ประวัติ วัดไชโย-วัดระฆัง (ฉบับวัดระฆังถวายในหลวง พ.ศ.๒๕๐๔)....

ดีครับ

เพราะแต่ละท่านต่างก็มีข้อมูลทางประวัติของสมเด็จโตมาคนละทาง
ศึกษาลึกๆบ้าง ได้มาจากเวปอุปโลกบ้าง
เอามาเสวนากัน

แต่สุดท้าย พสมช ก็ได้ประโยชน์ครับ

ส่วนผม ไม่มีความรู้อะไรเลย เป็นเพียงแต่คนให้ข้อมูลเสริมเท่านั้นครับ

 

ข้ามหน้า

 

ตอบข้อ 2. ประวัติการสร้างพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯมีสามเวอร์ชั่น [1]สร้างก่อนพระสมเด็จวัดระฆังฯและใหม่บางขุนพรหม [2]อาจารย์ป๋อง สุพรรณ บอกสร้างปี ๒๔๐๙. [3] สีกาอ่าง สนามพระวิภาวดี บอกว่าน่าจะสร้างช่วงปลายของท่าน คงประมาณปี ๒๔๑๓--๑๕ มั้งครับ...เอาล่ะสิผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการยังเชื่อประวัติการสร้างไปคนล่ะทิศ ล่ะทาง...[1.].ถ้าพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯสร้างตั้งแต่ประมาณปี ๒๓๙๕--๔๐๐ ระหว่างนี้ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็นพระเทพกวี (ไม่ใช่พระธรรมกิตติน่ะครับ)เป็นเจ้าอาวาสครองวัดระฆังฯแล้ว ถ้าสร้างในช่วงนี้ทำไมพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯ จึงไม่มีสภาพธรรมชาติความเก่า ความแห้ง เหี่ยว ยุบ ย่น ให้เห็นเลย เทียบกับพระสมเด็จวัดระฆังฯทำไมจึงต่างกันมาก พระสร้างก่อนหลายปีมีสภาพใหม่กว่า พระสร้างทีหลัง มีแบบนี้ด้วยหรือครับ พระพุทธรูปหลวงพ่อโตวัดไชโยฯ ที่เชื่อว่าบรรจุพระพิมพ์เนื้อผงเกือบแสนองค์ มีบันทึกว่าสร้างขึ้นปี พ.ศ ๒๔๐๙ แล้วพระพิมพ์เนื้อผงที่บอกสร้างปี ๒๓๙๕-๔๐๐ บรรจุในอะไรมาก่อนครับ?..... [2].อาจารย์ป๋อง สุพรรณ บอกว่าสร้างปี ๒๔๐๙ อันนี้ใกล้เคียงครับ ในปี ๒๔๐๙-๑๐ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาเฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็น สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ(รัชกาลที่๕) ในวาระนี้สันนิฐานว่า พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ โปรดเกล้าสถาปนา พระธรรมกิตติ ขึ้นเป็นสมเด็จชั้นสุพรรณบัฎที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี...และสันนิฐานว่าในวาระนี้ ได้โปรดเกล้าสถาปนาพระอาจารย์แสง หรือพระครูแสง หรือขรัวตาแสง วัดโสมนัสราชวรวิหาร กรุงเทพฯ ขึ้นเป็น พระครูมหิทธิเมธาจารย์ โปรดเกล้าตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะแก้ว หรือวัดมณีชลขันฑ์(สังกัดธรรมยุติ)เมืองลพบุรี..........ในปี ๒๔๐๙--๑๐ วัดไชโยฯได้บูรณะปฏิสังขรณ์วัดเพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ(รัชกาลที่๕) โดยมีท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯรับเป็นองค์อุปถัมภ์ ช่างได้สร้างพระพุทธรูปก่ออิฐสอปูน หน้าตาคล้ายท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาก ชาวบ้านจึงเรียกพระหลวงพ่อโต คงจะมีรูปทรงดูคล้ายๆพระพุทธรูปวัดกุฎีทอง และวัดกลางมั้งครับ....