บันทึกการ ปฏิบัติ (ครูสันตินันท์)

เตช...จะบอกให้นะเตช ขั้นตอนของ การปฏิบัติก่อนอื่นต้องรู้ปริยัติเสียก่อน
เมื่อศึกษาดีแล้ว จึงค่อยลงมือปฏิบัติ คำสอนของครูบาอาจารย์ก็เป็นปริยัติ
ตำราก็เป็นปริยัติ
เตชที่เตชชอบอ้างว่า คนอื่นชอบจำมาจากตำรา นี้เป็นการแก้ตัวของผู้ด้อย
ในปริยัติ ที่ไม่สามารถสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจได้ เลยหาทางออกด้วย
วิธืการแบบนี้ อันที่จริงเตชทำแบบนี้มันไม่ผิดหรือแปลกอะไรหรอก เพราะมี
คนไร้วุฒิภาวะอีกมากที่ทำแบบเตช

เตช...มีคนอีกจำพวกที่ชอบอ้างแบบเตชที่ว่า คนอื่นไม่ได้ปฏิบัติ ตัวเอง
ปฏิบัติเลยรู้ทุกอย่าง คนอื่นเป็นมารมากกิเลศ เตชเราบอกให้นะคนที่คิดแบบนี้
มันคือพวกโรคจิตหรือชาวบ้านเรียกว่า....ไอ้คนบ้าครัาบ

 

ใครขำจ่ายมาซะดีดี.... อิ๊อิ๊
ขำมากจ่ายมาก ขำน้อยจ่ายน้อย
ไม่ขำก็ไม่ว่ากัน...อยู่แร้ว

สำหรับอาเมย์...ยกเว้นให้ ถือว่าเด็กเส้น
จะขำมากขำน้อยหรือไม่ขำ ก็ไม่ต้องจ่ายส่วย...อิ๊อิ๊

อิ๊อิ๊...อิ๊อิ๊...และก็...อิ๊อิ๊ (ไม่เกี่ยวกับพวก อี๋อี๋...นะเฟร้ย..)

 

ผมถามหน่อยผมไปยุ่งกับใครที่เค้ามีคู่
คุณมากล่าวหาอะไรผมหน้าด้าน ๆ

คุณเอาอะไรมาพูด
คุณนี่ทุเรสนะ...

 

สัมมา แปลว่า ชอบ
มิจฉา แปลว่า ไม่ชอบ

สติที่ไม่ชอบ นี่ เป็นกุศลเหรอ...

แล้วที่คุณว่า
สติเจตสิก เป็นกุศล น่ะมันถูกเหรอ

เมื่อมิจฉาสติ แปลว่า สติที่ไม่ชอบ น่ะ มันจะเป็นกุศลได้ยังไง
มันขัดกันไปหมดนะคุณ

เดี๋ยวในภาคปฏิบัติผมจะเล่าให้ฟัง
เอาไว้มีเวลามากกว่านี้ก่อน

 

เอาอย่างนี้ดีกว่า ที่หลวงปู่ชาว่าทำให้สติเป็นสายน้ำนี่คุณจะแก้ยังไง
หลวงปู่ชาใครก็รู้ทั้งนั้นว่าองค์ท่านเป็นพระอรหันต์

ทำไมคุณไม่ตรวจสอบธรรมที่คุณจำมา
กับคำเทศน์พระอรหันต์
คุณจะได้รู้ว่าคุณเดินหลงทางหรือเปล่า...

ก็คุณเอาปริยัติมายำจนมั่วไปหมด
คิดเองเออเอง ทั้งนั้น
แล้วยังมาอวดตัวว่ารู้ปริยัติอยู่เหรอ

เอาข้อสอบปริยัติมาให้เด็กมัธยมมันอ่านไปสอบ
คะแนนมันดีกว่าคุณด้วยซ้ำไป

ปริยัติ ใครก็เรียนได้รู้ได้ก็แค่ความจำ
แต่ปฏิบัติ ปฏิเวธ นี่สิ
มันอยู่ที่วาสนาบารมีสั่งสมมานะ...

