เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. มดดำน้อย

    มดดำน้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    621
    ค่าพลัง:
    +2,826
    สวัสดีครับพี่หนุ่มทิพย์
    1 จองพระมงคล ชานหมาก 1องค์
    2 พระบูชา ที่ยังไม่โอน รายการลำดับที่107 // ถ้าเจ้าของที่จองไว้ ยกเลิกการจอง ผมขอจองนะครับ
     
  2. pichedv

    pichedv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +949
    ได้รับพระปิดตาและผ้ายันต์แล้วครับ
    ส่วนหลวงปู่ทวดที่ยังไม่ได้ส่งมา
    ไว้ค่อยส่งพร้อมเหรียญหลวงพ่อทองหยิบก็ได้ครับ
    ผมไปลงชื่อจองไว้ในกระทู้โน้น 2 เหรียญ
    ขอบคุณครับ
     
  3. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เพื่อนสมาชิกทุกท่าน สามารถช่วยผมตรวจสอบและลดขั้นตอนการจัดส่งให้สะดวกง่ายดายขึ้น ด้วยการจับผิดตารางของคุณSuwat.su

    หากผมเห็นว่าผิด ให้รีบทักท้วงครับ คุณSuwat.su จะรีบแก้ไขโดยทันที

    หลวงปู่ทวดกี่องค์ครับ?
     
  4. pichedv

    pichedv เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    263
    ค่าพลัง:
    +949
    1 องค์ครับ เป็นพระที่คุณทิพย์บอกไว้ว่าจะให้
    ขอบคุณครับ

     
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    รวมท่านอื่น ขอผลัดเป็นพรุ่งนี้นะครับ
     
  6. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    พี่นิ่ม โทรมาขัดจังหวะทานข้าว เมื่อสักครู่

    "หนุ่มทิพย์...นอนหรือยัง... พี่ตู่ถามพี่ว่า พระฯที่ต้อยทำสวยไหม..."

    "หนุ่มทิพย์ เอาพระปิดตาทรงเมตตา ที่ปิดทองแล้ว มาให้พี่ซักสองสามองค์นะ พี่จะเอาไปฝากพี่ตู่ ...หนุ่มทิพย์ไปด้วยกันไหม..."

    พี่ตู่ = พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส
    ต้อย = พล.ต.ท.ดร.สุวิระ ทรงเมตตา
    พี่นิ่ม = สมบัติ ชื่อสิริกุล
    หนุ่มทิพย์ = เคน ทีละเดด
     
  7. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    พระเกจิดังปักธงชัย หลวงปู่สมบุญ วัดปอแดง

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด


    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>ท่ามกลางเทือกเขาที่สูงตระหง่าน ประตูที่จะผ่านไปสู่ดินแดนที่ราบสูงนั้น

    บริเวณลุ่มเขาที่อุดมไปด้วยร่มไม้นานาพรรณปกคลุมร่มครึ้ม หากเคยเข้าไปสัมผัสกับความร่มเย็นนี้ คงได้รับรู้ถึงธรรมชาติที่แท้จริง

    สถานที่แห่งนี้ เป็นที่ตั้งของวัดศิรีอรัญรุกขาวาส (วัดปอแดง) หมู่ 4 บ้านปอแดง ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา

    วัดปอแดง เป็นวัดเก่าแก่ประจำตำบลภูหลวง มีรอยพระพุทธบาท ซึ่งชาวบ้านในตำบลและใกล้เคียง ให้ความศรัทธากราบไหว้ปิดทองทุกวัน

    มี "หลวงปู่สมบุญ ปริปุณณสีโล" เป็นเจ้าอาวาส และเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีอีกรูปใน จ.นครราชสีมา

    ปัจจุบันสิริอายุ 76 ปี พรรษา 40

    พื้นเพเป็นชาวบ้านปอแดง หมู่ 4 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา เกิดเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2478 โยมบิดา-มารดา ชื่อนายหลอดและนางคำ แรมกิ่ง ครอบครัวประกอบอาชีพทำนา

    ในช่วงวัยเยาว์ เป็นคนที่มีใจใฝ่ในธรรมมาตั้งแต่เล็ก แต่ด้วยทางบ้านมีฐานะยากจน เมื่อจบชั้นประถมศึกษาภาคบังคับ ท่านจึงไม่ได้เรียนต่อเหมือนเด็กคนอื่น

    ช่วยทำงานให้ครอบครัวจวบจนมีอายุพอครบเกณฑ์ทหาร แต่ไม่ได้รับเลือก

    หลังจากนั้นจึงได้ใช้ชีวิตฆราวาสมีครอบครัว จนกระทั่งเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2514 ณ พัทธสีมา วัดบ้านห้วยสะแกราช ต.สะแกราช อ.ปักธงชัย จ.นคร ราชสีมา มีพระครูสาทรคณารักษ์ (หลวงปู่ก้อน จิตตาสาโท) วัดบ้านห้วยสะแกราช เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิศาลสุขวัฒน์ วัดสุขวัฒนาราม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูสุทธิสีลคุณ วัดบ้านห้วยสะแกราช เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังอุปสมบท ได้ศึกษาพระธรรมวินัยและพระปริยัติธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาต่างๆ จากหลวงปู่ก้อน

    หลวงปู่ก้อน เห็นว่ามีความสนใจศึกษาและสัมมาปฏิบัติ จึงถ่ายทอดวิทยาคมต่างๆ ให้โดยไม่มีปิดบัง

    กล่าวสำหรับหลวงปู่ก้อนนั้น เป็นที่รู้กันดีท่านถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งยุค เป็นศิษย์เอกของหลวงปู่โต คังคปัญโญ ผู้สืบสายวิทยาคมแห่งสำเร็จลุน พระสังฆราชแห่งประเทศลาวผู้เป็นปรมาจารย์แห่งลุ่มน้ำโขง

    ต่อมา หลวงปู่สมบุญเริ่มต้นการธุดงควัตรโดยไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานเพิ่มเติมจากหลวงปู่ชา สุภัทโท แห่งวัดหนองป่าพง ก่อนออกธุดงควัตรไปที่ภูเขาควาย ณ ประเทศลาว จากนั้นธุดงค์ต่อเนื่องจนทั่วภาคอีสาน เหนือ กลาง ตะวันออกของประเทศไทย จนข้ามไปถึงประเทศพม่า

    ท่านยังได้เพียรศึกษาและปฏิบัติกัมมัฏฐานและวิทยาคมจากบูรพาจารย์หลายท่าน อาทิ พระพิมลธรรม(อาจ อาสโภ) ต้นตำรับกัมมัฏฐานแบบยุบหนอ-พองหนอ, หลวงพ่อวิชัย นิรามโยภิกขุ, พระมหาธนิต ปัญญาปสุโต ผู้ริเริ่มงานปริวาสกรรมที่วัดปอแดง, หลวงพ่อเต๋ คงทอง สุดยอดตะกรุดแห่งนครปฐม, หลวงพ่อพระพุทธบาทตากผ้า ศิษย์เอกครูบาศรีวิชัย, หลวงปู่จันทโรภาส วัดป่าข่อย ซึ่งเป็นศิษย์ธรรมหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า

    การท่องธุดงควัตรของหลวงปู่สมบุญ เริ่มตั้งแต่ปี 2518 จวบจนถึงปี 2538 ในระยะเวลาการเดินธุดงค์ของหลวงปู่นั้นมีเรื่องราวพบเจอสิ่งแปลกๆ ในป่าใหญ่กลางหุบเขามากมาย เป็นประสบการณ์ที่หลวงปู่สมบุญถ่ายทอดบอกเล่าแก่ลูกศิษย์ที่ติดตามอย่างใกล้ชิดเป็นการภายใน

    ครั้นได้ปฏิบัติธุดงควัตรอย่างยาวนานถึง 20 ปี หลวงปู่สมบุญ ได้ตั้งปณิธานจะทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างถึงที่สุด โดยได้พัฒนาบูรณะสำนักฝึก จนกลายเป็นวัดที่สมบูรณ์

    คือ วัดศิรีอรัญรุกขาวาส (วัดปอแดง) นั่นเอง

    ต่อมา ท่านได้สร้างสวนนิพพานภายในวัด วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม และแสดงกตเวทีบูชาต่อบูรพาจารย์ที่อุปถัมภ์สั่งสอน

    สวนนิพพาน มีอาณาเขตประมาณ 300 ไร่ เป็นวิเวกสถานแหล่งปฏิบัติธรรม และเป็นสถานปฏิบัติกัมมัฏฐานวิปัสสนาแก่พระสงฆ์โดยทั่วไป

    ท่านได้ทำนุบำรุงวัดปอแดง ปฏิสังขรณ์และพัฒนาก่อสร้างอาคารเสนาสนะต่างๆ เรื่อยมา จวบจนปัจจุบัน วัดมีความเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น

    บรรยายธรรมอบรมสั่งสอนญาติโยม คือ ลดละไฟ 3 กอง คือ โลภะ โทสะ โมหะ

    "หากสามารถดับไฟ 3 กองนี้หรือเพียงแค่ลดได้ ชีวิตนี้ก็จะเป็นสุขแล้ว"

    ท่านมีปริศนาธรรมหลายอย่างที่สร้างขึ้นเพื่อเตือนสติเหล่าศิษยานุศิษย์ผู้ศรัทธาท่าน คือ "เชิงตะกอนสำหรับตัวท่านเอง" เพื่อเป็นการเตือนสติว่า ทุกอย่างล้วนมีสิ้นสุด เมื่อวันสุดท้ายมาถึงตัวเราไม่สามารถเอาอะไร ไปได้

    งานด้านสังคมสงเคราะห์ หลวงปู่สมบุญ ได้ช่วยเหลือนักเรียนตามโรงเรียนต่างๆ ด้วยการบริจาคปัจจัยที่ได้รับจากการถวายจากญาติโยมผู้มีจิตศรัทธา นำไปจัดซื้อเครื่องเขียน หนังสือ เครื่องกีฬาต่างๆ ที่จำเป็น ไปมอบให้เด็กนักเรียนตามโรง เรียนที่ขาดแคลนด้วยความเมตตา

