เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

สวัสดีครับ พี่หนุ่ม ขอส่งภาพร่วมวงด้วยคร้าบ(y)

 

เห็นพี่เริญ ชอบแบบเป็นฝูง.....

.................................................
วันอาทิตย์ ผมตัดสินใจเลือกภาพที่ชอบนะครับ เพื่อนสมาชิกท่านใดช่วยโหวด ก็จะขอบคุณมาก (อาจจะมีของตอบแทนให้ด้วย)

..........................
วันที่ 18 ที่วัดอู่ไท ฉะเชิงเทรา พี่นิ่มไปร่วมพิธีฯ ใครถ่ายรูปพี่นิ่มได้ มีของรางวัลพิเศษ

 

ถ้าเป็นเสือ เอ่อ..ถ้าเป็นผม ชอบรูปนี้....

 

สวัสดีครับ,

ผมขอแสดงความเห็นส่วนตัวครับ

ผมว่าพระปิดตาทรงเมตตา ถ่ายออกมาเห็นเนื้อ มวลสาร ความคม ชัด(ลึก) อาจจะลดน้อยไปหน่อย คมชัดในบางส่วน

ผมชอบนะครับ ถ่ายออกมาแล้วดูเป็นธรรมชาติดี ไม่หลอกตา (เมื่อดูเปรียบเทียบกับของตัวเอง)

ขอบคุณครับ

 

วันที่2มีค. ที่วัดกำแพง กทม. แถวเซ็นทรัลพระราม2 มีพิธีพุทธาพิเศก หลวงพ่อไปล่รุ่นที่3 นะครับ หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้วมาด้วย แต่หลวงพ่อเพี้ยนตอนกลางปีที่แล้วหล่อนำฤกษ์ท่านมาด้วย ไม่รู้วันที่2 นี้มาหรือไม่

 

พิธีพุทธาภิเษกที่มีทั้ง หลวงพ่อรวย ลพเพิ่ม และลพเพี้ยน คือ พิธีวันที่ 21 แถวอยุธยา หลวงพ่อเขียว วัดห้วยเงาะเป็นประธาน

 

ขอบคุณครับ ว่าแต่วัดไหนครับ.....

................

วันนี้ มีคนไปดักพี่นิ่ม ที่วัดท้าวอู่ไท ได้พระฯดีๆไปเฉยเลย...........

 

เด๋วผมจะเอารูปมาฟ้องนะครับพี่ ว่าไอ้หนุ่มคนนั้นเป็นใคร...

เริ่มจากรูปก่อนงานพิธีครับ เป็นพระอุโบสถที่วัดฯกำลังดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและพื้นที่โดยรอบที่จัดพิธีในครั้งนี้

 

ต่อด้วยบรรยากาศในวันงานครับ

 

พระปิดตาทรงเมตตาองค์นี้พอได้รับจากพี่หนุ่มทิพย์ ผมก็เลี่ยมบูชาขึ้นคอเลย

 

ส่วนองค์นี้พึ่งได้รับความเมตตาจากพี่นิ่มครับ
เอามาอวดให้พี่หนุ่มทิพย์และสมาชิกที่ติดตามอ่านกระทู้นี้ได้ชมกัน
ถ้ามีโอกาส จะเล่าให้ฟังว่าพี่นิ่มคุยอะไรให้ฟังบ้าง....
(รอพี่หนุ่มทิพย์เสร็จธุระ กลับมาเขียนกระทู้ก่อน)

 

ธุระไม่มีครับ มีแต่ช่วงเวลานี้ กำลังมีความสุขกับการได้อยู่นิ่งๆ ไม่ต้องเคลื่อนไหว

..........................

คุณอนันตภพ ส่งคุณอา มารับพระฯแทน เพราะเจ้าตัวรับงานไปต่างประเทศ
คุณอา เล่าให้ฟังว่า คุณอนันตภพ เชื่อถือเต่า วัดป่าแดงมาก จากงานที่กำลังจะริ่ง ก็รุ่งขึ้นมา

คุณอา เป็นนักปฏิบัติฯท่านหนึ่ง เลยอยู่คุยกับผมนานเป็นพิเศษ
เลยได้สอบถามถึงครูกรรมฐานกัน คุณอาเล่าประสพการณ์ปฏิบัติได้สนุก ผมเลยได้อานิสงค์กินฟรีไปอีก.....

