ทำอย่างไร จึง "เห็นธรรม"

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อัศวินสีชมพู, 19 เมษายน 2021.

  1. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626
    พูดเรื่อง "สุขในสมาธิ" คุยสมถะล้วนๆอยู่นี่ฮับ
    โยงมาเรื่อง บรรลุธรรม ได้ไงน้อ

    #คุณเอกวีร์โยงเก่ง555
     
  2. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    ละเมอไปแล้วตูรไม่คิดจะไปสอนใครทำมัย
    สอนตัวเองกะเหนือยละ
     
  3. อัศวินสีชมพู

    อัศวินสีชมพู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 เมษายน 2021
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +278
    ธรรมมันไม่ใช่ตน
    ไม่ใช่ของใคร
    เมื่อเเสดงธรรมออกมาถูกเเล้ว มันก็ย่อมถูกเหมือนๆกันหมด
    เพราะธรรมเป็นอกาลิโก มันไม่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา หรือตัวบุคคล
     
  4. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    หนีเก่งไงคะ ตามกลับมาคงไม่มาละ คงนั่งเก้อกันหมดอ่ะ
     
  5. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469

    งานกูรเยอะไม่มีเวลาไปสอนใครหลอก555
    ทั้งกรอกน้ำทั้งตากหมอน555
    (ลืมตำน้ำพริกได้งัยว้า)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2021
  6. ฟ้ากับเหว

    ฟ้ากับเหว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2020
    โพสต์:
    1,069
    ค่าพลัง:
    +372
    ปลิวมาไกลมากเลย มาถึงจักรวาลคู่ขนานเลย 555 ก็ดี
     
  7. หมูไม้ละ5

    หมูไม้ละ5 # shawty, set me free

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2016
    โพสต์:
    1,659
    ค่าพลัง:
    +1,626


    ลงมาจักยานคู่แล้ว .... แปะเพลงสบาย

    #ฝากเพลงพี่อิลให้คนข้างๆด้วยฮับ...คุณการ้อง
     
  8. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    ใครอยู่ข้างๆๆผมเหรอ
     
  9. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ลูกเติบใหญ่เอาตัวรอดได้เมื่อไหร่
    คำตอบที่คุณแนนตามหาจะเริ่มปรากฏครับ
     
