ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ความรักนั้นเป็นธาตุที่ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนมีสุขน้อยแต่มีทุกข์มาก

    “ อาตมามีเมียมีลูกแล้ว จึงได้ลาครอบครัวออกบวช เพราะได้ลิ้มรสความรักแล้วเห็นว่าความรักเป็นความทุกข์อันแสบเผ็ดร้ายกาจเป็นพิษร้ายแก่ชีวิตจิตใจ ทำให้ทุรนทุรายดิ้นรนไม่รู้จักจบสิ้น

    ความสุขที่เกิดจากความรักความเสน่หา เป็นความสุขเหมือนได้กินส้มตำแสบเผ็ดเอร็ดอร่อย แต่ผสมยาพิษเข้าไปด้วยทำให้เกิดอาการอึดอัด ท้องไส้ปั่นป่วนทุกข์ทรมานในภายหลัง

    คนเราใคร ๆ ก็ปรารถนาความสมหวังในชีวิตรัก แต่เมื่อรักกันอยู่ด้วยกันแล้ว ความรักไม่เคยให้ความสมปรารถนาแก่ใครถึงครึ่งหนึ่งแห่งความปรารถนาเลย เพราะความรักนั้นเป็นธาตุที่ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืนมีสุขน้อยแต่มีทุกข์มาก ! ”

    หลวงปู่จันทา ถาวโร
    วัดป่าเขาน้อย อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร

    1504240205_602_ความรักนั้นเป็นธาตุที่.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ผู้ใดอยากดี อย่าพากันพูดเล่น ให้พากันขยันหมั่นเพียร อย่าเป็นคนเกียจคร้าน ผู้ใดอวดเก่งผู้นั้นเป็นคนขี้ขลาด ผู้ใดอวดฉลาดผู้นั้นเป็นคนโง่ ผู้ใดคุยโวคนนั้นเป็นคนไม่เอาถ่าน อยากเป็นคนดี ต้องทำดีถูก”

    หลวงปู่จันทร์ เขมิโย

    -อย่าพากันพู.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ศีลก็คือตัวสติ ตัวสติรู้ลมเข้าลมออกเป็นหนึ่งนั่นล่ะเป็นศีลแท้
    ได้ศีลแท้ เป็นพละกำลังขึ้นมาอีก เมื่อมั่นอยู่ในศีลเป็นตัวสติ ลมเข้าพุทโธ ลมออกพุทโธ รู้อยู่เป็นหนึ่ง เป็นสมาธิ
    เมื่อมีสมาธิ ปัญญามันก็เกิด เปรียบเหมือนน้ำมันนิ่ง เมื่อมีสมาธิแล้ว น้ำมันนิ่ง น้ำอยู่ในโอ่งในไหมันนิ่ง ไม่มีความกระเพื่อม
    เมื่อน้ำมันนิ่ง ก็สามารถมองเห็นหน้าเจ้าของได้ มองเห็นตัวเจ้าของได้ และคนอื่นผ่านมาก็เห็นได้
    นกหนูปูปีกผ่านมาทางอากาศก็เห็นได้ ดูได้ที่นั่นไม่ต้องไปดูที่อื่น มีทุกอย่างมาหมดไม่ต้องวิ่งหาหรอก มันมาหมดทุกอย่าง
    เปรียบเหมือนแร่ธาตุหรือเหล็กธาตุ มันมี มันสามารถดูดสิ่งต่างๆ ได้หมด
    นี่.ฉันใดก็ดี ใจของเรามีศีล มีสมาธิ มีปัญญา เป็นพลังดูดสิ่งต่างๆ ดูดสิ่งดีมาได้ รู้หมดเป็นต้น.”

    หลวงปู่หลวง กตปุญโญ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    -ตัวสติร.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อุปธิวิเวกนั้นได้แก่ผู้บำเพ็ญวิปัสสนา

    สามารถกำจัดกิเลส มีราคะเป็นต้น ไปจากจิตได้ เรียกว่า อุปธิวิเวก
    วิเวกทั้ง 3 ประการนั้น มีส่วน ซึ่งจะอุปการะซึ่งกันและกัน
    เราต้องการความวิเวก บางท่านจึงได้ออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ
    เพื่อที่จะให้ปราศจากเครื่องกังวล ในป่า ในดง ในถ้ำ ในภูเขา ในบ้านร้าง

    อรัญเญ รุกขมูเล วา สุญญาคาเร จ ภิกขโว
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ส่วนที่จะทำให้เกิดความวิเวกนั้น
    อรัญเญ คือในป่า รุกขมูเล คือใต้โคนต้นไม้
    สุญญาคาเร ในเรือนว่าง นี้เรียกว่ากายวิเวก
    ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะทำให้เกิดจิตวิเวกในเวลาต่อมา

    พวกเราท่านทั้งหลาย ที่ได้ประชุมกันอยู่
    ในระยะที่พวกเราพากันอยู่จำนวนมากเช่นนี้ แต่เรามีความสงบ
    มีความเงียบ ก็ชื่อว่าเป็นจิตวิเวกเช่นเดียวกัน
    ผู้ที่ไปอยู่ในป่า หรือผู้ที่ไปอยู่ในโคนต้นไม้ แต่ไม่มีความสงบ คุยกันบ้าง
    หรือมีอะไรก็หัวเราะเฮฮาไปตามเรื่องตามราว
    ถึงแม้จะอยู่ในป่าก็ไม่ได้กายวิเวก ถึงแม้จะไปอยู่ใต้โคนต้นไม้ ก็ไม่ได้กายวิเวก
    แต่ถ้าหากว่า อยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก ไม่มีเสียงอื้ออึงคนึง
    ไม่มีการคุยหัวเราะเฮฮา อย่างนี้ก็ถือว่าได้กายวิเวกเช่นเดียวกัน

    พระธรรมมงคลญาณ (วิริยังค์ สิรินฺธโร)
    วัดธรรมมงคล สุขุมวิท ๑๐๑ กรุงเทพฯ

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ปฏิบัติอย่างเดียว”

