เรื่องเด่น ประมวลภาพพลังจิตธรรมสัญจร 55

แจ้งสรุปเิงินร่วมบุญทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๔)

ขอแจ้งยอดเงินที่ชาวคณะและกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมบริจาคทำบุญในพลังจิตธรรมสัญจร (๔) งานบวงสรวงไหว้ครู พุทธาภิเษก เป่ายันต์เกราะเพชรวัดท่าขนุน จ. กาญจนบุรี วันที่ ๒๘ ม.ค. ๕๕ เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบและอนุโมทนาบุญร่วมกัน ดังนี้

ถวายปัจจัยจากกองบุญพิเศษ ชุดที่ ๑ จำนวน ๘๔,๐๐๐ บาท ​

​

- ถวายปัจจัยร่วมบุญ "พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช ชุดที่ ๑" ที่จัดสร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลและ สร้างเพื่อเฉลิมพระเกียรติองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลย เดชมหาราช เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนม ๗ รอบ ๘๔ พรรษา ๘๔,๐๐๐ บาท
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ ๑๒,๐๐๐ บาท และตามอัธยาศัย

รวมเงินที่ชาวคณะเป็นตัวแทนถวายปัจจัยร่วมบุญ จำนวน ๙๖,๐๐๐ บาท


- กราบขอบพระคุณเว็บพลังจิต/วัดท่าขนุน/สะพานบุญ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มอบพื้นที่สำหรับกิจกรรมบุญในครั้งนี้
- กราบโมทนากัลยาณธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ ร่วมอนุโมทนาในครั้งนี้
- และขอขอบคุณสมาชิกทั้ง ๒๗๕ ท่านที่ไ่ด้ร่วมเดินทางสืบสานต่อกิจกรรมบุญกันตามธรรมะจัดสรร


พบกันใหม่กับกิจกรรมบุญ
ธรรมสัญจร (๕) มโน มยิทธิเต็มกำลังวัดจันทาราม (ท่าซุง)-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุทัย วัดสังกัสรัตนคีรี-หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ. อุทัยธานี-ชัยนาท ๑๒ ก.พ. คลิก



;aa59
* รับชมรูปภาพจากกล้องของคุณ aemie ได้ที่ คลิก
* รับชมรูปภาพจากกล้องของคุณอัสนี และประสบการณ์รับยันต์เกราะเพชรของเพื่อนสมาชิกได้ที่ คลิก

 

พี่จัดส่งให้ทาง PM มีจากกล้องของน้องอาร์ตนำไปลงใน facebook บางส่วนแล้ว พี่ยังไม่ได้ไป "สูบ" เอามา

ขออนุโมทนาและขอบคุณเป็นอย่างสูงค่ะ *-*

 

บันทึกการเดินทาง กับงานเปายันต์เกราะเพชรวัดท่าขนุน

​

คณะเว็บพลังจิตขอถ่ายภาพหมู่กับพระอาจารย์ไว้เป็นที่ระลึกก่อนเดินทางกลับกทม.

คืนวันศุกร์ที่ ๒๗ ม.ค. ๕๕ เวลา ๒๒.๐๐ น. ผู้จัดเดินทางไปถึงปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้าเพื่อรอรับสมาชิกทุกคนที่นั้น การเตรียมงานในปีนี้ค่อนข้างวุ่นวายพอสมควรเนื่องจากคนยังไม่นิ่งจนถึงวินาทีสุดท้าย แต่ด้วยความตั้งใจที่จะพาสมาชิกไปทำบุญให้ได้ทุกคน ผู้จัดก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบสไตล์ ญ.ผู้หญิงไปได้เรื่อย ๆ ตลอดเวลา

ก่อนเวลานัดหมาย สมาชิกทุกคนเดินทางมาเช็คชื่อเป็นระยะ ๆ จนทำให้พื้นที่ของปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้าคับแคบลงไปถนัดตา ๒๓.๐๐ น รถบัสปรับอากาศคันที่ ๑-๓ เดินทางมาถึง ได้แจ้งให้สมาชิกทุกคนในคันที่ ๑-๓ ขึ้นไปรอบนรถ ซึ่งระหว่างนั้นคันที่ ๔ และ ๕ ยังเดินทางมาไม่ถึง จวบจนใกล้เวลา ๒๔.๐๐ น. ก็ยังไม่มาได้ให้เจ้าหน้าที่บริษัทรถช่วยตามให้ ระหว่างนั้นเพื้อนสมาชิกที่รออยู่ ณ จุดที่ ๒ และ ๓ โทรมาสอบถามเป็นระยะ ๆ

