เรื่องเด่น ประมวลภาพพลังจิตธรรมสัญจร 55

เดินผ่านประตูข้างวัดมาเป็นทางไปสถานปฏิบัติธรรมของวัด ช่วงนี้พระภิกษุสงฆ์มาอยู่ปริวาสกรรมพอดีครับ และที่เห็นทิวเขาริบๆสลับซับซ้อนนั่นแหละที่หมายที่เราจะเดินเท้าขึ้นดอย

















ใกล้เวลาพิธีบวงสรวงประชาชนทั้งบ้านใกล้-ไกล แถมต่างจังหวัด เริ่มทะยอยมาจนเริ่มแน่นบริเวณพิธี
​

 

พระอุโบสถ ยามเย็น





ทำพิธีบรรจุหัวใจพระพุทธเจ้า ที่องค์พระเจ้าอินทร์สาน



เลื่อน ขบวนกลอง ที่ร่วมพิธี













​

 

น้องธงธง ก็มาร่วมพิธี











​

 

​

 

​

 

เมื่อเสร็จพิธีบวงสรวง ครูบาเจ้าพรมน้ำพระพุทธมนต์ เตรียมการเคลื่อนขบวน

เชือกชักลากล้อเลื่อน พระเจ้าอินทร์สาน มีความยาวไม่พอต่อพุทธศาสนิกชน จนต้องเอามาต่อเพิ่ม











เคลื่อนในหมู่บ้านต้องเตรียมนำไม้มาค้ำสายไฟฟ้าที่พาดข้ามถนน​

 

ผ่านมาสี่ กิโลเมตร ทุกท่านยังใสครับ ​

 

ช่วงที่พักพระสงฆ์เทศนา พร้อมทำบุญตักบาตรพระอุปคุต





มองหาคุณอ้อย มาอยู่นี่เอง พร้อมญาติธรรม




รถตู้ที่คุณอ้อยนั่ง และรถอีกคันเป็นรถที่อัญเชิญพระอุปคุต





เริ่มเดินต่อไปคุณหญิงพร้อมญาติธรรม ชักลากล้อเลื่อน กระผมก็เลยจ่ำมาดูแถวหน้า ถึงแม้นไม่รู้จักกันแต่น้ำจิต น้ำใจ เดียวกันคือ เตียวขึ้นดอย ครับ

​

 

ครูบาท่านเดินนำหน้าคณะญาติธรรมที่ชักลากล้อเลื่อน พร้อมทั้ง......ปีนี้สมกับเป็นปีมะโรง (งูใหญ่จริงๆ)

ที่เดียวกันที่ถ่ายรูปครูบาท่าน



ผ่านมาระยะเวลานานพอสมควรทั้งที่ชันและหนัก แถวหน้ายังยิ้มได้อยู่ครับ











ตลอดเส้นทาง ที่มีเหมือนร้านค้าอยู่ตลอด นั่นแหละครับ ผู้ใจบุญกุศลถึงแม้นไม่ได้ร่วม ในการชักลากองค์พระ แต่ได้นำเอาอาหารและน้ำดื่มมา บริการตลอดทั้งเส้นทาง เรียกได้ว่าเอาแรงกาย และแรงใจไปอย่างเดียว ครับ
​

 

ร้านบริการเครื่องดื่มและอาหาร มีตลอดทุกช่วงทางขึ้นและลง ได้พบกัลยาณธรรม ที่เชียงใหม่ ดูที่น้องเขาเดินซิ่ครับว่าชันขนาดไหน







จุดนี้เป็นจุดที่ใกล้ถึงวัดพระบาทสี่รอยแล้ว แต่ก่อนที่จะข้ามมาถึงที่นี่ได้ ต้องข้ามดอยมา ถึงสามลูกและที่พิเศษ คือสองลูกท้ายชันมากๆขนาดรถที่วิ่งประจำยังขึ้นไม่ค่อยไหว ถ้าไม่ส่งมาจากทางที่ไม่ชันรับรอง คนนั่งกะบะหลังต้องกระโดดลงเอาไม้ไปหนุนล้อหลัง ครับ ขนาดเป็นทางปูนน่ะเนี่ย...



เดินชมจันทร์ไป(กระผมเดินล่วงหน้ามาก่อน)นับถือน้ำใจของผู้ที่ชักลากองค์พระจริงๆพอพบป้ายตรงนี้ ใกล้ถึงแล้วครับ ใกล้ถึงแล้ว.....