ปกติการสร้างพระพุทธรูปก่ออิฐสอปูนแต่โบราณ ช่างเขาต้องก่อลำตัวองค์พระทึบตันเพื่อความแข็งแรงคงทน ถ้าก่อเป็นโพลงไว้ตรงกลางเพื่อบรรจุพระพิมพ์เกือบแสนองค์ องค์พระจะมีความแข็งแรงรับน้ำหนักเศียรพระได้หรือ? โครงสร้างองค์พระก่อด้วยอิฐล้วนๆ ไม่มีโครงเหล็กผูกผยุงค้ำยันองค์พระ แล้วจะแข็งแรงได้อย่างไรครับ?.... เจ้าอาวาสวัดไชโยฯในสมัยนั้นน่าจะเป็นลูกศิษย์ หรือรู้จักสนิทสนมเคารพเลื่อมใสศรัทธาในท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมาก ในระหว่างการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯไม่ได้ขึ้นมาดูแลควบคุมด้วยตัวท่านฯเอง เพราะท่านปักหลักบูรณะปฏิสังขรณ์วัดอินทร์ บางขุนพรหมอยู่ก่อนแล้ว....จนถึงปี พ.ศ ๒๔๓๐ วัดไชโยฯได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ โปรดเกล้าให้ทำการบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯขึ้นใหม่หมดทั้งอาราม โปรดตั้งเจ้าพระยารัตนบดินทร์ (บุญรอด กัลยาณมิตร)สมุหนายก เป็นเเม่กองงาน ระหว่างบูรณะฯองค์หลวงพ่อโตแตกร้าวเสียหาย จึงโปรดให้ช่างรื้อองค์หลวงพ่อโตลงทั้งหมด ไม่มีบันทึกว่าพบพระพิมพ์แบบใดๆ ก่อนเข้าทำการบูรณะฯ ระหว่างบูรณะฯ และหลังการบูรณะฯเสร็จ ต้องจัดทำบันทึกรายการสิ่งของทรัพย์สินทุกชิ้นที่มี ที่พบในวัดไชโยฯขึ้นทูลเกล้าถวายรายงาน พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ แต่ไม่มีบันทึกพบพระพิมพ์ในองค์หลวงพ่อโตเลย....พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๕ โปรดให้สร้างพระพุทธรูปองค์ใหม่ขึ้นบนฐานเดิมหลวงพ่อโต โปรดให้พระองค์เจ้าประดิษฐวรการ ช่างปั้นฝีมือดีขึ้นไปช่วยสร้างพระพุทธรูป จำลองแบบมาจากพระประธานวัดกัลยณมิตร การบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไขโยฯแล้วเสร็จในปี พ.ศ ๒๔๓๘ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกลที่๕ โปรดให้ยกวัดไชโยวรวิหารขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นโท พระราชทานนามพระพุทธรูปนามว่า พระมหาพุทธพิมพ์ โปรดเกล้าสถาปนาพระมหาเกตุ(ป.ธ ๓)ขึ้นเป็น พระมหาพุทธพิมพาภิบาล โปรดเกล้าตั้งให้เป็นเจ้าอวาสวัดไชโยวรวิหาร แต่บัดนั้น. โปรดให้มีงานเฉลิมฉลองวัดใหม่ พระราขทานหนัง ๑ โรง ละคร ๑ โรง และอื่นๆช่วยงาน วัดไชโยฯคิดจะสร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบวัดใหม่บางขุนพรหม และวัดระฆังฯที่ท่านเจ้าประคุณเคยสร้างขึ้นไว้ จึงลงมาขอยืมบล็อคแม่พิมพ์แบบเจ็ดชั้นฯขึ้นไปสร้าง และแกะแม่พิมพ์แบบหกชั้นฯ และแบบอื่นๆเพิ่มเติม สร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบเจ็ดชั้นฯ แบบหกชั้นฯ และแบบอื่นๆแจกชาวบ้านเมืองไชโยตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา. ในระหว่างปี ๒๔๓๘--๔๐ วัดไชโยฯสร้างหล่อรูปเหมือนท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯขึ้นด้วยครับ........[3].สนามพระวิภาวดี สีกาอ่างบอกว่าน่าจะสร้างช่วงปลายของท่านฯคงจะเป็นช่วงปี ๒๔๑๓--๑๕ มั้งครับ สีกาอ่างยังบอกว่าพระสมเด็จวัดระฆังฯและวัดบางขุนพรหมสร้างก่อนพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯ มึนมั้ยครับ.....แล้วท่านลิเวอร์พลูเชื่อว่าพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯสร้างขึ้นในเวอร์ชั่นปีใหนครับ........ต้องขออภัยจิงๆจะเขียนสั้นๆกระชับๆ แต่พอเขียนจิงๆจบไม่ลงครับ5555555