๐๐.๒๐ น. รถบัสคันที่ ๔ และ ๕ เพิ่งมาถึง ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องเป็นเวลาล้อหมุน ไม่มีเวลาสอบถามถึงสาเหตุที่ล่าช้า ได้แจ้งให้สมาิชิกทุกคนขึ้นรถ แต่ปรากฎว่า รถที่นำมาผังที่นั่งกลับไม่ตรงกับที่ทางบริษัทแม่แจ้งไว้ เพียงเท่านั้น ความวุ่นวายโกลาหลเกิดขึ้นทันที่ ต้องรีบแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จัดคนให้ลงตัวและเกลี่ยลงไปยังรถตู้อีกส่วนหนึ่ง

๐๐.๔๐ น. ได้เวลาล้อหมุนออกจากปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า ช้ากว่าเวลาที่กำหนดไว้ ๒๐ นาที แวะรับเพื่อนสมาชิกที่จุดขึ้นรถที่ ๒ และ ๓ ตามลำดับ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่า ในจุดขึ้นรถที่ ๓ มีสมาชิกเข้าใจเรื่องจุดรอขึ้นถผิด ได้เข้าไปรออยู่ที่บริเวณชานชาลารถบัสปรับอากาศสายใต้ด้านใน ไม่ได้ออกมารอที่ป้ายโดยสารรถประจำทางด้านหน้าทำให้พลาดตกรถไปอย่างน่าเสียดาย และผู้จัดไม่สามารถให้รถบัสย้อนกลับไปรับได้ เนื่องจากต้องรีบทำเวลาชดเชยกับเวลาที่สูญเสียไป

ตลอดระยเวลาเดินทาง นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ มาตลอดทาง จวบจนเข้าเขตพุร้อนหินดาด พี่ญาติธรรมที่นับถือได้โทรมาแจ้งว่า พระอาจารย์ขึ้นศาลาและสังให้นำวัตถุมงคลเข้าพิธีแล้ว ผู้จัดดูเวลาพบว่าเป็นเวลา ๐๕.๐๐ น. ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากทุกครั้งจะนำวัตถุมงคลส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่เวลาประมาณ ๐๖.๐๐ น. เ็ป็นต้นไป ตัดสินใจไม่พักรถที่ปั้มน้ำมัน ปตท.ทองผาภูมิ แต่สั่งรถให้เข้าวัดทันที ผ่านพ้นเข้าซุ้มประตูวัดในเวลา ๐๕.๒๐ น.

ลงจากรถสั่งสมาชิกทุกคนให้นำวัตถุมงคลขึ้นศาลา จับจองที่นั่งก่อนลงไปทำธุระส่วนตัว เพียงสมาชิกทุกคนขึ้นศาลาได้ไม่นาน ผู้คนจากทุกสารทิศเริ่มทะยอยเดินทางมาถึง ศาลาเริ่มคับแคบลงไปเรื่อย ๆ จนทำให้ครั้งแรกที่สมาิชิกทุกคนจะรวมเงินทำบุญ ต้องกลายเป็นให้ทำกันตามอัธยาศัย เพราะถ้าลุกจากที่นั่ง นั้นคือการเสียม้า และตามกำหนดการเดิม ผู้จัดและชาวคณะทุกคนจะร่วมกันถวายพานไหว้ครู-ปัจจัยทำบุญ ก็กลายเป็นผู้จัดเป็นตัวแทนของทุกคนนำกราบถวาย
​

 

เวลา ๗.๓๐ น.เริ่มพิธีบวงสรวงไหว้ครูประจำปีและพุทธาภิเษกวัตถุมงคล



​

๐๗.๓๐ น. พิธีพุทธาภิเษกเริ่มขึ้น พระอาจารย์ท่านเป็นคนตรงต่อเวลา เพราะฉะนั้น พิธีการงานพุทธาภิเษกบวงสรวงไหว้ครู เป่ายันต์เกราะเพชรวัดท่าขนุนของทุกปีจะถูกกำหนดในเวลานี้เสมอ เรียกได้ว่าเป็นการกำหนดเวลา "ตายตัว"

หลังเสร็จสิ้นพิธีการพุทธาภิเษก มีเวลาพักให้ลงไปรับประทานอาหาร-ทำธุระส่วนตัว แต่เนื่องจากปีนี้มีผู้คนเดินทางมาร่วมงานมาก ทำให้แม้กระทั่งเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษกผู้คนบนศาลาก็ยังนั่งกันหนาแน่นไม่มีการขยับขยาย