    ครั้งหนึ่ง หลวงปู่สมบุญ ปรารภกับลูกศิษย์ใกล้ชิด ว่า "กายหยาบนี้มันไม่เที่ยง คอยจะผุพังไปตามกาล เจ็บบ้างปวดบ้าง แม้กระทั้งเรา จะยังทนได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับสัมมาสติ แต่บางคนก็ยังยึดติดกับสิ่งเหล่านี้ เราช่วยได้แต่บรรเทาเท่านั้น"

    ในการนี้ พระครูสุนทรจารคุณ เจ้าอาวาสวัดป่าโพธิภาวัน (โนนค่าง) และเจ้าคณะตำบลระเริง เขต 2 ซึ่งเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ จึงได้จัดตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อดูแลภิกษุอาพาธ และช่วยเหลือเรื่องการศึกษาของพระภิกษุ-สามเณร ตลอดจนนักเรียนทั่วไป

    พระครูสุนทรจารคุณ เป็นผู้ดูแลและจัดสร้างเหรียญเสมา "รุ่นกองบุญ" ซึ่งเป็นเหรียญเสมารุ่นแรกของหลวงปู่สมบุญ ออกให้ประชาชนได้เช่าบูชา

    เหรียญเสมารุ่นแรกนี้ หลวงปู่สมบุญ ปลุกเสกอธิษฐานจิตเดี่ยว วัตถุประสงค์ เพื่อสมทบทุนในการจัดตั้งกองทุนปริปุณณสีโล สำหรับดูแลพระภิกษุ-สามเณรที่อาพาธ สนับสนุนทุนการศึกษาแก่พระภิกษุ-สามเณรและเด็กนักเรียนผู้ขาดแคลนในการศึกษา รวมถึงเป็นทุนให้แก่พระวิทยากรอบรมศีลธรรม

    ทุกวันนี้ หลวงปู่สมบุญยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดและจิตใจของชาวบ้านอย่างต่อเนื่อง

    วัดปอแดง แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันร่มเย็น สำหรับเป็นที่พักพิงแก่มวลสรรพสัตว์ ฉันใด หลวงปู่สมบุญ ก็เป็นธงธรรมให้ร่มเงาพึ่งพิงจิตใจชาวบ้าน ฉันนั้น

    สมกับฉายานามจากคณะศิษย์ว่า"พระดีศรีโคราช"อีกรูป
     
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    หลวงพ่อผาด ฐิติปัญโญ พระเกจิชื่อดังบุรีรัมย์

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด


    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"หลวงพ่อผาด ฐิติปัญโญ" หรือ "พระครูวิบูลย์ปัญญาวัฒน์" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดบ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องว่า "เทพเจ้าแห่งบ้านกรวด"

    เป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าอีกรูปของอีสานใต้

    ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรม มีวัตรปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เปี่ยมด้วยเมตตาธรรม วัตถุมงคลและเครื่องรางที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโด่งดังไปไกลทั่วประเทศ โดยเฉพาะตะกรุดมหาจักรพรรดิ

    ปัจจุบัน สิริอายุ 97 พรรษา 76 เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านกรวด อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์

    อัตโนประวัติ สืบค้นได้จากคำบอกเล่าของท่านว่า ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ.2457 เป็นชาวบ้าน อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ครอบครัวมีอาชีพทำนา

    ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประชาบาล จนจบชั้น ป.4 แล้วออกมาช่วยครอบครัว

    ครั้นอายุ 22 ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทสีมาวัดบ้านกรวด ปฏิบัติกิจแห่งสงฆ์โดยครบถ้วน ศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรมด้วยความตั้งใจ ขณะศึกษาธรรม ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิชาการแพทย์แผนโบราณควบคู่ไปด้วย จนมีความรู้ความชำนาญการใช้สมุนไพรรักษาโรคภัยไข้เจ็บ

    หันมาศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณเพิ่มเติม และเรียนวิทยาคมควบคู่กันไป ท่านได้ศึกษาสรรพวิชาจากในตำราทั้งหมด จนมีความรู้ในวิทยาคมเป็นอย่างดี

    ด้วยความเป็นพระหนุ่มไฟแรง ท่านได้ออกจาริกไปยังที่ต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้ทั้งด้านวิทยาคม วิชาแพทย์แผนโบราณ ในครั้งนั้น ได้ไปศึกษวิทยาคมที่กัมพูชา จังหวัดอุดรมีชัย ถึง 3 ปี

    ก่อนจะจาริกไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ที่นครวัด นานกว่า 8 ปี จนมีความรู้ในวิทยาคมสายเขมร

    เมื่อได้เวลาอันเหมาะสม ท่านจึงเดินทางกลับบ้านเกิด อาศัยจำพรรษาในวัดบ้านกรวดเป็นเพียงพระลูกวัดธรรมดา กระทั่งท่านเริ่มมีอายุมากขึ้น ท่านได้รับการถวายที่ดินจากชาวบ้าน เกิดความคิดริเริ่มในการพัฒนาบูรณะจากพื้นดินที่ว่างเปล่า ให้กลายเป็นศาสนสถาน คือ วัดตาอี, วัดบ้านปราสาท และวัดบ้านบึงเก่า

    ในกาลต่อมา หลวงปู่หริ่ง เจ้าอาวาสวัดบ้าน กรวดมรณภาพ ชาวอำเภอบ้านกรวดได้นิมนต์ให้รับตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบต่อ แม้ตอนแรกจะปฏิเสธ

    แต่ในที่สุดท่านก็ทนแรงศรัทธาของญาติโยม ไม่ได้จึงยอมรับและดำรงอยู่มาจนถึงปัจจุบันในที่สุด

    สำหรับวัดบ้านกรวด ถือเป็นวัดเก่าแก่ประจำอำเภอบ้านกรวด สร้างขึ้นในยุคปลายสมัยรัชกาลที่ 5 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 10 เมษายน พุทธศักราช 2469 มีพระพุทธรูปศิลาศักดิ์สิทธิ์ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ

    มีเรื่องเล่าขานกันว่า ครั้งหนึ่งมีคณะศรัทธาจากชาวบ้านกรวดนั้นเดินทางไปกราบนมัสการ "หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ" เทพเจ้าแห่งด่านขุนทด พระเกจิชื่อดังแห่งวัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา

    หลวงพ่อคูณ ถามว่า "พวกเอ็งมาจากไหนกัน" คณะศรัทธาบอกว่ามาจากบ้านกรวด หลวงพ่อคูณตอบกลับไปว่า "มึงจะมากราบ มาเอาของกูทำไม มึงไปไหว้หลวงพ่อใหญ่วัดบ้านกรวดโน่น ของท่านศักดิ์สิทธิ์ พวกมึงไม่จำเป็นต้องมาใช้ของกูเลย ของ ดีอยู่กับตัว ยังไม่รู้ค่าอีก"

    หลวงพ่อผาด สร้างคุณูปการแก่วัดบ้านกรวดและวัดสาขาทั้ง 3 แห่ง เป็นอันมาก เช่น ตั้งสำนักอบรมวิปัสสนากัมมัฏฐาน งานด้านการสงเคราะห์ญาติโยม งานสาธารณูปโภค การก่อสร้างถาวร วัตถุของวัด อาทิ สร้างพระอุโบสถ อุปถัมภ์โรงเรียน ศาลาการเปรียญ สร้างศาลาบำเพ็ญกุศล

    ด้านเครื่องรางหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้าง เป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่อง อาทิ พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ, พระกริ่งรุ่นแรกของหลวงปู่ผาด, พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ผาด, พญาครุฑ และอื่นๆ

    กล่าวเฉพาะพระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ หลวงพ่อผาด มีพุทธคุณเด่น เมตตามหานิยมเยี่ยม ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกในกุฏิของท่านเพียงลำพังนานถึง 7 สัปดาห์

    หลวงพ่อผาด บอกว่า "พระยอดขุนพลปฐมโพธิญาณ มีเทวดาปกปักรักษา ให้บูชาด้วยการสวดมนต์เป็นประจำ จะบังเกิดความเป็นสิริมงคลยิ่งนัก"

    แต่ถึงแม้วัตถุมงคลของหลวงพ่อผาด จะมีพุทธคุณเข้ม แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนให้ญาติโยม อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว เพราะอายุคนนั้นสั้นนัก ถึงไม่แก่ไม่เฒ่าก็ตายได้เช่นกัน จงอย่าประมาท

    หลวงพ่อผาด ได้นำวิชาความรู้ด้านวิทยา คม เป็นกุศโลบายสำคัญในการอบรมสั่งสอนให้ชาวบ้านยึดหลักธรรมคำ

    เป็นพระที่มีความเป็นอยู่อย่างสงบ เรียบง่าย
     
  9. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,643
    ค่าพลัง:
    +55,534

    อนุโมทนาบุญ ทั้งหมด ทั้งมวล
     
  10. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    หลวงปู่โสฬส ยโสธโร พระเกจิดังปราจีนบุรี

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด
    [​IMG] "ปราจีนบุรี" จังหวัดภาคตะวันออกของไทย แดนดินถิ่นกำเนิดพระเถระทรงอภิญญาเป็นที่รู้จักและศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนมาในหลายยุคหลายสมัย ทั้งในด้านกฤติยาคมและการเผยแผ่พุทธธรรมคำสอนแห่งพระพุทธองค์ อาทิ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงพ่อเส็ง วัดประจันต คาม, หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน, หลวงพ่อดำ วัดกุฎี เป็นต้น

    ปัจจุบัน พระสุปฏิปันโน ที่พึ่งทางใจพุทธศาสนิกชนชาวปราจีนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ย่อมต้องเอ่ยถึงนาม "พระครูธำรงโพธิเขต" หรือที่รู้จักกันในนาม "หลวงปู่โสฬส ยโสธโร"

    หลวงปู่โสฬส เป็นศิษย์ หลวงพ่อจาด, หลวงพ่อเส็ง, หลวงพ่อเอีย พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองปราจีนในยุคก่อน

    ปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง ต.โพธิ์ ทอง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี สิริอายุ 96 พรรษา 75

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า โสฬส ไชยยันต์ เกิดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2457 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 4 ปีมะโรง ที่ ต.หนองแก้ว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

    ในวัยเด็ก ท่านชอบติดตามมารดาไปเข้าวัดฟังธรรมเป็นอย่างยิ่ง ได้ซึมซับความรู้เกี่ยว กับพระพุทธศาสนามากมาย

    ครั้นเมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2477 เวลา 15.05 น. มี พระอธิการตาล เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการวุ้น เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และ พระอธิการศรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังครองเพศบรรพชิต ท่านตั้งใจศึกษาพระธรรมวินัยอย่างจริงจัง ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าจะอุทิศกายถวายชีวิตอยู่ในบวรพระพุทธศาสนาตลอดไป ท่านได้อยู่จำพรรษา ณ วัดโคกอู่ทอง ได้มุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรม พ.ศ.2479 สามารถสอบได้ชั้นนักธรรมตรี ณ สำนักเรียนวัดบ้านโง้ง จ.ปราจีนบุรี

    ด้วยท่านมีความสนใจในเรื่องพระพุทธศาสนามาแต่เยาว์วัย ทำให้ท่านได้มีบทบาทในการสร้างความเจริญมาสู่วัดโคกอู่ทอง ทั้งในด้านถาวรวัตถุและในด้านจิตใจพุทธศาสนิกชนชาวเมืองปราจีนบุรี

    ในด้านถาวรวัตถุนั้น ด้วยบารมีและคุณงามความดีของหลวงปู่ ท่านสามารถรวบรวมศรัทธาจากชาวบ้านทั้งในทางใกล้และทางไกล เพื่อสมทบทุนสร้างวัดโคกอู่ทองให้เจริญรุ่งเรืองมิแตกต่างจากวัดในเมืองที่เจริญ แล้วแต่อย่างใด

    ในส่วนของความเจริญทางด้านจิตใจ หลวงปู่โสฬสจัดได้ว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธบริษัทอย่างเหนียวแน่นทั้งใกล้และไกล ไม่ว่าจะเป็นด้านการศึกษาทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ความช่วยเหลือโดยมิขาดสายจวบจนกระทั่งทุกวันนี้

    หากกล่าวถึงภูมิธรรมของหลวงปู่โสฬสแล้ว ท่านมิได้เป็นสองรองใคร

    พระเถราจารย์ในยุคเดียวกัน ต่างยอมรับนับถือกันว่าหลวงปู่เป็นผู้คงแก่เรียน แตกฉานในคัมภีรศาสตร์พระพุทธศาสนา ตลอดจนศาสตร์แขนงอื่นๆ เช่น พฤกษศาสตร์ว่าด้วยเรื่องของสมุนไพรบำบัด โหราศาสตร์ ดารา ศาสตร์ อักษรศาสตร์ และวิทยาคม ฯลฯ

    เนื่องจากหลวงปู่โสฬส เป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิทยาคมจากอภิญญาจารย์ในอดีตหลายรูป เช่น หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, หลวงปู่อวน วัดหนองพลับ, พระอาจารย์วัน วัดเขาวงค์ถ้ำพระนารายณ์ และคณาจารย์สายฆราวาสจอมขมังเวท

    ด้านพุทธาคม ท่านเป็นศิษย์ผู้สืบทอดวิทยา คมจากพระเกจิดังผู้เรืองนามในอดีต ได้เคยไปฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อจาดแห่งวัดบางกระเบา พระเถราจารย์ขมังเวทผู้เรืองนามในยุคสงครามอินโดจีน แต่เป็นช่วงบั้นปลายอายุขัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจาดแล้ว จึงได้รับการแนะ นำให้ไปศึกษาวิทยาคมจากพระเกจิผู้เรืองนามในท้องถิ่นย่านนั้นอีกรูปหนึ่ง คือ หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตคาม

    ก่อนได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อเส็ง โดยเฉพาะวิชามหายันต์เกราะเพชรที่โด่งดัง เนื่องจากมีใจรักและฝักใฝ่ศึกษาสรรพวิชา นอกเหนือไปจากการพัฒนาด้านการศึกษาและบูรณปฏิสังขรณ์ศาสนสถาน ท่านยังได้หาโอกาส ไปศึกษาหาความรู้จากครูบาอาจารย์ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังทางด้านกฤติยาคมในยุคนั้นอีกหลายรูป คือ หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ศึกษาวิชาปรอทจากหลวงปู่อวน วัดหนองพลับ อ.หนองแซง จ.สระบุรี อีกทั้งยังศึกษาวิทยาคมทางสายอีสานจาก อาจารย์พรหมา อาจารย์หมอธรรมผู้เรืองนามใน จ.นครราชสีมา เป็นต้น

    วัตถุมงคลที่หลวงปู่โสฬส จัดสร้างขึ้นล้วนแต่ได้รับความนิยมจากเซียนพระและนักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล

    โดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกที่ท่านสร้างแจกทหารหาญผู้อาสาสมัครไปปฏิบัติราชการ ณ สงครามเกาหลี ในปีพุทธศักราช 2495 ขณะนั้นท่านดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลโพธิ์ทองและเจ้าอาวาสวัดโคกอู่ทอง เหรียญรุ่นนี้ได้แจกจ่ายให้ทหารหาญในราชการสงครามเวียด นาม ลาว เขมร และในราชการสงครามปราบปรามผู้ก่อความไม่สงบตามชายแดน เรียกกันว่า เหรียญ 5 สมรภูมิ มีประสบการณ์มาก มาย เป็นที่เสาะแสวงหาของประชาชนในท้องถิ่นข้างเคียงเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงปู่โสฬส เป็นพระสุปฏิปันโนที่สมควรแก่การเคารพ ด้วยอายุกาลพรรษาที่มากเกือบร้อยปี ด้วยคุณวุฒิที่เป็นนักการศึกษาพัฒนาส่งเสริมให้ความรู้แก่กุลบุตร เป็นนักการปกครอง กล่าวคือได้ดำรงตำแหน่ง ทางด้านการปกครอง ดำรงตำแหน่งพระอุปัชฌาจารย์ และเจ้าคณะตำบลมายาวนาน ตั้งแต่พ.ศ. 2490

    หลวงปู่โสฬส มักสอนญาติโยม ว่า "อดีตเหมือนความฝัน ปัจจุบันนี่ความจริง เราไม่สามารถไปแก้ไขอะไรได้กับสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ขอให้หันมาสนใจอย่างยิ่งกับปัจจุบันธรรม ในปัจจุบันขณะเท่านั้นที่เราท่านจะจัด การกับมันได้ ให้มองว่าทุกชีวิตจิตใจล้วนแต่รักสุข เกลียดทุกข์เสมอเหมือนกันด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่ตัวเรา เมื่อดังนี้ได้เราจะมีเมตตาแก่กัน ชีวิตจะมีแต่ความสันติ สุขและเจริญรุ่งเรืองสืบไป"

    นอกจากนี้ ยังเป็นหัวเรือใหญ่ในการรวบรวมศรัทธาปสาทะในการบำรุงพระพุทธศาสนา เป็นพระเถราจารย์ที่พระสงฆ์รุ่นหลังนำมาเป็นแบบอย่าง

    ชาวบ้านได้ขนานนามท่านว่าพระดีศรีประจันตคาม​
     
  11. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    หลวงพ่อสม สุชีโว พระเกจิดังอ่างทอง

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด


    <TABLE border=0 cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left><TBODY><TR><TD bgColor=#e0e0e0 vAlign=top align=middle>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>จังหวัดอ่างทอง มีอำเภอโพธิ์ทอง มีวัดชื่อว่า "วัดโพธิ์ทอง" ตั้งอยู่ที่ ต.คำหยาด อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    เป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี

    ปัจจุบันมี "หลวงพ่อสม สุชีโว" หรือ "พระครูโสภณสิริธรรม" เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง

    เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง อีกทั้งยังเป็นแพทย์แผนโบราณ เป็นพระนักการศึกษา พระนักปกครอง และพระนักพัฒนา พร้อมกันไป

    ชื่อเสียงของหลวงพ่อสมจึงได้ขจรขจายไปทั้งเมืองอ่างทอง เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้านโดยทั่วไป

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า สม พรหมทอง เกิดเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2473 บิดา-มารดา ชื่อ นายหวล และนางละมาย พรหมทอง เกิดที่บ้านบางลำพู ข้างวัดสังเวชวิศยาราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ท่านเป็นบุตรชายคนโต

    ช่วงเกิดสงครามโลก ทั่วพระนครภัยพิบัติไปทั่ว ทำให้ครอบครัวพรหมทองได้รับความเดือดร้อน จึงอพยพครอบครัวไปตั้งรกรากอยู่ที่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท

    ด้วยความที่บิดามีความสนิทสนมกับสม ภารวัดที่อยู่ใกล้กับบ้าน คือ หลวงพ่อทรัพย์ เจ้าอาวาสวัดอินทาราม (วัดตลุก) จึงได้นำบุตรชายไปฝากให้เป็นลูกศิษย์คอยปรนนิบัติรับใช้ในกิจการต่างๆ รวมทั้งอบรมสั่งสอนเล่าเรียนวิชาการต่างๆ จากหลวงพ่อและโรงเรียนประชาบาลที่อยู่ภายในวัดอินทาราม

    ชีวิตในวัยเด็กมีความขยันหมั่นเพียรในการศึกษา จนจบการศึกษาอันเป็นชั้นสูงสุดของโรงเรียน นอกจากวิชาสามัญในโรง เรียนแล้ว หลวงพ่อทรัพย์ยังได้อบรมสั่งสอนวิชาแพทย์แผนโบราณ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

    เนื่องจากหลวงพ่อทรัพย์เป็นหมอยาไทยที่มีชื่อเสียง จะมีผู้คนมาให้ท่านรักษากันมาก จึงมีหน้าที่ปรุงยาไทยให้หลวงพ่อตามใบกำกับยาที่ท่านส่งให้

    ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ท่านได้สั่งสมความรู้ทางแพทย์แผนโบราณอย่างดี

    เมื่ออายุ 17 ปี ย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม หลวงพ่อทรัพย์ได้แจ้งกับโยมบิดามารดา ขอให้ได้เข้าบวชเรียน ท่านจึงได้บรรพชา ศึกษาเรียนพระปริยัติธรรมที่สำนักเรียนวัดอินทาราม พ.ศ.2490 สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี พ.ศ.2491 สอบได้นักธรรมชั้นโท

    นอกจากนี้ ยังได้เรียนวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่เดินทางมาอยู่ปริวาสที่วัดอินทาราม อาทิ หลวงพ่อรุ่งและหลวงพ่อเดิม พระเกจิชื่อดังแห่งวัดหนองโพ จ.นครสวรรค์

    ครั้นต่อมาได้ลาสึก เมื่ออายุ 19 ปี ด้วยเหตุที่โยมบิดามารดามีอายุชราภาพมากขึ้น จำต้องออกมาช่วยงานหาเลี้ยงครอบครัว คือ การควบคุมเรือบรรทุกสินค้าล่องมาค้าขายที่กรุงเทพฯ

    จนเมื่ออายุ 24 ปี วันหนึ่งหลวงพ่อทรัพย์ได้เดินทางมาหาโยมบิดามารดา ขอให้เข้าพิธีอุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน 2496 ณ พัทธสีมาวัดอินทาราม มีพระครูธรรมวิริยโสภณ (ทรัพย์) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์สนิท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์เส็ง เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้รับฉายาว่า สุชีโว มีความหมายว่า "ผู้มีชีวิตอันงาม"

    หลังอุปสมบทจึงหมั่นศึกษาต่อจากที่ได้เล่าเรียนเมื่อครั้งเป็นสามเณร จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นเอก

    ครั้นหมดภาระทางการศึกษาพระปริยัติธรรม ท่านจึงหันไปศึกษาตำราแพทย์แผนโบราณต่อจากที่เคยได้ศึกษาไว้เมื่อครั้งเป็นสามเณรจากหลวงพ่อทรัพย์ ท่านได้ศึกษาอย่างจริงจัง เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง

    ด้วยความมุ่งมั่นเกี่ยวกับการรักษาโรคด้วยยาสมุนไพร ทำให้หลวงพ่อสมได้รับนิมนต์ให้ไปบรรยายวิชาแพทย์แผนโบราณกับหน่วยงานของทางราชการ หน่วยงานเอกชน

    ยามว่างงานด้านการรักษาโรค ก็ศึกษาข้อกัมมัฏฐานและหมั่นเพียรปฏิบัติสมาธิกัมมัฏฐานอย่างเอาจริงเอาจัง

    หลวงพ่อทรัพย์ได้ฝึกอบรมหลวงพ่อสม ด้วยการให้ท่านเขียนลบเลขยันต์ต่างๆ ในแผ่นกระดานชนวนอยู่อย่างนั้นนับแรมปี ด้วยสิ่งใดก็ตามเมื่อทำอย่างซ้ำๆ จะเป็นผลดีในการฝึกจิตแบบอดทน

    นอกจากนี้ หลวงพ่อสมได้ไปศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติมกับน้าแท้ๆ ของท่าน คือ หลวงน้าเก็บหรือหลวงพ่อเก็บ แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท

    กล่าวได้ว่าหลวงพ่อเก็บเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า พระเกจิชื่อดัง

    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อสมได้มาอยู่กับหลวงน้าของท่านที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้ตั้งใจศึกษาวิทยาคมสายหลวงปู่ศุขอย่างจริงจัง จนมีความสำเร็จและมีประสบการณ์ให้ได้เห็นกันในปัจจุบัน ส่งผลให้วัตถุมงคลที่ท่านได้ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตมีความเข้มขลัง ได้รับการยอมรับจากบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง

    หลวงพ่อสมได้ฝึกจิตด้วยความเพียร โดยเห็นว่า "จิตเป็นที่ตั้งแห่งความดีและความชั่ว ความดีและความชั่วนั้นต่างมีพลังงานในตัวของมันเอง และพลังงานของทั้ง 2 ฝ่ายเป็นปฏิปักษ์กันโดยธรรมชาติ มีการต่อสู้กันอยู่เนืองนิตย์ จิตใจเป็นสนามต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย"

    "ผลแห่งการต่อสู้นั้นด้วย คือ พลอยเป็นสุขเมื่อความดีชนะ พลอยเป็นทุกข์เดือดร้อนเมื่อความชั่วชนะ จิตใจย่อมมีอิสรเสรีที่จะเข้ากับฝ่ายใดก็ได้ เมื่อพิจารณาด้วยปัญญาแล้วเห็นควรเข้ากับฝ่ายใด และมีทางเอาตัวรอดจากอำนาจทั้ง 2 ฝ่ายนั้นด้วย"

    พ.ศ.2525 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทอง อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง

    ต่อมาได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามพระครูโสภณสิริธรรม

    พ.ศ.2549 เป็นเจ้าคณะอำเภอโพธิ์ทอง

    ในปีเดียวกัน หลวงพ่อสมได้เข้าศึกษาต่อระดับอุดมศึกษาในมหาวิทยาลัยสงฆ์ ที่มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตวัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี จนจบหลักสูตรพุทธศาสตรบัณฑิต

    หลวงพ่อสมมีชื่อเสียงเกียรติคุณในด้านการจัดสร้างพระผง ได้มีการนำมวลสารผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ที่ได้ผ่านการเขียนสูตร เรียกสูตร ลบสูตรทุกขั้นตอนตามแบบโบราณ

    หลวงพ่อสมได้บอกเล่าถึงกระบวนการทำผงมวลสารวัตถุมงคล ว่า "ต้องหาที่มุมสงบเพื่อให้จิตนิ่งเป็นสมาธิแล้วเขียนสูตรพร้อมเรียกสูตรไปทีละตัวอักขระ จนครบทุกตัวอักขระเลขยันต์บนกระดานชนวน 1 ครั้ง หรือ 1 รอบ ต้องใช้เวลาเขียนสูตร เรียกสูตร ลบสูตรเป็นเวลาถึง 3 ชั่วโมงครึ่ง รวมทั้งการหาฤกษ์เขียนสูตรผง จะต้องเป็นฤกษ์ที่สมบูรณ์ที่สุด เพื่อให้ผงนั้นมีพุทธคุณเข้มขลังมากที่สุด"
     
  12. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    พี่นิ่มขัดจังหวะกินข้าว

    "หนุ่มทิพย์...พี่รบกวนหน่อย... หนุ่มทิพย์เอาพระปิดตาทรงเมตตาไปฝาก พล... อดุลย์ แสงสิงแก้ว ให้พี่หน่อย.....ได้ไหม..."
    "...ครับ..."

    "หนุ่มทิพย์... พี่อ๊อด อยู่ชั้นล่าง หนุ่มทิพย์เอาไปฝากพี่อ๊อดด้วยนะ..."(พลตำรวจเอก ภาณุพงศ์ นามสกุล สิงหรา ณ อยุธยา )


    "...ครับ..."

    "หนุ่มทิพย์ อย่าลืมกะลาตาเดียวพี่นะ รดน้ำให้มันด้วย"

    "...ครับ..."

    "ไอ้อ้วน.... เอาผ้าไปตากหรือยัง แล้วอย่าลืมล้างจานด้วย!..." (เมีย)

    "...ครับ..."

    ......................
     
  13. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,643
    ค่าพลัง:
    +55,534
    เปิดจอง พระปิดตาทรงเมตตา, แก้วเพชรหลีก วัดป่าแดง

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]

    ในรูปจะเห็นว่ามือถือพระหลวงปู่ทวดอยู่ แต่ในกล่องนั้น มีพระปิดตารุ่น "ทรงเมตตา" รวมอยู่ด้วย
    พระปิดตาชุดนี้ โปรดติดตามให้ดี เพราะเข้าพิธีมาตั้งแต่ปิดตาวัดป่าแดง มวลสารเดียวกัน
    แต่คนละพิมพ์ และสัดส่วนของตัวประสานก็ต่างกัน เห็นความแตกต่างชัดเจน
    จะต่างกันมาก ก็คือ จะเน้นเสกเดียว และจะเลือกสุดยอดมาปลุกเสกพร้อมกันอีกครั้งที่วัดป่าแดง

    พระที่มวลสารเดียวกัน พิธีเดียวกัน (ตอนนี้พิธีเยอะกว่าไปแล้ว) ก็ยังเหลืออยู่ และราคาก็ยังพอเก็บได้

    หรือถ้าชอบพระปิดตาเป็นการเฉพาะ ผมก็จะรอ รุ่นทรงเมตตา เพราะตอนนี้ทราบเจตนาและ กำหนดการแน่นอนแล้ว สมกับเป็นรุ่นทรงเมตตาจริงๆ

    ใบ้ให้นิดนึง ว่าคนสร้าง เจตนาสร้างเพื่อเทิดประเกียรติ เพราะนามสกุลคนสร้าง ได้รับพระเมตตาพระราชทาน
    พระราชทานนามสกุลให้ว่า "ทรงเมตตา"

    [​IMG] [​IMG]

    พระปิดตา "ทรงเมตตา" มีจำนวนสร้างเป็นที่แน่นอนแล้ว 3,100 องค์
    จะบรรจุกรุที่วัดป่าแดง จำนวนหนึ่ง ยังไม่เป็นที่แน่นอน ที่เหลือจะนำมาให้บูชา
    เพื่อรวบรวมทุน เป็นค่าบำรุงดูแลรักษาเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด
    ซ่อมสร้างห้องน้ำของวัดป่าแดง เป็นต้น อาทิ.............