 

วัดอินทร์ บางขุนพรพหม ชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา เพราะไม่มีเจ้านายฝ่ายลาวเวียงจันทร์ล้านช้างอุปถัมภ์อุปัฎฐาก คอยบูรณะปฏิสังขรณ์บำรุงซ่อมแซมวัดอินทร์เหมือนดั่งแต่ก่อนมา...ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม รับอุปถัมภ์อุปัฎฐากวัดอินทร์ บางขุนพรหม.....ท่านฯได้มาปักหลักบูรณะปฏิสังขรณ์ตั้งแต่ปีใดไม่ทราบแน่ชัด สันนิฐานว่าคงจะตั้งแต่ท่านฯยังเป็นพระเทพกวี หรือพระธรรมกิตติ. ช่วงระหว่างปี พ.ศ ๒๔๐๙--๑๐ ท่านฯน่าจะเริ่มวางฐานสร้างพระพุทธรูปปางป่าเลไลย์ที่วัดอินทร์... ถึงปี พ.ศ ๒๔๑๑ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ เสด็จสวรรคตในวันพฤหัสบดีที่๑ ตุลาคม พ.ศ ๒๔๑๑. ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯพร้อมด้วยชาวลาว ชาวสยามบ้านบางขุนพรหม พร้อมใจกันจะสร้างวัดใหม่ขึ้นถวายเพื่อเป็นพระราชกุศล รัขกาลที่๔ ณ.ขณะนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯมีอายุ๘๐ ปีชราภาพมากแล้ว จะไปหาที่ดินสร้างวัดใหม่ไกลจากวัดอินทร์ ก็จะเป็นการลำบากท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯเวลาเดินทางไปมาดูแลควบคุมการสร้างวัด ชาวบ้านบางขุนพรหมจึงได้ถวายที่ดิน ห่างจากวัดอินทร์ประมาณเส้นกว่าๆ....ลงมือสร้างวัดประมาณปี ๒๔๑๒--๑๔ สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมวัดบวรฯ วัดโสมนัสฯ และวัดมกุฎฯ มีเจดีย์ใหญ่เป็นประธาน ตาามคตินิยมแต่โบราณ ถ้าสร้างวัดเสร็จแล้วจะนิยมสร้างพระพิมพ์เนื้อดิน เนื้อชิน หรือเนื้อผง เท่าจำนวนพระธรรมขันธ์ บรรจุในเจดีย์เพื่อถวายเป็นพุทธบูขาและสืบทอดพระศาสนา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯจึงได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงพิมพ์ทรงต่างๆขึ้นจำนวนน่าจะครบ ๘๔๐๐๐ องค์ หลังบรรจุพระพิมพ์เนื้อผงไว้ในองค์เจดีย์เรียบร้อยแล้ว จัดให้มีงานเฉลิมฉลองวัดขึ้นวัดใหม่กันใหญ่โต ชาวบ้านเรียกวัดใหม่นี้ว่า วัดใหม่บางขุนพรหม. ต่อจากนั้นท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯไปบูรณะฯวัดระฆังฯเพื่อถวายเป็นพระราชกุศล รัชกาลที่๔ น่าจะเป็นช่วงสั้นๆประมาณปลายปี ๒๔๑๔--๑๕ เอามวลสารที่เหลือจากวัดใหม่บางขุนพรหมมาสร้าง เอาแม่พิมพ์ใหญ่ประธานของวัดใหม่ฯไปสร้าง และพิมพ์เจ็ดชั้นฯ สร้างจำนวนไม่มาก สร้างแล้วไม่ได้บรรจุในเจดีย์. มีพระเหลือ หรือตั้งใจไม่เอาลงบรรจุในเจดีย์วัดใหม่บางขุนพรหม คือ พิมพ์เจดีย์ พิมพ์เกศบัวตูม และพิมพ์ฐานแซม แต่ทุกวันนี้เขาตีเป็นของวัดระฆังฯสร้าง ก็ไม่ผิดกติกาใดๆครับ... ต่อมาประมาณปี พ.ศ ๒๔๖๐ ได้เปลี่ยนนามวัดเป็น วัดใหม่อมตรส หรือวัดใหม่อมตะรังสี เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ระลึกนึกถึงพระคุณของท่านเจ้าประคุณสมเด็็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี ผู้เป็นอมตะเถระแห่งแผ่นดินกรุงรัตนโกสินทร์........ขออภัยเขียนซักยืดยาว จบไม่ลงจิงๆครับ55555555555

