ธรรมะจากเพจต่างๆ พระสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย ธรรมะสายหลวงปู่มั่น, 6 กันยายน 2017.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ้อนน้ำแข็งที่ละลาย

    “ขัยยะวัยยัง” คือความสิ้นไปเสื่อมไปของสังขาร เสื่อมไปดังก้อนน้ำแข็งที่ละลายเป็นน้ำ เราเกิดมาก็เก็บเอา ความเจ็บ ความแก่ ความตาย มาพร้อมกัน

    หลวงพ่อชา สุภัทโท

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  2. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระอาจารย์สมหมาย อัตตมโน (วัดป่าสันติกาวาส อ.ไชยวาน จ.อุดรธานี)ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า ครั้งหนึ่งท่านได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ท่านอยู่ป่ามาโดยตลอด ไม่คุ้นเคยสถานที่ และเป็นสถานที่ๆ มีคนมาก สร้างความไม่สบายใจแก่องค์ท่านเป็นอย่างมาก วันหนึ่งที่โรงพยาบาล ขณะที่ท่านภาวนาอยู่ ท่านเห็นนิมิตหลวงตามหาบัวมาหาและเทศน์โปรดว่า

    “ท่านสมหมาย อย่าให้สติกับจิต
    แยกออกจากกัน”

    พอหลวงตามหาบัวเทศน์จบ เกิดสภาวธรรม “จิตกับสติ” ท่านกลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน หลังจากนั้นท่านก็อยู่โรงพยาบาลอย่างสบายใจ ไม่ฟุ้งซ่าน เพราะท่านฝึกจิต ตามที่หลวงตามหาบัวเมตตามานิมิตสอนว่า “อย่าให้สติกับจิตแยกออกจากกัน” มีสภาวะความไม่พึงพอใจเข้ามา สติจะรู้เท่าทันอารมณ์โดยอัตโนมัติ หลังจากนั้นไม่จะอยู่ไหนก็อยู่ได้เพราะสติกับจิตติดแน่บแน่นตลอดเวลา

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    -อัตตมโ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  3. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่อสิ้นผืนป่า พวกเขาเหล่านั้นจะอยู่อย่างไร?

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราวเดือนสาม ปีพุทธศักราช ๒๔๘๘ ขณะนั้นหลวงปู่ชอบท่านพักภาวนาอยู่ที่บ้านแม่ระงอง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ คืนหนึ่งหลังจากไหว้พระสวดมนต์เสร็จแล้วท่านก็นอนกำหนดสติตนเองให้อยู่ในอารมณ์ภาวนา พอจิตท่านสงบลง

    องค์ท่านได้เห็นจิตวิญญาณที่แสดงตัวตนในรูปมนุษย์จำนวนเป็นพัน มีทั้งเฒ่าแก่ หนุ่มสาว ลูกเล็กเด็กแดง พากันหอบข้าวของพะรุงพะรังมาจากทางด้านทิศตะวันออกที่ท่านพักอยู่ ท่านว่า บ้างก็พากันหาบกระบุงตะกร้าก็มี บ้างก็ขี่ม้าขี่เกวียนก็มี บ้างก็หอบลูกจูงหลานเดินมาก็มี

    บังบดอพยพพวกนี้พากันส่งเสียงอึงคะนึงตึงตัง จนดูวุ่นวายไม่ต่างอะไรกับมนุษย์เราอพยพหนีภัยสงคราม ท่านกำหนดจิตถามบังบดผู้หญิงนางหนึ่งที่เป็นหัวหน้าว่า แม่ออก(โยมผู้หญิง) พากันมาจากบ้านไหนเมืองไหน ถึงได้หอบข้าวของพะรุงพะรังกันมาแบบนี้ ?

    บังบดนางนี้ตอบท่านว่า ญาคูท่าน..เอ้ย (ท่านพระคุณเจ้า..เอ้ย) พวกข้าน้อยพากันมาจากหลายบ้านหลายเมือง ข้าน้อยพากันมาจากเมืองขอนแก่น แม่หญิงบังบดนางนี้กล่าวตอบองค์ท่าน

    หลวงปู่ชอบถามว่า อยู่ขอนแก่นนั้นพวกโยมพากันอยู่บ้านไหนเมืองไหน?