๑๐.๐๐ น. เข้าสู่พิธีเป่ายนต์เกราะเพชรรอบแรก ผู้จัดได้ลงมานั่งรับกับพี่-เพื่อน-น้อง ๆ ชาวสะพานบุญที่ซุ้มเสื้อกระโถนข้างธรรมาสน์ เพราะมารับทุกปีเลยไม่ค่อยกังวลเรื่องสถานที่นัก ปล่อยพื้นที่บนศาลาให้กับคนที่เคยมาเป็นครั้งแรกจะได้นั่งกันสบาย ๆ เสร็จพิธีมีสมาชิกหลายคนมาเล่าว่า ทำไมไม่เห็นมีอาการเหมือนที่พระอาจารย์บอก ทำให้เขาไม่แน่ใจว่ายันต์เข้าตัวเขาหรือไม่ ตัดสินใจขึ้นไปกราบเรียนพระอาจารย์ว่า "สมาชิกเว็บพลังจิตจะอยู่รับรอบบ่ายอีก ๑ รอบ ให้สมาชิกทุกท่านแจ้งความประสงค์กับผู้จัดได้ที่ซุ้มเสื้อกระโถนข้าง ธรรมาสน์" สมาชิกหลายคนเข้ามาแจ้ง และอีกหลายคนไม่ได้ยินประกาศ ไม่ทราบข่าวแต่ก็ได้ใช้วิธีการบอกต่อ ๆ กันไป ระหว่างนั้นได้แจ้งให้สมาชิกหลายคนไปรับประทานอาหารและเดินไหว้พระสักการะ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ภายในบริเวณวัด หลายคนมาถามถึงเส้นทางขึ้นเขาพระพุทธเจติยคีรี ผู้จัดได้แต่บอกเส้นทางไป แต่ขออนุญาตไม่นำทาง เพราะขึ้นบ่อยจนรู้ว่าถ้าขืนให้ผู้จัดเดินขึ้นตอนเที่ยง กลับมาคงเกิดอาการลิ้นห้อย นั่งหอบเป็นแน่แท้เพราะสังขารที่แก่ขึ้นทุกวัน(eek)

 

เวลา ๑๓.๐๐ น. เริ่มพิธีรับยันต์เกราะเพชรในช่วงบ่าย

๑๓.๐๐ น. พิธีการเป่ายันต์เกราะเพชรในรอบบ่ายเริ่มขึ้น ซึ่งช่วงก่อนพิธีพระอาจารย์ท่านได้อธิบายถึงวิธีการรักษายันต์ และความรู้ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับยันต์เกราะเพชรอีกมายมาย รอบนี้ผู้จัดได้ขึ้นมานั่งรับบริเวณด้านหลังศาลาหน้าตู้วัตถุมงคลเพราะ พื้นที่มีเพียงพอ หลังจากพิธีการรับยันต์เพิ่งเริ่มได้ไม่นาน ได้ยินเสียงคนที่ถูกคุณไสย-ถูกของส่งเสียงออกอาการแตกต่างกันไป พร้อม ๆ กับเสียงสุนัขในวัดหอนรับเสียงร้องของคนถูกคุณไสย-ถูกของเป็นระยะ ๆ

จวบจนพระอาจารย์สั่งใหค่อย ๆ ถอนสมาธิออก ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีการรับยันต์เกราะเพชรรอบสองอย่างสมบูรณ์ ปีนี้เป็นปีแรกในรอบหลายสิบปีที่มีเสาร์ ๕ และมีการเป่ายันต์เกราะเพชรถึง ๓ ครั้ง ซึ่ง ถือว่าเป็นปรากฎการณ์ที่น้อยมากเนื่องจากทุกปี ถ้าไม่มีการเป่าเพียง ๒ ครั้ง ก็เพียง ๑ ครั้งเพราะฉะนั้นถือว่า "เป็นปีที่แรงพอสมควร" การที่ผู้จัดได้ตัดสินใจให้สมาชิกทุกคนอยู่รับยันต์เกราะเพชรถึง ๒ รอบ (เช้า-บ่าย) ก็เพื่้อเป็นการย้ำความมั่นใจ แน่ใจของทุกคนว่าได้รับยันต์หรือยันต์เข้าตัวแน่นอน และเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กับสมาชิกอีกหลายคนที่เพิ่งเดินทางมารับเป็น ครั้งแรก หรือไม่ว่างหรือไม่สะดวกกับการเดินทางมารับการเป่ายันต์เกราะเพชรในคร้งที่ ๒ คือวันที่ ๒๓ มิ.ย. และครั้งที่ ๓ คือวันที่ ๒๐ ต.ค. ได้มีโอกาสซ้ำเลยในครั้งนี้

๑๓.๔๐ น. ชาวคณะทุกคนร่วมกราบลาพระอาจารย์และขออนุญาตถ่ายภาพเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะแจ้งให้สมาิชิกทุกคนขึ้นรถ เดินทางไปยังสถานที่ต่อไป คือร้านอาหารโรงงานวุ้นเส้นท่าเรือ เพื่อพักรถรับประทานอาหารและซื้อของฝาก

ตลอดเส้นทาง สมาชิกทุกคนนั่งหลับไหล พักผ่อนเก็บแรงกันมาเต็มที่ จวบจนถึงร้านอาหารในเวลา ๑๖.๓๐ น. ให้เวลาที่นี่ ๕๐ นาทีสั่งให้ทุกคนรับประทานอาหาร-ซื้อของฝากและพร้อมกันที่รถ

