้ถึงครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ ญาติ มิตร สหาย ตลอดจน เทพ พรหม เทวดา อารักษ์ พระภูมิเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขา วิญญาณสัมเวสีในน้ำ ในท้องทะเล ตามป่าเขาถ้ำพนมไพร ผีเปรต อสูรกาย นาคี นาคา เงือก กินนร [/FONT]
    [FONT=&quot]กินนรี วิทยาธร ปู่ฤาษี คนธรรพ์ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน ทุกตน ทุกตัว ไม่ว่าอยู่ในภพใด ภูมิใด ในอากาศก็ดี [/FONT]
    [FONT=&quot]ใน ดินก็ดี ในน้ำก็ดี บนบกก็ดี ที่อยู่บริเวณบ้านก็ดี ที่อยู่รอบบ้านก็ดี ที่ทำงานก็ดี ทั่วจังหวัดก็ดี ทั่วโลกก็ดี ทั่วอนันตจักรวาลก็ดี ไม่มีที่สิ้นสุด[/FONT][FONT=&quot] สามารถเลื่อนยกภูมิสูงขึ้นยิ่งๆขึ้นไป “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอหนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ)”[/FONT]
    [FONT=&quot]
    4.ขอให้ผลบุญนี้ อาบชโลมธาตุ 4 ขันธ์ 5 ดวงจิต ดวงวิญญาณ มีกระดูก เส้นเอ็น น้ำเลือด น้ำหนอง น้ำดี น้ำเหลือง ตับ ไต ใส้ พุง เซลต่าง ๆ เส้นประสาท เส้นเลือด เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ มันสมอง สัมผัสต่างๆ ลิ้น หู ตา คอ จมูก ทั้งร่างกายของ (..ชื่อ...) สิ่งไหนที่ขาดตกบกพร่องไป มีอาการเจ็บป่วย เสื่อมโทรม ขอให้กลับคืนสู่สภาวะปรกติ ถ้าสิ่งไหนมีมากเกินไปก็ให้สลาย คลายออก ดังปรกติ ขอให้มีความเมตตา ให้อโหสิกรรมซึ่งกันและกัน ให้ดำรงขันธ์ อย่าได้เจ็บป่วย ทุกขเวทนา พิกล พิการ บ้าใบ้ เสียจริต วิปลาส เพื่อให้มีโอกาสสร้างบุญกุศล บุญบารมี เกิดศีลอาริยะมรรค เมตตาอโหสิกรรม หมดหนี้ หมดเวรตามกฎธรรมชาติ ทุกภูมิจิต ภูมิธรรม ทุกตน ทุกคน ทุกตัว ไป สาธุ[/FONT][FONT=&quot] “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ) ...”[/FONT]
    [FONT=&quot]
    5.ขอให้ผลบุญนี้ ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร จิตวิญญาณที่แผงเร้น คุณไสยคุณผีคุณคนลมพัดลมเพ เสนียดอัปรีย์จัญไร เสน่ห์อาถรรพ์อัปมงคลการสาปแช่งลงอักขระเลขยันต์ ผูกจิตร้อยรัดมัดตรึง เทพบุตรมารธิดามาร มนต์ดำผีพนันจิตมาร กามราคะโมหะ โทสะ โลภะ กิเลสตัณหา ที่ทำให้เกิดดังคำว่า กัมมัสสะกา เป็นผู้มีกรรมเป็นของของตน[/FONT][FONT=&quot] กัมมะทายาทา เป็นผู้รับผลของกรรม กัมมะโยนิ เป็นผู้มีกรรมเป็นกำเนิด กัมมะพันธุ เป็นผู้มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กัมมะปะฏิสะระณา เป็นผู้มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย ยัง กัมมัง กะริสสันติ กระทำกรรมอันใดไว้ กัลยาณัง วา ปาปะกัง วา ดีหรือชั่ว ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ จักเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น ขอให้คลายสลายอำนาจเมตตาอโหสิกรรมซึ่งกันและกันสาธุ “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ) ...”[/FONT]