    บังบดนางนี้ตอบองค์ท่านว่าพวกข้าน้อยพากันมาจาก “บ้านเพี้ยฟาน” ก็มี พากันมาจาก “บ้านสำราญ” ก็มี พากันมาจาก “บ้านกงหัก” ก็มี (หมู่บ้านที่แม่หญิงบังบดกล่าวถึง ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น)

    หลวงปู่ชอบท่านถามพวกโยมจะไปที่ไหนกันถึงได้พากันมาตั้งมากมายแบบนี้ ?

    บังบดหญิงนางนี้ตอบองค์ท่านว่า พวกข้าน้อยจะพากันไปอยู่ทาง “ถ้ำเชียงดาว” ก็มี จะพากันไปอยู่ทาง“ ถ้ำตับเตา ”ก็มี เขาบอกองค์ท่านถึงสถานที่พวกเขาจะพากันไปอยู่อาศัย

    หลวงปู่ชอบถาม เหตุผลในการอพยพย้ายถิ่นฐานที่จะพากันมาอยู่ที่นี่เพราะเหตุอะไร ?

    บังบดนางนี้ตอบท่านว่า อยู่ทางขอนแก่นนั้นมันลำบากหลายอย่างหลายประการ อยู่ทางนั่นมันแห้งแล้ง ผู้คนพากันตัดไม้ถางป่าทำไร่ทำนากันหลาย พวกข้าน้อยบ่มีต้นไม้ พอได้อาศัยพักพิงอิงอยู่ ผู้คนพากันตัดต้นไม้ที่พวกข้าน้อยอาศัยอยู่จนหมดข้าน้อยบ่มีที่อยู่ จึงพากันย้ายมาอยู่ทางเชียงใหม่มันอุดมสมบูรณ์ดี

    หลวงปู่ชอบถามเขาว่า ผีก็ย้ายครัวเป็น
    เหมือนกันกับมนุษย์หรือ ?

    นางบังบดตอบท่านว่า ผู้คนแสวงหาความสุขสงบแบบไหนพวกบังบดก็แสวงหาถิ่นฐานความสุขสงบเหมือนกันกับมนุษย์ พวกข้าน้อยเคยเป็นมนุษย์เหมือนกันกับท่านมาก่อน พวกมนุษย์ติดยึดในกามสุขัลฯ ยังไงพวกบังบดก็ติดยึดในกามสุขัลฯ อย่างนั้น ต่างแต่ภูมิบังบดของพวกข้าน้อยเป็นภพภูมิต่ำกว่ามนุษย์ไม่สามารถสร้างบุญบารมีของตนเองให้สูงส่งเหมือนกับมนุษย์ได้ พวกข้าน้อยมีความเป็นอยู่ด้วยบุญบาปที่ตนเองได้กระทำไว้เมื่อสมัยเป็นมนุษย์ พวกข้าน้อยจึงอาศัยบุญบาปของตนเองเป็นเครื่องอาศัยในการดำรงอยู่

    หลวงปู่ชอบท่านว่า พวกบังบดเขามีอะไรหลายอย่างที่คล้ายกันกับมนุษย์เราต่างกันที่กายหยาบกายละเอียดเท่านั้น ภูมิบังบดเขาจะต่ำกว่าภูมิมนุษย์เรา พวกนี้เขาจะอยู่ซ้อนกันกับมนุษย์เรา พวกบังบดไม่ใช่พวกเปรตผีที่มาขอส่วนบุญจากมนุษย์ พวกบังบดจะเนรมิตบ้านเรือนอาศัยอยู่ตามต้นไม้ภูเขาเถื่อนถ้ำมีสุขทุกข์เหมือนกันกับมนุษย์

    พวกบังบดอยู่ในภูมิ “โอปาติกะ” ประเภทหนึ่ง คนโบราณจะเรียกพวกนี้ว่า “บังบด” หรือบางที่ก็เรียกพวกนี้ “ลับแล” คำว่าลับแล ท่านว่าเป็นภาษาโบราณ ความหมายของคำว่าลับแลก็คือคำว่า “ลึกลับ”