    "แก้วเพชรหลีก"
    ผงนี้ได้จากเสี่ยเมืองชลฯ ที่ได้รับพระราชทานฯ
    ท่านผู้การจะนำมาผสมทำพระเพชรหลีก โดยมีนามองค์พระว่า "แก้วเพชรหลีก" โดยนำนามองค์หลวงพ่อแก้ว เป็นปฐม

    [​IMG][​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    รุ่นนี้พิมพ์นี้แหละครับ ที่พี่นิ่มโทรด่วนให้ไปเอามวลสารมาให้ได้ภายใน 1 วัน
    -กะลาไม่มีตา
    -ข้าวสารดำ
    -ข้าวสารหิน
    และที่ได้มาเพิ่ม
    -ข้าวสารนารอด
    -ดินทั้ง 7
    -ไคร้เสมา ฯลฯ (บังคับทำพระฯ)
    -ดินจากวัดไชยมงคล พิชัยสงครม ฯลฯ (หลวงปู่สม ท่านแนะนำให้ไปเอามา ท่านฯว่า ทำพระฯดี ไม่มีแพ้ใคร)
    -น้ำจากถ้ำพระ จังหวัดชัยภูมิ (เป็นน้ำที่ได้จากหมอกภายในถ้ำ รวมตัวเป็นเมฆ ตกปรอยลงในแอ่ง)
    ฯลฯ

    เนื่องมาจาก พี่นิ่ม ได้พิมพ์ เพชรหลีก จากวัดอ่างศิลา และสูตรมวลสาร
    กอปรกับได้พบพระเกจิ ที่นครปฐมฯ ได้รับคำแนะนำให้เร่งรีบทำ

    สมส่วนเมื่อได้ผงหลวงพ่อแก้วมาอีก จึงมีพระนามว่า "แก้วเพชรหลีก"

    จำนวนสร้าง 3,000 องค์
    นำลงใต้ เพื่อแจกทหารหาญที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย (นำลงแจก โดยท่านผู้การฯนาวี) 1,000 องค์
    อีก 2,000 องค์ มอบให้วัดป่าแดง

    พิมพ์ที่เห็นนี้ เป็นชุดลองพิมพ์
    ของจริงน่าจะสวยกว่านี้ครับ

    พี่นิ่ม มั่นใจของที่ทำมาก ย้ำแล้วย้ำอีก "ต้องสามารถทดสอบพุทธคุณได้ ทั้งอาวุธหนักอาวุธเบา พี่รับประกัน"

    สรุปครับ
    ปิดตาทรงเมตตา สร้างและเสกพร้อมกับปิดตาเนื้อผง รุ่นแรก แต่เสกนานกว่า และยังคงตระเวนเสกอยู่ครับ

    อีกองค์หนึ่งนั้น เป็นพระเพชรหลีก พระนามว่า "แก้วเพชรหลีก" ไม่ใช่ปิดตาครับ แก่มวลสารกว่า ผงลงมวลสารที่แก่กว่าไปแล้วครับ

    มวลสาร ใช้สร้างพระวัดป่าแดง
    1) ผงพรายกุมาร, ผงอัฎฐิหลวงปู่ทิม (เมตตามอบให้โดยคุณชาญยุทธ ชัยมณีลูกศิษย์หลวงปู่ทิม อดีตผู้อำนวยการ โรงเรียนประจำจังหวัดระยอง )และคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>อ๊อด ชลบุรี
    2) แป้งเสก หลวงปู่ก๊าด บุรีรัมย์
    3) ผงขี้เถ้าธูปวัดโสธร
    4) ผงขี้เถ้าธูป หลวงพ่อโต วัดบางพลี
    5) ผงขี้เถ้าธูป หลวงพ่อวัดไร่ขิง สามพราน
    6) ผงเหล็กไหลตาแรด วัดถ้ำแฝด กาญจนบุรี
    7) ผงเหล็กไหล วัดบ้านสวน มุกาดหาร
    8) ผงเหล็กไหล อ.ไข่ สุราษฎร์ธานี, ทองคำดำ
    9) ผงเหล็กไหล ถ้ำอึมครึม กาญจนบุรี
    10) ผงเหล็กไหล อ.รวย วัดบ้านทุ่ง กระบี่
    11) ผงเหล็กไหล หลวงพ่อจักร วัดถ้ำเขารังไก่ ชัยนาท
    12) ผงเหล็กไหล หลวงปู่ พรหมมา วัดนาง<st1:personName ProductID="คอย อุบลราชธานี" w:st="on">คอย อุบลราชธานี</st1:personName>
    13) ผงเหล็กไหล เกาะล้าน ชลบุรี
    14) ผงเหล็กไหล น้ำ นนทบุรี
    15) ผงเหล็กเปียก หลวงปู่เย็น เลย
    16) ผงไพรดำ อ.สัมฤทธิ์ ชัยนาท
    17) ผงปรอท หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์
    18) ผงขี้ปรอท หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง ปราจีนบุรี
    19) ผงเหล็กน้ำพี้ อุตรดิตถ์
    20) ข้าวสารดำ วัดเขาอ้อ
    21) ผงเถ้าธูป หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    22) ผงแป้ง หลวงปู่บุดดา สิงห์บุรี
    23) มวลสาร ของหลวงพ่อแพ สิงห์บุรี
    24) มวลสาร หลวงพ่อจ้อย วัดตพองน้ำเขียว ชลบุรี
    25) ดินถ้ำฉันทัน วัดเขาอ้อ
    26) มวลสาร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา
    27) มวลสาร หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง
    28) มวลสาร หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง อ่างทอง
    29) มวลสารเก่า ของอาจารย์ศรีรัตน์ ศิษย์อาจารย์<st1:personName ProductID="ชุม ไชยศรี" w:st="on">ชุม ไชยศรี</st1:personName>
    30) ผงวัดเขาแรด ชลบุรี
    31) ผงว่าน 108 ของวัดเขาอ้อ
    32) ผงขี้เถ้าธูป เจดีย์ นครปฐม
    33) มวลสารผง ของหลวงปู่ผาด วัดบ้านกราด บุรีรัมย์
    34) มวลสารผง ของหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี สุรินทร์
    35) มวลสารผง ของหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนเกด ศรีสะเกษ
    36) มวลสารผง ของหลวงปู่เที่ยง วัดเขากระโดง บุรีรัมย์
    37) มวลสารผง ถ้ำแสงเพชร นครสวรรค์
    38) เหล็กไหล อาจารย์<st1:personName ProductID="เขียว วัดพนองไห" w:st="on">เขียว วัดพนองไห</st1:personName> มหาสารคาม
    39) ผงไม้เทพทาโรและผงไม้งิ้วดำ
    40) ดินยอดเจดีย์
    41) ดินหน้าโบสถ์
    42) ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่
    43) กาฝาก ลัก
    44) กาฝาก คูณ
    45) กาฝาก ขนุน
    46) กาฝาก มะขาม
    47) ผงเถ้าธูป ดอยสุเทพ เชียงใหม่
    48) ผงพระชำรุดแตกหักของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    49) ผงพระปิดตา ของหลวงปู่เหมือน วัดกำแพง ชลบุรี
    50) ผงพระสมเด็จปรกโพธิ์ ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม 51) ผงเหล็กละลายตัว<O:p></O:p>
    52) จ้าวเงินยวง<O:p</O:p
    53) ผงมวลสารจากวัดป่า ชลบุรี<!-- google_ad_section_end -->

    ข่าวดีของเพื่อนสมาชิก

    พระปิดตาเนื้อผงขาว ราคาอยู่ที่ 4,000 บาท เนื้อดำราคาไล่กันอยู่ (แปลก เสกพร้อมกัน จำนวนเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน) และมีออร์เดอร์ให้จัดหาถึง 100 องค์
    (เจ้าอาวาสฯ คงอยู่ไม่เป็นสุข) ราคาซื้อจากเซียน 1,500-2,000 บาท จ่ายล่วงหน้า แต่ราคาขาย 4,000 บาท ขาดตัว

    เป็นผลให้พระปิดตาทรงเมตตา เป็นที่หมายปองของเซียนพระฯ เพราะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

    และระหว่างร่วมทางกับพระอาจารย์พิจารณ์ ท่านได้แนะนำพระเกจิที่เก่งกาจไว้อีกสองสามรูป ทำให้ต้นทุนในการจัดงานพิธีฯ เพิ่มขึ้นไปอีก
    ผมจึงแนะนำให้นำพระฯออกมาจำนวนหนึ่ง(1,000 องค์) เปิดให้เช่าบูชา เพื่อหาทุน และได้รับการยอมรับจากทั้งพี่นิ่มและท่านผู้การฯ

    หากแต่ได้มีการเปลี่ยนใจ เพราะเจ้าของพระฯ มิได้ประสงค์จะทำเพื่อการค้า และแว่วๆว่าจะโดนเหมาหมดในวันงาน จึงจะขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด
    แต่ไม่น่าเกินเดือนเมษายน 2555 ซึ่งจะเป็นวันฉลองวิหารบูรพาจารย์

    ผมไม่ขัดข้อง แต่ผมได้ขอพี่นิ่ม กับท่านผู้การฯ ว่าจะขอพระฯที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ให้ตกอยู่กับเพื่อนสมาชิกบ้าง โดยมิให้เพื่อเป็นการค้าแบบเหมาทำกำไร
    จึงจะกำหนดโค้วต้าให้แต่ละท่าน จองได้ไม่เกินท่านละ 10 องค์ โดยนับจากเพื่อนสมาชิกลำดับที่86 ลงมา (คงต้องรบกวนคุณ suwat.su ตีเส้นแล้วครับ)
    และจากลำดับ 1-86 สามารถจองเพิ่มได้ นับรวมไม่เกิน ท่านละ 15 องค์(แยกเป็นปิดตาฯไม่เกิน 15 องค์, แก้วเพชรหลีกไม่เกิน 15 องค์)

    ทั้งนี้ จะให้เฉพาะเพื่อนสมาชิกเฉพาะในเวปพลังจิตเท่านั้นครับ และยอดรวมจะต้องไม่เกิน อย่างละ 500 องค์ โดยจะกำหนดปิดจอง-โอน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554