    เดี๋ยวนี้คนต่างประเทศเขาสนใจธรรมะมากกว่าพวกพวกเรานะ พวกเราสนใจต่างประเทศมากกว่า พวกเราสนใจไปเที่ยวเมืองนอกกัน ไปเที่ยวเกาหลี ไปเที่ยวญี่ปุ่น ไปเที่ยวยุโรป ซื้อของ เวอชาเช่ซื้อเวอซาเซ่อะไร ซื้อชานงชาแนลอะไรกัน เดี๋ยวนี้ฝรั่งกลับมาสนใจนั่งสมาธิ ยังมีฝรั่งอยู่คนหนึ่งทำงานอยู่ที่เยอรมัน ทุก ๖ เดือนเขาจะได้พักหนึ่งเดือน แล้วก็บินตรงมาเลย จากสนามบินก็เช่าแท็กซี่มาบนเขาเลย ไม่ไปแวะที่ไหนเลย แล้วก็มาอยู่นี่ นั่งสมาธิอยู่บนเขานี่ ตอนเช้าบอกไปกับพระไปช่วยถ่ายบาตร บิณฑบาตกับพระ กินอาหารกับพระ พอครบเดือนแท็กซี่ก็มารับไปสนามบิน กลับไปทำงานต่อไม่แวะไหนเลย ถามไม่ไปเที่ยววัดพระแก้วเหรอ บอกไม่ไปไหนทั้งนั้นจะมาปฏิบัติอย่างเดียว ตอนนี้เขาบอกว่าเขาเหลืออีกสองปี แล้วเขาจะได้บำนาญมีบำนาญ และเขาก็คิดว่าจะมาบวช ตอนนี้ก็ยังไม่กล้าหยุด กลัวเดี๋ยวเกิดเขามาบวชแล้วเกิดต้องสึกไป เดี๋ยวไม่มีบำนาญ แต่ถ้ามาบวชแล้วเกิดต้องสึกไปก็ยังมีบำนาญ ก็เลยต้องรออีกสองปี เขามานี่ได้ ๓ ครั้งแล้ว มาได้ปีกว่า มาก็อยู่ครั้งละเดือน

    แล้วก็ไม่เห็นต้องมาถามปัญหาอะไรเลย เขาไม่เห็นต้องถามเลย เขารู้มันไม่มี คือเวลาปฏิบัตินี้มันไม่มีคำถามมา มันมีพุทโธตัวเดียว มีหรือไม่มีเท่านั้นเอง ถามไปก็เหนื่อยไปเปล่าๆ หาวิธีหยุดความคิดให้ได้ดีกว่า.

    สนทนาธรรมะบนเขา
    วันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๐

    พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต

    1504447997_602_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239725_119_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239725_196_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239726_25_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239726_324_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239726_483_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504447999_368_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239727_235_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239727_244_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239728_5_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239728_46_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg
    1504239728_449_ปฏิบัติอย่างเดียว.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่สิมท่านเคยเล่าเกี่ยวกับประวัติการสร้างพระพุทธชินราชองค์จริงให้ฟังว่า เป็นงานที่ยุ่งยากมาก เพราะนายช่างปั้นแบบกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เป็นที่พอใจ ร้อนถึงเทวดาต้องแปลงกายเป็นช่างมาช่วยปั้น

    “ เทวดาเพิ่นอายุยืน อยู่มาตั้งแต่สมัยโน้น
    ทันได้เห็นหน้าตาพระพุทธเจ้าว่าเป็นอย่างไร
    พอปั้นเสร็จ ถามหา ก็บ่มีไผฮู้ว่าคนมาช่วยปั้น
    หายไปไหน ! ”

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” โอ๊ย…เฒ่าผีบ้าขี้ข้าตัณหา
    ขันอาสาเลี้ยงเมียเลี้ยงลูก
    หาเอาเชือกมาผูกคอโต
    จั่งได้โงกลับคืนมาเกิด
    เกิดแล้วเกิดตายซ่ำผู้เดียว
    หาละเทียวหาเอาภพเอาชาติ ”

    หลวงปู่พระมหาบุญมี สิริธโร
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    -เฒ่าผีบ้าขี้ข้าตั.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อีกวิธีหนึ่งที่หลวงพ่อชาใช้บ่อยในการฝึกลูกศิษย์ก็คือ การให้ขึ้นธรรมาสน์เทศน์โปรดญาติโยม แม้ว่าพระรูปนั้นจะยังอ่อนพรรษาและประสบการณ์ก็ตาม เพราะนอกจากจะเป็นการฝึกให้เกิดความมั่นใจในตัวเองแล้ว ยังเป็นการทดสอบลูกศิษย์อีกทางหนึ่งด้วย ท่านอาจารย์สุเมโธก็เช่นกัน แม้จะเป็นพระฝรั่งพูดไทยยังไม่คล่อง หลวงพ่อก็จัดให้ขึ้นธรรมาสน์

    อาจารย์สุเมโธ”…ครั้งแรกที่หลวงพ่อนิมนต์ขึ้นธรรมาสน์ เราก็รับปากว่าจะเทศน์ แต่ในที่สุดก็ต้องของด เพราะมีความวิตก กังวล กลัว ประหม่า และเครียดมาก ก็เลยต้องไปขอตัวกับหลวงพ่อ แต่นี้ก็เป็นสิ่งที่เตือนให้เรารู้ว่า ไม่วันใดวันหนึ่งข้างหน้า เราต้องโดนจับขึ้นธรรมาสน์อีกแน่ ต่อมาคณะศรัทธาอำเภอม่วงสามสิบ ได้มาถวายป่าไม้ให้จัดสร้างเป็นวัด (ซึ่งปัจจุบันก็คือวัดป่าวิเวกธรรมชาน์) เขานิมนต์หลวงพ่อไปดูที่ ท่านอาจารย์มหาอมรกับผมก็ได้ติดตามไปด้วย เมื่อไปดูที่เสร็จแล้วก็กลับมาประชุมกันที่วัดบ้านในตัวอำเภอม่วงสามสิบ หลวงพ่อก็ประกาศว่า วันนี้จะให้พระสุเมโธขึ้นธรรมาสน์ เทศน์โปรดญาติโยม คราวนี้หนีไม่ได้แล้วก็เลยต้องขึ้น แม้ว่าจะเทศน์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ญาติโยมก็ชมว่าพูดเก่ง น่าฟัง ทำให้เรามีกำลังใจขึ้นบ้าง หลังจากนั้นหลวงพ่อก็เริ่มฝึกให้เทศน์ตามโอกาสต่างๆ เช่น งานกฐิน งานทอดผ้าป่า ให้เทศน์ช่วงตีสอง ตีสาม ผมพยายามพูดให้น้อยที่สุด ๑๐-๒๐ นาที แล้วรีบลงจากธรรมาสน์เลย”