    บางคนก็คิดเหมาเอาว่า “บังบด” คือพวกเดียวกันกับ “รุกขเทวดา” ท่านบอกสองภูมินี้ไม่ใช่พวกเดียวกัน พวกรุกขเทวดาเขามีความเป็นอยู่ที่ดีกว่าพวกบังบดมากมายหลายเท่า ผู้ที่ไม่รู้จริงจึงเหมาเอาทั้งสองภูมินี้ว่าเป็นภูมิเดียวกันทั้งๆที่มีความเป็นอยู่แตกต่างกันมาก

    หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

    -พวกเขาเ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  4. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม

    มีท่านอาจารย์คนหนึ่ง ซึ่งมาเฝ้าพระองค์บ่อยครั้ง เพราะโดยปกติเมื่อเสด็จลงเพื่อประทับรับญาติโยม ครั้นเมื่อโยมลากลับหมดแล้ว พระองค์ก็จะเสด็จขึ้นไปพักบนพระตำหนักทันที

    แต่คราวหนึ่ง อาจารย์คนนี้มาเฝ้า…จนกระทั่งคนอื่นๆ กราบลาหมดแล้ว อาจารย์ก็จะกราบลาบ้างเพื่อให้พระองค์ท่านพักผ่อน

    ทรงตรัสขึ้นว่า

    “อย่าเพิ่งกลับอาจารย์ อยู่คุยกันก่อน”

    อาจารย์ก็อยู่ก็เล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนกระทั่งบ่ายห้าโมงแล้ว ก็จะลากลับอีก พระองค์ก็ตรัสขึ้นคำเดิมอีก

    “อย่าเพิ่งกลับอาจารย์ อยู่คุยกันก่อน”

    อาจารย์ก็อยู่ต่อไป ผ่านไปอีกชั่วโมงก็กราบลาอีก ก็ทรงตรัสคำเดิมอีก

    กระทั่งใกล้หกโมงกว่า…ฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีจะมืดแล้ว

    อาจารย์ก็กราบลา…

    คราวนี้ไม่ทรงตรัสอะไรเลย

    เมื่ออาจารย์เดินพ้นไปแล้ว พนักงานกับลูกศิษย์ทูลเชิญเสด็จขึ้น ก็ยังไม่ปรารถนาที่จะเสด็จขึ้น ทรงนั่งประทับเหมือนรออะไรสักอย่าง โดยนั่งนิ่งๆ เหมือนกับนั่งสมาธิภาวนาจิต ไม่เท่าไร ลูกศิษย์คนหนึ่งวิ่งเข้ามาที่ตึกแล้วเอะอะดังลั่นกับลูกศิษย์คนอื่นว่าคนเมื่อกี้ที่ออกจากการเฝ้าฝ่าพระบาทพอไปถึงหน้าวัด ข้ามถนนถูกรถชนเสียชีวิตแล้ว

    พระองค์ค่อยๆ ลืมตาขึ้น…แล้วฟังคำกราบทูลของลูกศิษย์…เมื่อได้ฟังแล้วก็ทรงตรัสธรรมะออกมาประโยคหนึ่งว่า

    “สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม…ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้จริงๆ”

    แล้วก็เสด็จขึ้นที่ประทับห้องบรรทม

    สมเด็จพระญาณสังวร ฯ
    สมเด็จพระสังฆราช พระองค์ที่ ๑๙

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  5. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “พระอรหันต์” ที่เป็นผู้รู้แจ้งโลก ละโลกได้เป็นสมุจเฉทปหานได้แล้วนั้น ถ้าขันธ์ ๕ ยังปรากฏแก่โลกอยู่ ก็เป็น “ขันธวิสุทธิ์” หมดบุญ หมดบาป เพราะดวงจิตไม่ได้เข้ามายึดเป็นกรรมสิทธิ์ จิตพ้นจากอาการของขันธ์ คือ สังโยชน์ ๑๐ ดับสนิท มิได้มาพัวพันจิตได้อีกแล้ว ที่เรียกว่า “นิพพานธรรม” คือ จิตผ่องใส ไม่มีราคะ โทสะ โมหะ มาปกปิดอีกได้ ถึงธรรมชาติของจิตเดิม อันสว่างไม่มีสิ่งที่จะเปรียบได้ เมื่อความสว่างอันนั้นเกิดขึ้นแล้ว ย่อมทำลายความสว่างของโลกทั้ง ๓ กามภพ รูปภพ อรูปภพ ให้หายไปหมด ไม่ปรากฏว่ามีภพนั้น ภพนี้อีกเลย

