นั่งสมาธิแล้วไม่หายใจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Pei-panwad, 23 ตุลาคม 2014.

  1. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบคุณค่ะ
    ยังbabyยังไม่เก่งค่ะแต่จะยังทำต่อไปฝึกไปเรื่อยๆ สงสัยต้องฝึกอีกเยอะ55
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014
  2. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไม่ใช่ความผิดครับ แล้วก็ไม่ง่ายเลย

    ไม่ว่าใครต้องเริ่มจากศูนย์ด้วยกันทั้งนั้นครับ ค่อยๆฝีกหัดกำหนดให้ทันอารมณ์ที่กระทบ ทางตา ทางหู ฯลฯ ทางความคิดบ่อยๆ กำหนดให้ทันปัจจุบันขณะ ทุกๆขณะ จนสติมันไวจนเป็นไปเองโดยอัตโนมัติ

    เดินจงกรมควบคู่กันด้วยครับ
     
  3. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    เอิ่มเดินจงกลม จริงๆดีมากกกกเลยค่ะแต่ ทุกวันนี้เพื่อนจะไม่คบแล้วค่ะ เค้าจะว่าบ้าแล้วค่ะ เพราะทำอะไรไม่เหมือนชาวโลกเค้าทำกัน 555 แต่จะนำไปพิจารณาดูนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  4. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    เดินยังไงอ่ะ ที่ว่าเดินจงกรม
     
  5. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493

    อานิสงส์การเดินจงกรม ๕ อย่าง คือ

    ๑. เป็นผู้อดทนต่อการเดินทางไกล
    ๒. เป็นผู้อดทนต่อการบำเพ็ญเพียร
    ๓. เป็นผู้มีอาพาธน้อย
    ๔. อาหารที่กิน ดื่ม เคี้ยว ลิ้มแล้ว ย่อยง่าย
    ๕. สมาธิที่ได้เพราะการเดินจงกรม ตั้งอยู่ได้นาน

    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔ อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต
     
  6. ssahn34

    ssahn34 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +75
    อนุโมทนา สาธุ ยินดีด้วยครับ ท่านถึง สภาวะฌาน 4 อย่างหยาบแล้ว ไม่มีลมหายใจและคำภาวนาหาย ตามที่คุณ saber เอามาให้อ่าน
    สรุป จงทำแบบเดิมให้ได้ แล้วรักษาไว้ สักระยะหลังออกจากสมาธิ
    และทำให้ได้ทุกวัน ถ้าได้ทุกวันแล้ว นึกถึงสภาวะนี้ได้ตอนไหนเข้าตอนนั้น
    เมื่อทำจนชำนาญและคล่องแคล้ว ว่องไวแล้ว ให้ลองอธิฐาน ถ้าอธิฐาน
    แล้วได้ผล แสดงว่าทำถูก ห้ามเปลี่ยนกรรมฐานตอนนี้ เพราะท่านถึงสภาวะ
    ฌาน 4 แล้ว แค่ตัวเองยังไม่เข้าใจสภาวะเฉยๆ ทำแบบเดิมไปเรื่อยๆ
    จิตจะมีกำลังมากขึ้นๆ เหมือนการออกกำลังกาย ถ้าออกบ่อยๆมันก็จะมีกำลัง
    ลมหายใจไม่มีก็เหมือนกับกั้นหายใจดำน้ำ เรารู้ว่าเราดำน้ำอยู่และก็รู้อยู่ว่าเราไม่ตาย
    ดื่มด่ำกับการดำน้ำ ก็คือจิตรู้ว่าไม่มีลมหายใจ รู้ว่าคำาภาวนาไม่มี จิตรับรู้สภาวะนี้
    ได้นานเท่าไร นั่นคือกำลังของจิต ถ้าสามารถทนอยู่ในสภาวะนี้ได้นานขึ้น
    ก็เปรียบได้กับตัวของตัวเองเดินทางได้ไกลขึ้นกว่าเดิม
    ปล.ผมก็ปฎิบัติอยู่แต่ไม่ถึง ไหน เพราะงั้นไม่ต้องเชื่อหลอก เล่าให้ฟังเฉยๆ อิอิ
     
