ทำไม ฮิตเลอร์ ถึงฆ่าคน และทรมานคน เป็นล้านเลย >< (ทรมานโหดมากๆ)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mamboo, 2 ตุลาคม 2011.

  1. ประกายพลอย

    ประกายพลอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    616
    ค่าพลัง:
    +452
    999 ครับ ไม่ไ่ช 99 อาจารย์บอกต้องฆ่า 1000 คน

    ฆ่าตอนแรกไม่ได้นับ ตอนหลังนึกได้ว่า ต้องหาวิธี จำจำนวนฆ่าไห้ได้

    ก็เลยไช้วิธี ตัดนิ้ว ห้อยคอ คุลี แปลว่านิ้ว
     
  2. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว..."

    จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
    ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
    ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
    จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
    คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
    ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ

    เแค่ตัวอย่างนะครับ เรื่องนี้ดังมากในGoogle

    บอกว่าหลวงพ่อฤษี ทำนายไว้ แล้วไง สุดท้ายวัดท่าซุง ต้องออกมาปฏิเสธ ทำหนังสืออกมาเป็นทางการเลย

    ว่าไม่ไช่คำทำนายของหลวงพ่อ เดี๋ยวนี้ ก็ยังมีไห้เกลื่อน ดังกว่าที่คุณเยอะ ฮือฮากันมาก

    ที่นี่ก็เอามาลงเพียบตั้งแต่ก่อนนายกหญิง
     
  3. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    เรื่องที่คุณ veer เอามาลง พิจรณาไห้มากๆครับ
     
  4. *พอส*

    *พอส* Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +98
    ผมเคยฟังเสียงท่านเทศน์ครับเรื่องนี้ที่คุณ veer นำมาลงขอโมทนาด้วยครับ
     
  5. paura

    paura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +251
    ถ้าอยากรู้จริงๆต้องดูเยอะๆ ดูหลายๆด้านหลายๆมุมมองครับ

    คลิป Hitler: The Rise Of Evil (พากย์ไทย)(Part1/12) - คลิปแมส

    ใครไม่ชอบ ผมชอบอ่ะ ชอบบุคลิกกระฉับเฉง ฮึดฮัดแข่งแกร่ง กะทรงผมปัดเป๋ซ้าย ที่คนส่วนมากเค้าปัดขวากัน และก็ชอบวาดรูปตั้งกะเด็กเหมือนกันด้วยอิอิ แล้วฮิตเลอเป็นมังสวิรัตด้วยมั้ง สงสัยเห็นเลือดเห็นเนื้อจนเอียน

    ชุดเครื่องแบบทหารก็ดีไซน์ออกมาดูดีมากๆ สีเทาด้วยป้องกันตรวจจับกล้องอินฟาเรตพอดีเลย โค้ทหนังยาวๆ หรือกางเกงขาป่องๆ
    หุหุ ยุคคลาสสิกเลยยังงั้น
    [​IMG]
     
  6. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    พวกเราเองก็เกิดไม่ทันยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเข้าใจการเมืองในยุคนั้นในทางลับเหมือนบรรดาผู้นำประเทศก็ยาก

    <iframe width="420" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/eGhdX1SI3KY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    ฮิตเลอร์ดีตรงที่

    1. ทำให้ชาวเยอรมันรักชาติ ภาคภูมิใจในตนเอง
    2. จัดระเบียบสังคม ปกครองด้วยกฎหมายอย่างเข้มงวด
    3. สร้างฐานะทางเศรษฐกิจและทางทหารจนเยอรมันกลายเป็นมหาอำนาจ

    ฮิตเลอร์ไม่ดีรงที่

    1. ส่งเสริมการรักชาติอย่างผิด ๆ ทำให้เข้าใจว่า เยอรมันเหนือกว่าชนชาติอื่น โดยเฉพาะยิว
    2. ใช้กองกำลังส่วนตัว สังหารศัตรูทางการเมือง ชาวยิว อย่างโหดเหี้ยม
    3. ใช้การกู้เงินจำนวนมหาศาล ออกพันธบัตร จนเยอรมันต้องล้มละลายหากไม่เกิดสงครามอย่างแน่นอน
    4. ใช้เงินที่กู้มาเพื่อสร้างและวิจัยอาวุธสงครามในช่วง 4 ปีก่อนสงครามเริ่มต้น ทำให้ผลผลิตในประเทศลดลง แสดงถึงเจตนาของเยอรมันที่จะก่อสงคราม

    นี่เป็นข้อดี ข้อเสียของฮิตเลอร์ตามตำราทั่วไปครับ แต่เรื่องทางลับ เรื่องมนุษย์ต่างดาวไม่ทราบจริง ๆ

    ทำไมฮิตเลอร์ถึงฆ่ายิวจำนวนเป็นสิบล้านคน ตามตำราเช่นกัน เพราะยุคนั้นยุโรปมีชาวยิวอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะเยอรมันกับออสเตรีย ชาวยิวเหล่านี้ เป็นพ่อค้า นายธนาคารเป็นส่วนมาก และผูกขาดกิจการต่าง ๆ ทั้งสื่อ

    และชาวยิวมักจะช่วยเหลือพวกเดียวกันเองให้มีอำนาจมากกว่าจะช่วยเหลือชาวเยอรมัน ทำให้มีกระแสต่อต้านยิวมาเป็นเวลาหลายร้อยปีแล้ว

    มาดูเรื่อง The Great Dictator แสดงโดย ชาลี แชปลินจะเข้าใจฮิตเลอร์มากขึ้น (ยังไง...)

    <iframe src="http://www.youtube.com/embed/B8DDvRbffeE" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" width="560"></iframe>

    และก็บังเอิญว่าเรื่องนี้ถูกสร้างโดยฝ่ายสัมพันธมิตรเพื่อทำลายชื่อเสียงฮิตเลอร์...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2011
  7. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    Auschwitz

    ลองใส่คำนี้ดูใน GOOGLE หรือ YOUTUBE

    ..........................................................
     
  8. Yurichan

    Yurichan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2010
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +97
    ตามคำตอบของคุณ Veer 5 ทหารเสือมี

    อดอลฟ์ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีเยอรมัน
    เฮอรมาน เกอร์ริง ผู้บัญชาการกองทัพอากาศเยอรมัน
    เปแตง ผู้บัญชาการกองทัพฝรั่งเศส
    เบนิโต มุสโสลินี ผู้นำฟาสซิสต์อิตาลี
    วินสตัน เซอร์ซิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ

    ถ้าทางศาสนาพุทธพวกเขาอาจจะเกิดมาหลายร้อยชาติก็ได้ อาจเป็นผู้นำ บุคคลสำคัญของประเทศต่าง ๆ เป็นคนดีคนชั่ว สลับกันไป ผมไม่มีญาณเลยไม่รู้ข้อเท็จจริง

    ถามว่าฮิตเลอร์ชั่วมั้ย ผมบอกเลยว่าชั่ว และผู้นำประเทศต่าง ๆ ที่ก่อสงครามก็ต้องเรียกว่า ชั่ว ประชาชนที่เรียกร้องสงครามก็ต้องเรียกว่าชั่วเช่นกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 ตุลาคม 2011
  9. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    ของ ญี่ปุ่นก็ไม่แพ้กัน

    ลองใส่คำนี้ใน YOUTUBE หรือ GOOGLE

    " Unit 731 "






    ไม่ว่า อดีตจะโหดร้ายแค่ไหน ยังไงซะ อาหารญี่ปุ่นก็อร่อยมากๆและ Benz ขับดีที่สุด ๕ ๕ ๕
     
  10. chang938

    chang938 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    468
    ค่าพลัง:
    +451
    พระเจ้าส่ง ฮิตเลอร์ มาลดประชากรโลกแต่ ฮิตเลอร์ ทำไม่สำเร็จพระเจ้าจึงส่งมนุษย์ต่างดาวมาแทน(ผมบอกเองนะครับ ครูบาอาจารย์ผมไม่ได้บอก)
     
  11. paura

    paura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +251
    ตั้งกะเด็กจำความได้ ถามพ่อแม่ว่าฮิตเลอคือใคร เค้าก็แค่ตอบ เผด็จการนาซีล้างเผ่าพันธ์ เรารู้แค่นั้นก็เกลียดตามๆเค้าไปมั่ง โตมามีอินเตอเนตทำให้เข้าถึงข้อมูลได้มากขึ้น ก็เที่ยวแสวงหาข้อมูลทั้งหมดเท่าที่จะหาได้ ก็กลายเป็นชอบสะได้555 ร้ายก็รัก

    และก็เคยรักใครคนนึงที่เป็นคนเยอรมัน อาจเป็นผลกระทบทางจิตใจเข้าไปอีกที่ทำให้ผูกพัน....เฮ้อ...
     
