ทหารพระองค์ดำรายงานตัวหน่อยครับ

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

เยี่ยมเลยครับ อนุโมทนาสาธุ

มีสักกี่คนในโลก ที่มีโอกาสได้อะไรมาเพื่อตน

แต่กลับนึกถึงส่วนรวม และสละเพื่อส่วนรวมได้ขนาดนี้


มีคนอย่างคุณมากๆ สังคมจะสงบสุขอีกเยอะ



;ปรบมือ

 

<TABLE border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=center></TD><TD vAlign=center>อาถรรพณ์ขุมทรัพย์สมเด็จพระนเรศวรฯ ที่วัดป่าแก้ว

</TD><TD style="FONT-SIZE: smaller" height=20 vAlign=bottom align=right></TD></TR></TBODY></TABLE>
<HR class=hrcolor SIZE=1 width="100%">

​

เรื่องนี้มีหลักฐานและถูกเล่าขานกันนานแล้ว เป็นเรื่องจริงจากคำบอกเล่าของพระธุดงค์หลายรูป ที่เล่าตรงกันเกี่ยวกับขุมทรัพย์โบราณมูลค่ามหาศาลภายใน ?วัดป่าแก้ว? หรือ วัดใหญ่ชัยมงคล จ.พระนครศรีอยุธยา วัดนี้ตามประวัติกล่าวไว้ว่า เดิมเป็นวัดราษฎร์เรียกกันว่าวัดป่า ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับวัดสำคัญประจำนครอโยธยาเดิมคือวัดพนัญเชิง วัดมเหยงค์ วัดกุฎีดาว และวัดอโยธยา ครั้งถึงแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ได้ทรงให้ขุดศพเจ้าแก้วเจ้งไท เชื้อพระวงศ์ที่เป็นอหิวาตกโรคตาย ขึ้นพระราชทานเพลิงที่วัดนี้แล้วทรงซ่อมแซมบูรณะเจดีย์วิหาร ก่อนจะทรงสถาปนาขึ้นเป็นพระอารามหลวง พระราชทานนามว่า ?วัดเจ้าพญาไท? ให้เป็นที่พำนักของพระพนรัต ซึ่งเป็นพระสังฆราชฝ่ายอรัญวาสี และด้วยอาณาเขตของวัดที่กว้างใหญ่ ชาวบ้านจึงนิยมเรียกชื่อ ?วัดใหญ่? ตั้งแต่นั้นมา จนล่วงมาถึงปี พ.ศ. 1991-2031 ในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระสงฆ์ไทยคณะหนึ่งนำกันออกไปอุปสมบทแปลงเป็นสิงหนีนิกาย และศึกษาพระพุทธศาสนา ณ สำนักพระพนรัต มหาเถระในลังกาทวีป สำเร็จแล้วกลับมาตั้ง ?คณะป่าแก้ว? ที่ ?วัดเจ้าพญาไท? จึงนิยมเรียกชื่อกันว่า ?วัดเจ้าพญาไทคณะป่าแก้ว? ภายหลังเรียกเหลือสั้นลงแค่ ?วัดป่าแก้ว? และเปลี่ยนเป็น ?วัดใหญ่ชัยมงคล? ในปัจจุบัน

วัดโบราณเก่าแก่ในเขต จ.พระนครศรีอยุธยา หลาย ๆ วัดเป็นที่รู้จักดีในหมู่เซียนพระ และนักเล่นของเก่าแก่ว่าจะต้องมีสมบัติมีค่ามหาศาลฝังไว้ใต้ดิน และแน่นอนว่าแต่ละที่จะต้องมี ?ภูต? ที่เรียกว่า ?ปู่โสม? เฝ้าอยู่ คนที่เชื่อและขยาดในอิทธิฤทธิ์มักไม่กล้าเข้าไปยุ่ง แต่กับกลุ่มคนที่ชอบลักลอบเข้าไปขุด พวกนี้จะมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะกิเลสและความละโมบที่มีอยู่ ทำให้ตามืดบอด มองไม่เห็นหายนะและความตายจากคำสาปแช่งที่กำลังจะมาถึง