๑๗.๒๐ น. ได้เวลารถพร้อม-คนพร้อม ร่ำลาและขออนุโมทนาและขออโหสิกรรมสมาชิกทุกคนบนรถแต่ละคันเสร็จ ก็ได้เวลาล้อหมุนออกจากร้านอาหารและให้รถจัดส่งสมาชิกทุกคนลงตามจุดต่าง ๆ ทั้งจุัดที่ ๓ และ ๒ ถึงปั้มน้ำมัน ปตท.สนามเป็าที่เป็นจุัดสุดท้ายในเวลา ๑๙.๒๐ น รอจนรถบัสอีก ๔ คันพร้อมทั้งรถตู้ส่งสมาชิกทุกคนเสร็จ ก็ได้เวลาทีู่ผู้จัดเดินทางกลับถึงบ้านโดยสวัสดิภาพในเวลา ๒๐.๓๐ น. เป็นอันปิดทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๔) อย่างบริบูรณ์

กราบอนุโทนาและกราบขอบพระคุณในความเมตตาของพระอาจารย์ที่มีต่อลูกศิษย์ผู้นี้ตลอดมา
ขออนุโมทนาและขอขอบคุณเว็บสโนว์ที่ได้จัดทำเว็บธรรมะดี ๆ ที่ทำให้เป็นแหล่งรวมธรรมะ และแหล่งรวมกัลยาณธรรม ญาติธรรม
ขออนุโมทนาและขอขอบคุณพี่-เพื่อน-น้องสมาชิกทุกท่านที่ได้ร่วมเดินทางในครั้งนี้
ขออนุโมทนาและขอขอบคุณผู้ดูแลทั้ง ๕ ท่านที่ช่วยกันดูแลเพื่อนสมาชิกอย่างดีเยี่ยมและแบ่งเบางานของผู้จัดให้เกิด ความคล่องตัวในการทำงาน
และสุดท้ายขอบคุณตัวเองที่โชคดีที่ได้เกิดมาเป็นคน ทำให้สามารถปฎิบัติได้เต็มกำลังทั้งทาน ศีล ภาวนาและได้มีโอกาสทำงานรับใช้พระพุทธศาสนาเต็มความสามารถ.........จนกว่า ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน

ญ.ผู้หญิง
๓๐ ม.ค.๕๕
​

​

 

แจ้งสรุปเงินร่วมบุญทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๕)

ขอแจ้งยอดเงินที่ชาวคณะและกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมบริจาคทำบุญในพลังจิตธรรมสัญจร (๕) มโนมยิทธิเต็มกำลังวัดจันทาราม (ท่าซุง)-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิืคู่บ้านคู่เมืองอุทัย วัดสังกัสรัตนคีรี-หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.อุทัยธานี-ชัยนาท วันที่ ๑๒ ก.พ. ๕๕ เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบและอนุโมทนาบุญร่วมกัน ดังนี้

สมเด็จองค์ปฐม ​

​

- ถวายเครื่องสักการะสมเด็จองค์ปฐม วิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ และทุกบุญ วัดจันทาราม (ท่าซุง) ๙,๕๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดสังกัสรัตนคีรี ๒,๕๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ๒,๕๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- สมาชิกทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๕) ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพไทยทานงานพิธีพุทธาภิเษกรูปหล่อพระศรีอาริยเมตไตรย์ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ๑๐,๐๔๐ บาท

รวมเงินที่ชาวคณะเป็นตัวแทนถวายปัจจัยร่วมบุญ จำนวน ๒๔,๕๔๐ บาท


- กราบขอบพระคุณเว็บพลังจิต/วัดท่าขนุน/สะพานบุญ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มอบพื้นที่สำหรับกิจกรรมบุญในครั้งนี้
- กราบโมทนากัลยาณธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ ร่วมอนุโมทนาในครั้งนี้
- และขอขอบคุณสมาชิกทั้ง ๕๑ ท่านที่ไ่ด้ร่วมเดินทางสืบสานต่อกิจกรรมบุญกันตามธรรมะจัดสรร


พบกันใหม่กับกิจกรรมบุญ
ธรรมสัญจร (๖) นมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)-ไหว้พระสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์-ย่ำทะเลจันท์ จ.จันทบุรี ๑๗-๑๘ ก.พ. คลิก[/COLOR]



;aa59
* เตรียมรับชมรูปภาพจากกล้องของสมาชิกได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้

 