  12. LiFEillusion

    LiFEillusion สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +14
    ่ว่าจะไม่โพสแร้วแต่ขอหน่อย คนกว่า 11 ล้านคนต้องตายไป มันตายจริงนะครับ ไม่ได้ล้อเล่นไม่ใช่คนสองคน ฆาตกรต่อเนื่องขนาดนี้ ถ้าไม่เลวจริง ไม่รู้จะเรียกไงแล้ว ฆ่าคนขนาดนี้ ยังจะมาเป็นพระโพธิสัตว์


    ศาสนาพุทธสอนให้ทำดี แล้วไงช่วย นรกตัวนี้ขึ้นมา แทนที่จะปล่อยให้รับกรรม
    เห็นใจคนที่ เพียรบำเพ็ญ ศีลธรรม ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต สะสมบุญบารมีกันหน่อยครับ
     
  13. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    คุณรู้สึกอย่างไรกับภาพเหล่านี้



    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]



    นีเคือความโหดร้าย ที่เคยเกิดขึ้นในมนุษย์ชาติ
    อันเกิดจากความโหดร้ายของ ฮิตเลอร์ ทัพนาซี
    และผู้ช่วย โจเซฟ เมงเกเล

    ไม่ว่าชาวยิว ชาวโปเเลนด์ ชาวยิวฮังกาเรียน ชาวยิปซี ชาวโรมัน
    ก็จำถูกทารุณดังตนไม่ใช่คน จนชาติพันธ์เกือบสาบสูญไปจากโลก
    ในค่ายนรกจะไม่มีชื่อ ไม่มีเหลือความเป็นคน เด็ก คนพิการ หรือคนชราที่ไปยังค่ายนรก
    ก็จะถูกฆ่า ตั้งแต่ก้าวเข้ามา

    หากหนีก็จะถูกหมา ออกตามล่า หรือถ้าเป็นผู้หญิงก็จะถูกขมขื่น ...

    บางคนตายเพราะถูกนำตัวไปวิจัย
    บางคนตายเพราะแก๊สพิษลมควัน ที่สร้างมาเพื่อลดประชากรในค่าย
    บางคนถูกนำตัวมา เป็นอาหารให้เพื่อนๆตัวเองกิน
    บางคนต้องไปเป็นพนักงานที่เตาอบ และต้องฆ่าพ่อแม่ตัวเอง
    บางคนตายเพราะทน หนาวไม่ไว้
    บางคนตายเพราะขาดอาหาร

    บางคน ..ตายเพราะกลั้นใจตาย




    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย เป็นตัวอาคารห้องรมแก๊สพิษ
    รูปขวา เป็นประตูทางเข้าสู่ ห้องรมแก๊สพิษ


    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย คือพื้นที่ที่เหล่าเหยื่อชาวยิว จะถูกส่งเข้าเพื่อเป็นที่ตาย โดยการรมด้วยแก๊สพิษ
    รูปขวา คือบริเวณหลังคาของห้องรมแก๊สพิษ ที่เห็นเป็นปล่องเหล็กมีฝาปิดคือ ช่องสำหรับหย่อนแก๊สพิษลงไปภายในห้องเพื่อฆ่าชาวยิว


    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย เป็นเมรุเผาศพ เหยื่อที่ถูกรมแก๊สพิษ เสียชีวิต ส่วนที่เห็นอยู่ด้านหน้าเมรุ คือรถเข็นศพ
    รูปขวา เป็นรูปเหยื่อกำลังถูกลำเลียงเข้าสู่เมรุ


    [​IMG] [​IMG]
    รูปซ้าย ภาพโรงนอนในปัจจุบัน
    รูปขวา เป็นสภาพ ชีวิตความเป็นอยู่ของเชลยหญิง ที่ต้องแออันกันอยู่ในเตียง 3 ชั้น


    [​IMG] [​IMG]
    Mustard gas experiments การทดลองผลของมัสทาร์ทแก๊ส ผลจากการได้รับพิษ การรักษาพยาบาล ( Note รูปภาพประกอบ มาจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ซ้ายเป็นผลจากการได้รับมัสทาร์ทแก๊ส โดยไม่สวมหน้ากากกันแก๊สพิษ รูปขวา เป็นทหารแคนนาดา ที่ถูกแก๊สมัสทาร์ท จะเห็นว่าเกิดบาดแผลพรุพองทั่วร่างกาย )


    [​IMG]



    1934 คืนแห่งการลุกฮือ ที่เยอรมัน มีการลุกฮือของฝูงชน บุกทำลายล้างยิวในทุกๆที่ ของเยอรมัน

    [​IMG]
    ห้างร้านของยิวถูกทำลาย

    [​IMG]
    คนยิวถูกบังคับให้อยู่อย่างเสีย ศักดิ์ศรี เช่นต้องทำงานบริการ ขัดพื้นที่สาธารณะ

    [​IMG]
    ต้องติด ดาวดาวิด แสดงสัญลักษณ์ ว่าเป็น คนยิว

    [​IMG]
    พวกที่ทนอยู่ใด้ก็อยู่ไป ท่ามกลางอาหารที่ขาดแคลนและการดูหมิ่น ศักดิ์ศรี

    [​IMG]
    คนยิวโดนกวาดลงรถไฟซึ่งแม้แต่ที่ยืนก็ ยังไม่มี

    [​IMG]
    แล้วถูกปล่อยลงค่ายกักกันต่างๆทั่วยุโรป

    [​IMG]
    ส่วนพวกที่ทนความแออัดใน รถไฟไม่ไหว ก็ตายๆ กันไป ซึ่งมันอาจเป็นเรื่องที่โชคดียิ่งกว่าก็ได้ สำหรับสิ่งที่รอเขาอยู่ข้างหน้า

    [​IMG]
    cyclon-B ซึ่งฮิมเลอร์พอใจผลของมันมาก

    [​IMG]
    การยิงเป้าเป็นหลัก ต่อๆมา ฮิมเลอร์บอกว่ามันเปลืองกระสุนเกินไป ในรูปหลังการยิงเป้าลงหลุมหมู่ พวกนาซีไปตรวจหาผู้รอดชีวิต

    [​IMG]
    คนตายจากก็าซพิษน่าสยดสยอง เนื่องจากก๊าซพิษจะค่อยๆลอยขึ้นข้่างบน ผลคือ คนที่อยู่ในห้องรมก็าซจะตะเกียดตะกายเหยียบกันเอง!! แล้วคนที่อยู่บนสุดของกองศพในห้องรมก๊าซ ก็ตายเหมือนเดิมอยู่ดี



    [​IMG]
    เผาบนพื้นชักไม่ทัน ต้องสร้างเตาเผาศพขึ้นมาต่างหากอีก



    [​IMG]
    นักโทษในค่ายกักกัน ส่วนใหญ่หิวโซ อาหารที่เขาได้กินประจำคือ ชุบน้ำข้าว ทีี่่รสชาติห่วยแตกกว่าน้ำล้างจานเสียอีก


    ความแออัดยัดเยียดในคุก หลายครั้งที่มีการตบตีกันแย่งที่นอน เพียงเพื่อให้เหยียดขาได้อีก สักคืบแค่นั้นเอง


    มีการทดลองทางวิทยาศาสตร์มากมายที่ค่าย กักกัน หลายอย่าง ที่นักวิทยาศาสตร์ ไม่ยอมรับผลวิจัยมันเด็ดขาด แม้ว่าการทดลองเหล่านี้ใช้คนจริงๆก็ตาม

    [​IMG]
    รูป การทดลองเกี่ยวกับชีวิตคน กับ สภาพแรงกดอากาศ ต่างๆ

    [​IMG]
    การทดลองเกี่ยวกับการติดเชื้อโรคผิวหนัง อย่างหนึ่งซึ่ง ในชีวิตจริงๆ หายากสุดๆ ถ้าไม่อยู่ในสภาพที่ โครตโสโครกจริงๆ

    [​IMG]
    สภาพรั้วติดกระแสไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งพวกนักโทษชอบฆ่าตัวตายด้วยการวิ่งไปชนบ่อยๆ

    [​IMG]
    ฮิตเลอร์ ไปจับมือกับ มุสลิม (grand moltif of Jerusalem ) เพื่อร่วมมือกัน ล้างเผ่าพันธุ์ยิวด้วย


    [​IMG]
    และแล้ววันหนึ่ง พวกยิวก็ตื่นขึ้นมาในค่ายกักกัน.... ไม่มีผู้คุม.. ไม่มีเสียงแตรปลุกตอนเช้า.. ไม่มีทหารเยอรมัน.. และแล้ว กองทัพอเมริกัน ก็เข้ามา..

    [​IMG]
    หลายคน ช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ไรซ์ที่ 3 ล่มสลายแล้ว ..พวกเราเป็น อิสระ!!!!

    [​IMG]
    หลายคนโผกอดกัน บ้างก็ร้องไห้ บางคนก็ฆ่าตัวตาย..