  10. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    พระสุตตันตปิฎก
    เล่ม ๒๔
    ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
    ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
    พุทธวรรคที่ ๑
    พุทธาปทานที่ ๑
    ว่าด้วยเหตุให้สำเร็จเป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้า
    [๑] พระอานนท์เวเทหมุนี มีอินทรีย์สำรวมแล้วได้ทูลถามพระตถาคตผู้ประทับ
    อยู่ ณ พระวิหารเชตวันว่า ได้ทราบว่า พระสัพพัญญูพุทธเจ้ามีจริงหรือ
    เพราะเหตุไรจึงได้เป็นพระสัพพัญญูพุทธเจ้าผู้เป็นนักปราชญ์? ในกาลนั้น
    พระผู้มีพระภาคผู้แสวงหาคุณอันใหญ่ เป็นพระสัพพัญญูผู้ประเสริฐ
    ได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะว่า ชนเหล่าใด
    สร้างสมกุศลสมภารในพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ยังไม่ได้โมกขธรรมใน
    ศาสนาของพระชินเจ้า ชนเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์โดยมุข คือ การ
    ตรัสรู้นั้นแล แม้มีอัธยาศัย มีกำลังมาก มีปัญญาแก่กล้า ย่อมได้บรรลุ
    ความเป็นพระสัพพัญญูด้วยเหตุแห่งปัญญา แม้เราเป็นธรรมราชาผู้สมบูรณ์
    ด้วยบารมี ๓๐ ทัศ ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ในพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ
    นับไม่ถ้วน นมัสการพระพุทธเจ้าผู้เป็นนายกของโลกพร้อมด้วยสงฆ์ด้วย
    นิ้วทั้ง ๑๐ แล้วกราบไหว้สัมโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ผู้ประเสริฐสุด
    ทั้งหลายด้วยเศียรเกล้า รัตนะทั้งที่มีในอากาศและอยู่ที่พื้นดิน ในพุทธ-
    เขต มีประมาณเท่าใด เราจักนำรัตนะทั้งหมดนั้นมาด้วยใจ ณ พื้นที่เป็น
    รูปิยะนั้น เราได้นิรมิตปราสาทหลายชั้น อันสำเร็จด้วยรัตนะ สูง
    ตระหง่านจรดฟ้า มีเสาอันวิจิตร ได้สัดส่วน จัดไว้ดี ควรค่ามาก มี
    คันทวยทำด้วยทองคำ ประดับด้วยนกกระเรียนและฉัตร พื้นชั้นแรกเป็น
    แก้วไพฑูรย์ งามปราศจากมลทิน ไม่มีฝ้า เกลื่อนกลาดด้วยดอกบัวหลวง
    มีพื้นทองคำอย่างดี พื้นบางชั้นมีสีดังแก้วประพาฬ เป็นกิ่งน่ารื่นเริง บาง
    ชั้นแดงงาม บางชั้นเปล่งรัศมี ดังสีแมลงค่อมทอง บางชั้นสว่างทั่วทิศ
    ในปราสาทนั้น มีศาลาสี่หน้ามุข มีประตูหน้าต่างจัดไว้เรียบร้อย มีชุกชี
    และหลุมตาข่ายสี่แห่ง มีพวงมาลัยหอมน่ารื่นรมย์ใจห้อยอยู่ ยอด
    ปราสาทนั้นประดับด้วยแก้ว ๗ ประการ มีสีเขียว เหลือง แดง ขาว
    ดำล้วน ประกอบด้วยยอดเรือนชั้นเยี่ยม มีสระประทุมชูดอกบานสะพรั่ง
    งามด้วยฝูงเนื้อและนก บางชั้นดาดาษด้วยดาวนักษัตร ประดับด้วยรูป
    ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ปกคลุมด้วยพวงดอกไม้ทอง ดาดาษด้วยตาข่าย
    ทองน่ารื่นรมย์ ห้อยย้อยด้วยกระดิ่งทอง เปล่งเสียงด้วยกำลังลม ปรา-
    สาทนั้นวิจิตรด้วยธงสีต่างๆ คือ ธงสีชมพู สีแดง สีเหลือง สีเขียว
    และสีทอง ปักไว้เป็นระเบียบ แผ่นกระดานต่างๆ มากหลายร้อย ทำ
    ด้วยเงิน ทำด้วยแก้วมณี ทับทิม ทำด้วยแก้วมรกต วิจิตรด้วยที่นอน
