ทำไมอยากเป็นอริยะเจ้า ทำไมไม่เลือกเป็นพรหม

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย มะหน่อ, 23 เมษายน 2012.

  1. abcd efg

    abcd efg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +1
    เมื่อท่านบรรลุแล้ว ก็ยังไม่สามารถพ้นจากความทุกข์ด้วยร่างกายได้เลยครับ

    คิดใตร่ตรองดูใหม่ไหมครับ ว่าสิ่งใดที่ควร สิ่งใดที่ไม่ควร

    สาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
    .............
    ความทุกข์ของร่างกาย มันก็ เป็นของมันเช่นนั้นเอง ตามธรรมชาติ เป็นเหมือนกันทุกร่าง ที่ไม่ทุกข์คือ ไม่ได้ ยึดมั่นถือมั่นแล้ว ต่างหากค่ะ แต่ก่อนไม่เข้าใจว่ามันเป็นธรรมชาติ คิดจะเข้าไป ละลาบละล้วง กำหนดมันเอง นี่เรียกว่าทุกข์ แต่ บรรลุ มันจะเป็นยังก็ช่าง ตายก็ช่าง นี่คือไม่ทุกข์เพราะ ไม่ยึดมั่นถือมั่นค่ะ
     
  2. abcd efg

    abcd efg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +1
    ถ้าดับจริง ถ้ำมันมันก็ต้องมืด ตามปกติของถ้ำสิคะ หรือถ้าดับจริง จิตมันไม่เกาะอะไร ในขันธ์ ...แล้วถ้าดับจริง จะไม่พูดประโยคนี้ด้วยนะคะ จะ ไม่มีจิต ไม่มีขันธ์ ไม่มีการเกาะ ไม่เกาะ ด้วยนะคะ ไม่มีเป็นแสงด้วยค่ะ ดับจริง ยังต้องมีนั่นมีนี่ เป็นนั่นเป็นนี่ อยู่อีกหรือคะ
     
  3. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    เพราะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านทรงเห็นความเป็นทุกข์น่ะสิครับ

    ท่านจึงได้ปฎิบัติธรรมภาวนาอยู่เป็นนิตย์ แม้จะบรรลุมรรคผลแล้วก็ตาม

    ท่านไม่กลับเสวยความเป็นทุกข์ ที่มีความสุขจอมปลอมหลอกครับ

    การรับรู้ความทุกข์จากการมีร่างกาย ย่อมยอมรับความตายด้วยความจริใจ

    จึงเป็นเหตุให้หมดความอาลัยอาวรณ์ ต่อการมีชีวิตอย่างสิ้นเชิง

    ผมเคยบอกกล่าวไปแล้วว่า อาจารย์ของผมมีอยู่รูปเดียวครับ

    คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ มองดูความเป็นจริงครับ อย่านึกคิดเอาเอง

    สาธุครับ
     
  4. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ทุกข์ที่เกิดจากการมีร่างกาย ให้รู้เห็นตามจริง แต่ไม่ยินดี ยินร้าย

    ไม่ดิ้นรนกระเสือกกระสนสับส่าย ไปกับความเป็นทุกข์

    ไม่ใช่ไม่มีความทุกข์เลยครับ แต่ยอมรับด้วยใจจริงครับ

    เพราะมีชีวิตจึงมีทุกข์ครับ

    สาธุครับ
     
  5. โฮดี้โจนส์

    โฮดี้โจนส์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,152
    ค่าพลัง:
    +1,487
  6. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    การปฎิบัตธรรมภาวนา ไม่มีแสงอะไรที่คุณกล่าวหลอกครับ

    หากมีก็แค่ความทรงจำจากจิตเท่านั้นเอง การเจริญสตินี้ต่างหาก

    ที่ว่าอยากน่ะครับ แค่ให้มีสติอยู่ทุกลมหายใจ ใครทำได้ก็เก่งแล้วครับ

    ไม่ใช่เดี๋ยวเผลอ เดี๋ยวลืม จนกระทำการใดก็เกิดความผิดพลาด

    ผมไม่เคยเห็นหลอกครับที่ว่าแสงอะไรนั้นน่ะครับ สิ่งที่ผมเห็น มีแต่ จิต ครับ

    สาธุครับ
     
  7. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    ทำไมคุณ chottana รีบลบโพสจังครับ

    สาธุครับ
     
  8. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    ถ้าถ้ำมันสว่างได้ มันก็ไม่ธรรมจริงมั้ย.. มันต้องมีสาเหตุทำสว่างงสิ! -.-
     
  9. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    อือ ที่ผมลบ นะ เพราะผม ไม่รู้ว่ามี คุณอทิเดท อยู่สิครับ
     