 

ย้อนไป----เฉพาะช่วงสร้างหลวงพ่อโต ----- วัดไชโย อ่างทอง ครับ

 

อันนี้

ประวัติ ที่วัดไชโย เรียบเรียงขึ้น

 

ขออนุญาติน่ะครับ.ผมงงตอนตั้งสมณศักดิ์ จากพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพกวี ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระราชคณะชั้นสุพรรณบัฎที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ในหน้า ๖๙ มีประกาศแต่ไม่บอกปี ในหน้า๗๐ ลงเป็นปีชวด ๒๔๐๗ คงจะเป็นปีโปรดเกล้าสถานาขึ้นเป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์มั้งครับ... ลำดับสมณศักดิ์ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯน่าจะเป็นแบบนี้ครับ.... ถึงปี พ.ศ ๒๓๙๕ สมเด็จพระพนรัตน(ฤกษ์)เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม สิ้นพระชนม์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ จึงโปรดเกล้าสถาปนาพระครูโต พรหมรังสี วัดมหาธาตุ ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นเทพที่ พระเทพกวี..(ปัจจุบันนี้สมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นเทพมี ๖๖ รูป) ต่อมาถึงปี พ.ศ ๒๔๐๔ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ ได้รับโปรดเกล้าสถาปนาขึ้นเป็นเจ้าฟ้าต่างกรมที่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ...สันนิฐานว่าในวาระนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ โปรดเกล้าสถาปนาพระเทพกวี ขึ้นเป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่ พระธรรมกิตติ..(ปัจจุบันนี้สมณศักดิ์พระราชาคณะชั้นธรรมมี ๓๕ รูป)...ต่อมาถึงปี พ.ศ ๒๔๐๙--๑๐ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมหมื่นพิฆเนศวรสุรสังกาศ ได้รับโปรดเกล้าเฉลิมพระนามาภิไธยขึ้นเป็นที่ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ กรมขุนพินิตประชานาถ(รัชกาลที่๕)....สันนิฐานว่าในวาระนี้ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๔ โปรดเกล้าสถาปนาพระธรรมกิตติ ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฎที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)....(ปัจจุบันสมณศักดิ์สมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฎมี ๘ รูป)....ในหน้า๗๑ ถวายข้าวสารให้กับสมเด็จพระพุฒาจารย์?..ให้จ่าย ณ..ในวงเล็บลงปีเถาะ (พ.ศ ๒๔๓๐) ผมงงเลข พ.ศ ครับ พ.ศ ๒๔๑๐ หรือ ๒๔๓๐ กันแน่ครับ ผมเพ่งจนตาลายแล้ว เลขสามหรือเลขหนึ่งครับ....