    “…วันหนึ่งที่วัดบึงเขาหลวง หลวงพ่อสั่งให้ผมเทศน์ ๓ ชั่วโมง ห้ามลงก่อนหมดเวลา เลยต้องทำตามที่ท่านสั่ง พูดไปเรื่อยๆ หยุดแล้วตั้งต้นใหม่หลายครั้ง จนไม่รู้จะเอาอะไรมาพูด ภาษาก็ไม่ค่อยคล่อง ผู้ฟังก็นั่งหลับเป็นส่วนใหญ่ อันนี้ถือเป็นความเมตตาของหลวงพ่อ เพราะการทำอย่างนั้นช่วยแก้กิเลสได้ดีทีเดียว เนื่องจากขัดกับนิสัยของชาวอเมริกันเรา ซึ่งมีอัตตาสูง ความเชื่อมั่นในตัวเองมีมาก เวลาขึ้นธรรมาสน์ก็อยากจะเทศน์ให้น่าฟัง อยากจะให้ทุกคนฟังด้วยความตั้งใจ แต่ถ้าเห็นใครง่วงนอนหรือไม่ตั้งใจฟัง ก็อยากจะหยุดพูดทันที เป็นเพราะจิตใจเรายังมีความหวั่นไหวกับโลกธรรมอยู่”

    อาจารย์สุเมโธ”…การจัดให้ลูกศิษย์ขึ้นเทศน์นี้ หลวงพ่อมีกติกาอยู่ข้อหนึ่งคือ ห้ามเตรียมตัวเตรียมเนื้อหาของเรื่องที่จะเทศน์ แต่ให้แสดงออกถึงสิ่งที่มีอยู่ในใจขณะนั้น ท่านสอนไม่ให้หวังอะไรจากการเทศน์ ไม่ใช่พูดเพื่อให้คนนับถือ หรือเกิดความชอบใจซาบซึ้ง ทั้งนี้ก็เพื่อมิให้มีอัตตาแอบเข้าไปในการแสดงธรรม
    …มีอยู่ครั้งหนึ่งผมดื้อมาก เตรียมคำเทศน์ไว้ก่อนอย่างละเอียด ล้วนแต่เรื่องดีๆ ทั้งนั้น เมื่อเทศน์จบผมก็หลงภูมิใจตัวเองว่าเทศน์ได้ดีมาก แต่พอลงจากธรรมาสน์เข้าไปกราบหลวงพ่อ ท่านทำหน้าขรึมแล้วก็ดุว่า ไม่เข้าท่า อย่าทำอย่างนี้อีกต่อไป…”

    อาจารย์ชยสาโร”ครั้งหนึ่งหลวงพ่อสุเมโธ พระราชสุเมธาจารย์ ท่านเคยเล่าให้ฟังถึงวันแรก ครั้งแรกที่ท่านจะขึ้นธรรมมาส ที่วัดหนองป่าพง ท่านทราบว่าหลวงพ่อชาห้ามไม่ให้ เตรียมคำเทศน์ล่วงหน้า แต่ท่านอดไม่ได้ ท่านกลัวจะพูดไม่ออก ท่านได้เตรียมอย่าง ละเอียด พิสดารพอสมควร ขึ้นธรรมมาสพูดได้ดี ลงจากธรรมมาสทุกคนก็ชม ไม่ว่าพระไม่ว่าโยม ชมว่าท่านสุเมโธเทศน์ได้ดี ดีมากๆ เลย เสร็จแล้วท่านไปกราบหลวง พ่อชาที่กุฏิ ใจท่านเหมือนลูกศิษย์ทั่วไป คำชมของคนอื่นไม่มีน้ำหนักเท่าหนึ่งในร้อยของ คำชม ของผู้เป็นพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ก็ต้องการให้หลวงพ่อชาชมบ้าง แต่ท่านก็ไม่ได้ แสดงอะไรออกมาให้เห็น หลวงพ่อก็ชวนคุยเรื่องอื่น สุดท้ายท่านมองหน้าท่านสุเมโธพูด เสียงเรียบๆ ว่า โอกาสหน้าอย่าทำอย่างนั้นอีก หลังจากนั้นท่านเลยเลิกการเทศน์นอกครู ท่านก็ทำตามที่หลวงพ่อท่านสอน

    ดังนั้นการแสดงธรรมของอาตมาก็ตาม สไตล์นี้เหมือนกัน คือพูดสิ่งที่รู้สึกสมควรจะพูด เรื่องที่เกิดขึ้นเวลานี้”

    อาจารย์พรหมวังโส”อาตมาไม่เคยเตรียมการเทศน์ แต่อาตมาเตรียมหัวใจและจิตใจของอาตมาแทน พระสงฆ์สายวัดหนองป่าพงได้รับการฝึกอบรมไม่ให้เตรียมการเทศน์ แต่ให้เตรียมพร้อมที่จะเทศน์ได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
    ในวันมาฆบูชาซึ่งเป็นวันสำคัญลำดับที่สองทางพระพุทธศาสนาอาตมาอยู่ที่วัดหนองป่าพงของหลวงพ่อชาที่ภาคอีสาน พร้อมกับพระสงฆ์อีกกว่าสองร้อยรูปและญาติโยมหลายพันคน หลวงพ่อท่านเป็นที่นับถือของคนจำนวนมาก ปีนั้นเป็นปีที่ห้าที่อาตมาบวชเป็นพระ หลังจากทำวัตรเย็นแล้ว ก็ถึงเวลาสำหรับการเทศน์กัณฑ์ใหญ่ ปกติหลวงพ่อท่านมักจะเทศน์เองในวันสำคัญเช่นนี้ แต่นั่นก็ไม่แน่เสมอไป บางครั้งท่านจะกวาดตามองที่แถวของพระสงฆ์ที่นั่งอยู่ ถ้าสายตาของท่านหยุดที่ใครล่ะก็ องค์นั้นโดนแน่ หลวงพ่อจะนิมนต์ให้ท่านเทศน์ แม้ว่าอาตมาจะยังเป็นพระที่มีพรรษาน้อยเมื่อเทียบกับองค์อื่นๆ ที่นั่งอยู่หน้าอาตมา ผู้ใดจะประมาทไม่ได้เลยในอะไร ๆ ที่เกี่ยวกับหลวงพ่อ หลวงพ่อกวาดตามองแถวของพระสงฆ์สายตาของท่านมาถึงอาตมาแล้วก็ผ่านเลยไป อาตมาแอบถอนใจเบา ๆ อย่างโล่งอกและแล้วสายตาของท่านก็กวาดกลับมาอีกครั้ง โยมเดาซิว่าสายตาท่านหยุดที่ใคร ?