บันทึกการเดินทาง กับมโนมยิทธิเต็มกำลังวัดท่าซุง

ทริปนี้แรกเริ่มเดิมที่ จัดตั้งอยู่ในปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร ๕๔ แต่เนื่องจากวัดท่าซุงประสบปัญหามหาอุทกภัยใหญ่ จึงทำให้ต้องเลื่อนการจัดงานธุดงค์วัตรมาเป็นเดือน ก.พ. และมโนมยิทธิเต็มกำลังก็ตกมาอยู่ในช่วงนี้ด้วย

ก่อนวันเดินทาง ผู้จัดได้เตรียมความพร้อมของจิตใจไว้พอสมควร แต่เนื่องจากเคยเดินทางไปร่วมพิธีทุกปีก็เลยไม่มีอะไรต้องกังวล มีเพื่อนสมาชิกหลายท่านที่เพิ่งเคยเดินทางไปครั้งแรก โทรมาสอบถามและโพสต์ถามถึงวิธีการเตรียมตัว ก็ได้ตอบให้ทราบไป..... วันเดินทาง ๕๕ ชีวิตพร้อมกันที่ปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า มีสมาชิกที่งานเข้ากระทันหันร่วมเดินทางไม่ได้ ๓ คน ทำให้เหลือสมาชิกร่วมเดินทางเพียง ๔๒ คน ได้แจ้งให้ทุกคนทราบถึงกำหนดการ และวิธีการพร้อมทั้งแจกแผนที่วัดท่าซุึงให้คนละ ๑ แผ่นเืพื่อใช้ดู

๑๐.๐๐ น. เดินทางถึงวัดท่าซุง สมาชิกทุกคนแยกย้ายกันไปรับประทานอาหาร ไหว้พระ-ทำบุญตามอัธยาศัย ผู้จัดและสมาชิกส่วนหนึ่งเป็นตัวแทนขาวคณะร่วมกันถวายเครื่องสักการะสมเด็จองค์ปฐม และทำบุญทุกบุญของทางวัด

๑๑.๓๐ น. พร้อมกันที่ศาลา ๑๒ ไร่ เพื่อเตรียมตัวเข้ามโนม ฯ เต็มกำลัง ผู้คนหนาแน่นเต็มพื้นที่ศาลา พระท่านประกาศแจ้งถึงการเตรียมตัว การเตรียมกำลังใจ พร้อมเปิดเสียงหลวงพ่อ

๑๒.๐๐ น. พิธีเริ่ม ระหว่างช่วงพิธี เสียงของผู้เข้าร่วมพิธีส่งเสียงร้องต่าง ๆ นานามาจากทั่วสารทิศ แต่ผู้จัดไม่ได้ใส่ใจ กำหนดจิตขึ้นข้างบน ตั้งเวลาไว้ ๑.๓๐ ชม.

๑๓.๓๐ น. ถอนจิตออกจากสมาธิ หลายคนก็เริ่มทะยอยถอนออกมา จนพระท่านประกาศให้ถอนสมาิธิ ร่วมกันแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล และไหว้พระร่วมกันเป็นอันเสร็จพิธีฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง

ชาวคณะฯ หน้าบันไดทางขึ้นเขาสะแกกรัง วัดสังกัสรัตนคีรี
​

๑๔.๑๕ น. พร้อมกันที่รถล้อหมุนไปยังวัดสังกัสรัตนคีรี ซึ่งเป็นสถานที่ต่อไป ชาวคณะฯ ร่วมกันไหว้พระพุทธมงคล ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองอุทัย ถวายสังฆทานและปัจจัยทำบุญ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัด สมาชิกทุกคนพร้อมใจกันลงมติเป็นเอกฉันท์ที่จะไม่เดินขึ้นเขา ได้แจ้งทุกคนว่า ไว้จะพามาขึ้นช่วงเช้า กับทริปธรรม ฯ ในเดือน มี.ค. ที่จะมาร่วมพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์ และทำบุญฉลองสมณศักดิ์ท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล (หลวงพ่ออนันต์)

๑๖.๐๐ น. เดินทางถึงวัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเ็ป็นสถานที่สุดท้ายในกิจกรรมบุญนี้ ผู้จัดให้เวลาทุกคน ๑ ชั่วโมง ชาวคณะเป็นตัวแทนร่วมกันถวายสังฆทานและปัจจัย กราบรูปหล่อหลวงปู่ศุขและำทำบุญกันตามอัธยาศัย....ก่อนที่จะแยกบ้ายกันไปหาอาหารรับประทาน ชมวิวยามเย็นริมคลองมะขามเฒ่า ให้อาหารปลา ครบตามกำหนดเวลานัดหมาย คนพร้อม รถพร้อม ล้อหมุนออกจากวัด เดินทางกลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพในเวลา ๑๙.๑๐ น. เป็นอันจบกิจกรรมบุญนี้อย่างบริบูรณ์

ญ.ผู้หญิง
๑๓ ก.พ. ๕๕

 

แจ้งสรุปเงินร่วมบุญทริปพลังจิตธรรมสัญจร (๖)