วัดป่าแก้วหรือวัดใหญ่ชัยมงคล ในอดีตมักจะมีพระธุดงค์แวะเวียนมาปักกลดแสวงหาความวิเวกอยู่เป็นประจำ สมัยนี้เล่ากันว่าบริเวณวัดมีแต่ต้นไม้ขึ้นหนาแน่นและเต็มไปด้วยสัตว์ร้าย เช่น งูเหลือม งูจงอาง เป็นสถานที่อันตราย เปลี่ยว และยังลือกันว่า ?ผีดุ? จนชาวบ้านได้กล้าย่างกรายเข้าไป แต่ก็ยังมีพระภิกษุรูปหนึ่ง ใช้สถานที่นี้เป็นที่ปักกลดท่านคือ ?หลวงปู่สีโห? พระป่ากรรมฐาน ซึ่งเป็นศิษย์ใกล้ชิด หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พระปรมาจารย์กรรมฐานแห่งภาคอีสาน

?หลวงปู่สีโห? ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นรุ่นเดียวกัน หลวงปู่ฝั้น อาจาโร หลวงปู่ขาว อนาลโย และหลวงปู่แหวน สุจิณโณ ท่านเป็นพระที่เคร่งในพระธรรมวินัย แต่ไม่ชอบอยู่วัดเพราะท่านรักที่จะอยู่ตามป่า ท่านเป็นพระที่มีชื่อเสียงในทาง ?วิปัสสนากรรมฐาน? มากจนได้รับการยกย่องว่า มีเมตตาและพลังจิตแก่กล้า มีอำนาจแห่งอิทธิฤทธิ์และอภิญญา

หลวงปู่สีโหท่านเคยมาปักกลดอยู่ในวัดป่าแก้ว ใกล้กับพระเจดีย์องค์ใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรฯ ทรงสร้างเฉลิมฉลองพระเกียรติ ภายหลังที่มีชัยแก่พม่าแล้ว ขณะที่ท่านพำนักอยู่ได้มีคนกลุ่มใหญ่พากันเข้ามาภายในวัดมองดูลักษณะคล้ายพวกโจร คนเหล่านี้มาขอร้องให้หลวงปู่ถอนกลดย้ายไปจากที่นั่น หลวงปู่ถามว่าเหตุใดจึงมาไล่ท่าน คนพวกนั้นตอบตามตรงว่าพวกเขาจะมาขุดทรัพย์ตามลายแทง แต่ไม่อยากให้หลวงปู่ร่วมรับรู้ด้วย และยังได้เล่าต่อไปว่าภายในเขตกรุงศรีอยุธยานี้มีลายแทงโบราณ บอกที่ซ่อนทรัพย์สมบัติไว้มากมายถึง 713 แห่ง พวกเขาขุดพบมาแล้ว 5 แห่ง

และตามลายแทงยังบ่งบอกไว้ว่าในบริเวณรอบพระเจดีย์ใหญ่ที่สมเด็จพระนเรศวรฯ สร้างนี้มีขุมทรัพย์อยู่ถึง 27 ขุม มีข้าวของเงินทอง และเพชรนิลจินดาอยู่มากมาย จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ก็ได้เอาสมุดข่อย ซึ่งเขียนด้วยอักขรไทยโบราณมีรูปแสดงที่ตั้งขุมทรัพย์ใต้ดินในบริเวณรอบ ๆ พระเจดีย์ให้หลวงปู่ดู นอกจากนี้ในสมุดข่อยยังมีแผนที่แสดงขุมทรัพย์ต่าง ๆ ทั่วกรุงศรีอยุธยาอีกมากมายนับไม่ถ้วน และที่น่ากลัวก็คือ ภายในสมุดข่อยเล่มนั้นมีอยู่หน้าหนึ่งเป็นผ้าเยื่อไม้ซีด ๆ ปรากฏคำสาปแช่งเอาไว้ด้วยโดยที่ไม่รู้ว่า กลุ่มโจรพวกนี้ จะเห็นหรือไม่