 

ทีนี้

สร้างหลวงพ่อโต---วัดอิทรวิหาร

 

จดหมายเหตุรายวันรัชกาลที่ 5

ประพาสเมืองเหนือ แวะนมัสการหลวงพ่อโต วัดไชโย

 

อยากได้ประมาณเอกสารอ้างอิงแบบที่คุณ pmorn นำมาอะครับ
หรือ ถ้ามีแบบประมาณนี้จะดีมากเลยอะครับ (อิอิ นอกเรื่องนอกวัดครับ ต้นแบบที่พระเจ้าอยู่ ร.9 ทรงทำตามอย่าง พระเจ้าอยู่หัว ร.5 ในการพระราชทานจดบันทึกไว้ชัดเจนครับ)

 

อันนี้

เมื่อคราวเสด็จประพาสมณฑลอยุธยา




ให้เอกสารเสนอเรื่องราวเอาเองนะครับ
เพราะผมไม่มีความรู้เกี่ยวกับ พระสมเด็จ หรือ สมเด็จโต แต่อย่างใด
จึงไม่อาจเข้าร่วมวงเสวนาได้

พสมช อ่านและพิจารณากันเอาเองนะครับ

ด้วยความปรารถนาดีครับ

 

ถ้าเป็นบันทึกรายละเอียดพระราชทานพระชัยวัฒน์มงคลวรภรณ์ แบบในหนังสือตำนานพระชัยวัฒน์ และ พระแก้วประจำรัชกาล ของ ส.พลายน้อย คงไม่มีหรอกครับ การจดจารบันทึกเหตุการณ์เรื่องราวต่างๆมานิยมทำกันแพร่หลายในสมัยรัชกาลที่๕ นี้เองครับ เราจึงมีบันทึกพระนิพนธ์ พระราชหัตถเลขาของเจ้านายชนชั้นสูงให้เราได้อ่านกันครับ หลักฐานบันทึกการสร้างวัดใหม่บางขุนพรหม และสร้างพระพิมพ์เนื้อผงบรรจุในเจดีย์ คงมีแต่แผ่นลานเงินลานทองจดบันทึกไว้เท่านั้น แต่ถูกหัวขโมยเจาะฐานเจดีย์เข้าไปขนแผ่นลานเงินลานทองและของมีค่าในเจดีย์ออกมาขายหมดตั้งแต่ก่อนปี ๒๕๐๐ ครับ ก็ต้องใช้วิธีสันนิฐานตามหลักฐานเท่าที่มีอยู่ ต่อไปภายภาคหน้าถ้ามีหลักฐานหรือข้อมูลใหม่มาหักล้าง ก็ต้องถือเอาตามหลักฐานและข้อมูลชิ้นใหม่ครับ ไม่ใช่เชื่อแบบนั้นแบบนี้ไปตลอดชั่วชีวิต

 

อ่านบันทึกของวัดระฆังฯและวัดไชโยฯ บอกตรงกันว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯขึ้นมาสร้างพระพุทธรูปขึ้้นไว้ที่วัดไชโยฯ แต่ไม่มีบันทึกว่าท่านฯได้สร้างพระพิมพ์เนื้อผงแบบใดบรรจุในองค์หลวงพ่อโต บันทึกของวัดไชโยฯ บอกองค์หลวงพ่อโตพังเสียหายถึงสามครั้ง จนล้นเกล้ารัชกาลที่๕ โปรดให้รื้อองค์หลวงพ่อโตลงทั้งหมด แล้วโปรดให้สร้างพระพุทธรูปขึ้นใหม่บนฐานเดิมหลวงพ่อโต.......องค์หลวงพ่อโตพังแตกหักเสียหายถึงสามครั้ง แต่ไม่มีบันทึกว่าพบเห็นทรัพย์สินสิ่งของ หรือพระพิมพ์เนื้อผงแบบใดๆในองค์หลวงพ่อโตเลยซักครั้ง แล้วทำไมคนสมัยนี้จึงบอกว่าพบพระพิมพ์เนื้อผงแบบเจ็ดชั้นฯ และแบบอื่นๆแตกออกมาจากองค์หลวงพ่อโต วัดไชโยฯ ผมขออนุญาตินำภาพพระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯ องค์แชมป์ องค์สวยสุดๆในประเทศไทย พระที่สร้างขึ้นก่อนพระสมเด็จวัดใหม่บางขุนพรหม และพระสมเด็จวัดระฆังฯ หลายปี.... ขอขอบคุณสีกาอ่าง เจ้าของภาพพระทั้งหมด ขอบคุณครับ......