(ฝากถึงคุณอนันตภพ : เวลารุ่งอย่าประมาท ต้องระวังทุกฝีก้าว จะรุ่งที่ไหนก็ไม่เป็นปัญหา แต่เวลาดวงตก ให้ดวงมาตกในบ้านจะน่ากลัวน้อยกว่า อยู่ต่างประเทศ ก็ให้ระวังเรื่องขนบธรรมเนียมประเพณีของทางนั้น แล้วก็ขอให้ประสพความสำเร็จกลับมาครับ)
........................................

พี่ไพรัช ถ่ายรูปพระฯของหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือมาให้ศึกษา
พบว่ามีของเก๊ ฝีมือเฉียบขาดมาเปรียบเทียบด้วย

ไว้จะเอามาให้ศึกษาร่วมกัน....(แว่วๆว่า คุณอ๊อด เจ้าของอู่ใหญ่ฯ ชลบุรี กำลังจีบๆเหมือนกัน)

 

สมัยยังรุ่นๆ เงินเดือนไม่ถึงหมื่น แต่มีใจขยัน เป็นว่างเมื่อไหร่ จะต้องนั่งรถเมล์ไปกราบหลวงปู่นนท์ อยู่เสมอ

ทางเข้าวัดฯไม่ลำบาก แต่ถ้าไม่มีรถไปเอง ก็ต้องนั่งสองแถวเพียงเท่านั้น ต่อรถจากตัวเมืองมาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็ถึง

วัดฯอยู่ติดถนนใหญ่ มีกำแพงศิลาสูงไม่ถึงเอว ได้บรรยากาศดี
หลังวัดฯ(แต่เดิมเป็นหน้าวัด) ติดแม่น้ำแม่กลอง ร่มรื่นมาก

หลวงปู่ฯอยู่กุฏิไม้ชั้นเดียวหลังเล็กๆ เวลาเดินต้องระวัง เพราะไม้เก่าและบาง
แต่ผมเป็นคนตัวเล็ก และเคยชินกับบ้านแบบนี้สมัยอยู่สลัม ก็เลยเฉยๆ ค่อนข้างจะชอบเสียด้วย

น่าจะเป็นประมาณปี 2541 หลวงปู่ฯยังดูแข็งแรงเสมอ แม้ในปลายชีวิตท่าน
ผมไปเมื่อตอนที่ยังไม่มีศูนย์ฯเข้ามา เพียงแต่มีหนังสือพระเกจิฯเข้าไปทำประวัติ แล้วก็เท่านั้น

วัตถุมงคลของท่านฯไม่ได้อยู่ในตู้เหมือนวัดอื่น แต่อยู่ในตู้กระจกภายในกุฏิ ไม่มีใครดูแล
ผมก็ถามท่านฯว่าแต่ละชิ้นราคาเท่าไหร่ ท่านฯก็ว่าแล้วแต่ทำบุญ ผมสตางค์ก็ไม่ค่อยมี แต่ก็ไม่อยากให้หลวงปู่ฯขาดทุน ก็เลยอาศัยไปบ่อยๆ เลยได้มาเยอะ

และได้มาเยอะมาก ก็ตอนที่ผมหากฐินไปทำบุญกับท่านฯ และถือเป็นวัดแรกที่ผมเริ่มต้นหาเงินเข้าวัด...(เพิ่งนึกได้นะเนี้ยะ...)

หลวงปู่ฯมีวิชาสะเดาะห์เคราะห์ตามแบบฉบับของท่านฯ คล้ายๆกับการทำสังฆทาน
โดยนิมนต์พระลูกวัดฯมาช่วยสวดนพเคราะห์ ท่านฯยังเคยทำให้ผมเหมือนกัน

ผมเคยเอาปลาไปปล่อย ท่านฯก็มนต์ให้เป็นอย่างดี เห็นแล้วนึกอยากจะทำกับท่านอีก

พอท่านฯได้กฐินปีนั้นแล้ว ท่านฯก็ได้กุฏิหลังใหม่ ผมยังถวายโคมไฟติดกุฏิท่านด้วย

แม้สตางค์จะไม่ค่อยมี แต่เก็บตังค์ซื้อสลากออมสินไปจำนวนหนึ่ง แล้วเอามาให้หลวงปู่ฯมนต์ให้ .......ได้สตางค์จากสลากมาซื้อโคมไฟถวายหลวงปู่ฯ