    หลังจากนั้น จะเก็บเงียบ รอจนถึงเดือน เมษายน 2555 จึงจะนำมาให้ร่วมบุญอีกครั้ง ในวันฉลองวิหารบูรพาจารย์ ซึ่งถึงตอนนั้น ทางวัดป่าแดง คงจะทำหน้าที่รับช่วงต่อ
    เนื่องจากพระฯจำนวน 2,000-3,000 องค์ ผมรับดูแลไม่ไหวครับ

    จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
    หนุ่มทิพย์

    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญหลวงปู่นาค รุ่นพิเศษ มีนามว่า รุ่น "คุ้มภัย"

    โดยมีดำริจากท่าน ผู้การ พลเรือเอกนาวี ศานติกะนาวิน จัดสร้างขึ้นเพื่อคุ้มภัยให้ทหาร-ตำรวจ ชายแดนใต้ โดยแจกฟรี

    แต่มีเพื่อนสมาชิกบางท่านประสงค์จะเก็บไว้เป็นที่ระฤก ผมจึงนำความเรียนท่านผู้การฯ ท่านผู้การฯก็ยิ้มภูมิใจ (แปลว่าไม่ให้)

    พี่นิ่ม ก็เข้าใจ จึงขอกับท่านผู้การฯ ให้ผมได้เป็นเจ้าของ มาแจกเพื่อนสมาชิกบ้าง ท่านผู้การฯก็ยิ้มหนักขึ้นอีก...(แปลว่าไม่ให้)

    แล้วท่านผู้การฯ ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงปู่นาค เสกเหรียญนี้เสร็จ ท่านฯก็มอบถวายให้หลวงปู่นาคจำนวนหนึ่ง แต่โดนปฏิเสธ เพราะหลวงปู่ฯเข้าใจเจตนา
    จึงจะให้นำไปแจก ท่านผู้การฯ ก็เปลี่ยนเป็นจะมอบให้กรรมการฯดูแลให้ ท่านก็ปฏิเสธอีก เปลี่ยนเป็นช่วยจำหน่าย แล้วหาปัจจัยมาถวาย ท่านก็ปฏิเสธ...

    ผมก็ถามว่า แล้ววัดมะม่วงของหลวงปู่ฯ ดูเป็นอย่างไรบ้าง
    ท่านฯก็ว่า ยังต้องซ่อมแซม

    ผมว่า อย่ากระนั้นเลย ผมขอแบ่งมาจำหน่าย หาทุนก็ละกัน เท่าไหร่เท่านั้น โดยอาจจะยุติที่วันงานวัดป่าแดง และจะไม่ให้ล่วงเกินกินจำนวนที่จะนำแจกทหารตำรวจ

    โดยผมขอท่านไว้ที่ 500 เหรียญ แบ่งเป็นจำหน่ายจับจองในเวปฯ 100 เหรียญ และจำหน่ายหลังงานพิธี ภายในวันนั้นวันเดียว ไม่เกิน 400 เหรียญ
    โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย มอบเป็นทุนบำรุงซ่อมสร้างเสนาสนะของวัดมะม่วงทุกบาททุกสตางค์

    เงื้อนไขนี้ มีเพียงเรื่องเดียว คือผมขอให้พี่นิ่ม QC ก่อนเพื่อนสมาชิกโอนค่าเหรียญ..เป็นอันตกลง

    [​IMG]

    ท่านผู้การฯนาวี มีพระบูชาเชียงแสน สิงห์หนึ่ง ยุคต้น งามมาก
    ลองส่งเข้าประกวด ล่าโล่ห์ประกาศนียบัตร์มาได้หลายงาน
    นึกเป็นกุศล จะทำพระบูชา ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อผิวไฟ กับเนื้อเงินยวง
    โดยถอดแบบจากองค์ล่าโล่ห์ฯ
    เพื่อนสมาชิกท่านใดสนใจ ก็ขอให้แจ้งมา
    จัดสร้างตามจำนวนจอง ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่เอากำไร

    เนื้อผิวไฟ บูชา 3,000 บาท
    บรรจุ หลวงปู่ทวดหรือมวลสารหลวงปู่ทวดปี97 ปิดตามงคลมหาอุจจ์ แก้วเพชรหลีก
    ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ เหรียญคุ้มภัย และฯลฯ ของวัดป่าแดง

    เนื้อเงินยวง 30,000 บาท
    บรรจุ หลวงปู่ทวดหรือมวลสารหลวงปู่ทวดปี97 ผงมวลสารจตุคามปี30 ปิดตาทรงเมตตา
    ปิดตามงคลมหาอุจจ์ แก้วเพชรหลีก ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ และฯลฯ ของวัดป่าแดง

    ปิดจองวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554
    ชำระก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 หรือมาชำระในวันพิธีที่วัดป่าแดง....

    [​IMG]
    [​IMG]

    รายการคงเหลือ ทั้งหมด

    [​IMG]

    *** หมายเหตุ : เฉพาะผู้จอง หลวงปู่ทวด จะต้องโอนเงินก่อนครับ คุณ หนุ่มทิพย์ พร้อมจัดส่งให้ก่อนเลยครับ ***

    [​IMG]
    กำหนดการปิดและโอนเงิน

    โปรดโอนให้ก่อนวันที่ 1 พฤษจิกายน 2554 ด้วยครับ
    เพื่อหาทุนนิมนต์พระเกจิสำหรับพิธีใหญ่ครับ (ตอนแรกว่าจะอยู่ที่ 16 รูป แต่ตอนนี้นับได้ 18 รูปแล้วครับ)

    สำหรับพระบูชาเชียงแสน
    ปิดจองวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554
    ชำระก่อนวันที่ 7 ธันวาคม 2554 หรือมาชำระในวันพิธีที่วัดป่าแดง....

    หมายเลขบัญชีที่โอน

    ธนาคาร กสิกรไทย (สาขาเซ็นทรัลบางนา)
    เลขที่บัญชี 604-2-33303-2
    ชื่อบัญชี มั่นชัย (Manchai Pengjams)

    พระปิดตา "ทรงเมตตา" กับ "หลวงปู่ทวด" ไม่รับจองแล้วนะครับ
    สมัครสมาชิกใหม่ ก็ไม่รับนะครับ

    แต่ แก้วเพชรหลีก เหรียญคุ้มภัย ยังรับอยู่ครับ

    ขอความสวัสดี มีแด่เพื่อนสมาชิกครับ<!-- google_ad_section_end -->

    แก้ไขรายนามพระเกจิ ที่จะมาร่วมงานพิธี 25-26 พฤศจิกายน 2554

    01.หลวงปู่ผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว
    02.หลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม
    03.หลวงปู่ฮก วัดมาบลำบิด
    04.หลวงพ่อแดง วัดหนองใหญ่
    05.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    06.หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง
    07.หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์
    08.หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ
    09.หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง
    10.หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด
    11.หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง
    12.หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
    13.หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    14.หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน
    15.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    16.หลวงพ่อขวัญ วัดนามะตูม
    17.หลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่
    18.หลวงพ่อสุพจน์ วัดห้วงพัฒนา
    19.หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู
    20.หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ
    21. หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย
    22.หลวงพ่อหรีด วัดป่าโมกข์
    23.หลวงพ่อนาค วัดมะม่วง
    24.หลวงพ่อหุน วัดบางผึ้ง
    25.หลวงพ่อเฮียง วัดเขาถ้ำ
    26.หลวงพ่อโมก วัดขนอนเหนือ
    และอาจารย์ฆราวาสอีก 2-3 ท่าน (จะแจ้งเป็นที่แน่นอนอีกครั้งครับ)

    [​IMG]

    Update วันที่ 26/12/54 กระทู้ที่ 1803
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2011
  14. little_duct

    little_duct เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    338
    ค่าพลัง:
    +800


    คล้ายๆกันเลยพี่ catt23
     
  15. chokaku

    chokaku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +4,333
    ลำดับที่ 80
    ชำระเงิน 3400 บาท
    ค่าพระปิดตาทรงเมตตา 5 องค์ และ มงคลมหาอุจจ์ เนื้อชานหมาก 2 องค์
    เมื่อ27/12/54 เวลา 9.51 น.
     
  16. watthikorn

    watthikorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    530
    ค่าพลัง:
    +2,652
    ได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบพระคุณมากครับพี่ทิพย์
     
  17. rawats_99

    rawats_99 ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    1,020
    ค่าพลัง:
    +1,947
    น่าสงสารเป็นที่สุด......
     
  18. joenok

    joenok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +2,157
    แจ้งได้รับพระเรียบร้อยดีครับ
    ขอบคุณมากครับพี่หนุ่มทิพย์
     
  19. nopsena

    nopsena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +4,662
    ได้รับพระเรียบร้อยแล้วครับ
    ขอบคุณพี่หนุ่มทิพย์มากครับ
     
  20. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,643
    ค่าพลัง:
    +55,534
    เปิดจอง พระปิดตาทรงเมตตา, แก้วเพชรหลีก วัดป่าแดง

    [​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    [​IMG]

    ในรูปจะเห็นว่ามือถือพระหลวงปู่ทวดอยู่ แต่ในกล่องนั้น มีพระปิดตารุ่น "ทรงเมตตา" รวมอยู่ด้วย
    พระปิดตาชุดนี้ โปรดติดตามให้ดี เพราะเข้าพิธีมาตั้งแต่ปิดตาวัดป่าแดง มวลสารเดียวกัน
    แต่คนละพิมพ์ และสัดส่วนของตัวประสานก็ต่างกัน เห็นความแตกต่างชัดเจน
    จะต่างกันมาก ก็คือ จะเน้นเสกเดียว และจะเลือกสุดยอดมาปลุกเสกพร้อมกันอีกครั้งที่วัดป่าแดง

    พระที่มวลสารเดียวกัน พิธีเดียวกัน (ตอนนี้พิธีเยอะกว่าไปแล้ว) ก็ยังเหลืออยู่ และราคาก็ยังพอเก็บได้

    หรือถ้าชอบพระปิดตาเป็นการเฉพาะ ผมก็จะรอ รุ่นทรงเมตตา เพราะตอนนี้ทราบเจตนาและ กำหนดการแน่นอนแล้ว สมกับเป็นรุ่นทรงเมตตาจริงๆ

    ใบ้ให้นิดนึง ว่าคนสร้าง เจตนาสร้างเพื่อเทิดประเกียรติ เพราะนามสกุลคนสร้าง ได้รับพระเมตตาพระราชทาน
    พระราชทานนามสกุลให้ว่า "ทรงเมตตา"

    [​IMG] [​IMG]

    พระปิดตา "ทรงเมตตา" มีจำนวนสร้างเป็นที่แน่นอนแล้ว 3,100 องค์
    จะบรรจุกรุที่วัดป่าแดง จำนวนหนึ่ง ยังไม่เป็นที่แน่นอน ที่เหลือจะนำมาให้บูชา
    เพื่อรวบรวมทุน เป็นค่าบำรุงดูแลรักษาเสนาสนะ และถาวรวัตถุต่างๆภายในวัด
    ซ่อมสร้างห้องน้ำของวัดป่าแดง เป็นต้น อาทิ.............