ครูบาพรชัยท่านบัญชาการตามที่คุณหญิงแจ้ง เมื่อถึงทางลง ต้องดึงหลัง ค่อยๆผ่อนให้ล้อเลื่อน ค่อยๆไหลลงไปไม่งัน เอาไม่อยู่ ครับ

กระผมเดินมาถึงที่วัดก็เวลาตีสามพอดี อากาศข้างบน หนาวสุดๆ พอหยุดเดินซักแป๊บเดียว ความเย็นเข้าจับทันที


​

 

เมื่อองค์พระเจ้าอินทร์สานมาถึง ที่วัดพระพุทธบาทสี่รอย ก็ฟ้าสางพอดี จะเห็นได้ว่าแรงแห่งความสามัคคี และแรงศรัทธาในพระพุทธศาสนา ที่จะคงอยู่ต่อไปได้ก็เพราะเราๆท่านๆที่ให้การสนับสนุนในทุกๆด้านนี้แหละครับ







เมื่อถึงแล้ว ครูบาพรชัยท่านได้ทำพิธีเบิกเนตร องค์พระเจ้าอินทร์สาน













พระเจ้าอินทร์สาน น้ำหนัก สองตัน ที่ทุกท่านได้ร่วมแรงร่วมใจชักลาก ขึ้นดอยมาระยะทาง 18กิโลเมตร ทั้งทางที่สูงชัน และทางลาดลง​

 

พี่ปลาครับ ผู้อาวุโส สุด ในทริปนี้และหลายๆทริปเช่น พระพุทธบาทพลวง พระพุทธบาทเขาวงพระจันทร์ และทริปนี้ เตียวขึ้นดอย นมัสการพระพุทธบาทสี่รอย คุณพี่สามารถนำร่างกายและแรงใจ ชักลากองค์พระ ร่วมกับญาติธรรมหลายๆท่าน ขึ้นดอยได้สำเร็จ อนุโมทนาสาธุ ในพลังแห่งศรัทธา ด้วย ครับ













ครูบาท่านกล่าวบาลี อวยพรชัยมงคล องค์พระเจ้าอินทร์สาน








ยิ่งฟ้าสว่างผู้คนเริ่มหนาแน่นขึ้น หลายๆท่านก็ยังมิได้พักผ่อน ก็ร่วมพิธีต่อเลย

​

 

คลื่นมหาชนผู้แสวงบุญยิ่งพระอาทิตย์ส่องแสงมาเท่าใด ผู้คนก็มากเท่าทวีคูณ











ช่วงนี้ครูบาพรชัยท่าน ทำพิธีวางศิลาฤกษ์ ซุ้มประตูวัดพระพุทธบาท สี่รอย และประชาชนผู้แสวงบุญ เตรียม ใส่บาตรพระ สงฆ์
​

 

คุณอ้อยพบญาติธรรม หลังจากที่ไม่ได้เจอกันคืนเดียว อนุโมทนาบุญ กันยกใหญ่










​

 

​

 

ครูบาศรีวิชัย รูปหล่อท่านที่อยู่ ทางขึ้นนมัสการพระบาทสี่รอย















พระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระนเรศวร มหาราช และพระนางเจ้า ดารารัศมี





ยิ่งสายผู้แสวงบุญก็เริ่มเพิ่มปริมาณมากขึ้น ครับ
​

 

น้อมนมัสการสิ่งศักดิื์สิทธ์ทุก ๆ พระองค์ ขออนุโมทนา่สาธุ ด้วยค่ะ

 

เมื่อร่วมตักบาตรพระภิกษุสงฆ์แล้วไปรวมกันที่ วิหารด้านบนเพื่อรอทำพิธีสืบชะตา

แต่ละท่านแรงยังไม่หมด กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในบริเวณวัด
















​

 

​

งานศิลป อันงดงามยิ่งนัก มองดูแล้วหายเหนื่อยปลิดทิ้ง

มองเห็นวิหารพระบาทสี่รอย อยู่อีกฝั่ง

ขอบคุณกัลยาณธรรม ที่คุณอ้อยบอกว่าแม้นไม่รู้จักกันก็นวดให้ นี่แหละเดินทางมาในสายบุญ แล้วก็เปรียบเสมือนเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ยามยากก็ช่วยเหลือกัน ยามสุขก็สุขด้วยกัน อนุโมทนาสาธุครับ
​