    (เมื่อจิตของตน ยังไม่พ้นไปจากกิเลส
    แล้ว ย่อมเห็นว่าทั้ง ๓ ภพ มีความสว่าง
    อยู่ หรือเป็นสุขอยู่ )

    โอวาทธรรม : ท่านพ่อลี ธัมมธโร

    -ที่เป็นผู้ร.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  6. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ศีลเป็นของทุกคน
    ศีลทำคนให้เป็นคน
    ทำมนุษย์ให้เป็นเทวดา
    คนไม่มีศีลก็เหมือนสัตว์
    ทำอะไรไปตามกิเลสซักนำ

    หลวงปู่ขาว อนาลโย
    วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  7. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “ก่อนนอนทุกคืน ไหว้พระ สวดมนต์ นั่ง
    สมาธิ แผ่เมตตา ขออโหสิกรรมเจ้ากรรม
    นายเวร ถ้าท่านและคนในครอบครัว
    ปฏิบัติเช่นนี้ทุกวัน ชีวิตจะเปลี่ยนแปลง
    ไปในทางที่ดีขึ้นอย่างมาก”

    หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร
    วัดถ้ำประทุน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    -ไหว้พระ-ส.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  8. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    พระอริยะสาวก คือ พระโสดาบันเหล่านี้เป็นต้น ยังประเสริฐกว่า ความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ

    หลวงปู่อ่อนศรี ฐานวโร
    วัดถ้ำประทุน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

    -คือ-พระโสดา.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  9. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ยิ่งอยากยิ่งไม่ได้ อยากได้ยิ่งหนี อยาก
    มียิ่งยาก ฉะนั้นบุคคลผู้มีปัญญาพึงตัด
    คำว่า “อยาก” ออกเสียก่อน ที่จะลงมือ
    กระทำการใด จะช่วยให้งานนั้นเสร็จ
    เร็วยิ่งขึ้น

    หลวงปู่สาม อกิญจโน (องค์ขวา)
    วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์

    -อยาก.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  10. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    เมื่ิอวันศุกร์ แรม ๕ ค่ำ เดือน ๑๑ ตรงกับวันที่ ๑ พ.ย. ๒๔๙๕ ขณะนั้นคุณแม่ชีแก้วมีอายุ ๕๑ ปี เป็นเวลาที่คุณแม่ชีท่านเดินจงกรมตลอดคืนจนรู้สึกเหนื่อย จึงได้นั่งพักที่แคร่ใต้ต้นพะยอมแล้วเอนตัวลงนอน คิดว่าจะพักสักครู่แล้วจะไปนึ่งข้าว ก็รู้สึกว่ามีเสียงครืนเหมือนฟ้าผ่าแคร่ที่นอนอยู่หักลง และมีเสียงผุดขึ้นมาเป็นคำกลอน พอจับใจความได้ว่า

    “สิ้นชาติแล้ว”

    คุณแม่น้ำตาไหลพรากด้วยความตื้นตันใจ ในเรื่องนี้หลวงตามหาบัวได้เคยกล่าวว่า

    “ผู้เฒ่าแม่แก้วอัฐิเป็นพระธาตุแล้ว ผู้เฒ่านี้ถ้าพูดตามหลักความจริง ก็ผ่าน (สิ้นกิเลส) มาหลายปีแล้วนี่นะ ถ้าจำไม่ผิดเราว่าตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๙๕ โน่น นานเท่าไร”

    คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

    -แรม-๕-ค่ำ.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  11. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “การภาวนาลมหายใจเข้าออก เพื่อเป็นการพยุงความรู้ให้เด่น จะได้ปรากฏลมชัดขึ้นกับใจ ชำนาญลมแล้วน้อมเข้าไปท่ามกลางอก