    “พรหมวงฺโส” เสียงหลวงพ่อสั่ง “นิมนต์เทศน์”

    ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น อาตมาต้องเทศน์ภาษาไทยโดยไม่มีการเตรียมตัวมาก่อนเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมง ต่อหน้าอาจารย์ของอาตมา คณะสงฆ์และญาติโยมหลายพันคน มันไม่สำคัญหรอกว่าการเทศน์ในคืนนั้นจะดีหรือไม่ ความสำคัญมันอยู่ที่ว่าอาตมาจะได้ทำหน้าที่ที่หลวงพ่อมอบหมายให้ต่างหาก

    หลวงพ่อไม่เคยบอกว่าที่เราเทศน์นั้นดีหรือไม่ดี เพราะนั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ

    ครั้งหนึ่งท่านขอให้พระฝรั่งองค์หนึ่งผู้มีความเชี่ยวชาญขึ้นเทศน์ให้พ่อออกแม่ออกที่มาจำศีลที่วัดในวันพระฟัง เมื่อเทศน์ครบหนึ่งชั่วโมง พระท่านเริ่มสรุปเพื่อจะจบกัณฑ์เทศน์ที่เป็นภาษาไทยนั้น หากหลวงพ่อขัดขึ้น และขอให้ท่านเทศน์ต่ออีกหนึ่งชั่วโมง มันยากอยู่นา แต่ท่านก็เทศน์ต่อ

    พอท่านเตรียมจะสรุปจบหลังจากที่อุตส่าห์กัดฟันเทศน์เป็นภาษาไทยด้วยความยากลำบากในชั่วโมงที่สอง หลวงพ่อก็สั่งให้ท่านเทศน์ต่ออีกหนึ่งชั่วโมง มันเป็นไปไม่ได้จริงๆ ฝรั่งที่รู้ภาษาไทยอยู่แค่นั้นอย่างท่านก็ต้องลงเอยด้วยการพูดซ้ำไปซ้ำมาจนผู้ฟังเบื่อ แต่ท่านไม่มีทางเลือก เมื่อสิ้นชั่วโมงที่สาม คนส่วนใหญ่ได้หนีกลับไปแล้ว พระฝรั่งองค์นั้นท่านเชื่อฟังอาจารย์ ท่านเล่าว่าหลังจากประสบการณ์ครั้งนั้น(ซึ่งการเทศน์จบลงเมื่อเวลาสี่ชั่วโมงผ่านไป) ที่ท่านได้เจอและเรียนรู้ปฏิกิริยาของผู้ฟังทุกรูปแบบอย่างลึกซึ้ง ท่านไม่เคยกลัวที่จะเทศน์ให้ชุมชนฟังอีกต่อไป

    นั่นแหละเป็นวิธีการฝึกอบรมที่พวกพระเราได้รับจากหลวงพ่อชาอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ ”

    หลวงพ่อชาเคยแสดงความเห็นในเรื่องนี้ว่า
    “เรื่องธรรมะนี่จริงๆแล้ว ไม่ใช่เรื่องบอกกัน ไม่ใช่เอาความรู้ของคนอื่นมา ถ้าเอาความรู้ของคนอื่นมาก็เรียกว่าจะต้องเอามาภาวนาให้มันเกิดชัดกับเจ้าของ อีกครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ว่าคนอื่นพูดให้ฟังเข้าใจแล้วมันจะหมดกิเลส ไม่ใช่อย่างนั้ ได้ความเข้าใจแล้วก็ต้องเอามาขบเคี้ยวมันอีกให้มันแน่นอนเป็นปัจจัตตังจริงๆ”

    (ปัจจัตตัง – รู้เห็นได้ด้วยตนเอง,รู้อยู่เฉพาะตน)

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” โลกที่จะรองรับวิญญาณของสัตว์ต่างๆ นั้นมันมีหลายโลก
    โลกของผู้ที่ทำความไม่ดี อิจฉาอาฆาต พยาบาทจองเวร ไม่มีศีล ไม่มีธรรม โลกเหล่านี้ ท่านจัดว่าเป็นอบายโลก
    ซึ่งหาความสุขไม่ได้มีแต่ความทุกข์ ท่านจัดไว้เป็นภูมิใหญ่ๆ คือ…
    นรกซึ่งมีหลายที่ตามแต่กรรมที่ทำไว้ พวกเปรตอีกพวกหนึ่ง ซึ่งอดๆ อยากๆ ทุกข์ยากลำบากตรากตรำ ไม่รู้กี่ชาติ อยู่เป็นกัปๆ ก็มี
    พวกอสุรกายนี่ก็พวกหนึ่ง พวกเดรัจฉานอีกพวกหนึ่ง ซึ่งมีจำนวนมากทั้งขา ไม่มีขา มีปีก ไม่มีปีก ตัวน้อยตัวใหญ่ ในน้ำ บนบก นับไม่ได้ก็ถือว่าเป็นเรื่องจิตวิญญาณเหมือนกัน ”

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ปล่อยจิตว่าง แล้วจิตสบาย เพราะจิตเป็นหนึ่งไม่ขุ่นมัว ไม่มีอารมณ์มาฉาบทาดวงจิตแล้ว ดวงจิตใส ดวงจิตขาว จิตเย็นมีแต่ความสบาย รู้เท่าสังขาร รู้เท่าความเป็นจริง จิตเราไม่หวั่นไหวต่อสิ่งทั้งปวง ถึงมรณะจะมาถึงก็ตาม ทุกขเวทนา เจ็บปวด มาถึงก็ตาม ไม่มีความหวั่นไหวต่อสิ่งเหล่านั้น ”