ขอแจ้งยอดเงินที่ชาวคณะและกัลยาณธรรมทุกท่านร่วมบริจาคทำบุญในพลังจิตธรรมสัญจร (๖) นมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)-ถวายผ้าป่าท่านพ่อเขียน-วัดเขาสุกิม จ. จันทบุรี วันที่ ๑๗-๑๘ ก.พ. ๕๕ เพื่อให้ทุกท่านได้รับทราบและอนุโมทนาบุญร่วมกัน ดังนี้

ผ้าป่าสามัคคีถวายท่านพ่อเขียน วัดกระทิิง ​

​

- ถวายผ้าป่าสามัคคีท่านพ่อเขียน วัดกระทิง ๑๗,๑๐๐ บาท
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดกระทิง ๒๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดพลวง ๒๐๐ บาท และตามอัธยาศัย
- ถวายวิหารทาน ธรรมทาน สังฆทาน ชำระหนี้สงฆ์ วัดเขาสุกิม ๒,๔๐๐ บาท และตามอัธยาศัย

รวมเงินที่ชาวคณะเป็นตัวแทนถวายปัจจัยร่วมบุญ จำนวน ๑๙,๙๐๐ บาท


- กราบขอบพระคุณเว็บพลังจิต/วัดท่าขนุน/สะพานบุญ และเจ้าหน้าที่ที่ได้มอบพื้นที่สำหรับกิจกรรมบุญในครั้งนี้
- กราบโมทนากัลยาณธรรมทุกท่านที่ได้ร่วมบุญ ร่วมอนุโมทนาในครั้งนี้
- และขอขอบคุณสมาชิกทั้ง ๕๐ ท่านที่ไ่ด้ร่วมเดินทางสืบสานต่อกิจกรรมบุญกันตามธรรมะจัดสรร


พบกันใหม่กับกิจกรรมบุญ
เดือน ก.พ.
กิจกรรมบุญพิเศษ บุญด่วน!.... ขอเรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพไทยทาน วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ปิดรับ ๒๔ ก.พ. คลิก

ธรรมสัญจร (๗) นมัสการสักการะพระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์-พระพุทธบาทสระบุรี-พิธีพุทธาภิเษกพระศรีอาริยเมตไตรย์ วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ๒๕-๒๖ ก.พ. คลิก

เดือน มี.ค.
กิจกรรมบุญพิเศษ เรียนเชิญร่ามบุญพิเศษ น้อมรับ "พระขรรค์โสฬส ๘๔ พรรษาธรรมิกราช" วัดท่าขนุน มูลค่า ๘๔,๐๐๐ บาทเป็นทีระลึก ชุดที่ ๓ ประกาศผล ๑๖ มี.ค. คลิก

ธรรมสัญจร (๘) ประเพณีเตียวขึ้นดอย สรงน้ำพระพุทธบาทสี่รอย วัดพระพุทธบาทสี่รอย จ. เชียงใหม่ ๖-๗ มี.ค. คลิก

ธรรมสัญจร (๙) พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์-ท้าวเวหน-ทำบุญฉลองสมณศักดิ์ท่านเจ้าคุณภาวนากิจวิมล (อนันต์ พุทธญาโณ) วัดจันทราราม(ท่าซุง)-ล่องเรือชมวิถีไทยแม่น้ำสะแกกรัง-วัดสังกัสรัตนคีรี ๑๗-๑๘ มี.ค. คลิก

ธรรมสัญจร (๑๐) พิธีสืบชะตาครูบาวิจิตร มนูญโญ วัดกูเตอร์โกลด์-กิจกรรมบุญสาธารณะประโยชน์เด็กชาวเขา-นมัสการพระธาตุดอยหินกิ่ว (อินทร์แขวนเมืองไทย)-วัดมณีไพรสณฑ์-ตลาดริมเมย จ. ตาก ๒๔-๒๕ มี.ค. คลิก



;aa59
* เตรียมรับชมรูปภาพจากกล้องของสมาชิกได้ที่นี่เร็ว ๆ นี้

 

บันทึกการเดินทาง กับงานนมัสการพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)

....กิจกรรมบุญนี้เป็นกิจกรรมบุญที่ได้เดินทางไปในช่วงเทศกาล "ปิดป่านมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวง (คิชฌกูฎ)" ของทุกปี ปีนี้ก็เช่นเดิียวกัน เนื่องจากทราบดีว่ากิจกรรมบุญต่าง ๆ ของครูบาอาจารย์หลายองค์ในปีนี้มีมาก เมื่อตั้งใจไปกราบและร่วมงานจึงทำให้ต้องเกิดอาการชีพจรลงเท้า......ออกเดินทางในทุกสัปดาห์ และของพระพุทธบาทพลวงก็เช่นเดียวกันได้กำหนดวันเดินทางตามปฎิทินพลังจิตธรรมสัญจร ๕๕ ไว้เป็นเดือน ก.พ. โดยจัดให้ตรงกับงานวันมุฑิตาจิตสักการะท่านพ่อเขียน (๑๘ ก.พ.)