    โดยเฉพาะสำคัญอยู่ด้วยสติ มีสติกำกับใจ ให้มีกำหนดลมทุกขณะเข้าออกสั้นยาว จนลมละเอียดเข้าไปทุกทีจนละเอียด กองลมกับจิตเป็นอันเดียวกัน ทีนี้ให้กำหนดลมอยู่โดยเฉพาะ ใจไม่ต้องกังวลบริกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น

    เมื่อลมกับจิตละเอียดแล้วจะเกิดความสว่างไสว เยือกเย็น เป็นความสงบสุขรู้อยู่ในเฉพาะใจ ไม่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ใดๆ เพราะจิตวางภาระ มีความรู้อยู่เฉพาะใจดวงเดียว คือเป็นหนึ่ง (เอกัคตารมณ์) นี่ ผลที่ได้จากอานาปานสติกรรมฐาน

    ส่วนการภาวนาส่วนอื่นๆ ก็ดุจเดียวกัน นี่เป็นความสุข ที่สุขุมยิ่งกว่าที่เป็นมาแต่เก่าก่อน”

    หลวงปู่หลุย จันทสาโร

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  12. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    รูปที่เป็นอยู่ เป็นของสกปรกทั้งนั้น ไม่ว่ารูปหญิง รูปชาย รูปพระ รูปฆราวาส เป็นเหมือนกันหมด เหตุใดมันจึงเป็นอย่างนั้น ของที่เราขบฉันรับประทานลงไปเป็นของเน่า ของเหม็น ของเสียทั้งนั้น ไม่ใช่ของดิบของดีอะไร เป็นต้มเป็นแกง เป็นผัดเป็นทอดต่างๆ ถ้าเราทิ้งเอาไว้ ของเหล่านั้นจะเน่า จะเหม็น จะเสีย อยู่ไปคืนสองคืนมีกลิ่นแล้ว นี่ร่างกายของเราที่เอาของเน่าของเหม็นมาบำรุงบำเรอ มันก็เป็นก้อนของเน่า ของเหม็นปฏิกูล ไม่ใช่ของสวยงามอะไร เพราะเหตุนั้น ในร่างกายของเราทั่วไป ไหลออกทางทวารใดก็มีแต่ของสกปรกเน่าเหม็น ไม่เป็นของดิบของดี ของหอมหวาน มีแต่ของเน่า เพียงแต่ลมออกมาเท่านั้น มันก็ยังมีกลิ่น แสดงว่ามันเน่าทั้งตัว มันเหม็นทั้งตัว ไม่มีอะไรที่จะดีวิเศษ

    พระอาจารย์สิงห์ทอง ธัมมวโร

    -เป็นของส.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  13. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “พระพุทธเจ้าท่านทรงสอนให้ปล่อยวาง อย่าไปยึดถือตัวกูของกู ตัวเราของเรา มันเป็นเพียงสมมติให้เป็นตัวเรา ของเราเท่านั้นแหละ ธาตุแท้ มันไม่ได้เป็นของใคร เมื่อมีเหตุปัจจัยเกิดขึ้น มันก็เกิดขึ้นอย่างนี้ เมื่อหมดเหตุปัจจัย มันไปไหนก็ละลายลงสู่พื้นแผ่นดิน”

    หลวงปู่สิม พุทธาจาโร

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  14. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    อากาศตอนนี้ญาติโยมก็บ่นว่าร้อนๆไปตามๆกัน ซึ่งความจริงมันก็ร้อนนั่นแหละ เหงื่อไหลไคลย้อยตลอดวัน แต่ว่าความร้อนนี่มันก็ไม่เที่ยง คือไม่เท่าใดก็หมดร้อน แล้วก็ถึงหน้าฝนต่อไป เพราะอันนี้มันเป็นเรื่องของธรรมชาติของดินฟ้าอากาศ เราจะไปเปลี่ยนแปลงไม่ได้ เราก็ต้องทนอยู่กันไปตามเรื่องตามราวจนกว่าจะหมดเรื่องนั้นไป การที่จะอยู่ได้ตามปกตินั้น จะต้องหมุนจิตใจของเราให้เข้ากับสิ่งที่เกิดอยู่เป็นอยู่ คือให้พอใจแค่นั้นเอง ถ้าพอใจแล้วมันก็ไม่มีอะไร ถ้าไม่พอใจแล้วก็เกิดความเดือดร้อน