    [FONT=&quot]6.ถ้า ถึงการณ์ที่จะมีคู่ครองมีครอบครัว ขอให้คู่กรรม คู่เวร คู่ทุกข์ คู่ยาก คู่แสนสาหัส คู่เจ็บป่วย คู่หลอกลวง คู่ล้างผลาญ คู่เห็นแก่ตัวเอารัดเอาเปรียบ คู่โง่เง่าบ้าใบเสียสติ คู่ผีการพนัน คู่จัญไร คู่ที่ไม่อยู่ในศีลธรรมอันดี ไม่ทำมาหากิน ขอให้หลีกเร้นหลีกหนีสลายหายไปจากดวงชะตาชีวิตทั้งทางตรงและทางอ้อม ขอให้เป็นคู่ร่วมทำบุญกุศลบุญบารมี อยู่ในขอบเขตศีล5 เขตเนื้อนาบุญแห่งพระศาสนาพุทธทุกภพทุกชาติไปเทอญ…… “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ) ...”[/FONT]
    [FONT=&quot]
    7.ขอให้บุตร(ชื่อ) หรือกำลังท้อง มีอาการครบทั้ง 32 ประการ ไม่เสียจริตเป็นบ้าใบ้หูหนวกพิกลพิการ แข็งแรง มีสติปัญญาที่ดีทั้งทางโลกทางธรรม มีสติระลึกรู้ในความผิดชอบชั่วดี ฝักใฝ่ในธรรม สร้างสมผลบุญกุศล รอดพ้นจากบ่วงทุกข์บ่วงมารทั้งหลายทั้งมีกายเนื้อและไม่มีกายเนื้อ ดำรงอยู่ในแวดวงนักปราชญ์ สร้างคุณ ประโยชน์ให้ตนเองและส่วนรวมด้วยเทอญ “ พระพุทธะ เมตตา อโหสิ กรรม หนอออ (ลากเสียงยาว ภาวนา 3 จบ)[/FONT]

    [FONT=&quot] (ยังมีต่อ และสามารถนำไปประยุกต์ได้ตามแต่ในสถานการณ์ต่างตามจังหวะชีวิต)

    [/FONT][FONT=&quot]กรรมฐาน [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เมตตาใหญ่[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot] กรรมฐานสลายเภทภัยวิบากกรรม [/FONT][FONT=&quot]ด้วยบารมีหลวงปู่เทพโลกอุดร (ปู่ใหญ่)[/FONT]

    [FONT=&quot] คำปรารภ จากท่านอาจารย์ [/FONT]