    ต่างๆ ลาดด้วยผ้าเมืองกาสีละเอียดอ่อน เราปูลาดเครื่องลาดต่างๆ
    ด้วยผ้ากัมพล ผ้าทุกุลพัสตร์ ผ้าเมืองจีน ผ้าเมืองแขก และผ้าห่มเหลือง
    ทุกแห่ง ด้วยใจ ที่พื้นนั้นๆ ประดับด้วยยอดแก้ว คนหลายร้อยยืน
    ถือประทีปแก้วมณีอันส่งแสงเรืองอยู่ เสาระเนียด เสาซุ้มประตู ทำด้วย
    ทองชมพูนุท ไม้แก่นและเงินบ้าง มีที่ต่อหลายแห่ง จัดไว้เรียบดี วิจิตร
    ด้วยบานประตูและกลอน ย่อมยังปราสาทให้งาม สองข้างปราสาทนั้น
    มีกระถางน้ำเต็มเปี่ยมหลายกระถาง ปลูกบัวหลวงและอุบลไว้เต็ม เรา
    นิรมิตพระพุทธเจ้าในอดีต ผู้เป็นนายกของโลกทุกพระองค์ พร้อมด้วย
    พระสงฆ์สาวก ด้วยวรรณและรูปตามปกติ พระพุทธเจ้าทุกพระองค์
    พร้อมด้วยพระสาวกเข้าไปทางประตูนั้น หมู่พระอริยเจ้านั่งบนตั่งอันทำ
    ด้วยทองคำล้วนๆ พระพุทธเจ้าผู้ยอดเยี่ยมในโลก มีอยู่ ณ บัดนี้ก็ดี
    เป็นอดีตก็ดี ปัจจุบันก็ดี ทุกพระองค์ได้ขึ้นปราสาทของเรา พระสยัมภู
    ปัจเจกพุทธเจ้าหลายร้อย ผู้ไม่พ่ายแพ้ ทั้งในอดีตและปัจจุบันได้ขึ้น
    ปราสาทของเราทั้งหมด ต้นกัลปพฤกษ์ทั้งเป็นของทิพย์และของมนุษย์
    มีมาก เรานำเอาผ้าทุกอย่างจากต้นกัลปพฤกษ์นั้น มาทำไตรจีวรถวายให้
    ท่านเหล่านั้นครอง ของเคี้ยว ของฉัน ของลิ้ม น้ำและข้าวมีสมบูรณ์
    เราใส่อาหารเต็มบาตรงามทำด้วยมณีแล้วถวายพระอริยเจ้าทั้งผองครองผ้า
    ทิพย์ ครองจีวรเนื้อเกลี้ยงอิ่มหนำสำราญด้วยน้ำตาลกรวด น้ำมัน น้ำผึ้ง
    น้ำอ้อยรสหวานฉ่ำและด้วยข้าวปายาส หมู่อริยเจ้าเหล่านี้เข้าห้องแก้ว
    สำเร็จสีหไสยาบนที่นอนอันควรค่ามาก ดังไกรสรีนอนในถ้ำที่อยู่ รู้สึกตัว
    ลุกขึ้นนั่งคู้บัลลังก์บนที่นอน เป็นผู้เพียบพร้อมด้วยความยินดีในฌานอัน
    เป็นโคจรของพุทธเจ้าทุกพระองค์ บางพวกแสดงธรรม บางพวกเข้าฌาน
    ด้วยฤทธิ์ บางพวกเข้าอัปปนาฌาน และบางพวกอบรมอภิญญาวสี บาง
    พวกแผลงฤทธิ์ คนเดียวเป็นได้หลายร้อยหลายพัน แม้พระพุทธเจ้าก็ถาม
    ปัญหาอันเป็นอารมณ์ คือ วิสัยของพระสัพพัญญูกะพระพุทธเจ้า ท่าน
    เหล่านั้น ย่อมตรัสรู้เหตุอันละเอียดลึกซึ้งด้วยพระปัญญา พระสาวกทูล
    ถามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสถามพระสาวก ท่านเหล่านั้นถามกัน
    และกัน และพยากรณ์กันและกัน พระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า
    และพระสาวกต่างเป็นศิษย์ ท่านเหล่านั้นรื่นรมย์อยู่ด้วยความยินดีอย่างนี้
    อภิรมย์อยู่ในปราสาทของเรา ฉัตรและฉัตรซ้อน มีรัศมีดังไม้ไผ่แก้วตั้งไว้
    ทุกๆ องค์ทรงไว้ซึ่งฉัตรอันห้อยย้อยด้วยตาข่ายทอง ขจิตด้วยตาข่ายเงิน
    วงรอบด้วยตาข่ายมุกดา บนเศียรมีเพดานผ้า แวววาวด้วยดาวทอง งดงาม
    ดาดาษด้วยพวงมาลัยทุกๆ องค์ ทรงไว้รอบๆ ฉัตรดาดาษด้วยพวงมาลัย
    งามด้วยพวงดอกไม้หอม เกลื่อนด้วยพวงผ้า ประดับด้วยพวงแก้ว
    เกลื่อนกลาดด้วยดอกไม้ งดงามยิ่งนัก รมด้วยของหอมน่าพอใจ ทำด้วย
    ของหอมยาวห้านิ้ว มุงด้วยเครื่องมุงทอง ในสี่ทิศแห่งปราสาท มีสระ
    อันดาดาษด้วยปทุมและอุบล หอมตลบด้วยเกสรดอกปทุม ปรากฏ