 

ขออนุญาติน่ะครับ ขอนำภาพมาให้ดูเทียบธรรมชาติความเก่าองค์ต่อองค์ ลองพิจารณาดูว่าองค์ใหนดูแล้วน่าจะเก่ากว่ากัน.......

 

ข้อนี้
ผมเห็นด้วยเลยครับ

ถ้าสมเด็จโตท่านทรงสร้างพระพิมพ์บรรจุไว้ในองค์พระใหญ่
พระพิมพ์คงหายไปหมด(ถูกชาวบ้านเก็บเอาไปเป็นเจ้าของ)
ตั้งแต่พระพุทธรูป(พระใหญ่)พังลงตั้งแต่ครั้งแรกแล้วครับ
หรือว่า
จะมีท่านใดเก็บรวบรวมพระพิมพ์ไว้ได้แล้วบรรจุคืน

(องค์พระใหญ่ที่สมเด็จโตสร้างไว้ พังลงเพราะแรงกระเทือนจากการตอกเสาเข็มเพื่อสร้างวิหาร)

ความเห็นส่วนตัวนะครับ
เพราะไม่ได้ศึกษามาก่อนเลย

ผมไม่ได้ชี้นำว่า
สมเด็จโต ท่านไม่ได้สร้างพระพิมพ์สมเด็จเกศไชโย
เหมือน สมเด็จวัดพระแก้ว หรือ สมเด็จพระธาตุพนม หรือ สมเด็จวังหน้า นะครับ


กระทู้ยังไม่จบ
เดี๋ยวโดนเซียนถล่มเอาอีก

.

 

ในบันทึกของวัดไชโยฯองค์หลวงพ่อโตพังลงสามครั้ง ในระหว่างบูรณะฯ ถ้ามีพระพิมพ์เนื้อผงบรรจุในองค์หลวงพ่อโตจิง อย่างน้อยต้องมีบันทึกไว้บ้างครับ ก่อนเข้าบรูณะฯต้องสำรวจก่อนว่ามีสิ่งปลูกสร้างอะไร ต้องรื้อ ต้องซ่อม ต้องเสริมอะไร พบสิ่งของภายในบริเวณวัดใชโยฯประกาศให้เป็นของหลวงหมด ต้องจัดทำบันทึกถวายรายงานล้นเกล้ารัชกาลที่๕ ใครจะหยิบจับสับเปลี่ยนเคลื่อนย้ายถ่ายเทออกไปนอกวัดคงทำไม่ได้ง่ายๆหรอกครับ เจ้าพระยารัตนบดินทร์ รอด กัลยณมิตร สมุหนายก ได้รับโปรดเกล้าให้เป็นแม่กองงานบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯ เป็นผู้มีอำนาจบัญชาการสั่งการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว ถ้ามีพระพิมพ์แตกออกมาจากองค์หลวงพ่อโตจิงๆ ผู้ที่มีอำนาจเก็บรักษาพระพิมพ์ก็น่าจะเป็นท่านสมุหนายก แม่กองงานบูรณะฯ หรือท่านอาจสั่งให้ใคร ฝ่ายใดนำไปเก็บรักษาไว้ก่อน แต่ก็น่าจะมีบันทึกบอกไว้บ้างน่ะครับ ชาวบ้านธรรมดาๆไม่มีใครกล้าหยิบฉวยออกมาเด็ดขาดครับ เพราะเขารู้ว่าเป็นของสำคัญมาก งานบูรณะปฏิสังขรณ์วัดไชโยฯเป็นงานที่สำคัญมาก ถึงขนาดล้นเกล้ารัชกาลที่๕ โปรดเกล้าตั้งระดับสมุหนายก เทียบเท่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มาเป็นแม่กองคุมการบูณะปฏิสังขรณ์...ขอบคุณท่านpmorm มากๆที่ไปค้นคว้าหาข้อมูลมาดีๆมีประโยชน์กับผู้ที่ศึกษามากจิงๆ ครับ....