เรื่องขุมทรัพย์รายรอบพระเจดีย์นี้เป็นเรื่องที่คนโบราณว่าไว้จริง ซึ่งหัวหน้าแม่ชีท่านหนึ่งที่วัดใหญ่ชัยมงคลเคยเล่าให้ผู้เขียนฟัง ในสมัยที่ท่านเข้ามาอยู่ที่วัดนี้ใหม่ ๆ นอกจากจะได้เห็น ?ดวงพระวิญญาณ สมเด็จพระนเรศวรฯ? แล้วท่านยังเคยเห็น ?ทองลุก? ซึ่งเป็นไฟพะเนียงพุ่งขึ้นไปบนฟ้าตรงบริเวณหน้าพระเจดีย์องค์นี้ ซึ่งคนโบราณบอกไว้ว่าถ้าเห็นลักษณะนี้แสดงว่า ใต้ดินบริเวณนั้นต้องมีสมบัติฝังอยู่แน่นอน สำหรับที่มาของขุมทรัพย์เหล่านี้ตามลายแทงโบราณได้บอกไว้ว่าเป็นมหาสมบัติอันล้ำค่า ของอดีตพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยาหลายพระองค์ ที่สมเด็จพระนเรศวรทรงขุดพบ และนำมาฝังไว้ตามคำแนะนำของสมเด็จพระพนรัตน์ป่าแก้ว ผู้เป็นอาจารย์ของพระองค์จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาพระรัตนตรัย แก้อาถรรพณ์ดวงเมืองที่ตกต่ำ ร่วงโรยมานานให้รุ่งเรืองขึ้นในยุคสมัยของพระองค์

​

การขุดสมบัติของกลุ่มโจรในวันนั้นเล่าว่ามีการนำอาจารย์ทางไสยศาสตร์มาทำพิธีด้วย มีการเสกไข่เสี่ยงทายและพบไข่เป็นสีต่าง ๆ เช่น สีเหลือง แดง เขียว ดำ ซึ่งบอกให้รู้ว่ามีขุมทรัพย์ประเภททองคำ เพชรนิลจินดา และเงินตราโบราณอยู่มากมาย ทำให้พวกโจรดีใจกันมาก แล้วก็ช่วยกันทำการขุด เมื่อขุดลงไปประมาณ 7 ฟุต ก็พบโครงกระดูก 4 โครง นอนหัวชนกันหันเท้าชี้ไป 4 ทิศ และพอขุดลงไปอีกจอบก็ไปกระทบกับพื้นคอนกรีตโบราณ ซึ่งเป็นหลังคาอุโมงค์เก็บสมบัติ จึงพยายามช่วยกันแซะปากอุโมงค์ให้กว้างขึ้น และน่าประหลาดที่ภายในอุโมงค์มีกระแสลมแรงมาก พัดออกมาตลอดเวลา คล้ายมีพัดลมขนาดใหญ่อยู่ข้างใน อาจารย์ทางไสยเวทย์ที่ร่วมทีมจึงทดลองเอาด้ามเสียมแหย่ลงไปดูปรากฏว่า เสียมถูกกระแสลมตีเศษเหล็กกระจาย ทำให้แน่ใจว่าภายในหลุมนี้มี ?หุ่นพยนต์? หรือ ?จักรพยนต์? ที่คนโบราณผูกไว้สำหรับป้องกันขุมทรัพย์

?หุ่นพยนต์? หรือ ?จักรพยนต์? นี้ทำด้วยเหล็กกล้าเนื้อดี และคมกริบเคลื่อนไหวด้วยกลไกที่ผลักดันจากแสง และอากาศที่อัดลงไป นอกจากนี้ยังมีการปลุกเสกลงอาถรรพณ์ ด้วยเวทมนตร์ศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้มีวิญญาณสิงสถิตย์อยู่ หากจะทำลายก็ต้องแก้ด้วยเวทมนตร์ แต่สำหรับกลุ่มโจรเหล่านี้ แม้จะมีอาจารย์ทางไสยศาสตร์ มาคอยแก้อาถรรพณ์อยู่ด้วยก็ยังทำได้ยาก เพราะขณะกำลังทำพิธีล้างอาถรรพณ์หุ่นพยนต์นั้น อุโมงค์ขุมทรัพย์ก็ได้เลื่อนออกไป เสียงดังครืด ๆ เป็นที่น่าอัศจรรย์ หนำซ้ำยังมีดินถล่มลงมาถมปากอุโมงค์จนเต็ม เป็นการปิดไม่ให้คนเหล่านั้นได้ล่วงล้ำเข้าไปอีก แต่ถึงจะเจออภินิหารซึ่งหน้าเช่นนี้ กลุ่มโจรก็ยังไม่ย่อท้อ ตั้งใจว่าจะเริ่มขุดใหม่ในวันรุ่งขึ้น