    เคยพบพระองค์หนึ่งนั่งอยู่ในห้องเหงื่อท่วมตัว อาตมาก็ไปถามว่าไม่ร้อนหรือ ท่านก็บอกว่ามันเรื่องธรรมดา ท่านตอบว่าอย่างนั้น แล้วท่านนั่งทำงานไปตามปกติ ไม่รู้สึกว่ากระวนกระวาย จิตใจมันเป็นปกติ เหงื่อมันออกมาเป็นเรื่องของร่างกาย แต่ว่าใจนั้นไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง นั่งทำงานได้ปกติตลอดเวลา อันนี้แสดงว่าท่านผู้นั้นรู้จักหมุนจิตใจต้อนรับสถานการณ์นั้น แล้วก็ไม่เป็นทุกข์เพราะเรื่องนั้น

    พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโย
    วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  15. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “จิตคิดไปถึงอะไร จิตก็ไปเกิดในภพในภูมินั้น”

    หลวงตาศิริ อินทรสิริ
    วัดถ้ำผาแดงผานิมิต อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

    “จิตทีแรกดวงที่มันจะดับลงทีแรกนั่นแหละ ถ้าเคยกราบผีอยู่ประจำ ใจใกล้จะขาดธาตุจะแตกขันธ์จะดับจิตก็คิดไปถึงศาลพระภูมิ คิดไปถึงผี เมื่อใจขาดคาตรงนั้น ก็เรียกว่าไปอุบัติอีกภพ ไปเกิดภพเป็นผี พอเข้าใจไหมทีนี้.. คิดถึง ความคิดคืออารมณ์ ก่อนตายมันจะคิดไปถึงอะไร คิดไปถึงศาลพระภูมิ อารมณ์นั้นก็ไปดับที่ศาลพระภูมิ เรียกว่าเอาศาลพระภูมิเป็นภพเป็นที่เกิด เราก็ไปเกิดเป็นผีเฝ้าศาลพระภูมิอยู่ จึงไม่อยากให้ไปทำอย่างนั้น..

    ..ที่นี้ถ้าคิดไปถึงนิมิต แปลว่าจะจวนเจียนจะขาดธาตุจะแตกขันธ์จะดับ คิดไปถึงอารมณ์ใหน อย่างสมัยพุทธกาล พระคิดไปถึงผ้าจีวร คือตัดผ้าจีวรเสร็จใหม่ๆยังไม่ได้คลุมไม่ได้ใช้.. พอกลางคืนก็มาก็เลยปวดท้องเจ็บท้องตาย ใจขาดก็คิดถึงผ้าจีวร เกิดเป็นเลนก็อาศัยอยู่ผ้าจีวร เกิดเป็นสัตว์เดรฉาน..

    ..ถ้าเราคิด ความคิดนี้เรียกว่าภพ อารมณ์นี้เรียกว่าภพ เป็นที่เกิดเป็นที่ตั้งของจิต จิตของเราเปรียบเสมือนเมล็ดพืช อารมณ์เปรียบเสมือนเนื้อนา ไร่ สวน ไปตกอยู่ที่ใหน อารมณ์ไปตกอยู่ที่ผ้าจีวร ก็ไปเกิดที่ผ้าจีวร ถ้าเคยกราบเคยไหว้ผี อารมณ์ก็ไปเกิดถึงศาลพระภูมิ ก็ไปจุติขึ้นที่ศาลพระภูมิ ก็ไปเป็นผี อายุผีนานนะ ผีกว่าจะมาเกิดอีก อย่าพากันไปสร้างศาลพระภูมิ อย่าพากันไปกราบนะ..ถ้าคิดถึงพญานาค ก็ไปกราบพญานาค ตายไปก็ไปเกิดเป็นลูกพญานาค เป็นสัตว์เดรฉานนั้นล่ะภพเป็นที่เกิดเป็นที่ตั้งของจิตคิดไปถึงอะไรจิตก็ไปเกิดในภพนั้นภูมินั้น”