ในวันปิดรับ สมาชิกมีแจ้งความประสงค์ร่วมเดินทางเพิ่มอีกหลายท่าน ซึ่งครั้งแรกที่แจ้งว่ารถเต็มรองรับได้เพียง ๓ ที่นั่ง แต่มีสมาชิกหลายท่านเพิ่งจะเคยเดินทางไปครั้งแรกแจ้งความประสงค์เข้ามาเพิ่มถึง ๗ คน จึงได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงขนาดรถเป็นรถบัสปรับอากาศ ๒ ชั้นให้และเต็มบริบูรณ์ไปในที่สุด

เย็นวันศุกร์ ก่อนเดินทางไม่กี่ชั่วโมงเกิดฝนตกหนักในพื้นที่กรุงเทพหลายแห่งและตกหนักมากที่จังหวัดชลบุรี ได้แต่คิดว่าถ้าฝนตกหนักมากจะขึ้นเขากันได้หรือ.... ผลปรากฎว่า เมื่อสมาชิกเดินทางไปถึงในเวลากลางคืน รถงดวิ่งขึ้นเขาเนื่องจากถนนลื่นและเสี่ยงต่ออันตราย เดิมทีคิดว่าจะรอ....แต่เนื่องจากทราบว่าสมาชิกหลายคนตั้งใจเดินทางมา กำลังใจและความตั้งใจของแต่ละคนสูงมาก ไม่กริ่งเกรงต่อสภาพฝนและดินฟ้าอากาศ จึงได้ตัดสินใจที่จะพาทุกคนขึ้นไปกับรถที่สามารถวิ่งพาขึ้นไปได้ แต่ผลปรากฎว่าต้อง "รอนาน" เลยพาทุกคนกลับมานอนพักผ่อนเอาแรงที่วัดก่อนที่จะดูสถานการณ์กันใหม่ในเช้าวันรุ่งขึ้น.....

เวลา ๐๓.๐๐ น. ฝนที่หยุดตกไปนาน เกิดตกขึ้นมาใหม่ ท้องฟ้าปิด วัดประกาศงดจัดรถวิ่งขึ้นเขา จนกว่าจะเช็คสภาพเส้นทางได้ว่าปลอดภัย ระหว่างที่นั่งคุยกันมีสมาชิกหลายคนแจ้งว่าถ้าวันนี้ยังไม่ได้ขึ้นเขาให้ผู้จัด จัดรถพามาใหม่...ได้ตอบไปว่าขอดูเวลาและเหตุการณ์หน้างานสักนิด ถ้าวันนี้สมาชิกทุกคนขึ้นเขาไม่ได้จริง ๆ อาจจะจัดรถพาทาทำบุญกันอีกครั้ง และเจาะจงมาเฉพาะนมัสการพระพุทธบาทพลวง ......

ระหว่างนั้นสมาชิกช่วยกันจุดพุ่มผ้าป่า และต่อบุญกันอย่างเต็มใจ เต็มกำลัง เต็มพลังศรัทธาของแต่ละคน แจ้งสมาชิกทุกคนว่าใครจะอาบน้ำให้รีบอาบ ใครหิวให้ลงไปรับประทานอาหารที๋โรงทาน เวลา ๐๘.๓๐ น. จะพร้อมกันที่ศาลาสังเวชนียสถานเพื่อร่วมกันถวายผ้าป่ากับคณะพระสงฆ์ที่เ่ป็นตัวแทนของท่านพ่อเขียน เนื่องจากท่านพ่ออาพาธนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และกำหนดการเดินทางในทริปนี้ทุกอย่างจะอิงตามสถานการณ์หน้างาน ชนิดที่สามารถเปลี่ยนแปลงให้เหมาะสมได้ทุกเวลา และอาจจะเลื่อนเวลาเดินทางกลับกรุงเทพฯ ช้าขึ้น ทุกคนรับทราบและลงมติเป็นเอกฉันท์

๐๙.๐๐ น. หลังจากชาวคณะเป็นตัวแทนร่วมกันถวายผ้าป่าเสร็จ ผลปรากฎว่ารถวิ่งขึ้นเขาได้ จัดแจงแจ้งความประสงค์ว่าจะขึ้นและได้รับความอนุเคราะห์จากวัดจัดรถให้กับชาวคณะฯ ทั้ง ๕๐ ชีวิตทันที