ดึกดื่นคืนนั้นพวกโจรกลับกันหมดแล้ว ได้ปรากฏร่างใหญ่โตของคน 4 คน ซึ่งไม่มีหัวมายืนอยู่หน้ากลดหลวงปู่สีโห ทั้งหมดคือภูตที่คอยเฝ้ามหาสมบัติให้สมเด็จพระนเรศวรฯ มาแจ้งให้หลวงปู่ทราบว่า กลุ่มโจรเหล่านี้มาขุดพระราชทรัพย์อันศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าฟ้าพระมหากษัตริย์ที่ทรงสาปแช่งไว้ แล้วยังทำพิธีไสยศาสตร์ ทำลายข่ายอาถรรพณ์ที่พระครูปุโรหิตโบราณาจารย์ทำไว้ให้เสื่อมอีก เท่ากับเป็นการทำลายดวงชะตาของบ้านเมือง พวกตนจะมาเอาชีวิตไปให้หมดแต่ติดขัดว่ามีหลวงปู่อยู่ด้วย จึงมาแจ้งให้ทราบ แต่หลวงปู่สีโห ซึ่งท่านได้ชื่อว่าเป็นพระที่มีจิตเมตตา ท่านจึงได้ขอบิณฑบาตชีวิตคนเหล่านั้น ขอแค่ดัดนิสัยให้เข็ดหลาบก็พอ ทำให้วิญญาณทั้ง 4 นิ่งอึ้ง และบอกว่าต้องให้หลวงปู่ลองพูดกับพญายมบาลเอง พวกเขาไม่มีอำนาจอะไร เพียงแต่ทำตามหน้าที่เท่านั้นพูดเสร็จก็เดินหายเข้าไปในองค์พระเจดีย์

หลวงปู่สีโหจึงเข้าฌานติดต่อกับพญายมบาล เมื่อพญายมบาลเปิดบัญชีดูจึงรู้ว่าพวกขุดลักพระราชทรัพย์เหล่านี้ ดวงยังไม่ถึงฆาตในตอนนี้ แต่กรรมหนักกำลังจะตามมาในไม่ช้า แต่ถึงอย่างไรพวกนี้ก็ควรจะได้รับผลจากคำสาปแช่งบ้างจะได้หลาบจำ เป็นอันว่าท่านพญายมตกลงจะไว้ชีวิตพวกโจร ครั้นรุ่งเช้าหลวงปู่สีโหตื่นขึ้นจะไปสรงน้ำ เพื่อออกบิณฑบาตก็ได้เห็นโจรกลุ่มนั้นกำลังนอนดิ้นทุรนทุราย เอามือกุมท้องบิดไปมาด้วยความเจ็บปวด ขอให้หลวงปู่ช่วย ขณะเดียวกันบนองค์พระเจดีย์ใหญ่ก็เกิดเสียงดังครืน ทำให้ทุกคนหันไปดู เพราะคิดว่าพระเจดีย์จะถล่ม แต่แล้วก็พากันตกตะลึง เมื่อเห็นชายผู้หนึ่งเดินลงมาจากพระเจดีย์พร้อมด้วยผีหัวขาดร่างใหญ่โต และพากันเดินหายไปทาง
กำแพงแก้วด้านทิศใต้ พวกโจรในที่นั้นร้องอุทานด้วยความตกใจสุดขีด หลวงปู่จึงบอกว่า ?พวกเขาคือปู่โสมเฝ้าทรัพย์ที่จะมาเอาชีวิตพวกเจ้า? พอได้ยินหลวงปู่พูดเช่นนี้ พวกโจรทั้งหมดก็เกิดความกลัว ตาหูเหลือกลาน จนอาการปวดท้องกำเริบ ทำให้หมดสติไปตามๆกัน หลวงพ่อเห็นแล้วก็ยิ่งเกิดความสังเวชที่เห็นโจรเหล่านี้ถูกลงโทษ เช้าวันนั้นท่านจึงจาริกออกจากอยุธยาไป ปล่อยให้โจรเหล่านั้นนอนสลบไสลเฝ้าขุมทรัพย์ภายในวัดป่าแก้วไปตามยถากรรม