    ดังสีทองคำ โดยรอบปราสาท มีต้นไม้ทุกชนิด ดอกบานสะพรั่ง และ
    ดอกไม้หล่นลงเอง เรี่ยรายอยู่ยังปราสาท ใกล้ๆ ปราสาทนั้นมีฝูงนกยูง
    รำแพนหาง ฝูงหงส์ทิพย์ส่งเสียง ฝูงนกการวิกขับขาน หมู่นกร้องอยู่
    โดยรอบปราสาท เสียงกลองเภรีทุกอย่างจงเป็นไป เสียงพิณทุกชนิดจง
    ดีด เสียงสังคีตทุกอย่างจงขับขาน โดยรอบปราสาท ขอบัลลังก์ทองใหญ่
    สมบูรณ์ด้วยรัศมี ไม่มีช่องประดับด้วยแก้ว จงตั้งอยู่ ในกำหนดพุทธเขต
    และในหมื่นจักรวาล ขอต้นไม้ประจำทวีปจงรุ่งเรือง เป็นไม้สว่างไสว
    เช่นเดียวกัน สืบต่อกันไปตั้งหมื่นต้น หญิงเต้นรำ หญิงขับร้อง จงเต้นรำ
    ขับร้อง หมู่นางอัปสรผู้มีอวัยวะต่างๆ กัน จงปรากฏ (ฟ้อน) อยู่โดย
    รอบปราสาท เราให้ชักธงทุกชนิดมีห้าสีงามวิจิตรขึ้นอยู่บนยอดไม้ ยอด
    ภูเขา และบนยอดสิเนรุ หมู่ชน ฝูงนาค คนธรรพ์ และเทวดาทุกท่าน
    นั้น จงมาประนมหัตถ์นมัสการเรา แวดล้อมปราสาทอยู่ กุศลกรรมอย่าง
    ใดอย่างหนึ่ง เป็นกิริยาที่เราพึงทำด้วยกาย วาจา และใจ กุศลกรรมนั้นเรา
    ทำแล้วไปในไตรทศ สัตว์เหล่าใดมีสัญญา และสัตว์เหล่าใดไม่มีสัญญา
    มีอยู่ ขอสัตว์ทั้งหมดนั้นจงเป็นผู้มีส่วนแห่งผลบุญ ที่เราทำแล้ว สัตว์
    เหล่าใดทราบบุญที่เราทำแล้ว เราให้ผลบุญแก่สัตว์เหล่านั้น บรรดาสัตว์
    เหล่านั้น สัตว์เหล่าใดไม่รู้ ขอทวยเทพจงไปบอกแก่สัตว์เหล่านั้น ปวง
    สัตว์ในโลกผู้อาศัยอาหารเป็นอยู่ทุกจำพวก ขอจงได้อาหารอันพึงใจ ด้วย
    ใจของเรา เรามีใจเลื่อมใสในทานที่เราให้แล้วด้วยใจอันผ่องใส เราบูชา
    พระสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์แล้ว บูชาแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
    เพราะกุศลกรรมที่เราทำดีแล้วนั้น และเพราะความปรารถนาแห่งใจ เราละ
    กายมนุษย์แล้ว ได้ไปยังดาวดึงส์พิภพ เราย่อมรู้ทั่วความเป็นเทวดาและ
    มนุษย์ในสองภพ ย่อมไม่รู้จักคติอื่น นี้เป็นผลแห่งความปรารถนาด้วยใจ
    เราเป็นใหญ่กว่าเทวดา เป็นใหญ่กว่ามนุษย์ เป็นผู้สมบูรณ์ด้วยรูปลักษณะ
    ไม่มีใครเสมอเราด้วยปัญญา โภชนะต่างๆ อย่างประเสริฐ และรัตนะ
    มากมาย ผ้าต่างชนิด ย่อมจากฟ้ามาหาเราพลัน เราชี้มือไปในที่ใด คือ
    ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า อาหารทิพย์ย่อมมาหาเรา
    เอง เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและ
    ในป่า รัตนะทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน
    ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า ของหอมทุกชนิดย่อมมาหาเราเอง
    เราชี้มือไปในที่ใด คือที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า
    ยวดยานทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา
    บนอากาศ ในน้ำและในป่า ดอกไม้ทุกชนิดย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปใน
    ที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า เครื่องประดับ
    ย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ
    ในน้ำและในป่า ปวงนางกัญญาย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่
    แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ในน้ำและในป่า น้ำผึ้งและน้ำตาลกรวด
    ย่อมมาหาเรา เราชี้มือไปในที่ใด คือ ที่แผ่นดิน ภูเขา บนอากาศ ใน
    น้ำและในป่า ของเคี้ยวทุกอย่างย่อมมาหาเรา เราได้ให้ทานอันประเสริฐ
    นั้นในคนไม่มีทรัพย์ คนเดินทางไกล ยาจก และคนเดินทางเปลี่ยว
    เพื่อต้องการบรรลุสัมโพธิญาณอันประเสริฐ เรายังภูเขาหินให้บันลืออยู่
    ยังเขาอันแน่นหนาให้กระหึ่มอยู่ ยังมนุษยโลก พร้อมทั้งเทวโลกให้ร่าเริง
    อยู่ จะเป็นพระพุทธเจ้าในโลก ทิศ ๑๐ มีอยู่ในโลก ที่สุดไม่มีแก่บุคคล
    ผู้ไปอยู่ ก็ในทิศาภาคนั้น พุทธเขตนับไม่ได้ รัศมีของเราปรากฏเปล่ง
    ออกเป็นคู่ๆ ข่าย (หมู่,คู่) รัศมีมีอยู่ในระหว่างนี้ เราเป็นผู้มีแสง
    สว่างมาก ปวงชนในโลกธาตุประมาณเท่านี้จงเห็นเรา จงมีใจยินดีทั้ง
    หมดเทียว จงประพฤติตามเราทั้งหมด เราตีกลองอมฤต มีเสียงบันลือ
    ไพเราะสละสลวย ปวงชนในระหว่างนี้ จงได้ยินเสียงอันไพเราะของเรา
    เมื่อฝนคือธรรมเทศนาตกลง ปวงชนจงเป็นผู้ไม่มีอาสวะ บรรดาชน
    เหล่านั้น สัตว์ผู้เกิดสุดท้ายภายหลัง จงเป็นพระโสดาบัน เราให้ทานที่
    ควรให้แล้ว บำเพ็ญศีลโดยไม่เหลือ ถึงที่สุดเนกขัมมบารมีแล้ว พึงได้
    บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เราเรียนถามบัณฑิตแล้ว ทำความเพียรอย่าง
    สูงสุด ถึงที่สุดขันติบารมีแล้ว พึงได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เรา
    กระทำอธิษฐานจิตมั่นคงแล้ว บำเพ็ญสัจจบารมีถึงที่สุด เมตตาบารมีแล้ว
    พึงได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม เราเป็นผู้มีใจเสมอในอารมณ์ทั้งปวง
    คือ ในลาภ ความเสื่อมลาภ สุข ทุกข์ สรรเสริญ และนินทา พึง
    ได้บรรลุสัมโพธิญาณอันอุดม ท่านทั้งหลายเห็นความเกียจคร้านโดยเป็น
    ภัย และเห็นความเพียรโดยความเกษมแล้ว จงปรารภความเพียร นี้เป็น
    อนุศาสนีของพระพุทธเจ้า ท่านทั้งหลายเห็นความวิวาทโดยเป็นภัย และ
    เห็นความไม่วิวาทโดยเกษมแล้ว จงสมัครสมานกัน กล่าววาจาอ่อนหวาน
    แก่กัน นี้เป็นอนุศาสนีของพระพุทธเจ้า ท่านทั้งหลายเห็นความประมาท
    โดยเป็นภัย และเห็นความไม่ประมาทโดยเกษมแล้ว จงอบรมอัฏฐังคิกมรรค
    นี้เป็นอนุศาสนีของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย
    มาประชุมกันอยู่มาก ทุกประการ ท่านทั้งหลายจงกราบไหว้นมัสการพระ-
    สัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้ พระพุทธเจ้า
    (และ) ธรรมของพระพุทธเจ้า ใครๆ ไม่อาจคิดได้ เมื่อบุคคลเลื่อมใสใน
    พระพุทธเจ้าและพระธรรม อันใครๆ ไม่อาจคิดได้ ย่อมมีผลอันใครๆ
    คิดไม่ได้.
    ทราบว่า เมื่อพระผู้มีพระภาคจะทรงให้ท่านพระอานนท์รู้พระพุทธจิตของพระองค์ จึง
    ได้ตรัส
    ในฉบับบาลีเป็น ธมฺมปริยายํ
    เข้าใจว่า พิมพ์ผิด." style="color: red;">ธรรมบรรยาย
    ชื่อพุทธาปนิยะ ด้วยประการฉะนี้.
    พุทธาปทานจบบริบูรณ์.
     