    "แก้วเพชรหลีก"
    ผงนี้ได้จากเสี่ยเมืองชลฯ ที่ได้รับพระราชทานฯ
    ท่านผู้การจะนำมาผสมทำพระเพชรหลีก โดยมีนามองค์พระว่า "แก้วเพชรหลีก" โดยนำนามองค์หลวงพ่อแก้ว เป็นปฐม

    [​IMG][​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    รุ่นนี้พิมพ์นี้แหละครับ ที่พี่นิ่มโทรด่วนให้ไปเอามวลสารมาให้ได้ภายใน 1 วัน
    -กะลาไม่มีตา
    -ข้าวสารดำ
    -ข้าวสารหิน
    และที่ได้มาเพิ่ม
    -ข้าวสารนารอด
    -ดินทั้ง 7
    -ไคร้เสมา ฯลฯ (บังคับทำพระฯ)
    -ดินจากวัดไชยมงคล พิชัยสงครม ฯลฯ (หลวงปู่สม ท่านแนะนำให้ไปเอามา ท่านฯว่า ทำพระฯดี ไม่มีแพ้ใคร)
    -น้ำจากถ้ำพระ จังหวัดชัยภูมิ (เป็นน้ำที่ได้จากหมอกภายในถ้ำ รวมตัวเป็นเมฆ ตกปรอยลงในแอ่ง)
    ฯลฯ

    เนื่องมาจาก พี่นิ่ม ได้พิมพ์ เพชรหลีก จากวัดอ่างศิลา และสูตรมวลสาร
    กอปรกับได้พบพระเกจิ ที่นครปฐมฯ ได้รับคำแนะนำให้เร่งรีบทำ

    สมส่วนเมื่อได้ผงหลวงพ่อแก้วมาอีก จึงมีพระนามว่า "แก้วเพชรหลีก"

    จำนวนสร้าง 3,000 องค์
    นำลงใต้ เพื่อแจกทหารหาญที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย (นำลงแจก โดยท่านผู้การฯนาวี) 1,000 องค์
    อีก 2,000 องค์ มอบให้วัดป่าแดง

    พิมพ์ที่เห็นนี้ เป็นชุดลองพิมพ์
    ของจริงน่าจะสวยกว่านี้ครับ

    พี่นิ่ม มั่นใจของที่ทำมาก ย้ำแล้วย้ำอีก "ต้องสามารถทดสอบพุทธคุณได้ ทั้งอาวุธหนักอาวุธเบา พี่รับประกัน"

    สรุปครับ
    ปิดตาทรงเมตตา สร้างและเสกพร้อมกับปิดตาเนื้อผง รุ่นแรก แต่เสกนานกว่า และยังคงตระเวนเสกอยู่ครับ

    อีกองค์หนึ่งนั้น เป็นพระเพชรหลีก พระนามว่า "แก้วเพชรหลีก" ไม่ใช่ปิดตาครับ แก่มวลสารกว่า ผงลงมวลสารที่แก่กว่าไปแล้วครับ

    มวลสาร ใช้สร้างพระวัดป่าแดง
    1) ผงพรายกุมาร, ผงอัฎฐิหลวงปู่ทิม (เมตตามอบให้โดยคุณชาญยุทธ ชัยมณีลูกศิษย์หลวงปู่ทิม อดีตผู้อำนวยการ โรงเรียนประจำจังหวัดระยอง )และคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>อ๊อด ชลบุรี
    2) แป้งเสก หลวงปู่ก๊าด บุรีรัมย์
    3) ผงขี้เถ้าธูปวัดโสธร
    4) ผงขี้เถ้าธูป หลวงพ่อโต วัดบางพลี
    5) ผงขี้เถ้าธูป หลวงพ่อวัดไร่ขิง สามพราน
    6) ผงเหล็กไหลตาแรด วัดถ้ำแฝด กาญจนบุรี
    7) ผงเหล็กไหล วัดบ้านสวน มุกาดหาร
    8) ผงเหล็กไหล อ.ไข่ สุราษฎร์ธานี, ทองคำดำ
    9) ผงเหล็กไหล ถ้ำอึมครึม กาญจนบุรี
    10) ผงเหล็กไหล อ.รวย วัดบ้านทุ่ง กระบี่
    11) ผงเหล็กไหล หลวงพ่อจักร วัดถ้ำเขารังไก่ ชัยนาท
    12) ผงเหล็กไหล หลวงปู่ พรหมมา วัดนาง<st1:personName w:st="on" ProductID="คอย อุบลราชธานี">คอย อุบลราชธานี</st1:personName>
    13) ผงเหล็กไหล เกาะล้าน ชลบุรี
    14) ผงเหล็กไหล น้ำ นนทบุรี
    15) ผงเหล็กเปียก หลวงปู่เย็น เลย
    16) ผงไพรดำ อ.สัมฤทธิ์ ชัยนาท
    17) ผงปรอท หลวงปู่ละมัย เพชรบูรณ์
    18) ผงขี้ปรอท หลวงปู่โสฬส วัดโคกอู่ทอง ปราจีนบุรี
    19) ผงเหล็กน้ำพี้ อุตรดิตถ์
    20) ข้าวสารดำ วัดเขาอ้อ
    21) ผงเถ้าธูป หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    22) ผงแป้ง หลวงปู่บุดดา สิงห์บุรี
    23) มวลสาร ของหลวงพ่อแพ สิงห์บุรี
    24) มวลสาร หลวงพ่อจ้อย วัดตพองน้ำเขียว ชลบุรี
    25) ดินถ้ำฉันทัน วัดเขาอ้อ
    26) มวลสาร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม อยุธยา
    27) มวลสาร หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง อ่างทอง
    28) มวลสาร หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง อ่างทอง
    29) มวลสารเก่า ของอาจารย์ศรีรัตน์ ศิษย์อาจารย์<st1:personName w:st="on" ProductID="ชุม ไชยศรี">ชุม ไชยศรี</st1:personName>
    30) ผงวัดเขาแรด ชลบุรี
    31) ผงว่าน 108 ของวัดเขาอ้อ
    32) ผงขี้เถ้าธูป เจดีย์ นครปฐม
    33) มวลสารผง ของหลวงปู่ผาด วัดบ้านกราด บุรีรัมย์
    34) มวลสารผง ของหลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี สุรินทร์
    35) มวลสารผง ของหลวงปู่เกลี้ยง วัดโนนเกด ศรีสะเกษ
    36) มวลสารผง ของหลวงปู่เที่ยง วัดเขากระโดง บุรีรัมย์
    37) มวลสารผง ถ้ำแสงเพชร นครสวรรค์
    38) เหล็กไหล อาจารย์<st1:personName w:st="on" ProductID="เขียว วัดพนองไห">เขียว วัดพนองไห</st1:personName> มหาสารคาม
    39) ผงไม้เทพทาโรและผงไม้งิ้วดำ
    40) ดินยอดเจดีย์
    41) ดินหน้าโบสถ์
    42) ผงจักรพรรดิ หลวงปู่ดู่
    43) กาฝาก ลัก
    44) กาฝาก คูณ
    45) กาฝาก ขนุน
    46) กาฝาก มะขาม
    47) ผงเถ้าธูป ดอยสุเทพ เชียงใหม่
    48) ผงพระชำรุดแตกหักของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    49) ผงพระปิดตา ของหลวงปู่เหมือน วัดกำแพง ชลบุรี
    50) ผงพระสมเด็จปรกโพธิ์ ของหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม 51) ผงเหล็กละลายตัว<O:p></O:p>
    52) จ้าวเงินยวง<O:p</O:p
    53) ผงมวลสารจากวัดป่า ชลบุรี<!-- google_ad_section_end -->

    ข่าวดีของเพื่อนสมาชิก

    พระปิดตาเนื้อผงขาว ราคาอยู่ที่ 4,000 บาท เนื้อดำราคาไล่กันอยู่ (แปลก เสกพร้อมกัน จำนวนเท่ากัน แต่ราคาต่างกัน) และมีออร์เดอร์ให้จัดหาถึง 100 องค์
    (เจ้าอาวาสฯ คงอยู่ไม่เป็นสุข) ราคาซื้อจากเซียน 1,500-2,000 บาท จ่ายล่วงหน้า แต่ราคาขาย 4,000 บาท ขาดตัว

    เป็นผลให้พระปิดตาทรงเมตตา เป็นที่หมายปองของเซียนพระฯ เพราะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ

    และระหว่างร่วมทางกับพระอาจารย์พิจารณ์ ท่านได้แนะนำพระเกจิที่เก่งกาจไว้อีกสองสามรูป ทำให้ต้นทุนในการจัดงานพิธีฯ เพิ่มขึ้นไปอีก
    ผมจึงแนะนำให้นำพระฯออกมาจำนวนหนึ่ง(1,000 องค์) เปิดให้เช่าบูชา เพื่อหาทุน และได้รับการยอมรับจากทั้งพี่นิ่มและท่านผู้การฯ