?ปู่โสมเฝ้าทรัพย์? นั้นมีจริงหากใครไม่เชื่อคิดลบหลู่ลองของก็เชิญพิสูจน์ได้ที่ ?วัดป่าแก้ว? หรือ ?วัดใหญ่ชัยมงคล? จ.อยุธยา เพราะสมบัติมีค่ามหาศาล ครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรฯ ณ ปัจจุบันก็ยังคงฝังอยู่ใต้ดินรอบองค์พระเจดีย์นั่นเอง ซึ่งคงต้องรอผู้มีบุญ ผู้มีวาสนาขุดขึ้นมาใช้เป็นพระราชทรัพย์บำรุงแผ่นดิน และพระพุทธศาสนาในยุคต่อ ๆ ไป

 

OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


ต้องชุดนี้เลยท่านตะวัน

เหมาะกับการไปไหนมาไหน ย่านดินแดง :boo:

และ ย่านบ่อนไก่ รางน้ำ ก็ใช้ได้ด้วยครับ

 

ถ้านิยมไทย

ก็ต้องเนี่ยเลยครับ

เสื้อยันต์


นี่เป็นของหลวงพ่อจาด...พระอภิญญาสมัยสงครามโลก

 

แหมมีของดีก็ไม่บอก คราวหน้าเจอกันจะได้ไปปล้น

ตอนโน้นเคยให้เสื้อยันต์ผมมาตัวนึงเหมือนกันเป็นทรงเสื้อกั๊กสีแดง แต่ใส่ไม่ได้จริงๆเพราะตัวเล็กเหลือเกิน สงสัยจะเป็นแบบ Boy size ตอนนี้เลยเอาไว้บูชาบนหิ้งพระซะ

 

หนังบู๊ดูอยู่บ้านก็ได้ ไม่เห็นต้องไปถึงสถานที่ถ่ายทำเลย จะว่าไปแล้วต้องให้ผมเอาเฮลิคอปเตอร์ไปส่งเสบียงมั๊ยครับ ???

 

เมื่อวานตั้งกระทู้ถามว่าเขาเผายางกันเพื่ออะไร ยังไม่ทันมีใครตอบให้หายสงสัยเลย กระทู้ผมก็โดนลบไปแล้ว สงสัย web master กลัวจะเป็นกระทู้ล่อเป้า จนถึงตอนนี้ผมยังหาคำตอบที่มีเหตุผลเพียงพอไม่ได้เลยว่าเขาเผายางรถยนต์กันทำไม ที่พอจะคิดได้ก็น่าจะมีเหตุผลเดียวคือเขาเบื่ออาหารเดิมๆกันแล้ว เมื่อก่อนเป็นแดงแดดเดียวมาตั้งนาน ตอนนี้เลยอยากเปลี่ยนเป็นแดงรมควัน... ขอให้อร่อยๆกันนะจ๊ะ

 

ฝันเห็นในหลวงบุคคลสูงศักดิ์ท่านว่าเป็นมงคลครับ รักษากรรมดีเอาไว้อย่างต่อเนื่องครับ

 

"เป็นรางวัลที่ได้รับบทบาทจากผู้ที่ เป็นพ่อ ก็ขออนุญาตพูดถึงพ่อนิดนึงก็แล้วกันนะฮะ … พ่อเป็นเสาหลักของบ้าน บ้านของผมหลังใหญ่นะฮะ ใหญ่มาก เราอยู่กันหลายคน ผมอยู่บ้านหลังนี้ก็สวยงามมากนะ สวยงามและอบอุ่น แต่กว่าจะเป็นแบบนี้ได้นะครับ บรรพบุรุษของพ่อ เสียเหงื่อ เสียเลือด เอาชีวิตเข้าแลก กว่าจะได้บ้านหลังนี้ขึ้นมานะครับ

จนมาถึงวันนี้ พ่อคนนี้ก็ยังเหนื่อยที่จะดูแลบ้าน และก็ดูแลความสุขของทุกคนในบ้าน ถ้ามีใครสักคน โกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ แล้วก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกคน ๆ นั้นว่า ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ

ผมรักในหลวงครับ และผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้ รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน ขอบคุณครับ"

... และนี่คือคำพูดของลูกผู้ชายที่ชื่อ พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง

 

.................................................................................