กุฏิหลังนี้ สร้างทับหลังเก่า แต่อยู่ได้ไม่นานก็เกิดเพลิงไหม้ยามดึก สัณนิฐานว่าเกิดจากเทียนล้ม และมีคนเห็นหลวงปู่ฯ เดินเอาจีวรคลุมตัวลุยไฟออกมา

ไม่นานก็มีการสร้างกุฏิขึ้นหลังใหม่ ครั้งนี้ย้ายออกมาหน่อย และใหญ่โตกว่าเก่า แต่ในสายตาผม ดูแล้วไม่สวยเท่าเก่า ผมชอบหลังเก่าก่อนไฟใหม้มากกว่า ยุคนั้นเริ่มมีศูนย์พระเครื่องเข้ามาแล้ว คุณภาพของวัตถุมงคลดูไม่เท่าเก่า ของเก่าสวยกว่ามาก

เคยมีคนเอาแผ่นโลหะไปให้หลวงปู่ฯจาร หลวงปู่ฯก็จารยันต์ประจำตัว (นะ อภิญญา) ตัวเดียว แต่ลายมือท่านเบาและตัวเล็ก ถ้าไม่สังเกตเอาแว่นส่องก็มองไม่เห็น
ผู้ที่ได้ไปจะเอาไปทำพระฯ ก็เลยตระเวนไปกราบหลวงปู่หลวงพ่อรูปอื่นอีก แล้วไม่สังเกต เอาแผ่นยันต์แผ่นนั้นไปให้พระสุปฏิปันโนรูปหนึ่งจาร หลวงปู่รูปนั้นไม่ยอมจาร บอกเพียงว่า "เค้าจารไว้เต็มแล้ว...หาที่ลงไม่ได้"
เจ้าของแผ่นโลหะ ต้องเอากลับมาพิจารณา ถึงได้มองเห็น!

แฟนผมเคยเอาพระฯของท่านมาให้ผมสาบาน ว่าผมไม่เคยนอกใจเธอ...
ผมปากสั่น แล้วบอกให้เธอเอาพระฯเก็บเถอะ.... ผมรักเธอไม่แพ้รักหลวงปู่ดอก......


ครั้งหน้า อย่าใช้คำว่า "เรียน" กับผมอีกนะครับ แค่ "สวัสดี" ก็พอครับ

ปล.ลืม..... หลวงปู่ฯเป่ากระหม่อมก็มีครับ แต่ถ้ารักมาก ก็จารให้ คงรู้นะครับ ว่าจารตัวอะไร.......

 

เพิ่งทราบข่าวว่าหลวงปู่จันทา วัดเขาน้อยมรณะภาพ
ขอกราบอาลัยหลวงปู่ฯ

ผมค้นข้อความที่พี่ต่อ รณธรรม ธาราพันธุ์ เขียนถึงหลวงปู่ฯ ความว่า

เพราะชันษาที่มากเข้า ประกอบกับศิษย์ที่มากขึ้น หลายหมู่เหล่าเป็นศิษย์ประเภทขาดกำลังใจ จิตอ่อนแอ จึงร้องขอ “อะไร” สักอย่างที่จะเป็นเครื่องแทนองค์หลวงปู่ไว้พึ่งพาทางใจในยามจวนตัว เพราะเมตตาใหญ่ที่เจริญรอยตามองค์อาจารย์ คือ หลวงปู่ขาว จึงอนุญาตให้ศิษย์ทำของที่ระลึกขึ้น เป็นบางคราว ศิษย์ก็หวังจะได้เห็นอภินิหารในของ “ของ” นั้นบ้างในบางครั้ง แล้วก็เห็นกันจนได้ในคราวหนึ่ง

ส.จ.จังหวัดพิจิตรคนหนึ่งไปกราบเยี่ยมหลวงปู่จันทา ที่วัดเขาน้อย เพราะได้ยินกิตติศัพท์มาก่อน เมื่อเอ่ยปากขอเครื่องมงคล ท่านก็เมตตามอบผ้ายันต์สีแดงให้ผืนหนึ่งภายในบรรจุด้วยรูปหลวงปู่เป็นลายเส้น และยันต์มงกุฎพระพุทธเจ้ากับคาถาพระไตรสรณคมน์ ทั้ง 3 บท ของหลวงปู่ ครั้นกราบลาแล้วก็ขับเก๋งคู่ใจ มุ่งตรงมาแวะจอดทำธุระที่ตลาด ขณะที่ยืนไขกุญแจล็อกประตูรถด้านคนขับนั่นเอง ปรากฏชายฉกรรจ์ 2 คน ซ้อนมอเตอร์ไซค์ขี่มาหยุดอยู่ข้างๆ และโดยไม่มีสัญญาณใดๆทั้งสิ้น ชายผู้ซ้อนหลังก็หยิบปืนออกจากเอวเบนปากกระบอกไปยังเป้านิ่งที่ยืนตะลึงตรงหน้า แล้วลั่นไก ปัง... ปัง...ออกไปราว 3-4 นัด