 

ขอถามตรงๆ เลยนะ

kengkenny จีบ ผู้หญิงแข่งกับ เตชพโล ใช่ไหม

มิน่าเล่า มันถึงโกรธ นายขันธ์ เป็นทวีคูณ เมื่อเห็น นายขันธ์ มาเข้าข้าง เตชพโล

นี่แหละ แล้ว ยังจะมานัด เจอนายขันธ์

วุ่นวาย เพราะตัณหาทั้งสิ้น

เคยเห็น สมภารกินไก่วัดไหม ต่อหน้าทำเป็นมีธรรมะ นั่น พอใครไม่เห็น จับเชือดต้มกินเลย

อย่าให้เป็นนิสัยแบบนั้น
และ ทั้งหมดนี่ คงต้องโทษ ท่านธรรมภูติ ที่พาไปนัดเจอกัน
ไม่รู้ว่าใคร นิสัย หัวนอนปลายเท้าเป็นอย่างไร พอนัดไปเจอกัน แล้วมันเกิดปัญหาเห็นไหม

ปากก็บอกว่า ธรรมะ แต่ใจมันสกปรกกันมาก คิดจะเป็นบุญเลยกลายเป็นบาปไปเสียหมด

นอกจากนี้ ยังมีพวกชอบโทร หากัน มีแต่ปัญหา

มีคนมาขอ ปรึกษานายขันธ์ ทาง msn รอชาติหน้า ตัวกูเองยังปัดกิเลสออกแทบตาย

จะเอากิเลสชาวบ้านมาให้เปลืองหัว แนะนำธรรมกันได้ในเว็บพอ
ตัวเองฝึกตนดีแล้ว ว่า ให้มี หิริโอตตับปะ มากพอแล้วค่อย ไปฝึกคนอื่น

ไม่เช่นนั้น มันจะกลายเป็น ปัญหาภายหลัง มีให้เห็นเยอะแยะ พากันไปโกงบ้าง ซื้อนั่นซื้อนี่โกงกันแนะนำกันไปไหนต่อไหน ขึ้นชื่อว่า คน ให้ระวัง

อย่าเปิดทางให้กรรม เข้าสู่ ตน

ก่อนหน้านี้ ไม่รู้จักกัน ก็โตมาได้ อย่าไปเอาความรุ้จัก เข้ามาผูกพัน ให้ก่อเวรก่อกรรม กันไปอีก ให้มอง เพื่อนกัลยาณมิตรให้เสมอกัน หมด แนะนำกันได้พอหอมปากหอมคอ แล้ว พอถึงวันที่ รู้จักนิสัยใจคอกันจริงๆ แล้วค่อยไปมาหาสู่กัน

คนที่ยังมีกิเลส ย่อมเป็นไปตามกรรม ไม่อาจจะต้านทานได้

ที่มันฆ่ากัน ก็เพราะกรรมพามารู้จักกัน นี่แหละ

ถ้า หาเพื่อนผู้รู้ใจไม่ได้ ให้พึงเดินไปคนเดียวดุจนอแรด

 

อย่าไปโทษใครเลยครับ โทษตัวเองนั่นล่ะที่ไปคว้าเอามาเอง

 

ตัวคุณเอง ก็๋ชอบเล่นบท สอนธรรมะกับ สาวๆ ด้วยไม่ใช่หรือ

 

ระวัง นะ คุณ เตชพโล กับ คุณ kengkenny

เดี๋ยว วิษอยู่ เอา่ไปกินฉิบ เห็นมันทำพูดน้อยแบบนี้ มันต่อยหนักใช่เล่น

เล่นบทพระเอก พี่ห่วงน้อง แบบนี้่มาเยอะแล้ว

อย่ามาเถียง ไอ้วิษอยู่

 

พี่ปราบเทวดา...ยิ้มหวาน กิ้ว กิ้ว...เสียงเทศน์ทุ้มนุ่มไปหมดเลย เสียงหวานเจี๊ยบกับสาวๆ

 

555555เตชเอ๋ยเตช นายไปถามหลวงปู่ของนายดูซิว่า ชอบหรือไม่ชอบใน
ที่นี้มันเหมือนกับกุศลหรืออกุศลหรือ