  11. Kunst

    Kunst สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +16
    เวลามันหมุนขึ้นมา มันไม่มีภาพ เพียงแต่รู้สึกเหมือนอะไรมันสั่นสะเทือนอยู่ภายใน และก็มีกระตุกตามตัวก็ไม่มีภาพเหมือนกัน ไม่เคยมีนิมิตอะไรเลย อะไรที่เป็นภาพ พอน้อมนึกจะดับไปเลย ส่วนเหตุที่มันหมุนขึ้นมา แรกๆก็ไม่รู้ หลังๆมานี่สังเกตุว่าเพราะปิติหรือเปล่า ไม่แน่ใจ

    เคยคิดจะฝึกอาโปกสินเหมือนกัน แต่พอมารู้ว่ามันไม่ใช่ทาง ก็เลยเลิกไป ปฏิบัติตามหลัก มหาสติปัฏฐานสี่ มรณานุสติ อานาปานสติ สองสามอย่างนี้ ช่วงหลังมานี้เห็นลหุสัญญาอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ถึงกับเหาะได้นะครับ

    ต้องน้อมไปไหนญาณทัศนะด้วยหรอ ก็ไม่รู้ว่าเขาทำกันยังไง ต้องหน่วงปิติแล้วน้อมไปหรือยังไง ทำไม่เป็น ไอ้เราก็คิดว่า วิปัสสนาลงไตรลักษณ์ลูกเดียวแล้วนะ กลับกลายเป็นสมาธิมากเกินไปด้วยเหรอ แต่ก็เข้าใจว่าเป็นองค์ธรรมที่เกื้อหนุนกัน

    เรื่อง 84000 ออกมาจากจิต อันนี้ก็คงไม่ใช่ เพราะก็เป็นสัญญาขันธ์ สังขารขันธ์ ก็ขันธ์ 5 ไม่ใช่ของเรา เราจะภาวนาเพื่อจะเอาอะไร

    ส่วนเรื่องการภาวนา ไม่เคยมีคำบริกรรมเลย อาศัยดูลมหายใจอย่างเดียว กาย เวทนา จิต ธรรม ไปเรื่อย ส่วนคำสอนของพระอาจารย์ ตอนนี้ผมถอยออกมาก้าวนึง เพราะคำว่าจิตผู้รู้ทำให้สับสน จิต มโน วิญญาณ ก็คือจิต ถ้ามี จิตผู้รู้ เข้ามาอีกอย่าง จะกลายเป็นมีอะไรสักอยางที่เที่ยงเป็น background ก็เลยมาศึกษาแต่พุทธวจน