  10. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    คุณอยากจะเเก้ต่างไรให้ใคร.. ก็ตามใจ.. เเต่ที่คุณตอบมาก็ไม่ตรงละสิครับ

    ปฏิบัติธรรมภาวนา - -* ผมไม่เข้าใจ ผมรู้เเต่ เวทนานุปัสสนา จิตตานุปัสสนา อะครับ - - ใช้สมถะ+วิปัสนากรรมฐาน ในการดับ - -

    เเล้วที่บอกว่าเจริญสติ มีสติทุกลมหายใจ นั่นไม่ได้ช่วยให้ ดับจิตได้นะ นั่นเค้าเรียกว่า เอกัคคตา มันก็เเล้วเเต่ความตั้งใจ เเต่ไม่ช่วยดับจิตได้เเต่อย่างใด
     
  11. oatthidet

    oatthidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    3,498
    ค่าพลัง:
    +1,876
    หากคุณเชื่อเช่นนั้น ก็ตามใจคุณเถอะครับ ผมไม่แสดงความคิดเห็นครับ

    ความศัทธานำพาชีวิตให้ก้าวไปครับ เมื่อมีผู้ที่ผิดพลาดแต่เข้าไปซ้ำเติม

    บ่งบอกว่า มีความยินร้าย ที่แสดงออกชัดเจนครับ

    สาธุครับ
     
  12. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    อ่าครับ ๆ เเต่คณความคิดไม่เหมือนผม จะคิดเหมือนใคร ก็ตามใจคุณเช่นกันครับ 55+
     
  13. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    .............ถ้าเห็นความอนิจจังของสภาพธรรม.....จนไม่เกิดสิ่งที่เรียกว่า อารมณ์เพื่อการตั้งอยู่แห่งวิญญาน(แต่ก็ไม่ง่าย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2012
  14. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337
    อื้ม วิธีการดับอารม ก็ต้องรู้ต้นเหตุของอารม ต้องสร้างขึ้นมาเองได้ เเล้ว ต้องรู้วิธีระงับมันได้ด้วย *-* เเล้วจะใช้วิปัสสนา ในการดูเวทนา เป็นไตรลักษณ์

    เเต่เรื่องเเสง เนี่ย ไม่เห็นมีใครคิดเเบบผมบ้างเลย -.-
     
  15. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    อริยสัจจ์สี่ อาจเห็นได้ชัดจนเกินจะอยากเป็นพรหม
    แต่ก็ไม่ได้หมายถึงอยากเป็นพระอริยะเพราะอยากเป็นแบบตัณหา
    แต่อาจจะหาทางปลดเปลื้องตนไปจามสังสารวัฏที่ไม่สิ้นสุด
     
  16. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ตรงนี้แหละครับ

    หลังจากพบเวทนาแล้วทำวิญญานให้ดับ ท่านจะพบวิญญานว่าง
    การปฏิบัติไม่ใช่การทำให้มีใช่ไหมครับ

    สุดท้ายที่ท่านตามกันอยู่คือความไม่มี
    กะลาที่คว่ำอยู่
    เราหลงกันมานานแล้วครับ
    ผมถูกล็อคนะครับ
    เข้ายากหน่อย
    จะพยายามครับ

    หลายท่านบอกว่า นิพพานแล้วทำไมพระองค์ไม่ละสังขาร
    เวลาไหนครับที่ได้ญาน หรืออะไรที่สมมุติ
    หากครอง สี่นานๆ รอดหรือไม่
    อารมณ์ที่ว่าหลังเที่ยงวินาทีเดียว ครึ่งวิ ไมเที่ยงแล้วครับ
    นื่คือคำตอบ ถามว่าทำได้ทำไมไม่ลาไปเลย
    ตอบลำบากครับ เป็นวิอีกกระมัง

    ทำกายว่าง
    วืญญานว่าง
    จืตว่าง
    ธรรมว่าง
    ด้วย


    สว่างนะครับ
    อย่าน็อคมืด
    คือลืมตา ใช้ปัญญา
    น็อคครับ

    ขอทุกท่านเจริญในธรรม
     
  17. คมสันต์usa

    คมสันต์usa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,879
    ค่าพลัง:
    +11,861
    มรรค ๔  ผล ๔    นิพพาน  ๑
     
  18. abcd efg

    abcd efg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +1
    ก็ทุกวันนี้ เขามีหลอดไฟ หลายรู่น หลายแบบไงฮะ เลยไม่จำเป็นต้องออกแสงเองเหมือน หิ่งห้อยนี่ฮะ เอ หรือท่าน ติดใจอะไรกับ หิ่งห้อย ที่มันออกแสงเองได้หรือฮะ อิอิ
     