ตอนนั่งรถกลับ กระผมพยายามถ่ายรูปความสูงชันในตอนกลางวันให้ดูครับ

นี่ก็ความสวยงามของพระอุโบสถ วัดหนองก๋าย ยามค่ำคืน

รูปหลวงปู่เทพโลกอุดร ที่พระอุโบสถ

เห็นรูปนี้แล้วก็นึกถึง ญาติธรรม ที่เปรียบเสมือนมด ตัวน้อย นิด ช่วยกันสร้าง รังอันใหญ่ กัลยาณธรรมทุกท่านก็ร่วมแรงร่วมใจ สืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ต่อไปตลอดกาลนาน จวบจน5,000ปี ครับ​

-ตั้งแต่ทริปพระบาทพลวง - พระบาทเขาวงพระจันทร์ พระพุทธบาทสระบุรี - จนมาถึง เตียวขึ้นดอย นมัสการพระบาทสี่รอย กำลังใจกัลยาณธรรมแต่ละท่านไม่เคยท้อถอย กลับมีจิตใจฮึกเหิม ที่จะรักษาให้พระพุทธศาสนาให้คงอยู่ตลอด กระผมที่ได้ร่วมทริปแต่ละทริปจึงต้องเก็บเอาความรู้สึกอันดีนี้ มาถ่ายทอดให้เพื่อนๆและผู้ที่สนใจ ได้ชมถึงแม้นภาพถ่ายบางภาพไม่ชัดเจนเท่าไหร แต่ก็ทำด้วยความเต็มใจที่จะถ่ายทอดความรู้สึกที่ดีต่อกัน กระผมเคยไปฝึกบุคคลทำการรบ (หลายหลักสูตร) ซึ่งครูฝึกก็จะป้อน ความเหนื่อยยากต่างๆออกมา ทั้งอดอาหาร-น้ำ สามวัน สี่วัน แล้วดูความสามัคคีในกลุ่มเพราะความเหนื่อยยากและความหิวมันจะแสดงธาตุแท้แต่ล่ะคนออกมา แต่เมื่อมาเจอทริปพระบาทสี่รอยแล้ว แต่ล่ะท่านไม่ได้มีใครบังคับ ใครจะลากล้อเลื่อนพระ ก็ได้ไม่ลากก็ได้ จะขึ้นรถก็ได้ จะเดินขึ้นก็ได้ ไม่มีใครว่า แต่หลายท่านที่ร่างกายและพลังใจพร้อม ก็ทำสำเร็จ กระผมต้องบอกว่าเราท่านมาถูกทางแล้วที่ช่วยกันส่งเสริมให้พระพุทธศาสนาให้ดำรงค์คงอยู่ต่อไปตราบนานเท่านาน...
-ขอขอบคุณ คุณหญิงที่จัดทริปแต่ละทริปที่ทำให้เราได้พบกัลยาณธรรมทุกท่านจนแม้นจากกันด้วยภาระหน้าที่ แล้วก็คิดถึงกันดุจญาติมิตร
-ขอขอบคุณ คณะผู้จัดทำเวปพลังจิต ที่ให้หน้าต่างของข่าวสารทำให้เราท่าน ได้มีช่องทางสื่อสาร ข่าวสาร ทางพระพุทธศาสนา ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
-ขอขอบคุณกัลยาณธรรมทุกท่าน ที่ร่วมบำรุงรักษาทั้งถาวรวัตถุ ถวายปัจจัยร่วมอาหารแด่พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และอื่นๆที่ใช้ในกิจการพระสงฆ์ ขออนุโมทนาบุญ ครับ
พบกันใหม่ทริปต่อไปครับ​

 

ขอกราบอนุโมทนาบุญใหญ่ในครั้งนี้กับกัลยาณธรรมทุกๆท่าน.....ดูรูปแล้วอิ่มเอมใจ..อิ่มบุญจริงๆครับ
พระธาตุ พระอรหันต์ธาตุ ลอยเต็มไปหมด มีเทวดา ครูบาอาจารย์ อำนวยพรตลอดเส้นทาง
เปี่ยมไปด้วยพลังศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อมต่อเส้นทางแห่งพระนิพพานให้กับกัลยาณธรรมทุกๆท่าน
สาธุครับ