    [FONT=&quot] นับว่าเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ที่มีบุญวาสนาบารมี ที่ได้รับความเมตตาจากองค์บรมครูครูบาอาจารย์ที่เมตตาสงเคราะห์สัตว์โลกให้ พ้นจากความทุกข์ สลายเภทภัยวิบากกรรมต่างๆ เพื่อ ลด ละ ตัวตน มีสติระลึกรู้ถึงผลจากการกระทำที่ไม่เจตนาหรือไม่เจตนา ถ้าไม่ประกอบด้วยศีล ขาดสติ ที่ส่งผลให้มีชดใช้หรือตามล้างตามผลาญนับภพชาติไม่ถ้วน ด้วยกรรมฐาน [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เมตตาใหญ่[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ที่ ประกอบด้วยความเมตตาอันประมาณมิได้ขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า บิดามารดา ครูบาอาจารย์ ที่ให้ความรักความเมตตาความปรารถนาดี ให้ทุกดวงจิตมีความสุขพ้นจากความทุกข์[/FONT]
    [FONT=&quot]ซึ่งกรรมฐานนี้ นำหลักการปฏิบัติจากกรรมฐาน [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]หนอ[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ของ ท่านอาจารย์หลวงปู่เมฆ กิตติสัทโท พระอรหันต์แห่งดินแดนทักษิณ กว่าที่ท่านอาจารย์จะได้แนวปฏิบัติกรรมฐานหนอต้องใช้เวลา 30 ปีจึงนำมาเผยแพร่ แต่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงและเป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มากสำหรับตัวผม ซึ่งได้มีบุญพบพานท่านอาจารย์ได้รับความเมตตาแนะนำสั่งสอนหลักปฏิบัติ กรรมฐานหนอเพียง 3-4 ปีเท่านั้น ในวันที่ 22 ตุลาคม 2542 ท่านอาจารย์ได้ละสังขารหลังจากที่ผมได้กราบท่านในคืนนั้นเอง[/FONT]
    [FONT=&quot] แต่ท่านอาจารย์ได้เมตตาให้หลักการปฏิบัติและให้เพียรพยายามทำสม่ำเสมออย่า ได้ขาด กว่าที่ผมจะตั้งต้นใหม่ได้ใช้เวลาถึง 4-5 ปีเพราะคนเรายังต้องหาที่พึ่งเสมือนไม้หลักปักขี้เลน แต่นับว่าเป็นความโชคดีที่ได้รับเมตตาจากหลวงปู่เทพโลกอุดร ช่วยประคับประคองอยู่ห่างๆ เสมือนพ่อแม่ที่ต้องให้ลูกช่วยเหลือตนเองให้ได้และเป็นตัวเองตัวเอง ลองผิดลองถูกแต่ไม่ถึงกลับทำให้เสียหายทั้งทางโลกทางธรรมและต้องทำหน้าที่ ของตนเองให้สมบูรณ์ตามที่ปรารถนาเอาไว้ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]มรรคผลนิพพาน[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]เป็นของจริง แต่ที่ไม่จริงคือกิเลสของตัวเองนั้นแหละ.......

    [/FONT][FONT=&quot]การแผ่เมตตา[/FONT]

    [FONT=&quot] เมตตา หมายถึง ความรักความปรารถนาดีต้องการให้ผู้อื่นคนอันเป็นที่รักญาติพี่น้องและสัตว์ โลกทั้งหลาย ให้มีความสุขกาย สุขใจ ยิ่งๆขึ้นไปตลอดเวลา ซึ่งการที่จะทำให้ได้ตัวเราต้องแผ่เมตตาให้แกตนเองก่อน คือ สร้างกำลังความปรารถนาดีความสุขให้แก่ตนเองเสียก่อน โดยมีพื้นฐานทาง กาย วาจา ใจ อันตั้งอยู่บน [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ศีล 5[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]ไม่ ละเมิดทำผิดศีลธรรมจนทำให้เกิดความหมองมัวแต่จิตใจ และการที่แผ่เมตตาตนเองก่อนนั้นไม่ใช่เป็นการเห็นแก่ตัว แต่ถ้าตัวเราเองไม่มีความสุขความสงบในตนเองแล้ว จะมีกำลังแผ่เมตตาให้ผู้อื่นมีความสุขได้อย่างไร[/FONT] [FONT=&quot]เพราะการเจริญแผ่เมตตาเป็นการ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]ภาวนา[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]เป็นการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่ง ที่ฝึกจิตให้เป็นสมาธิ เรียกว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]เจริญเมตตาภาวนา[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]ผลจากการแผ่เมตตาเป็นนิจวัตร บังเกิดมีอานิสงส์ถึง 11 ประการดังนี้[/FONT]
    [FONT=&quot]
    1.หลับเป็นสุข
    2. ตื่นเป็นสุข
    3.ไม่ฝันร้าย
    4.เป็นที่รักของมนุษย์
    5. เป็นที่รักของอมนุษย์
    6. ทวยเทพเทวดาพิทักษ์รักษา
    7. ไฟ ยาพิษ ศัสตราวุธไม่กล้ำกรายแคล้วคลาด
    8.จิตเป็นสมาธิเร็ว
    9. ผิวหน้าผ่องใส
    10. ทำให้มีสติก่อนตาย
    11. สิ้นชีพแล้วไปเกิดในพรหมโลก[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การที่เราแผ่เมตตาออกไปเป็นนิจนั้น สภาวะจิตใจที่ร้อนรน โมโห อาฆาตพยาบาทจะเปลี่ยนแปลงลดลงจนเกิดมี สติ เย็นกาย เย็นใจ ไม่โกรธแค้นอาฆาตพยาบาท และถ้าเป็นผู้ที่จะโดนทำร้าย ที่เกิดจากอาฆาตพยาบาทเบียดเบียนจากผู้ที่ไม่หวังดีหรือศัตรู จะ[/FONT][FONT=&quot]พ้นจากการทำร้าย ถูกเบียดเบียน จะกลับกลายเป็นที่รักเป็นมิตร พ้นจากทุกข์เบื้องต้นจนทุกข์เบื้องปลาย.... สาธุ[/FONT]