    [​IMG]
    พวกนักโทษไปชี้ตัวพวกอดีตผู้คุมได้ ภายใด้การดูแลของกองทัพอเมริกัน

    [​IMG]
    พวกอดีตผู้คุมเหล่านี้ พวกอเมริกันมัก ฆ่าทิ้งทันที่จับได้ เพราะ ในรูปพวกทหาร SS โดนลากออกมาจากฝูงชน ทำให้อับอาย ก่อนเอาไปยิงทิ้ง

    [​IMG]
    แรกๆคนเยอรมันก็เกลียดพวก กัน พวกกันก็ เชิญชาวเมืองใกล้ ค่าย เบลเซ่น ไปดูค่ายกักกัน ตอนแรกหลายคนแต่งชุดทหารเต็มยศ หลายคนก็ใส่เข็มกลัดพรรคนาซี พอเห็นภาพพวกนี้ พวกเขาคว้างพวกสัญลักษณ์นาซีทิ้งหมดเลย

    [​IMG]
    แว่นตาของผู้โชคร้ายที่ถูกรมแก๊ซที่ ค่าย เอาสวิตท์

    [​IMG]
    ภาพ ฟันทองที่ถูกถอนออกมาจากยิวผู้โชคร้าย ยังมีทรัพย์สินของยิวอีกมากที่ถูก เยอรมันปล้นไป ... ทุกอย่างยังหายไปกับประวัติศาสตร์ ตราบจนทุกวันนี้




    [​IMG]

    มีคนถามว่า ทำไม รอดชีวิตแล้วยัง
    ฆ่าตัวตายอีก

    ถ้าวันนึงคุณรอด ชีวิตจากเหตุการณ์ื.. คนที่รู้จักทุกคนในโลกนี้ตายห่าหมด เหลือแค่คุณคนเดียวไม่เหลืออะไรติดตัวเลย... คุณจะเอาไงกับชีวิต .. ตูว่าต้องมีสักคนแหละที่เลือกฆ่าตัวตาย


    [​IMG]

    คนที่เคยอยู่ค่ายกักกันทุกคนจะถูกสักเลข เหมือนวัวเหมือนควายแบบนี้แหละครับ ยิวทุกคนจะถูก
    เรียกด้วยแค่หมายเลขนี้ ไม่มีชื่อ ไม่มีค่า
    ความเป็นคนต่อไป

    บางคนรอดชีวิตไป แต่งงานดูเหมือนจะมีความสุข อยู่ๆไปก็ฆ่าตัวตายเพราะทนอดีตที่ตามหลอกหลอนไม่ไหวอยู่ดี

    [​IMG]
    จบล่ะ ท้ายสุดขอให้ทุกอย่างที่อยู่รูปนี้เกิดขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายในโลก..

    และขอให้ยิวทุกๆคนได้ไปสู่สุขติ สาธุ.......!!@#$%...


    และนี่ก็ เป็นอุทาหรณ์ที่มนุษย์ทำกับมนุษย์ได้ลงคอ! แล้วคุณละกลับตัวกลับใจกันรึยัง!!!...

     
  14. mamboo

    mamboo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,129
    ค่าพลัง:
    +1,973
    ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่า ฮิตเลอร์ เป็นคนดีหรือไม่ดี --'

    คนที่ ทรมาน และฆ่าคนอย่างโหดร้าย ทรมานคนเหมือนไม่ใช่มนุษย์ เอามนุษย์ไปเป็นสัตว์ทดลองทางการแพทย์ ให้อดอาหาร.. (มันไม่ได้ฆ่าให้ตายทันทีนะ มันให้อดอาหาร) มีการรมควันพิษให้ตายอย่างทรมาน

    ดูๆไป ก็เหมือนโรคจิตอ่ะ --'

    ใครว่าฮิตเลอร์เป็นพระโพธิสัตว์เนี่ย --' คงจะแบบ อ่านประวัติมาน้อย

    ประเทศอื่น จะโหดเหี้ยมหรือไม่ อังกฤษ อเมริกา รัสเซีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ก็อาจจะทำเหมือนกัน

    แต่นี่มันคือ ฮิตเลอร์ และเราอยากจะรู้ความเห็นของพวกท่านว่า..

    คุณคิดว่า อะไร ทำให้ ฮิตเลอร์ ทำกับมนุษย์ด้วยกัน อย่างโหดร้ายทารุณ แบบนี้ ?? ><

    เขาไม่ได้ต้องการฆ่าให้ตายนะ.. เขาทรมาน ให้ตายอย่างทรมาน (มันเหมือน ทำไปด้วยความเกลียดชัง) หรือไม่ก็คงจะ เป็นโรคจิต.. เด็ก ผู้หญิง คนแก่ ก็ไม่เว้น

    ส่วนประเทศอื่นๆ ก็ทำเหมือนกัน.. ก็เป็นคนไม่ดี แล้วไง ?? >< เพราะกระทู้นี้ ถามเกี่ยวกับ ฮิตเลอร์

    -------

    บางที mamboo อ่านความคิดเห็นของหลายๆคนแล้วก็ งง นะ..

    เช่น.. "ผู้ชนะ คือผู้เขียนประวัติศาสตร์" เป็นต้น

    ต่อให้ ฮิตเลอร์เป็นผู้ชนะ สิ่งที่ทำ มันก็ผิดอยู่ดี

    ต่อให้ อังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น รัสเซีย ทำเหมือนฮิตเลอร์(คือ ทรมานเชลยศึก) แต่สิ่งที่ฮิตเลอร์ทำ มันก็ยังผิดอยู่ดี ><

    --------

    เอาว่า คุณไปฆ่าหมาตัวหนึ่ง.. คุณทำผิด.. แต่เพื่อนบ้านคุณก็ทำเหมือนกัน.. มันก็ผิดทั้งหมด คุณก็ยังทำผิดอยู่ดี ><

    การที่มีคนทำเหมือนกันหลายๆคน มันไม่ได้แปลว่าเป็นสิ่งที่ถูกนิ่ ><

    ---

    งงกับความเห็นของหลายๆท่านมากๆ ><

    ฮิตเลอร์ ทำผิด หรือไม่ผิด ไม่ใช่คำถามของกระทู้นี้...

    ฮิตเลอร์ ทรมานคน เหมือนสัตว์ .. จับไปทำการทดลอง ให้อดอาหาร รมควันพิษ.. นี่ถ้าไม่เรียกว่า ผีนรกกลับชาติมาเกิด ก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแระ ??? ><

    แต่สิ่งที่เจ้าของกระทู้สงสัยก็คือ.. อะไร ทำให้เขามีความคิด มีจิตใจ ที่ไม่ปราณีคน ขนาดนั้น ?? >< อะไรทำให้เขา มีจิตใจที่โหดร้าย ถ้าจะแก้แค้นก็ฆ่าให้ตาย แต่นี่ไม่ฆ่าทันที แต่จับมาทรมาน นี่มันเป็นจิตใจที่โหดร้าย เลือดเย็น

    แล้วอะไร ทำให้คนๆหนึ่ง มีจิตใจที่โหดร้าย ได้มากขนาดนี้ ?? ><
     
  15. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +635
    สงครามโลกครั้งที่สองจบสิ้นไปแล้ว เหลือแต่สงครามในใจ

    เมื่อมีแม่ชีเทเรซ่า ถูกเชิญให้ไปร่วมต่อต้านสงคราม
    คุณแม่ชีปฏิเสธ แล้วกล่าวว่า หากวันใดมีการชุมนุมเพื่อสันติภาพ
    ให้บอกแจ้งด้วย แม่ชีเทเรซ่ายินดีจะไปร่วมชุมนุมสันติภาพ


    ขอความรักและแสงสว่างจงสาดส่องไปทุกที่ แม้แต่ที่ที่มีความกลัวและความมืด
    จงสาดส่องลบเงาดำในอดีต และสาดส่องลงใจของตัวข้าพเจ้าเอง ณ.บัดนี้
    เพื่อให้ใจข้าพเจ้าสามารถดำรงค์ซึ่งแสงสว่างและความรักในทุกๆสถานะการณ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 ตุลาคม 2011
  16. veer

    veer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +356
    ขออนุญาตเจ้าของบทความนำมาลงเพื่อเป็นข้อมูลในการเพิ่มความรู้ใหม่ครับ



    [​IMG]
    สวัสดีอีกครั้งพี่น้องที่รักทั้งหลาย วันนี้วันที่ 28 กันยายน 2554 เมื่อเช้าได้ดูข่าวช่อง 3 รายการของคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา แกออกข่าวว่ามีเหตุการณ์ที่เด็กนักเรียนในโรงเรียนมัธยม จังหวัดเชียงใหม่แห่งหนึ่ง ใช้เครื่องหมายสวัสดิกะ และเครื่องแบบทหารของนาซี ซึ่งเป็นพรรคของท่านอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ มาแต่งตัวในการเดินขบวนพาเหรดกีฬาสีของโรงเรียน เข้าใจว่าเด็กๆคงทำเพราะความสนุกสนาน แต่ที่น่ากระทืบคือผู้ใหญ่ที่เดือดร้อนแทนฝรั่งนี่แหละ