พูดได้ตรงใจมาก ซึ้งมากเลยค่ะอ่านแล้วน้ำตาคลอตื้นตันขึ้นมาทันที

 

กลับเข้ามารายงานว่า ระหว่างนี้ พี่ยังต้องไปนอนสถานปฏิบัติธรรมอยู่ ยังกลับบ้านไม่ได้ เพราะแถวบ้านนั้นเป็นสมรภูมิสงครามกลางเมืองที่หนักมาก (อยู่พระราม 4 ฝั่งตรงข้ามบ่อนไก่ค่ะ)

โชคดีอยู่หน่อย บ้านพี่อยู่ในโรงงานที่มีประตูเหล็กแข็งแรงพอควร ตัวบ้านก็อยู่ลึกเข้าไปจากถนนประมาณ 200 เมตร และมองไม่เห็นถนน มีทางเข้าได้ทางด้านหลัง นอกจากนั้นยังอยู่ด้านหลังแนวของทหารพอดี แต่แม่ก็เล่าให้ฟังว่า นั่งฟังเสียงปืนเสียงระเบิดอยู่ทั้งวันทั้งคืน

ที่น่าเป็นห่วงก็คือเรื่องอาหาร เพราะที่บ้านมีพอกินไม่กี่วัน ไหนจะน้องเมี้ยว เมี้ยว อีกประมาณ 30 ชีวิต ไหนจะเพื่อนบ้านอีก..เมื่อวานนี้ พี่ก็เลยตัดสินใจซื้ออาหารเข้าไปส่งให้ โดยขอความช่วยเหลือจากญาติธรรมที่มีรถส่วนตัว...

ทีนี้ อีตอนที่กำลังไปจ่ายตลาดนั้นเอง พี่ได้คุยกับแท็กซี่ เค้าบอกว่า แถวบ้านพี่นั้น จะเข้าได้ประมาณหนึ่ง หลังจากนั้น จะเจอด่านทหาร รถเก๋งเข้าไม่ได้อีก ต้องใช้มอเตอร์ไซค์อย่างเดียว เมื่อเป็นอย่างนี้ พี่ก็ไม่กล้าซื้อมาก เพราะเกรงจะหิ้วไม่ไหว แม้จะหาคนไปช่วยหิ้วได้อีกคนก็ตาม

ตอนขับรถเข้าไป..ก็นึกอาราธนาบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปด้วย ปรากฏว่าเส้นทางกลับโล่งตลอด ไม่มีทั้งทหารและ นปช. พี่เอารถเก๋งไปส่งอาหารได้ถึงบ้าน ก็เลยนึกเสียดายว่า รู้งี้เราซื้อไปให้เยอะๆ เลยดีกว่า เพราะเท่าที่ซื้อไปนั้น หากเหตุการณ์ยังไม่สงบ 2-3 วันพี่ก็ต้องกลับเข้าไปใหม่

สำหรับกำลังใจนั้น..พี่ยังโอเคอยู่ค่ะ แต่เมื่อวานมีเครียดบ้าง เพราะไม่รู้ว่าตอนเข้าไปจะเจออะไรบ้าง และเพราะต้องดึงคนอื่นมาร่วมชะตากรรมด้วย แม้ว่า เขาจะยินดีและเต็มใจก็ตาม

น้องวิสุทธิ์จ๋า...ไม่ต้องอิจฉาก็ได้จ้า พี่ไม่ใช่เจ้าของบ้าน แค่เป็นผู้อยู่อาศัยเท่านั้น..และถ้าอยากดูหนังสด ไม่ใช้สลิง ไม่ใช้แสตนด์อินละก็ เชิญได้เลยจ้า..ตอนนี้แฟลตบ่อนไก่มีห้องว่างเยอะ...5555