    หากแต่ได้มีการเปลี่ยนใจ เพราะเจ้าของพระฯ มิได้ประสงค์จะทำเพื่อการค้า และแว่วๆว่าจะโดนเหมาหมดในวันงาน จึงจะขอเลื่อนออกไปโดยไม่มีกำหนด
    แต่ไม่น่าเกินเดือนเมษายน 2555 ซึ่งจะเป็นวันฉลองวิหารบูรพาจารย์

    ผมไม่ขัดข้อง แต่ผมได้ขอพี่นิ่ม กับท่านผู้การฯ ว่าจะขอพระฯที่กำลังดำเนินการอยู่นี้ ให้ตกอยู่กับเพื่อนสมาชิกบ้าง โดยมิให้เพื่อเป็นการค้าแบบเหมาทำกำไร
    จึงจะกำหนดโค้วต้าให้แต่ละท่าน จองได้ไม่เกินท่านละ 10 องค์ โดยนับจากเพื่อนสมาชิกลำดับที่86 ลงมา (คงต้องรบกวนคุณ suwat.su ตีเส้นแล้วครับ)
    และจากลำดับ 1-86 สามารถจองเพิ่มได้ นับรวมไม่เกิน ท่านละ 15 องค์(แยกเป็นปิดตาฯไม่เกิน 15 องค์, แก้วเพชรหลีกไม่เกิน 15 องค์)

    ทั้งนี้ จะให้เฉพาะเพื่อนสมาชิกเฉพาะในเวปพลังจิตเท่านั้นครับ และยอดรวมจะต้องไม่เกิน อย่างละ 500 องค์ โดยจะกำหนดปิดจอง-โอน วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554

    หลังจากนั้น จะเก็บเงียบ รอจนถึงเดือน เมษายน 2555 จึงจะนำมาให้ร่วมบุญอีกครั้ง ในวันฉลองวิหารบูรพาจารย์ ซึ่งถึงตอนนั้น ทางวัดป่าแดง คงจะทำหน้าที่รับช่วงต่อ
    เนื่องจากพระฯจำนวน 2,000-3,000 องค์ ผมรับดูแลไม่ไหวครับ

    จึงแจ้งมาเพื่อทราบ
    หนุ่มทิพย์

    [​IMG] [​IMG]
    เหรียญหลวงปู่นาค รุ่นพิเศษ มีนามว่า รุ่น "คุ้มภัย"

    โดยมีดำริจากท่าน ผู้การ พลเรือเอกนาวี ศานติกะนาวิน จัดสร้างขึ้นเพื่อคุ้มภัยให้ทหาร-ตำรวจ ชายแดนใต้ โดยแจกฟรี

    แต่มีเพื่อนสมาชิกบางท่านประสงค์จะเก็บไว้เป็นที่ระฤก ผมจึงนำความเรียนท่านผู้การฯ ท่านผู้การฯก็ยิ้มภูมิใจ (แปลว่าไม่ให้)

    พี่นิ่ม ก็เข้าใจ จึงขอกับท่านผู้การฯ ให้ผมได้เป็นเจ้าของ มาแจกเพื่อนสมาชิกบ้าง ท่านผู้การฯก็ยิ้มหนักขึ้นอีก...(แปลว่าไม่ให้)

    แล้วท่านผู้การฯ ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อหลวงปู่นาค เสกเหรียญนี้เสร็จ ท่านฯก็มอบถวายให้หลวงปู่นาคจำนวนหนึ่ง แต่โดนปฏิเสธ เพราะหลวงปู่ฯเข้าใจเจตนา
    จึงจะให้นำไปแจก ท่านผู้การฯ ก็เปลี่ยนเป็นจะมอบให้กรรมการฯดูแลให้ ท่านก็ปฏิเสธอีก เปลี่ยนเป็นช่วยจำหน่าย แล้วหาปัจจัยมาถวาย ท่านก็ปฏิเสธ...

    ผมก็ถามว่า แล้ววัดมะม่วงของหลวงปู่ฯ ดูเป็นอย่างไรบ้าง
    ท่านฯก็ว่า ยังต้องซ่อมแซม

    ผมว่า อย่ากระนั้นเลย ผมขอแบ่งมาจำหน่าย หาทุนก็ละกัน เท่าไหร่เท่านั้น โดยอาจจะยุติที่วันงานวัดป่าแดง และจะไม่ให้ล่วงเกินกินจำนวนที่จะนำแจกทหารตำรวจ

    โดยผมขอท่านไว้ที่ 500 เหรียญ แบ่งเป็นจำหน่ายจับจองในเวปฯ 100 เหรียญ และจำหน่ายหลังงานพิธี ภายในวันนั้นวันเดียว ไม่เกิน 400 เหรียญ
    โดยรายได้จากการจำหน่ายทั้งหมด ไม่หักค่าใช้จ่าย มอบเป็นทุนบำรุงซ่อมสร้างเสนาสนะของวัดมะม่วงทุกบาททุกสตางค์

    เงื้อนไขนี้ มีเพียงเรื่องเดียว คือผมขอให้พี่นิ่ม QC ก่อนเพื่อนสมาชิกโอนค่าเหรียญ..เป็นอันตกลง

    [​IMG]

    ท่านผู้การฯนาวี มีพระบูชาเชียงแสน สิงห์หนึ่ง ยุคต้น งามมาก
    ลองส่งเข้าประกวด ล่าโล่ห์ประกาศนียบัตร์มาได้หลายงาน
    นึกเป็นกุศล จะทำพระบูชา ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว เนื้อผิวไฟ กับเนื้อเงินยวง
    โดยถอดแบบจากองค์ล่าโล่ห์ฯ
    เพื่อนสมาชิกท่านใดสนใจ ก็ขอให้แจ้งมา
    จัดสร้างตามจำนวนจอง ไม่ขาด ไม่เกิน ไม่เอากำไร

    เนื้อผิวไฟ บูชา 3,000 บาท
    บรรจุ หลวงปู่ทวดหรือมวลสารหลวงปู่ทวดปี97 ปิดตามงคลมหาอุจจ์ แก้วเพชรหลีก
    ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ เหรียญคุ้มภัย และฯลฯ ของวัดป่าแดง

    เนื้อเงินยวง 30,000 บาท
    บรรจุ หลวงปู่ทวดหรือมวลสารหลวงปู่ทวดปี97 ผงมวลสารจตุคามปี30 ปิดตาทรงเมตตา
    ปิดตามงคลมหาอุจจ์ แก้วเพชรหลีก ผงแร่เหล็กไหลตาน้ำ และฯลฯ ของวัดป่าแดง

    ปิดจองวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554
    ชำระก่อนวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 หรือมาชำระในวันพิธีที่วัดป่าแดง....

    [​IMG]
    [​IMG]

    รายการคงเหลือ ทั้งหมด

    [​IMG]

    รายการโอนเงิน ทั้งหมด

    [​IMG]
    *** หมายเหตุ : เฉพาะผู้จอง หลวงปู่ทวด จะต้องโอนเงินก่อนครับ คุณ หนุ่มทิพย์ พร้อมจัดส่งให้ก่อนเลยครับ ***

    [​IMG]
    กำหนดการปิดและโอนเงิน

    โปรดโอนให้ก่อนวันที่ 1 พฤษจิกายน 2554 ด้วยครับ
    เพื่อหาทุนนิมนต์พระเกจิสำหรับพิธีใหญ่ครับ (ตอนแรกว่าจะอยู่ที่ 16 รูป แต่ตอนนี้นับได้ 18 รูปแล้วครับ)

    สำหรับพระบูชาเชียงแสน
    ปิดจองวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554
    ชำระก่อนวันที่ 7 ธันวาคม 2554 หรือมาชำระในวันพิธีที่วัดป่าแดง....

    หมายเลขบัญชีที่โอน

    ธนาคาร กสิกรไทย (สาขาเซ็นทรัลบางนา)
    เลขที่บัญชี 604-2-33303-2
    ชื่อบัญชี มั่นชัย (Manchai Pengjams)

    พระปิดตา "ทรงเมตตา" กับ "หลวงปู่ทวด" ไม่รับจองแล้วนะครับ
    สมัครสมาชิกใหม่ ก็ไม่รับนะครับ

    แต่ แก้วเพชรหลีก เหรียญคุ้มภัย ยังรับอยู่ครับ

    ขอความสวัสดี มีแด่เพื่อนสมาชิกครับ<!-- google_ad_section_end -->

    แก้ไขรายนามพระเกจิ ที่จะมาร่วมงานพิธี 25-26 พฤศจิกายน 2554

    01.หลวงปู่ผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว
    02.หลวงปู่ปัญญา วัดหนองผักหนาม
    03.หลวงปู่ฮก วัดมาบลำบิด
    04.หลวงพ่อแดง วัดหนองใหญ่
    05.หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    06.หลวงพ่อสม วัดโพธิ์ทอง
    07.หลวงพ่อแขก วัดสุนทรประดิษฐ์
    08.หลวงพ่อเกาะ วัดท่าสมอ
    09.หลวงพ่อทองหยิบ วัดบ้านกลาง
    10.หลวงพ่อแถม วัดช้างแทงกระจาด
    11.หลวงพ่อคง วัดเขากลิ้ง
    12.หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
    13.หลวงพ่อรวย วัดตะโก
    14.หลวงพ่อมี วัดม่วงคัน
    15.หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว
    16.หลวงพ่อขวัญ วัดนามะตูม
    17.หลวงพ่อสิน วัดระหารใหญ่
    18.หลวงพ่อสุพจน์ วัดห้วงพัฒนา
    19.หลวงปู่คำบุ วัดกุดชมภู
    20.หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ
    21. หลวงพ่อสารันต์ วัดดงน้อย
    22.หลวงพ่อหรีด วัดป่าโมกข์
    23.หลวงพ่อนาค วัดมะม่วง
    24.หลวงพ่อหุน วัดบางผึ้ง
    25.หลวงพ่อเฮียง วัดเขาถ้ำ
    26.หลวงพ่อโมก วัดขนอนเหนือ
    และอาจารย์ฆราวาสอีก 2-3 ท่าน (จะแจ้งเป็นที่แน่นอนอีกครั้งครับ)

    Update วันที่ 27/12/54 กระทู้ที่ 1815
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 ธันวาคม 2011
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...