 

(ต่อครับ)



.

 

5555+ ผมยิ่งอ่าน ผมก็ยิ่งงง อาจจะเป็นเพราะความรู้ผมมันมีน้อยเกินไปที่จะเข้าใจ แต่ถ้าบอกว่ามีการขนมวลสารเป็นโอ่งเป็นไหละก้อ เอาเป็นว่าผมยอมท่านละกันนะคับ จริงๆแล้วก็ไม่มีอะไรมากหรอกคับ แค่อยากจะให้ท่านเอาหลักฐานอะไรก็ได้ ตัดมาจากไหนก็ได้คับ เอามาอ้างอิงที่ท่านเล่ามายืดยาวนั้นหละ คืออยากจะให้เห็นภาพ มากกว่าตัวหนังสือ อย่างที่ท่านpmornเค้ากำลังตั้งใจทำนั้นหละ อีกอย่างนึงอย่าเอาคำอ้างจากเซียน พระหรือคอลัมนิสต์ต่างๆมาเกี่ยวข้องกันเลยนะคับ มันเหมือนกับการไปแอบอ้างและไปดิสเครดิตเค้า ซึ่งนั้นเป็นเส้นทางการทำมาหากินเค้า หากท่าน หรือใครๆจะนำเสนออะไร ในกระทู้นี้(ที่เชื่อว่าหลายคนคงอยากจะเค้ามาอ่าน) ก็ขอให้เอาภาพ หนังสือ มาอ้างอิง แล้วให้คนอ่านตัดสินใจจะดีกว่า นะคับ..

ที่ท่านถามผมว่า "พระพิมพ์เนื้อผงวัดไชโยฯสร้างขึ้นในเวอร์ชั่นปีใหน."นั้นผมตอบไม่ได้หรอกคับ ผมแค่คนทำมาหากินกับพระเครื่อง เท่านั้น เค้าเล่นกันแบบไหน เล่นกันยังงัย อันไหนที่เรียกว่าพระแท้ อันที่เรียกว่าพระเก็ เท่านั้นเอง ส่วนประวัติศาสตร์นั้นผมก็แค่อ่านเพื่อเป็นความรู้เท่านั้นเองและบางทีก็เอาไว้หลอกขายพระให้คนชอบฟังประวัติศาสตร์แถมด้วย. แฮะๆๆๆ

 

การสร้างพระพิมพ์เนื้อผงขึ้นบรรจุกรุตามคตินิยมมาแต่โบราณเป็นหมื่นๆองค์ คงไม่สร้างไป หามวลสารไป หามวลสารวันต่อวัน ครกต่อครกมั้งครับ คงต้องหาวัสดุมวลสารต่างๆมาเตรียมพร้อมไว้ก่อนแล้วเป็นโอ่งเป็นไห หรือเป็นกาละมังครับ ตอนเขาสร้างพระวัดใหม่บางขุนพรหมปี ๐๙ เขาเตรียมวัสดุมวลสารกันยังไงครับ.......สีกาอ่างเขียนลงในสนามพระวิภาวดี ไทยรัฐ ฉบับวันอาทิตย์ที่ ๔ ตุลาคม ๕๘. ลองเข้าไปอ่านดูน่ะครับ... อาจารย์ป๋อง สุพรรณ เขียนลงในเฟสบุ๊คของท่าน วันที่ ๒๓ มีนาคม ๕๙ ลองเข้าไปดูน่ะครับ. ผมแนบลิงค์มาให้อ่านไม่ได้มือถือผมรุ่นโบราณครับ..ท่านliverpool_pak อ่านประวัติศาสตร์ เพื่อเอาไว้ใช้หลอกขายพระให้คนที่ชอบฟังประวัติศาสตร์เท่านั้น จิงๆหรือครับ..ท่านพูดจิงหรือครับ 5555

 

ลิงก์อาจารย์ป๋อง สุพรรณ ครับ..https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=949450405174954&id=378493295604004