  7. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    แปลกใจจังทำไมหลายๆท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเหมือนกับศึกษามาเยอะมากๆเข้าใจทั้งรูป ธรรม และนามธรรมขั้นสูงด้วย(ซึ่งเจ้าของกระทู้ไม่รู้ และบางครั้งก็ไม่เคยเรียนหรือเจอ)และดูเหมือนจะปฏิบัติได้อะไรที่สูงมากหลายคน แต่ทำไมถึงมีความคิดเห็นต่างกัน(เสนอแนะ จขกทต่างกัน)ละคะ ทั้งๆที่มันน่าจะไปในแนวเดียวกัน เพราะเคยศึกษา หรือปฏิบัติมาแล้วผ่านมาแล้ว หรือสภาวะการณืที่เจอไม่เหมือนกันค่ะ ทำไมคะทำไม งงง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เขาเรียกว่า

    " สนทนาธรรม ตามกาล เป็น มงคลแก่ชีวิต "

    แต่ พอสนทนาไม่ใช่เพื่อไป ปรับ หรือ เร่งปฏิบัติ กลับกลายเป็น
    สนทนาเจาะแจ๊ะ มันจะผลิก กลายเป็น

    " สนทนาธรรม ตลอดกาล เป็น อัปมงคล "

    จากที่ แต่ละคนเคยสงบ สงัด ก็เลย ค่อยๆ ถูกร้อยรัด จากบางสิ่ง บางอย่าง
    ที่กำลัง พาจม

    ดังนั้น

    สทนาธรรม เขาให้ สนทนา เพื่อทำความเข้าใจการปฏิบัติ ผลักดันให้จิต
    ใจเร่งความเพียรต่อเนื่อง ไม่ลดละ

    เมื่อเข้าใจได้อย่างไร ก็รีบไปปฏิบัติแบบนั้น ไม่ต้องไป ลีลา เอาความเข้า
    ใจ จนบรรลุธรรม

    คนแต่ละคน จึงต้องการ ธรรมะ ที่ฟังเพียง นิดเดียว พอ !!!

    ไม่ใช่ เออะ คนนั้นเสนอมาก็ใช่ คนนี้ก็เจ๋ง วิธีนั้นของเธอก็เยี่ยม น่าสนใจ

    อะไรแบบนี้ สนทนาธรรม เพื่อเป็น อัปมงคล !!!


    ประโยชน์ มันอยู่ที่ ผู้ปฏิบัติ ผู้ตั้งคำถาม

    แต่พอสนทนาไปเรื่อยๆ ประโยชน์มันผลิก กลายเป็น เรื่อง ขอให้กูได้อธิบายบ้าง ใครขวางกู
    อธิบาย จะตัด หรือ ขวางนิพพาน .... คนแสดงธรรมบ้า สังขาร กันไป

    ดังนั้น

    เจ้าของกระทู้ จะต้อง ถามแต่พอดี เอาแต่พอใช้ ได้มุขนัยใดแล้ว ก็เอาไป ทดลอง

    จะเป็นการ ช่วยรักษาประโยชน์ให้ " ผู้แสดงธรรมทั้งหลาย "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014
  9. ssahn34

    ssahn34 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2013
    โพสต์:
    46
    ค่าพลัง:
    +75
    555 สภาวะการณ์ที่เจอไม่เหมือนกัน ถูกต้องนะคร๊าฟ เคยเจอแบบนี้ไหม
    นักเรียนห้องเดียวกันหลายๆ คน กับอาจารย์สอนคนเดียว ถามนักเรียนทั้งห้อง
    ในวิชาที่ไม่มีคำตอบที่ตายตัวแบบเลข นักเรียนหลายคนยังตอบไม่เหมือนเด้ๆเลย
    แล้วคุณมาถามในห้องที่แต่ละท่านปฎิบัติมาคนละทาง อาจารย์ของแต่ละท่านก็คนละคน ก็จะได้แต่คำตอบที่ไม่โดนใจคุณ
    มีแค่คุณกด like แต่ไม่โดนใจเด้ๆ
    พระพุทธเจ้าพระองค์เดียวที่รอบรู้ทั้งหมดไม่มีอะไรปิดปังพระองค์ได้
    พระองค์มีบารมีที่จะทำให้จำใจที่ขุ่นมั่วกับมาสว่างไสวได้
    แต่พระองค์ไม่มีกายสังขารแล้ว
    ก็เหลือแต่คุณจะได้เจอคนที่เดินทางสายเดียวกับคุณหรือป่าว
    เพราะเขาจะเข้าใจคุณมากกว่าเพราะไปทางสายเดียวกัน
    อย่างที่บอกไปแล้วในสภาวะที่ท่านเคยได้ ขอให้ทำให้คล่อง
    ถ้าเข้าได้แล้วถอยกลับมา แล้วให้อธิฐาน ขอให้เจอผู้ปฏิบัติ
    ทางสายเดียวกันกับข้าพเจ้า
    ปล.ประมาณนี้ครับ
    แนะนำ ลองค้นหา คุณ solardust ในเว็บพลังจิตดู
    เขาเขียนประสบการณ์ได้สนุกดี
    ปล.ฝึกแบบเดิมดีอยู่แล้ว อย่าพึ่งเปลี่ยนเลยครับ สาธุ
     