    หลวงปู่ขาว อนาลโย

    -แล้วจิตสบ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ท่านจูฬบัณถกนั้น พระพุทธเจ้า ให้ไปนั่งอยู่ที่หน้ากุฏิ
    เมื่อนั่งอยู่ที่หน้ากุฏิแล้ว ท่านก็ อธิษฐานผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาผืนหนึ่งให้ท่าน พระจูฬบัณถก ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้น ปักสวยมาก เรียกว่าผ้าเช็ดหน้าที่สวยที่สุด

    ในขณะนั้น แดดมันกล้า เมื่อส่องมาถึงหน้าท่านจูฬบัณถก
    เหงื่อมันก็ไหลออกมา เมื่อเหงื่อไหลออกมา ท่านก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นแหละ ถูเข้าไปที่เหงื่อ ซึ่งไม่กี่ครั้งผ้าเช็ดหน้าก็ค่อยคล้ำลง คล้ำลง ในที่สุดผ้าเช็ดหน้าที่สวยงามนั้น มันก็เลย มองดูแล้วมันเป็นสิ่งสกปรกเสียแล้ว ท่านพระจูฬบัณถกนั้น ได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์
    ในขณะที่ท่านเช็ดหน้านั่นเอง อันนี้เรียกว่าอนิจจัง

    อนัตตานั้น อย่างที่ท่านปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕
    ที่ท่าน ได้ฟังคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า มันไม่ใช่ตัวตน
    เพราะอะไรมันจึงไม่ใช่ตัวตน เพราะมันไม่ได้อยู่ในบังคับบัญชาของเรา นี่ แกอย่าแก่นะ มันก็จะแก่ แกอย่าเจ็บนะ มันก็จะเจ็บ
    แกอย่าตายนะ รออีกซักหน่อยก่อน มันก็ไม่ยอม ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ในอำนาจ

    คือไม่ได้อยู่ในอำนาจของตัวเรา เราต้องการจะให้มันอยู่อย่างนี้
    แต่มันก็อยู่ไม่ได้ มันไม่ได้อยู่ด้วยประการทั้งปวง
    เพราะฉะนั้น สัพพัง รูปัง…สัพพา เวทนา…สัพพา สัญญา
    …สัพเพ สังขารา…สัพพัง วิญญาณัง เนตัง มะมะ เนโสหะมัส๎มิ
    นะ เมโส อัตตาติ…(ท่านอาจารย์พูดเร็ว)
    มันไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา ไม่ใช่ตัวตนเรา
    เอวะเมตัง ยถาภูตัง สัมมัปปปัญญายะ ทัฏฐัพพังฯ…(ท่านอาจารย์พูดเร็ว) ก็พิจารณาตามความเป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ

    เมื่อท่านพิจารณาถึงว่า อนัตตา มันไม่ใช่ตัวตนเช่นนี้แล้ว
    รูปัส๎มิงปิ นิพพินทะติ ท่านเกิดความเบื่อหน่ายในรูป
    เวทะนายะปิ นิพพิน ทะติ ท่านก็เบื่อหน่ายในเวทนา
    สัญญายะปิ นิพพินทะติ ท่านก็เบื่อหน่ายในสัญญา
    สังขาเรสุปิ นิพพินทะติ ท่านก็เบื่อหน่ายในสังขารทั้งหลาย
    วิญญาณัส๎มิงปิ นิพพินทะติ ท่านก็เบื่อหน่ายในวิญญาณ

    เมื่อจิตอันนี้ เบื่อหน่ายเช่นนี้แล้ว ท่านปัญจวัคคีย์ท่านก็หลุดพ้นจากอาสวกิเลสในขณะที่นั่งต่อหน้าพระพักตร์ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันนี้คือวิปัสสนา การทำวิปัสสนานั้น คือการเพ่ง สิ่งที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และไม่ใช่ตัวตน

    ดังที่อธิบายมานี้ ถ้าหากว่าจิตมันเกิดนิพพิทาญาณขึ้นมาเมื่อไหร่
    เจริญให้มาก กระทำให้มาก อภิญญายะ ก็จะเป็นไปเพื่อความรู้ยิ่ง
    สัมโพธายะ ก็จะเป็นไปเพื่อความรู้ดี นิพพานายะ ก็จะเป็นไปเพื่อความดับสนิท นี่เรียกว่าสมถะ นี่เรียกว่าวิปัสสนา ที่อธิบายมาในวันนี้นั้น คืออธิบายสมถะ อธิบายวิปัสสนา ให้เข้าใจว่าพระพุทธศาสนานั้นมีความดีลึกซึ้งเพียงใด”

    หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร

    -พระพุท.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” พระยามิลินท์ และพระนาคเสนก็สู้ความแก่ชราไม่ได้แก่เฒ่ามาก็ฟันหลุด ผมหงอก พระนาคเสนก็ดับขันธ์เข้าสู่นฤพานไปแต่ตามตำนานของหลวงปู่มั่น ที่รูปของท่านอยู่ข้างหลังหลวงปู่นี้ หลวงปู่มั่นนี้ท่านก็มีความรู้พิเศษทางนี้แหละว่าพระนาคเสนท่านก็อยู่โน้นแหละ อินเดีย แต่ว่าตอนแก่ชรามาเห็นว่าไปไม่รอดแล้วท่านก็เสด็จมาไว้สรีระปัจจันตประเทศ ประเทศไทยเรานี่แหละ ที่สมัยนั้นเขาเรียกว่าแต่ก่อน ดงพญาไฟ หรือเขาใหญ่ เดี๋ยวนี้เขาใหญ่ก็สงวนไว้ ป่ายังใหญ่อยู่ มีช้างมีวัว กระทิง มีพันธุ์สัตว์ต่างๆ ยังเยอะ ช้างก็ยังเยอะอยู่ มานิพพานที่เขาใหญ่แต่ถ้ำใดก็จำไม่ได้ แต่หลวงปู่มั่นท่านรู้ท่านเล่าให้ฟัง