จากนั้นก็บึ่งรถหายลับไป บนถนนราวกับภูตผี ร่าง ส.จ. เคราะห์ร้ายรูดลงไปกองอยู่กับพื้น เป็นเป้าสายตาที่ใครต่อใครต่างกรูกันเข้ามา พอประคองลุกขึ้นจะส่งโรงหมอ ก็ให้ประหลาดใจที่ไม่เห็นเลือดนองดังคิด ไม่เห็นความเจ็บปวดอะไรบนใบหน้านอกจากแววตาที่ตื่นตระหนกเมื่อรุมล้อมซักถาม ได้ความว่า ยมทูตทั้ง 2 ยื่นความตายให้ไม่ถึงตัว ห่างกันไม่พอ 2 เมตร กลับยิงไม่ถูกเลยสักนัด ต่อให้คนไม่เคยยิงปืน มันก็น่าจะถูกบ้าง เลยเป็นเรื่องอัศจรรย์ที่แคล้วคลาดได้ ต่างซักถามถึงพระดีว่าแขวนอะไร ส.จ.เคราะห์ร้ายผู้กลับมาเคราะห์ดีบอกว่า ไม่ได้แขวนพระอะไร แต่มีผ้ายันต์ ผืนหนึ่ง เพิ่งรับมาจากหลวงปู่จันทาสดๆ ร้อนๆ ไทยมุงก็ขอชมเป็นบุญตา เขาก็ล้วงจากกระเป๋าเสื้อออกมาคลี่ให้คนชม หัวกระสุนทั้ง 4 นัด นอนกลิ้งอยู่กลางผ้ายันต์ !! เสียงอื้ออึงก็สนั่นขึ้นอีก รวมถึง ส.จ.คนนั้น ที่แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง กระสุนปืนที่ถูกยิงออกมามีความรุนแรงแค่ไหนใครก็รู้ ไม่ถูกยังพอว่า นี่กลับมาอยู่ในผ้ายันต์ที่พับเป็นสี่เหลี่ยมไว้ในกระเป๋าเสื้อ เป็นไปได้อย่างไร?

เหตุการณ์นี้ทำให้ผ้ายันต์ผืนดังว่าหมดพรึ่บไปจากวัด หลวงปู่เองก็แจก...แจก...แจก...อยู่แล้ว แต่ไหนแต่ไรไม่เคยให้เช่า แล้วอะไรจะเหลือล่ะครับ

ข้อมูลบางส่วนจาก
1. 83 ปี หลวงปู่จันทา ถาวโรและธรรมพเนจร
2. บทความ, รณธรรม ธาราพันธุ์
................................


ผมมีเพื่อนรุ่นพี่ เป็น ส.จ.อยู่ที่พิจิตร คุณสุวิทย์ ชอบใช้ สจ.บางมูลนาค นับถือว่าเป็นศิยษ์หลวงปู่ขวัญ วัดบ้านไร่ หลวงปู่อิน วัดฟ้าหลั่งเหมือนกัน ก็เลยสนิทกัน(ผมสนิทคนเดียวก็ได้) ก็เลยสอบถามทวนความว่าจริงหรือไม่ กับเรื่องผ้ายันต์แดงที่ได้ยินมา คุณสุวิทย์ ก็ว่าจริง เพราะรู้จัก สจ.ท่านที่ถูกยิง แล้วก็แจ้งชื่อมา

ผมรู้จักเจ้าหน้าที่อำเภอที่ตัวเมืองพิจิตร ก็ให้เช็คให้หน่อยว่า สจ.ท่านที่ถูกยิงเป็นใคร ก็ทราบว่าท่านเป็นใคร มีหนวดงามเพียงไร ก็เป็นที่หายข้องใจแล้ว จึงเชื่อได้ว่า เรื่องที่พี่ต่อเขียนถึงนั้น แม่นแล้ว.....