  10. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบคุณค่ะ จะพยายามทำต่อไปแบบเดิมๆค่ะ แต่ตอนนี้กำลังพยายามฝึกกำหนดดูลมหายใจตลอดเวลาดูว่ามันจะช่วยได้บ้างไหม และไม่รู้ว่าจะทำได้อีกนานเท่าไรเพราะมีแพลนว่าจะเรียนต่อแพทย์นะคะ ถ้าได้เรียนคงจะไม่ค่อยมีเวลาแล้วค่ะ ....
     
  11. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    สภาวะหรือสภาวธรรม ที่ผู้ปฏิบัิติกรรมฐานประสบแล้วตั้งคำถาม ได้รวบรวมไว้ที่นี่

    สภาพ, สภาวะ, สภาวธรรม - นิพพานคืออะไร ? - Wunjun Group

    หลากหลายรูปแบบครับ ซึ่งสภาวะเหล่านั้นเฉพาะผู้ปฏิบัติเท่านั้นจึงประสบ
     
  12. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    ขอบคุณค่ะ จขกท สาย พองหนอ-ยุบหนอ ตอนมีอาจารย์อยู่ด้วยยังคิดเลยว่าไม่ง่าย แต่นี่ทำเองไม่ได้ถามใครยิ่งยากไปใหญ่ เฮ้ออออ
     
  13. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ชีวิต - จิตใจ หรือรูป-นาม หรือรูปธรรม นามธรรม ยากจะเข้าใจ ยิ่งจิตใจหรือนามธรรมด้วยแล้ว ยากใหญ่เลย คิดดูครับ พระพุทธเจ้าใช้เวลาค้นคว้าถึง 6 ปีกว่าจะเข้าใจถ่องแท้
     
  14. มาจากดิน

    มาจากดิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2008
    โพสต์:
    5,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +2,493
    ไว้ จขกท.เรียนแพทย์คงได้ศึกษาส่วนรูปธรรมจากอาจารย์ใหญ่
     
  15. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    555 ถ้าเรื่อง อาจารย์ใหญ่ จขกท ศึกษา(ผ่าศพ)มาแล้วค่ะ เพราะได้ ปริญญาตรีเทคนิคการแพทย์ มาใบนึงแล้วค่ะ อันนี้จะเรียนเพิ่มค่ะ เอาไบที่2 เอาไว้ช่วยคนให้ได้เยอะขึ้นคะ อิอิ
     
  16. mesus

    mesus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35
    หากอยากจะช่วยเหลือผู้คนให้ได้เยอะขึ้นจริงๆ มองว่าน่าจะมีความรอบรู้ให้รอบด้าน ทั้งในด้านของการชันสูตรสมมุติฐาน เวชกรรมและเภสัชเวช อย่างนี้กล่าวได้ว่าครบเครื่องจริงๆ

    ถ้าหากเจ้าของกระทู้ยังมีไฟอยู่ เมื่อศึกษาเทคนิคการแพทย์ และแพทยศาสตร์ เสร็จสิ้นแล้ว สมควรศึกษาต่อในหลักสูตรเภสัชศาสตร์ ให้ได้อีกสักปริญญาหนึ่ง ก็จะเป็นส่วนช่วยส่งเสริมในวิชาชีพของเจ้าของกระทู้ได้อย่างมากต่อไป
     
  17. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    อันนี้ ประชดป่าวค่ะเนี่ย55555 บอกมาเหอะว่าคิดว่า จขกท บ้านะ ไม่โกรธค่ะ
     
  18. mesus

    mesus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35
    ไม่ได้ประชดประชันแต่อย่างใดครับคุณ แต่พูดในแง่ของความเกี่ยวพันกันในทางวิชาการ อันว่าเรื่องของเทคนิคการแพทย์ แพทยศาสตร์และเภสัชศาสตร์ ล้วนเป็นความรู้ที่จำเป็นต่อวงการสาธารณสุขของประเทศไทยของเราด้วยกันทั้งนั้น