ปล. เมื่อคืนโทรคุยกะ “ตาปืน” ด้วย...ถ้าเหตุการณ์สงบเมื่อไหร่ นัดรวมพลกันซะที ก็น่าจะดีเนอะ

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.965665/[/MUSIC]

 

กิ๊ดๆๆๆๆๆ


เอาไปโลด 10 คะแนนเต็ม !!!! (ขวัญใจข้าพเจ้าเอง)

 

สวัสดีค่ะพี่น้องกระทู้

ท่ามกลางบรรยากาศระอุกลางเมืองตอนนี้ 2-3 วันก่อน (รวมถึงเมื่อเช้าด้วย) ไม่รู้อะไรดลใจแปลกๆ ลากเจ้าตัวขี้เกียจขึ้นจากเตียงมานั่งสมาธิเสีย 20 นาที (ฟังดูกระจอกดีเน๊าะ) แต่ปกติเรานั่งไม่ค่อยได้นอกจากจะมีคนคุมอ่ะ คิดแล้วก็ดี ได้สัก 5 นาทีก็อู่ฟู่แล้วสำหรับเดะๆ (สายธรรม) แบบเรา ส่งกำลังให้แผ่นดิน ให้เทวดาบ้าง

ว่าแล้ววันนี้ก็ได้ฤกษ์เอางานบุญมาฝาก เจ้านายฝากไว้นานแล้ว สำหรับการหาทุนจัดซื้อรถมูลนิธิประชาร่วมใจ

ซึ่งเป็นมูลนิธิของพระอาจารย์บุญฤทธิ์ หงส์ประสาธน์

ขอเชิญร่วมบริจาคเงินเพื่อนำทุนทรัพย์ไปจัดซื้อรถพยาบาลพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิตขั้นสูง มีราคา 2,015,000 บาท (สองล้านหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน) เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ผู้ประสพเหตุสาธารณภัยและ เพื่อสร้างกุศลให้ทุกท่านประสบแต่ความสุขความเจริญร่วมกัน ร่วมบริจาคสมทบทุนตามกำลังศรัทธาผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคสนับสนุนโครงการได้ที่

ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี “มูลนิธิ ประชาร่วมใจ เพื่อก่อสร้างอาคาร”
สาขาเพชรเกษม ซอย ๑๘ บัญชีเลขที่ 070-216896-8

หรือ ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์
ชื่อบัญชี“มูลนิธิ ประชาร่วมใจ เพื่อก่อสร้างอาคาร”
สาขานครศรีธรรมราช
บัญชีเลขที่ 553-269413-9

สอบถามรายละเอียดได้ที่...
สำนักงานชั่วคราว ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิประชาร่วมใจ
วัดบูรณารามสี่แยกท่าวัง ถ.ราชดำเนิน ต.คลัง อ.เมือง
จ.นครศรีธรรมราช 80000

โทร. 0-7534-5599, 0-7531-8833 ,08-1173-4633

รายละเอียดอ่านในจากในเอกสารแนบนะจ๊ะ

 

ที่นี่ไม่ได้ยินเสียงปืนอะไรเลย หรือเราเปิดเพลงดังไปหว่า????

คิดถึงพี่เรดมักๆ เมื่อวานแหวกด่านไปคาร์ฟูร์พระราม 4 มา (ไม่รู้เทวดาองค์ไหนสิง) ตะบึงไปเอาแหวนนพเก้ามาให้คุณน้องพิษฯ ตอน 18.30 น. ไปถึงก็งงเป็นหมูตาหลุด เพราะห้างมันปิด ไล่คนออกมาแล้ว.. (อ้าว..) ไอ้เราก็เดินหาร้านค้าที่ไปสั่งแหวนเอาไว้ เค้าก็เอาผ้ามาคลุมตู้กระจกกันหมดเลย ไปยืนถามร้านใกล้ๆ เค้าก็ว่าประกาศไล่คนออกเนื่องจากมีพวกมาปั่นป่วนที่ห้างครับ ถามโน่นนี่สักพัก ไอ้ผู้ชายหน้าตี๋ก็มายืนเหรอหราที่ตู้ที่ 2 (ตอนนั้นยังจำผิดอยู่คิดว่าเป็นตู้ที่ 3 ที่ไปสั่งแหวนเค้าไว้)