ถ้าพูดแบบง่ายๆแบบชาวบ้าน คือแบบทางโลกและทางธรรม

...สติแบบทางโลกเรียก มิจฉาสติ มันเป็นการระลึกรู้มิให้ทำชั่วต่างๆ สาเหตุ
ของการระลึกได้ก็คือ กลัวบาปกลัวผิดกฎหมายมันเป็นกุศล แต่ไม่ชอบ
เพราะไม่ใช่หนทางพ้นทุกข์

...สติแบบทางธรรมเรียก สัมมาสติ มันเป็นการระลึกรู้ถึงไตรลักษณ์
สาเหตุของการระลึกได้ก็คือ ทุกสิ่งล้วน อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นกุศลและ
ชอบเพราะเป็นหนทางพ้นทุกข์

ฉะนั้นคำว่าชอบกับไม่ชอบ มันคนละความหมายกันกับกุศลและอกุศล
เข้าใจมั้ยล่ะ

ไม่ต้องเล่าแล้วเรื่องง่ายๆแค่นี้ ยังไม่รู้เรื่อง แค่นจะไปปฏิบัติ
หัดอ่านตำราหรือพระไตรปิฏกแล้วทำความเข้าใจกับมันเสียก่อน
จึงลงมือปฏิบัติ ไม่งั้นมันก็มั่วๆแบบนี้แหล่ะ

 

....วันหลังนายไม่ต้องมาสนทนาแล้ว เราว่านายนิมนต์หลวงปู่มาเทศน์เองเลย
ดีกว่า ไอ้คนประเภทอ้างโน้นอ้างนี้ แล้วดันพูดมาได้เต็มปากเต็มคำว่าปฏิบัติ
เอง แล้วนายรู้ได้อย่างไรว่า คนอื่นเขาไม่ได้ปฏิบัติ

เราเห็นนายพูดพล่ามมานาน ไม่เห็นจะมีธรรมมะอะไรเลยตั้งแต่ต้น มีแต่
เรียงความเพ้อเจ้อไร้สาระ อ้างอรหันต์ถามจริงอ้างมาทำไม อรหันต์ก็เรื่อง
ของอรหันต์ นายไปรู้ลึกรู้ดีกับท่านเหล่านั้นได้อย่างไร อยากเป็นอรหันต์ก็
ปฏิบัติตัวเองซิ ไม่ใช่มาอ้างอรหันต์

....."จะบอกให้ที่นายว่าหลวงปู่ชาบอกว่า ทำสติให้เป็นสายน้ำ
นายเอาคำพูดหลวงปู่มาต่อเติมเสริมแต่งว่า เมื่อสติเป็นสายน้ำแล้วจะเห็นการ
ปรุงแต่ง ก็เราเห็นว่าไม่ใช่เราก็บอกไม่ใช่ มันจะเป็นไปได้อย่างไร เมื่อมีสติ
ตลอดสาย การปรุงแต่งมันจะสอดแทรกมาได้อย่างไร ถ้ามีอารมณ์สอดมา
สติมันก็ไม่ได้เป็นสายน้ำแล้ว"

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เตชพโล
เดี๋ยวในภาคปฏิบัติผมจะเล่าให้ฟัง
เอาไว้มีเวลามากกว่านี้ก่อน


</TD></TR></TBODY></TABLE>
เห็นนายแสดงความเห็นแบบนี้ มาหลายวันหลายความเห็นแล้ว บอกไม่มี
เวลา แล้วนายเอาเวลาที่ไหนมาโพสความเห็น ได้วันละสองสามครั้ง เพ้อเจ้อ
พล่ามไปเรื่อย

 

สติที่คนใส่บาตร ทำบุญ
ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ขโมยของ ไม่ประพฤติผิดในกาม
ไม่โกหก ไม่ดื่มสุรา โดยที่เค้าไม่เข้าใจในไตรลักษณ์เลย
นี่เป็นมิจฉาสติ เหรอ

แล้วจะมาแถอะไรอีกเรื่องชอบไม่ชอบ กับ กุศล อกุศล
กันอีกล่ะ ของแค่นี้ใครก็รู้
คุณยังคิดว่ามิจฉาสติ เป็น กุศลอีกเหรอ
เด็กมัธยมเค้ายังคิดแบบคุณไม่ได้เลย เยี่ยมจริง ๆ

 