    ตามที่ข่าวบอกมา คือพวกฝรั่งที่อยู่ในเมืองที่ได้พบเห็น แจ้นไปท้วงติงกับคุณครูว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะฝรั่งหลายคนไม่ชอบเครื่องหมายสวัสดิกะ เนื่องจากมีความฝังใจที่ไม่ดีกับท่านผู้นำฮิตเลอร์ ในการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวในสงครามโลกครั้งที่ 2 นัยว่าทำไมปล่อยให้เด็กๆเอาเครื่องแบบของนาซีมาใส่เดินพาเหรดกัน ไม่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์หรืออย่างไร?
    ถ้าจะมีผู้ใหญ่ในบ้านในเมืองเราเดือดร้อนแทนฝรั่งพวกนั้น ก็จะขอประนามว่าเป็นพวกขี้ข้าฝรั่งไม่รู้จักรักชาติพันธุ์ของตัวเอง และขอออกตัวปกป้องเด็กๆที่น่ารัก ซึ่งตัดเย็บชุดเครื่องแบบที่สวยงามออกมาเดินเฉิดฉายอวดสายตาชาวโลกอีกวาระหนึ่ง เป็นที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง เอาเป็นว่าลูกๆหลานๆเราเริ่มออกมาเปิดตัวกันมากขึ้นแล้ว เห็นทีต้องออกโรงบ้างเป็นการเปิดวาระใหม่ของการเปลี่ยนแปลงโลกก็แล้วกัน
    ถ้าท่านได้ศึกษาประวัติศาสตร์ให้ลึกซึ้งรอบด้านมากกว่านี้ ท่านจะทราบว่า เครื่องหมายสวัสดิกะ ที่อยู่บนธงนาซีนั้น ที่แท้เป็นเครื่องหมายธรรมจักรของพุทธมหายาน ซึ่งมีความหมายว่า จักรที่กำลังหมุนไป เป็นสัญลักษณ์ของพระพุทธศาสนาโดยแท้ พระโพธิสัตว์ และพระเจ้าจักรพรรดิทุกพระองค์ ล้วนมีสัญลักษณ์นี้ปรากฏที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า เป็นเครื่องแสดงการบำเพ็ญบุญบารมีมาอย่างยาวนานและยิ่งยวดมากพอที่จะได้สัญลักษณ์นี้มาครอบครอง นัยว่าเมื่อจักรนี้ปรากฏ ที่นั่นย่อมมีพระโพธิสัตว์ผู้มากบุญบารมีอยู่ หรืออีกประการคือ พระพุทธศาสนาหยั่งลงบนพื้นพิภพแล้วนั่นเอง
    หากจะมีฝรั่งคนไหน เกิดไม่พอใจที่ลูกหลานชาวไทยเรา ติดสัญลักษณ์นี้ไว้กับตัวหรือแสดงให้คนเห็น ก็ต้องขอบอกเลยว่า อย่าไปสนใจมัน ฝรั่งพวกนี้ไม่ใช่พ่อแม่เรา มาอาศัยแผ่นดินไทยเราอยู่ จะมาเสือกอะไรด้วยถ้าคนที่เป็นเจ้าของประเทศจะเคารพนับถืออะไร ถ้าไม่พอใจก็เชิญใสหัวกลับประเทศของพวกเอ็งไป ที่นี่เขาจะทำอะไรมันเรื่องของเจ้าของประเทศเขา พวกเอ็งไม่เกี่ยว
    และหากจะมาอ้างว่า ฮิตเลอร์เป็นอาชญากรสงครามฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยิวหลายล้านคน ไม่สมควรได้รับการยกย่อง ก็ต้องขอถาม Your Mom and Your Dad ว่า แล้วไอ้ที่อเมริกาบอมญี่ปุ่นไปสองลูกนั้นไม่ใช่วิธีของอาชญากรสงครามหรือไง ? ช่วยตอบคำถามนี้หน่อยเถิด (ใครมีจิตสงเคราะห์แปลบทความนี้เป็นภาษาอังกฤษแล้วส่งไปให้ทั่วโลกจะขอบพระคุณอย่างยิ่ง)
    [​IMG]
    พี่ๆน้องๆที่รักทั้งหลาย ขอให้ท่านกลับไปศึกษาตำราดูประวัติศาสตร์ด้วยสติสัมปชัญญะให้ดีๆท่านจะพบว่า พวกอังกฤษ ฝรั่งเศส หรือชาติตะวันตกที่เรียกตัวเองว่าอารยะนั้น จริงๆแล้วก็คือพวกโจรในคราบผู้ดี ที่ไปเที่ยวกลั่นแกล้งรังแกประเทศต่างๆที่ด้อยกว่าตน ล่าอาณานิคม ปล้นทรัพยากรธรรมชาติของคนเอเชียไปมากมายมหาศาล อเมริกาก็ใช่ย่อย ไปรุกรานตะวันออกกลางก็เพื่อน้ำมันแต่เพียงอย่างเดียว แม้แต่ที่ไทยเราตีกับเขมรเรื่องเขาพระวิหารนี่ก็ไม่เว้น สหประชาชาติก็คือยิวนั่นแหละพี่น้องที่รัก
    คนรวยที่มีเพียงไม่ถึง 1 % ของโลกเรา ก็คือพวกยิวที่เข้าไปแทรกแซงกิจการต่างๆของโลกเอาไว้เป็นของตนเสียเกือบหมดแล้ว ถ้าท่านได้ยินองค์กรอะไรก็ตามที่ต่อท้ายด้วยคำว่าโลก เช่น ธนาคารโลก ศาลโลก มรดกโลก หรือพวกคำว่า World นำหน้า อย่าง World Bank แบบนี้ท่านที่รัก โปรดรู้ไว้เลยว่าเบื้องหลังมันคืออำนาจเงินของยิวไม่กี่คน ที่ชักใยอยู่เอาประโยชน์เข้าตัวมันเองทั้งนั้น IMF ที่เคยมาทุบค่าเงินบาทไทยเมื่อปี 2540 จนคนไทยกระโดดตึกตายมากมายก็คือไอ้พวกนี้แหละทุกท่าน พวกนี้เป็นลักทธิมืดที่แสวงหาอำนาจอย่างบ้าคลั่ง ต้องการครอบครองโลกไว้ในกำมือของตน ซึ่งอาวุธของพวกยิวนี้ก็คือเงินกระดาษที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมาควบคุมชีวิตคนรุ่นใหม่อย่างเราๆท่านๆให้ตกเป็นทาสมันนี่เอง ผ่านทางคุกที่เรียกว่าธนาคารและสถาบันการเงิน จะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆว่า โซ่ตรวนที่ล่ามสองมือสองเท้าของทาสยุคใหม่ ก็คือค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนมือถือ ผ่อนบีบี ผ่อนไอเพด ผ่อนตู้เย็น โทรทัศน์ พัดลม ไมโครเวฟฯลฯ ของท่านนั่นแหละ และเครื่องมือควบคุมทาสที่ทรงพลังมากของคนพวกนี้ก็คือสื่อนั่นเอง ทุกเช้าที่พวกท่านตื่นขึ้นมาดูข่าวสาร เคยถามตัวเองไหมว่า เรื่องพวกนี้มันจำเป็นกับชีวิตเราจริงๆหรือ ข่าวราคาหุ้น ราคาทองคำ ราคาน้ำมัน จีดีพี บ้าบอคอแตกซึ่งคนเกือบ 99% ในโลกเราไม่ได้ไปมีส่วนได้ด้วยเลย มีแต่ส่วนที่จะเสียเท่านั้น แต่การนำเสนอข่าวสารก็ถูกครอบงำด้วยเงินของพวกยิว ให้ทุกๆสำนักข่าวให้ความสำคัญเรื่องเศรษฐกิจให้มากๆ เรียกว่าถ้าปล่อยเด็กขวบหนึ่งนั่งเล่นอยู่หน้าโทรทัศน์ ลูกของท่านก็จะถูกกรอกข้อมูลดัชนีตลาดหลักทรัพย์เข้าไปตั้งแต่ยังเดินไม่ได้เลยทีเดียว
    แล้วถามว่า มันคือชีวิตจริงๆหรือเปล่าล่ะ มันกินเข้าไปได้ไหม รู้แล้วชีวิตจะดีขึ้นตรงไหนเนี่ย อีกประการหนึ่ง สื่อโฆษณาที่ออกอากาศว่อนไปหมดทั้งโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ อินเตอร์เน็ต ฯลฯ ก็ล้วนแล้วแต่กรอกข้อมูลโกหกล้างสมองเพื่อขายของให้ท่านทั้งนั้น ท่านสังเกตไหมว่า รถยนต์ทุกคันมีดีไซน์ที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์อันโฉบเฉี่ยว ด้วยระบบเครื่องยนต์อัจฉริยะแทบทั้งนั้น พอท่านซื้อมาแล้ว ไม่กี่วันก็จะมีรถดีไซน์ใหม่ที่โฉบเฉี่ยวและอัจฉริยะยิ่งกว่าออกมาอีก เฮ้ย! นี่มันอะไรกันนี่ แล้วคันที่กรูเพิ่งซื้อล่ะ มันยังโฉบเฉี่ยวไม่พอ อัจฉริยะไม่พออีกหรือไงวะ?
    นี่เป็นแค่ตัวอย่างเล็กๆเท่านั้นพี่น้องที่รัก ที่จะชี้ให้เห็นอีกมุมหนึ่งว่า แม้ฮิตเลอร์จะฆ่าคนมามากมายก็จริง แต่เราได้รู้จักเขาผ่านทางการเขียนของพวกยิวทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์ สารคดี ภาพยนตร์ ละคร เพลง บทความต่างๆ เราเสพสื่อจากฮอลลีวู้ดเป็นหลัก ซึ่งไปไล่หาต้นตอดีๆท่านจะรู้ว่าพวกยิวนี่แหละถือหุ้นของบริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ บริษัทสร้างหนังของฮอลลีวู้ดไว้ทั้งหมด การเขียนถึงศัตรูที่ตนเองเกลียดชังย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะเขียนเรื่องดีๆจริงไหมทุกท่าน ดังนั้น หากท่านรับรู้ข้อมูลหรือภาพลักษณ์อะไรก็ตามของ อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผ่านผลงานของพวกศัตรูนาซี ก็จงใช้สติปัญญาพิจารณาแยกแยะเอา เอาห้าหาร สิบหารเสีย ก็จะได้ความจริงที่แท้ออกมา