    ส่วนพระยามิลินท์ นักโต้วาที เมื่อแก่ชรามาก็โต้แก่ชราก็ไม่ได้อวดดีกับพญามัจจุราชไม่ไหว พอเห็นท่าว่าไม่ไหวก็เลยลาราชการมาบวชพระยามิลินท์ปฏิภาณดีก็บวชบวชแล้วก็ภาวนาได้สำเร็จเป็นพระอรหันตขีณาสพแก่เฒ่าชรากาลเสด็จมานิพพานที่เมืองไทยประเทศไทยเราที่ (วัด) ลำปางหลวง นครลำปาง เดี๋ยวนี้อยู่ในเขตอำเภอเกาะคาผู้ใดไปแล้วก็ไปไหว้ได้ เป็นที่พระยามิลินท์มานิพพานที่นั้น แล้ววัดลำปางหลวงนั้นเวลานี้ก็มีพระแก้วเหมือนกันแต่เป็นแก้วเปรียวไม้ไผ่ไม่ถึงกับเป็นแก้วมรกตเหมือนอยู่ที่พระราชวังเมืองไทยเรานี้ นั่นแหละ ”

    เล่าโดย : หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    -และพระนาค.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “คนเกิดบ่ทันพระพุทธเจ้ากะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นสาวกเพิ่น คนเกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มันกะบอกว่า อยากเกิดทันเป็นลูกศิษย์เพิ่น กิเลสมันพาว่า กิเลสมันพาให้เฮาท้อแท้ในการปฏิบัติ เกิดบ่ทันพระพุทธเจ้ากะให้ปฏิบัติในศีลธรรมคำสอนของเพิ่น เกิดบ่ทันอาจารย์ใหญ่มั่นกะให้พากันปฏิบัติตามคำสอนของเพิ่น กะถือว่าเป็นลูกศิษย์ของเพิ่นคือกัน”..

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงปู่ตอบคำถามเรื่องผี

    บางครั้งเมื่อมีคนถามหลวงปู่ว่า เชื่อว่าผีมีจริงไหม
    หลวงปู่ก็ตอบว่า เชื่อมาตั้งนานแล้ว
    เมื่อถามว่า หลวงปู่เคยเห็นผีไหม
    หลวงปู่ตอบว่า เคยเห็นอยู่บ่อยๆ
    และเมื่อถามว่า หลวงปู่คิดกลัวผีบ้างไหม
    หลวงปู่ตอบว่า กลัวอยู่เหมือนกัน เพราะผีพวกนี้มันพูดยากสอนยาก
    แล้วก็ถามว่า ผีมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร ผีพูดเป็นด้วยหรือ
    หลวงปู่ก็ตอบว่า ก็ที่กำลังนั่งกำลังถามอยู่นี่แหละคือผีทั้งนั้นเลย

    หลวงปู่ผาง จิตตคุตโต วัดอุดมคงคาคีรีเขต (วัดดูน) จ.ขอนแก่น

    .png

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    หลวงพ่อคำแพง แผ่เมตตาให้ช้างเผือกอายุ 35 ปี ที่ประเทศลาว พลายชัยมงคล น้ำตาไหลก้มลงกราบหลวงพ่อ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2546 ก่อนท่านมรณภาพ 2 วัน หลวงพ่อคำแพงเคยพูดกับคณะแม่ครัว ที่วัดบุญญานุสรณ์ว่า “ถ้าไม่ได้เห็นช้างเผือกตัวนี้ อาตมาคงนอนตายตาไม่หลับ”

    หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต พระอริยสงฆ์แห่งวัดป่าบุญญานุสรณ์ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ท่านเป็นชาวบ้านหนองวัวซอ โดยกำเนิด ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ มีนาคม พ.ศ.๒๔๙๑ ท่านเป็นศิษย์ หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ,หลวงปู่ขาว อนาลโย,หลวงปู่สิงห์ สุขปุญฺโญ และมรณภาพลง ณ วัดป่าบุญญานุสรณ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๕ จึงขอน้อมนำปฏิปทาช่วงที่ท่านร่วมเดินธุดงค์กับ หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร มาเผยแพร่เพื่อน้อมเป็นสังฆานุสติครับ

    ประสบการณ์ธุดงค์บางตอนของหลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต

    หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต เล่าถึงการธุดงค์ของพระป่า ท่านเดินทางรอนแรมไปตามป่าตามเขาพักอาศัยตามร่มไม้ชายเขา ตามหมู่บ้านกระเหรี่ยง แม้ว เหย้า อีก้อ มูเซอ จีนฮ่อ ซึ่งหมู่บ้านเหล่านี้ ในสมัยก่อนสามารถเดินเท้าเข้าไปได้อย่างเดียว

    หลังออกพรรษาในปีพ.ศ.๒๕๑๘ ท่านได้พบหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร โดยบังเอิญและได้สนทนารับอุบายธรรมจากหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ทำให้ท่านเกิดความเลื่อมใสศรัทธา จึงขอฝากตัวเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ก็ได้ให้อุบายธรรมหลายอย่างตลอดจนถึงวิธีการเอาชนะกิเลส การปฏิบัติต้องไม่กลัวตาย ต้องผ่านตายให้ได้ก่อนจึงจะปฏิบัติอยู่กับท่านได้ เมื่ออยู่ด้วยกันระยะหนึ่งแล้ว หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ท่านจะไปธุดงค์ที่ผาดอก บ้านเซียงเคี่ยน อ.เทิง จ.เชียงราย หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ขอติดตามไปด้วย หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ย้อนถามท่านว่า “ท่านยังเสียดายชีวิตอยู่หรือไม่ ถ้ายังเสียดายชีวิตอยู่ก็ไม่ต้องไปกับผม”

    หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต จึงตอบว่า “ถึงอย่างไรผมก็ขอไปกับครูจารย์ให้ได้” หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ท่านเห็นความตั้งใจดีของหลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต จึงอนุญาตให้ติดตามไปได้ ในคณะธุดงค์ครั้งนั้น มีสหธรรมมิกหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร อีกรูปคือ หลวงพ่อสมศรี อตฺตสิริ วัดป่าผาน้อย อ.วังสะพุง จ.เลย รวมพระอยู่ ๓ รูป และ สามเณรเหลาอีกรูปนึง เมื่อเตรียมเครื่องบริขารเสร็จ ก็ออกเดินทางทันที ต้องเดินขึ้นเขาหลายกิโลเมตร ผ่านหมู่บ้านและดงหนาป่าทึบ เข้าไปทุกขณะ เมื่อขึ้นไปหลังเขาแล้วก็เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ คณะธุดงค์เมื่อท่านนั่งพักพอหายเหนื่อยแล้วก็เดินสำรวจหาที่พักปักกลด และแหล่งน้ำเพื่อสรง และล้างบาตร