ก็อ้างอิงทั้งกัณฑ์เทศน์ให้แล้วนี่
ความในเทศน์ก็ชัดเจน

แล้วคุณจะมาแถอะไรอีก

 

ผมบอกตรง ๆ คุณนี่สกปรกมาก
เพียงแค่ต้องการทำให้ผมเสียหายในที่แห่งนี้
คุณถึงกับไปยกเอา เรื่องที่คุณไปสนทนามา
ทั้งที่คุณควรจะเก็บ เป็นความลับ
เพราะการนำมาเปิดเผยย่อมไม่เป็นผลดีต่อผู้ที่เปิดเผยข้อมูลให้คุณฟัง
และความจริงทั้งหมดมีผมกับผู้หญิงคนที่คุณกล่าวเพียงสองคนเท่านั้น
ที่รู้ดีที่สุด คุณก็เพียงแค่คนที่ฟังต่อมาอีกทอดนึง

ผมไม่อยากจะพูดอะไรอีกเพราะไม่เป็นผลดีกับใคร
และไม่ต่างจากการ สาวไส้ให้กากิน

ความเป็นจริงที่ผ่านมา
ผมก็ไม่ได้ติดต่อกับเธออยู่แล้ว
และก็ไม่ได้พยายามติดต่อไปหาเธอด้วย
แล้วมันจะมีการสานต่ออะไรกัน

และปัจจุบันนี้ผมก็ไม่ได้จีบ
และไม่ได้ติดต่อผู้หญิงคนใดเลย
แล้วเรื่องพวกนี้มันจะเกิดขึ้นได้ยังไง

ผมเบื่อ...พวกคุณเข้าใจมั้ย
ผมไม่อยากมีใครเข้ามาอีก...

 

ขอบคุณครับท่าน อ.ขันธ์
ผมยอมแพ้เค้าทั้งสองคนครับ
ผมไม่กล้าไปแข่งด้วยหรอกครับ

แข่งไปผมก็แพ้อยู่แล้วครับ
ผมจะไปสู้อะไร กับใครเค้าได้...

 

ก็ วิษณุ เขามีลูกเมียแล้วไม่ใช่หรือ เห็นเอารูปขี้ ลูกชายมาให้ดูปีที่แล้ว

มาปีนี้ เปลี่ยนแนวแล้วหรือ ไม่ไหวจริงๆ วิษณุ นี่

หล่อ ก็ไม่หล่อ มีลูกติด แบบนี้ลำบากหน่อย

ส่วน คุณ kengkenny ก็เพี้ยนๆ สาวๆ คนไหน ไปเลือกนี่ ซวยตาย

เกิดมันเพี้ยนขึ้นมา แบบที่ด่านายขันธ์ เป็นชุดๆ นั่น จะฟังมันรู้เรื่องไหมนั่น

สองคนนั้น มีพฤติกรรมประหลาดทั้งคู่ สงสาร ผู้หญิง คนที่ต้องมานั่งปวดหัว กับ สองคนนี่นะ

เป็น ผมหละก้อ ถ้าเหลือสองคนนี้ในโลก ถ้าเป็นผมเป็นผู้หญิงคนนั้นผมบวชชี

เอามาทำไม ให้หนัก

เรื่องชีวิตคู่ นี่ ไม่ใช่เล่นนะ วิถีชีวิตต่างกันมา เติบโตมาต่างกัน
ให้รักกันอย่างไร มันก็เหนื่อย

ไหนจะคุณธรรมต้องเสมอกัน ผู้ชายจะต้องหนักแน่น คุมความขึ้นๆลงๆ ของผู้หญิงให้ได้
นี่มันเรื่องง่ายที่ไหน ถ้าได้ผู้ชาย งี่เง่าด้วย ยิ่งไปใหญ่

 

เอานะ...ให้ผมมีเวลามากกว่านี้ก่อน
แค่นี้ผมก็จะโดนงานทับตายอยู่แล้ว

เรื่องที่จะพูดมันต้องใช้เวลา
และละเอียดอ่อน
เพราะมันมีคนคอยหาช่องว่าง
ใช้วิธีสกปรกตลอดเวลา
การเขียนต้องละเอียดอ่อนปิดช่องโหว่ให้หมด

แต่ตอนนี้ไม่มีเวลาจริง ๆ
ต้องขออภ้ย...