    อีกเรื่องที่สำคัญมาก ยิวพวกนี้นอกจากล้างสมองคนทั้งโลกด้วยข่าวสาร โฆษณา ภาพยนตร์ ดนตรี ที่ตัวเองควบคุมไว้หมดแล้ว ยังแทรกแซงไปถึงเรื่องการศึกษาของคนแต่ละประเทศด้วย บ้านเรามีค่านิยมยกย่องฝรั่งต่างชาติว่าเก่งมานานนักหนา หารู้ไม่ว่าฝรั่งพวกนี้หยอดยาให้พวกเราทุกวันผ่านความคิดความเชื่อในบทเรียน กระทรวงศึกษาธิการเคยตระหนักเรื่องนี้กันบ้างรึเปล่าว่าท่านกำลังตามตูดฝรั่งลงเหวลงห้วยกันอยู่ พวกนี้จะสอนให้คนบริโภคนิยมมากๆ เพื่อจะได้ขายของและตกเป็นทาสทางการเงินของพวกมัน หากท่านคิดว่าคิดมากเกินไปก็ขอให้ท่านดูเอาว่าเด็กสมัยนี้เขาแข่งกันเรียน แข่งกันสอบเข้ามหาวิทยาลัยไปเพื่ออะไรกัน เพื่อจบออกไปทำงาน มีผัวมีเมีย มีลูก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียน หาค่าเรียนพิเศษแพงๆให้ลูก เพื่อจะวนเข้าวงจรเดิมคือ แข่งกันเรียน แข่งกันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ฯลฯ ต่อกันไปแค่นี้หรือชีวิต และดูเอาเถิดว่าพวกท่านเรียนจบออกมาเพื่อหาค่าผ่อนบ้านกับผ่อนรถส่งสถาบันการเงินกัน 20-30 ปี รู้ตัวอีกทีก็แก่เสียแล้ว สรุปคือที่สุดของชีวิตท่าน ทำเพื่อ บ้านเก่าๆหลังหนึ่ง กับรถแก่ๆหนึ่งคันในบั้นปลายชีวิตนั่นเอง ในขณะที่มหาเศรษฐีเจ้าของลิสซิ่ง และสถาบันการเงินการธนาคาร ไปไหนมาไหนด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวลำละร้อยกว่าล้าน ยุติธรรมดีเหมือนกันนะ ดังนั้นก็ขอให้ท่านยกย่องฝรั่งหรือพวกยิวต่อไปเถิด และขอแสดงความยินดีด้วยที่ตอนนี้เศรษฐกิจยุโรป อเมริกา กำลังจะล่มสลายเต็มทีเพราะกรรมชั่วที่ทำกับคนชาติอื่นไว้มาก กำลังแสดงผลออกมา
    เอาละ สัญญาว่าคราวหน้าจะมาเขียนเรื่องท่านพี่ฮิตเลอร์ ในมุมที่คนไทยอาจจะตะลึงเมื่อได้รู้ไปเลยก็ได้ให้รับทราบกัน แต่ขอให้รู้ไว้เถิดว่า เครื่องหมายสวัสดิกะนี้ เป็นเครื่องหมายของพระพุทธศาสนามหายาน เหมือนที่ของหินยานเราใช้ธรรมจักรนั่นแหละพี่น้องที่รัก เครื่องหมายนี้จะกลับมาแพร่หลายในโลกอีกครั้งในยุคที่ไทยกลายเป็นมหารัฐ ศูนย์กลางอำนาจใหม่ของโลก ด้วยเจ้าจักรพรรดิราชผู้มากบารมี วันนี้จบแต่เพียงเท่านี้ก่อน สวัสดี

    ... เอามาให้อ่านเล่นครับ โปรดใช้วิจารณญาณและสติให้มากครับ ถือว่าเป็นข้อมูลใหม่
     
  17. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    อันนี้ขอพูดถึงอะไรที่ไม่เกี่ยวกับฮิตเลอร์หน่อย คือประวัติศาสตร์ ข้อมูลที่ว่าฮิตเลอร์ทำอะไรโหดร้ายตอนสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่างที่ mamboo เอามาโพส เข้าใจว่าในหนังสือเรียนคงไม่มีภาพเหล่านี้ คงไม่มีบรรยายรายละเอียดเหล่านี้ ใครอยากรู้ก็ต้องหาตามเนตเอาเอง แล้วทำไมในหนังสือเรียนถึงไม่ใส่เข้ามาเพื่อให้นักเรียนเข้าใจถึงความโหดร้ายของสงครามโลกครั้งที่ 2 มากขึ้น จะได้ไม่เกิดดราม่านักเรียนแต่งเป็นฮิตเลอร์จนโดนเค้าด่ากันข้ามประเทศ

    ย้อนกลับมาเรื่องฮิตเลอร์ รู้แต่ว่าหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เยอรมันมีสภาพลำบากมาก ข้าวยากหมากแพง ส่วนฮิตเลอร์ตอนเด็กก็โดนพวกชาวยิวเอาเปรียบจนอาจะเป็นสาเหตุให้เกลียดชาวยิว อันนี้คงต้องหาประวัติฮิตเลอร์ตอนเด็กๆ มาอ่านแบบละเอียดๆ เอาอีกที รวมถึงสภาพสังคมของเยอรมันหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ด้วย

    ส่วนที่ว่าทำไมถึงโหดร้ายขนาดนั้นเข้าใจว่าเกลียดมากจนมองว่าชาวยิวไม่ใช่คนเป็นหมูเป็นหมาจะทำยังไงก็ได้ และด้วยที่ว่าเป็นนักโทษจะให้ที่นอนดีๆ ให้อาหารกินดีๆ ได้ยังไง มันเปลืองของๆ เค้า ให้ที่นอนดีๆ ก็เปลืองเนื้อที่ ให้อาหารดีๆ ก็เปลืองอาหารของเค้า จึงให้พื้นที่แค่พออยู่ได้ อาหารก็แค่พอไม่ตาย

    อะไรที่เกิดด้วยความเกลียดก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ
     
  18. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    สงสัยกับข้อความใน คคห.ที่ 40 สัญลักษณ์สวัสดิกะที่ใช้ในพุทธศาสนานิกายมหายานมันเวียนขวาไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่เวียนซ้ายอย่างของนาซี ขอยกบทความที่หามาเจอละกัน

    <hr/>

    ถ้านำสัญลักษณ์สวัสติกะไว้ในตำแหน่งมงคลในที่อาศัย พลังแห่งจักรวาลจะไหลเวียนนำมาซึ่งพลังงานที่เป็นมงคลอย่างไม่รู้จบสิ้น