    มีอะไรก็แนะนำกันได้ครับ
     
  12. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
    จิตกะจิต

    วิญญาณกะวิญญาณซิ
    ตัดวิญญาณ
    จิตมันกะทำตามสันดาน
    ตามรู้ตามค้นเมือถูกตัดสายส่งมันกะค้นตัวมันเอง
    ตูมเป็นโกโก้ค้้น
     
  13. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    ตอนนี้กลับคิดว่า เรามีภารกิจเพื่อพาเขาไปรู้ความจริง ต้องชี้ทางให้เขาเห็นวิธีหลุดจากวงโคจรนี้

    เหมือนกับที่แม่ชี้ให้แนนตามไปดู
     
  14. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    ถ้าแบบนี้ ก็ ไม่ควรจะมีอะไรแนะนำ ฮับ

    ต้องไป สังเกตเอาเอง

    เช่น การดำริอาโปกสิณ นี่ จัดว่า มันเกิด ทิฏฐิ

    ทิฏฐิ นั้นไม่มีทางเกิดลอยๆ หากลอง พยาจิตราช มัน เอาคำนี้
    มายัดใส่คลองทิฏฐิ แล้ว ข้ามโอฆะไม่ได้ เผลอจับมา
    พูดเป็น วจีสังขาร ก็มีแววว่า "ติดสมถตัวนี้" ซึ่งหาก
    กำหนดรู้ ธาตุด้วยมุขนัยของพระศาสดา การเกาะกุม
    กันของสิ่งกลายเป็นกาย รับรู้ได้ด้วยใจ ก็จะไม่มีนิมิต

    การน้อมกสิณพุทธ จะใช้การ แผ่ใจ ไล่ขึ้นลงหัวจรดเท้า
    ซึ่งแรกๆ หากจิตยังมีอาพาธ(ไม่คล่องตัว ไม่เคยประกอบ
    มาหลายอสงไขย) มันจะมี ปิติ ฉูดฉาดจนรับไม่ไหว
    แต่ถ้า เคยภาวนามาหลายอสงไขย จะข้ามปิติได้ แล้ว
    จิตจะเหมือนเกิดความสว่าง น้อมไปเป็นดวงมุดไปดู
    โน้นนั่นนี่ได้ แต่จริงๆ จะต้อง ตรี!! คฑา!! จักร!! สังข์ เปรี้ยง
    ( ซึ่งตรงนี้จะต้อง แผ่จิต เป็น เช่นไล่จากหัวไปเท้ามัน
    จะรับรู้ได้ความเป็น ก้อนๆ วิ่งไป แล้วก็ ส่งออกไปนอก
    กายด้วย --- อันนี้อ่านดังตฤณ ส่วนตัวแค่ ดูโน้น นั่น นี่
    และโดยมากก็ซ้อมแค่เห็น พอเป็นแสงสะท้อนพอ มุดไป
    ดูก็เท่านั้น เสียกำลัง )

    พินาเอาเอง นะฮับ ถ้ามันจะไป มันจะไปได้ ถ้าได้ยินแล้ว
    ไม่เก็ท วางใจแล้วไม่คลิก ก็ไม่ต้อง

    ยิบๆยับๆกลางอก ก็พอแล้ว ซึ่งมันจะมี ลหุสัญญาให้
    พินา ซึ่งจะต้องพินา นานัตตสัญญา มันก็จะล่วงรูปวจร
    จะไปอรูปวจร ซึ่ง การภาวนาอานาปานสติ พระสารีบุตร
    จะแนะว่า ควรเย้าเรือนสลับปิติกับ อากาสาวิญญาตนะ
    (แต่ถ้าจะเป็น กสิณ ก็ อาโลกาสัญญา จะผลิกไป
    อเนญชา -- ตรงนี้จะมีพวก เทพนิกาย มาคอยหลอก
    แหลกอีก ยุ่งอยู่ เดือดร้อน ต้องคอยประเคนสันติ )