  19. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ถ้าหากเห็นความเป็นสอง คือดำและขาวเท่ากันแล้ว

    ภาพแบนคือหยินและหยางหรือไม่อย่างไรครับ

    รูปนี้เป็นสามมิติหรือไม่อย่างไรเหมือนโลก ที่กำลังมีมืดข้างหนึ่ง สว่างข้างหนึ่ง
    ซึ่งเขาก็เป็นของเขาอย่างนั้น ไม่สุข ไม่ทุกข์
    คืออขมสุก อขมทุกข์

    แต่เรายังไปติดสมมุติหรือไม่ในเรื่องทางโลก
    หากเราละโลกได้
    ละปัญญาที่เราหากันว่าเขาเป็นสิ่งสูงสุด
    เทียบทางโลกคือ สรรเสริญหรือไม่อย่างไร

    หากละทางโลกก่อนคือดับสมมุติสุข สมมุติทุกข์ได้
    เหลืออะไร
    ปภัสระหรือไม่อย่างไรครับ

    แล้วปภัสร สมมุติไหม

    ขอเพื่อนบรรดาสมาชิกชื้แนะแนวทางผมด้วยว่าความเข้าใจนี้หลงไปทางไหน

    จิตเดิม สังเขตธรรมคือมีขอบเขต ให้ใช้คำว่าสังเกตุตามด้วยหรือไม่อย่างไร

    อสังเขตธรรม คือไม่มืขอบมีเขต

    หากเราไม่แต้มไม่แต่ง หรือกำหนดอะไรขึ้นมาแม้แต่จุดเล็กเล็กบนความปภัสรนั้น

    เราจะเรียกว่าจุด หรือจิต หรือไม่

    จิตคือไม่มีจุด คือไม่มีอะไรเลย หรือไม่อย่างไร
    จุดที่กำหนดนี้ จุติ หรือไม่อย่างไร

    หากดับขาวดับดำได้แล้ว เหลืออะไร
    ถามว่าเรื่องทางโลกเรายังจะเป็นดีเป็นชั่วกันอีกหรือไม่อย่างไร

    เมื่อพิจรณาโดยสงบแล้ว โลกยังคงต้องมีดีและชั่ว
    หากเราทำให้ดีครึ่งชั้วครึ่งเท่ากันเหมือนโลก ที่อยู่ในอวกาศ มีกลางวันกลางคืน อยู่ตลอดเวลา เหมือนหยินหยาง

    เป็นอยู่
    มันมีอยู่
    เปลี่ยนแปลง
    เสื่อมสลาย

    ที่กระผมหมายความตรงนี้เรื่องทางโลก

    ทางธรรมคืออารมณ์ หรือไม่อย่างไรครับ

    พอเราไม่เข้าข้างใดข้างหนึ่งแล้วไปอ่านธรรมะใหม่เราจะพบความจริงอะไรเกิดขึ้นมากับเราหรือไม่อย่างไร

    หากผมหลงทางคงหลงไปไกลมากแล้วครับ
    ขอบรรดาเพื่อนสมาชิกช่วยร่วมเสวนาวิจารณ์ด้วยครับ

    ขอทุกท่านเจริญในธรรมครับ
     
  20. abcd efg

    abcd efg สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +1
    สิ่งที่คุณถามมา ถามได้ดีมากครับ
    นี่คือการ สับสน ต่อ สภาวะ ธรรมทั้งหลาย ทั้งสภาวะธรรมแห่งตน สภาวะธรรมของผู้อื่น สภาวะธรรมของโลก สภาวะธรรมเหนือโลก ...มันเป็น การเห็น รับรู้ สภาวะธรรมทั้งหมด แต่ไม่รู้ว่า แล้ว ตกลง จะเชื่อถือ ว่าสภาวะธรรมอันไหนจริงไม่จริง จะเชื่อสิ่งไหนดี ขอ แนะนำว่า เอาสภาวะธรรมทั้งหมดออกไป หรือ ทิ้งสภาวะธรรมทั้งหมดไป หรือ เอาสภาวะธรรมทั้งหมด ไปกอง ไปวางไว้ ที่อื่นก่อน เราต้อง หยุดนิ่ง ว่าง ดูสภาวะ ธรรมทั้งหลาย ในระยะทางที่ไกลที่สุด อย่าได้ให้ สภาวะธรรมเหล่านี้ อยู่ไกล้กับเราได้ จงสงบ สยบความเคลื่อนไหว ทั้งปวง ก่อน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...