    <center>[​IMG]</center>

    สวัสติกะ (卍) เป็นสัญลักษณ์ที่มีมายาวนาน ปรากฏอยู่ทั่วโลกทั้งซีกโลกฝั่งตะวันออกและฝั่งตะวันตก ประเทศจีนก็รับเอาสัญลักษณ์มงคลนี้ผ่านมาจากพุทธศาสนาอันกำเนิดจากชมพูทวีป โดยในภาษาจีนกลางจะออกเสียงเรียกสัญลักษณ์สวัสติกะนี้ว่า “วั่น” ซึ่งจะไปพ้องเสียงกับคำว่า “วั่น (万)” อันหมายถึง หนึ่งหมื่น อย่างยิ่ง เหลือเกิน ทุกสิ่ง บรรยายถึงความมากมาย

    อีกทั้งในพุทธศาสนาฝ่ายมหายานถื่อว่าเครื่องหมายสวัสติกะนี้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ความโชคดี ความไม่สิ้นสุด ความปลอดภัย ความสมบูรณ์มากมาย ความดีงาม อำนาจ ความเข้มแข็งเครื่องหมายสวัติกะนี้ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งดวงอาทิตย์ อันแสดงถึงวิถีโคจรของพระอาทิตย์นั่นเอง ซึ่งสามารถเขียนได้ 2 แบบ คือ แบบทักษิณาวรรต (卍) และ แบบอุตราวรรต (卐) ซึ่งแล้วแต่มุมมองวิถีโคจรของพระอาทิตย์ของแต่ละซีกโลกนั่นเอง

    ยกตัวอย่างจักรราศีของอินเดียก็จะนิยมเขียนวงโคจรของดวงดาวแบบเวียนขวา ส่วนจักรราศีในแบบของไทยเรานิยมเขียนวงโคจรของดวงดาวแบบเวียนซ้ายนั่นเอง จึงถือว่าการเขียนรูปสวัสติกะในแบบทักษิณาวรรตหรือแบบอุตราวรรตนั้นถูกทั้งคู่ต่อมาในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอดอล์ฟ ฮิตเลอร์ ผู้นำนาซีแห่งเยอรมันได้นำเครื่องหมายสวัสติกะแบบอุตราวรรตไปใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำพรรคนาซี เครื่องหมายสวัสติกะแบบอุตราวรรตนี้จึงถูกมองไปในทางลบ แล้วเกิดการแบ่งสัญลักษณ์สวัสติกะออกเป็นสองแบบที่สื่อต่างกันคือ
    1. แบบทักษิณาวรรต (卍) หรือ ตามเข็มนาฬิกา ถือว่าเป็นสวัสติกะที่สื่อความเจริญ
    2. แบบอุตราวรรต (卐) หรือ ทวนเข็มนาฬิกา ถือว่าเป็นสวัสติกะที่สื่อถึงความเสื่อม
    เหตุผลนี้เกิดขึ้นก็เพราะคนทั่วโลกมองว่าพรรคนาซีผู้ก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อันทำให้ผู้คนล้มตายลงเป็นจำนวนมากนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้าย แล้วเชื่อมโยงไปถึงสัญลักษณ์สวัสติกะแบบอุตราวรรตที่พรรคนาซีใช้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อไปถึงความเสื่อมอีกด้วย ซึ่งความจริงแล้วสวัสติกะที่ฮิตเลอร์นำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ประจำพรรคนาซีนั้น จะมีรูปแบบไม่เหมือนสวัสติกะทั้งแบบอุตราวรรตและแบบทักษิณาวรรต นั่นก็เพราะความจริงแล้วฮิตเลอร์เลือกใช้สัญลักษณ์นี้จากอักษรโรมันตัว “S” 2 ตัวซ้อนกัน โดย S ตัวแรกมาจากคำว่า “STADT” แปลว่า บ้านเมือง และ S อีกตัวมาจากคำว่า“SICHERHEIT” ซึ่งแปลว่าปลอดภัย

    อีกทั้งถ้ายังมองว่าเป็นเครื่องหมายสวัสติกะอีก ก็ต้องบอกว่าไม่ใช่อีกเช่นกัน นั่นก็เพราะเครื่องหมายสวัสติกะไม่ว่าจะเป็นแบบไหนจะต้องตั้งตรงทำมุม 90 องศากับแนวระนาบ แต่ของพรรคนาซีนั้นจะทำมุม 45 องศากับแนวระนาบ ด้วยความคล้ายคลึงกันเช่นนี้นี่เองจึงทำให้มีคนเข้าใจผิดว่าฮิตเลอร์นำเครื่องหมายสวัสติกะไปใช้เป้นต้นแบบสัญลักษณ์ของพรรคนาซี แต่ด้วยมีที่มาจากอักษรตัว S ไขว้กันแล้วมีรูปออกมาคล้ายเครื่องหมายสวัสติกะอันเป็นสัญลักษณ์มงคล พวกนาซีจึงเชื่อว่าสัญลักษณ์ของเขาเป็นสัญลักษณ์มงคลตามแบบสวัสติกะไปด้วย โดยเห็นได้จากตอนช่วงหลังๆ พรรคนาซีมีการปรับสัญลักษณ์พรรคให้ทำมุม 90 องศากับแนวระนาบด้วย


    <center>[​IMG]</center>

    สัญลักษณ์สวัสติกะที่ชาวจีนนิยมนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์มงคลนั้น ชาวจีนนิยมใช้สัญลักษณ์สวัสติกะแบบเวียนขวา หรือ ทักษิณาวรรต โดยสัญลักษณ์นี้เริ่มปรากฏขึ้นในสมัยราชวงศ์ถัง เมื่อพระภิกษุเสวียนจั้ง หรือ พระถังซำจั๋ง (玄奘) ได้จาริกแสวงบุญไปอัญเชิญพระไตรปิฏกจากชมพูทวีปมาสู่ประเทศจีน แล้วสัญลักษณ์นี้ก็มาร่วมกับการแปลพระไตรปิฏกในครั้งนี้ด้วย โดยเริ่มแรกเรียกสัญลักษณ์สวัสติกะนี้ว่า “德” (ภาษาจีนกลางออกเสียงว่า “เต๋อ) และ ภาษาจีนแต้จิ๋วออกเสียงว่า “เต็ก”) อันหมายถึง คุณธรรม หรือ ศีลธรรม นั่นเอง

    ต่อมาในยุคของจักรพรรดินีพระนางบูเช็กเทียน พระองค์ทรงศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก แล้วทรงมีพระบัญชาให้ทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแบบมหายานไปทั่วราชอาณาจักรของพระองค์เป็นครั้งใหญ่ แล้วทรงเปลี่ยนการเรียกเครื่องหมายสวัสติกะจากคำว่า “เต๋อ” มาเป็นคำว่า “วั่น” เพื่อสื่อถึงความเป็นมงคลของสัญลักษณ์นี้ อันมีนัยยะสื่อความหมายใหม่ว่า “การที่คนเรามีคุณธรรมประจำใจแล้ว ย่อมจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคลอื่นๆ อีกมากมาย”นับแต่นั้นมาเครื่องหมายสวัสติกะก็เผยแผ่ไปทั่วราชอาณาจักรจีนควบคู่ไปกับพระพุทธศาสนาแบบมหายานจวบมาจนทุกวันนี้ ซึ่งเราสามารถพบเครื่องหมายสวัสติกะนี้ได้บ่อยตามวัดพุทธศาสนาแบบมหายาน โดยให้สังเกตไปที่พระอุระของพระศรีศากยมุนี จะมีเครื่องหมายสวัสติกะเป็นเครื่องหมายประจำพระองค์อยู่เสมอ อีกทั้งยังสามารถพบได้ในงานศิลปะจีนต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลายกระเบื้อง ลายปักผ้า ลายบนรูปภาพ และ อื่นๆ อีกมากมาย

    <center>[​IMG]</center>

    ส่วนการนำเครื่องหมายสวัสติกะมาใช้ในการปรับแต่งฮวงจุ้ยนั้น เรานิยมนำสัญลักษณ์สวัสติกะนี้มาประดับไว้ในตำแหน่งที่เป็นมงคลภายในบ้านเรือน เพื่อเป็นการกระตุ้นพลังแห่งจักรวาลให้หมุนโคจร เพื่อก่อให้เกิดการไหลเวียนของพลังงานที่เป็นมงคลอย่างไม่รู้จบสิ้น อันจะนำมาซึ่งสวัสดิโชคดี อำนาจ ความแข็งแกร่ง การเหลือกินเหลือใช้ การจะประดับด้วยสัญลักษณ์สวัสติกะนั้น ให้ท่านพิจารณาว่า ในปีนั้นๆ ตำแหน่งในทิสใดของบ้านท่านเป็นทิศที่เป็นมงคล (ซึ่งจะมีบอกไว้ในหนังสือดวงจีน ประจำปีนั้นๆ ในช่วงใกล้ๆ เทศกาลตรุษจีน) ถ้าท่านต้องการให้เกิดมงคลในเรื่องใดก็ให้นำสัญลักษณ์นี้ไปติดไว้ในมุมของบ้านในทิศนั้น หรือถ้าท่านไม่ทราบว่าทิศใดเป็นทิศมงคลประจำปีนั้นๆ ก็ให้ท่านติดเครื่องหมายสวัสติกะไว้ตรงกลางของบ้านท่านก็ได้ เนื่องจากชาวจีนถือว่าทิศกลางบ้านนั้นเป็นทิศที่ไม่เลวหรือไม่ร้ายจนเกินไป คือ ให้คุณมากกว่าให้โทษนั่นเอง อีกทั้งในศาสนาฮินดูยังถืออีกว่า สวัสติกะนั้นเป็นเครื่องหมายประจำพระองค์ของพระคเณศ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งปัญญา และการอยู่เหนืออุปสรรคทั้งปวงอีกด้วย
    ดังนั้นจึงทำให้เห็นว่าเครื่องหมายสวัสติกะนี้เป็นเครื่องหมายมงคล และความเจริญงอกงามอย่างแท้จริง ที่เป็นสากลของโลกก็ว่าได้