    [FONT=&quot]การอโหสิกรรม ปลดเปลื้องความทุกข์[/FONT]

    [FONT=&quot] กรรม คือ สิ่งการที่ได้กระทำลงไป ด้วยเจตนาหรือไม่เจตนาก้อตาม ย่อมบังเกิดผลสำเร็จแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในทางที่ดีหรือไม่ดี ที่ทำให้เกิดผลต่อเนื่องไปยังภพหน้าต่อๆไป จนไม่รู้จักจบสิ้นเป็นวัฏะสงสาร[/FONT]

    [FONT=&quot] อโหสิ คือ การยกโทษให้ ไม่เอาโทษของตัวเราหรือผู้ที่โดนกระทำให้เจ็บช้ำทั้งกายใจหรือทรัพย์สิน สมบัติตลอดจนชีวิต ที่ให้เกิดทุกข์ทรมานเกิดความอาฆาตพยาบาท ทำให้กรรมที่เราโดนกระทำหรือที่เราไปกระทำ เกิดเป็นกรรมเลิกให้ผล หรือเลิกแล้วต่อกัน[/FONT]
    [FONT=&quot]
    การ อโหสิกรรม เป็นการยกหรือขอโทษในสิ่งที่ตนเองโดน-กระทำผิดหรือไม่ดีต่อผู้อื่น ด้วยจิตใจที่สำนึกผิดในสิ่งที่กระทำไป ผลการให้อภัยนี้ ย่อมส่งผลให้ตนและผู้ให้ทันทีทันใด เป็นการดับทุกข์ในใจที่เกิดจากโทสะ โกรธเกียจ ความอาฆาตพยาบาทเบียดเบียนได้อย่างสนิท เกิดความเย็นกายเย็นใจไม่คิดจองเวรจองกรรมซึ่งกันและกันอีกต่อไป เป็นการ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]สลายเวรสลายกรรม[/FONT][FONT=&quot]” [/FONT][FONT=&quot]หรือ [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]การตัดเวรตัดกรรม[/FONT][FONT=&quot]”[/FONT]
    [FONT=&quot]
    พระพุทธเจ้า ได้ตรัสไว้ว่า [/FONT][FONT=&quot]“[/FONT][FONT=&quot]การอโหสิกรรมนั้น เป็นธรรมชั้นสูง ผู้ใดเข้าถึงย่อมพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง[/FONT][FONT=&quot] [/FONT][FONT=&quot]เป็น เมตตาธรรม ทำให้เย็นกาย เย็นใจ สามารถลดกิเลสตัณหาโทสะ โมหะ โลภะและอุปทานต่างๆที่ปรุงแต่งลงไปเรื่อยๆ ทำให้บังเกิดมีความสุขทุกกาละเวลา ทำให้วิบากกรรมที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้า ที่จะผูกเวรผูกกรรมกันจะไม่ปรากฏเกิดขึ้นอีกต่อไป.......ภพชาติย่อมไม่เกิด ขึ้นอีกต่อไปสำหรับบุคคลผู้นั้นและ.....สาธุ[/FONT]
     
  20. ransang

    ransang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    7,391
    ค่าพลัง:
    +19,723
    ประสบการณ์เก่าที่มีค่า...จากการปฏิบัติกรรมฐาน...

     

แชร์หน้านี้

Loading...