    เมื่อเจอแหล่งน้ำและได้ที่พักแล้วต่างองค์จัดบริขารออกจากบาตร และกางกลด เสร็จแล้วสรงน้ำ ฉันน้ำเสร็จก็เป็นเวลาค่ำมืดพอดี หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ท่านกำชับว่า ขอให้ทุกองค์ตั้งใจปฏิบัติภาวนาอย่างเต็มที่ เรื่องความพากเพียรต้องมาก่อน ความขี้เกียจขี้คล้านให้อยู่ที่หลัง เพราะนี่คือการออกสู่สนามรบจริงๆ ถ้าหากมัวประมาทนิ่งนอนใจแล้วจะเสียทีกิเลสโดยไม่รู้ตัว เมื่อหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ท่านพูดเสร็จก็ให้แต่ละองค์แยกย้ายกันไปภาวนาในแต่ละที่ของตน

    หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ท่านปักกลดอยู่ในที่แห่งหนึ่ง ซึ่งองค์ท่านไม่ทราบว่าที่ตรงนั้นเป็นที่หากินของสัตว์ป่าในยามค่ำคืน พอตกดึกหน่อย ท่านได้ยินเสียงกิ่งไม้หักลงมาจากภูเขา เสียงนั้นดังลงมาใกล้ทุกขณะ ทำให้ท่านอดวิตกไม่ได้ว่าเป็นเสียงของอะไรกัน แต่ในจิตของท่านนั้นก็บริกรรมพุทโธๆ ลงไปเรื่อยๆ พยายามไม่ให้จิตหวั่นไหวไปตามเสียงที่ได้ยิน แต่ดูเหมือนจิตจะยิ่งเงียบเท่าไหร่ เสียงก็จะยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ และใกล้เข้ามาๆ และมาหยุดลงไม่ไกลจากตรงที่ท่านปักกลดเท่าไรนัก คล้ายกับว่ามันเห็นสิ่งผิดปกติเกิดในเส้นทางที่มันเคยเดินผ่านประจำนั้น สายตาของมันคงจับจ้องมายังที่ท่านนั่งภาวนาอยู่ ฝ่ายหลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ก็พิจารณาว่าทำไมเสียงของมันเงียบไปผิดสังเกตทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เสียงเหยียบใบไม้ดังมาก จนเวลาผ่านไปพักใหญ่เสียงนั้นจึงค่อยๆดังขึ้นมาอีก และยิ่งใกล้เข้ามา ตรงมายังกลดของท่าน หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ท่านจึงเกิดความสงสัย และได้ลืมตาขึ้นดู

    สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือ หมีความตัวใหญ่ที่ยืนทมึนจ้องมายังท่าน คล้ายจะข่มขู่ในฐานะเจ้าถิ่น พอท่านรู้ว่าเป็นหมีควายเท่านั้น ทั้งความกลัวและความตกใจวิ่งเข้ามาสู่หัวใจท่านทันที ท่านจึงหลับตาบริกรรมพุทโธๆ ย้ำเข้าไปตามจังหวะการเต้นของหัวใจ ไม่สนใจว่าอะไรจะเกิดขึ้นอีกต่อไป มีแต่จิตกับพุทโธเท่านั้น หมีควายตัวนั้นมันค่อยเดินเข้ามาจนมาถึงกลดท่าน มันยังคงเดินวนรอบกลดอยู่อย่างนั้นแต่ไม่ทำอันตรายใดๆ

    ส่วนท่านก็บริกรรมพุทโธจนจิตติดกับพุทโธเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หยั่งลงสู่ความสงบอย่างรวดเร็วพอจิตรวมพลึบลงไปอยู่ในสมาธิ ก็เกิดความสว่างขึ้น และไม่รู้สึกอะไรอีกเลย มีแต่ความสุขอยู่อย่างนั้น ความกลัว ความเจ็บปวด ความหวั่นไหว ไม่รู้หายไปไหนหมด มีแต่ดวงจิตที่ใสสว่างอยู่อย่างนั้น จนเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงที่จิตสงบอยู่ในอัปปนาสมาธิจนจิตมีความอิ่มตัวในสมาธิ จึงค่อยถอนออกจากสมาธิขึ้นมาอยู่ในระดับที่รับทราบอารมณ์ความรู้สึกภายนอกแล้ว ท่านจึงย้อนเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆ ว่ามีความเป็นมาอย่างไร หลังจากที่พิจารณาจนทราบแน่ชัดแล้วท่านจึงมองหาหมีควายตัวนั้น แต่การมองหาคราวนี้แตกต่างจากครั้งแรก เพราะการมองเห็นครั้งแรกเต็มไปด้วยความหวั่นไหวหวาดกลัว วิตกกังวลว่าหมีควายตัวนั้นจะมาทำอันตราย เห็นหมีควายเป็นศัตรู แต่หลังจากจิตของท่านที่สงบลงแล้ว และถอนขึ้นมา กลับมองว่าหมีควายตัวนั้นเป็นมิตร และมองทุกสิ่งทุกอย่างเป็นมิตรไปหมด แต่หมีมันคงหนีไปหากินที่อื่นหรือไม่ก็กลับไปยังที่อยู่ของมัน จึงมองไม่เห็น

    เวลาจวนใกล้สว่างพอดี ท่านจึงได้ออกจากที่ภาวนา ทำธุระส่วนตัว เสร็จแล้วท่านก็สวดมนต์ เก็บบริขาร เตรียมตัวออกรับบิณฑบาต ในเส้นทางหมู่บ้านที่เดินผ่านมาเมื่อวานนี้ ซึ่งก็อยู่ไกลพอสมควร พอได้เวลาบิณฑบาตหลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ก็เดินออกมาจากที่พัก พอเห็นหน้าหลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต แล้ว หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร ก็ได้พูดทักทายว่า “ท่านแพง เมื่อคืนนี้เห็นอะไรไหม” หลวงพ่อคำแพง อตฺตสนฺโต ตอบว่า “เห็นครับ เมื่อคืนนี้ ผมเห็นหมีควาย และเมื่อผมเห็นแล้วก็ทำให้รู้สึกว่า เหมือนตายแล้วเกิดใหม่เลย”