    สวัสติกะ (स्वस्तिक - swastika) - จีนมงคล

    <hr/>

    อันนี้รูปสวัสดิกะของนาซี ให้เห็นว่าหมุนคนละด้าน

    [​IMG]

    ส่วนเรื่องการทิ้งระเบิดลงเมืองในช่วงสงคราม เรามองว่าเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เมืองต่างๆ ในยุโรปก็พังทลายเพราะโดนแรงระเบิดเหมือนกัน หรือในไทยกรุงเทพก็ยังโดนทิ้งระเบิดเลย หรือย้อนไปสมัยอยุธยา เมืองอยุธยาก็โดนทำลายจากศึกสงครามเหมือนกัน

    แต่สิ่งที่ฮิตเลอร์ทำคือการทรมานคน ปกติแล้วการทรมานในสงครามจะมีแค่ทรมานเชลยสงครามที่จับมาได้เพื่อรีดเอาข่าว แต่ผู้คนที่ถูกนาซีทรมานไม่ได้เป็นทหาร เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา แต่มาโดนฆ่าทรมาน โดนจับไปทดลองแปลกๆ โดยไม่ได้มองว่าเค้าก็เป็นคนเหมือนกัน คุกในสมัยนี้ยังดีกว่าคุกของนาซีเลย

    ส่วนเรื่องที่เขียนว่าชาวยิว อันนี้ก็ไม่รู้นะว่าชายยิวร้ายอย่างนั้นหรือเปล่า แต่คิดว่าในช่วงนั้นฮิตเลอร์ก็คงจะคิดอย่างนั้นเหมือนกันแหล่ะ จึงได้คิดจะฆ่าล้างชาวยิว

    ความคิดที่อันตรายไม่ใช่ความคิดของฮิตเลอร์หรอก แต่เป็นความคิดที่เกลียดชังว่าร้ายอีกฝ่ายหนึ่ง ความคิดอย่างนี้เมื่อเติบโตขึ้นเต็มที่ เราก็คงได้เห็นฮิตเลอร์คนที่สอง ที่คิดจะล้างชาวยิวให้หมดไป
     
  19. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    นึกว่าพูดเล่นนะเนี่ย แต่มีข้อมูลโรคนี้ในประวัติของฮิตเล่อร์จริงๆ
    v
    v

    15 ตุลาคม ค.ศ. 1918 ฮิตเลอร์เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลสนาม โดยมีอาการตาบอดชั่ว คราวจากการโจมตีแก๊สมัสตาร์ด นักจิตวิทยาชาวอังกฤษ เดวิด ลิวอิส และเบอร์นาร์ด ฮอร์สต์มันน์ เสนอว่าอาการตาบอดอาจส่งผลทำให้ฮิตเลอร์เป็นโรคคอนเวอร์ชัน (ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันว่า "ฮิสทีเรีย")<sup id="cite_ref-37" class="reference">[38]</sup> อันที่จริงแล้ว ฮิตเลอร์กล่าวว่า ขณะที่เขามีอาการตาบอดนั้น เขาแน่ใจว่าจุดประสงค์ของชีวิตเขาคือเพื่อ "ช่วยเยอรมนี" นักวิชาการบางคน ที่สำคัญอย่างเช่น ลูซี ดาวิโดวิคซ์<sup id="cite_ref-38" class="reference">[39]</sup> โต้แย้งว่าเจตนาที่จะกำจัดชาวยิวในยุโรปนั้นก่อตัวขึ้นเต็มในจิตใจของฮิต เลอร์ในเวลานั้น ถึงแม้ว่าเขาอาจไม่ได้คิดถึงเรื่องที่ว่าจะทำให้สำเร็จได้อย่างไร นักประวัติศาสตร์ส่วนใหญ่คิดว่าการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นในปี ค.ศ. 1941 และบางส่วนคิดว่าอาจกินเวลาถึง ค.ศ. 1942



    โรคคอนเวอร์ชัน (อังกฤษ: Conversion disorders) เป็นภาวะที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการทางระบบประสาท เช่น อาการชา อ่อนแรง หรืออาการคล้ายชัก แต่ไม่มีคำอธิบายทางประสาทวิทยาที่ อธิบายอาการของผู้ป่วยได้ และถูกถือว่าปัญหาของผู้ป่วยเกิดจากการตอบสนองทางจิตวิทยาต่อความเครียด โรคดิสโซสิเอทีฟเป็นการวินิจฉัยทางจิตเวชที่ปรากฏอยู่ในบัญชีจำแนกทางสถิติระหว่างประเทศของโรคและปัญหาสุขภาพที่เกี่ยวข้อง (International Statistical Classification of Diseases and Related Health Problems - ICD-10) <sup id="cite_ref-0" class="reference">[1]</sup> และ Diagnostic and Statistical Manual of Mental Disorders 4th edition (DSM-IV) <sup id="cite_ref-1" class="reference">[2]</sup> เดิมเคยรู้จักในชื่อโรคว่า "ฮิสทีเรีย" (hysteria) เชื่อกันว่าโรคนี้เป็นที่รู้จักกันมาแล้วนับพันปี แม้เพิ่งจะเป็นที่รู้จักกว้างขวางในช่วงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่อนักประสาทวิทยา Jean-Martin Charcot และจิตแพทย์ Pierre Janet และ Sigmund Freud ได้วิจัยเรื่องนี้ คำว่า "คอนเวอร์ชัน" (conversion - การเปลี่ยนแปลง) มีที่มาจากแนวคิดของฟรอยด์ที่ว่าความกังวลถูก "เปลี่ยน" (converted) ให้กลายเป็นอาการทางกาย<sup id="cite_ref-2" class="reference">[3]</sup> หลังจากที่ถูกเชื่อว่าหายไปจากประเทศตะวันตกแล้วในศตวรรษที่ 20 งานวิจัยบางชิ้นชี้นำว่าโรคนี้ยังพบได้บ่อยไม่ต่างจากเดิม<sup id="cite_ref-3" class="reference">[4]</sup>

    (ข้อมูลทั้งหมดจาก วิกิพีเดีย)

    **************************************************

    ฮิสทีเรีย (Hysteria)

    เป็นชื่อเรียก ของอาการทางประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย จะมีอาการ เกี่ยวกับ การควบคุมอารมณ์ การควบคุมจิตสำนึก ด้านการกระทำลดลง และความกลัวต่าง ๆ โดยอาการฮิสทีเรียนั้น ถือว่าเป็นชนิดหนึ่งในประเภทของ โรควิตกกังวล* ก็ว่าได้ หรือจะเป็น โรคขาดความอบอุ่น* ก็ได้เช่นกัน

    ผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย
    จะมีอาการ ยึดติดกับบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตของตน ด้วยการกระทำดีด้วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้ง ยังจะมีอาการคิดมากวิตกกังกวล อยู่ตลอดเวลา โดยส่วนมากจะเป็นความคิดประเภทที่ว่า ตนเองเป็นคนไร้ความสามารถ มีปมด้อย มีความสามารถด้อยกว่าคนอื่น ฯลฯ แต่อย่างไรก็ตาม อาการอีกอย่างนึงคือ "ความกลัว" กลัวตนเองทำผิดพลาด กลัวว่าตนเองจะถูกทิ้ง กลัวที่จะถูกหวัง กลัวที่จะเริ่มอะไรใหม่ ๆ อาการกลัวที่ได้กล่าวไป เป็นอาการกลัวอันดับต้น ๆ ของผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย สิ่งหนึ่งที่ผู้ที่เป็นฮิสทีเรีย มักจะเป็นกันคือ การไม่รู้ตัวตนเองของตัว จึงทำให้ถ้ายึดติดกับสิ่งใด หรือใครแล้ว จะยึดติดมาก แทบจะไม่ปล่อย และไม่ฟังเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น นั่นอาจรวมไปถึง พฤติกรรมการเลียนแบบ อีกด้วย