๐๙.๓๐ น. ตลอดเส้นทางฝนตกพรำ ๆ สลับกับหนักเป็นระยะ รถใช้ความเร็วและความระมัดระวังในการขึ้นเขา สมาชิกทุกคนสวมใส่เสื้อกันฝนและกันโคลนที่จะกระเด็นมาเปรอะเปื้อนเสื้อผา ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นเขา ต้องผจญทั้งลมและฝนแต่ทุกคนก็ยังยิ้มสู้ ไม่มีถอย กำลังใจดีกันจริง ๆ

๑๐.๐๐ น. เดินทางถึงจุดจอดรถลานพระสีวลี แจ้งทุกคนให้รับถุงหิน-ทรายคนละ ๒ ถุงเพื่อช่วยกันถือขึ้นไปบนยอดเขาที่ท่านพ่อเขียนมีโครงการจะสร้างศาลาต่าง ๆ ระยะทางที่จะต้องเดินเท้า ๑,๒๐๐ เมตร ให้เวลาทุกคน ๑.๓๐ ชั่วโมง สำหรับการเดินทางไป-กลับ เมื่อถึงยอดเขากราบนมัสการสักการะรอยพระพุทธบาท-ทำบุญตามอัธยาศัยเสร็จแล้วให้รีบกลับลงมา ไม่ต้องเดินทางต่อไปผ้าแดงเนื่องจากเส้นทางไกล หมอกลงจัด สภาพเส้นทางแคบและลื่นอาจจะทำให้พลาดล้มหรือไถลตกเขาได้และประการที่สำคัญ รถที่จะใช้เดินทางลงจากเขามีไม่เพียงพอ.... เนื่องจากสภาพฝนตกถนนลื่นทำให้รถส่วนมากหยุดวิ่งและเหลือรถที่ใช้วิ่งขึ้น-ลงรับส่งคนไม่มากนัก

๑๑.๓๐ น. มีสมาชิกมาพร้อมกันที่จุดนัดพบไม่ถึง ๑๐ คน ตัดสินใจแจ้งทุกคนให้ทะยอยลงจากเขาโดยไม่ต้องรอ เมื่อถึงวัดให้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนที่จะพร้อมกันที่รถในเวลา ๑๓.๐๐ น. เพื่อเดินทางไปรับประทานอาหารกลางวันกันต่อ ระหว่างนั้น สมาชิกทะยอยลงกันมาเป็นระยะ ๆ จนเวลา ๑๔.๐๐ น. สมาชิกยังลงมาไม่ครบ ขาดไปถึง ๙ คน รีบโทรติดต่อทราบว่ายังอยู่บนเขาและทราบภายหลังว่าทั้ง ๙ คนได้เดินเท้าต่อไปยังผ้าแดงด้วยความไม่รู้และคิดว่าจะทำเวลากลับลงมาได้ทัน..... ตัดสินใจแจ้งไปว่า....ไม่รอ ให้ทุกคนดูแลตัวเอง รวมตัวกันให้ติด รีบนั่งรถลงเขาและเมื่อลงมาถึงให้นั่งรอที่วัด....ช่วงนี้จะพาสมาชิกในรถไปรับประทานอาหารกันก่อน เสร็จแล้วจะแวะกลับมารับพร้อมข้าวกล่อง

ไร้เสียงพูดคุย กับบรรยากาศในร้านอาหาร
​

๑๕.๐๐ น. เดินทางถึงร้านอาหารยายตุ๊ซีฟู้ด ซึ่งเป็นร้านขึ้นชื่อของหาดเจ้าหลาว ๔๑ ชีิวิต กับอีก ๒ พนักงานขับรถ นั่งรับประทานอาหารกันด้วยความเอร็ดอร่อยเพราะความหิว จบจากอาหารมื้อกลางวันที่กลายมาเป็นมื้อบ่าย ได้เวลาเดินทางกลับมารับสมาชิกอีก ๙ คนในเวลา ๑๗.๐๐ น. ก่อนที่จะพาทุกคนไปกราบนมัสการสักการะิสรีระหลวงพ่อสมชายและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดเขาสุกิม โดยต้องตัดวัดพลับออกเนื่องจากเวลาไม่พอ

๑๘.๔๕ น. ได้เวลาล้อหมุนออกจากวัดเขาสุกิม สมาิชิกเกือบทุกคนหมดสภาพ นอนหลับกันมาตลอดทาง แวะส่งสมาชิกทุกคนตามจุดลงรถที่สาม สองและเดินทางถึงปั้มน้ำมัน ปตท. สนามเป้า ซึ่งเป็นจุดสุดท้าย ส่งทุกคนกลับบ้านเสร็จก็ได้เวลาทีู่ผู้จัดจะเดินทางกลับถึงบ้านในเวลา ๒๓.๐๐ น. เป็นอันปิดทริปธรรมสัญจร (๖) นมัสการสักการะพระพุทธบาทพลวงอย่างบริบูรณ์

ญ.ผู้หญิง
๑๙ ก.พ.๕๕