    หลวงพ่อจันทร์เรียน คุณวโร เลยกล่าวกับท่านว่า “ธรรมดาแหล่ะคนเรา เมื่อเห็นธรรมก็ต้องผ่านความตายไปก่อน ถ้ายังไม่ผ่านความตายก็ไม่เห็นพุทโธ พุทโธนี้เอาพึ่งเป็นพึ่งตายได้อย่างแน่นอน”

    การเดินธุดงค์นี้ไม่ใช่เรื่องความสะดวกสบาย ไม่ใช่เรื่องความคึกคะนอง ไม่ใช่เรื่องความคลุกคลี และไม่ใช่เรื่องอิ่มหมีพีมัน แต่เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับที่กล่าวมาข้างต้นโดยสิ้นเชิง อาหารการขบฉัน ที่อยู่ที่อาศัย ผ้าผ่อนท่อนสไบ ยารักษาโรค สิ่งเหล่านี้ไม่ต้องไปคำนึงถึง อาศัยไปตามยถากรรมตามมีตามเกิด พอให้มีลมหายใจได้ปฏิบัติไปวันหนึ่งๆ ก็ถือเป็นมหาโชคลาภแล้ว ฉะนั้นพระที่ท่านออกธุดงค์จึงไม่ห่วงว่าชีวิตจะเป็นหรือตาย ยอมสละทุกอย่างแม้ชีวิตก็ไม่เสียดาย กลัวอย่างเดียวคือ กลัวกิเลสจะไม่หมดจากหัวใจเท่านั้น เพราะต้นเหตุของความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็คือ กิเลสตัณหา อวิชชา อุปทานนี่เอง ถ้ากิเลสตัณหา อวิชชา อุปทานหมดไปจากจิตใจเมื่อใดแล้ว ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้ชนะโดยประการทั้งปวง และจะเห็นความแตกต่างระหว่างโลกสมมุติกับโลกวิมุติอย่างน่าอัศจรรย์

    ฉะนั้นพระธุดงค์ ที่มุ่งหวังความหลุดพ้นจึงไม่ห่วงเรื่องความเป็นความตาย ท่านจึงหมายมั่นปั้นมือ ตั้งอกตั้งใจที่จะปฏิบัติให้รู้แจ้งเห็นจริงตามรอยแห่งองค์พระศาสดาด้วยความเคารพและศรัทธาจริงๆ..

    -แผ่เมตตาให.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” ในการที่เกิดตาย แบกหามทุกข์ตลอดมา ไม่มีสถานที่ใดที่จะปลงวางแห่งความทุกข์ เมื่อมีความเกิดผิดๆ พลาดๆ อยู่อย่างนี้แล้ว พระองค์จึงทรงย้อนพระทัยเข้ามาสู่ต้นเหตุอันใหญ่หลวง คือ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา เป็นต้น

    อวิชชา คือความมืดบอดปิดในหัวใจของสัตว์ ังขารก็ผลักดันให้คิดให้ปรุงในเรื่องในราวต่างๆ ซึ่งเป็นทางเดินของกิเลสอวิชชานั้นไปเรื่อยๆ จึงพาสัตว์ให้เกิดให้ตายเรื่อยๆ ”

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    -แบกหาม.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” เราทั้งหลายเมื่อปฏิบัติถูกต้องแล้ว
    บัณฑิตทั้งหลายมาคัดค้านไม่ได้
    เพราะเราได้กำหนดตัวธรรมแท้ คือ อนิจจัง
    เราจะเห็นอยู่ในกายนี้
    อริยสัจธรรมทั้ง ๔ จะได้เห็นอยู่ในกายนี้
    ทุกขังจะได้เห็นอยู่ที่นี่ ไม่ได้เห็นที่อื่น
    ถ้าเรามาเจริญความเห็น ( สัมมาทิฏฐิ )
    ในสิ่งเหล่านี้ให้มากๆ
    ผลจะปรากฏขึ้นแก่เราเอง
    เมื่อผลบังเกิดขึ้นมาแล้ว
    ธรรมชาติก็รู้เอง ไม่ต้องบอกก็ได้…
    อย่าไปหลงคนนั้นพูดอย่างนั้น
    คนนี้พูดอย่างนี้ ”

    หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
    เทิดไว้เหนือเศียรเกล้า ด้วยเกล้า สาธุ.

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    คนที่ภาวนาแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ยังดีกว่าคนที่ไม่รู้จักการภาวนา มามัวแต่จับจ้องดูถูกคนที่ตั้งใจปฏิบัติภาวนา คนพวกนี้มันยังโง่ไม่เห็นว่าไฟกำลังเผาตัวเองทุกวันๆ มีแต่ใช้ชีวิตแบบประมาทมาก ชอบเที่ยวเล่น ดื่มกินสุรา ของผิดกฏหมายต่างๆ เรื่องไม่ดีขึ้นชื่อว่าชั่วมันชอบทำกันนักคนสมัยนี้ ไม่รู้จักละอาย เกรงกลัวต่อบาปกรรมเลยแม้แต่นิดเดียวเพราะมันยังไม่รู้ว่าบาปกรรมเป็นยังไง มัวแต่ใช้ชีวิตที่มีค่ายิ่งมาทำลายตัวเองลงทุกวัน ทำลายบุญกุศลเดิมที่บำเพ็ญมาให้หมดลงอย่างช้าๆจนในที่สุดบุญเก่าที่เคยทำมาก็หมด เจ้ากรรมนายเวรทั้งภพอดีตและภพปัจจุบันก็รุมกรูกันเข้ามาทำร้ายคนพวกนี้จนเจ็บป่วยล้มตาย ลูกหลานทั้งหลายอย่าพากันทำบาปนะ สิ่งไหนไม่ดีผิดศีลธรรมที่พระพุทธเจ้ากล่าวไว้สิ่งนั้นแหล่ะคือบาปอกุศล มันจะพาเราฉิบหายวายวอดไปหมดทั้งตัวตนน่ะ

    หลวงปู่ศิลา สุมงฺคโล
    วัดป่าท่าสิมมา จ.อุดรธานี

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...