    ความรู้ทั้งสามแขนง เปรียบเสมือนเรื่องของต้นน้ำ กลางน้ำและท้ายน้ำ ที่ทุกวันนี้ยังเป็นการจัดการแบบแยกส่วนอยู่ แต่ถ้าหากว่าผู้ปฏิบัติมีความรู้ความเข้าใจ ในองค์ประกอบทั้งสามส่วนเป็นอย่างดี การจัดการด้านการสาธารณสุขของบ้านเราก็น่าจะมีความคล่องตัวขึ้นอย่างมาก

    ถ้ายังมีไฟ ก็ขอให้ศึกษาต่อเถอะครับคุณ แต่หากว่าเมื่อเรียนไปสองหลักสูตรไฟดับหมดแล้ว ก็ไม่เป็นไร ด้วยความรู้ขนาดนี้ ก็นับว่าเจ้าของกระทู้จะสามารถเป็นกำลังสำคัญในการช่วยเหลือวงการสาธารณสุขได้อย่างมากแน่นอนครับ

    เรื่องแค่นี้ไม่บ้าหรอกครับ ถ้าแค่นี้บ้า ผมไม่บ้ากว่าคุณหรือ? ที่ในกระทู้ "เมื่อลูกของข้าพเจ้าได้ไปพบยมบาลและได้ไปเที่ยวสวรรค์" ของสมาชิกที่ชื่อ คุณ Supop ในห้องอภิญญา-สมาธิแห่งนี้ ผมยังไปโพสต์ถามเรื่องของคณิตศาสตร์ สมการดิฟเฟอร์เรนเชียล อยู่เลย ถ้าแค่นี้คุณว่าบ้า ผมก็คงจะบ้าไปด้วยนั่นล่ะ

    ตกลงเราก็บ้าพอกันนะครับ 5555555555555
     
  19. testewer

    testewer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +758
    ผู้ที่มาตอบในกระทู้ส่วนมากเรียกได้กว่าเกือบทั้งหมด สภาวะจิตที่ปฏิบัติสมาธิต่ำกว่าเจ้าของกระทู้ เนื่องจากไปแบกไปหามความรู้ต่างๆมากมาย พอปฏิบัติไปไม่ตรงกับตำรา จิตก็ไปพะวงจึงไม่เป็นสมาธิ และสมาธิก็ไม่เกิดขึ้น

    สำหรับผู้ที่รู้มาน้อยและปฏิบัติมาก การที่จิตจะไปพะวงว่าถูกต้องหรือไม่ว่าตรงกับตำราหรือไม่ จะไม่เกิดขึ้น จึงเป็นสมาธิเร็ว นี่เป็นตัวอย่างแก่ท่านทั้งหลายในกระทู้นี้
    อย่างน้อยท่านเจ้าของกระทู้จะได้เห็นว่า แต่ละคนตอบไม่ตรงกันเลย เพราะหลากหลายความคิดที่ไปรับรู้มาก และโดยเฉพาะ ท่านที่ได้เพียงสมาธิเล็กน้อย อาการและสิ่งต่างๆจะเกิดขึ้นมาก ซึ่งแตกต่างจากเจ้าของกระทู้ที่เป็นสมาธิระดับสูงกว่า

    วิธีการปฏิบัติของท่านต่อไปคือ รักษาความสงบ และสติ สาระสำคัญมีเพียงเท่านั้น
    คำภาวนาอย่าไปสนใจมาก ถ้าสงบแล้วไม่ต้องสนใจคำภาวนา

    สงบ และสติ เกิดขึ้นโดยสมบูรณ์เป็นสัมมาสมาธิ เป็นสมาธิของพระอริยะเจ้า (สงบ คือ อุเบกขา) ที่ปฏิบัติมานั้น ถูกต้องดีแล้ว อ่านผู้ที่มาตอบในกระทู้นี้มากระวังจะหลงทาง ที่ต้องอธิบายเพราะเหตุนี้ (ปฏิบัติดีแล้วแต่ไม่รู้ ไปปฏิบัติตามผู้ไม่รู้ หลงทางเลย)

    พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๐ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒
    ทีฆนิกาย มหาวรรค

    สัมมาสมาธิ เป็นไฉน ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่เธอบรรลุทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ เธอมีอุเบกขา มีสติ มีสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วยกาย เพราะปีติสิ้นไป บรรลุตติยฌานที่พระอริยทั้งหลาย สรรเสริญว่า ผู้ได้ฌานนี้ เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติอยู่เป็นสุขเธอบรรลุจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละสุขละทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆ ได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์อยู่ อันนี้เรียกว่า สัมมาสมาธิ ฯ
     
  20. Pei-panwad

    Pei-panwad Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +78
    สาธุ สาธุ สาธุ จะนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติคะ ขอบคุณค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...