    ควรน้อมไหม ก็ต้องควรน้อม เพื่อให้ รับรู้การคล่องตัว
    ในการ 1 2 3 4 3 2 1 3 2 4 5 โดยใช้ สัญญาเกิด สัญญาดับ
    เน้นนิรามิส ปัสสัทธิ อทุขมสุข เป็นสัญญาที่เกิด ที่ดับ
    [ สังเกตว่า จะใช้ กองขันธ์ สัญญา กองเดียว กิจเดียว
    รสเดียว โดยมี อารมณ์อื่นๆไม่เลือก เป็นตัวซ้อม ลงนวม ]

    ย้อนคำถามอีกที่ ต้อง.....ด้วยเหรอ ต้องน้อมไปในญาณทัสนะ
    ด้วยเหรอ ต้องนิ่งๆไว้ก่อนด้วยเหรอ ต้องฝุ้งๆๆๆๆด้วยเหรอ

    ก็ต้องพินาเอา ฮับ หาก ภาวนาแล้ว ไม่เปลี่ยนแปลง
    เกิดอาการ เห็นสิ่งไม่เที่ยงมันเที่ยง ก็ต้องลงนวม
    อาศัยเย้าเรือน(สับปิติ)ตามห้องกรรมฐาน สมถะบ้าง
    วิปัสสนาบ้าง ธัมมุธัจจะบ้าง ทุกตัวมันหลอกได้หมด
    อย่าไปเชื่อมัน อย่าค้างเติ่งกับกิจเหล่านี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2021
  15. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    นี่ แอบดีใจ อะฮับ

    พึงเห็นครั้งแรก ทีมีคนกล่าวว่า

    " เพราะคำว่าจิตผู้รู้ทำให้สับสน จิต มโน วิญญาณ
    ก็คือจิต ถ้ามี จิตผู้รู้ เข้ามาอีกอย่าง จะกลายเป็นมี
    อะไรสักอยางที่เที่ยงเป็น background "

    นักปฏิบัติไทย โดน ตัวนี้หลอกให้ติดตาย เว้นแต่
    พวกขยันแล้วมีปฏิภาณ (ธรรมเตือนๆ แล้วไม่เชื่อ
    ธรรมเตือน แต่รู้ว่า ต้องมีอะไรผิด )
     
  16. ละอองไฟ

    ละอองไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2020
    โพสต์:
    2,469
    ค่าพลัง:
    +1,398
    ระหว่างที่รอลูกโตพอพร้อมที่จะเดินตาม
    ให้คุณแนนรวบรวมความรู้
    จากทุกท่านที่ช่วยแนะนำ
    ให้ได้มากๆเท่าที่เข้าใจและทำได้
    เมื่อถึงวาระความรู้ที่คุณแนนรวบรวมทั้งหมด
    จะเชื่อมโยงเข้าหากันครับ
     
  17. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แหมมมมมมมม....ทีตอนแนนถามเรื่องแผ่จิตคืออะไร ไม่เห็นอธิบายดีๆแบบนี้เลย...แถมด่าแล้วด่าอีก .....ขอเบ้ปากเถอะ

    สองมาตรฐานชัดๆ
     
  18. LiSaBDoDaYup

    LiSaBDoDaYup เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,251
    ค่าพลัง:
    +657
    จะเอาไปทำ สันติ อะไร วาสนาไม่มี

    หากไม่ถุยทิ้ง ช่วยม่ายล่าย นะฮับ

    hear แน่นวล

    ธรรมะเป็นของกลาง แต่ก็ไม่ใช่ ของพวกจ๊ะจ๋า hear ส่งมาเกิด !!
     
  19. มาเปิดเพลง

    มาเปิดเพลง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2021
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +469
     
  20. Piccola Fata

    Piccola Fata เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,590
    ค่าพลัง:
    +1,142
    แล้วจะมาพูดทำไมบ่อยๆคะ แผ่จิตๆ อยู่นั่นล่ะ พอถาม ก็ด่าแทบจิกหัวตบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...