    (เครดิต คุณอ้วน guru google)
     
  20. obs2553

    obs2553 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2011
    โพสต์:
    1,289
    ค่าพลัง:
    +176
    คุณ mamboo ตั้งคำถามได้น่าสนใจมากๆ อะไรทำให้ฮิตเล่อร์ก่ออาชญากรรมร้ายแรงต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกันได้ขนาดนี้! ทั้งที่เขาดูจะมีคุณสมบัติหลายอย่างที่ดีๆ อยู่ไม่น้อย

    ลักษณะนิสัยของอดอล์ฟ ฮิตเลอร์

    ตามข้อมูลฝั่งตะวันตก ฮิตเลอร์เป็นคนอารมณ์ร้าย และมักจะเกรี้ยวกราดอย่างไม่มีเหตุผล อย่างไรก็ตาม ที่กล่าวมาขั้นต้นนี้ แพทย์ประจำตัวของเขายืนยันว่าไม่เป็นความจริง โดยความจริงแล้ว ฮิตเลอร์ไม่ใช่คนโมโหร้าย ทั้งยังชอบพูดเรื่องตลก แต่หากมีใครเถียงนอกเรื่องข้างๆ คูๆ เขาก็จะตะเบ็งเสียงดังจนกลบเสียงคู่สนทนาหมดทุกคน แต่ฮิตเลอร์นั้นมีโรคประจำตัวหลายโรคมาก ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก เขากินช็อกโกแลต 2 ปอนด์ทุกวัน แม้แต่กินน้ำชา เขาก็ยังใส่น้ำตาลถึง 7 ช้อน ดื่มไวน์ก็เติมน้ำตาลด้วย แต่โรคประจำตัวส่วนมากจะเกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำงานผิดปกติ ความดันโลหิตต่ำ พาร์คินสัน (Parkinson) และอีกหลายโรค
    ฮิตเลอร์ชอบจูบมือผู้หญิง ชอบเลขานุการหญิงมากชนิดที่ว่า ถ้าพวกเธอป่วย เขาก็จะไปเยี่ยมเลยทีเดียว และเขาเป็นคนรักสะอาดมาก ชอบอาบน้ำวันละหลายๆ ครั้ง เสื้อผ้าส่วนตัวก็รักษาให้สะอาดอย่างสม่ำเสมอ เครื่องแบบของเขาก็มีแค่ตรา "กางเขนเหล็ก" ที่ได้มาเมื่อครั้งเขาเป็นนายทหารเยอรมันเท่านั้น แม้ว่าฮิตเลอร์เป็นคนรักสุนัขมากแต่จะไม่ชอบลูบสุนัขด้วยมือเปล่า หากลูบแล้วเขาก็รีบไปล้างมือโดยไว ทั้งยังเป็นมังสวิรัติ ฮิตเลอร์เป็นคนสุภาพมากและเป็นคนใจดี สมัยนั้นมีผู้ที่ชื่นชอบเขาเขียนจดหมาย ส่งดอกไม้และของขวัญมาให้เยอะแยะมากมาย ฮิตเลอร์ยังเคยให้คนนำของทั้งหมดไปแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ที่อาศัยอยู่ บริเวณใกล้เคียงด้วย ห้องทำงานของเขาซึ่งเป็นทั้งห้องนอนก็เรียบร้อยเป็นระเบียบและสะอาด สะอ้าน ภายในห้องมีของใช้จำเป็นอยู่ไม่กี่ชิ้น อย่างเตียงเหล็ก ตู้เสื้อผ้า ตู้รองเท้า โต๊ะทำงาน และเก้าอี้อีก 2 ตัว ของชิ้นเดียวที่แขวนประดับอยู่ข้างเตียงของเขาคือ รูปถ่ายของแม่ของเขา ฮิตเลอร์ยังชอบทำอะไรซ้ำๆ เช่น เวลาออกไปเดินเล่นก็ชอบเดินทางเดิมที่เคยเดิน นอกจากนี้ ฮิตเลอร์เป็นชายที่มีเสน่ห์ดึงดูดใจ เป็นเจ้านายที่ควรค่าแก่การเคารพ ใครจะว่าเขาไม่ดียังไง แต่เขาดีกับบรรดาคนรับใช้ของเขามาก เพราะฉะนั้นหลังสงครามจึงมีผู้คนฆ่าตัวตายตามฮิตเลอร์ไปเป็นจำนวนมาก
    ฮิตเลอร์เป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือมาก เนื่องจากเขาไม่มีโอกาสทางการศึกษามากนัก เมื่อมีโอกาสฮิตเลอร์พยายามทดแทนด้วยการศึกษาหาความรู้ด้วยตนเองจากการอ่าน หนังสือที่สะสม หนังสือเหล่านี้จึงหล่อหลอมตัวตนฮิตเลอร์และแนวคิดของเขาเขามีหนังสือมากถึง 16,000 เล่มซึ่งถูกเก็บไว้ในห้องสมุดส่วนตัวซึ่งมีมากกว่า 3 แห่ง ทั้งในเบอร์ลิน มิวนิค และบ้านพักตากอากาศต่างๆ มีทั้งแนวประวัติศาสตร์ ปรัชญา การเมือง กวีนิพนธ์ และวรรณกรรมคลาสสิก เช่น โรมิโอกับจูเลียต, กระท่อมน้อยของลุงทอม และดอน กีโฆเต้ เป็นต้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นหนังสือเกี่ยวกับสงคราม อัตชีวประวัติของบุคคลต่างๆ ศิลปะ และประวัติศาสตร์ ด้วยความที่เขาชอบอ่านหนังสือ เขาจึงสามารถบอกรูปร่างและลักษณะของเรือรบแบบต่างๆ และรอบรู้ในเรื่องยุทโธปกรณ์ของกองทัพเยอรมันเป็นอย่างดี และเขามีความจำที่เยี่ยมมาก สามารถจำได้ว่า เรือรบของราชนาวีเยอรมนี (Kreigsmarine) มีระวางขับน้ำกี่ตัน ปล่อยออกมาจากท่าเรือไหน วันที่ใด ติดอาวุธอะไรบ้าง ฯลฯ ฮิตเลอร์ยังเป็นคนรอบรู้ด้านอาวุธและยุทธวิธี จนไคเทล และเดอนิทซ์ชื่นชมเขาเลยทีเดียว แต่หลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 หนังสือในห้องสมุดส่วนตัวของเขาได้กระจัดกระจายออกไป ในปัจจุบันพบอยู่ราว ๆ 10,000 เล่ม ตลอดช่วงชีวิตของการเป็นผู้นำนาซี ฮิตเลอร์นำความรู้ที่ได้จากการอ่านไปประยุกต์ใช้กับการเขียน การพูด และการกล่าวคำปราศรัย จนกลายเป็นนักพูดที่สามารถสะกดโน้มน้าวใจผู้ฟังได้อย่างชะงัก หนังสือหลายเล่มของฮิตเลอร์มีลายมือของเขา เขียนกำกับไว้ตามที่ต่าง ๆ พร้อมกับคำถามและความเห็นต่อเนื้อหาโดยเฉพาะวรรคทอง ประโยคเด็ด หรือย่อหน้าที่ชื่นชอบเขาจะขีดเส้นใต้ไว้ <sup id="cite_ref-70" class="reference">[71]</sup> นอกจากนี้ ฮิตเลอร์ยังเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ เช่น เขาบอกว่าจะฉีกสนธิสัญญาแวร์ซายทันทีเมื่อเป็นผู้นำ และเขาก็ฉีกจริงๆ เมื่อเขาได้เป็นผู้นำเยอรมนี
    ฮิตเลอร์เป็นคนชอบศึกษาเรื่องเครื่องยนต์กลไก แต่ไม่คิดที่จะขับรถเอง ชอบเทคโนโลยี ชอบวิทยาศาสตร์ ชอบการคิดสร้างสรรค์สิ่งที่มหัศจรรย์ เป็นคนไม่ย่อท้อมีกำลังใจสูง ชอบจินตนาการ ชอบศิลปะ ชอบวาดรูป ชอบเล่นภาพสีน้ำมัน ชอบร้องเพลง เป็นอัจฉริยะเรื่องผิวปาก และชอบเล่นเครื่องดนตรีฮาร์โมนิก้า และฟลุต ไม่ชอบฟังวิทยุ แต่ชอบฟังเพลงในอุปรากรของริชาร์ด วากเนอร์ ชนิดที่เขายกวากเนอร์ให้เป็นศิลปินแห่งชาติสาขาดนตรีเลยทีเดียว


    (จากวิกิพีเดีย)
     

แชร์หน้านี้

Loading...