ด้วยความปากไวเลยถามเค้าไปว่า พี่ๆ เจ้าของร้านใช่ป่าว.. (อั่นแน่..พยักหน้าหงึกหงัก) มือนึงก็ถือทอสับคุยกับเจ้าพิษฯอยู่ ก็เลยเดาว่าต้องเป็นอีตานี่แหงมๆ ตรูจำร้านผิดเองแน่ๆ เลยบอกเจ้าของร้านเค้าไปว่า

"มารับแหวนนพเก้า วันก่อนมากับน้องเค้ามัดจำไว้ 1 พัน แต่วันนี้เค้ามาด้วยไม่ได้ ไม่มีบัตรมัดจำด้วย แต่รับแหวนไปเลยได้ป่าว"

กะลังเจรจาต้าอ่วยอยู่สายในหูมานก็เป่าพ่วงๆ ตัดรอนกำลังใจไปอยู่ได้ว่า " พี่เค้าจะให้เอาแหวนมาเหรอ บัตรมัดจำก็อยู่ที่เค้านะ" (โห..กำลังใจท่วมท้น)

ไม่สนใจเสียงกรอกหูสักกะติ๊ด... อาชีพเก่าต่อรองคืองานของเรา 5555 เจ้าของร้านทำหน้าเอ๋อๆ เราเลยบอกว่าที่น้องเขาเอามาลดขนาดแหวนน่ะ มัดจำไปแล้ว 1 พัน หนูจ่ายที่เหลือแล้วรับไปเลยนะ .....

หุๆๆๆๆ (สุดท้ายก็เรียบร้อยโรงเรียนไอ้ลู่)

แต่ที่แสบที่สุดไอ้เจ้าของแหวนที่มันลากข้าพเจ้าไปจอง แถมนัดแนะข้าพเจ้าเป็นเพื่อนไปรับแหวนเนี่ย.. ยังไม่เห็นแม้แต่เงา T^T

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 4 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 2 คน ) [ แนะนำเรื่องเด่น ]
princesslulu, Red Leaf

บันทึกไว้เป็นเกียรติประวัติเสียหน่อย เดี๋ยวอีตาเจ้าของกระทู้เขาจะหาว่าเราไม่เหลียงแล (ที่จริงกลัวจะพาลอดกาแฟอร่อยๆ จาก ผบ.ทบ. เขา5555)

 

เมื่อวันอาทิตย์ดูหนังเรื่อง Shooter อยู่ที่บ้าน เป็นเรื่องเกี่ยวกับ Sniper ที่โดนหักหลัง พอเริ่มดูก็เริ่มมัน (เลยชักไป 1 รอบ) ฟื้นขึ้นมาก็มานั่งดูต่อจนจบ ดูแล้วอยากได้ปืนไปยิงแบบในหนังจังเลย จะเอาไปยิงไอ้พวกปากกล้าขาสั่นทั้งหลาย ปากบอกว่าต้องเสียสละ เสียได้แม้แต่เลือดเนื้อ พอทหารเขาจะเอาจริงแ_่งหัวหดกันหมด พอรู้ว่าตัวจะตายก็หนีไปกราบตีน UN ให้มาช่วย แต่ตอนนั้นเสือกบอก UN ไม่ใช่พ่อ ปากเหมือนตูดจริงๆ พูดออกมาก็เหมือนตด เหม็นแป๊บนึงแล้วก็จางไป ทำเป็นลืมว่าพูดว่าอะไร จากนั้นก็ตดใหม่........ ^^! (ประมาณว่าตอนนี้กำลังเก็บกด ต้องระบายหน่อย)

 

ไม่รู้อดีต แต่ปัจจุบันคือ ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ เทิดไว้หนือสิ่งอื่นใด
เกิดที่นั่น ตายที่นั่น ลูกหลานเมืองพระพิษณุโลกสองแควรบไม่แพ้ใคร

ตัวตายไม่ว่า แผ่นดินข้าใครอย่าแตะ........

 

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.965665/[/MUSIC]

 

ไปนั่งสวดมนต์ นั่งสมาธิ ให้ในหลวง + พระสยามเทวาธิราชทุกพระองค์ดีกว่า