    -จิตก็ไป.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  16. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” คนเราตื่นขึ้นมาแล้ว ให้นึกว่า…วันนี้ข้าพเจ้าจะบริจาคทาน ตื่นขึ้นมาแล้ว ข้าพเจ้าจะรักษาศีล ตื่นขึ้นมาแล้วบอกกับตัวเองว่า วันนี้ข้าพเจ้าจะสละความชั่วออกจากใจ จะฝึกฝนตนเองให้เป็นผู้ซื่อสัตย์สุจริต ให้บอกกับตัวว่า ข้าพเจ้าจะฝึกตนเป็นคนอ่อนโยน ตื่นขึ้นมาบอกกับตนว่า ข้าพเจ้าจะมีความเพียร เพื่อแผดเผากิเลสออกจากใจ จะข่มความโกรธไว้ได้ จะไม่เบียดเบียนใคร ตื่นขึ้นมาให้คิดว่า ข้าพเจ้าจะอดทนทุกอย่าง จักห้ามใจไม่ให้ยินดียินร้าย ในโลกธรรมทั้ง ๘ ประการ ้าทำเช่นนี้ได้ก็จะเป็นสิริสวัสดีแก่ตนเอง ”

    หลวงปู่จันทร์ เขมิโย
    วัดศรีเทพประดิษฐาราม จ.นครพนม

    -ให.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  17. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
  18. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    “เมื่อเราปฏิบัติธรรมไม่ว่าอารมณ์ใดจะเกิดขึ้นก็ช่างมัน ให้ปฏิบัติไปเรื่อยๆ ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ”

    โอวาทธรรม : หลวงพ่อชา สุภัทโท

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  19. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ท่านผู้พ้นทุกข์ ไปด้วยความอุตส่าห์สร้างความดีใส่ตน จนกลายเป็นสรณะของพวกเรา ท่านไม่เคยมีสมบัติเงินทอง เครื่องหวงแหน เป็นคนร่ำรวย สวยงามเฉพาะสมัย จึงพากันรัก พากันห่วง จนไม่รู้จักเป็นรู้จักตาย สำคัญตนว่าจะไม่ตาย และพากันประมาทจนลืมตัว เพลิดเพลิน ตักตวงเอาแต่สิ่งไม่เป็นท่า ใส่ตนแทบหาบไม่ไหว

    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    -ไปด้วยค.jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
  20. ธรรมะสายหลวงปู่มั่น

    ธรรมะสายหลวงปู่มั่น สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2017
    โพสต์:
    15,913
    กระทู้เรื่องเด่น:
    6
    ค่าพลัง:
    +375
    ” คุณค่าของวันวิสาขบูชานอกจากเตือนให้สำนึกในพระพุทธคุณ ยังชวนให้เกิดความสลดสังเวชว่า ความเกิดและความดับนั้น มีขึ้นทุกขณะและเป็นของคู่กัน แม้ในความเกิดพระรูปพระโฉมของพระศาสดา ก็ยังมีความดับไปตามกฎสามัญ

    ความระลึกชอบได้เช่นนั้น ย่อมสามารถโน้มน้าวพุทธบริษัทผู้เกิดมาแล้วบนโลกนี้ให้เพียรเจริญรอยตามบนอริยมรรค จนสู่จุดหมายที่เหนือความเกิดและดับ ด้วยการละความหลงจับยึดในสิ่งมายาทั้งปวง คลายความมัวเมา ยึดถือตัวยึดถือตนลง เว้นวางการแบ่งเขาแบ่งเรา อันจะช่วยยุติความเบียดเบียน ก้าวร้าว บาดหมาง และชิงชังกัน

    เมื่อสมาชิกในสังคมใดทำได้เช่นนั้น ความเมตตากรุณาอย่างยุติธรรมย่อมบังเกิด สรรพชีวิตในสังคมนั้นย่อมอิงอาศัยกันได้อย่างปราศจากเวรภัย สันติสุขที่แท้ย่อมปรากฏให้ประจักษ์เห็นจริง ไม่ใช่เพียงแค่อุดมการณ์

    ที่มา: พระโอวาท เนื่องในวันวิสาขบูชา ประจำปี 2560 (บางส่วน)

    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    .jpg

    ที่มา ธรรมะของพระอรหันต์ สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...