ผ้ายันต์แดง ผมได้มาเยอะ ขึ้นไปเยี่ยมพ่อตาที ก็แอบแวะหาหลวงปู่ฯที แล้วก็แจกไปหมดแล้ว แต่ถ้าใครมีวิริยะ ก็ลองสอบถามเอากับพี่ต่อ ในเวปนวรัตน์ฯ นะครับ น่าจะยังพอมี

กราบนมัสการหลวงปู่ฯ

 

เรียนคุณหนุ่มทิพย์
ได้รับพระจากคุณอาตั้งแต่วันจันทร์ แต่ติดงาน ดิฉันขอตอบรับแทนคุณอนันตภพนะคะ ขออภัยด้วยที่ตอบช้าไปหน่อยค่ะ

 

ขอบคุณครับ ที่ให้ความรู้ ผมไม่รู้จักท่านเลย แต่ท่านมาสงเคราะห์ และบัดนี้ก็รู้สึกว่าท่านเป็นครูบาอาจารย์อีกองค์หนึ่ง หากมีโอกาสจะเข้าไปกราบท่าน

 

หมายกำหนดการ
ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555 ถึง วันที่ 30 มีนาคม พ.ศ.2555
เวลา 07.00 น. พระบิณฑบาต
เวลา 19.00 น. สวดพระพุทธมนต์เย็น เทศน์
วันที่ 31 มีนาคม พ.ศ.2555 วันพระราชทานเพลิงสรีระสังขารองค์
หลวงปู่จันทา ถาวโร เจ้าอาวาสวัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

__________________
http://palungjit.org/forums/[.179/COLOR]กองบุญกลุ่มอาสาช่วยเพื่อนและเพื่อสังคม-323379.html <o></o>

 

สวัสดีครับพี่หนุ่มทิพย์

 

สวัสดีครับพี่หนุ่มทิพย์

 

สวัสดีครับ
เห็นบอร์ดเงียบไป ก็ให้เข้าใจว่า ชอบจะซื้อของมากกว่าฟังเรื่องเล่า ก็เลยจะรอให้ถึงสิ้นเดือน แล้วจะแจกรางวัลสำหรับผู้สงภาพมาอวดกัน ส่วนเรื่องเล่า ผมเก็บไปเล่าใน face book ดีกว่า กำลังหัดเล่นอยู่ เล่าการเมืองได้ด้วย (แต่ยังเล่นไม่เป็นเลย...T_T)

พี่นิ่ม โทรฯมาว่ายังคงตระเวนเสกอยู่ และจะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป.....

........

เมื่อต้นเดือน รุ่นพี่(ชื่อธีรยุทธ นามสกุลดังของชัยนาท) ในออฟฟิต ถามว่า รู้จักหลวงพ่อฯรูปนี้ไหม อยู่อ่างทอง
ผมได้ยินชื่อ ก็อ๋อ.... รู้จัก แล้วบอกว่าเก่ง พี่ธีรยุทธก็เลยถามว่า มีของบ้างไหม อยากได้

แล้วก็เล่าให้ฟัง ว่าพี่ชาย(ตอนนี้ติดยศนายพลตำรวจ) ไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่อ่างทอง
นิมนต์หลวงพ่อฯรูปนี้มา ท่านฯก็เสกน้ำมนต์ให้ แต่เสกไม่เหมือนใคร ท่านฯถ่มน้ำลายใส่ขันน้ำมนต์ "ตุ๋ยๆๆ" เป็นเสร็จ...... แล้วให้เจ้าบ่าวเจ้าสาวเอาคืนไป

เจ้าสาวไม่ไว แต่เจ้าบ่าวไว คว้าขันทั้งใบทุ่มทิ้งกลางงานแต่ง.... น้ำซักหยดไม่หกจากขัน! กลิ่งไปกลิ้งมา พี่ชายยอมรับนับถือมาก วานให้น้องชายหาให้หน่อย

เรื่องน้ำมนต์นี้ฟังมาหลายที่แล้ว... ของๆท่านฯก็ไม่แพง ตามเก็บได้ แต่ผมไม่มีของขาย ใครอยากได้ ต้องสืบเอา ว่าพระฯที่เสกจนน้ำไม่พกจากขวดบ้าง ขันบ้าง ในอ่างทอง มีผู้ใด...